รับตอบข้อสงสัยในการเจริญพระกรรมฐาน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Xorce, 26 พฤศจิกายน 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. บดินทร์จ้า

    บดินทร์จ้า เจโตวิมุตติ-ปัญญาวิมุตติ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    493
    ค่าพลัง:
    +749
    สวัสดีปีใหม่ครับท่านพี่ การกระทำใดด้วยกาย วาจา และ ใจ ที่เป็นการล่วงเกินต่อผู้อื่นโดยรู้ก็ดี ไม่รู้ก็ดี ขอท่านทั้งหลายได้กรุณา ยกโทษ และอโหสิกรรม ด้วยเทิอญ อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2008
  2. kurochang

    kurochang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +111
    -*-
    ผมถามมั่วไปหน่อยคับ

    ขอโทษด้วยคับ
     
  3. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    เดี้ยวผมจะแยกให้ละเอียดครับ
    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ
     
  4. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ ศีล5 ครับ

    ถ้ารักหลวงพ่อฤาษีลิงดำจริง ถ้ารักที่จะฝึกมโนมยิทธิจริง
    แปลว่าเราเคยฝึกมาแล้วในชาติก่อนครับ
    ไม่อย่างนั้นจะไม่มีอารมณ์ที่ผูกพัน และอยากจะฝึกหรอกครับ

    ดังนั้นขอให้เชื่อเถอะครับ ว่าเราอยู่ในวิสัยที่ฝึกได้
    เพียงแต่อาจจะไม่เคยได้พบกับครูบาอาจารย์ที่พอจะแนะนำได้เท่านั้นเอง
    ถ้าอย่างไรก็ หาโอกาสมาฝึกให้ได้นะครับ

    ถ้าใครมีเวลาว่าง ก็ขอให้ลองดูนะครับ
    ผมเชื่อว่าไม่เกินความสามารถของทุกๆคนในเว็บนี้จะฝึกได้ครับ
    ถ้าหากรักที่จะฝึกและสนใจจริงๆ
    ขอให้ทุกๆคนสามารถที่จะทรงมโนมยิทธิทั้งครึ่งกำลัง ทั้งเต็มกำลังกันได้ทุกๆคนครับ
     
  5. สาวปีใหม่

    สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368
    กราบโมทนากับทุกคำถามและทุกคำตอบที่เป็น สัมมาทิฏฐิ สัมมาสมาธิ สัมมาปัญญา สัมมาปฏิบัติ ด้วยนะคะ

    ได้ประโยชน์จากท่านที่เข้ามาสอบถาม และคำตอบ ของเจ้าของกระทู้ รวมทั้งรู้สึกเหมือนคุณศีล 5 ที่รับสัมผัสได้ถึง เมตตา พรหมวิหาร 4 ที่เจ้าของกระทู้มีให้ค่ะ
     
  6. kurochang

    kurochang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +111
    ผมกลับบ้านนอกแล้ว

    โทดทีนะพี่เจ้าของกระทู้

    ไม่ได้ไป ซะงั้น

    ถึงวาระคงได้ไปน่ะคับ
     
  7. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ไม่เป็นไรครับ
    เอาไว้คราวหน้าแล้วกันครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2008
  8. choosake

    choosake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +647
    ภาวะจิตตก หรือ มารมากวน
    ไว้เป็น ธรรมทาน และ วิทยาทาน(จากประสบการณ์ตรง)
    เนื่องจากพอฝึก สมาธิ ไปเรื่อย ๆ จนใกล้ จุด ๆ หนึ่ง มั่กจะเกิดเหตุ ทำให้ภาวะจิตตกหรือเรื่องรบกวนใจ เช่น
    ทะเลาะกับแฟน(เป็นทุกครั้งที่วันไหน นั่งแล้วได้ดีมาก ๆ)
    หรือแม้แต่ กามอารมณ์ กับ สาว ๆ คนอื่น ๆ (ฟุ่งซ่าน)
    และอื่นๆ อีกมากมาย

