รู้จากตำราความรู้เอาไปละกิเลสไม่ได้

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย Muang99, 9 กรกฎาคม 2014.

  1. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากเกินไปไม่ดีนะ

    [​IMG]

    บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอาหารที่หลายคนชอบทานกัน เพราะว่าทำกินง่ายสะดวกด้วย ขอแค่มีน้ำร้อนก็นำมาทำกินได้สบายๆ แต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้นไม่มีประโยชน์ใดๆเลย แถมยังทำลายสุขภาพของเราอีกต่างหาก และนี้ก็คือผลที่เกิดขึ้นหลังจากกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

    1. สารอาหารไม่ครบถ้วน
    บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 ซองมีสารอาหารหลัก ๆ อยู่แค่ไม่กี่อย่าง ซึ่งก็แน่นอนว่าไม่ครบถ้วนพอที่ร่างกายต้องการอยู่แล้ว นอกจากนี้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ก็ไม่ควรรับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปด้วย เนื่องจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะเป็นตัวบล็อกให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมสารอาหารที่มีประโยชน์จากอาหารชนิดอื่นได้อีก

    2. มีสารก่อมะเร็ง
    สารสไตโรโฟม (Styrofoam) หรือสารเคมีที่พบมากในกล่องโฟม และพลาสติกทั้งหลาย เป็นสารที่ถูกพบว่ามีอยู่ในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปด้วยเหมือนกัน ซึ่งไม่บอกก็คงพอจะเดากันออกว่าสารเคมีตัวนี้มีอันตรายอยู่ไม่น้อย และที่สำคัญก็เป็นสารที่เข้าไปกระตุ้นเซลล์มะเร็งในร่างกายของเราให้เจริญเติบโตเร็วขึ้นด้วย ยิ่งถ้าเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วยที่สะดวกและง่าย แต่รู้ไหมว่า บะหมี่ถ้วยนั้นทวีสารก่อมะเร็งอีกหลายเท่าเลยนะจ๊ะ

    3. อันตรายต่อลูกในท้อง
    หญิงตั้งครรภ์ทั้งหลายไม่ควรกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอย่างยิ่ง เพราะนอกจากสารอาหารที่ได้ไม่ครบถ้วนแล้ว สารสังเคราะห์จากอาหารสำเร็จรูปยังมีส่วนทำให้เด็กในครรภ์ได้รับอันตราย บางรายอาจจะถึงขั้นแท้งบุตรเลยก็ได้ ฉะนั้นเลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่มีประโยชน์ เช่น โฟเลต วิตามินบี แคลเซียม และเหล็กดีกว่านะ

    4. เป็นอาหารขยะ
    แม้ในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะมีคาร์โบไฮเดรต ไขมัน เกลือแร่ และไฟเบอร์ แต่ก็มีผงชูรสในปริมาณที่เยอะมาก จนเทียบเท่าอาหารขยะทั่วไปเลยทีเดียว ฉะนั้นหากปล่อยให้ร่างกายคุ้นชินกับสารอาหารเหล่านี้เรื่อย ๆ ร่างกายเราก็จะขาดสารอาหารที่สำคัญ ๆ ไปหลายอย่างเลยล่ะ

    5. โซเดียมสูง
    เมื่อมีผงชูรสในปริมาณสูง ก็หมายความว่าโซเดียมที่มีอยู่ในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็จะสูงตามไปด้วย และหากใครมีปริมาณโซเดียมในร่างกายมากเกินไป ก็จะเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ไตวาย และโรคอัมพาตได้เลยนะ

    6. ผงชูรสเต็มเปี่ยม
    โมโนโซเดียม กลูตาเมต (Mono sodium Glutamate) หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ ผงชูรส เป็นส่วนประกอบสำคัญอย่างหนึ่งในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพราะจะช่วยชูรสให้มีรสชาติอร่อยกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น ซึ่งใครที่มีอาการแพ้เจ้าผงชูรสนี้ ก็อาจได้รับผลกระทบแบบเฉียบพลันทันที โดยอาจจะมีอาการวิงเวียนศีรษะ อาเจียน หน้าแดงก่ำ คัน หรืออาการแพ้อื่น ๆ ตามมาได้ง่าย ๆ

    7. โรคอ้วนถามหา
    อาหารประเภทก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารที่ก่อให้เกิดโรคอ้วนได้ไม่ยาก เนื่องด้วยความที่มีโซเดียม และแป้งสูง จึงทำให้ร่างกายเกิดอาการบวมน้ำและมีน้ำหนักเกินได้ โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย และไม่ควบคุมอาหารเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ฉะนั้นหากไม่อยากเสี่ยงเป็นโรคอ้วน ก็ควรงดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกันตั้งแต่วันนี้เลยนะจ๊ะ

    8. ก่อกวนระบบย่อยอาหาร
    เนื่องจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีแต่แป้งและคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนใหญ่ จึงจัดว่าเป็นอาหารที่ย่อยยาก และยังมีผลต่อระบบลำไส้และระบบย่อยอาหารของเราไม่น้อยเลย เพราะสารอาหารพวกนี้เคลื่อนที่ในลำไส้ได้ค่อนข้างลำบาก ด้วยเหตุนี้เลยกลายเป็นอาหารที่ไม่ควรรับประทานเท่าไร โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหารเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

    9. ลดประสิทธิภาพระบบภูมิคุ้มกัน
    โพรไพลีน ไกลคอน (Propylene Glycol) หรือ พีจี ที่มีอยู่ในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จะเข้าไปก่อกวนระบบภูมิคุ้มกันของเรา ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ จนอาจจะเป็นเหตุให้มีโรคแทรกซ้อนขึ้นมาได้ อีกทั้งสารโพรไพลีน ไกลคอนยังซึมซามลงสู่ตับ ไต หัวใจ และอวัยวะภายในเราได้ง่าย ๆ อีกด้วย รู้แบบนี้กลัวขึ้นมาหรือยังจ๊ะ

    10. อัตราการเผาผลาญพลังงานในร่างกายลดลง
    ทั้งสารสังเคราะห์จากธรรมชาติ สารแต่งกลิ่น แต่งสี และสารกันบูดในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ล้วนแล้วแต่มีส่วนทำให้อัตราการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย (Metabolism rate) ลดลงเรื่อย ๆ ยิ่งถ้าหิ้วท้องไว้กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบ่อย ๆ ระบบเมตาบอลิซึมก็จะถดถอยลงเรื่อย ๆ จนเสี่ยงมีน้ำหนักเกินได้ในที่สุด

    ทีี่มา : เตือน กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากเกินไปไม่ดีนะ ? มาดู 10 ข้อนี้กัน
     
  2. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    ความศักดิ์สิทธิ์ของผ้ายันต์ ครูบาเที่ยงธรรม

    [​IMG]
     
  3. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    ผ้ายันต์ ครูบาเที่ยงธรรม ที่ผมพอมีอยู่ ท่านใดสนใจ ก็ติดต่อมาทางหลังไมค์ได้ครับ
     
  4. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    ไม่ต้องกลัวน้ำจะท่วมกรุงเทพฯและสุราษฎร์ธานีแล้วครับ

    [​IMG]

    หลังจากเสร็จจากอาหารเที่ยงที่โคราช เราเดินทางต่อไปยัง อ.พยุห์ จังหวัด ศีรษะเกศ ซึ่งอยู่หางออกไปอีกประมาณ 200 กม จาก โคราช เราไปถึงที่นั่นเวลาประมาณ เกือบ 5 โมงเย็น ฝนเริ่มตกหนัก

    ครูบาเที่ยงธรรม ท่านคอยพวกเราอยู่ในห้องเล็กๆๆขนาด 2 คูณ 2 เมตร เป้นห้องที่ท่านใช้ต้อนรับลูกศิษย์ที่ไม่เกิน 10 คน ปกติท่านจะไม่อยู่วัด เป้นการยากมากที่จะพบท่าน ท่านมักจะออกเดินทางในป่า เท่ยวขอ พืชสมุนไพรที่หายาก จาก นางไม้ และเทพารักษ์ เพื่อเอามาทำยาสมุนไพรให้แก่ลูกศิษย์ เป็นวิชาโบราณของ ครุบา อีกอย่างหนึ่ง

    ก่อนออกเดินทาง เราได้ส่งกระแสจิตมาบอกครูบา ว่า เราจะไปกราบท่านแล้วนะ ท่าน อย่าไปใหน ท่านก้ตกลง พวกเราจึงได้พบท่านตามที่ได้ ส่งโทรจิตมาบอกไว้

    ครูบาเที่ยงธรรม หรืออีกสมญาว่า" พระผู้อยู่เหนือโลก" ท่านเป็นผู้เขียนเรื่องการสอนและธรรมะ ลงในหนังสือ รายเดือน "โลกลี้ลับ" มาตลอด

    ผมเคยพบท่านสามสี่ครั้ง ขณะที่ครูบามาที่ "ศูนย์ปฏิบิติธรรม โลกทิพย์ พบท่านยาก ถ้าไม่รู้มาก่อน เพราะ ท่านชอบมาตอน สองยาม แล้วกลับตอนตีสาม ตีสี่ ใครอยากพบท่านก็ต้อง อดหลับอดนอน รอพบท่าน
    และครั้งสุดท้ายที่พบกัน ท่านมอบหมายภาระกิจที่ค่อนข้างจะเข้าใจยาก สำหรับผู้อื่น ท่านบอกว่าต่อไปจะมีภัยจากทางทะเล ทั้งทางด้านฝั่งทะเลตะวันตก ทะเลอันดามัน และด้านอ่าวไทย ซึ่งมี หัวหินอยู่ทางทิศตะวันตก และ พัทธยา อยู่ทางฝั่งตะวันออก

    ท่านบอกว่าจำเป้นที่จะต้องรักษาสถานที่สองแห่งไว้ไม่ให้จมน้ำ จนเสียหายมาก คือ กรุงเทพ เมืองหลวง และ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
    กรุงเทพ นครหลวงตั้งขึ้นโดย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก หลังจากเสียกรุงศรีอยธยาให้แก่พม่าในปี พศ. 2310 จึงได้เอกราชคืนมาใน ยุคของพระเจ้าตากสิน กรุงธนบุรี และต้องย้ายมาอยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะ ที่ใหม่ดีกว่าที่เก่าในการป้องกันและรบกับ พม่า

    พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ได้ทรงตั้ง กรุงเทพ ในปีพศ 2325 และทรงเป้นต้นตระกูลราชวงศ์ จักรี โดยมีวัดพระแก้ว และ พระแก้วมรกตที่อัญเชิญลงมาจาดภาคเหนือ เป็นหลักชัยของเมือง และได้คงอยู่ตลอดมา จนถึง รัชกาลที่9 ในปัจจุบัน ยาวนานเกินกว่า 223 ปี ( พศ. 2325-254

    ถ้าปล่อยให้เมืองหลวงจมน้ำ ปล่อยให้ วัดพระแก้วและพระแก้วมรกต จมน้ำ ก็จะหมายถึงความลัมจมของทั้งมวล
    ครูบาจึงได้เดินทางมายังปากน้ำ ไปที่ปากอ่าวแม่น้ำเจ้าพระยา ใช้พลังอำนาจอันไร้เทียมทานที่มีอยู่สร้างเนรมิตกำแพงน้ำที่มองไม่เห้น สูงกั้นกระแสน้ำไว้ไม่ให้ไหลบ่าเข้าท่วมเมืองหลวง ทั้งนี้เพื่อ ความอยู่รอดของบ้านเมือง ชาติและศาสน์กษัตริย์

    จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นอีกแห่งหนึ่งที่ต้องป้องกันไว้ เป็นสถานที่ที่สำคัญ เพราะเป็นแหล่งกำเนิดอารยธรรม ของสุวรรณภูมิ ที่สืบเนื่องมาจาก อารยธรรม ศรีวิชัยและ ทวาราวดี ซึ่งในที่สุดก็ได้หล่อหลอมเข้ามาเป้นอารยธรรม ของ ยุคล้านนา สุโขทัย จามเทวีหริภุญชัย กรุงศรีอยุธยา และ รัตนโกสินทร์ในที่สุด

