ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จครูประทับมหาสมาคมฟ้าสลับหัว(เคลียร์สะสางมหากาลไม่ทำร้าย) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,103
    ค่าพลัง:
    +16,527
    ท้าวนาถเทวราช หรือที่รู้จักกันดีในนามของพระศรีอาริย์ พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าในเวลาปัจจุบันนี้พระองค์ทรงเป็นพระมหาโพธิสัตว์ใหญ่ที่มีบารมีเต็มและทรงอำนาจสูงสุด

    ความสำคัญของท้าวนาถเทวราชด้วยหน้าที่รับผิดชอบของพระองค์ท่านนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยสถานการณ์ตลอดจนถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกก็ดี ของพฤติกรรมมนุษย์ก็ดี ล้วนแต่ส่งผลต่อทิพย์สภาวะของพระองค์ท่านโดยตรง

    ด้วยสัจธรรมในโลกนั้นไม่ว่าจะศาสนาใดก็ดี ล้วนแต่เสื่อมและตกต่ำลงไวกว่าปกติ ทำให้อายุและรอยต่อของพุทธศาสนานั้นกระชั้นเข้ามา

    เมื่อเป็นเช่นนี้ท้าวนาถเทวราชหรือองค์พระศรีอาริย์นั้น ท่านก็มีภาระที่ต้องประคับประคองบวรพุทธศาสนาของสมเด็จพระตถาคตเจ้าสมณโคตมให้อยู่รอดปลอดภัย ให้มีอายุครบถ้วนห้าพันวัสสาตามพุทธดำรัส

    พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง และสภาวการณ์ที่บังคับเช่นนี้ ทำให้ภาระหน้าที่ของพระองค์มาถึงไวกว่ากำหนด ไม่ต้องรอให้พระศาสนาครบห้าพันปีก็มีเหตุให้พระองค์ต้องยื่นมือช่วยเหลือ

    ด้วยหน้าที่และการปรากฏของท้าวนาถเทวราชนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่านับแต่นี้ไปเรียกได้ว่าเข้าสู่ยุคของพระองค์ท่านอย่างแท้จริง ไม่ใช่หมายถึงการสิ้นสุดพระศาสนาและเริ่มศาสนาใหม่ แต่เป็นยุคที่ท่านจะมีส่วนร่วมมีบทบาทในการประคองช่วยเหลือบวรพุทธศาสนาและศาสนิกชนทั้งหลาย

    ด้วยฐานะที่ท้าวนาถเทวราชจะได้อุบัติเป็นสมเด็จพระศรีอาริย์สัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาลเป็นลำดับแรกของเหล่ามหาโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์ทั้งหมด ทำให้ปัจจุบันนั้นพระองค์ดำรงค์อยู่ในฐานะประมุขและประธานเทวสภาของเหล่ามหาโพธิสัตว์และโพธิสัตว์ผู้ปรารถนาพระโพธิญาณทั้งมวล

    ด้วยคติแห่งโพธิและมหากรุณาธิคุณอันยิ่ง กอปรกับเข้าสู่ยุคเสื่อมของสภาวะจิตใจของสัตว์โลก เช่นนี้ครูผู้มีนามว่าท้าวนาถเทวราชจึงปรารถนาจะให้ศาสนิกช่วยกันจรรโลงพระศาสนา โดยที่ท่านจะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจ ความเป็นอยู่ วุฒิ ตลอดจนพรสี่ประการทั้งอายุ วรรณณะ สุข พละ ให้เกิดมีแก่ผู้เคารพและน้อมใจเข้าถึงพระองค์ เพื่อให้ศาสนิกทั้งหลายมีความพร้อมด้วยปัจจัยทุกด้าน ที่จะใช้บำรุงพระศาสนาในสมเด็จพระสมณโคตมตถาคตเจ้าต่อไป

    พ่ออาจารย์ท่านว่าครูใหญ่ประธานสภามหาโพธิสัตว์ ท้าวนาถเทวราชพระองค์นี้ ได้มอบหัวใจการอัญเชิญและบอกกล่าวตลอดจนอักขระพิเศษที่จะเป็นตัวเชื่อมพระบารมีไว้ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็ได้ทำวิชาและเชิญพระบารมีอยู่เนืองๆ

    จะเป็นอะไรอย่างไรต้องติดตาม เพราะพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของเฉพาะกาล การจะยืมมือหรือขอความช่วยเหลือท้าวนาถเทวราชนั้น ท่านต้องพิจารณาหลายสิ่งหลายอย่างประกอบ ว่าบ้านเมือง ชีวิตความเป็นอยู่ ตลอดจนวิถีโลกและดวงดาว ภัยพิบัติธรรมชาติ พลังงานด้านบวกและลบ ทุกสิ่งนั้นถึงจุดที่ควรแก่การพึ่งบารมีพระองค์ท่านรึยัง

    ทั้งนี้บอกได้คำเดียวว่าแรงครูสูงมาก สายขาว สายบารมี สายโพธิญาณ ที่เคยถามหากันอยู่เนืองๆ เพราะเคยมีพูดถึงท้าวนาถเทวราชว่าเป็นพระนามที่แท้จริงของสมเด็จพระศรีอาริย์ที่พ่ออาจารย์ท่านบอก หลายคนก็ได้แต่รอบางคนตรวจสอบด้วยมโนมยิทธิ บางคนตรวจสอบด้วยกรรมฐาน ถามครูบาอาจารย์ต่างๆ ก็ยอมรับตรงกันว่านี่คือนามของสมเด็จพระศรีอาริย์สัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เที่ยงแท้แห่งอนาคตกาลจริงๆ ถึงตอนนี้ก็ติดตามกันดีๆนะครับ
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,103
    ค่าพลัง:
    +16,527
    แจ้งการส่ง ems
    พี่ภิญโญ ET 7945 4991 5 TH
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,103
    ค่าพลัง:
    +16,527
    พ่ออาจารย์ท่านว่าท้าวนาถเทวราชนั้นจะให้บูชาพร้อมกับครูตะโพน เป็นอะไรนั้นท่านว่าต้องติดตามดีๆ ครูองค์นี้เป็นที่สุดของครูเสน่ห์ เป็นครูเสน่ห์ที่จะมาพร้อมกับ ชื่อเสียง เกียรติยศ เงินทอง พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเรานั้นเหมือนกลองทำดีให้ตายก็แค่เสมอตัว ไม่ตีก็ไม่ดัง ในห้วงชีวิตหนึ่งนั้นหากไร้ชื่อเสียง ไม่ปรากฏความสุขสรรเสริญ ทำอะไรก็สุดแล้วแต่ที่จะถึงซึ่งเกียรติยศและความเจริญรุ่งเรืองนั้นเป็นไม่มี ... ติดตามกันนะครับ ครูองค์นี้อาถรรพ์แรงมากไม่ต่างจากท้าวนาถเทวราชหรือสมเด็จพระศรีเลย พ่ออาจารย์ท่านให้บูชาคู่กัน เพื่อเป็นที่สุดแห่งความเจริญรุ่งเรือง
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,103
    ค่าพลัง:
    +16,527
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ก็มีสอบถามกันมามากเกี่ยวกับท้าวนาถเทวราช ว่าจะเปิดวันไหน ก็แจ้งไว้ว่าพรุ่งนี้นะครับ วันนี้จะมาต่อเรื่องครูตะโพนต่อ ติดตามๆ พ่ออาจารย์ท่านว่ายังมีความสับบสนกันอยู่มาก วันนี้ก็เลยจะมาอธิบายลงลึกกันต่อจากเมื่อวาน ห้ามพลาด
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,103
    ค่าพลัง:
    +16,527
    พูดคุยยามเย็น

    พรุ่งนี้จะเปิดให้จองบูชา มงคลกล่อมฟ้าพระปัญจสิขรฝังผงภูติพระศรีอาริย์ปราบทุกข์เข็ญ(สิทธิมั่งมี) กันนะครับ ก็ติดตามกันไว้

    หนนี้มาเข้าเรื่องก่อน จะเปิดเผยเล็กน้อยว่าพระผงพิมพ์นี้ พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างขึ้นเป็นรูปบูชาครูของพระปัญจสิขรคนธรรพ์เทพบุตร ถือว่าเป็นคนธรรพ์ชั้นผู้ใหญ่และเป็นเทพบดีของเหล่าคนธรรพ์ พ่ออาจารย์ท่านแกะพิมพ์ในอากัปกิริยาเหินนภากาศ พร้อมกับแสดงฤทธิ์ดีดพิณของท่าน

    พระปัญจสิงขรนี้เป็นเทพคนธรรพ์ซึ่งมีศักดิ์ใหญ่ เป็นที่โปรดปรานของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของเทวดาในทุกชั้นฟ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าหากพูดถึงท่านปัญจสิขรนั้นเป็นที่นิยมอย่างไร ก็ให้เรานึกถึงดาราดังๆระดับโลกของเรา พระปัญจสิขรท่านก็เป็นที่นิยมในหมู่เทวดานางฟ้าเช่นนั้น ถึงขนาดที่ท้าวสนังมหาพรหมกุมารจะมาบรรยายธรรมที่เทวสภา ยังต้องจำแลงพระกายในรูปพระปัญจสิขรทีเดียว ไม่น่าสงสัยเลยว่าทำไมเทพยดาทั้งหลายจึงพึงใจที่จะมาฟังธรรมเทศนาของมหาพรหมองค์นี้เป็นอันมาก พ่ออาจารย์ท่านว่ารูปพระปัญจสิขรนี้เหมือนมีอาถรรพ์แห่งมนต์สะกด มีอานุภาพแห่งเสน่ห์เมตตายิ่งกว่าพระขุนแผนหรือพ่องั่งใดๆ เป็นเสน่ห์เมตตาที่จะออกมาในรูปของความนิยม คนรักใคร่เอ็นดู


    ....อันว่าคนธัพเทวบุตรนั้น เมื่อยังอยู่ในมนุษย์โลกแล ว่าได้กระทำบุญมามากแล้ว แลได้ไปเกิดในจาตุมหาราชิกา แลเทพยดาตนนั้นสูงได้ 6,000 วา แลประดับด้วยเครื่องสนิมอาภรณ์ทั้งหลาย เทียรย่อมแก้วแหวนเงินทองแลดูรุ่งเรืองงามดั่งภูเขาทองแล อันว่าอาภรณ์นั้นถ้าแลว่าจะถอดออกใส่เกวียนในมนุษย์นี้ได้ 1,000 เกวียนแล อันว่ากระเเจะเเลจวงจันทน์อันเทพยดาทาตัวนั้นถ้าแลว่าจะขูดออกใส่ตุ่มไหได้ 9 ตุ่มแล อันว่าตุ่มแลไหแต่ละลูกนั้นบรรจุข้าว 4 กระเฌอแล ท่านจึงนุ่งผ้าขาวบริสุทธิ์แล้วจึงสอดกุณฑลในกรทั้งสองงามนักหนา แล้วจึงเกล้าผมเป็น 5 เกล้า แลชักมวยออกอันทั้ง 5 อันนั้นแล ไว้ปลายผมนั้นห้อยลงไปข้างหลังทุกอัน แลคนธัพผู้นั้นเกล้าผม 5 อัน เหตุดังนั้นจึงเรียกว่า ปัญจสิขรเพื่อดังนั้นแล คนธัพเทวบุตคนนั้นชอบเนื้อพึงใจแก่เทพยดาทั้งหลายนักแล........

    ปัญจสิขร แปลว่า5จุก เทพคนธรรพ์ปัญจสิขร ก็คือเทวดา 5 จุก เป็นเทพคนธรรพ์ที่มีหน้าที่และศักดิ์ใหญ่มากองค์หนึ่งในจาตุมหาราชิกาและดาวดึงษ์สวรรค์ เพราะเป็นถึงเทวเลขาประจำสุธรรมาเทวสภา กับทั้งเป็นอินทรเลขา คือเลขาธิการประจำองค์ท้าวสักกะเทวราชจอมเทพแห่งดาวดึงษ์

    ในสุธรรมาเทวสภา เทพคนธรรพ์ปัญจสิขร เป็นผู้ตามเก็บบัญชีกรรมดีกรรมชั่วของมนุษย์ ที่ผ่านการตรวจสอบแล้วจากท้าวจตุโลกบาลทั้ง4 ก่อนนำมาส่งมอบให้เทพมาตลี-เทพสารถีและพ่อบ้านประจำวิมานไพชยนตมหาปราสาทของท้าวสักกะเทวราช เทพมาตลีตรวจสอบดูแล้วจึงถวายท้าวสักกะ จากนั้นท้าวสักกะก็จะนำเข้าเทวสภา

    ตามบันทึกในพระไตรปิฏก การปรากฏองค์ของพระอินทร์เพื่อเข้าเฝ้าเบื้องพระพักตร์พระบรมศาสดา ต้องรับสั่งให้เทพคนธรรพ์ปัญจสิขรเป็นผู้ปรากฏองค์เข้าทูลขอพระพุทธานุญาตเพื่อเข้าเฝ้าก่อนเสมอ ดังเช่นที่มาของสักกปัญหสูตรหมวดทีฆนิกาย พระไตรปิฏกฉบับบสยามรัฐเล่มที่ 10/45

    เทพคนธรรพ์ปัญจสิขร ได้ปรากฏองค์ดีดพิณขับเพลงบูชาพระรัตนตรัยควบคู่ไปกับการสรรเสริญคุณแห่งกาม ว่าตนเองมีความชอบพึงใจและสมหวังในกามปานใด ก็รักบูชาคุณพระรัตนตรัยมากปานนั้นเช่นกัน