    ล่าสุดดดดด!
    เรียกว่า หนักหนา ที่สุดครับ
    หลังจากได้รับคำแนะนำ ที่ทาง คุณ Xorce ก็เริ่ม เข้าที่เข้าทางอะไรมาก ขึ้น
    ภาวะจิตตกก็มา ถึง
    1. ทะเลาะกับแฟน ทุกวันครับ รวมเมื่อวานด้วย ก็ 7 วัน (เรื่องไม่ใช้เรื่อง)
    2. คุณแม่ กับ คุณน้า ทะเลาะกัน ถึงขั้นจะแยกบ้านกันอยู่ (อยู่ดี ๆ ก็มีเหตุ)
    3. เงินหายครับ 3500 เป็นเงินค่าใช้จ่ายสำหรับซื้อกับข้าว เข้าบ้าน (ผมจะตั้งงบไว้ทุกเดือนครับ) หาย แบบไร้ร่องรอยเหมือนหายไปจากกระเป๋าเงินเฉย ๆ
    4. และอื่น ๆ อีก

    ทำได้แต่ ชั่งมัน ๆ ๆ ๆ T_T
    แต่ละครั้ง ก็จะหนัก หรือเบา ขึ้นอยู่กับว่า ทำความดีหรือ ปฏิบัติได้มาก ขนาดไหน

    ก็เป็นการเตือน ๆ กันไว้นะครับ ว่าไม่ต้องแปลกใจ

    ออ รบกวนถาม เคยได้ยินมาว่า ถ้าผู้ใด หรือ บุคคลใด ตั้งใจนิพพานในชาตินี้และมีกำลังใจเข้มแข็ง เจ้ากรรมนายเวร จะรีบมา ชำระ กันมากเป็นพิเศษ จริงหรือเปล่าครับ
     
  9. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ธรรมะ ไม่เคยทำร้ายใคร แม้ต่อตนเอง และ บุคคลรอบข้าง

    ธรรมะ ที่ทำไปแล้ว เห็นว่า ผลอันเลวได้เกิดขึ้นกับตน และ คนรอบข้าง
    ขอให้หมั่นสดับธรรม หรือเข้าหา กัลยาณมิตร ที่เป็น สัปปายะ อันถูกต้อง

    ธรรมะ จะมีประโยชน์อะไร เมื่อปฏิบัติไปแล้ว เกิดขอบเขตตัวตนอันมั่น
    บุคคลอื่นไม่สามารถเข้ามาแทรกเราได้ ในขณะที่หน้าที่ที่ต้องทำมีอยู่

    การปฏิบัติธรรม ที่ทำไปแล้ว ผิดหน้าที่ มีชั้น วรรณะ มีหญิง มีชาย
    มีไม่ใช่ธุระ มีเจ้านายบันดาลกรรม -- นั่นไม่ใช่ธรรมะของพระพุทธองค์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2008
  10. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ choosake ครับ

    ออ รบกวนถาม เคยได้ยินมาว่า ถ้าผู้ใด หรือ บุคคลใด ตั้งใจนิพพานในชาตินี้และมีกำลังใจเข้มแข็ง เจ้ากรรมนายเวร จะรีบมา ชำระ กันมากเป็นพิเศษ จริงหรือเปล่าครับ

    อันนี้มีความจริงอยู่ครับ
    แต่ว่ากรรมที่โดนเนี่ย
    จะถือว่าโดนน้อยมาก ถ้าเทียบกับที่เราควรจะต้องเผชิญ
    อย่างพระโมคคัลลานะ ท่านก็โดนโจรรุมทุบจนต้องละสังขาร
    แต่ถ้าท่านยังไม่เข้าพระนิพพานละก็ท่านจะต้องถูกคนทำร้ายจนตาย ไปอีกหลายร้อยชาติ
    นี่ยังไม่นับถึงหากว่าเราพลาดพลั้งลงอบายภูมิด้วย