    สถานที่ที่เป็นหัวใจคือ "พระบรมธาตุไชยา" ซึ่งอยู่ในเขต จังหวัด สุราษฎร์ธานี บนฝั่งแม่น้ำ ตาปี ซึ่งไหลผ่านตัวเมืองสุราษฎร์ธานี เป้นความคงอยู่ของสุวรรณภูมิหรือประเทศไทย ที่จะต้องรักษาไว้ ปล่อยให้จมน้ำไม่ได้เช่นกัน ในทำนองเดียวกับที่ต้องป้องกัน วัดพระแก้ว และพระแก้วมรกตไว้ ถ้าจมหายก็หมายถึง ความหายนะของประเทศ อย่างใหญ่หลวง

    น้ำที่จะมาท่วม "พระบรมธาตุไชยา " จะมาจากแม่น้ำตาปี ครูบา เที่ยงธรรม ท่านสั่งให้ คณะจาก โลกทิพย์ รวมทั้งผมให้เดินทางไป จังหวัด สุราษฏร์ธานีโดยเครื่องบิน ให้ไปที่ปากแม่น้ำตาปี ไปถึงเมื่อใด ให้โทรจิตบอก ท่านจะมาร่วมด้วย

    คณะของเราออกจากดอนเมืองตั้งแต่ 7 โมงเช้า โดยตีตั๋ว ไป-กลับ เที่ยวกลับ ประมาณ 5 โมงเย็น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พอดีกับสถานการณ์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ ชั่วโมงเศษก็ถึง

    จุดแรกที่เราไปคือ "พระบรมธาตุไชยา"ซึ่งอยู่ห่างออกไป ประมาณ ครึ่งชั่วโมงโดยทางรถยนต์ เมื่อไปถึง"พระบรมธาตุไชยา" คณะของเราได้ทำพิธีบูชาอย่างเต็มยศ ครบถ้วนตามพิธีโบราณ สุดท้ายด้วยการ ถวายผ้าสีทองยาวมากกว่า 20 เมตร พันรอบองค์เจดีย์
    ตลอดเวลาที่กระทำพิธีศักดิ์สิทธิ เราได้สัมผัส ความศักดิ์สิทธิยิ่งของ องค์พระธาตุ และทำให้รู้สึกว่า มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องป้องกันไม่ให้จมน้ำ จาก มหันตภัยที่จะเกิดขึ้น

    ช่วงบ่าย หลังจากเสร็จเรียบร้อยจากอาหารเที่ยง เราจึงออกจาก องค์พระธาตุ เดินทางไป ยังปากแม่น้ำตาปี
    ผมเคยมาที่นี่ เมื่อ กว่า 10 ปี ที่แล้ว ในตอนนั้นที่ปากแม่น้ำ มีท่าเรือเล็กๆๆ ตามชายหาดเรียงรายไปด้วย ร้านอาหารทะเลที่เป็นแพ อาหารทะเลสดและอร่อย จนเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด

    แต่ว่าวันนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนอย่างสิ้นเชิง หาดอันสวยงามในอดีตได้หายไป กลายเป้น ท่าเรือ เอกชนขนาดใหญ่ พอๆๆ กับท่าเรือ คลองเตย เป็นท่าเรือที่ใช้ขนส่ง แร่ยิบซั่มขนาดใหญ่ บริเวณนั้นจึงมีแต่ร่องรอยของฝุ่นยิบซั่มเต้มไปหมด ความจริงไม่น่าจะให้ที่ตรงนั้นเป็นท่าเรือ ทั้งๆๆที่ด้านข้างอีกหลายร้อยเมตร ก็มีที่เหมาะสม
    เป็นเรื่องของระบบนายทุน ที่ต้องการแต่ผลประโยชน์ ไม่มองถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมแต่ประการใด

    ใกล้ปากอ่าว แม่น้ำตาปีช่วงนั้น เป็นช่วงที่กว้างเหมือนกระพุ้งแก้ม มีช่องออกทะเล แคบๆๆ ภูมิประเทศดูเหมือนจะเป็นใจให้ทำการปิดปากแม่น้ำได้อย่างสนิท

    เราหาที่เหมาะที่ริมฝั่งได้ ก็เริ่มพิธี อันศักดิ์สิทธิ โดยทำการบูชา" พระแม่คงคา" ก่อน เพราะ ท่านเป็นปัจจัยสำคัณยิ่ง คือ "น้ำ" เมื่อเรียบร้อย ก็ส่งโทรจิตถึง ครุบาเที่ยงธรรม ว่า พวกเรามาถึงแล้ว

    อีกสองสามนาทีต่อมา ขณะที่คอย ก็มองเห้น สิ่งหนึ่งแล่นมาวูบเดียว เห็นเหมือนรุงสีน้ำตาล ท่านมาแล้ว สีน้ำตาล คือสีของ จีวรของ ครูบา เที่ยงธรรม ท่านเหาะมา จาก ศรีสะเกษ ระยะทาง มากกว่า 1,200 กม ใช้เวลาเดินทาง เพียง ไม่เกิน สามนาที เร็วขนาดใหน

    ท่านเหาะลงมาที่ปากแม่น้ำ จริงที่อยู่ห่างออกไป ประมาณ 200 เมตรที่อยู่เบื้องหน้า มีเสียงสั่งมาทางโทรจิตว่า ให้เตรียมพร้อมโดยการรวมจิตของทุกคน

    บัดดลโดยอำนาจของ ครูบา อำนาจของ พระแม่คงคา และอานาจรวมของพวกเราทุกคน สิ่งที่ปรากฏ คือ คือ ในแนวสันปากแม่น้ำ มองเห็นว่า น้ำได้ ขยายตัวเป็นฟองฟูเหมือนน้ำเดือด ยืดตัวสูงขึ้นเป้นกำแพงฟองน้ำ ขึ้นสูงมากกว่า 10 เมตร เมื่อเทียบกับระดับเดิม ซึ่งก็เพียงพอที่จะสะกัดกั้นน้ำในเวลาวิกฤติได้พอ

    กำแพงแห่งมนตรา ได้สร้างขึ้นมาแล้ว เพื่อปกป้ององค์พระธาตุไชยา เพื่อปกป้อง แผ่นดินสุวรรณภูมิ และประเทศชาติให้คงอยู่ต่อไป และองค์พระธาตุก็จะคงอยู่ แม้จะเกิด Episode I จนด้ามขวานทองของเรา จะถูกตัดขาดเป็นสามท่อนก็ตาม

    การพบและกราบไหว้ครูบาในการเดินทางครั้งนี้ ท่านได้แนะนำวิธีปฏิบัติให้พวกเราทีละคนอย่างละเอียด เพราะ ปัญหาทางสมาธิและจริตที่ต่างกันไ

    ก่อนลาออกมาเพื่อเดินทางต่อ ครูบาท่านได้แจก ผ้าห่มขนหนูผืนใหญ่ที่ท่านใช่ห่มประจำให้แก่พวก
    เรา เป็นผืนผ้าที่ใหญ่กว่า ผ้าจีวร
    เมื่อกลับมาถึงกทม ในเวลาต่อมา จึงได้ตัดแบ่งออกเป็นส่วนๆๆ แจกแก้ผู้มีจิตศรัทราในตัวครูบาเที่ยงธรรม เอาไปไว้บูชา ให้เป็นศิริมงคลแห่งชีวิตต่อไป
     
  5. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    ประสบการณ์ทำงานของผม (ส่วนที่ 5)

    [​IMG]

    การทำงานที่ DEC ค่อนข้างเครียดมาก ช่วงปีแรกที่เข้าทำงานได้เงินเดือน 6,020 บาท (วุฒิปวส.) พอทำงานผ่านไปประมาณ 2 ปี ได้ปรับเงินเดือนเป็นประมาณ 12,000 บาท (ผมเริ่มเข้าทำงานที่ DEC ตั้งแต่ปี 2534 นับแล้วก็ผ่านมาประมาณ 25 ปีแล้ว)

    การทำงานที่ DEC ได้ประสบการณ์ความรู้มากพอสมควร ได้เรียนรู้การขับรถยนต์ ได้รู้เส้นทางถนนหนทางต่างๆ ในกรุงเทพฯ ช่วงแรกๆ ออกทำงานคู่กับรุ่นพี่ เป็นลักษณะ OJT หรือ On The Job Traning)

    ได้เคยเข้าไปทำงานที่สำนักงานใหญ่ของธนาคารกรุงเทพ และที่ธนาคารกรุงไทย

    อย่างธนาคารกรุงไทย เห็นมีฝรั่งโปรแกรมเมอร์ หลายคน เห็นเขาบอกว่า ระบบการป้องกันของซอฟแวร์ธนาคารนี้ มีถึง 11 ชั้น ดังนั้นพวก Hack คงทำยาก เพราะเขาจ้างฝรั่งมาทำงานด้วย เป็นระดับโปรแกรมเมอร์เก่งๆ

    เมื่อพอมีความรู้ติดตัว ผู้จัดการหรือ Supervisor ก็หารถเก๋งให้ เป็นรถมือหนึ่ง ซึ่งบริษัทเช่าให้พนักงานเอาไปทำงาน สามารถนำรถกลับบ้านได้เมื่อเลิกงาน ซึ่งเป็นเพียงพนักงานในแผนกบริการหลังการขายหรือพนักงานฝ่ายซ่อมบำรุง เท่านั้นที่จะมีโอกาสได้รถประจำตำแหน่ง เพื่อขับรถไปทำงาน วันหยุด ก็เอารถไปซื้อของที่ห้างได้ บางคนก็อาจเอารถไปตจว. ก็มีมั๊ง

    ได้คลุกคลีกับพนักงานของธนาคารต่างๆ หลายธนาคาร บางคนก็พอรู้จักอยู่บ้าง

    การได้ทำงานเป็นพนักงานของธนาคาร ผมคิดว่าน่าจะเป็นอาชีพที่ดีสุดๆ อาชีพหนึ่ง เพราะการงานมั่นคง เงินเดือนดี โบนัสก็มาก

    บางเรื่องพอรู้ ก็เล่าไม่ได้หรอก

    การได้ทำงานที่ DEC มีสวัสดิการที่ดี ในเรื่องการรักษาพยาบาล เพราะสามารถใช้บัตร Blue Cross ได้ จัดเป็นสวัสดิการรักษาพยาบาลที่ดีเยี่ยม โรงพยาบาลทุกโรงพยาบาลในต่างประเทศหรือในประเทศไทย ชอบมากหากลูกค้าถือบัตร Blue Cross และพยาบาลจะดูแลเอาใจใส่ดี หากลูกค้าถือบัตร Blue Cross

    ผมทำงานมามากมายหลายที่ ทั้งประจำและ Part Time ก็ไม่เคยมีสวัสดิการพยาบาลใดดีเท่าการทำงานที่ DEC ทำงานที่อื่นอย่างเก่งก็ดีกว่าบัตร 30 บาทเล็กน้อย แต่สู้บัตร Blue Cross ไม่ได้ และบริษัทอื่นๆ ที่เคยทำส่วนใหญ่ล้วนเป็นสวัสดิการประกันสังคม ไปใช้สิทธิ์แบบนี้รอนานโครต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2016
  6. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    ขาย(ให้เช่าบูชา) พระเครื่องวัตถุมงคล ในเวบพลังจิต ขายยากถึงยากมาก

    ตั้งแต่ต่ออายุสมาชิก Premium ช่วงวันที่ 17 สิงหาคม จนถึงวันนี้ (28 สิงหาคม 2559) ยังขายพระเครื่องวัตถุมงคล ไม่ได้สักองค์

    หากรอหวังพึ่งการขายพระเครื่องวัตถุมงคล ในเวบพลังจิต ระวังอด คงไม่ค่อยไหว

    ต้องรู้จักการขยายการโฆษณาไปที่เวบอื่น แต่ที่เวบอื่น บางแห่งเวลาสมัครสมาชิก ก็ต้องจ่ายค่าสมาชิก อาจคุ้มบ้าง ไม่คุ้มบ้าง บางแห่งก็ไปโฆษณาลงได้ 30 วัน เกินกว่านั้น อาจมีค่าใช้จ่าย