    ซึ่งในบทสรรเสริญความสุขความสมหวังอันเกิดจากคุณแห่งกามนั้น เทพคนธรรพ์ปัญจสิขรได้เล่าเรื่องที่ตนสมหวังต่อสุริยวัจผู้เป็นธิดาท้าวติมพรุ(บางคนมั่วเป็นธิดาพระอินทร์) คนธรรพราชาพระองค์หนึ่ง โดยมีท้าวสักกะหรือพระอินทร์เป็นผู้จัดพิธีสยุมพรให้ แล้วเทียบว่า กรรมดีในกามทางโลกให้ตนสมหวังได้ในสิ่งใดฉันใด กรรมดีในการบูชาพระรัตนตรัยก็ส่งผลให้ตนสมหวังในสิ่งที่ปรารถนาได้เช่นกันฉันนั้น

    เมื่อพระพุทธองค์สดับเพลงพิณแล้วได้ตรัสชมเชยและถามว่าบทเพลงนี้ได้แต่งขึ้นแต่ครั้งใด

    เลขาธิการประจำเทวสภาองค์นี้ก็ได้ทูลตอบว่า แต่งขึ้นแต่ครั้งที่พระบรมศาสดาตรัสรู้ใหม่ๆ ขณะประทับอยู่ที่ต้นอชปาลนิโครธ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา จากนั้นจึงทูลขอโอกาสกับพระบรมศาสดาว่า ท้าวสักกะเทวราชผู้เปรียบเสมือนเทพบิดาแห่งตน(คงรักพระปัญจสิขรมากจริงๆ) พร้อมทวยเทพจำนวนหนึ่งมีพระประสงค์ขอเข้าเฝ้า ซึ่งพระบรมศาสดาก็มีพระพุทธานุญาติ สักกปัญหสูตรจึงได้เกิดขึ้น ณ กาลนั้น

    พิณประจำพระองค์ ที่เทพคนธรรพ์ปัญจสิขรใช้ขับเสียงและให้จังหวะดนตรีนี้ ในบันทึกสุมังคลวิลาสินี ว่ามีลักษณะเป็นสีเหลืองอร่ามอ่อนงามดังสีผลมะตูมสุก คันพิณเป็นทองคำ สายเป็นเส้นเงินและลูกบิดวิจิตรด้วยแก้วประพาฬ

    และในอรรถกถาแห่งสังยุตตนิกาย ได้กล่าวถึงที่มาของพิณนี้ว่า แต่เดิมเป็นของประจำพระหัตถ์แห่งพระยามาราธิราชปรนิมมิตวสวัตตี(จอมฟ้าพญามาร) ซึ่งตอนนั้นพระองค์เสด็จติดตามขัดขวางไม่ให้เจ้าชายสิทธัตถะบรมโพธิสัตว์ดำเนินเข้าสู่วิถีแห่งพุทธภูมิ ตลอดระยะเวลาที่ออกบวชหาวิธีหลุดพ้น 6 ปี

    สุดท้ายพบว่า ความบากบั่นเข้าขัดขวางกลับไปเสริมกำลังใจในการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อพ่ายแพ้ในที่สุดจึงเกิดความสะเทือนใจ จนพิณประจำพระวรกายหล่นจากหัตถ์และอ้อมกรอย่างไม่รู้สึกพระองค์ แล้วเสด็จจากไป

    ท้าวสักกะเทวราชซึ่งแอบติดตามมาเห็นพิณเข้าจึงรีบเข้าเก็บยึดไว้ แล้วประทานให้แก่ปัญจสิขรคนธรรพ์เทวบุตรได้ใช้เป็นพิณประจำพระองค์มาแต่บัดนั้น จะเห็นว่าพระอินทร์ท่านรักและเมตตาพระปัญจสิขรจริงๆ ไม่เเปลกที่พระปัญจสิขรจะเคารพท่านเสมอบิดา

    ตำแหน่งเทพคนธรรพ์ปัญจสิขรนี้ ชาวพุทธถือเป็นตำแหน่งหมุนเวียน เมื่อเทพองค์เก่าถึงวาระหมดบุญหรือสิ้นกุศลกรรมในส่วนนี้แล้วจิตเคลื่อนจากไป ก็จะมีเทพองค์ใหม่อุบัติขึ้นมาและรับการเเต่งตั้งทดแทนเรื่อยๆ ซึ่งท่านพระอานนท์พุทธอนุชาเองก็เคยมีอดีตชาติได้เกิดมาอยู่ในตำแหน่งนี้ เเละในชาดกชื่อสุทธโภชนก็ว่า แม้พระอนุรุทธะ อัครสาวกผู้เลิศในทิพจักขุญาณก็เคยได้กินตำแหน่งเทพคนธรรพ์ปัญจสิขรนี้เหมือนกัน


    พ่ออาจารย์ท่านทำพระปัญจสิขรบรรเลงพิณกล่อมฟ้า ซึ่งถือเป็นสิ่งวิเศษเหนือโลกขึ้นมา ท่านว่าการบรรเลิงพิณของพระปัญจสิขรนั้นไม่เหมือนการบรรเลงพิณของคนธรรพ์ทั้งหลายโดยสิ้นเชิง ท่านว่าอย่าลืมเสีย ว่าพิณนี้คือของคู่พระหัตถ์ของท้าวมาลัยที่ตกลงมาถึงพระอินทร์และพระปัญจสิขรในที่สุด ดังนั้นพิณนี้จึงมีอานุภาพมากกว่าการขับกล่อม แต่เป็นอานุภาพแห่งการครอบงำ ซึ่งเมื่ออดีตกาลท้าวมาลัยหรือพญามารก็เคยใช้อานุภาพของพิณนี้อยู่เนืองๆ เป็นอานุภาพแห่งการครอบงำที่นอกเหนือไปจากสัตว์โลกแล้ว แม้เทพยดา มาร อสูร พรหม หรือแม้แต่พระภิกษุที่ยังไม่ถึงซึ่งภูมิอรหันต์ก็ดี ย่อมตกอยู่ในการครอบงำของพิณนี้ ด้วยอานุภาพของพิณกล่อมฟ้านี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นที่มาแห่งความสุข แม้เทวดาทั้งหลายที่ได้ชื่อว่าเสพกามในระดับที่สูงส่งและปราณีตจนมนุษย์นึกคิดไม่ถึงแล้ว เมื่อได้ยินเสียงพิณก็ยังมีความสุขเพลิดเพลินในเสียงพิณยิ่งกว่ากามทั้งหลายเหล่านั้น ถึงกับเป็นตำนานว่าเมื่อพิณกล่อมฟ้าดังขึ้นทุกอย่างที่เกี่ยวข้องในกามภพ รูปภพ แม้ผู้ใดนึกหวังสิ่งใดก็จะสำเร็จได้ตามนั้น ทุกสิ่งที่อยู่ในกามภพ ในมหาวัฏจักร ด้วยอานุภาพแห่งพิณของท้าวมาลัยที่อยู่ในมือพระปัญจสิขรนี้ย่อมดลบันดาลให้เป็นไปได้ทั้งสิ้น

    ที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างพระปัญจสิขรขึ้นมา ท่านว่าหลายคนขาดใบเบิกทางที่ดี ชีวิตไม่มีผู้นำสาร ผู้นำมาซึ่งความสำเร็จ พระปัญจสิขรท้าวเธอนั้นมีคุณลักษณะพิเศษที่เทพองค์อื่นไม่มี นั่นคือเป็นที่รักไปเสียทั้งหมดไม่มีใครกล้าเกลียด พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อท่านบรรเลงพิณสรรเสริญคุณพระรัตนตรัยเปรียบเทียบกับความสุขสมหวังในกามถวายพระพุทธเจ้า เมื่อพระพุทธองค์ทรงโมทนาตรัสชื่นชมตลอดจนอบรมสั่งสอนพระปัญจสิขรนั้น ก็ทำให้ท่านมีฤทธิ์ที่เกิดจากพุทธานุภาพบันดาลให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก พ่ออาจารย์ว่าแม้พระอินทร์เจ้าสวรรค์กิจใดที่ท่านทำเองไม่ได้ หรือไม่มั่นใจว่าจะทำสำเร็จได้ หากใช้พระปัญจสิขรผู้เป็นเสมือนหนึ่งพระโอรสนี้ไป กิจนั้นย่อมสำเร็จได้ไม่ยากเลย

    แม้จะทูลขอโอกาสเบิกตัวพระอินทร์พร้อมทวยเทพเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าก็ยังสำเร็จ แม้ตอนพระพุทธองค์เสด็จลงจากดาวดึงษ์ พระปัญจสิขรนี้ก็ได้รับเกียรติให้ประโคมดนตรี ทรงพิณดีดนำหน้าขบวนเสด็จของเทพทั้งหมื่นจักรวาลตลอดจนมหาพรหมทั้งมวลเพื่ออัญเชิญพระพุทธองค์เสด็จลงจากดาวดึงส์เทวโลก

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อพระปัญจสิขรบรรเลงพิณกล่อมฟ้า เมื่อนั้นกิจทั้งหลาย การกระทำทั้งปวงย่อมสำเร็จ ความสุขสมหวังในกามไม่ว่าจะรูปแบบใดจะสูงส่งปานไหนก็ดี ทั้งชื่อเสียง เกียรติยศ เงินทอง ความสุขสม ทุกอย่างที่อยู่ในห้วงของกามถือว่าอยู่ในอำนาจของพิณกล่อมฟ้านี้ย่อมไม่มีทางหลุดพ้นไปได้

    ไม่เพียงเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านยังได้บรรจุดวงธาตุหัวใจพระประคนธรรพ์ลงไปด้วย ท่านว่านี่เป็นเครื่องรางที่เป็นที่สุดของเทพคนธรรพ์อย่างแท้จริง เรื่องราวของพระประคนธรรพ์นั้นน่าสนใจอยู่มาก เหตุว่าในวงการดนตรีไทยยกย่องพระประคนธรรพ์ว่าเป็นครูตะโพนและตะโพนทุกๆใบถือเป็นตัวแทนของท่าน จัดให้พระประคนธรรพ์นั้นเป็นประธานควบคุมการบรรเลงเพลงสาธุการ สืบเนื่องจากเรื่องราวในพุทธประวัติคือเรื่องท้าวพกาพรหม ครั้งนั้นเมื่อท้าวเธอยอมจำนนต่อพระพุทธองค์แล้ว ได้ทูลอัญชลีอัญเชิญให้เสด็จลงจากมุ่นมวยผมอยู่หลายครั้ง พระพุทธองค์ยังทรงนิ่งเฉย กระทั่งเมื่อเหล่าคนธรรพ์พากันประโคนบรรเลงเพลงสาธุการขึ้นจึงทรงเสด็จลงมาปรากฏองค์ ดังนั้นแล้วเพลงสาธุการจึงกลายเป็นเพลงที่ใช้ประโคมบรรเลงในยามพิธีเพื่ออัญเชิญพระพุทธเจ้าโดยเฉพาะ ตะโพนจึงถือว่าเป็นเครื่องดนตรีชิ้นแรกที่บรรเลงเพลงสาธุการ นักดนตรีไทยให้ความสำคัญและนับถือให้เป็นเครื่องดนตรีศักดิ์สิทธิ์ จึงไม่ต้องแปลกใจว่าชาวนาฏศิลป์ให้ความเคารพบูชาพระประคนธรรพ์กันเพราะเหตุใด ส่วนการกำเนิดของพระประคนธรรพ์นั้นตำนานเล่าว่า ท่านมีกำเนิดมาจากพระนลาฏ(หน้าผาก)ของพระพรหมผู้สร้างโลก พระพรหมท่านสร้างพระประคนธรรพ์ให้จุติเป็นคนธรรพ์ ต่อมาได้กลายมาเป็นเทวฤาษีมีนามว่าพระนารทมุนี เป็นเทวดาที่บำเพ็ญตนเป็นฤาษี ทำให้เหล่าคนธรรพ์ทั้งหลายให้ความเคารพยำเกรงพระประคนธรรพ์เป็นจำนวนมาก ท่านยังมีอิทธิฤทธิ์วิเศษสามารถบันดาลฝนเทียมได้ ฝนนั้นมีชื่อว่าหยาดพิรุณ


    พ่ออาจารย์ท่านได้บรรจุดวงธาตุหัวใจพระประคนธรรพ์ลงไปด้วย ท่านว่าประคนธรรพ์จริงๆแล้วคือพระนารทมุนี ไม่ใช่ประคนธรรพ์ในรามเกียรติ์อันนี้เพี้ยนอย่างมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเรานั้นเหมือนกลองทำดีให้ตายก็แค่เสมอตัว ไม่ตีก็ไม่ดัง ในห้วงชีวิตหนึ่งนั้นหากไร้ชื่อเสียง ไม่ปรากฏความสุขสรรเสริญ ทำอะไรก็สุดแล้วแต่ที่จะถึงซึ่งเกียรติยศและความเจริญรุ่งเรืองนั้นเป็นไม่มี หากอยากประสบความสำเร็จ ชื่อเสียง เกียรติยศ เงินทอง สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และเป็นอำนาจโดยตรงของครูตะโพนหรือพระนารทมุนีในภาคพระประคนธรรพ์นั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องแยกแยะกันให้ออก พระนารทในภาคฤาษีท่านก็ให้คุณอย่างหนึ่ง ในภาคพระประคนธรรพ์นี้ท่านก็ให้คุณอย่างหนึ่งเอามามั่วกันไม่ได้

    นอกจากดีด้วยเทวคุณที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งไม่เหมือนใครแล้ว พ่ออาจารย์ท่านยังเมตตาฝัง
    เหรียญหล่อท้าวนาถเทวราชหรือสมเด็จพระศรีอาริย์ที่พ่ออาจารย์ท่านเทด้วยธาตุกายสิทธิ์ประทับนั่งในปางมหาราชลีลาที่องค์ท่านมานิมิตให้เห็น จะสำคัญอย่างไรต้องติดตาม ทั้งนี้ท่านยังฝังผงภูติพระศรีอาริย์ปราบทุกข์เข็ญ ที่เป็นผงเสด็จ ผงธาตุประจำตัวของท้าวนาถเทวราชเหมือนผงวิภูติของพระสยมเช่นนั้น ท่านเมตตาฝังเอาไว้ด้วยเพื่อเป็นสื่อถึงสมเด็จพระศรีอาริย์โดยตรง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าก่อนหน้าจะถึงยุคศาสนาพระศรีอาริย์นั้น เทพพระองค์เดียวที่จะนำสมเด็จท่านมาแผ่บารมีปกเกล้าผู้ศรัทธาได้ ก็คือพระปัญสิขรที่เป็นฑูตเอกแห่งสวรรค์นี่เอง เมื่อพระปัญจสิขรอาราธนาอัญเชิญพระองค์แล้ว แน่นอนว่างานไหนงานนั้น ขอให้อธิษฐานฝากคำบอกกล่าวตลอดจนสิ่งต่างๆฝากท่านไว้ได้เลย

    ในอดีตที่ผ่านมา นอกจากตะกรุดสิทธิลาภ สิทธิโชค สิทธิชัย ของพ่ออาจารย์แล้ว ท่านก็ยังมีวิชาเอกอีกวิชาหนึ่งที่เรียกว่าสิทธิมั่งมี ซึ่งท่านเมตตาลงหัวใจทำตะกรุดฝังไว้ถวายเป็นสิ่งหน่วงนำอำนาจของสมเด็จพระศรีอาริย์มาสู่ผู้บูชา จะสำคัญและดีอย่างไรต้องติดตาม...