    ดังนั้นขอให้คิดซะว่า โดนแค่นี้ก็ต้องถือว่าเขาปราณีแล้วครับ หากเทียบกับที่เราเคยทำกับเขา
    วิธีแก้ก็คือให้เราหมั่นแผ่เมตตา ทำใจให้ชุ่มเย็นเบาสบายอยู่เสมอ
    เกาะพระนิพพานเป็นอารมณ์
    ถ้าเราแผ่เมตตา คืนให้กับผู้ที่ทำกับเรา ทุกๆวัน
    เขาจะทำเราอยู่ได้แค่7วันครับ
    ส่วนมากถ้าพ้นจาก7วันแล้ว เขาจะเลิกครับ

    ขอให้พ้นจากวิบากเร็วๆนะครับ
     
  11. kurochang

    kurochang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +111
    จิง 100%

    เพราะหลังจากบวชเณร ได้ตั้งใจจะไปนิพพานชาตินี้

    จากนั้นก็มีเรื่อง ญ มันทำให้ทุกข์ใจ (เรียนก็ไม่เป็นอันเรียนแล้ว เพ้อทั้งวันทั้งคืน ว่าทำไมเขาถึงทำกับเราแบบนี้ เซงๆๆๆ )

    มีแต่คนมาแบบไม่จิงใจ ล้วนๆ

    อันนี้ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันหรือไม่นะคับ
     
  12. ชนินทร

    ชนินทร พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,725
    ค่าพลัง:
    +6,384
    โมทนากับทั้งเจ้าของกระทู้ และทุกๆ ท่านที่เข้ามาถามคำถาม ทุกๆ ท่านที่สนใจการฝึกจิต ปฏิบัติธรรม และทุกๆ ท่านที่เกี่ยวข้องด้วยค่ะ...
     
  13. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ kurochang ครับ

    เกี่ยวแน่นอนครับ
    กิเลส เขาอยากให้เราเกิดต่อไงครับ
    แต่ถ้าเราเจอคนที่ดีจริงๆ สนใจในธรรม เราก็สามารถที่จะประคับประคองกันไป
    เพื่อให้เข้าถึงซึ่งความดีด้วยกันทั้งคู่ได้ครับ

    แต่เลือกคนก็ดูด้วยครับ
    คนที่สามารถจะหนุนบารมีทางธรรมของเราได้นี่ดีครับ
    แต่ถ้าไปเจอคนที่เพิ่มอุปสรรคให้กับตัวเองนี่ ต้องคิดดีๆครับ

    ขอให้ทุกๆคนประคองจิตให้เกาะพระนิพพานเอาไว้นะครับ
    ไม่ว่าเราจะใช้ชีวิตอย่างไร จะเป็นพระ หรือฆราวาส
    แต่เราก็รู้ใจของเราว่า ใจของเราปรารถนาเพียงจุดเดียวคือพระนิพพาน
    เมื่อตายด้วยจิตที่รักพระนิพพาน อย่างเลวที่สุดก็เป็นเทวดาครับ
    แต่ถ้าใจเราไม่อยากจะเกิดแล้วอย่างแท้จริง ตายเมื่อไหร่ก็ไปพระนิพพานจุดเดียวครับ
     
  14. บดินทร์จ้า

    บดินทร์จ้า เจโตวิมุตติ-ปัญญาวิมุตติ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    493
    ค่าพลัง:
    +749
    100 % ขอยืนยันด้วยคนครับ แรกๆ ก็ส่งกำลังพลมาน้อย มากๆเข้า เจ้ามารหรือเจ้ากรรม มากันเพียบ.............ยกกองทัพเลยครับ.................ต้องอดทนยอมรับสภาพมันครับ.................ผมเคยเป็นดังท่านมาแล้วครับ
    อนุโมทนาครับ
     
  15. kurochang

    kurochang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +111
    พี่คับ วิสัยการปฏิบัติของเราเอง จะรู้ได้ยังไง

    แบบว่าถ้าท่านว่าแบบนี้แล้วชอบเลยลงมือปฏิบัติตามเลยนี่ ใช่รึเปล่า
     
  16. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    การเห็นทางปฏิบัติเดิม คือ เมื่อทำแล้วจะเกิดผล และผลนั้นจะรู้สึกจืดๆ
    เพราะเคยทำมาแล้ว ทำไปอีกก็จะเจอสิ่งแปลกๆ แต่จืดๆ ไปเรื่อยๆ จนกว่า
    จะมาพบจุดที่ติดตัวเดิม ซึ่งจะมีสองสาเหตุคือ