    คนไม่มีเงินเดือนแบบผม ต้องใช้ความพยายามาก

    ทำไมบางคนเขาขายได้บ่อยๆ เดือนหนึ่งได้มากกว่า 20 องค์ เพราะเขามีพระเครื่อวัตถุมงคลที่เป็นจุดแข็ง มีผู้นิยมมาก เช่น พระหลวงปู่หมุน พระหลวงปู่สรวง พระหลวงปู่มีชัย เป็นต้น เขาขายได้เรื่อยๆ สบายๆ เดือนหนึ่งก็รับมากกว่า 3 หมื่นบาท ปีหนึ่งได้จับเงินแสนหรือเงินล้าน

    แต่ทุกสิ่งย่อมมีวันหมดน่ะ ช่วงหนึ่งที่เขายังมีวัตุุมงคลเด่นๆ ดังๆ เป็นพันองค์ เมื่อเวลาผ่านไป วันหนึ่งที่ใกล้หมด เงินก็อาจลด คนที่ร่ำรวยจากการให้ขาย(ให้เช่าบูชา) พระเครื่องวัตถุมงคล จริงๆ นั้นมีน้อย ส่วนหนึ่งก็รวยช่วงเวลาหนึ่ง อีกส่วนก็แค่พออยู่ได้ ถามว่ายั่งยืนไหม คงไม่ยั่งยืน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2016
  7. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    ให้ความช่วยเหลือค่าอาหาร เงินกินข้าว หรืออื่นๆ ที่จำเป็น (โครงการบุญครั้งที่ 3)

    ได้ช่วยเหลือไปแล้วจำนวน 4 ท่าน ผู้ผ่านการพิจารณาได้รับเงินช่วยเหลือในเดือนสิงหาคม 2559 :

    1.คุณกรวิการ์ จัน... จำนวนเงิน 300 บาท (ใช้ทุนของท่านผู้ใจบุญ 300 บาท)
    2.คุณคมกริช ศร... จำนวนเงิน 400 บาท (ใช้ทุนของท่านผู้ใจบุญ 400 บาท)
    3.คุณสายฝน พุ่ม... จำนวนเงิน 400 บาท (ใช้ทุนของท่านผู้ใจบุญ 300 บาท และทุนของผม 100 บาท)
    4.คุณสธาสินี ศรี... จำนวนเงิน 300 บาท (ใช้ทุนของท่านผู้ใจบุญ 200 บาท และทุนของผม 100 บาท)
    http://metharung.blogspot.com/2016/05/3.html
     
  8. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    [​IMG]

    [​IMG]

    วัดป่าถ้ำวัวเป็นสถานปฏิบัติธรรมที่ชาวต่างชาตินิยมมาฝึกสมาธิ ซึ่งชาวต่างชาติขนานนามให้ว่า เป็นสถานปฏิบัติธรรมที่ดีที่สุด1ใน5ของโลก(Five Star Meditation Center Of The World.) และในแต่ละปีจะมีชาวต่างชาติมามากกว่าปีละ100ประเทศ รวมทุกศาสนา จึงจะเห็นได้ว่า การฝึกสมาธิ เป็นหลักสากล ที่ทุกคน ทุกเชื่อชาติ ทุกศาสนา สามารถปฏิบัติได้ และพระอาจารย์หลวงตาได้นำวัฒนธรรมไทยอวดสายตาชาวโลก ชาวต่างชาติทุกคนจะไหว้เป็น กราบเป็น เป็นภาพที่เห็นแล้วจะอมยิ้มอยู่เสมอๆ...ที่สำคัญในทัศนะของ Admin จะเห็นว่าแล้วใยเล่าพุทธศาสนิกชนเราไม่เริ่มต้นการปฏิบัติ ณ ตอนนี้ เวลานี้ ทั้งๆที่เราอยู่ใกล้ เราได้เปรียบ เราไม่ต้องนั่งเครื่องมาไกลๆ ซึ่งจากการเห็นการปฏิบัติของชาวต่างชาติ ต้องบอกว่า เขาทำจริง ปฏิบัติจริง มาคราวละไม่ต่ำกว่า7วัน ขออนุโมทนาสาธุกับทุกคน ทุกเชื้อชาติด้วยเทอญ สะอาด สว่าง สงบ.

    https://www.facebook.com/profile.php?id=100008340548973&hc_ref=NEWSFEED
     
  9. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    คนที่เคยปฏิบัติธรรมมาแล้ว ในอดีตชาติ จะมีแรงผลักดันให้ได้กลับมาปฏิบัติธรรมอีก ได้เจอครูบาอาจารย์ หรือกัลยาณมิตร

    เสียงเรียกร้อง ดังก้องไป สุดท้ายหยุดที่กายใจของตนเอง

    เกิดมาทำไม

    ท่านที่ถึงธรรมแล้ว ในชีวิตส่วนที่เหลือ คือการช่วยเหลือคน ไม่ใช่จิตที่คิดจะเอาอย่างเดียว จะเอาแต่หาเงิน ซึ่งมันเป็นเปลือก

    เมื่อเสร็จกิจ ดวงตาเห็นธรรมแล้ว เขาจะรู้และเข้าใจในหลายสิ่ง

    อย่าไปมองคนเพียงที่ฐานะ หรือ ตำแหน่ง บางคนค้าขายไม่ค่อยได้ ขายพระเครื่องไม่ค่อยได้ มันก็คงมีเหตุ บุญบารมีของคนไม่ได้วัดกันที่เงิน หรือขายดี

    คนจน หรือคนแค่พอมีกิน บางคนนั้น มีบารมีที่คนส่วนใหญ่เขาไม่มี อาจสามารถช่วยชาติ หรือช่วยต้านภัยที่น่ากลัว เรื่องแบบนี้เกินกว่าที่คนทั่วไปจะเข้าใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2016
  10. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    [​IMG]

    เบอร์มงคล-เลขหงส์-เลขมังกร

    ปัจจุบันการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์เป็นเรื่องที่กำลังเป็นที่สนใจของคนในสังคม เพราะเบอร์โทรศัพท์ส่วนใหญ่ในประเทศนี้เป็นเลขที่ไม่เป็นมงคล ผู้คนในสังคมจึงต้องการหาเบอร์มงคลมาใช้เพื่อเสริมดวงชะตาให้กับชีวิตและเพื่อความสบายใจในการดำเนินชีวิต โดยเบอร์มงคลทั้งหลายถ้าถามถึงเรื่องการใช้แล้วทำให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนดวงชะตาได้หรือไม่สำหรับท่านที่เชื่อในเรื่องเบอร์มงคลก็จะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าใช้แล้วดีขึ้นจริง สามารถเสริมดวงชะตาได้จริง แต่สำหรับผู้ที่ไม่เชื่อในเรื่องศาสตร์แขนงนี้ก็จะพูดในทางตรงกันข้ามว่า งมงาย

    แต่สำหรับ Bansim5559 แล้ว ทางสถิติตัวเลข แล้ว เบอร์มงคลสามารถเสริมดวงได้จริงๆ แต่ตั้งสำหรับผู้ที่เชื่อในเรื่องศาสตร์ตัวเลขมงคลเท่านั้นครับ เพราะทางด้านการทำสถิติตัวเลขแล้วเบอร์มงคลเป็นการเสริมพลังในด้านกำลังใจ ความเชื่อมั่น แรงผลักดัน ซึ่งเป็นพลังภายในที่มองไม่เป็น เหมือนการที่ชีวิตคิดบวก เมื่อผู้ใช้มั่นใจในทุกๆเรื่องที่ตนเองทำและเชื่อมันว่าตนเองจะทำสิ่งนั้นให้สำเร็จได้ ก็ทำให้คนๆนั้นสามารถทำในสิ่งที่ตนเองตั้งใจได้ผลออกมาดีเกินคาดครับ

    เบอร์มงคล กับ เลขหงส์289 เลขมังกร789

    ที่จริงและเลขหงส์และเลขมังกรคือ ชุดกลุ่มตัวเลขรหัสรับเงินก้อนโตนั้นเองครับ แต่ที่เรียกว่าเลขหงส์และเลขมังกรเพราะชุดกลุ่มตัวเลขนี้จะให้โชคลาภก้อนใหญ่มากกว่าเลขลาภลอยหรือตัวเลขโชคลาภธรรมดาครับเพราะเป็นกลุ่มตัวเลข 3 ตัวที่เป็นชุดเลขครับ โดย ชุดกลุ่มตัวเลข3ตัว หรือ ดูได้เป็น 2 คู่เลขนี้จะประกอบไปด้วยคู่เลขที่มีความหมายไปในทางโชคลาภ ภาวการณ์ตัดสินใจ อำนาจ บารมี เมื่อคู่เลข2คู่นี้ได้จับกลุ่ม3ตัวติดกันก็จะทำให้มีหลังของกลุ่มตัวเลขนั้นได้มาเป็นพิเศษครับ

    ชุดกลุ่มตัวเลขรหัสรับเงินก้อนโต

    289 982 828 282 878 789 879 987 287

    จำแนกได้ดังนี้

    -289 982 282 828

    ชุดนี้เหมาะสำหรับการบริหารธุรกิจ เจ้าของกิจการ เล่นหุ้น ค้าขายที่ดี ธุรกิจการเงินที่มีความเสี่ยงสูง เป็นกลุ่มตัวเลขที่ดีที่สุดในการเสริมพลังในการบริหารงานองค์กรต่างๆ ให้ประสบความสำเร็จ จะได้กำไรก้อนโตๆ เป็นเงินก้อนใหญ่ครับ

    -789 987 879 878 287

    ชุดนี้เหมาะสำหรับการบริหารธุรกิจ เจ้าของกิจการ เล่นหุ้น หวย ผู้นำองค์กร เป็นกลุ่มตัวเลขที่ดีที่สุดในการเสริมพลังในการบริหารคน ทำให้มีอำนาจสูง มีบารมีมาก ทำให้ได้เป็นใหญ่เป็นโตได้อย่างรวดเร็ว มุ่งสู่ความสำเร็จแบบก้าวกระโดดครับ


    **ดั้งนั้นก็ควรเลือกกลุ่มตัวเลขที่เหมาะสมกับตนเองนะครับเวลานำไปใช้ในเบอร์มงคลจะได้เสริมความเป็นมงคลได้ตามวัตถุประสงค์ของท่านได้มากที่สุดครับ**

    http://www.bansim5559.com/เบอร์มงคล-เลขหงส์-เลขมังกร/
     
  11. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    ผมเคยติดตามนักเขียนใหญ่ท่านหนึ่ง ที่ชื่อคุณภันธกา.. เขาใช้เบอร์ที่ลงท้ายด้วย 789 และเคยเปลี่ยนชื่อจากพันธกา.... เป็นภันธกา... เป็นนักเขียนที่รู้จักครูบาอาจารย์มากมาย ปัจจุบันเป็นเจ้าของสำนักพิมพ์ และธุรกิจอื่นๆ

    เป็นนักเขียนใหญ่ที่เคยมีผลงานมากในอดีต เขาเคยบอกว่ารายได้จากหนังสือประวัติครูบาอาจารย์ ที่เขาเรียกว่าเป็นสินค้า เดือนหนึ่งตกราว 8-9 แสนบาท บางเดือนก็ล้านกว่า

    ด้วยอานิสงส์การเขียนประวัติของหลวงปู่เณร.... ทำให้ปัจจุบันต้องลดด้านงานเขียน

    สมัยที่เฟื่องฟูรายได้มากมาย อย่างหนึ่ง อาจมาจากการมีเบอร์สวย ที่ลงท้ายด้วย 789 และการเปลี่ยนชื่อ