    16998235_377940202580694_7196041923225879281_n.jpg 1349788240.jpg 296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2017
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,103
    ค่าพลัง:
    +16,527
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลกล่อมฟ้าพระปัญจสิขรฝังผงภูติพระศรีอาริย์ปราบทุกข์เข็ญ(สิทธิมั่งมี)

    ท้าวนาถเทวราช หรือที่รู้จักกันดีในนามของสมเด็จพระศรีอาริย์ พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าในเวลาปัจจุบันนี้พระองค์ทรงเป็นพระมหาโพธิสัตว์ใหญ่ที่มีบารมีเต็มและทรงอำนาจสูงสุด ความสำคัญของท้าวนาถเทวราชด้วยหน้าที่รับผิดชอบของพระองค์ท่านนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยสถานการณ์ตลอดจนถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกก็ดี ของพฤติกรรมมนุษย์ก็ดี ล้วนแต่ส่งผลต่อทิพย์สภาวะของพระองค์ท่านโดยตรง ด้วยสัจธรรมในโลกนั้นไม่ว่าจะศาสนาใดก็ดี ล้วนแต่เสื่อมและตกต่ำลงไวกว่าปกติ ทำให้อายุและรอยต่อของพุทธศาสนานั้นกระชั้นเข้ามา


    เมื่อเป็นเช่นนี้ท้าวนาถเทวราชหรือองค์พระศรีอาริย์นั้น ท่านก็มีภาระที่ต้องประคับประคองบวรพุทธศาสนาของสมเด็จพระตถาคตเจ้าสมณโคตมให้อยู่รอดปลอดภัย ให้มีอายุครบถ้วนห้าพันวัสสาตามพุทธดำรัส พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง และสภาวการณ์ที่บังคับเช่นนี้ ทำให้ภาระหน้าที่ของพระองค์มาถึงไวกว่ากำหนด ไม่ต้องรอให้พระศาสนาครบห้าพันปีก็มีเหตุให้พระองค์ต้องยื่นมือช่วยเหลือ


    ด้วยหน้าที่และการปรากฏของท้าวนาถเทวราชนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่านับแต่นี้ไปเรียกได้ว่าเข้าสู่ยุคของพระองค์ท่านอย่างแท้จริง ไม่ใช่หมายถึงการสิ้นสุดพระศาสนาและเริ่มศาสนาใหม่ แต่เป็นยุคที่ท่านจะมีส่วนร่วมมีบทบาทในการประคองช่วยเหลือบวรพุทธศาสนาและศาสนิกชนทั้งหลาย ต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวาระกรรมและชะตาอันผูกพันธ์กับพระองค์ท่านด้วยเช่นกันว่าท่านจะเลือกและตั้งใจโปรดมนุษย์ผู้ใด


    ด้วยฐานะที่ท้าวนาถเทวราชจะได้อุบัติเป็นสมเด็จพระศรีอาริย์สัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาลเป็นลำดับแรกของเหล่ามหาโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์ทั้งหมด ทำให้ปัจจุบันนั้นพระองค์ดำรงค์อยู่ในฐานะองค์พระประมุขและประธานเทวสภาของเหล่ามหาโพธิสัตว์และโพธิสัตว์ผู้ปรารถนาพระโพธิญาณทั้งมวล ด้วยคติแห่งโพธิและมหากรุณาธิคุณอันยิ่ง กอปรกับเข้าสู่ยุคเสื่อมของสภาวะจิตใจของสัตว์โลก เช่นนี้ครูผู้มีนามว่าท้าวนาถเทวราชจึงปรารถนาจะให้ศาสนิกช่วยกันจรรโลงพระศาสนา โดยที่ท่านจะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจ ความเป็นอยู่ วุฒิ ตลอดจนพรสี่ประการทั้งอายุ วรรณณะ สุข พละ ให้เกิดมีแก่ผู้เคารพและน้อมใจเข้าถึงพระองค์ เพื่อให้ศาสนิกทั้งหลายมีความพร้อมด้วยปัจจัยทุกด้าน ที่จะใช้บำรุงพระศาสนาในสมเด็จพระสมณโคตมตถาคตเจ้าต่อไป ทั้งยังเป็นวาระกรรมที่จะผูกพันธ์กันสืบเนื่องไปในอนาคตกาลภาคหน้า เป็นบุญสัมพันธ์กับพระองค์ท่านโดยเฉพาะที่จะทำให้ศาสนิกนั้นไปเกิดในยุคสมเด็จพระศรีอาริย์มีปัจจัยพระนิพพานหนุนนำเป็นที่สุด


    พ่ออาจารย์ท่านว่าครูใหญ่ประธานสภามหาโพธิสัตว์ท้าวนาถเทวราชพระองค์นี้ ได้มอบหัวใจการอัญเชิญและบอกกล่าวตลอดจนอักขระพิเศษที่จะเป็นตัวเชื่อมพระบารมีไว้ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็ได้ทำวิชาและเชิญพระบารมีอยู่เนืองๆ โดยสร้างเหรียญหล่อท้าวนาถเทวราชประทับอยู่ในท่ามหาราชลีลาประทานพร แสดงให้เห็นถึงคติแห่งโพธิและมหากรุณาธิคุณอันยิ่งที่พร้อมจะให้ออกและหยิบยื่นช่วยเหลือทุกข์ของหมู่สัตว์ร่วมวัฏจักร ซ้ำยังประทานผงภูติพระศรีหรือจะเรียกเต็มๆว่าผงภูติพระศรีอาริย์ปราบทุกข์เข็ญที่เป็นผงเสด็จ ผงธาตุประจำตัวของท้าวนาถเทวราชเหมือนผงวิภูติของพระสยมเช่นนั้นให้พ่ออาจารย์ท่านมอบให้บุคคลที่คู่ควรนำไปบูชาด้วย ซึ่งท่านก็ได้เอามาบรรจุขวดใบเล็กๆปละฝังไว้ให้ทุกองค์ เพราะพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของเฉพาะกาลแรงครูสูงมาก คำว่าภูติพระศรีปราบทุกข์เข็ญนี้ก็คือปราบทุกข์จริงๆ ขึ้นชื่อว่าชีวิตสัตว์โลกเกิดมาใครนิรทุกข์บ้าง แต่ทุกข์ตัวนี้คือทุกข์ของความเข็ญใจ ทุกข์ของอัตภาพความเป็นอยู่ที่ลำบาก ทุกข์ของการเปลี่ยนแปลงในกระแสโลกและมหาวัฏ เพื่อให้ผู้ศรัทธาในกอบกรรมทำกุศลเป็นแรงสำคัญในการเชื่อมต่อพระศาสนา เพื่อเป็นกำลังใจว่าฟ้าไม่ได้ทอดทิ้งผู้ประพฤติธรรมสร้างกรรมดี ท่านว่าเป็นโอกาสดีที่ท้าวนาถเทวราชท่านประทานให้ผ่านภูติพระศรีนี้ เป็นที่สุดของมหาโพธิสัตว์สายขาว สายบารมี สายโพธิญาณ การจะยืมมือหรือขอความช่วยเหลือท้าวนาถเทวราชนั้น ท่านต้องพิจารณาหลายสิ่งหลายอย่างประกอบ ว่าบ้านเมือง ชีวิตความเป็นอยู่ ตลอดจนวิถีโลกและดวงดาว ภัยพิบัติธรรมชาติ พลังงานด้านบวกและลบ ทุกสิ่งนั้นถึงจุดที่ควรแก่การพึ่งบารมีพระองค์ท่านรึยัง และที่สำคัญที่สุดบุญสัมพันธ์และวาระของวัฏจักรเวียนมาถึงหรือไม่ หลังจากที่ครูสมเด็จพระบรมโพธิสัตว์ท่านมีดำริอนุญาติและทุกอย่างพร้อมดีแล้ว ท่านจึงเปิดให้บูชา โดยท่านพูดแต่เพียงว่าครูฉันนี้ท่านมีเจ้าของ มีตราบุญบัญญัติผู้ครอบครองเอาไว้ทุกองค์ ท่านว่าด้วยศักดิ์ของพระมหาโพธิสัตว์ใหญ่พระองค์ปัจจุบัน เป็นที่ทราบกันดีอย่างยิ่งว่าแม้จะเป็นพระอรหันต์ขีณาสพก็ยังต้องเกรงต้องให้เกียรติท่านเลย ดังนั้นกาลแห่งทุกข์ใดๆก็ดีที่จะเกินมือท้าวนาถเทวราชนั้นเป็นไม่มี

    เมื่อจะสร้างท่านก็มาพิจารณาว่าจะฝังสมเด็จพระหน่อพุทธางกูรนี้ลงในเครื่องมงคลใดดี ถึงจะเป็นการเหมาะสม ทั้งยังเสริมสิริมงคลช่วยเร่งอานุภาพแห่งพระบรมโพธิสัตว์ ด้วยนิมิตแห่งสมเด็จพระศรีอาริย์ทำให้ท่านทราบว่าเป็นประเพณีและหน้าที่กันสืบมา ในตำแหน่งของพระปัญจสิขรคนธรรพ์เทพบุตรซึ่งเป็นฑูตเอกแห่งสวรรค์นั้น เมื่อจะทำกิจใดก็ดีตั้งแต่เข้าเฝ้ากราบบังคมทูลเบิกตัวหมู่พรหมและเทพยดาทั้งหลายขอความอนุเคราะห์ให้สมเด็จพระบรมโพธิสัตว์เสด็จลงสู่โลกมนุษย์ หรือแม้กระทั่งเข้าเฝ้ากราบทูลขอพระพุทธานุญาติทุกวาระให้เทพยดาได้มีโอกาสเฝ้ารับประทานพระสัจธรรมอันยิ่ง การณ์ทุกอย่างที่ได้ชื่อว่าเป็นไปด้วยการกระทำเพื่อผู้อื่นหรือเพื่อชนหมู่มากนับโกฏินับแสนนั้น ด้วยการชักนำของปัญจสิขรคนธรรพ์เทพบุตร เป็นการกระทำที่ยิ่งใหญ่และเป็นผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เพราะทุกการกระทำนั้นก่อให้เกิดเทพพรหมมากมายที่เป็นพระอริยบุคคลในพระศาสนาตั้งแต่พระโสดาบันจนถึงขั้นพระสกิทาคามี พระอนาคามีและพระอรหันต์ ด้วยอานิสงค์เช่นนี้จึงทำให้พระปัญจสิขรเป็นเทพคนธรรพ์ซึ่งมีศักดิ์ใหญ่ มีฐานะพิเศษ ถูกยกย่องไว้ในตัวตนที่พิเศษว่าเป็นดังโอรสสวรรค์ โอรสแห่งองค์อมรินทร์ ด้วยฐานะฑูตแห่งการเริ่มต้นที่นำไปสู่ผลสำเร็จในระยะเวลากระชั้นชิด พ่ออาจารย์ท่านเห็นด้วยกับความของท้าวนาถเทวราชที่ทรงแนะนำนี้ เพราะชนทั้งหลายนั้นเมื่อประกอบกิจใดมักจะรอคอยผลของความสำเร็จด้วยใจคาดหวัง หากความสำเร็จนั้นอยู่ไกลแสนเอื้อมและมาช้ากว่าเวลาที่คาดการณ์ ชีวิตย่อมเสียเปล่าด้วยเวลาที่เสียไปนั้นไม่อาจย้อนคืนกลับมาได้ ทั้งนี้ด้วยบารมีของพระปัญจสิขรอันเป็นสายบารมีเฉพาะทางที่จะยังประโยชน์ของผู้บูชาให้สำเร็จผลทุกประการดุจดังท้าวเธอยังประโยชน์ใหญ่ของหมู่เทพนิกรและพรหมบรรษัททั้งหลายให้สำเร็จกันอยู่เนืองๆ


