ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จทะลวงขั้นชำระรากปมกรรมห้วงภพ(สมดุลย์กลาง) พ่ออาจารย์พล

ชุดผงอังคารธาตุนี้สำหรับคนที่ไม่ทันชุดหลัก เป็นพระที่ไม่ได้ฝังอะไรแต่ก็กดพร้อมกันจากมวลสารเดียวกันท่านว่าใช้อาราธนาได้เลย ท่านให้เก็บไว้ห้อยคอตนเองหรือบุตรหลานได้ทั้งสิ้นเพราะมวลสารหัวชนวนล้วนๆนั้นท่านเทหมดเลย

*** อย่าประมาทเพราะชุดอังคารธาตุนี้ก็มีน้อยมากเช่นกัน

 

ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพุทธฉายพระเจ้าเงื้อมง้ำสวรรค์(บุญหนักศักดิ์ใหญ่อิทธิพลมหายักษา)

ตะกรุดพุทธฉายนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าขึ้นอยู่กับใจเธอเลยว่าจะฉายออกมาให้ฉากเรื่องราวชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลงไปทางไหนอย่างไร เป็นอะไรพอตะกรุดอยู่ในกายเราเท่ากับพุทธฉายทับเงาซ้อนเข้ากับเงาเราเป็นการเปิดพลังแฝงในกายเรา
- แม้แต่ดวงวาสนาที่ไม่เคยมีในชะตามาก่อน
- แม้แต่พลังแฝงใดๆที่ไม่มีในกายตน
- แม้ความสัมพันธ์ใดที่ไม่มีบุพเพมาแต่เดิม

ท่านว่านี่แหละสำคัญวิชาพุทธฉายให้อธิษฐานให้ดีๆจะฉายด้านไหนสิ่งใดเข้าสู่ชีวิตตนเองก็ทำได้ทั้งนั้นจะฉายให้ประทานทรัพย์สมบัติโชคลาภ..หรือจะปรารถนาในอำนาจวาสนา..หรือความเจริญรุ่งเรืองรวดเร็ว..หรือความก้าวหน้าในยศฐาบรรดาศักดิ์..หรือจะเป็นความมั่งคั่งที่มากับโชคดีแบบประหลาดๆ..อธิษฐานเอาเถิด *** แม้บุญเก่าส่งผลน้อยหรือทำมาน้อยก็ดีแต่พุทธฉายทับตัวอยู่พ่ออาจารย์ท่านว่าย่อมไม่ต่างกับตัวเธอมีบุญญาธิการสูงส่งโดยกำเนิดเช่นนั้นเลย ตรงนี้สำคัญมากเพราะบุญญาธิการสูงส่งนี้ย่อมเหนี่ยวนำพลังงานมงคลทุกทางทั้งหมดเข้ามาเป็นสภาวะค้ำจุนเธอได้ บุญญาธิการนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามาพร้อมกับความสมบูรณ์แบบทุกสิ่ง..ทุกอย่างต้องมีครบหมดและทุกหนทางของชีวิตต้องเปิดทั้งหมด เช่นนี้ท่านจึงว่าพุทธฉายของเรานี้ใช้เปิดพลังแฝงแม้แต่สิ่งไม่มีก็ยังให้เกิดขึ้นเป็นศักยภาพของเธอได้ทำให้เวลาต่อจากนี้เธอย่อมถึงซึ่งการเป็นคนมีบุญหนักศักดิ์ใหญ่

1. ให้ชีวิตเล็กๆ..ได้เติบโตดั่งยักษา
2. ให้พลังแฝง..เกิดขึ้น
3. ให้งานเล็กๆที่ทำ..โตขึ้น
4. ให้ธุรกิจเล็กๆที่ทำ..ขยายตัว
5. ให้ฐานะที่ชนเพดาน..ได้ขยับขยายตัวออก
6. ให้ความสัมพันธ์เพียงเล็กน้อย..ส่งผลมาก
7. ให้การลงทุนเพียงเล็กน้อย..ได้รับผลตอบแทนมาก
พ่ออาจารย์ท่านว่าตัวเราจะใหญ่ขึ้น(คือโตมาก) สิ่งที่ทำจะขยายตัวไปพร้อมฐานะและวาสนาของเรา วิชานี้สำคัญมากหยิบจับสิ่งใดขยายผลให้ใหญ่ขึ้น..ได้รับการตอบแทนสูงสุดทั้งหมด

อุปมาว่าชีวิตเธอจากที่หยุดเติบโตไปแล้ว(หยุดชะงักแล้ว,ตันแล้ว)มันจะโตต่อไปเรื่อยๆ..และยังเป็นการโตขึ้นตลอดเวลาแบบไม่หยุดพักหายใจ หากเราตั้งใจเอาตะกรุดติดตัวไว้ทุกอย่างจะขยายตัวหมด
- แม้จะเป็นธุรกิจก็ขยายตัว
- การลงทุนก็ขยายตัว
- ความสัมพันธ์ก็ขยายตัว
- ผลตอบแทนก็ขยายตัว
- กำไรก็ขยายตัว
- ฐานะหน้าที่ก็ขยายตัว..ดั่งว่าพ้นวิสัยของมนุษย์
***** อิทธิคุณแฝดซึ่งมาพร้อมกับการขยายตัวให้เธอโตแบบต่อเนื่องก็คือการหมดไปของปัญหาทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติงานยิ่งใหญ่..ความเสี่ยงยิ่งมาก..แม้ปัญหาก็ใหญ่มากตามไปด้วย แต่ตะกรุดนี้ตรงข้ามกันคือยิ่งงานใหญ่ยิ่งตัวเราเติบโตขึ้นมากปัญหาทั้งหลายก็จะหายไปมากขึ้นๆจนกลายเป็นไม่มีปัญหา

พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ใช้ตรงตัวก็คือ "เปลี่ยนความเจริญคนให้โตดุจยักษ์" ..แต่เราไม่ได้ไปเปลี่ยนวิสัยเผ่าพันธ์หากแต่กลับเป็นพุทธคุณที่ขยายชีวิตดั่งคนตัวเล็กๆได้เติบโตดุจมหายักษา..ดุจพระเจ้าเงื้อมง้ำสวรรค์ เช่นกาลหนึ่งที่พระตถาคตเจ้าและเหล่ามหาพรหมมองลงมายังอสุรินทรราหูดุจมองดูมดปลวกตัวเล็กๆ(ท่านว่าสูงใหญ่เติบโตรวดเร็ว) วิชานี้เน้นสงเคราะห์ให้ชีวิตเราสูงง้ำเกินวาสนาฐานะปัจจุบันพ่ออาจารย์ท่านว่าก็สูงพุ่งทะยานเกินปกติไปมากผิดหูผิดตาไม่ว่าจะคิดอ่านทำการสิ่งใดก็มีแต่ขยายออกและขยับขยายได้รวดเร็วเกินกว่าความรู้ความสามารถตนเอง

ด้วยเหตุว่าตะกรุดนี้เป็นเครื่องดึงทั้งพลังแฝงและศักยภาพที่ตกตะกอนซุกซ่อนหลบเลี่ยงอยู่ในกายตน ท่านว่าจะดึงและเอามันออกมาได้ปกติต้องใช้พลังจิตที่ฝึกมาอย่างดีหรือพลังงานธรรมชาติเข้ามาปรับเปลี่ยนจึงจะดึงออกมาใช้ได้ ดั่งชีวิตเรามีเงาแต่เราไม่รู้จักใช้เงาท่านว่าคนก็เช่นนี้ในตัวเองย่อมมีพลังแฝงและศักยภาพต่างๆซ่อนอยู่มากมายแต่ไม่รู้จักหยิบมาใช้จำต้องไปหยิบยืมสิ่งอื่นไกลตัวบางคนแม้ตายไปแล้วก็ยังใช้ไม่ได้
- บางคนเกิดมาดวงชะตารุ่งโรจน์ แต่ชีวิตจริงทำได้แค่ถูๆไถๆไปวันๆ
- บางคนเกิดมามีดวงวาสนาโชคลาภพร้อมบริบูรณ์ แต่พอเสี่ยงดวงเอาไม่ได้ไม่เคยถูก
พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเหล่านี้เขาแค่เดินผิดทางและไม่สามารถปลุกพลังแฝงและดวงชะตาของเขาขึ้นมาได้..แม้เดือนไหนดวงมาดวงดีก็ยังเอาไม่ได้ซักครั้ง แต่กลับกันบางคนดวงไม่มีเลยมาอยู่ใกลๆตัวเรากลับกลายเป็นคนโชคดีมีความสำเร็จทำสิ่งใดเห็นผลถูกหวยเอาๆทุกงวดทำอะไรเสี่ยงๆเล่นๆก็ฟลุ๊คมีฟลุ๊คได้(จนเราอดคิดไม่ได้ว่านั่นมันดวงชะตาเราตอนนี้นี่น่า)

พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นมั๊ยคนเหล่านี้ถึงไม่มีแต่เขาปลุกดวงปลุกวาสนาโชคลาภสร้างพลังของตนเองขึ้นมาได้ จากคนที่มีดวงก็คว้าไม่ได้..หมดดวงก็ยังปลุกพลังสร้างวาสนาหนทางตนไม่ได้..ให้สามารถสร้างหนทางปลุกพลังในตัวเอง บังคับให้เอามาได้ให้เกิดขึ้นมาได้ ท่านว่าในตัวคนนั้นมีพลังแฝงมีพลังอยู่ในตัวเองทุกคน..เพียงแต่เราต้องกระตุ้นให้มันเกิดและสถิตย์อยู่กับเราเท่านั้นตะกรุดพุทธฉายนี้เองที่เป็นเครื่องปลุกเครื่องกระตุ้นพลังแฝงในตัวเราให้ทำเรื่องที่ผิดหวังมาตลอดให้ประสบความสำเร็จได้

ด้วยอำนาจพุทธคุณนั้นจะทำให้เธอเจริญเติบโตขึ้นได้แบบรวดเร็ว อุปมาดั่งมนุษย์สูงขึ้นเป็นยักษานั่นแหละเรียกว่าสูงได้..ยังโตได้อีก..โตได้พ้นเผ่าพันธ์มนุษย์ด้วยกันไปอีกไกล..เกินตัวเกินไปมากกว่าวาสนาชีวิตแต่เดิมมาก "ดั่งคนอื่นเขามีพิกัดความเจริญอยู่แค่ระดับมนุษย์ แต่เธอพิกัดจะเปิดกว้างขยับขยายให้สูงได้ดุจพญายักษ์" พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดดอกนี้มันไม่ได้แค่ปลุกพลังแฝงเท่านั้นนะเพราะมันมีพลังเยอะมากมันสามารถบังคับให้อำนาจวาสนาในตัวที่ปิดกั้นอยู่เกิดขึ้นได้โดยง่าย ท่านให้พกไว้เพื่อดึงพลังในตัวออกมาสงเคราะห์ตัวเองตลอดเวลา