    แต่ความร่ำรวยที่แท้จริง มันไม่แน่หรอก เมื่อผลกระทบจากหนังสือหลวงปู่เณร... งานเขียนลด รายได้ก็คงลดลง และอาจลดมากพอสมควร ดังนั้นเบอร์มงคลสู้กฎแห่งกรรมไม่ได้มั๊ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2016
  12. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    [​IMG]

    เบอร์มงคลกับความเข้าใจเรื่องเลข 0 ศูนย์

    ความเข้าใจเรื่องเลข 0 ศูนย์ ในความเข้าใจของคนทั่งไปในการเลือกซื้อเบอร์มงคล คือต้องการซื้อเบอร์ที่ไม่มีเลข 0 เพราะถือว่าเลข 0 ไม่ดีจะทำให้เป็นโรคภายต่างๆ หรือ บางอาจารย์ก็ว่าทำให้เก็บเงินไม่อยู่บาง ซึ่งถ้าเป็นการดูตัวเลข เบอร์มงคล แล้วเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงครับ เหมือนเป็นคำพูดที่ไม่รู้จริงเรื่อง เบอร์มงคล แล้วพูดออกไปแบบไม่มีความรับผิดชอบ หรือ บางท่านก็รู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าไม่ได้เป็นแบบนั้นครับ ซึ่งทาง Bansim5559 เคยได้อธิบายไว้แล้วว่า การเลือกซื้อ เบอร์มงคล ให้ดูเป็นเลขคู่ว่าทุกคู่เป็นมงคลหรือเปล่า การดู เบอร์มงคล ไม่ได้ดูเพียงเลขใดเลขหนึ่งครับ

    โดยการดูเบอร์มงคลให้ดูแบบนี้ครับ

    -081-1234567

    ให้ดู XXX-12–23–34–45–56–67 แบนี้ครับ

    จะไม่ดูเป็น XXX-1-2-3-4-5-6-7 ดูแบบนี้ไม่ใช้วิธีการดูเบอร์มงคลที่ถูกต้องครับ

    ดั้งนั้น การมีเลขศูนย์อยู่ในเบอร์โทรศัพท์จะดูว่าเป็นมงคลหรือเปล่าต้องดูเป็นคู่ครับ

    ตัวอย่างเช่น

    (1)081-3080702 แบบนี้ไม่เป็นเบอร์มงคลครับ

    พอดูเป็นเลขคู่จะเป็น XXX-30-08-07-70-02 เป็นนี้มีเลขศูนย์ที่เป็นเลขคู่เสียครับ

    (2)081-5509904 แบบนี้เป็นเบอร์มงคลครับ

    พอดูเป็นเลขคู่จะเป็น XXX-55-50-05-99-90-04 เป็นเลขศูนย์ที่เป็นเลขคู่ดีครับ

    ด้านโหรราศาสตร์ เลขศูนย์เป็นดาวฤตยู

    คิดทำสิ่งใดยากที่ใครจะรู้ คิดนอกกรอบมุมมองใหม่ เดาใจได้ยาก ทำตัวลึกลับ เก็บความลับได้เก่ง มีความสับวุ่นวายซ่อนอยู่ในจิตใจ อารมณ์แปรปรวนขึ้นลง สังหรณ์แม่น ฝันแม่น สัมผัสสิ่งลี้ลับได้ หยั่งรู้เข้าในในศาสตร์ลี้ลับ

    ด้านดี หมายถึง เป็นคนมีสติปัญญาเฉียบแหลม ค่อนไปทางสติเฟื่อง มีอำนาจลึกลับและอิทธิพล เอาชนะอุปสรรคได้อย่างประหลาด มีเสน่ห์ดึงดูด มีหัวคิดริเริ่ม หยั่งรู้เข้าในในศาสตร์ลี้ลับ มีบุคลิกภาพที่เป็นพิเศษเฉพาะตัว มักเกี่ยวเนื่องกับวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นนักค้นคว้า เป็นนักประดิษฐ์กรรมที่ทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์

    ด้านเสีย หมายถึง มักมีเหตุการณ์ไม่ดีที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น หรือมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่เป็นคุณ เกิดทุกข์ภัยอาเภท หลงใหลในสิ่งผิดๆ นอกลู่นอกทาง ดันทุรัง แหกคอก กระด้าง ดื้อรั้น ชอบผ่าฝืน เจ้าอารมณ์มาก โกรธง่าย อารมณ์ตึงเครียด เอาแต่ใจ และเนื่องจากที่มีนิสัยอารมณ์แบบนี้ จึงทำให้มีอันตรายถึงชีวิตได้ จึงต้องควบคุมจิตใจและอารมณ์ให้ดี



    ด้านสถิติตัวเลข (ตามหลักBansim5559) เลขศููนย์เป็นเพิ่มค่า

    เลขศูนย์ เป็นเลขที่เพิ่มให้ทั้งพลังในทางที่ดีและทางที่ร้าย ถ้าเลขศูนย์ 0 อยู่คู่กับเลขที่ดีก็จะเพิ่มพลังในทางที่ดีมีเลข 4-5-6-9 เป็น 09,90 – 06,60 – 05,50 – 04,40 เลขคู่เหล่านี้เป็นเลขที่มีพลังในด้านดี เลขศูนย์ก็จะทำหน้าที่เพิ่มพลังในทาง+บวก

    04-40 จะมีการวางแผนทางธุรกิจที่ดีเยี่ยม เป็นนักคิดนักฝัน จินตนาการกว้างไกล

    05-50 สติปัญญาดี มีความสุขุมลุ่มลึก ชอบไขว่คว้าหาความก้าวหน้าให้กับชีวิต

    06-60 หาเงินเก่ง มีเสน่ห์ อารมณ์ละเมียดละมัย มองโลกแง่ดี แต่ก็ใช้เงินเก่งด้วย

    09-90 มีไหวพริบ มีญาณสัมผัสที่หก สังหรณ์แม่น ความรู้สึกรับรู้ไว ใช้ชีวิตอิสระ

    เลขศูนย์ ถ้าไปอยู่คู่กับตัวเลขที่มีพลังในด้านร้ายก็จะทำให้เพิ่มค่าพลังในทางด้านร้าย เลขที่เพิ่มค่าพลังในทางด้านร้ายมี 1-2-3-7-8 เป็น 01,10 – 02,20 – 03,30 – 07,70 – 08,80 เลขคู่เหล่านี้เป็นเลขที่มีพลังในด้านร้าย เลขศูนย์ก็จะทำหน้าที่เพิ่มพลังในทาง – ลบ

    01,10 ทำคุณคนไม่ขึ้น รักศักดิ์ศรี ใจร้อน ไม่รอบคอบ อ่อนนอกแข็งใน

    02,20 อ่อนไหว โลเล ตัดสินใจยาก ขี้งอน ขี้เหงา เพ้อฝันเยอะ ใจอ่อน

    03,30 ฉุนเฉียวเร่าร้อนรุนแรง เอาแต่ใจตัวเอง มุทะลุ ดุดัน ไร้เหตุผล

    07,70 ปัญหาและอุปสรรค เครียด เก็บกด โรคประสาท โรคภัยร้ายแรง

    08,80 ดื้อรั้น ดันทุรังสูง อบายมุข โรงร้ายแรงรักษายาก


    ทั้งนี้ก็สามารถสรุปได้ว่า การดูเบอร์มงคลที่ถูกต้องนั้นให้ดูเลขเป็นเลขคู่ไม่ได้ดูตัวเลขใดตัวเลขหนึ่งอย่างที่หลายๆคนบอกันนะครับ เลขความเข้าใจว่ามีเลข0ศูนย์ไม่ดีก็เป็นความเข้าใจที่ผิดเพราะเลขศูนย์ให้ดูว่าอยู่คู่กับเลขอะไร ถ้าอยู่คู่กับเลขดีก็ถือว่าเป็นมงคล แต่ถ้าอยู่คู่กับเลขไม่ดีก็ถือว่าไม่เป็นมงคลครับ

    เลขศูนย์-กับ-เบอร์มงคล – เบอร์มงคล เบอร์เลขสวยราคาถูก เบอร์เลขตอง VIP
     
  13. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    ขายซิมมือถือดีกว่าขายพระเครื่องวัตถุมงคล

    อ่านดูหลายเวบ อยากเปลี่ยนเบอร์ หาเลขที่โดนไม่ได้สักที

    เวบใหญ่ มักราคาแพง

    เวบที่แนะนำ ราคาถูกๆ ยังพอมี เช่น
    luckysim.com
    simsuwat.com
    kornbersuay.com

    เวบทำนายเบอร์ดีๆ ที่แนะนำ
    http://www.superbermongkol.com/ทํานายเบอร์มงคล/
    http://somjade.com/ber/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2016
  14. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    [​IMG]

    "คำปรารภถึงการสร้างเจดีย์ของหลวงพ่อ"
    หลังจากหลวงพ่อได้ละสังขารไปไม่นาน
    ทางวัดก็ได้เตรียมการสร้างเจดีย์เพื่อเก็บสรีระสังขารหลวงพ่อ เพื่อถวายเป็นอาจาริยบูชา
    ที่มาของการสร้างเจดีย์นั้น
    ได้มาจากการปรารภของพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคยพูดคุยกับพระครูวินัยธรวรพงษ์(เลขาฯ)
    ตั้งแต่ปี๒๕๕๑ และได้มีการร่างแบบและกำหนดสถานที่ก่อสร้างเจดีย์โดยผ่านความเห็นชอบจากหลวงพ่อมาแล้ว
    ที่ผ่านมายังไม่ดำเนินการต่อเพราะยังไม่ถึงเวลา
    แต่บัดนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมแล้วจึงได้ดำเนินการจากเจตนารมณ์ของหลวงพ่อเป็นสิ่งสุดท้ายที่ท่านปรารภไว้ว่าจะต้องทำให้สำเร็จ เพื่อเป็นอนุสรณ์สถาน ฝากไว้ให้อนุชนคนรุ่นหลังสืบต่อไป
    ลักษณะของเจดีย์ ที่จะก่อสร้างเป็นเจดีย์ที่เน้นประโยชน์ใช้งาน โดยแบ่งเป็นชั้นๆ เช่น ไว้ประกอบพิธีทางศาสนาหรือ เจริญภาวนา เป็นพิพิธภัณฑ์ของหลวงพ่อ เป็นที่เก็บสรีระสังขารของหลวงพ่อและชั้นบนสุดจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุฯลฯ
    บัดนี้คุณศิริพร ศาตวินท์ โยมอุปัฏฐากของหลวงพ่อได้มีจิตศรัทธาถวายปัจจัยจำนวน ๒๐ ล้านบาทเพื่อเป็นปฐมฤกษ์ในการก่อสร้างเจดีย์ในครั้งนี้
    โดยสถานที่ก่อสร้างจะสร้างในส่วนของหน้าวัดตรงลานจอดรถลานช้าง

    http://amphawan.net/web/05/amphawan_jd.html


    สำหรับญาติโยมท่านใดมีจิตศรัทธา อยากมีส่วนร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์สิงหบุราจริยานุสรณ์
    สามารถร่วมถวายปัจจัยได้ที่วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ณ จุดร่วมทำบุญสร้างเจดีย์ที่ทางวัดได้จัดไว้

    และเพื่อง่ายต่อการบริหารจัดการและอำนวยความสะดวกทางคณะกรรมการดำเนินการได้เปิดบัญชีธนาคารไว้เพื่อรองรับการสร้างเจดีย์ไว้
    ชื่อบัญชี"วัดอัมพวัน เพื่อสร้างเจดีย์"
    ธนาคารกสิกรไทย สาขาเทสโก้โลตัส อินทร์บุรี
    เลขที่บัญชี 009-1-72315-8

    และหากญาติโยมท่านใดมีกำลังทรัพย์มาก มีจิตศรัทธามาก ต้องการร่วมทำบุญมากกว่าหนึ่งแสนบาทขึ้นไป
    ทางคณะกรรมการวัดได้จัดให้ลงทะเบียน เพื่อจะนำรายชื่อสลักจารึกลงแผ่นศิลาเป็นอนุสรณ์สืบต่อไป
    สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.๐๖๒-๓๐๖๑๘๓๑-๓