    ก่อนจะทำ พ่ออาจารย์ท่านได้ขออนุญาติพระปัญจสิขรก่อนซึ่งท้าวเธอก็ยินดีอย่างยิ่ง ด้วยว่าเป็นกิจโปรดสัตว์ เป็นภาระกิจพิเศษในสมเด็จพระศรีอาริย์ซึ่งพ่อปัญจสิขรนั้นถือว่าเป็นเกียรติยศอย่างที่สุด โดยสร้างขึ้นเป็นรูปบูชาครูของพระปัญจสิขรคนธรรพ์เทพบุตร ซึ่งถือว่าเป็นคนธรรพ์ชั้นผู้ใหญ่และเป็นเทพบดีของเหล่าคนธรรพ์ พ่ออาจารย์ท่านแกะพิมพ์ในอากัปกิริยาเหินนภากาศ พร้อมกับแสดงฤทธิ์ดีดพิณของท่าน การบูชาเทพคนธรรพ์ซึ่งเป็นครูเสน่ห์เหนือกว่าเหล่าคนธรรพ์ วิทยาธร และเพชรพญาธรทั้งหลายนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อจะสร้างนั้น รูปนั้นจะมีอาถรรพ์ เครื่องมงคลนั้นจะเป็นที่สุดแห่งเสน่ห์เมตตา การเข้าหา การสังวาส หรือความสำเร็จในกามคุณต่างๆทุกประการ นอกจากนี้ยังช่วยซึมซับโรคภัยไข้เจ็บพลังงานด้านลบต่างๆเพื่อพลังงานและสถานการณ์อันจะเติมเต็มปริมาณของความสุขในชีวิตคนบูชา ท่านว่าเครื่องรางนี้เป็นไปเพื่อความเจริญทางโลก ให้ใช้กันแต่พอสมควร บูชาแบบมีสติอย่านำไปก่อกรรมสร้างเวรเท่านั้น ด้วยเทพคนธรรพ์ปัญจสิขรนั้นท่านเป็นเทพบดี เป็นจอมเทพซึ่งมีศักดิ์ใหญ่มีฤทธิ์อันประเสริฐ ทั้งยังข้องยังติดอยู่ในกามคุณ มีเหล่ามเหสีและสนมกำนัลล้นวิมานชั้นฟ้าจึงเป็นครูเสน่ห์ที่อาราธนาขึ้นที่สุด


    พระปัญจสิงขรนี้เป็นเทพคนธรรพ์ซึ่งมีศักดิ์ใหญ่ เป็นที่โปรดปรานของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของเทวดาในทุกชั้นฟ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าหากพูดถึงท่านปัญจสิขรนั้นเป็นที่นิยมอย่างไร ก็ให้เรานึกถึงดาราดังๆระดับโลกของเรา พระปัญจสิขรท่านก็เป็นที่นิยมในหมู่เทวดานางฟ้าเช่นนั้น ถึงขนาดที่ท้าวสนังมหาพรหมกุมารจะมาบรรยายธรรมที่เทวสภา ยังต้องจำแลงพระกายในรูปพระปัญจสิขรทีเดียว ไม่น่าสงสัยเลยว่าทำไมเทพยดาทั้งหลายจึงพึงใจที่จะมาฟังธรรมเทศนาของมหาพรหมองค์นี้เป็นอันมาก พ่ออาจารย์ท่านว่ารูปพระปัญจสิขรนี้เหมือนมีอาถรรพ์แห่งมนต์สะกด มีอานุภาพแห่งเสน่ห์เมตตายิ่งกว่าพระขุนแผนหรือพ่องั่งใดๆ เป็นเสน่ห์เมตตาที่จะออกมาในรูปของความนิยม คนรักใคร่เอ็นดู


    พ่ออาจารย์ท่านทำพระปัญจสิขรบรรเลงพิณกล่อมฟ้า ซึ่งถือเป็นสิ่งวิเศษเหนือโลกขึ้นมา ท่านว่าการบรรเลิงพิณของพระปัญจสิขรนั้นไม่เหมือนการบรรเลงพิณของคนธรรพ์ทั้งหลายโดยสิ้นเชิง ท่านว่าอย่าลืมเสีย ว่าพิณนี้คือของคู่พระหัตถ์ของท้าวมาลัยที่ตกลงมาถึงพระอินทร์และพระปัญจสิขรในที่สุด ดังนั้นพิณนี้จึงมีอานุภาพมากกว่าการขับกล่อม แต่เป็นอานุภาพแห่งการครอบงำ ซึ่งเมื่ออดีตกาลท้าวมาลัยหรือพญามารก็เคยใช้อานุภาพของพิณนี้อยู่เนืองๆ เป็นอานุภาพแห่งการครอบงำที่นอกเหนือไปจากสัตว์โลกแล้ว แม้เทพยดา มาร อสูร พรหม หรือแม้แต่พระภิกษุที่ยังไม่ถึงซึ่งภูมิอรหันต์ก็ดี ย่อมตกอยู่ในการครอบงำของพิณนี้ ด้วยอานุภาพของพิณกล่อมฟ้านี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นที่มาแห่งความสุข แม้เทวดาทั้งหลายที่ได้ชื่อว่าเสพกามในระดับที่สูงส่งและปราณีตจนมนุษย์นึกคิดไม่ถึงแล้ว เมื่อได้ยินเสียงพิณก็ยังมีความสุขเพลิดเพลินในเสียงพิณยิ่งกว่ากามทั้งหลายเหล่านั้น
    ถึงกับเป็นตำนานว่าเมื่อพิณกล่อมฟ้าดังขึ้นทุกอย่างที่เกี่ยวข้องในกามภพ รูปภพ แม้ผู้ใดนึกหวังสิ่งใดก็จะสำเร็จได้ตามนั้น ทุกสิ่งที่อยู่ในกามภพ ในมหาวัฏจักร ด้วยอานุภาพแห่งพิณของท้าวมาลัยที่อยู่ในมือพระปัญจสิขรนี้ย่อมดลบันดาลให้เป็นไปได้ทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อพระปัญจสิขรบรรเลงพิณกล่อมฟ้า เมื่อนั้นกิจทั้งหลาย การกระทำทั้งปวงย่อมสำเร็จ ความสุขสมหวังในกามไม่ว่าจะรูปแบบใดจะสูงส่งปานไหนก็ดี ทั้งชื่อเสียง เกียรติยศ เงินทอง ความสุขสม ทุกอย่างที่อยู่ในห้วงของกามถือว่าอยู่ในอำนาจของพิณกล่อมฟ้านี้ย่อมไม่มีทางหลุดพ้นไปได้

    ที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างพระปัญจสิขรขึ้นมา ท่านว่าหลายคนขาดใบเบิกทางที่ดี ชีวิตไม่มีผู้นำสาร ผู้นำมาซึ่งความสำเร็จ พระปัญจสิขรท้าวเธอนั้นมีคุณลักษณะพิเศษที่เทพองค์อื่นไม่มี นั่นคือเป็นที่รักไปเสียทั้งหมดไม่มีใครกล้าเกลียด พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อท่านบรรเลงพิณสรรเสริญคุณพระรัตนตรัยเปรียบเทียบกับความสุขสมหวังในกามถวายพระพุทธเจ้า เมื่อพระพุทธองค์ทรงโมทนาตรัสชื่นชมตลอดจนอบรมสั่งสอนพระปัญจสิขรนั้น ก็ทำให้ท่านมีฤทธิ์ที่เกิดจากพุทธานุภาพบันดาลให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก พ่ออาจารย์ว่าแม้พระอินทร์เจ้าสวรรค์กิจใดที่ท่านทำเองไม่ได้ หรือไม่มั่นใจว่าจะทำสำเร็จได้ หากใช้พระปัญจสิขรผู้เป็นเสมือนหนึ่งพระโอรสนี้ไป กิจนั้นย่อมสำเร็จได้ไม่ยากเลย

    พ่ออาจารย์ท่านได้นั่งลบถมผงอักขระวิชาสวรรค์หลงทางนับพันคาบพระคาถาจนผงร้อนมือมีอานุภาพแค่เดินข้ามก็เสียจริตได้ เป็นที่สุดแห่งวิชามหาหลงอย่างที่สุดนำมาเข้ากับว่านยา เพื่อนำผงนั้นมาปั้นเป็นแท่งผงวิเศษเอาไว้ชักยันต์กามสูตร หัวใจมนุษย์ ช้างผสมโขลง ยันต์อุลลุม ยันต์มหาละลวยใหญ่ ยันต์เทพรำพึง เทพรำลึก เทพรัญจวน ฝนเสน่หา นารายณ์กลืนสวาท มหาธาตุผูกจิต หน้าพระทอง พระลักษณ์หน้าทอง นะนอนใจ นะเจ้านางออ ยันต์แช่น้ำทำเสน่ห์ ยันต์หญิงรักชายหลง ยันต์เล่นชู้ ยันเสน่ห์เรียกจิต ยันต์เสน่ห์ผู้ใหญ่รัก ยันต์พระพายพัดจิต ยันต์สาวสามหมู่บ้าน ปิโยเทพรัญจวน ยันต์เทพฝัน ยันต์เป่าสะกดใจ ยันต์อิทธิเจเสน่ห์กล หมากินความคิด แมงวันคำ งั่งเสพย์นาง ยันต์อิ่นมนุษย์ อิ่นช้าง ม้าคู่นาง ท่านว่าผงที่ลบถมออกมานี้ท่านเมตตาใช้ผงล้วนๆนำมากดสร้างขึ้นรูปพระปัญจสิขร ไม่ใช่เล่นแต่ทางเสนห์ แต่ท่านนำผงยันต์ทางวิชาอีกสามชนิด คือมหาลาภ รักษาตัวคุ้มกันภัย ปรับสมดุลย์ธาตุขันธ์และสภาวะร่างกาย ท่านว่าเป็นวิชาของเสด็จพระใหญ่กับสายในดง แต่ละชนิดท่านลบถมเป็นร้อยครั้งพันครั้งในผงนั้นมีอักขระนับแสนนับล้านจนประมาณไม่ได้ ซ้ำยังเสกเก็บไว้อยู่มิได้ขาด นำมาผสมด้วย ท่านว่าครูคนธรรพ์จะได้มีอานุภาพครอบฟ้าคลุมดินเพียงแค่ผงก็ใช้ได้ทุกประการ


    ไม่เพียงเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านยังได้บรรจุดวงธาตุหัวใจพระประคนธรรพ์ลงไปด้วย ท่านว่านี่เป็นเครื่องรางที่เป็นที่สุดของเทพคนธรรพ์อย่างแท้จริง ท่านว่าประคนธรรพ์จริงๆแล้วคือพระนารทมุนี ไม่ใช่ประคนธรรพ์ในรามเกียรติ์อันนี้เพี้ยนอย่างมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเรานั้นเหมือนกลองทำดีให้ตายก็แค่เสมอตัว ไม่ตีก็ไม่ดัง ในห้วงชีวิตหนึ่งนั้นหากไร้ชื่อเสียง ไม่ปรากฏความสุขสรรเสริญ ทำอะไรก็สุดแล้วแต่ที่จะถึงซึ่งเกียรติยศและความเจริญรุ่งเรืองนั้นเป็นไม่มี หากอยากประสบความสำเร็จ ชื่อเสียง เกียรติยศ เงินทอง สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และเป็นอำนาจโดยตรงของครูตะโพนหรือพระนารทมุนีในภาคพระประคนธรรพ์นั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องแยกแยะกันให้ออก พระนารทในภาคฤาษีท่านก็ให้คุณอย่างหนึ่ง ในภาคพระประคนธรรพ์นี้ท่านก็ให้คุณอย่างหนึ่งเอามามั่วกันไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านเสกเก็บอัญเชิญครูพระประคนธรรพ์มาอยู่เนืองในดวงธาตุหัวใจวิชาพระประคนธรรพ์ซึ่งท่านใช้ผงดินตะโพนมาลบถมด้วยหัวใจพระนารทมุนีด้วยอักขระกูโบ๊ส ท่านว่าดวงธาตุนี้อยู่ที่ไหนก็นำพามาซึ่งเกียรติยศและความเจริญรุ่งเรือง ความสำเร็จ ชื่อเสียง เงินทอง ในที่นั้น ยิ่งถูกตียิ่งดัง ยิ่งถูกขัดเกลายิ่งดี ต่อไปนี้ทุกการกระทำจะไม่มีสูญเปล่า


    นอกจากนี้พ่ออาจารย์ท่านยังได้เมตตาลงอักขระวิชาชุดพิเศษขึ้นมาเพื่อทำตะกรุดฝังไว้ในองค์พระด้วย นั่นคือวิชาชุดสิทธิมั่งมี ซึ่งในอดีตนั้นท่านได้สร้างตะกรุดสิทธิลาภ สิทธิโชค สิทธิชัยจนกลายเป็นตำนานไปแล้ว วิชาชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านเมตตาลงหัวใจทำตะกรุดฝังไว้ถวายเพื่อเป็นสิ่งหน่วงนำอำนาจบารมีของสมเด็จพระศรีอาริย์มาสู่ผู้บูชาให้มั่งมีสมชื่อ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ต่างกับสิทธิลาภอย่างไร ท่านว่ามันเป็นวิชาชนิดที่เรียกว่าขั้นกว่า หมายถึงสิทธิมั่งมีตัวนี้ เป็นการร่ำรวยแบบมั่งคั่ง ไม่ใช่ลาภผลธรรมดา เป็นวิชาที่นำออกจากความยากจน ขัดสน เป็นสิทธิเฉพาะของบุคคลที่จะมั่งมีขึ้นได้ตามการกระทำ ยิ่งขยันก็ยิ่งรวย ยิ่งพัฒนาก็ยิ่งสำเร็จ พ่ออาจารย์ท่านได้เมตตาลงหัวใจและปลุกเสกไว้อย่างดีก่อนนำมากดพิมพ์ฝังลงไป


    พ่ออาจารย์ท่านได้สร้าง มงคลกล่อมฟ้าพระปัญจสิขรฝังผงภูติพระศรีอาริย์ปราบทุกข์เข็ญ(สิทธิมั่งมี) ไว้ทั้งหมด 8 องค์ พร้อมกับเชิญญาณพระปัญจสิขร พระประคนธรรพ์ และท้าวนาถเทวราชหรือสมเด็จพระศรีอาริย์มาสถิตย์อย่างเต็มกำลัง ท่านว่ารูปใครคนนั้นก็ทำก็เสก ครูทุกพระองค์ลงกันอย่างเต็มที่