### พุทธฉายพระเจ้าเงื้อมง้ำสวรรค์จะนำมาซึ่งอำนาจวาสนาที่ยิ่งใหญ่..ดุจเราเกิดมาเต็มเปรี่ยมด้วยบุญญาธิการมีศักดิ์มีบุญบารมีสูง ตะกรุดนี้ต่อให้ไม่ต้องห้อยติดตัวแต่เพียงวางไว้ในบ้านหรือในที่ซึ่งเราใช้ชีวิตกินอยู่หลับนอนก็ดีก็ยังให้ผลส่งมาถึงตัวเราได้หากเราอธิษฐานไว้ท่านว่าแม้ไม่อยู่กับตัวเแต่ตัวเธอจะมีโชคลาภเงินทองไม่ขาดมือเลย ต่อให้ไม่พกติดตัววางไว้กับบ้านแต่ตื่นมาว่าคาถายกมือไหว้กับก่อนนอนว่าคาถายกมือไหว้อีกรอบชีวิตก็ยังรุ่งโรจน์ไม่ตกต่ำ พ่ออจารย์ท่านว่าถ้าเพียงแค่ปรารถนาให้ชีวิตตัวเองรุ่งโรจน์เพราะทุกอย่างพอใจแล้วรู้สึกว่าเกิดมามีมากพอแล้วก็เอาไว้ติดบ้านเพียงไหว้เช้าเย็นเพียงเท่านั้นก็เกินพอ พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้สำคัญมากเพียงไหว้อธิษฐานเช้าเย็นไม่ติดตัวก็ยังทำให้เธอมีชีวิตที่อุดมสมบูรณ์ขึ้นมาได้
- อำนาจของตะกรุดพุทธฉายนี้จะสาดส่องตัวเราทั้งกลางวันและกลางคืน
- อำนาจของตะกรุดพุทธฉายนี้จะปรากฏแก่เราทั้งในยามตื่นและยามหลับไร้สติถือครอง
ทุกอย่างคืออุดมสมบูรณ์ทั้งหมด(ในกรณีคนที่เอาใส่พานวางไว้บูชาเฉยๆ) ทุกอย่างอุดมสมบูรณ์ดีการเงินก็ดี,การงานก็ดี,บริวารก็ดี,คู่ครองก็ดี,คุณภาพชีวิตก็ดี..

1.หากปรารถนาชีวิตที่ทำอะไรไม่ติดขัด
2.หากปรารถนาให้ชีวิตไม่มีอุปสรรคแม้แต่น้อย
3.หากปรารถนาให้ชีวิตรอดจากอบายภูมิต่างๆ
4.หากปรารถนาไม่ให้ดวงชะตาตัวเอง..พาตัวเองไปเจอมิตรร้าย
5.หากปรารถนาไม่ให้ดวงชะตาตัวเอง..พาตัวเองไปหาความตกต่ำ
6.หากปรารถนาไม่ให้ดวงชะตาตัวเอง..พาตัวเองไปเรื่องผิดหวัง
7.หากปรารถนาไม่ให้ดวงชะตาตัวเอง..พาตัวเองไปในทางที่ไม่ดี
8.หากปรารถนาไม่ให้ดวงชะตาตนเอง..พาตัวเองไปเจอเรื่องร้าย
พ่ออาจารย์ท่านว่าพุทธฉายนี้ปิดวงจรทุกอย่าง จริงๆตะกรุดนี้ไม่มีข้อห้ามเลย *** แต่ท่านว่าหนักเบาก็ระลึกเอาอะไรที่มันเลวมันไม่ดีก็อย่าไปทำ เพราะจริงๆตะกรุดนี้คนใช้สำเร็จหมดเลยแม้แต่คนเลวใช้ก็สำเร็จ..จะเอาไปปล้นไปฆ่าใครก็ไม่มีข้อห้าม ท่านจึงอธิษฐานกำกับมาเสมอว่าให้คนที่ใจมีมโนธรรมจิตสำนึกได้ไปส่วนคนที่จิตอาฆาตพยาบาทรุนแรงอย่าได้นำไปเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเลวกับคนทำผิดนี่ไม่เหมือนกันอย่างตะกรุดนี้เอาไปขอไปอธิษฐานบางอย่างถ้าจำเป็นถึงจะเป็นเรื่องผิดๆก็ยังได้ผลแต่ถ้าเลวในจิตสำนึกอันนี้ไม่ได้เลยเพราะคนถือใช้อะไรทำอะไรก็สำเร็จหมด

วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่า
..ให้คนที่ชีวิตเขาต้องการโชคลาภเงินทองจริงๆได้ใช้
...ให้คนที่ชีวิตเขาต้องการความรักแท้จริงได้ใช้
..ให้คนที่ชีวิตเขาเจอเรื่องซวยๆในโชคชะตาได้ใช้
ท่านว่าเราแนะนำ แม้กับคนที่โดนข่มจากคนก็ดี,สถานที่ก้ดี,สิ่งอาถรรพ์ก็ดี,อำนาจที่มองไม่เห็นแต่รู้สึกได้(หรือรู้สึกไม่ได้ก็ดี) ท่านว่ากับคนที่โดนข่มโดนกระทำมาหนักๆเลยนะให้ใช้ตะกรุดนี้มันจะช่วยได้ดีๆหวังผลเลยก็แปดสิบเปอร์เซ็นต์ที่เหลือขวนขวายเอาอีกเล็กน้อย และชีวิตคนที่ติดขัดมากๆก็อีกอย่างหนึ่งคือจับงานหาแนวทางอะไรก็ติดขัดไปหมด คิดสิ่งใดพอดำเนินการไปความติดขัดมารอแล้ว 1,2,3..ไม่ราบรื่นพ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ช่วยได้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะการติดขัดในดวงชะตาตนเองและเรื่องเงินทองท่านว่าจะรอดได้ทั้งหมด

*** ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าลงยากมากเพราะต้องนั่งจารให้ตรงกับเงาพระเจ้าซ้อนทับกันในฤกษ์ยามกำหนด ท่านจึงทำเก็บไว้ได้ 6 ดอกและนำมาพอกลงวิชาพระเจ้าง้ำสวรรค์(ท่านว่าเป็นเครื่องมงคลที่แรงมาก)เปลี่ยนอิทธิพลในชีวิตคน..จากมดปลวกให้โตเป็นยักษ์ได้

วิธีใช้
- ให้เอาตะกรุดแช่น้ำและใช้มือที่ตัวเองถนัดที่สุดวักน้ำนั้นลูบหน้า(เป็นเคล็ดว่าทุกอย่างเข้าทางถนัดได้มาง่ายๆได้มาคล่องๆ)
- เอามือข้างที่ถนัดนั้นวักน้ำแช่ตะกรุดมาลูบมืออีกข้างหนึ่ง *** พ่ออาจารย์ท่านว่ามือคนเรามีลายมือมีโชคชะตาทั้งหมดน้ำผ่านมือเท่ากับผ่านโชคชะตาเราด้วย และใช้้น้ำนั้นล้างมืออีกข้างหนึ่งทำให้ตัวเราเปิดรับทุกๆสิ่งมีแต่รับเข้าอย่างเดียว(จะรับอะไรให้ตั้งจิตอธิษฐานไม่งั้นก็จะได้แบบกว้างๆ)
- เอาถ้วยมาตั้งเทียนใส่น้ำนำตะกรุดแช่ไว้ จุดเทียนว่าคาถา 9 รอบแล้วอธิษฐานทิ้งไว้ 24 ชั่วโมงปรารถนาสิ่งใดสัมฤทธิ์แล
- แม้จะบนบานกับตะกรุด ให้บนด้วยข้าวตอกดอกไม้สีขาว(เมื่อสมหวังจุดเทียนขาวบูชาคุณพระตถาคต)
- สวดคาถาตะกรุดใช้อาราธนาตะกรุดลดเคราะห์ได้ ท่านว่าเคราะห์หามยามร้ายใดต้องตัวเธอแล้วให้ท่องคาถาคู่กับตะกรุดนี้เคราะห์นั้นหายสิ้น

คาถาบูชา
(มอบให้เฉพาะผู้ถือครอง)

*** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเราตั้งใจสร้างให้ออกมาเป้นตะกรุดดอกเล็กที่สุดแต่ก็ได้เพียงเท่านี้ตก 2.5 - 3 นิ้ว(เพื่อให้ง่ายต่อการพกพา) ท่านว่าตะกรุดชุดนี้ทำยากและเสกหลายปีครูบรมพรหมท่านไม่ให้ลงรายละเอียดมาก ท่านจึงให้ลงวิธีใช้และรายละเอียดคร่าวๆเท่านั้น

ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพุทธฉายพระเจ้าเงื้อมง้ำสวรรค์(บุญหนักศักดิ์ใหญ่อิทธิพลมหายักษา) บูชา 4,000 บาท

​

 

พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ครูบรมพรหมท่านให้ทำครั้งเดียว ด้วยเป็นสิ่งต้องห้ามที่ทำเป็นสารธารณะไม่ได้เด็ดขาด (หรือเอาไปทำผงผสมเครื่องมงคลให้มีมากๆก็ไม่ได้เลย ..พ่ออาจารย์ท่านว่าครูท่านห้ามและมีโทษหนัก)

*** ดั่งว่าจากมดปลวกเป็นยักษา คนมีวาสนาเช่นนี้ย่อมมีปรากฏได้ไม่มากนัก

 

ร่วมทำบุญบูชา มงคลทนสิทธิ์ธนูพรหมมาสตร์แก้วมหิงสา(กระบือประหาร)

" วิชาชุดนี้แรงเกินไป เปรียบกับระเบิดก็เหมือนระเบิดปรมาณู จะไม่ทำอีกแล้ว ......ซึ่งก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่าท่านจะค้นเจอที่สร้างไว้สมัยรุ่นๆแถมเสกจนลืม ซ้ำยังเลี่ยมไว้อย่างดีพร้อมให้พกใช้งานทุกตัว "