    [​IMG]

    http://amphawan.net/web/05/donate_for_jd.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กันยายน 2016
  15. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    คนเราส่วนใหญวิ่งวุ่นเพราะเรื่องเงิน เงินปันหัว

    สมัยก่อนที่ผมเรียนจบปวส. แล้วก็ไปแสวงหาความเจริญรุ่งเรืองที่กรุงเทพฯ เมืองศิวิไลอมรฟ้า ก็เพราะเงิน ไปตกระกำลำบากมากมาย ก็เพราะจะหาเงิน

    พยายามอดทนทำงาน ก็เพราะเงิน พยายามเรียนจนจบปริญญาตรี ก็เพื่อเงินที่ดีกว่า

    หลังๆ อายุเริ่มมาก 35 up ตกงานบ่อย ก็ยังต้องดิ้นร้นเพื่อหาเงิน หลังๆ ผ่านไป ร่างกายเริ่มไม่ค่อยแข็งแรง ไม่ค่อยมีเงินไปหาหมอ กินนน้ำปัสสาวะแทนยา เวลาจะหายาดี ก็ต้องใช้เงิน ถ้าไม่ค่อยมีเงิน ก็กินบ้าง หยุดบ้าง ปล่อยไปตามบุญตามกรรม

    คนเราส่วนใหญ่ทุกวันนี้ ก็ถูกเงินปั่นหัว ต้องหาเงิน สุขหรือทุกข์ก็เพราะเงิน

    หากมีดวงตาเห็นธรรม คงทุกข์กับเรื่องเงินน้อยลง

    การได้เปิดโครงการบุญช่วยเหลือค่าอาหารและอื่นๆ ได้รู้ปัญหาสังคมค่อนข้างมาก ที่ลำบากจริงๆ ก็มี ที่มาโกหกเพื่อหวังเงินก็มี บางรายโทรเข้าไปคุย เขาบอกอดข้าวมาหลายวัน จนปวดหัว พอโอนเงินให้เขาไป 400-500 บาท เขาขอบคุณทั้งกับร้องไห้ ซึ่งก็เจอหลายราย แบบนี้คือได้ช่วยคนจริง ก็ซึ้งใจพอควร แต่แบบนี้ก็เจอบ่อย เพราะเปิดโครงการบุญมาหลายครั้ง จัดเป็นบุญแรงอย่างหนึ่ง ส่วนที่มาโกหกเพื่อหวังเงินก็เจอบ่อย คือได้เจอประสบการณ์หลากหลาย

    การได้ช่วยคนแบบที่ผมเองไม่เคยได้รู้จักกันมาก่อน เป็นการก้าวข้ามในเรื่องหวังผลบุญมาก คือสามารถทำความดีได้กับคนทั่วไป หากหวังผลบุญมาก ก็มักจะทำบุญกับพระสงฆ์ แต่เป็นการก้าวข้ามเรื่องการหวังผลผลมากแล้ว และไม่ใช่การทำความดีแต่กับญาติหรือเพื่อน เป็นการก้าวข้ามการทำดีแต่เพียงคนที่รู้จัก

    ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่อยากมีผัวหรือแฟน เขาก็มักหาผัวรวยน่ะ ที่จะไปกัดก้อนเกลือกินคงไม่ค่อยมีหรอก มีแต่เพียงในละครหรือนิยาย

    ผมคิดว่าโชคดีที่ไม่มีเมีย หาเมียดีๆ หายาก ผู้หญิงก็คล้ายผู้ชาย ต่างกันแค่สรีระบางอย่าง อารมณ์ความรู้สึก ก็เหมือนกัน มีรัก โลภ โกรธ หลง

    หาเมียดีๆ ต้องหาที่มีธรรมเสมอหรือใกล้เคียงกัน สนใจในสิ่งที่คล้ายๆ กัน สามารถเกื้อกูลกันได้

    การใช้ของดี เพื่อให้ได้คู่ครอง ถ้าเป็นคนเข้าไม่ถึงธรรม เขาก็ทำเพื่ออยากได้ในสิ่งที่ต้องการ เช่น ใช้ตะกรุด ใช้เสน่ห์ สารพัด การได้ผู้หญิงมาครองแบบนี้มันไม่ธรรมชาติ แม้ได้ตัวมาอยู่กินหลายปี แต่ไม่ธรรมชาติ ผู้หญิงจะหลงผู้ชายมาก แล้วกรรมก็คือกรรม เกิดชาติหน้า ผู้ชายที่เคยทำแบบนี้ในชาติหนึ่ง พอมาในชาติปัจจุบัน ก็โดนผู้หญิงทำกลับ เพราะอยากได้ผู้ชายคนนนั้น และสำเร็จด้วย เพราะมันเป็นกฎแห่งกรรม อดีตเคยไปทำเขาไว้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กันยายน 2016
  16. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    ให้ความช่วยเหลือค่าอาหาร เงินกินข้าว หรืออื่นๆ ที่จำเป็น (โครงการบุญครั้งที่ 3)

    ผู้ผ่านการพิจารณาได้รับเงินช่วยเหลือในเดือนมิถุนายน 2559
    1.คุณมานิตา กุ.... จำนวนเงิน 200 บาท (ใช้ทุนของท่านผู้ใจบุญ)
    2.คุณธัญชนก บรร.... จำนวนเงิน 300 บาท (ใช้ทุนของท่านผู้ใจบุญ)
    3.คุณสุภัสดาภา หนู... จำนวนเงิน 300 บาท (ใช้ทุนของผม)

    ผู้ผ่านการพิจารณาได้รับเงินช่วยเหลือในเดือนกรกฎาคม 2559
    1.คุณอภิชญา จำนวนเงิน 800 บาท (ใช้ทุนของท่านผู้ใจบุญ 500 บาท และทุนของผม 300 บาท)
    2.คุณนิยะดา จำนวนเงิน 700 บาท (ใช้ทุนของท่านผู้ใจบุญ 500 บาท และทุนของผม 200 บาท)
    3.คุณเกศินี จำนวนเงิน 300 บาท (ใช้ทุนของท่านผู้ใจบุญ)

    ผู้ผ่านการพิจารณาได้รับเงินช่วยเหลือในเดือนสิงหาคม 2559
    1.คุณกรวิการ์ จัน... จำนวนเงิน 300 บาท (ใช้ทุนของท่านผู้ใจบุญ 300 บาท)
    2.คุณคมกริช ศร... จำนวนเงิน 400 บาท (ใช้ทุนของท่านผู้ใจบุญ 400 บาท)
    3.คุณสายฝน พุ่ม... จำนวนเงิน 400 บาท (ใช้ทุนของท่านผู้ใจบุญ 300 บาท และทุนของผม 100 บาท)
    4.คุณสธาสินี ศรี... จำนวนเงิน 300 บาท (ใช้ทุนของท่านผู้ใจบุญ 200 บาท และทุนของผม 100 บาท)

    ผู้ผ่านการพิจารณาได้รับเงินช่วยเหลือในเดือนกันยายน 2559
    1.คุณสุชาดา ไชย... จำนวนเงิน 400 บาท (ใช้ทุนของท่านผู้ใจบุญ)
    2....

    เดือนกันยายน 2559 มีเงินทุนงบประมาณ ของท่านผู้ใจบุญ เหลืออีกจำนวน 600 บาท และทุนของผม 300 บาท ท่านที่ลำบากต้องการความช่วยเหลือเงินกินข้าว/ค่าอาหาร/ค่ารถ หรืออื่นๆ ส่งอีเมล์/SMS มาเพื่อการพิจารณาได้เลย
    http://metharung.blogspot.com/2016/05/3.html
     
  17. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    เนื้อหา สาระ ความรู้ในกระทู้นี้ สิ่งใดที่มีประโยชน์ ก็ Copy เก็บเอาไว้ได้นะครับ

    อนาคตเจ้าของกระทู้อาจไปบวช หรือแต่งงาน หากแต่งงานก็คงไม่ค่อยเข้าเวบ หรืออาจละสังขาร หรือปลีกวิเวก หรือ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2016
  18. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    เด็กโง่จบป.เอก ร้อยล้านเหลือ 2 พัน เปิดใจเทพเกษตร ดร.เกริก มีมุ่งกิจ

    [​IMG]

    มีคำกล่าวว่า ชีวิตคนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 2 วิฯ วิฯ ที่ว่า ไม่ใช่ “วินาที” แต่มาจาก “วิกฤติ” และ “วิสัยทัศน์” ซึ่งรู้ไหมว่า
    คนส่วนใหญ่เปลี่ยนเพราะเจอ “วิกฤติ”

    กลับมาพบกับ แฟนานุแฟนไทยรัฐออนไลน์อีกครั้ง โดยอยากจะชวนนั่งรถหนีเมืองศิวิไลซ์...หนีชีวิตที่แสนวุ่นวาย รถยนต์มากมาย ตึกสูงระฟ้า มลพิษทั้งทางอากาศ น้ำ เสียง หรือ มลพิษที่ทำให้เกิดอาการหงุดหงิดก็ตาม...

    ด้วยระยะทางกว่า 250 กิโลเมตร ในที่สุดเราก็มาถึง “ศูนย์การฝึกปฏิบัติงานวนเกษตรเขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว” ได้โอกาสพบหน้าบุคคลที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “เทพแห่งเกษตรกร” ไอดอลของคนอาชีพเกษตรกรรม “ดร.เกริก มีมุ่งกิจ” ประธานกรรมการบริหารธนาคารต้นไม้ระดับชาติ และ ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ “คนกล้าคืนถิ่น” ที่ชวนกลับบ้านพัฒนาท้องถิ่นอีกด้วย

    แค่ก้าวแรกที่ลงจากรถ ก็พบบ้านหลังน้อย แวดล้อมด้วยแมกไม้นานาชนิด เสียงเป็ด ห่าน ทักทาย “อาสามฯ” และทีมงาน ถือวิสาสะเดินเข้าบ้านชะโงกมอง ก็พบกับ ดร.เกริก ออกมาต้อนรับอย่างอบอุ่น จากนั้นก็ไม่รอช้า หาที่ทางได้ก็เริ่มบทสนทนากันทันที...

    ย้อนความหลัง...เล่าเรื่องอดีต จากเด็กโง่ เปลี่ยนแนวคิดการเรียน ชีวิตพลิกผันจนจบ ดอกเตอร์!

    ดร.เกริก เริ่มเล่าย้อนความหลังด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มว่า บ้านเกิดอยู่ที่ จ.ปราจีนบุรี อำเภอศรีมโหสถ ก็แค่ลูกเกษตรธรรมดา พ่อแม่ทำไร่ ทำนา ทำสวน ทำให้ผมชอบทำเกษตรตั้งแต่เด็ก ฐานะก็ยากจน แต่ท่านก็อยากให้เรียนหนังสือ เชื่อมั้ย...ว่าผมมีชุดนักเรียนแค่ชุดเดียว ต้องกลับบ้านและซักตากทุกวัน วันไหนอยากให้เสื้อเรียบ ก็พับไว้ใต้หมอน แทนการรีดผ้า...!

    เป็นอย่างไรบ้างครับ แค่เริ่มต้นจาก เด็กชายเกริก เรื่องราวก็น่าสนใจแล้วใช่ไหมครับ ถ้างั้นไม่ต้องรอช้า เรามาต่อกันเลย...

    “พ่อผมไม่อยากให้ผมเป็นเกษตรกร เพราะงานเกษตรมันงานหนัก ช่วงหนึ่งผมไม่ไปเรียน ท่านจึงใช้งานผมอย่างหนักให้ทำงานตั้งแต่เช้าจนมืด ท่านไม่ได้โหดร้ายกับเรา แค่อยากจะบอกเราว่าทำเกษตรมันหนัก เหนื่อย และมันจน นี่คือ กุศโลบายที่อยากให้เรากลับไปเรียนหนังสือ ซึ่งก็ได้ผล ผมกลับไปเรียนหนังสืออีกครั้ง”

    ดร.เกริก เริ่มเรียนที่ โรงเรียนเทวรักษ์โคกวัด เป็นโรงเรียนคาทอลิก อยู่ที่ จ.ปราจีนบุรี ทำให้นับถือศาสนาคริสต์ จากนั้นได้ย้ายไปที่โรงเรียนประชาสงเคราะห์หัวไผ่ จ.ชลบุรี ต่อด้วย โรงเรียนดาราสมุทรศรีราชา จ.ชลบุรี และจบที่ โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งผมเองสอบชิงทุนได้

    “เรียนให้เก่ง” สูตรลับฉบับ ดร.เกริก คำนวณหนังสือ-เฉลี่ยอ่านทุกวัน!