    คาถาบูชา

    (ระลึกถึงท้าวนาถเทวราชหรือพระศรีอาริย์) นะโมพุทธายะ นะโมโภตะยะ มะโรกะหิโต นะโมเมตตรัยโย มะวิปะโร ปัญจะพุทธา ทานะคะตา สะวัตดิลาโภ ภะวันตุเม
    (ระลึกถึงครูเทพคนธรรพ์) โอมปัญจะสิงขรคันธะเวหินะมะฮา คันธัพเพสาจะ มะนุสสายัสติ เอหิคันทัพโพ โหตุ (บูชาด้วยเครื่องหอมได้ทุกชนิด ไม่มีข้อห้ามในการใช้การพกพาและอธิษฐาน แต่หากใช้ทางเสน่ห์แล้วต้องรับผิดชอบ)


    * พ่ออาจารย์ท่านสร้างมงคลกล่อมโลกพระปัญจสิขร ไว้ทั้งหมด 8 องค์ ผู้ที่จะบูชาให้แจ้งเฉพาะทาง PM พร้อมบอกชื่อนามสกุล และกำกับความต้องการพิเศษที่ต้องการจะบอกครูทั้งสามเป็นการเฉพาะไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะบูชาไฟและเจิมผงสินธูระประสิทธิ์ให้อีกวาระหนึ่ง


    ร่วมทำบุญบูชา มงคลกล่อมฟ้าพระปัญจสิขรฝังผงภูติพระศรีอาริย์ปราบทุกข์เข็ญ(สิทธิมั่งมี) บูชา 4,000 บาท


    16998235_377940202580694_7196041923225879281_n.jpg Maitreya_Buddha_-_Nubra.jpg 1349788240.jpg 1213230665.jpg SAM_5433.jpg SAM_5436.jpg 296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2017
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,103
    ค่าพลัง:
    +16,527
    มีเล่าประสบการณ์เข้ามากัน เดี๋ยวจะยกมาพูดคุย ติดตามกันนะครับ;)
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,103
    ค่าพลัง:
    +16,527
    เหล็กไหลนี้เป็นคำถามที่มีกันมากถามกันอยู่เนืองๆ พร้อมกับส่งของมาให้พิสูจน์จริงเท็จกันเสมอ ก็ขอออกตัวไว้ก่อนนะครับลองคิดดูเอาว่าของแท้จะมีกันเกลื่อน เชิญกันเป็นว่าเล่นได้จริงหรือ พูดไว้เท่านี้ก็น่าจะเข้าใจ ทีนี้ก็ขอนำบทความของอาจารย์ชุมมาลงไว้ให้อ่านกัน ถ้าเป็นเหล็กไหลจริงๆแม้ก้อนเท่าเม็ดพริกไทย หรือนำไปขยายส่วนหลอมรวมกับนวโลหะอัตราส่วนเม็ดข้าวโพดกับตัวควายถึกยังมีอิทธิฤทธิ์ถึงปานนั้น


    อาจารย์ ชุม ไชยคีรี ได้เคยเขียนไว้ว่า

    "พระฤาษีปลัยโกฎ ได้พรรณนาไว้ในพระคัมภีร์โบราณว่า หากผู้ใดพบเหล็กไหลแม้แต่เท่าเมล็ดข้าวโพด หรือเท่าเมล็ดพริกไทย ก็นับได้ว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นผู้มีบุญญาภินิหาร เพราะเป็นธาตุนิพพพานของธาตุทั้งหลาย ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตน และเป็นประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง

    ดังนั้นคุณค่าอันนับเป็นอเนกประการของเหล็กไหลนั้น จึงทำให้มนุษย์เรารู้สืบทอดติดต่อกันมาแต่ครั้งบรรพกาลแล้ว ต่างก็ได้พยายามสืบเสาะหามาไว้เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว

    ด้วยเหตุที่เป็นธาตุสูงสุดของธาตุทั้งปวง เหล็กไหลจึงมักจะซ่อนหลบเร้นตนเองไม่ให้มนุษย์ได้เจอะเจอง่ายๆนัก เว้นแต่จะเป็นผู้มีบุญญาภินิหารได้เจอะเจอโดยบังเอิญ หรือเป็นผู้ที่ทรงวิทยาคมแรงกล้าเท่านั้นจึงจะนำเหล็กไหลมาไว้บูชาแก่ตนเองได้

    บุราณจารย์แต่ครั้งก่อนท่านกล่าวไว้หากจะให้เกิดประโยชน์แก่ตนไซร้ ท่านให้เอาเหล็กไหลเท่าเมล็ดข้าวโพด หรือ เท่าเมล็ดพริกไทย อมไว้ในปากแล้วกลืนน้ำลายตนเองเป็นประจำทุกวัน ทำพิธีใช้อาคมเรียกเข้าไว้ในตัว ร่างกายจะคงทนแก่ปืนผาหน้าไม้ กฤช หอกทองแดง ขวากหนาม สัตว์ร้ายที่มีเขี้ยวงาและมีแรงฟัดขยี้ อาจต่อสู้กับคนหมู่มากและมีแรงมาก แม้จับตัวเราก็ไม่ติด แหวกวงล้อมและกรงขังขื่อคาไปได้ ทั้งเป็นยาอายุวัฒนะทำให้อายุยืน

    อนึ่ง ท่านให้เอาเหล็กไหลเท่าเมล็ดข้าวโพด แช่น้ำผึ้งรวงกินเป็นประจำทุกเช้าเย็นจนครบ 7 วัน คงเนื้อคงหนัง 3 เดือนคงกระดูก คงถึงลูกที่เกิดมา 1 ปี หมดโรคภัยนานา 3 ปี เกิดปัญญาเรียนรู้ธรรมจบพระไตรปิฎก 7 ปี กายเบาดังสำลี หมดกิเลส (คัดจากสมุดข่อย 1,000 กว่าปี)

    อาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้ค้นพบเหล็กไหลในป่าลึกทางภาคใต้ของประเทศไทยเมื่อประมาณปี 2509 ทำพิธีตัดเหล็กไหลออกเป็นชิ้นเล็กเท่าเมล็ดพริกไทยถึงเมล็ดมะขามแห้ง ออกแจกจ่ายให้คณะศิษย์ทำหัวแหวนไว้เป็นเครื่องรางป้องกันตัว ส่วนหนึ่งฝังไว้หลังพระเนื้อว่านยา 500 กว่าชนิด ทรงขุนแผนออกศึก ทรงรูปอาจารย์วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง

    และอาจารย์ อ.ชุมได้เขียนเล่าไว้เกี่ยวกับเหล็กไหลตามที่ท่านศึกษามาจากตำราสมุดข่อยโบราณว่า "ท่านให้เอาเหล็กไหลเท่าเมล็ดข้าวโพด ประสมด้วยนวโลหะเท่าตัวควายถึก นวโลหะนั้นจะมีคุณภาพเหมือนเหล็กไหลไปหมด เป็นกายสิทธิ์คงทน กำลังล่องหน คนๆเดียวต่อสู้ศัตรูได้ทั้งกองทัพ ผีสางเทวดายักษ์มารเปรตอสุรกายเกรงกลัว อำนาจเหมือนพระเถระอุปคุต"

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg


     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,103
    ค่าพลัง:
    +16,527
    พูดคุยยามเช้า

    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้ก่อนจะไปพูดคุยเรื่องประสบการณ์ รอบเช้านี้ก็จะขอพูดคุยกันถึงสาระความรู้ก่อน เรื่องนี้ผมเห็นหลายคนยังหลงผิดกันอยู่มาก และก็ผิดพลาดกันบ่อยๆพ่ออาจารย์ท่านก็ย้ำเตือนมาเสมอๆเลยจะยกมาพูดคุยกัน

    หลายคนที่ชอบของพิเศษ ได้ตามอ่านกระทู้ เห็นมีมวลสารอะไรถูกตาต้องใจตัวเองก็มักจะข้อความส่วนตัวกันเข้ามาขอให้สร้างสิ่งนั้นโดยผสมผงนี้กับผงนี้ ขอให้สร้างตะกรุดแบบนั้นโดยผสมยันต์นั้นกับยันต์นี้ หลายๆคนไม่ได้คำนึงถึงมารยาทความเหมาะสม ซึ่งเรื่องนั้นอันที่จริงเพียงเราไม่ติดใจอะไรก็ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยอย่างมาก แต่เรื่องใหญ่มันคือชีวิตของท่าน

    เข้าใจอยู่ว่าที่ขอมานั้นเพราะคิดว่าสิ่งนั้น สิ่งนี้ดี เอามารวมกันมันต้งประเสริฐ แต่ลืมคิดถึงความเหมาะสมไปว่าพ่ออาจารย์ท่านจะทำให้รึเปล่า และในอีกกรณีหนึ่งก็คือจริงๆแล้วมันทำได้มั๊ย

    พ่ออาจารย์ท่านมักจะพูดอยู่เสมอว่ามวลสารบางอย่าง บางครั้งเราอาจะคิดว่าเข้ากันได้ ไปทางเดียวกันแต่มันก็นำมาผสมกันไม่ได้ อักขระยันต์วิชาต่างๆก็เช่นกัน บางอย่างก็รวมกันไม่ได้ อย่างหนึ่งต่ำใต้เหว อีกอย่างสูงเทียมฟ้าจะมาใส่รวมกันได้อย่างไร ท่านว่าครูบาอาจารย์ท่านพิจารณาและทำกันมาชัดเจน จะให้เรามาทำสัปดนลงโดยไม่รู้หรือทำไปมั่วๆเช่นนั้นไม่ได้

    หากทำตามใบสั่ง ทำมั่วๆตามใจคน วิชาบางอย่างนำไปแทนที่จะเป็นคุณเป็นศรีแก่ตัว กลับจะกลายเป็นโมหันต์ทษด้วยซ้ำไป การตั้งใจดัดแปลงแก้ไข ของบางอย่างครูบาอาจารย์เจ้าที่รจนา หรือสร้างวิชานี้ขึ้นมา เป็นครูองค์ต้น ท่านก็สาปแช่งกันไว้แรงหนักหนา อย่าว่าแต่คนคิดจะไปดัดแปลงแก้ไขอันใดเลย แค่วางผิดที่ บูชาผิดสถานะก็เป็นเรื่องขึ้นมาแล้ว

    สิ่งศักดิ์สิทธิ์และครูบาอาจารย์นั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ที่เราจะไปทำการล่วงละเมิดหรือล่วงเกินด้วยตะกอนกิเลสความต้องการเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ เพราะอันใดเหมะสม ไม่เหมาะสมเรายังไม่รู้ เรารู้แต่ความต้องการของเรา คิดแค่ว่าอยากได้ของแรงๆ ยิ่งแรงยิ่งดี ต้องเอาอันนั้นผสมอันนี้ อยากได้ของพิเศษไม่เหมือนชาวบ้าน แต่ในทางกลับกันของนั้นจะดีจะแรงที่สุดเป็นเอกในโลกในพิภพอย่างไร ถ้าของนั้นแรงแต่นำมาซึ่งคำสาปแช่งพร้อมกับความพินาศฉิบหายยังจะต้องการกันอยู่หรือไม่

    พ่ออาจารย์ท่านว่าอะไรที่ท่านทำนั้น ท่านรู้และกระจ่างแก่ใจแล้วว่ามันคือสิ่งที่ดีที่สุด อันไหนต่ำ อันไหนสูง บูชาอย่างไรก็บอกชัดเจน ยิ่งสายของท่านเป็นสายอจินไตย สายเหนือโลก สายพลังพุทธคุณและเทพพรหมทั้งหลายด้วย ถ้าไม่ใช่คนมีบารมีหรือผูกพันธ์มีบุญสัมพันธ์กับองค์พระองค์เทพครูบาอาจารย์ทั้งหลายมาแต่หนหลังก็ยังยากที่จะรับรู้และศรัทธาหมดใจกับสิ่งเหล่านี้

    เช่นนั้นท่านจึงฝากมาบอกกล่าวหลายๆคนที่ PM หรือต้องการจะสั่งทำ จะจอง ขอให้สร้างอะไรที่มันพิศดารทั้งหลาย ว่าขอให้ไตร่ตรองให้ดีก่อน บางสิ่งนั้นแค่คิดล่วงละเมิด ล่วงเกินไป ยังไม่สำเร็จที่การกระทำแต่เพียงสำเร็จแค่ความคิด ก็เกิดโทษเหตุเพทภัยเสียแล้ว เพราะครูอาจาริย์เจ้านั้นท่านไม่อนุโลมให้ทำเป็นเล่นได้


    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,103
    ค่าพลัง:
    +16,527
    สำหรับที่โอนมาแล้วพรุ่งนี้จัดส่งของให้นะครับ
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,103
    ค่าพลัง:
    +16,527
    ว่าจะมานั่งคุยเล่าประสบการณ์กัน แต่วันนี้ผมก็ยังไม่ว่างเลยเพราะวิ่งยิกๆมีธุระเข้ามาทั้งวัน ก็อดทนรออีกนิดนะครับ พร้อมคำถามที่ฝากกันมาด้วย รับรองว่ามีข่าวดี ต้องบอกว่าข่าวดีที่สุด ติดตามกันดีๆ;)
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,103
    ค่าพลัง:
    +16,527
    พูดคุยยามเช้า

    อรุณสวัสดิ์ครับ วันนี้ก็จะจัดส่งของให้นะครับ สำหรับเรื่องที่ถามกันเข้ามาหลายอย่าง ถามหาควายธนูว่ามีอีกมั๊ย บ่นๆกันมาว่าใจคอพ่ออาจารย์ท่านจะไม่ออกอะไรเล็กๆจิ๋วๆบ้างหรอเพราะบางอย่างห้อยคอก็หนักไปเด็กและผู้หญิงหมดสิทธิ์ห้อยแบบสวยๆ บางคนก็ว่าอยากได้ของชุดที่ร่วมบุญราคาเบากว่านี้หน่อย อันนี้ก็ติดตามไว้ ผมบอกได้คำเดียวว่าห้ามพลาด เพราะจะไม่มีอีกแล้ว เนื่องจากเป็นเครื่องมงคลที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างและเลี่ยมเก็บไว้มีขนาดเล็กเหมาะแก่การห้อยคอ ซ้ำแต่เดิมท่านยังพูดเสมอว่าวิชาชุดนี้แรงเกินไป เปรียบกับระเบิดก็เหมือนระเบิดปรมาณู จะไม่ทำอีกแล้ว ซึ่งก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่าท่านจะค้นเจอที่สร้างไว้สมัยรุ่นๆแถมเสกจนลืม ซ้ำยังเลี่ยมไว้อย่างดีพร้อมจะขึ้นคอกันทุกองค์... อันนี้ต้องติดตาม