พ่ออาจารย์ท่านเคยมีดำริและพูดถึงพญามหิงส์นี้ไว้อยู่เนืองๆ เหมือนสิ่งนี้ขาดหายไปจากความทรงจำของท่านว่ามันยังมียังดำรงค์อยู่ ท่านมักจะพูดถึงความยากของการรวบรวมมวลสาร,พิธีกรรม,ตลอดจนอานุภาพของเครื่องมงคลชุดนี้

แก้วมหิงส์หรือพญาควายก็เรียก พ่ออาจารย์ท่านทำควายพยนต์นี้ขึ้นมาโดยใช้
- ยอดผง
- ยอดธาตุ
- ยอดทนสิทธิ์
มาผสมรวมกันก่อนจะปั้นเป็นพญาควาย ท่านว่าสามยอดนี้หมายถึงมีกำลังที่เป็นยอดในสามโลก ท่านว่าผงแต่ละอย่างล้วนแต่เป็นผงที่มีฤทธิ์,มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์โดยธรรมชาติ,เป็นของเหนือโลกทั้งสิ้น ท่านว่าตอนนี้ถ้ามาถามฉันว่าผสมอะไรลงไปบ้างฉันก็คงตอบไม่ได้แล้วเพราะมันนานเต็มที แต่ฉันเชื่อว่าถ้าเป็นสมัยก่อนเธอมาถามฉันว่าผสมอะไร เธอต้องเอาสมุดมาหนึ่งเล่มนอนจดกับฉันเสียสามวันฉันจะทยอยเล่าทยอยบอกให้ฟัง เชื่อเถอะว่าสามวันนี้ก็ยังบอกไม่หมด เพราะกว่าจะหาได้ครบต้องเข้าป่าเดินนับสิบๆปี

พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยก่อนนั้นมันร้อนวิชานะแล้วก็ลองทำ ยังไม่เคยทำอะไรเลยก็จะนำผงมานวดๆแล้วปั้นเอาไว้ ดังนั้นควายแต่ละตัวจึงไม่เหมือนกันนักหรอก สุดแต่จะนึกออกและปั้นออกมา หน้าตามันก็จะตลกๆหน่อยแต่มันก็ดูออกแหละว่าเป็นควาย ถ้าถามว่าแรงมั๊ยเรื่องความแรงนี่ก็คนละเรื่อง ท่านนำควายของท่านที่เรียกว่าแก้วมหิงส์นี้มาเสกเก็บไว้ใส่ธาตุตั้งวิญญาณผูกรูปนาม
- เชิญเทวดามาสถิตย์ในเขาทั้งสอง
- เชิญเทวดามาสถิตย์ในขาทั้งสี่
- เชิญเทวดามาสถิตย์ในตาทั้งสอง
- เชิญเทวดามาสถิตย์ในอวัยวะมากมายตับไตไส้พุง
แล้วจึงทำพิธีต่างๆ..ทั้งชุบมหาอัคคี..ปราบป่าช้าทั้งเจ็ด เสกเก็บเรื่อยมา ท่านว่าควายนี้ถึงจะเล็กแต่มวลสารก็มีอานุภาพมาก เรียกว่าเล็กแต่มีคุณมหาศาล

แต่เดิมนั้นท่านตั้งใจแต่แรกว่าจะทำควายมงคลที่ใครบูชาจะดึงดูดโชคลาภวาสนาบารมีมาสู่ตัวตามตำรา ด้วยคงเป็นสมัยก่อนที่ท่านยังร้อนวิชาอยู่มาก ท่านกล่าวว่าควายนี้จะดีเพียงเท่านั้นก็ไม่สมต้องดียิ่งขึ้นไปอีกคือมีชีวิตจิตวิญญาณธาตุขันธ์บริบูรณ์ ซ้ำต้องมีกำลังฤทธิ์มาก เรียกว่าคุ้มตัวได้ ท่านว่าวิชาควายธนูนี้ที่จริงมันมีมายาวนานนับพันปีทีเดียวท่านว่าตอนนั้นคิดอยู่อย่างเดียวว่าจะทำของให้มันแรงๆ โดยใช้ตำรับทำควายทรงของพระขันธกุมารที่มีอาถรรพ์สูงสุดในวิชาควายทั้งปวงทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าควายของฉันนั้นเป็นธนูชน ไม่ใช่ควายสามัญแต่เป็นควายทรงของพระขันทกุมารของพระอังคารของเทพสงคราม เป็นควายพาหนะของเทพกษัตริย์สงครามผู้ไร้พ่าย ควายเช่นนี้ดีขลังแรงดุดันแพ้ใครไม่ได้ไร้พ่ายในที่ทุกสถาน ที่สำคัญคือซื่อสัตย์ต่อนายเป็นที่สุดนอกจากนั้นยังช่วยขจัดคุณไสยฝ่ายต่ำ พลังงานลบทั้งหลายซ้ำยังเป็นควายมงคลที่หาทรัพย์เก่งดึงดูดวาสนาบารมีมาสู่ผู้ครอบครองท่านจึงเรียกว่าแก้วมหิงส์