    ดร.เกริก บอกกับ อาสามฯ ว่า เขาไม่ใช่คนเก่ง แต่ที่เรียนดีในสมัยก่อนเพราะสมัยนั้นเรียนง่าย ตำราที่ใช้ก็ชัดเจน ไม่ได้มีมากมายเหมือนปัจจุบัน

    “ผมเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น ผมเรียนแย่มาก สอบตกแล้ว ตกอีก คือสอบตกเป็นว่าเล่น เพราะผมไม่ชอบเรียน ไม่เคยวางเป้าหมายเลยว่าชีวิตนี้อยากจะทำอะไร ก็เลยเรียนแย่แบบนี้มาตลอด แต่พอมาถึงจุดหนึ่งที่คิดว่า เราต้องเรียนแล้ว จึงคิดหาวิธี เรียนอย่างไรให้ได้ดี”

    สมัยนั้น 1 วิชาจะมีหนังสือ 1 เล่ม/เทอม สมมติว่าหนังสือ 1 เล่มมี 100 หน้า จากนั้นก็มาคำนวณเวลาเรียนว่า 1 วิชาเราเรียนกี่ชั่วโมง เรียนกี่สัปดาห์ สมมติว่า 1 วิชาเรียน 100 วัน จากนั้นนำจำนวนหน้าหนังสือหารด้วยจำนวนวันที่เรียน ตัวเลขที่ได้ออกมาหมายถึง ผมต้องอ่านหนังสือวันละกี่หน้า เช่น 100 หาร 100 เท่ากับ 1 แสดงว่า ต้องอ่านหนังสือ วันละ 1 หน้า ใช้วิธีนี้กับทุกวิชา อ่านหนังสือทุกวัน อ่านไม่เข้าใจผมก็อ่านใหม่ อ่านซ้ำจนกว่าจะเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจจริงๆ ผมจะขีดเส้นใต้ตรงที่ไม่เข้าใจไว้รอถามอาจารย์ นี่คือวิธีที่ผมใช้ในสมัยนั้นเรียน แต่ปัจจุบันคงเอามาใช้ไม่ได้ เนื่องจากปัจจุบันมีหลักสูตรการเรียนที่ไม่แน่นอน

    ปราชญ์แห่งวนเกษตร เล่าต่อว่า หลังจากเรียนจบ ม.6 ต่อ มศว บางแสน หรือ มหาวิทยาลัยบูรพา ในปัจจุบัน จากนั้นก็เรียนจนจบปริญญาตรี 4 ใบ เอกอังกฤษ เอกภาษาไทย นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ส่วนปริญญาโท จบคณะบริหารการศึกษา และปริญญาเอกที่ฟิลิปปินส์ สาขา “วนเกษตร”

    เป็นอย่างไรบ้างครับ สูตรลับฉบับ ดร.เกริก พอจะมาปรับใช้ให้กับการเรียนในยุคใหม่บ้างหรือไม่ ใครที่เรียนไม่เข้าใจลองเอาสูตรนี้ไปลองดูก็ได้ ดร.เกริก ไม่หวง...

    เรียนที่ใช่ ทำที่ชอบ ปริญญาเอกจบนอกของ ดร.เกริก

    เมื่อ ดร.เกริก ได้เล่ามาถึงจุดนี้ ทางทีมข่าวฯ จึงมีความสงสัยว่า ทำไมปริญญาเอกต้องเลือกเรียนวนเกษตร ที่ประเทศฟิลิปปินส์ แล้ววนเกษตรที่เขาเรียนๆ กันมันคืออะไร ดร.เกริก ยิ้มรับ ก่อนอธิบายให้ อาสามฯ และ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ฟังว่า “วนเกษตร” เป็นการเรียนเกี่ยวกับต้นไม้ สาเหตุที่เลือกเรียนวนเกษตร เพราะเป็นวิชาที่ผมชอบ และที่เลือกเรียนที่ประเทศฟิลิปปินส์ เพราะประเทศไทยเราไม่มีคณะนี้ ประกอบกับประเทศฟิลิปปินส์ เป็นประเทศที่มีความคล้ายคลึงประเทศไทยมากที่สุดในเรื่องของต้นไม้ ภูมิอากาศ ความร้อนชื้น ที่สำคัญ ฟิลิปินส์มีหลักสูตรการเรียนการสอนที่หลากหลาย บางคนไปเรียนรู้เรื่องเกษตรที่คนละซีกโลก พอเอามาใช้มันทำให้เกษตรกรไทยเกิดความเสียหาย เพราะที่เขาเรียนนั้นมีสภาพแวดล้อมต่างจากประเทศไทยมาก

    วิกฤติชีวิต จากรวยร้อยล้าน กับอาชีพนายหน้า สุดท้ายจบลงที่วิถีพอเพียง มีความสุขแบบมั่งคั่ง

    อย่างไรก็ตาม ชีวิตของ ดร.เกริก ก็ไม่ได้สวยหรู และจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงภายใน 1 วิ เช่นเดียวกับคนส่วนใหญ่ นั่นก็คือ “วิกฤติ”

    ดร.เกริก หลังจากเรียนรู้ทางด้านเกษตรจบมาจากต่างประเทศ ก็ได้เริ่มอาชีพแรก คือ “พ่อพิมพ์ของชาติ” เขาเริ่มต้นชีวิตครู ด้วยการสอนวิชาอังกฤษ ที่โรงเรียนสันติภาพฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา จากนั้น มาสอนที่ โรงเรียนดาราสมุทร ต่อด้วย ที่โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา และเป็นครูสอนพิเศษบ้าง แต่ก็เจอคู่แข่งสำคัญคือ "เจ้าของภาษา" ซึ่งชาวต่างชาติเริ่มเข้ามาสอนในเมืองไทยมากขึ้น จึงหันเหมาสอนวิชาภาษาไทย เป็นอาจารย์พิเศษ มศว บางแสน บ้าง ในขณะเดียวกัน ก็ทำอาชีพนายหน้าที่ดินด้วย จับมาขายไป รายได้เป็นกอบเป็นกำ จากคนเป็นครูสู่อาชีพนายหน้า ทำให้ ดร.เกริก กลายเป็น "เสี่ยเกริก" รวยอู้ฟู่นับร้อยล้าน แต่มีหรือจะสะกดคำว่า "พอ" ได้

    ชีวิตนายหน้าเริ่มจากมีผู้ปกครองนักเรียนคนหนึ่งโทรหาให้ผมหาที่ดินให้ ทำเลไหนดี ซื้อและมัดจำให้ เพียง 4-5 ปี ผมมีรายได้เกือบ 100 ล้าน ไม่ได้คุยโม้ ตอนนั้น ผมมีชื่อติด 1 ใน 10 คนหนุ่มที่รวยที่สุดในศรีราชา...แต่ความโลภ มันสั่งให้ไม่ยอมหยุด อยากได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งก้าวพลาดครั้งใหญ่ กับที่ดินมูลค่า 1,400 ล้าน ลูกค้ายืนยันว่าจะซื้อในราคา 2,400 ล้าน ถ้าขายได้แปลว่าจะมีกำไรนับพันล้านบาท เดิมพันครั้งนี้จึงเทด้วยเงินหมดหน้าตักด้วยการวางเงินมัดจำ 240 ล้านบาท แต่แล้วทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ลูกค้าที่ตกลงบอกจะซื้อก็หายไป ลูกค้าคนอื่นที่ผมหาสำรองไว้ก็ไม่ซื้อ เมื่อไม่มีคนซื้อเงินที่ผมและเพื่อนที่มัดจำไปก็หายเกลี้ยงในพริบตาเดียว ผมกลายเป็นคนไม่เหลืออะไร ขาดทุนย่อยยับ เพราะเงินที่ผมเคยมีก็เอาไปมัดจำหมด เพื่อนที่ร่วมหุ้นกับผมก็ขาดทุนไปตามๆ กัน

    อดีตคนหนุ่มที่รวยติดอันดับในศรีราชา กลายเป็นยาจกเพียงชั่วข้ามคืน ดร.เกริก ยอมรับว่าช่วงนั้นเสียใจมาก ลองคิดตาม จากคนที่รวยขนาดนั้น แต่ตกลงมาสู่จุดที่หมดตัวเป็นใครก็ต้องเสียใจ บางคนทำใจไม่ได้ด้วยซ้ำ ต้องจากไปก่อนวัยอันควรก็มี แต่ด้วยความที่ผมเติบโตมาแบบไม่มีอะไร เมื่อผมหมดตัว ไม่มีเงิน ผมก็แค่กลับมาอยู่ในสภาพเดิม

    “ดีแล้วที่ตกลงมาจะได้เข็ดกับความโลภสักที”...นี่คือเสียงภรรยาที่เตือนสติในวันที่ไม่เหลืออะไร ดร.เกริก กล่าวต่อว่า การที่ขาดทุนจนหมดตัว ผมว่ามันเป็นบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ ที่สอนผม เปลี่ยนทัศนคติ ทำให้ผมคิดได้ว่า เงินและความโลภไม่เคยทำให้มีความสุข ชีวิตที่มีตอนนั้นหลงลืมครอบครัว มัวแต่คิดว่าจะหาเงินเพิ่มยังไง เวลาให้ครอบครัวก็ไม่มี มัวแต่นัดเจอใครก็ไม่รู้ คุยแต่เรื่องซื้อขาย ยังดีที่มีภรรยาที่ดี ได้ลูกที่ดี เขาไม่เคยซ้ำเติมเลยแต่ก็ได้เตือนสติเรื่องความโลภ

    บางคนมีเงินเขาอาจจะมีความสุข แต่มันไม่เสมอไป เพราะคนมีเงินจะทุกข์กว่าคนไม่มีเงิน เขาจะต้องคิดหาวิธีว่าในแต่ละวันจะเพิ่มเงินได้อย่างไร จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ผมยังไม่เคยเห็นคนที่มีเงินแล้วจะพอ เห็นมีแต่จะเพิ่มเงินกัน เพราะนี้คือมนุษย์ ที่มีกิเลสครอบงำ มีความอยากที่ไม่มีวันสิ้นสุด

    ขาดทุนคือบทเรียนสอนชีวิตรู้จัก "พอ" วางแผน 3 ปี ยืดอกเป็น "เกษตรกร"

    ดร. เกริก เล่าชีวิตหลังผ่านมรสุม ว่า จากเรื่องราวอันเลวร้าย ก็มาอยู่ที่จุดสมดุล จึงมานั่งคิดว่าจะทำอย่างไรให้เรามีความสุขในตอนนี้และบั้นปลายชีวิต จึงเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบพอเพียงตามแนวพระราชดำรัสของในหลวง นั่นคือ กลับไปทำเกษตร ผมเชื่อว่าเกษตรกรเป็นอาชีพที่มั่นคง ไม่ต้องไปแย่งใครทำ ไม่ต้องแข่งขัน และที่สำคัญคือ เป็นอาชีพที่ชอบมาตั้งแต่เกิด จากนั้นจึงเริ่มวางแผน โดยใช้เวลาถึง 3 ปี จึงก้าวมาเป็นเกษตรกรเต็มตัว