    อีกเรื่องที่ค้างกันไว้ เกี่ยวกับน้ำมันพรายนางจันทร์ อันนี้คนละคนจากที่เล่าคราวก่อน ของพี่คนก่อนมีอัพเดทมาว่าใช้ไวมากกำลังจะหาน้ำหอมน้ำมันมาเติมอยู่ พี่เค้าว่าสาวมองไม่ขาดเลย อย่าว่าแต่สาวเลยกระเทยก็ยังมา ล่าสุดเค้าว่าผมวิ่งหนีทั่วห้างทีเดียว เพราะส่วนตัวเค้าเกลียดกระเทย โดนฝั่งนั้นหลอกด้วยว่าเป็นผู้หญิงจริงๆ ก็ไม่รู้ใช้กันยังไงนอกจากผู้หญิงชอบรักลงเอยไปแล้วยังใช้จนสาวประเภทสองมาติด

    มาเรื่องที่ค้างกันไว้ดีกว่า พี่เค้าว่าแปลก นี่มันน้ำมันสารพัดประโยชน์มากๆเลย โดยพี่คนนี้เค้าบอกผมว่าเค้ารู้สึกเหมือนมีอะไรติดที่คอมาตั้งแต่เด็ก ตรวจดูก็ไม่พบอะไร ทีแรกยังเข้าใจว่าก้างปลาติดคอ เค้าว่าผมใช้ชีวิตในอารมณ์รำคาญกับความรู้สึกตรงนี้มากเลย คุณเชื่อมั๊ย ได้น้ำมันมาผมก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก พี่เค้าว่าผมลองขอบารมีนางจันทร์กับพ่ออาจารย์ดู นำน้ำมันมาทาคอสามเวลา เพียงแค่สามเวลาไอ้ความรู้สึกเหมือนมีอะไรติดที่กะเดือกมาทั้งชีวิตกลับหาย

    นอกจากนั้นลองอธิษฐานขอ นำน้ำมันไปทาในจุดลับ เรียกว่าปลุกของเสน่ห์อย่างแท้จริง พี่เค้าว่าอย่าให้บอกเลยว่าวันนั้นได้ใช้งานขนาดนั้น เค้าว่าทาจริงใช้จริง เนื่องจากมีอายุมากแล้ว อันนี้ผมช่วยออกตัวเลยว่าไม่ได้ทะลึ่งนะ ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพของผู้ชายด้วยกัน พี่คนนี้เค้าว่ามันตื่นตัวผิดปกติและอยู่นานกว่าปกติ ส่วนเอาไปใช้อะไรนั้นเล่าไม่ได้จริงๆ

    ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น พี่ท่านนี้ผมคิดว่าใช้นำมันได้คุ้มที่สุดจริงๆ เพราะไม่กี่วันมีเรื่องมาเล่าให้ผมฟังได้ขนาดนี้ พี่เค้าว่าผมเปลี่ยนชื่อเรียกว่าน้ำมันสารพัดประโยชน์ไปแล้ว พอดีวันก่อนนั้นเค้าจะไปเจรจางานกะคู่ค้าเค้า พี่เค้าว่ามันก็คนวงการเดียวกันรู้จักนิสัยใจคอกันเคยดิวงานกันมาไม่รู้กี่ครั้ง ทีนี้พี่เค้านึกขึ้นมาได้ว่าในกระเป๋ากางเกงใส่ขวดน้ำมันมาด้วย จึงล้วงเข้าไปหมุนขวดเอานิ้วแตะลูกกลิ้งก็รู้สึกเยิ้มๆน้ำมันที่นิ้ว แกเล่าจนเราเห็นภาพ ที่สำคัญมันไม่ใช่มือใหม่ซะด้วย เรียกว่าเป็นวิธีใช้แบบชำนาญเลย มือเดียวเปิดขวดในกระเป๋ากางเกงใช้ได้แบบนี้

    พี่เค้าว่าผมเอามือที่ถูกน้ำมันนี่แหละไปจับมือคู่ค้าผม ปลายนิ้วก็วนๆคลึงหลังมือเค้าเบาๆไม่ให้เค้าผิดสังเกตุ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อไอ้คู่ค้าปมวันนั้นมันเปลี่ยนไปเป้นคนละคน พี่เค้าว่าจากคู่ค้าที่ต่างคนต่างคิดถึงผลประโยชน์ของตัวเอง วันนั้นมันพูดยกยอผม ทำให้ผมได้รับประโยชน์และมีความรู้สึกเหมือนว่าผมเป็นเจ้านายมันมาทั้งชีวิต ทั้งที่แต่ก่อนนี้ คุณคนนี้ไม่ใช่คนแบบนี้เลย เหมือนเป้นคนละคนสวมหน้ากากกันมาแสดงชัดๆ พี่เค้าก็เลยย้ำว่ามันเป็นน้ำมันสารพัดประโยชน์สุดแต่เราจะเอาไปใช้จริงๆ

    * ก็ขอบใจที่นำมาเล่าสู่กันฟังไม่ปิดไว้ทำให้ผมมีเรื่องมาพูดคุยกันเช้าๆนะครับ


    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2017
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,103
    ค่าพลัง:
    +16,527
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่ศิระ ET 7945 6536 5 TH

    พี่ธเนศพล ET 7945 6537 9 TH

    พี่รังสรรค์ ET 7945 6538 2 TH
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,103
    ค่าพลัง:
    +16,527
    วันนี้ใครจะฝากคำถามหรือปรึกษาอะไรก็ PM กันไว้นะครับ
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,103
    ค่าพลัง:
    +16,527
    พูดคุยรอบเย็น

    เย็นนี้ก็จะมาพูดคุยกันต่อนะครับ สืบเนื่องกับเครื่องมงคลอาถรรพ์ที่กล่าวไว้คราวก่อน
    "สำหรับเรื่องที่ถามกันเข้ามาหลายอย่าง ถามหาควายธนูว่ามีอีกมั๊ย บ่นๆกันมาว่าใจคอพ่ออาจารย์ท่านจะไม่ออกอะไรเล็กๆจิ๋วๆบ้างหรอเพราะบางอย่างห้อยคอก็หนักไปเด็กและผู้หญิงหมดสิทธิ์ห้อยแบบสวยๆ บางคนก็ว่าอยากได้ของชุดที่ร่วมบุญราคาเบากว่านี้หน่อย อันนี้ก็ติดตามไว้ ผมบอกได้คำเดียวว่าห้ามพลาด .....เพราะจะไม่มีอีกแล้ว เนื่องจากเป็นเครื่องมงคลที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างและเลี่ยมเก็บไว้มีขนาดเล็กเหมาะแก่การห้อยคอ ซ้ำแต่เดิมท่านยังพูดเสมอว่าวิชาชุดนี้แรงเกินไป เปรียบกับระเบิดก็เหมือนระเบิดปรมาณู จะไม่ทำอีกแล้ว ซึ่งก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่าท่านจะค้นเจอที่สร้างไว้สมัยรุ่นๆแถมเสกจนลืม ซ้ำยังเลี่ยมไว้อย่างดีพร้อมจะขึ้นคอกันทุกองค์"

    ก็จะเข้าเรื่องเกี่ยวกับมงคลอาถรรพ์ว่าทำยากอย่างไร พ่ออาจารย์ท่านว่าทำเสร็จเสกเสร็จต้องสำเร็จในเปลวอัคคี ชุบด้วยไฟ นั่นแหละกล่าวง่ายๆคือไฟเผาไม่ไหม้ แม้แต่ไฟยังทำอะไรไม่ได้ รอดออกมาจากกองไฟได้ ท่านถึงจะนำมาลงยางรักเสียวาระหนึ่ง ไม่ใช่เท่านั้นยังต้องมีพิธีกรรมอื่นๆอีกกว่าจะสำเร็จเช่นการเสกในป่าช้า ท่านว่าไม่ได้เอาคุณผีมาช่วยนะพิธีของเรา แต่เราทำคือสะกดข่ม ตามตำราว่าเสกขึ้นต้องเงียบทั้งป่า ต้องเก่งถึงขนาดสะกดป่าช้าได้ทั้งป่า และทำไปเรื่อยๆจนครบเจ็ดป่าช้าด้วย ถือว่าเป็นของที่น่าจับตามอง ทำยากจนพ่ออาจารย์ท่านออกปากว่าจะไม่ทำอีกแล้วเพราะว่าที่ยากนั้นไม่เพียงเนื้อหามวลสาร อานุภาพ แต่พิธีกรรมก็ไม่ใช่ของง่าย

    จะเป็นอะไรนั้นต้องติดตาม ซึ่งวันนี้จะเอาเกล็ดความรู้เกี่ยวกับศาสตราวุธที่ชื่อว่าศรพรหมมาสตร์มาลงไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าศรพรหมมาสตร์นั้นเป็นเทพศาสตราขั้นสูงที่มีอานุภาพแห่งการทำลายล้างสูงกว่าเทพอาวุธทั้งสี่ชนิดที่ใช้กำกับมีดหมอ ซึ่งศรพรหมมาสตร์เกี่ยวข้องอะไรกับเครื่องมงคลเล็กๆที่มีอานุภาพเสมอปรมาณูชิ้นนี้ เกี่ยวข้องเกี่ยวพันธ์กันอย่างไรทำไมเครื่องมงคลนี้ถึงเป็นตำนานของพ่ออาจารย์ที่ท่านสร้างด้วยอาถรรพ์วิชาก่อนตะกรุดมหาสะท้อนเสียอีก ห้ามหลาด บอกได้อย่างเดียวว่ามีชีวิตและจิตวิญญาณเป็นดั่งพยนต์ด้วย


    พรหมาสตร์ แปลว่า ศรแห่งพระพรหม เป็นศรที่พระพรหมสร้างขึ้น. ศรพรหมาสตร์เป็นศัตราวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ไม่มีสิ่งใดต้านทานได้ ตามคัมภีร์ปุราณะว่า มีแต่ไม้เท้าพรหมทัณฑ์ของฤๅษีวสิษฐ์เท่านั้นที่จะต้านอำนาจของศรพรหมาสตร์ได้ ส่วนรามเกียรติ์ฉบับรัชกาลที่ 1 กล่าวว่า ศรพรหมาสตร์สามารถล้างศรพรหมาสตร์ด้วยกันเองได้ ศรพรหมาสตร์นั้นเมื่อแผลงออก ก็เกิดเสียงสะเทือนเลื่อนลั่น [ผู้ใช้ศรสามารถบังคับให้แล่นไปสังหารศัตรูได้ดังใจแม้จะไม่เห็นกายศัตรูก็ตาม และยังอาจบันดาลเป็นลูกศรหรือศัตราวุธนานาชนิดกลาดเกลื่อนเต็มท้องฟ้าและพุ่งอย่างรวดเร็วไปพิฆาตหมู่ศัตรู ในรามเกียรติ์ฉบับรัชกาลที่๑ กล่าวถึง ศรพรหมาสตร์ที่อินทรชิตแผลงไป ดังนี้

    "จึ่งจับพรหมาสตร์ขึ้นพาดสาย หมายองค์พระลักษณ์รังสรรค์
    หน่วงน้าวเหนือคอเอราวัณ กุมภัณฑ์ก็ผาดแผลงไป
    บันดาลเป็นศรเกลื่อนกลาด ทำอำนาจพ่างพื้นแผ่นดินไหว"

    ในรามเกียรติ์อสูรสำคัญ เช่น กุมภกรรณ อินทรชิต และทศกัณฐ์ ต้องสิ้นชีวิตลงเพราะศรพรหมาสตร์ของพระราม


    เกี่ยวกับวิชาการสร้างเครื่องมงคลที่มีฤทธิ์ของศรพรหมมาสตร์นั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นสิ่งที่มีฤทธิ์อำนาจแห่งการทำลายล้างสูง และเหนือสิ่งอื่นใดท่านได้ลงกำกับเวทย์วิเศษที่พรหมมาสตร์ไว้อีกสามสถาน นอกจากนี้ท่านว่าอะไรก็ไม่เท่ากับคุณลักษณะ คุณลักษณะที่เสมือนกันย่อมส่งเสริมกันให้มีฤทธานุภาพทวีขึ้นอย่างลงตัว

    พรุ่งนี้มาติดตามพูดคุยลงลึกกันต่อนะครับ... ห้ามพลาด


    easter-fire-384602_960_720.jpg image.jpg
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,103
    ค่าพลัง:
    +16,527
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้เดี๋ยวจัดส่งของให้แล้วมาติดตามกันนะ จะทยอยลงรายละเอียดต่อ;)
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,103
    ค่าพลัง:
    +16,527
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่นวรัตน์ ET 7945 7660 1 TH
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,103
    ค่าพลัง:
    +16,527
    แก้วมหิงสา

    วันนี้ก็จะมาพูดกันต่อที่ค้างไว้ว่าควายอะไรที่พิเศษขนาดนั้น และจะได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับที่มาที่ไปของคำว่ากระบือประหาร

    ธนูพรหมมาสตร์แก้วมหิงสา(กระบือประหาร)
    ต่อจากที่ลงไว้เมื่อวานก็คือพญาควายที่กล่าวถึงนั่นเอง ซึ่งเชื่อว่ามีหลายท่านยังติดตามกันอยู่