การทำแก้วมหิงสานั้นเมื่อปั้นทำเสร็จเสกเสร็จ..ต้องสำเร็จในเปลวอัคคีชุบด้วยไฟนั่นแหละ กล่าวง่ายๆคือไฟเผาไม่ไหม้แม้แต่ไฟยังทำอะไรไม่ได้รอดออกมาจากกองไฟได้ ท่านถึงจะนำมาลงยางรักเสียวาระหนึ่งไม่ใช่เท่านั้นยังต้องมีพิธีกรรมอื่นๆอีกกว่าจะสำเร็จเช่นการเสกในป่าช้า ท่านว่าไม่ได้เอาคุณผีมาช่วยนะพิธีของเรา แต่เราทำคือสะกดข่ม ตามตำราว่าเสกขึ้นต้องเงียบทั้งป่า ต้องเก่งถึงขนาดสะกดป่าช้าได้ทั้งป่า และทำไปเรื่อยๆจนครบเจ็ดป่าช้าด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าไม่ใช่สมัยก่อนคงไม่เสียเวลาทำเพราะป่าช้าสมัยนั้นเฮี้ยนอย่างยิ่ง ถึงขนาดปราบป่าช้าได้ก็ไม่ต้องคิดถึงเรื่องคุ้มชีวิตคนแล้วมีหรือจะทำไม่ได้ ควายธนูชนนี้ทำยากมากจนพ่ออาจารย์ท่านออกปากว่าจะไม่ทำอีกแล้วเพราะว่าที่ยากนั้นไม่เพียงเนื้อหามวลสาร อานุภาพ แต่พิธีกรรมก็ไม่ใช่ของง่าย

พ่ออาจารย์ท่านเสกจนควายขยับได้ ท่านว่าลืมตามาทีแต่ละตัวไม่มีอยู่ที่เดิม ไม่รู้จะเรียกอย่างไรว่ามันเดินรึมันคลานดี ท่านว่ามันมีชีวิตกันเช่นนั้นเสกแต่ละทีต้องเดินหาเดินเก็บ โดยท่านนำควายทั้งหมดใส่ขันครูปลุกเสกไว้หลายปีจนลืม พอนึกได้ก็นำควายมาทำวิชารวมกับตะกรุดธนูพรหมาสตร์ที่พ่ออาจารย์ลงไว้อย่างพิศดารถึงสามสถาน

พรหมาสตร์ แปลว่า ศรแห่งพระพรหม เป็นศรที่พระพรหมสร้างขึ้น ศรพรหมาสตร์เป็นศัตราวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงไม่มีสิ่งใดต้านทานได้ ตามคัมภีร์ปุราณะว่ามีแต่ไม้เท้าพรหมทัณฑ์ของฤๅษีวสิษฐ์เท่านั้นที่จะต้านอำนาจของศรพรหมาสตร์ได้ ส่วนรามเกียรติ์ฉบับรัชกาลที่ 1 กล่าวว่าศรพรหมาสตร์สามารถล้างศรพรหมาสตร์ด้วยกันเองได้ ศรพรหมาสตร์นั้นเมื่อแผลงออกก็เกิดเสียงสะเทือนเลื่อนลั่น ผู้ใช้ศรสามารถบังคับให้แล่นไปสังหารศัตรูได้ดังใจแม้จะไม่เห็นกายศัตรูก็ตาม และยังอาจบันดาลเป็นลูกศรหรือศัตราวุธนานาชนิดกลาดเกลื่อนเต็มท้องฟ้าและพุ่งอย่างรวดเร็วไปพิฆาตหมู่ศัตรู ในรามเกียรติ์ฉบับรัชกาลที่๑ กล่าวถึงศรพรหมาสตร์ที่อินทรชิตแผลงไปดังนี้

"จึ่งจับพรหมาสตร์ขึ้นพาดสาย หมายองค์พระลักษณ์รังสรรค์​

หน่วงน้าวเหนือคอเอราวัณ กุมภัณฑ์ก็ผาดแผลงไป
บันดาลเป็นศรเกลื่อนกลาด ทำอำนาจพ่างพื้นแผ่นดินไหว"
นั่นคืออานุภาพของพรหมาสตร์สามารถบันดาลออกเป็นอาวุธอะไรก็ได้หรือแม้แต่ศรแสนห่าฝนในรามเกียรติ์อสูรสำคัญเช่นกุมภกรรณ,อินทรชิตและทศกัณฐ์ ล้วนต้องสิ้นชีวิตลงเพราะศรพรหมาสตร์ของพระราม

ตะกรุดธนูพรหมาสตร์นี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างขึ้นโดยขอความอนุเคราะห์จากองค์มหาพรหมธาดา โดยท่านได้นำแผ่นเงินมาขึ้นรูปศรพรหมาสตร์ลงอักขระพระเวทย์สำคัญกำกับ ท่านว่าศรพรหมมาสตร์นั้นเป็นศรสำคัญ หลายคนคิดเพียงแต่ว่าเป็นโคตรอาวุธทำลายล้าง ซึ่งก็ไม่ผิดแต่ที่จริงแล้วเค้าเป็นศรสารพัดนึก ด้วยมีอำนาจการสร้างสรรค์ของพระบรมบิดาพรหมเทพจะแผลงออกไปเป็นอะไรก็ได้ตามใจผู้แผลง แผลงเมื่อไหร่ต้องได้เรื่อง ทุกกิจต้องจบสิ้นอย่างรวดเร็ว