    แผนที่วาง ใช้หลักการเดียวกันกับในหลวง ท่านทรงสอนมาตลอด เพราะคิดไว้แล้วว่าจากนี้ จะ “เริ่มใช้ชีวิตจากสิ่งที่มี ไม่เอาเงินมาเป็นตัวตั้ง แต่ผมจะเอาความสุขเป็นตัวตั้ง” โดยเริ่มพิจารณาก่อนว่า เรามีอะไร มีความเสี่ยงคืออะไร ซึ่งตอนนั้น สิ่งที่ผมมีคือ ผมมีเงินติดตัว 2,800 บาท มีหนี้เหลืออยู่จำนวนหนึ่ง มีที่ดินที่ญาติพี่น้อง ให้ผมเช่าไร่ละ 1 พันบาทต่อปี ถึงตอนนี้ผมก็ไม่มีที่ดินของตัวเอง เมื่อผมรู้ว่าผมมีอะไรผมก็เริ่มวางแผน โดยแผนที่ผมคิดมีอยู่ 4 ระยะ คือ ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ระยะถาวร โดยมีรายละเอียดแผนต่อไปนี้

    แผนระยะสั้น แผนเดือนต่อเดือน โดยจะวางแผนว่าในแต่ละเดือนในแต่ละวันผมจะทำอะไรบ้าง ซึ่งสิ่งที่ทำในแผนนี้คือ ผมเริ่มหารายได้จากการเก็บกิ่งไม้ที่เขาตัดแต่งกิ่งจากสวนลำไย สวนเงาะ หรือที่เขาทิ้งขว้างมาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยนำมาเผาถ่าน และผลิตน้ำส้มควันไม้

    แผนระยะกลาง 1-3 ปี ใช้เวลาว่างจากการเผาถ่าน ผลิตน้ำส้มควันไม้ ผมจะใช้เวลาว่าง ปลูกต้นไม้ กวาดใบไม้ และตัดหญ้าที่มีอยู่ในพื้นที่ของเรา เพื่อนำมาผลิตปุ๋ยอินทรีย์ เพาะต้นกล้าเพื่อเตรียมไว้ปลูกในคราวต่อไป และปลูกข้าว ปลูกผักสวนครัว

    แผนระยะยาว ตั้งแต่ 10 ปีเป็นต้นไป สิ่งที่จะต้องเพิ่มเข้ามาคือ เริ่มปลูกไม้ให้มีความหลากหลายมากขึ้น เลี้ยงสัตว์ ผลิตอาหารสัตว์

    แผนสุดท้ายระยะถาวร ตั้งแต่ 15 ปี ไปจนตลอดชีวิตและลูกหลาน คือ การนำไม้ที่เราปลูกมา ดัดแปลง แปรรูป ทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ นำมาสร้างบ้าน แต่ผมจะเก็บต้นไม้ใหญ่ไว้ที่มีราคาแพง โดยผมจะปลูกพริกไทยติดกับต้นไม้ใหญ่ไว้ทุกต้นเพื่อสร้างรายได้ในอนาคต

    “แผนทั้งหมดที่คิดขึ้นมา ผมทำและใช้มาโดยตลอด จนมาถึงปัจจุบันก็ยังดำเนินตามแผนอยู่ โดยสิ่งที่ผมทำอยู่ตอนนี้คือ เผาถ่าน ทำน้ำส้มควันไม้ เพาะพันธุ์ต้นไม้ ปลูกข้าว ขณะนี้ทำมาได้ 9 ปีแล้วและเริ่มจะเข้าสู่แผนระยะยาว และจากการดำเนินตามแผนมา 9 ปี ผมได้พบกับความสุขที่แท้จริงแล้ว ผมรู้สึกว่า การทำเกษตรทำให้ผมอิ่มตัว ได้เจอความสมดุลในชีวิต เพราะผม พอมี พอใจ พอเพียง มีความสุข แค่นี้ผมก็พอแล้ว” ดร.เกริก กล่าว

    ที่อ่านไปทั้งหมดนี้ยังเป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้น ในตอนหน้าอย่าพลาด กับสุดยอดแนวคิดของ "เทพแห่งเกษตรกร" แล้วท่านจะรู้ว่า รวยความสุข...มั่งคั่งอย่างยั่งยืน เป็นอย่างไร
    เด็กโง่จบป.เอก ร้อยล้านเหลือ 2 พัน เปิดใจเทพเกษตร ดร.เกริก มีมุ่งกิจ - thairath.co.th
     
  19. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    ธุรกิจกำจัดอคติ! ส่อง Startup แม่บ้านออนไลน์ อาชีพที่ไม่ไร้ศักดิ์ศรี

    [​IMG]

    'แม่บ้าน' เมื่อพูดถึงอาชีพนี้หลายคนก็คงเบือนหน้าหนี และคิดว่าเป็นตัวเลือกสุดท้ายที่จะทำ เพราะสำหรับคนไทยแล้ว ถือว่าเป็นอาชีพของคนที่ไม่มีทางเลือก เราจึงพบเห็นว่าคนที่มาทำงานเป็นแม่บ้านในไทยส่วนใหญ่ มักจะเป็นแรงงานต่างด้าวในประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ลาว กัมพูชา เมียนมา เป็นต้น

    นอกจากแม่บ้านจะเป็นอาชีพที่ถูกมองข้ามแล้ว ยังได้สร้างความหนักอกหนักใจให้กับผู้ใช้บริการจากพิษสงของแม่บ้านที่แฝงตัวเข้ามา และสลัดคราบอันแสนดีกลายเป็นโจรตัวแสบภายในชั่วระยะเวลาหนึ่ง จึงทำให้คนในสังคมได้ตัดสินภาพลักษณ์ของอาชีพนี้ไปเสียแล้ว...อาชีพสุจริต จะกลายเป็นอาชีพที่ดูอันตราย เพียงเพราะคนบางกลุ่ม ต่อจากนี้พวกเขาจะทำเช่นไร?

    ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้เสาะแสวงหาข้อมูลจนพบกับธุรกิจ startup น้องใหม่มาแรงจากแนวคิดของคนรุ่นใหม่ที่พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสสร้างรายได้จากช่องว่างของปัญหาสังคมที่หลายคนมองข้ามและจัดตั้ง BeNeat บริษัท แม่บ้านออนไลน์ ที่รับจ้างทำความสะอาดผ่านทางเว็บไซต์ พลิกโฉมแม่บ้านยุคใหม่ จะเป็นอย่างไรนั้น ร่วมค้นหาคำตอบได้ที่นี่...

    บรรยากาศการทำงานของแม่บ้านออนไลน์ BeNeat

    แม่บ้านไม่ใช่อาชีพทางเลือก-ไร้ศักดิ์ศรี! แต่ต้องใช้ทักษะ-ความชำนาญ

    ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายอานนท์ อ่ำน้อย ซีอีโอของบริษัท BeNeat กับอุดมการณ์และความตั้งใจที่จะเปลี่ยนมุมมองของอาชีพแม่บ้าน พร้อมกับเล่าถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจว่า ธุรกิจนี้เกิดขึ้นจากประสบการณ์โดยตรงของผู้ก่อตั้งท่านหนึ่ง ที่มีประสบการณ์การทำงานด้านอสังหาริมทรัพย์มากว่า 10 ปี และพบว่าปัญหาของผู้ที่ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่มักมีความต้องการที่จะใช้บริการการทำความสะอาด และปัญหาที่ผ่านมาคือ ยังไม่มีบริการในลักษณะนี้ ทำให้ต้องไปใช้บริการแม่บ้านที่เป็นฟรีแลนซ์ ซึ่งไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเป็นใคร มาจากไหน สร้างความวิตกกังวลในการเลือกใช้บริการ เพราะคิดว่ามีความเสี่ยงสูงต่อชีวิตและทรัพย์สิน

    ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เห็นโอกาสทางธุรกิจรวมถึงย้อนกลับไปมองว่าจริงๆ แล้ว อาชีพแม่บ้านเป็นอาชีพสุจริต ไม่ใช่อาชีพทางเลือก ที่สำคัญคนที่ทำอาชีพนี้ไม่ได้ไร้ศักดิ์ศรี เพียงแต่หากเปลี่ยนมุมมองลบภาพลักษณ์เก่าๆ ทิ้งไปได้ จะช่วยลบอคติในใจทั้งผู้ที่คิดจะทำอาชีพแม่บ้าน และผู้ใช้บริการด้วย

    Co-Founder ทั้ง 3 ผู้ร่วมก่อนตั้ง BeNeat ธุรกิจ แม่บ้านออนไลน์ (ภาพจากเพจ BeNeat)

    ลบภาพเก่า สร้างความต่าง เสริมความมั่นใจ!

    นายอานนท์ ยังกล่าวต่อว่า เมื่อมองเห็นปัญหา สิ่งที่ตามมาคือการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ เพราะธุรกิจสมัยนี้ ขายแค่คุณภาพไม่ได้ต้องขายไอเดียด้วย จึงสร้าง BeNeat ขึ้นมาให้แตกต่างกับบริษัททำความสะอาดทั่วไป คือ ใช้ช่องทางออนไลน์ในการให้บริการ โดยลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าต้องการให้ใครมาทำความสะอาด และยังเห็นโปรไฟล์ของแม่บ้านด้วยว่าเป็นใคร ผ่านการทำงานอะไรมาบ้าง

    ในขณะเดียวกัน ทางลูกค้าจะมีการชำระค่าบริการผ่านทางบัตรเครดิต เดบิตการ์ด ทำให้บริษัทสามารถตรวจสอบได้ว่าลูกค้าเป็นใคร เพื่อสร้างความปลอดภัยและสบายใจให้กับทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งจะไม่เหมือนการเรียกพนักงานทำความสะอาดทั่วไป แต่จะเป็นเหมือนการเรียกคนที่เรารู้จักและไว้ใจมาทำความสะอาดให้มากกว่า

    นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้คนทั่วไปที่สนใจหารายได้เสริมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ BeNeat สามารถทำงานได้ในช่วงเวลาว่าง ไม่มีข้อผูกมัดในด้านของเวลาด้วย

    ครอบครัวสมาชิกแม่บ้านออนไลน์ BeNeat

    คัดกรองคน เปลี่ยนภาพลักษณ์ สู่การเป็นแม่บ้านยุคใหม่

    สำหรับการคัดกรองผู้ที่จะมาสมัครเป็นแม่บ้านยุคใหม่นั้น ซีอีโอบริษัท BeNeat กล่าวว่า ขั้นตอนการรับพนักงานจะเหมือนพนักงาน full time ต้องเข้ามากรอกเอกสาร หรือกรอกทางออนไลน์ได้ พร้อมยื่นสำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน และต้องเป็นคนไทย อายุเกิน 18 ปีขึ้นไป รวมทั้งแม่บ้านทุกคนที่เข้ามาในระบบจะต้องผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมก่อนเข้าทำงาน

    อีกทั้ง ยังมีการสัมภาษณ์เกี่ยวกับทัศนคติในการทำงาน การบริการ ทักษะในการทำความสะอาดเบื้องต้น รวมไปถึงมีการอบรมก่อนการทำงานจริง ส่วนเรื่องของการศึกษาทางบริษัทไม่ปิดกั้น แต่เมื่อเปิดโอกาสให้แล้วได้มีคนหลากหลายกลุ่มเข้ามาทั้งนักศึกษา เจ้าของธุรกิจ จึงทำให้อาชีพนี้ไม่ใช่คนที่ไม่มีทางเลือก แต่เป็นคนที่มีทางเลือกและเลือกที่จะทำงานแม่บ้าน

    “หัวใจสำคัญของ BeNeat คือความปลอดภัยและคุณภาพของการให้บริการทำความสะอาด เมื่อผ่านการทดสอบและอบรม ระหว่างการทำงานก็จะมีการประเมินคุณภาพการทำงานรวมไปถึงความพึงพอใจของลูกค้าด้วย หากพบว่า แม่บ้านมีผลการประเมินต่ำอย่างต่อเนื่องก็อาจจะถูกแบนออกจากระบบ Beneat เพื่อรักษามาตรฐานของบริษัท” ซีอีโอ บริษัทแม่บ้านออนไลน์ ระบุ

    เจาะลึกการเทรนด์งาน กว่าจะเป็น ‘แม่บ้าน’ ต้องเรียนรู้อะไรบ้าง?