    รายละเอียดต่างๆน่าจะพอทราบกันไปแล้วคร่าวๆ เริ่มจากสมัยก่อนนั้น พ่ออาจารย์ท่านทำควายพยนต์ขึ้นมาโดยใช้ยอดผง ยอดธาตุ ยอดทนสิทธิ์ มาผสมรวมกันก่อนจะปั้นเป็นพญาควาย ท่านว่าสามยอดนี้หมายถึงมีกำลังที่เป็นยอดในสามโลก

    ท่านนำควายของท่านที่เรียกว่าแก้วมหิงสานี้มาเสกเก็บไว้ใส่ธาตุตั้งวิญญาณผูกรูปนาม เชิญเทวดามาสถิตย์ในเขาทั้งสอง ขาทั้งสี่ ตาทั้งสอง รวมถึงอวัยวะมากมายตับไตไส้พุง ทำพิธีต่างๆทั้งชุบมหาอัคคี ปราบป่าช้าทั้งเจ็ด เสกเก็บเรื่อยมา ท่านว่าควายนี้ถึงจะเล็กแต่มวลสารก็มีอานุภาพมาก เรียกว่าเล็กแต่มีคุณมหาศาล

    พ่ออาจารย์ท่านเสกจนควายขยับได้ ท่านว่าลืมตามาทีแต่ละตัวไม่มีอยู่ที่เดิม ไม่รู้จะเรียกอย่างไรว่ามันเดินรึมันคลานดี ท่านว่ามันมีชีวิตกันเช่นนั้น ท่านตั้งใจแต่แรกว่าจะทำควายมงคลที่ใครบูชาจะดึงดูดโชคลาภวาสนาบารมีมาสู่ตัวตามตำรา

    ในชั้นแรกนั้นคงเป็นด้วยสมัยก่อนท่านยังร้อนวิชาอย่างมาก ท่านกล่าวว่าควายนี้จะดีเพียงเท่านั้นก็ไม่สม ต้องดียิ่งขึ้นไปอีกคือมีชีวิตจิตวิญญาณธาตุขันธ์บริบูรณ์ ซ้ำต้องมีกำลังฤทธิ์มาก

    พ่ออาจารย์ท่านว่าควายของฉันนั้นเป็นธนูชน ไม่ใช่ควายสามัญแต่เป็นควายทรงของพระขันทกุมารหรือพระอังคาร เป็นควายพาหนะของเทพกษัตริย์สงครามผู้ไร้พ่าย ควายเช่นนี้ดี ขลัง แรง ดุดัน แพ้ใครไม่ได้ ที่สำคัญคือซื่อสัตย์ต่อนายเป็นที่สุด

    ท่านตั้งใจไว้เช่นนี้จึงทั้งสร้างทั้งเสกควายชุดนี้มาอย่างดี เรียกว่าเป็นเครื่องมงคลยุคแรกสมัยแรกของท่านทีเดียว

    ต่อมาก็มีผู้ขอบูชาไป ท่านว่าเขาบอกเราว่าเดือดร้อนสาหัสต่างๆสุดที่จะพรรณา เราเห็นว่าควายเราเป็นกายสิทธิ์ซ้ำยังลงไว้ครบทุกด้าน ท่านว่าพิจารณาแล้วคงช่วยเขาให้พ้นภัยทั้งยังตั้งตัวตั้งฐานะได้จึงให้ไปบูชา

    พอได้ควายธนูชนของพ่ออาจารย์ไปคนๆนั้นก็มีฐานะเฟื่องฟูขึ้นอย่างรวดเร็วใส่ทองออกรถจนมีบ้านเป็นของตัวเอง ...แต่อนิจจาทว่า ควายธนูตัวนั้นกับกลับมาหาพ่ออาจารย์ อย่างน่าอัศจรรย์โดยตกลงอยู่บริเวณที่บูชาครูของท่าน

    พ่ออาจารย์ท่านกำหนดจิตดูจึงรู้บางอย่างว่ามีคนใช้ควายของท่านไปสร้างกรรมผูกเวรมาท่านจึงนิ่งไป ไม่นานคนๆนั้นที่อยู่ดีๆควายหายไปก็มาขอบูชาควายจากท่านใหม่ เพราะฐานะความเป็นอยู่เริ่มคลอนแคลนอย่างเสียมิได้ แต่ก็ไม่ได้พูดหรือสารภาพอะไรกับท่าน

    พ่ออาจารย์ท่านจึงหยิบควายตัวเดิมนั้นออกมาให้เขาดูพร้อมกับถามว่ายังจำได้มั้ย ท่านว่าหน้าเขาตอนนั้นทั้งตกใจทั้งฉงนสนเท่ห์ว่าควายนั้นเสด็จกลับมาหาพ่ออาจารย์ได้อย่างไร

    พร้อมกันนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงออกปากว่าชั้นรู้ เธอผิดครู ให้ไปกราบขอขมาเทพพรหมและครูบาอาจารย์เสีย พร้อมกับที่เขาสารภาพผิดว่านำควายไปอธิษฐานนึกถึงหน้าศัตรูเขาพร้อมแช่งชักหักกระดูกต่างๆ จนศัตรูเขานั้นล้มหายตายจากทีละคนๆ

    พ่ออาจารย์ท่านว่าบาปกรรมอะไรกับคนใจเดรัจฉานแต่นี้มีอะไรก็รับเอาไป แต่ควายนี้ท่านคืนให้ไม่ได้อีก เพราะนำไปใช้ผิดทางผิดครูเช่นนี้
    ต่อไปก็รับผลแห่งวิบากกรรมเอาเอง และตั้งแต่นั้นมาท่านจึงเรียกควายนี้ว่ากระบือประหาร

    หลังจากนั้นท่านจึงนำควายทั้งหมดใส่ขันครูปลุกเสกไว้หลายปีจนลืม พอนึกได้ก็นำควายมาทำวิชารวมกับตะกรุดธนูพรหมมาสตร์ที่พ่ออาจารย์ลงไว้อย่างพิศดารถึงสามสถาน

    ท่านว่าควายติดศรพรหมมาสตร์นี้ นอกจากอานุภาพเป็นเลิศปราบได้ทั้งมนุษย์ ยักษ์ คนธรรพ์ เพชรพญาธร เทวดา นาค ครุฑ มาร ภูติผี อสุรกาย ปีศาจ รากษส สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในสวรรค์ มนุษย์ บาดาลแล้วท่านทำเอาความหมายว่า ควายนี้เมื่อใช้งานต่อไปในสิ่งใดๆก็ดี ย่อมต้องสำเร็จทันใจนึก ด้วยอานุภาพของศรพรหมมาสตร์ที่พ้นสาย ท่านว่าอุปมาไว้ลูกศรที่แผลงไปไม่ย้อนคืนสายฉันใด ควายนี้ก็เช่นกัน ทุกอย่างที่ใช้และปรารถนา ทุกเรื่องย่อมสำเร็จโดยพลันไม่กลับสู่จุดเดิมเช่นนั้น

    เมื่อท่านผูกควายกับตะกรุดธนูพรหมมาสตร์เสร็จท่านก็สั่งให้นำไปเลี่ยมมาเก็บไว้แยกออกจากสิ่งต่างๆ จนท่านลืมไปในที่สุดว่ามีควายแก้วนี่อยู่ พ่ออาจารย์ท่านว่าได้ยินแต่เสียงขลุกขลักๆอยู่ในถุง พอค้นดูจึงรู้ว่าควายธนูเหล่านี้มันขยับเริงร่าฮึกเหิมกันจึงนึกได้ขึ้นมา

    ก็เป็นเรื่องคร่าวๆเกี่ยวกับควายธนูชุดแรกของพ่ออาจารย์ ท่านว่าท่านแผ่เมตตาขออนุญาติเทวดาตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของผู้ที่จะได้ครองครองควายแก้วแต่ละคนไว้ เนื่องจากควายมีเจ้าของทุกองค์ขอให้ได้ใช้กันในหมู่ผู้มีสติ เป็นสิ่งนำมาถึงซึ่งความเจริญรุ่งเรือง ไม่เบียดเบียนชีวิตใครเช่นที่มีคนเคยทำ ท่านว่าขอให้เค้าไปอยู่กับคนดี ถ้าคนไม่ดีแล้วขออย่าให้ได้เห็นแม่แต่เงาของพญาควายนี้

    ก็มาติดตามกันนะครับรายละเอียดของควายแก้วที่พ่ออาจารย์ท่านปั้นมือจะอัศจรรย์อย่างไร ตะกรุดธนูพรหมมาสตร์สามสถานที่พ่ออาจารย์กำกับคืออะไร ห้ามพลาด

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2017
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,103
    ค่าพลัง:
    +16,527
    อรุณสวัสดิ์นะครับ

    วันนี้ติดตามใครที่ชอบของแรงๆ ห้ามพลาด...
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,103
    ค่าพลัง:
    +16,527
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลทนสิทธิ์ธนูพรหมมาสตร์แก้วมหิงสา(กระบือประหาร)

    " วิชาชุดนี้แรงเกินไป เปรียบกับระเบิดก็เหมือนระเบิดปรมาณู จะไม่ทำอีกแล้ว ......ซึ่งก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่าท่านจะค้นเจอที่สร้างไว้สมัยรุ่นๆแถมเสกจนลืม ซ้ำยังเลี่ยมไว้อย่างดีพร้อมจะขึ้นคอกันทุกองค์ "

    พ่ออาจารย์ท่านเคยมีดำริและพูดถึงพญามหิงส์นี้ไว้อยู่เนืองๆ เหมือนสิ่งนี้ขาดหายไปจากความทรงจำของท่านว่ามันยังมียังดำรงค์อยู่ ท่านมักจะพูดถึงความยากของการรวบรวมมวลสาร พิธีกรรม ตลอดจนอานุภาพของเครื่องมงคลชุดนี้


    แก้วมหิงส์หรือพญาควายก็เรียก พ่ออาจารย์ท่านทำควายพยนต์นี้ขึ้นมาโดยใช้ยอดผง ยอดธาตุ ยอดทนสิทธิ์ มาผสมรวมกันก่อนจะปั้นเป็นพญาควาย ท่านว่าสามยอดนี้หมายถึงมีกำลังที่เป็นยอดในสามโลก ท่านว่าผงแต่ละอย่างล้วนแต่เป็นผงที่มีฤทธิ์ มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์โดยธรรมชาติ เป็นของเหนือโลกทั้งสิ้น ท่านว่าตอนนี้ถ้ามาถามฉันว่าผสมอะไรลงไปบ้างฉันก็คงตอบไม่ได้แล้วเพราะมันนานเต็มที แต่ฉันเชื่อว่าถ้าเป็นสมัยก่อนเธอมาถามฉันว่าผสมอะไร เธอต้องเอาสมุดมาหนึ่งเล่มนอนจดกับฉันเสียสามวันฉันจะทยอยเล่าทยอยบอกให้ฟัง เชื่อเถอะว่าสามวันนี้ก็ยังบอกไม่หมด เพราะกว่าจะหาได้ครบต้องเข้าป่าเดินนับสิบๆปี


    พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยก่อนนั้นมันร้อนวิชานะแล้วก็ลองทำ ยังไม่เคยทำอะไรเลยก็จะนำผงมานวดๆแล้วปั้นเอาไว้ ดังนั้นควายแต่ละตัวจึงไม่เหมือนกันนักหรอก สุดแต่จะนึกออกและปั้นออกมา หน้าตามันก็จะตลกๆหน่อยแต่มันก็ดูออกแหละว่าเป็นควาย ถ้าถามว่าแรงมั๊ยเรื่องความแรงนี่ก็คนละเรื่อง ท่านนำควายของท่านที่เรียกว่าแก้วมหิงส์นี้มาเสกเก็บไว้ใส่ธาตุตั้งวิญญาณผูกรูปนาม เชิญเทวดามาสถิตย์ในเขาทั้งสอง ขาทั้งสี่ ตาทั้งสอง รวมถึงอวัยวะมากมายตับไตไส้พุง ทำพิธีต่างๆทั้งชุบมหาอัคคี ปราบป่าช้าทั้งเจ็ด เสกเก็บเรื่อยมา ท่านว่าควายนี้ถึงจะเล็กแต่มวลสารก็มีอานุภาพมาก เรียกว่าเล็กแต่มีคุณมหาศาล


    แต่เดิมนั้นท่านตั้งใจแต่แรกว่าจะทำควายมงคลที่ใครบูชาจะดึงดูดโชคลาภวาสนาบารมีมาสู่ตัวตามตำรา ด้วยคงเป็นสมัยก่อนที่ท่านยังร้อนวิชาอยู่มาก ท่านกล่าวว่าควายนี้จะดีเพียงเท่านั้นก็ไม่สม ต้องดียิ่งขึ้นไปอีกคือมีชีวิตจิตวิญญาณธาตุขันธ์บริบูรณ์ ซ้ำต้องมีกำลังฤทธิ์มาก เรียกว่าคุ้มตัวได้ ท่านว่าวิชาควายธนูนี้ที่จริงมันมีมายาวนานนับพันปีทีเดียว ท่านว่าตอนนั้นคิดอยู่อย่างเดียวว่าจะทำของให้มันแรงๆ โดยใช้ตำรับทำควายทรงของพระขันธกุมารที่มีอาถรรพ์สูงสุดในวิชาควายทั้งปวงทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าควายของฉันนั้นเป็นธนูชน ไม่ใช่ควายสามัญแต่เป็นควายทรงของพระขันทกุมารหรือพระอังคาร เป็นควายพาหนะของเทพกษัตริย์สงครามผู้ไร้พ่าย ควายเช่นนี้ดี ขลัง แรง ดุดัน แพ้ใครไม่ได้ไร้พ่ายในที่ทุกสถาน ที่สำคัญคือซื่อสัตย์ต่อนายเป็นที่สุดนอกจากนั้นยังช่วยขจัดคุณไสยฝ่ายต่ำ พลังงานลบทั้งหลายซ้ำยังเป็นควายมงคลที่หาทรัพย์เก่งดึงดูวาสนาบารมีมาสู่ผู้ครอบครองท่านจึงเรียกว่าแก้วมหิงส์