    1. เคยหลงทำตรงนั้น หลุดออกมาไม่ได้ อจารย์ก็แก้กรรมฐานให้ไม่ได้มาก่อน
    2. ยังไม่เคยเจอมาก่อนเลย จึงพรึงเผลิศ เห็นความเลอเลิศใหม่ปรากฏ
     
  17. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ kurochang ครับ

    พี่คับ วิสัยการปฏิบัติของเราเอง จะรู้ได้ยังไง
    แบบว่าถ้าท่านว่าแบบนี้แล้วชอบเลยลงมือปฏิบัติตามเลยนี่ ใช่รึเปล่า

    สายใหญ่จะมีสองสาย พุทธภูมิ กับสาวกภูมิ
    สาวกภูมิก็จะมีอีก4สาย

    จะรู้ได้ว่าเราเป็นสายใดก็จากการที่เรามีความสนใจที่จะปฏิบัติเป็นพิเศษ
    มีความปรารถนาในธรรม เป็นธรรมฉันทะ ในข้อธรรมนั้นๆเป็นพิเศษ
    อย่างถ้าเหมาะกับอภิญญาล่ะก็
    จะเป็นพวกที่บ้าอิทธิฤทธิ์ ชอบอิทธิฤทธิ์ อยากเหาะเหินเดินอากาศได้ เดินดินมันไม่พอใจ
    ถ้าไม่ชอบจริงๆ เราก็ไปไม่ถึงจุดนั้น
    หลวงพ่อฤาษีท่านจะใช้คำว่า ต้องเป็นพวกบวมนิดๆด้วย
    คนธรรมดาเขาจะหาว่าบ้า
    แต่ถ้าเรามีอภิญญา6จริง ใครเขาจะหาว่าเราบ้าก็ปล่อยเขาไปเถอะครับ

    แต่ว่าพุทธภูมิ นั้นจำเป็นที่จะต้องรู้ครอบคลุมทุกสายการปฏิบัติ รู้กรรมฐานครบ40กอง
    รู้สติปัฏฐาน4 รู้วิปัสสนาญาณ9
    รู้สรรพวิชาทุกอย่างในพระพุทธศาสนา
    เพราะว่าเราจะต้องเป็นครูสอนผู้อื่นต่อไป
    ว่าง่ายๆก็คือเรียนวิชาครู

    พุทธภูมิจะเอาแค่กองเดียว เรื่องเดียวไม่ได้
    ตาทิพย์ก็ต้องมี อภิญญาก็ต้องมี อรูปก็ต้องมี วิปัสสนาญาณก็ต้องมี
    ต้องมีครบ เป็นหลักสูตรบังคับครับ
    ดังนั้นถ้ามีใครเขาบอกว่าตัวเขาเป็นพุทธภูมิ แล้วจะฝึกอยู่แค่เรื่องเดียว สอนได้แค่เรื่องเดียว อย่าพึ่งเชื่อเขาครับ
    พุทธภูมิจริงๆจะต้องสามารถจะสอนได้หมดครอบคลุมทุกวิสัย
    แต่ว่าจะจับเรื่องใดขึ้นมาสอนเป็นหลักก็เท่านั้นเอง
    อย่างหลวงพ่อท่านก็จับมโนมยิทธิ ขึ้นมาสอนเป็นหลักครับ
    แต่ท่านก็ได้อธิบายและสอนเอาไว้ครอบคลุมครบทุกวิสัยครับ
     