โดยพ่ออาจารย์ท่านสร้างตะกรุดธนูพรหมาสตร์นี้โดยกำกับนะไตรภพไว้ที่ลูกศร ท่านว่าศรนี้จะสอยสิ่งใดก็ได้ทั้งสิ้นตระเวณไปได้ในโลกทั้งสามตามแต่ใจผู้ใช้จะปรารถนา จะใช้สอยหรือใช้ทำลายสิ่งเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณธรรมกำกับจิตใจผู้ใช้จะใช้สอยโชคลาภ,ใช้สอยนางฟ้า,ใช้อะไรก็สุดแต่จะใช้แต่อย่านำไปทำลายชีวิตใครก็พอ เพราะลำพังเทพศาสตราเล่มนี้พกไว้เฉยๆก็ได้ชื่อว่ามีอานุภาพเหลือประมาณแล้ว โดยพ่ออาจารย์ท่านลงไว้อย่างพิศดารถึงสามสถานได้แก่กำจัด,ดับ,ทำลายอันเป็นคุณลักษณะของพรหมาสตร์ให้ศรนี้มีฤทธานุภาพสูงสุด ท่านว่าคุณลักษณะทั้งสามนี้ไม่จำเป็นท่านก็ไม่อยากพูดถึงเพราะแรงได้เรื่อง

- กำจัด หมายถึง การขับไล่, การปราบ, การทำให้สิ้นซากไป
- ดับ หมายถึง การทำให้หมดสิ้นและสูญสิ้นไป ไม่สามารถดำรงค์สถานะไว้ได้อีก
- ทำลาย หมายถึง การทำให้แตกหัก เสียหาย พังทลายลง
แต่หากถามว่ารู้ว่าแรงทำไมถึงทำ ท่านว่าที่ทำก็เพราะจะทำมหาธนูพรหมาสตร์ยอดธนูเอกของไตรภพ ยอดอาวุธของท้าวมหาพรหมไม่ใช่ธนูนกกระจิบ จะให้ทำเล่นๆไม่สมเกียรติยศก็ไม่ได้ด้วยอานุภาพสามสถานะคือกำจัด,ดับ,ทำลายของศรเอกพรหมาสตร์นี้จึงได้ชื่อว่าเป็นยอดศาสตราวุธที่เหนือกว่าเทพศาสตราใดๆในไตรภพ มีอานุภาพเสมอด้วยตรีศูลปินากะของพระศิวะ จักรสุทรรศน์ของพระนารายณ์เลยทีเดียว

พ่ออาจารย์ท่านได้นำควายธนูชนนี้มาพันไว้กับตะกรุดธนูพรหมาสตร์ด้วยสายสิญจน์ที่ท่านใช้ล้อมขันครูของท่าน ท่านว่าแรงเห็นเป็นเชือกขาวๆแบบนี้แต่ก็แรงเปี่ยมด้วยฤทธิ์แรงครูยิ่งนัก ท่านว่าควายติดศรพรหมาสตร์นี้นอกจากอานุภาพเป็นเลิศปราบได้ทั้งมนุษย์,ยักษ์,คนธรรพ์,เพชรพญาธร,เทวดา,นาค,ครุฑ,มาร,ภูติ,ผี,อสุรกาย,ปีศาจ,รากษส สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในสวรรค์มนุษย์บาดาลตามฤทธิ์ของควายธนูชนราชพาหนะของเทพกษัตริย์สงครามและฤทธิ์ของศรพรหมาสตร์แล้ว ทั้งนี้ท่านยังทำเอาความหมายว่าควายนี้เมื่อใช้งานต่อไปในสิ่งใดๆก็ดีย่อมต้องสำเร็จทันใจนึก ด้วยอานุภาพของศรพรหมมาสตร์ที่พ้นสาย ท่านว่าอุปมาไว้ลูกศรที่แผลงไปไม่ย้อนคืนสายฉันใด ควายนี้ก็เช่นกัน ทุกอย่างที่ใช้และปรารถนา ทุกเรื่องย่อมสำเร็จโดยพลันไม่กลับสู่จุดเดิมเช่นนั้น ศรพรหมาสตร์แผลงได้เรื่องทุกคราวฉันใด ควายที่ขี่ไว้บนศรพรหมาสตร์ใช้งานอะไรก็วิ่งได้ทันใจฉันนั้น

เมื่อท่านผูกควายกับตะกรุดธนูพรหมมาสตร์เสร็จท่านก็สั่งให้นำไปเลี่ยมมาเก็บไว้แยกออกจากสิ่งต่างๆ จนท่านลืมไปในที่สุดว่ามีควายแก้วนี่อยู่ พ่ออาจารย์ท่านว่าได้ยินแต่เสียงขลุกขลักๆอยู่ในถุง พอค้นดูจึงรู้ว่าควายธนูเหล่านี้มันขยับเริงร่าฮึกเหิมกันจึงนึกได้ขึ้นมา

พ่ออาจารย์ท่านนำควายธนูชนนี้ออกมานับดูเห็นว่าเหลืออยู่ทั้งหมด 3 ตน ท่านว่าควายรุ่นนี้ดี เล็กแต่รสโต ควายสูตรนี้ทำยากหมดแล้วก็จบไปเพราะทำไม่ได้อีก จะห้อยคอห้อยเอวก็ได้ทั้งสิ้นใช้ปราบ,กัน,แก้,หาลาภนำความรุ่งเรืองได้ดี ท่านว่าก่อนจะนำออกให้บูชานี้ท่านแผ่เมตตาขออนุญาติเทวดาตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของผู้ที่จะได้ครองครองควายแก้วแต่ละคนไว้ เนื่องจากควายมีเจ้าของทุกองค์ขอให้ได้ใช้กันในหมู่ผู้มีสติ เป็นสิ่งนำมาถึงซึ่งความเจริญรุ่งเรืองไม่เบียดเบียนชีวิตใครเช่นที่มีคนเคยทำ ท่านว่าขอให้เค้าไปอยู่กับคนดี ถ้าคนไม่ดีแล้วขออย่าให้ได้เห็นแม่แต่เงาของพญาควายนี้