    การทำแก้วมหิงสานั้นเมื่อปั้นทำเสร็จ เสกเสร็จ ต้องสำเร็จในเปลวอัคคี ชุบด้วยไฟ นั่นแหละกล่าวง่ายๆคือไฟเผาไม่ไหม้ แม้แต่ไฟยังทำอะไรไม่ได้ รอดออกมาจากกองไฟได้ ท่านถึงจะนำมาลงยางรักเสียวาระหนึ่งไม่ใช่เท่านั้นยังต้องมีพิธีกรรมอื่นๆอีกกว่าจะสำเร็จเช่นการเสกในป่าช้า ท่านว่าไม่ได้เอาคุณผีมาช่วยนะพิธีของเรา แต่เราทำคือสะกดข่ม ตามตำราว่าเสกขึ้นต้องเงียบทั้งป่า ต้องเก่งถึงขนาดสะกดป่าช้าได้ทั้งป่า และทำไปเรื่อยๆจนครบเจ็ดป่าช้าด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าไม่ใช่สมัยก่อนคงไม่เสียเวลาทำเพราะป่าช้าสมัยนั้นเฮี้ยนอย่างยิ่ง ถึงขนาดปราบป่าช้าได้ก็ไม่ต้องคิดถึงเรื่องคุ้มชีวิตคนแล้วมีหรือจะทำไม่ได้ ควายธนูชนนี้ทำยากมากจนพ่ออาจารย์ท่านออกปากว่าจะไม่ทำอีกแล้วเพราะว่าที่ยากนั้นไม่เพียงเนื้อหามวลสาร อานุภาพ แต่พิธีกรรมก็ไม่ใช่ของง่าย


    พ่ออาจารย์ท่านเสกจนควายขยับได้ ท่านว่าลืมตามาทีแต่ละตัวไม่มีอยู่ที่เดิม ไม่รู้จะเรียกอย่างไรว่ามันเดินรึมันคลานดี ท่านว่ามันมีชีวิตกันเช่นนั้นเสกแต่ละทีต้องเดินหาเดินเก็บ โดยท่านนำควายทั้งหมดใส่ขันครูปลุกเสกไว้หลายปีจนลืม พอนึกได้ก็นำควายมาทำวิชารวมกับตะกรุดธนูพรหมาสตร์ที่พ่ออาจารย์ลงไว้อย่างพิศดารถึงสามสถาน


    พรหมาสตร์ แปลว่า ศรแห่งพระพรหม เป็นศรที่พระพรหมสร้างขึ้น ศรพรหมาสตร์เป็นศัตราวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ไม่มีสิ่งใดต้านทานได้ ตามคัมภีร์ปุราณะว่า มีแต่ไม้เท้าพรหมทัณฑ์ของฤๅษีวสิษฐ์เท่านั้นที่จะต้านอำนาจของศรพรหมาสตร์ได้ ส่วนรามเกียรติ์ฉบับรัชกาลที่ 1 กล่าวว่า ศรพรหมาสตร์สามารถล้างศรพรหมาสตร์ด้วยกันเองได้ ศรพรหมาสตร์นั้นเมื่อแผลงออก ก็เกิดเสียงสะเทือนเลื่อนลั่น [ผู้ใช้ศรสามารถบังคับให้แล่นไปสังหารศัตรูได้ดังใจแม้จะไม่เห็นกายศัตรูก็ตาม และยังอาจบันดาลเป็นลูกศรหรือศัตราวุธนานาชนิดกลาดเกลื่อนเต็มท้องฟ้าและพุ่งอย่างรวดเร็วไปพิฆาตหมู่ศัตรู ในรามเกียรติ์ฉบับรัชกาลที่๑ กล่าวถึง ศรพรหมาสตร์ที่อินทรชิตแผลงไป ดังนี้
    "จึ่งจับพรหมาสตร์ขึ้นพาดสาย หมายองค์พระลักษณ์รังสรรค์
    หน่วงน้าวเหนือคอเอราวัณ กุมภัณฑ์ก็ผาดแผลงไป
    บันดาลเป็นศรเกลื่อนกลาด ทำอำนาจพ่างพื้นแผ่นดินไหว"
    ในรามเกียรติ์อสูรสำคัญ เช่น กุมภกรรณ อินทรชิต และทศกัณฐ์ ต้องสิ้นชีวิตลงเพราะศรพรหมาสตร์ของพระราม

    ตะกรุดธนูพรหมาสตร์นี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างขึ้นโดยขอความอนุเคราะห์จากองค์มหาพรหมธาดา โดยท่านได้นำแผ่นเงินมาขึ้นรูปศรพรหมาสตร์ลงอักขระพระเวทย์สำคัญกำกับ ท่านว่าศรพรหมมาสตร์นั้นเป็นศรสำคัญ หลายคนคิดเพียงแต่ว่าเป็นโคตรอาวุธทำลายล้าง ซึ่งก็ไม่ผิดแต่ที่จริงแล้วเค้าเป็นศรสารพัดนึก ด้วยมีอำนาจการสร้างสรรค์ของพระบรมบิดาพรหมเทพจะแผลงออกไปเป็นอะไรก็ได้ตามใจผู้แผลง แผลงเมื่อไหร่ต้องได้เรื่อง ทุกกิจต้องจบสิ้นอย่างรวดเร็ว

    โดยพ่ออาจารย์ท่านสร้างตะกรุดธนูพรหมาสตร์นี้โดยกำกับนะไตรภพไว้ที่ลูกศร ท่านว่าศรนี้จะสอยสิ่งใดก็ได้ทั้งสิ้นตระเวณไปได้ในโลกทั้งสามตามแต่ใจผู้ใช้จะปรารถนา จะใช้สอยหรือใช้ทำลาย สิ่งเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณธรรมกำกับจิตใจผู้ใช้ ใช้สอยโชคลาภ ใช้สอยนางฟ้า ใช้อะไรก็สุดแต่จะใช้แต่อย่านำไปทำลายชีวิตใครก็พอ เพราะลำพังเทพศาสตราเล่มนี้พกไว้เฉยๆก็ได้ชื่อว่ามีอานุภาพเหลือประมาณแล้ว โดยพ่ออาจารย์ท่านลงไว้อย่างพิศดารถึงสามสถานได้แก่ กำจัด ดับ ทำลาย อันเป็นคุณลักษณะของพรหมาสตร์ให้ศรนี้มีฤทธานุภาพสูงสุด ท่านว่าคุณลักษณะทั้งสามนี้ไม่จำเป็นท่านก็ไม่อยากพูดถึงเพราะแรงได้เรื่อง
    - กำจัด หมายถึง การขับไล่, การปราบ, การทำให้สิ้นซากไป
    - ดับ หมายถึง การทำให้หมดสิ้นและสูญสิ้นไป ไม่สามารถดำรงค์สถานะไว้ได้อีก
    - ทำลาย หมายถึง การทำให้แตกหัก เสียหาย พังทลายลง
    แต่หากถามว่ารู้ว่าแรงทำไมถึงทำ ท่านว่าที่ทำก็เพราะจะทำมหาธนูพรหมาสตร์ยอดธนูเอกของไตรภพ ยอดอาวุธของท้าวมหาพรหมไม่ใช่ธนูนกกระจิบ จะให้ทำเล่นๆไม่สมเกียรติยศก็ไม่ได้ ด้วยอานุภาพสามสถานะ คือ กำจัด ดับ ทำลาย ของศรเอกพรหมาสตร์นี้ จึงได้ชื่อว่าเป็นยอดศาสตราวุธที่เหนือกว่าเทพศาสตราใดๆในไตรภพ มีอานุภาพเสมอด้วยตรีศูลปินากะของพระศิวะ จักรสุทรรศน์ของพระนารายณ์เลยทีเดียว


    พ่ออาจารย์ท่านได้นำควายธนูชนนี้ มาพันไว้กับตะกรุดธนูพรหมาสตร์ด้วยสายสิญจน์ที่ท่านใช้ล้อมขันครูของท่าน ท่านว่าแรงเห็นเป็นเชือกขาวๆแบบนี้แต่ก็แรงเปี่ยมด้วยฤทธิ์แรงครูยิ่งนัก ท่านว่าควายติดศรพรหมาสตร์นี้ นอกจากอานุภาพเป็นเลิศปราบได้ทั้งมนุษย์ ยักษ์ คนธรรพ์ เพชรพญาธร เทวดา นาค ครุฑ มาร ภูติผี อสุรกาย ปีศาจ รากษส สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในสวรรค์ มนุษย์ บาดาลตามฤทธิ์ของควายธนูชนราชพาหนะของเทพกษัตริย์สงครามและฤทธิ์ของศรพรหมาสตร์แล้ว ทั้งนี้ท่านยังทำเอาความหมายว่า ควายนี้เมื่อใช้งานต่อไปในสิ่งใดๆก็ดี ย่อมต้องสำเร็จทันใจนึก ด้วยอานุภาพของศรพรหมมาสตร์ที่พ้นสาย ท่านว่าอุปมาไว้ลูกศรที่แผลงไปไม่ย้อนคืนสายฉันใด ควายนี้ก็เช่นกัน ทุกอย่างที่ใช้และปรารถนา ทุกเรื่องย่อมสำเร็จโดยพลันไม่กลับสู่จุดเดิมเช่นนั้น ศรพรหมาสตร์แผลงได้เรื่องทุกคราวฉันใด ควายที่ขี่ไว้บนศรพรหมาสตร์ใช้งานอะไรก็วิ่งได้ทันใจฉันนั้น


    เมื่อท่านผูกควายกับตะกรุดธนูพรหมมาสตร์เสร็จท่านก็สั่งให้นำไปเลี่ยมมาเก็บไว้แยกออกจากสิ่งต่างๆ จนท่านลืมไปในที่สุดว่ามีควายแก้วนี่อยู่ พ่ออาจารย์ท่านว่าได้ยินแต่เสียงขลุกขลักๆอยู่ในถุง พอค้นดูจึงรู้ว่าควายธนูเหล่านี้มันขยับเริงร่าฮึกเหิมกันจึงนึกได้ขึ้นมา


    พ่ออาจารย์ท่านนำควายธนูชนนี้ออกมานับดูเห็นว่าเหลืออยู่ทั้งหมด 7 ตน ท่านว่าควายรุ่นนี้ดี เล็กแต่รสโต ควายสูตรนี้ทำยากหมดแล้วก็จบไปเพราะทำไม่ได้อีก จะห้อยคอห้อยเอวก็ได้ทั้งสิ้น ใช้ปราบ กัน แก้ หาลาภ นำความรุ่งเรืองได้ดี ท่านว่าก่อนจะนำออกให้บูชานี้ท่านแผ่เมตตาขออนุญาติเทวดาตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของผู้ที่จะได้ครองครองควายแก้วแต่ละคนไว้ เนื่องจากควายมีเจ้าของทุกองค์ขอให้ได้ใช้กันในหมู่ผู้มีสติ เป็นสิ่งนำมาถึงซึ่งความเจริญรุ่งเรือง ไม่เบียดเบียนชีวิตใครเช่นที่มีคนเคยทำ ท่านว่าขอให้เค้าไปอยู่กับคนดี ถ้าคนไม่ดีแล้วขออย่าให้ได้เห็นแม่แต่เงาของพญาควายนี้


    คาถาบูชา (แบบสั้นใช้ภาวนาได้ตลอด โอมนะยอ มหานะยอ)
    โอม ปู่เจ้าสมิงพราย ปู่เจ้ากำแหงให้กูมาทำควายธนู กูจักเชิญพระอิศวรมาเป็นตาซ้าย กูจักเชิญพระอาทิตย์มาเป็นตาขวา กูจักเชิญพระนารายณ์มาเป็นเขา กูจักเชิญพระอินทร์เจ้าเข้ามาเป็นหาง กูจักเชิญพระพุทธคีเนตร์พระพุทธคีนายมาเป็นสีข้างทั้งสอง กูจักเชิญพระจตุโลกบาลทั้งสี่มาเป็นตีนสี่เท้า กูจักเชิญผีทั้งหลายมาเป็นตับไตไส้พุง โอมพญาควายกูนี้ตัวใหญ่หลวงนัก เขาเป็นทองสิงคี เป็นใหญ่กว่าควายธนูทั้งหลาย กูจะเอาชนะผีตายโหง ตายห่า ตายท้องกลม ตายไม่ดี ตลอดจนผีป่า เสือ หมี ผีกะ ปอบ เปรต แลยักษียักษาทั้งหลาย จะให้มึงตายก็ตาย พ่อควายกูเอ๋ย จงตื่น จงลุก จงวิ่งสวาหะ นะมะพะทะ นะมะพะทะ สวาหะ สวาหะ นะมะสะตีตินัง โยโสภะคะวายัง มะอะอุ (อธิษฐานได้ทุกสิ่ง)

    * มงคลทนสิทธิ์ธนูพรหมมาสตร์แก้วมหิงสานี้ พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ได้ทั้งหมดเจ็ดตน สำหรับท่านที่จะบูชาให้แจ้งไว้เฉพาะทาง PM เท่านั้น พร้อมกับบอกชื่อนามสกุลไว้ด้วย เนื่องจากพ่ออาจารย์ท่านจะทำการบอกกล่าวเป่าคาถากำกับให้เป็นการเฉพาะคนต่อไป รายได้จากการบูชาท่านจะนำไปร่วมทำบุญปูพื้นพระอุโบสถให้วัดในถิ่นทุรกันดารสืบไป


    ร่วมทำบุญบูชา มงคลทนสิทธิ์ธนูพรหมมาสตร์แก้วมหิงสา(กระบือประหาร) บูชา 3,000 บาท


    easter-fire-384602_960_720.jpg image.jpg SAM_5445.jpg SAM_5443.jpg SAM_5444.jpg hqdefault.jpg art_539664.jpg 17c415_cc57eb2aa44a4dd4ac12690810f318a8.jpg_srb_p_630_484_75_22.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2017

แชร์หน้านี้

Loading...