  18. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    อืมม..ก็เป็นหลายๆแบบแตกต่างกันออกไป ผมก็เคยเป็นเวลาจะวันพระทีไรลืมทุกที
    มาสังเกตุดีๆว่าลืมเพราะเหตุ เพราะว่าวันพระผมจะเปลี่ยนดอกไม้ธูปเทียน
    ถ้าตั้งใจจะทำอะไรๆมันมักจะมา..หรือบางทีไม่ลืม ก็ัยังมีปัจจัยอื่นเข้ามาอีกจนได้
    แต่อย่าไปทึกทักตามมัน มันมาก็แค่รู้ อ๋อ..รู้แล้ว อ๋อ..กูว่าแล้ว..บริกรรมตามดูมันไปตามสภาวะความเป็นจริงนะครับ
    รู้ว่ามันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป..และจงมีสติเตรียมพร้อมไว้เสมอ
    ไม่ต้องไปคิดว่าต่อไปอะไรจะเข้ามากระทบกระแทกอีก
    แต่ขอให้รู้อยู่กับตัวเท่านั้นแล..เมื่อระลึกได้อย่างนี้อยู่้เนืองๆแล้วจะเข้าใจเองว่าสิ่งทั้งหลายทั้งปวงนั้น
    มันมีเหตุและผล ของมันอยู่เพียงแต่เราเข้าไปแต่งตัวให้มันว่านี่ ฉันชอบฉันพอใจ และฉันไม่ชอบฉันไม่พอใจเอาเองตั้งแต่ต้นแล้วนี่นา..

    ขออนุโมทนาครับ
     
  19. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ในโอกาสนี้จะขออธิบายเรื่องภาพรวมของวิสัยในการปฏิบัติธรรม เสียเลย ว่ามีมากมายกว่าที่คิด

    ในวิสัยของสาวกภูมินั้น มีวิสัยการปฏิบัติธรรมถึง4วิสัย ที่พระพุทธองค์ได้ทรงวางเอาไว้ให้เหมาะสมแก่จริตของคน

    1.สุกขวิปัสสโก คือการปฏิบัติแบบไม่รู้ไม่เห็นอะไร ไม่อาจะที่จะเห็นอะไรที่เป็นทิพย์ได้
    แต่ว่าสามารถที่จะบรรลุธรรม เป็นพระอรหันต์ได้
    สิ่งที่ต้องได้ก็คือฌาณ4 ถ้าไม่มีฌาณ4 ก็ไม่อาจที่จะเป็นพระอรหันต์ได้

    2.เตวิชโช คือการปฏิบัติที่ได้วิชชา3ด้วย บรรลุธรรมด้วย
    วิชชา3 ก็คือความสามารถทางทิพยจักษุญาณ หรือตาทิพย์
    สามารถที่จะเห็นเรื่องในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตได้ด้วยความเป็นทิพย์
    สามารถจะเห็นพรหมโลก เทวโลก และพระนิพพานได้ ว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร
    สามารถที่จะเห็นสิ่งของต่างๆ คนต่างๆวัตถุต่างๆ ว่าอยู่ที่ไหน กำลังทำอะไรอยู่ได้
    สามารถที่จะคุยกับผู้ที่มีความเป็นทิพย์ได้
    เหล่านี้เป็นหนึ่งในความสามารถของวิชชา3
    สิ่งที่จะต้องได้ก็คือ ฌาณ4 ในกสิณที่เป็นปัจจัยให้เกิดตาทิพย์ ได้แก่ กสิณไฟ กสิณแสงสว่าง กสิณสีขาว
    คนที่มีนิสัยเหมาะกับวิสัยนี้ก็คือ ผู้ที่อยากรู้อยากเห็น ถ้าไม่เห็นจะไม่เกิดศรัทธาเป็นต้น