    การเป็นแม่บ้านไม่ได้ง่ายอย่างที่ใครหลายคนคิด พวกเขาจะต้องผ่านการเทรนด์งานอย่างไรบ้างนั้น นายอานนท์ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ทางบริษัทจะมีการจัดผู้เช่ียวชาญในระบบหรือผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้านเข้ามาเทรนด์ให้ เช่น น้ำยาทำความสะอาดมีประเภทไหนบ้าง อะไรคือข้อควรระวัง และจุดไหนที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งลูกค้าของ BeNeat มี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก เป็นห้องปล่อยเช่าของในห้องจะไม่เยอะ แต่ลูกค้าต้องการงานที่ละเอียด เวลาผู้เช่าเข้ามาดูห้องจะได้สมบูรณ์แบบ ผู้เชี่ยวชาญจะเน้นว่าถ้าเป็นห้องแบบนี้ควรให้บริการแบบไหนบ้าง ถุงขยะต้องพับเก็บอย่างไร ผ้าเช็ดตัวต้องพับอย่างไร

    ขณะที่ กลุ่มที่ 2 จะเป็นกลุ่มที่มีผู้อยู่อาศัยจริงๆ ของจะเยอะ จึงต้องระวังและไม่เข้าไปยุ่งกับของส่วนตัว ส่วนไหนอยู่ในขอบเขตการให้บริการได้บ้าง เช่น ในลิ้นชักไม่ควรไปเปิด เพราะเป็นพื้นที่ส่วนตัวของลูกค้า หรือหากลูกค้าทิ้งของมีค่าไว้ ควรจะทำอย่างไร ฉะนั้น แม่บ้านจะถูกเทรนด์ให้รู้ว่าของต้องวางอย่างไร ซึ่งถือเป็นทักษะที่บางครั้งแม่บ้านทั่วไปไม่รู้

    เปิดบริษัทครึ่งปี ยอดจองแม่บ้านล่วงหน้า 1 เดือน เติบโตเฉลี่ย 200% ต่อเดือน

    นายอานนท์ กล่าวต่อว่า ทางบริษัทจะให้บริการอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ เป็นหลัก และกำลังทดลองให้บริการในกรุงเทพฯ รวมถึงขยายพื้นที่ไปยัง จ.เชียงราย ด้วย ซึ่งในขณะนี้แม้ว่าจะเพิ่งเปิดบริษัทมาได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น แต่มีลูกค้าเข้ามาจองแม่บ้านไปทำความสะอาดล่วงหน้าถึง 1 เดือน โดยปัจจุบันธุรกิจนี้เติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เฉลี่ย 200% ต่อเดือน

    สิ่งที่ทำให้เราเติบโตคืออุดมการณ์และระบบ ด้วยความที่เราใส่ใจตั้งแต่การคัดกรองคน การฝึกอบรมทักษะเฉพาะทาง จึงทำให้ย้ำถึงมาตรฐานของเรา แต่เรามัดใจลูกค้าด้วยการการสร้างแบรนด์เฉพาะของ BeNeat คือแม่บ้านแต่ละท่านก็จะมี คาแรกเตอร์เฉพาะ และมีทักษะพื้นฐานด้านการทำความสะอาดที่ดีด้วย ทำให้ลูกค้าหลายคนติดใจ เช่น บางคนยิ้มเก่ง คุยเก่ง ทำงานดีด้วย ลูกค้าก็จะเลือกใช้บริการคนนี้อีกครั้ง คุณแม่บ้านแต่ละคนก็มีฐานลูกค้าของเขาเองด้วยผลงานและคาแรกเตอร์ ส่วนทาง BeNeat เองก็อำนวยความสะดวกทั้งทางฝั่งของลูกค้าเองและก็ฝั่งของคุณแม่บ้านเองด้วย เช่น ลูกค้าเป็นชาวต่างชาติ ทาง BeNeat ก็จะมี call center คอยให้บริการช่วยเหลือเพื่อสื่อสารกับชาวต่างชาติให้ เหมือนกับดูแลคนในครอบครัว ทำด้วยใจที่ดี ผลที่ออกมาก็ดี” นายอานนท์ กล่าวถึงความสำเร็จในธุรกิจ

    พานักศึกษาหนึ่งในสมาชิก เข้าเทรนนิ่งงาน ก่อนที่จะเริ่มงานจริง

    เปิดใจ ‘นักศึกษาวัยใส’ กับ ‘อาชีพแม่บ้านออนไลน์’

    “ไม่ว่าอาชีพอะไร ถ้าเป็นอาชีพสุจริตและทำประโยชน์ให้กับเราได้อาชีพนั้น ไม่ใช่อาชีพไร้ค่าไร้ศักดิ์ศรี” พลอย นางสาวธันยพร ตุ๋นสัก นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง

    ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์แม่บ้านออนไลน์ ถึงการตัดสินใจในการเลือกทำอาชีพนี้ โดยน้องพลอย เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ได้ทำงานพิเศษที่อื่นมา แต่เห็นโอกาสทางธุรกิจนี้ และอยากเข้ามาช่วยคุณแม่จึงตัดสินใจทำอาชีพแม่บ้านเป็นงานพิเศษ โดยใช้เวลาหลังเลิกเรียนมาทำงาน

    สำหรับเรื่องรายได้นั้น น้องพลอย เปิดเผยว่า จะได้ค่าแรงขั้นต่ำ 360 บาท โดยส่วนใหญ่แล้วจะทำงานอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ส่วนรายได้ต่อวันประมาณ 1,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเงินที่เยอะพอสมควรเมื่อเทียบกับเวลาที่ทำงานในแต่ละบ้าน

    “งานตรงนี้ช่วยให้เรามีความอดทน และรับผิดชอบต่อหน้าที่ รวมถึงรู้จักใช้เงิน ส่วนตัวมองว่าอาชีพนี้ไม่ใช่อาชีพที่ไร้ค่า จริงๆ แม่บ้านก็คืออาชีพสุจริต เราสร้างรายได้ส่งเสียตัวเองเรียนมันน่าจะเป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจมากกว่า ทุกอาชีพมีคุณค่าอยู่ที่ว่าเราจะสร้างสรรค์มันออกมาอย่างไร จากประสบการณ์ในการทำงานแทนที่จะถูกดูถูกว่าเป็นแค่แม่บ้าน พอเรามีการฝึกฝน มีความน่าเชื่อถือ ก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเลยตลอดระยะเวลาที่ทำงานมา” นางสาวธันยพร กล่าว

    ไพรินทร์ ตุ๋นสัก แม่บ้านออนไลน์คนแรก และผู้ที่ทำหน้าที่เทรนนิ่งงานให้กับสมาชิกใหม่

    ทุกอาชีพมีคุณค่า! ไม่เคยอายที่ลูกสาวเป็นแม่บ้าน

    “ต่อให้แม่ไม่มีเงิน แม่จะไม่สอนให้ลูกกู้หนี้ยืมสิน ลูกต้องดิ้นรนช่วยเหลือตัวเองให้เต็มที่ก่อน” นางไพรินทร์ ตุ๋นสัก คุณแม่ของน้องพลอย

    ขณะที่ นางไพรินทร์ ตุ๋นสัก คุณแม่ของน้องพลอย ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ทุกวันนี้สังคมมีค่านิยมที่ผิด ในเรื่องการกู้เรียน บางคนบ้านพอมีฐานะแต่ก็กู้เรียน ซึ่งแทนที่เงินส่วนนี้จะสนับสนุนให้กับเด็กที่ขาดแคลนจริงๆ มากกว่า

    “แม่มองว่าเราควรปลูกฝังให้เขาสู้กับชีวิตมากกว่าจะสนับสนุนให้ไปหาทางเลือกสำรองที่สบายแต่ต้องไปชดใช้ในอนาคต ถ้าถามในมุมมองว่า ลูกเรียนปริญญา แต่ให้ไปเป็นแม่บ้าน แม่ไม่เคยอาย เพราะแม่ก็อยากสอนให้ลูกรู้จักคุณค่าของเงิน เวลา และงาน ได้ประสบการณ์ในการใช้ชีวิตและการใช้เงิน อาชีพแม่บ้านคนจะมองว่าต่ำต้อย แต่แม่มองว่าทุกอาชีพ มีศักดิ์ศรี มีคุณค่า และยิ่งในปัจจุบันเราใช้ชีวิตในสังคมเมืองมากขึ้นการที่จะมีแม่บ้านที่ดีมีคุณภาพถือว่าสำคัญมากงานทุกงานเอื้อประโยชน์ต่อกัน ถ้าไม่มีตรงนี้ในเรื่องของความสะอาด ในส่วนต่างๆ ทั้งที่ทำงาน บ้าน ก็จะไม่เรียบร้อย” แม่น้องพลอย กล่าว

    คุณหม่อม ธนาลักษณ์ เอี่ยมสอาด เจ้าธุรกิจของเบเกอรี่ และเป็นหนึ่งในแม่บ้านออนไลน์ ของ BeNeat

    เจ้าของธุรกิจส่วนตัว รับจ๊อบเสริมเป็นแม่บ้านออนไลน์

    นอกจากนักเรียนนักศึกษาแล้ว อีกหนึ่งความน่าสนใจ คือ กลุ่มเจ้าของธุรกิจส่วนตัวที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจแม่บ้านออนไลน์ คุณธนาลักษณ์ เอี่ยมสะอาด เจ้าของธุรกิจเบเกอรี่ในเชียงใหม่ หนึ่งในแม่บ้านออนไลน์ ปกติเธอก็จะทำขนมส่งในช่วงเวลาตอนเย็น ช่วงกลางวันจะว่างเลยอยากหาอะไรที่สนุกแปลกใหม่แต่สร้างรายได้ทำ และได้ไปเจอโฆษณาเกี่ยวกับอาชีพแม่บ้านออนไลน์ จึงเปลี่ยนชีวิตเธอนับแต่นั้นเป็นต้นมา

    คุณธนาลักษณ์ บอกเล่าถึงทัศนคติของการทำงานแม่บ้านว่า ไม่เคยคิดว่างานแม่บ้านคืองานที่แย่ และคอนเซปต์ของ BeNeat คือ ต้องการจะยกระดับแม่บ้านให้เป็นอาชีพที่คนมีการศึกษาเข้าไปทำจึงคิดว่าอาชีพนี้น่าสนใจอยู่ไม่น้อย

    สิ่งสำคัญคือ ไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นเจ้าของธุรกิจไม่จำเป็นต้องหางานเสริมทำ แต่มองว่าหากมีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็ตามที่ทำด้วยความสุจริต มันคืองานที่มีเกียรติ และสิ่งที่ทำให้รู้สึกดีเมื่อมาทำงานก็คือ การที่ไม่เคยเจอประสบการณ์ถูกลูกค้าดูถูกอาชีพนี้เลย

    “การที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในงานแม่บ้านออนไลน์มันสะท้อนว่าเราจะสร้างคุณค่าให้อาชีพเราได้นั้นมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการศึกษาอย่างเดียว แต่มันขึ้นอยู่กับความสามารถ และขึ้นอยู่กับการวางตัวของเราด้วย” เจ้าของธุรกิจพ่วงด้วยแม่บ้านออนไลน์ ให้ความเห็น

    สูตรลับความสำเร็จของอาชีพแม่บ้านออนไลน์ ไม่ได้เพียงแค่เปลี่ยนทัศนคติของคำว่าแม่บ้านเท่านั้น แต่ยังเป็นกระบอกเสียงฝากไปถึงแม่บ้านทุกคนหรือคนในอาชีพอื่นด้วยว่า คุณค่าของอาชีพอยู่ที่เราจะสร้างสรรค์และนำเสนอมันออกมาอย่างไร ไม่ใช่การที่กลัวว่าใครจะแย่งงาน แต่มันคือการที่เราต้องคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะรักษางานได้มากกว่า.
    http://www.thairath.co.th/content/718370

    *ดูภาพแล้ว อย่าไปชอบท่าโก้งโค.. ของแม่บ้านออนไลน์ โดยเฉพาะท่านที่มีเมียแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กันยายน 2016
  20. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,411
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550

แชร์หน้านี้

Loading...