    3.ฉฬภิญโญ คือการปฏิบัติที่ได้ซึ่งอภิญญา6ด้วย และบรรลุธรรมด้วย
    อภิญญา6 ก็คือความรูอันยิ่ง6ประการ ได้แก่
    1.อิทธิวิธี คือ ความสามารถในการแสดงฤทธิ์ได้นาๆประการ
    เช่น เหาะเหินเดินอากาศ เดินทะลุกำแพง เสกไฟ เสกน้ำ ดำดิน ล่องหนหายตัวได้เป็นต้น
    2.ทิพยโสต คือ สามารถได้ยินเสียงทิพย์ของ ผู้มีกายทิพย์ได้ และสามารถสนทนาโต้ตอบได้เป็นต้น
    3.เจโตปริยญาณ คือ สามารถรู้วาระจิตของผู้อื่นได้เขากำลังคิดอะไรยังไงรู้หมด
    4.ปุพเพนิวาสนุสติญาณ คือ สามารถระลึกอดีตชาติของตัวเอง และผู้อื่นได้
    5.จุตูปาปญาณ คือ สามารถรู้เหตุของกรรม และผลของกรรม ที่กำลังเกิดขึ้นของตัวเองและผู้อื่นได้
    6.พระอาสวักขยญาณ คือ เครื่องรู้ที่ทำให้กิเลสอาสวะสิ้นไป ทำจิตให้เป็นพระอริยเจ้า
    สิ่งที่ต้องมีก็คือ ฌาณ4 ในกสิณทั้ง10กอง เพื่อให้สามารถควบคุมธาตุต่างๆได้
    คนที่มีอุปนิสัยเหมาะแก่วิสัยนี้
    จะเป็นพวกอยากมีฤทธิ์อยากมีเดช อยากเหาะได้ อยากมีอิทธิฤทธิ์
    อยากไปพระนิพพาน ไปพรหมโลก ไปสวรรค์ ด้วยกายเนื้อ
    ถ้าไม่มีแล้วมันรู้สึกว่า มันไม่ครบ ไม่สมบูรณ์

    4.ปฏิสัมภิทัปปัตโต คือ นอกจากจะมีคุณวิเศษครอบคลุม ในสามสายการปฏิบัติขั้นต้นแล้ว
    ยังไงมีความสามารถพิเศษเพิ่มอีก คือมีปฏิสัมภิทาญาณ4
    ปฏิสัมภิทาญาณ4 ได้แก่
    1.ความสามารถในการรู้ได้ทุกภาษา คุยกับสัตว์ได้ คนต่างชาติได้ รู้ภาษาครอบคลุมหมดทุกภาษา
    2.ความสามารถในการทรงพระไตรปิฏกได้ แม้จะไม่เคยอ่านมาก่อน แต่สามารถจะรู้ทุกอย่างในพระไตรปิฏกได้ ละเอียดถี่ถ้วนทั้งหมด
    3.ความสามารถในการอธิบายพระธรรม แม้เพียงประโยคเดียว
    ให้มีความละเอียดลึกซึ้งพิศดาร เป็นหลายพันหน้ากระดาษได้
    4.ความสามารถในการย่อพระธรรมจากหนังสือเป็นเล่มๆ ให้เหลือเพียงแค่ถ้อยคำเดียว หรือไม่กี่ประโยคได้
    ปฏิสัมภิทัปปัตโตนี้ จะมีปฏิภาณ ความฉลาดไหวพริบ สูงกว่าผู้อื่นมาก
    สิ่งที่ต้องการก็คือ ได้อรูปฌาณทั้ง4 และเจริญวิปัสสนาญาณจนเข้าถึงความเป็นพระอนาคามีเป็นอย่างน้อย จึงจะสามารถทรงปฏิสัมภิทาญาณได้
    ผู้ที่เหมาะแก่วิสัยนี้ คือ ผู้ที่อยากจะคุยได้กับทุกคนรู้ทุกภาษาเป็นต้น หรืออยากจะรู้พระธรรมละเอียดลึกซึ้งแตกฉานเป็นต้น

    นอกจาก4วิสัยแล้วยังมีผู้ที่อธิษฐานเป็นสาวกพิเศษอีก
    เช่น อธิษฐานเป็นพระอัครสาวกเบื้องซ้าย เบื้องขวา
    หรือเป็นเอกทัคคะ หรือผู้เป็นเลิศด้านต่างๆ เป็นต้น
    รวมถึงพุทธมารดา พุทธบิดา หรือนางแก้วของพระโพธิสัตว์
    เหล่านี้ทั้งหมดคือวิสัยของสาวกภูมิ
    ซึ่งมีความหลากหลายเหมาะกับจริตของทุกๆดวงจิต
    ไม่ได้มีแต่เพียงวิสัยของอภิญญา หรือสุกขวิปัสสโกอย่างที่คิด
    ดังนั้นขอให้เราเลือกวิสัยการปฏิบัติให้เหมาะกับตัวเองที่สุดครับ
    เพราะถ้าเลือกผิดอาจจะปฏิบัติไม่ขึ้น เนื่องจากไม่ตรงกับที่เคยได้ฝึกมา

    ยุคนี้เป็นยุคที่จะมีผู้สนใจ แนววิชชาสาม และอภิญญาหก มากขึ้น
    หลวงพ่อฤาษีท่านจึงปูพื้นฐานมโนมยิทธิเอาไว้ให้ ซึ่งเป็นบาทฐานของอภิญญาหกต่อไปครับ
    ขอให้ทุกๆคนมีน้ำใจเอื้อเฟื้อกันในหมู่นักปฏิบัติธรรม
    เพราะแม้ว่าจะต่างวิสัยกัน แต่ว่าก็เป็นเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตายเหมือนกัน
    ในที่สุดก็เข้าถึงซึ่งพระนิพพานเหมือนกัน

    ขอให้ทุกๆคนเข้าถึงซึ่งพระนิพพานตามวิสัยที่เราได้เคยปฏิบัติมาแล้วอย่างดี ด้วยเทอญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2008
  20. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    นอกจากวิสัยของสาวกภูมิแล้ว
    ก็ยังมีวิสัยของพุทธภูมิอีก
    ซึ่งมีความยาวนานในการบำเพ็ญเพียรมากกว่า


    พุทธภูมินั้น คือ ผู้ที่ปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้า หรือพระปัจเจกพุทธเจ้า เพื่อประโยชน์ความสุขของสรรพสัตว์จำนวนมาก
    พุทธภูมินั้นจำเป็นที่จะต้องศึกษากรรมฐานทุกกอง รู้ครอบคลุมทุกวิสัยการปฏิบัติ
    รู้ในวิปัสสนาญาณ และทำให้อารมณ์จิตใกล้เคียงความเป็นพระอริยมากที่สุด เท่าที่จะเป็นได้
    พุทธภูมินั้นจะต้องเห็นประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่า ประโยชน์ส่วนตน
    ผู้อื่นจะต้องมาก่อนเสมอ
    และจะต้องมีอารมณ์จิตที่เกาะพระนิพพานอยู่เสมอๆอีกด้วย

    พุทธภูมิ พระโพธิสัตว์ ที่ทุกๆคนน่าจะรู้จักกันได้แก่
    หลวงปู่ทวด หลวงปู่มั่น หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อสด หลวงปู่แหวน
    ครูบาศรีวิชัย
    พระมหากษัตริย์ของไทยตั้งแต่โบราณก็มีที่เป็นพุทธภูมิเป็นจำนวนมาก แต่ไม่ใช่ทุกพระองค์ที่เป็นพุทธภูมิ

    ผู้ที่เป็นพุทธภูมินั้น จะเกิดการรู้ตื่นจากภายใน ถึงความสำคัญของผู้อื่นที่มากกว่าเรา
    และมีจิตที่คิดปรารถนาจะช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอๆ

    สำหรับผู้ที่ทราบว่าตัวเองเป็นพุทธภูมิ ขอให้ตั้งกำลังใจเพื่อสาธารณประโยชน์
    เพื่อผู้อื่นเป็นสำคัญ และช่วยกันดัน ช่วยกันหนุนบารมีของพุทธภูมิท่านอื่นๆ ให้ก้าวหน้าไปพร้อมกับเรา
    เหมือนกับพี่น้องคอยประคับประคองซึ่งกันและกันเ
    เพื่อให้ทุกๆคนเข้าถึงซึ่ง การรื้อขนสรรพสัตว์จุดเดียวกัน

    ขอให้ทั้งพุทธภูมิ และสาวกภูมิ มีบารมีเต็ม เข้าถึงซึ่งพระนิพพานได้รวดเร็วทันใด ทั่วกันทุกๆดวงจิตเทอญ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...