คาถาบูชา (อธิษฐานได้ทุกสิ่ง)
(มอบให้เฉพะผู้บูชา)

*** มงคลทนสิทธิ์ธนูพรหมมาสตร์แก้วมหิงสานี้ สำหรับท่านที่จะบูชาให้แจ้งไว้เฉพาะทาง PM เท่านั้น พร้อมกับบอกชื่อนามสกุลไว้ด้วย เนื่องจากพ่ออาจารย์ท่านจะทำการบอกกล่าวเป่าคาถากำกับให้เป็นการเฉพาะคนต่อไป

ร่วมทำบุญบูชา มงคลทนสิทธิ์ธนูพรหมมาสตร์แก้วมหิงสา(กระบือประหาร) บูชา 3,000 บาท

​

 

เนื่องจากมีคนอยากได้และตามหากระบือประหารซึ่งเป็นเครื่องมงคลยุคเก่ามากๆที่พ่ออาจารย์ท่านทำไว้สมัยหนุ่มๆยังร้อนวิชา ซึ่งท่านไม่ได้ทำแล้ว..เพราะทำยากแต่ก็มีประสบการณ์มากเป็นเงาตามตัวเช่นกัน ท่านจึงให้นำตัวที่ท่านเก็บไว้ใช้เองมาตลอดมีอยู่ 3 ตัวให้เปิดจอง ท่านว่าหมดก็คือหมดเพราะไม่ได้ทำอีกไม่มีให้ถามหาแล้ว เป็นเครื่องมงคลชุดเก่าที่เน้นความแรงซึ่งท่านเปรียบไว้กับระเบิดปรมาณู

*** กระบือประหารนี่เลี่ยมพร้อมใช้ทุกตัวมาแต่เดิม เป็นเครื่องมงคลชุดที่พ่ออาจารย์ท่านเลี่ยมให้พร้อมใช้งานซึ่งถือว่าน้อยนักที่เสกจนลืมแล้วเอามาเลี่ยมเสกต่ออีก

 

ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้าวางแหเหวี่ยงกวาดผ่านสังสารวัฏ(ตอกหมุดหิมาลัยไกรลาสธิบดี)

"ไม่มีการลงทุนและการกระทำใดที่จะได้รับผลประโยชน์ผลตอบแทนมากไปกว่าการเหวี่ยงแหนี้"​

- คนที่ชอบเงิน..พระเจ้าวางแหก็จะกวาดหามาแต่เงิน
- คนที่ชอบลงทุน..พระเจ้าวางแหก็จะกวาดให้มาแต่ผลกำไร
- คนที่ชอบการค้า..พระเจ้าวางแหก็จะกวาดให้ลูกค้ามาต่อเนื่อง
- คนที่ชอบเสี่ยงดวง..พระเจ้าวางแหก็จะกวาดให้มาแต่ผลรางวัล
- คนที่ชอบความเจริญ..พระเจ้าวางแหก็จะกวาดให้มาพบกับชีวิตที่เจริญรุ่งเรือง
- คนที่ช่างเจรจา..พระเจ้าวางแหก็จะกวาดให้มาเจอแต่มิตรภาพที่ไม่หักหลังกัน
- คนที่ชอบเดินทาง..พระเจ้าวางแหก็จะกวาดให้มาพบกับโชคชะตาอันประเสริฐ
- คนที่ชอบเข้าสังคม..พระเจ้าวางแหก็จะกวาดให้มาเจอแต่คนที่รักและเมตตา
พ่ออาจารย์ท่านว่าจำไว้นะวิชานี้นิสัยผู้อาราธนาเป็นอย่างไรท่านก็ให้ผลอย่างนั้น อุปนิสัยและหนทางชีวิตเธอแสวงหาอะไรท่านก็พาไปในจุดนั้นเรียกว่าเอาดีแบบสุดโต่งทางนั้นไปเลย ..ย้ำว่าไม่ใช่แค่ดีธรรมดาหากแต่เป็นดีแบบสุดโต่งคือออกไปไกลมากตามอุปนิสัยและการไขว่คว้าของเธอ *** ขอแค่ได้ไปแล้วอย่าสนุกกับการใช้ชีวิตที่สมหวังจนบ่นว่าเหนื่อยก็พอ

พ่ออาจารย์ท่านว่าหากคนติดร่างแหปัญหาผู้อื่นไปด้วยย่อมจะร้ายมากกว่าดี แต่ "พระเจ้าวางแหเหวี่ยงกวาดผ่านสังสารวัฏ" ถือเป็นเครื่องมงคลแก้เคล็ดให้ติดร่างแหไปแต่เรื่องดีๆไม่มีร้าย..สมัยก่อนพ่ออาจารย์ท่านทำตะกรุดแหพันชั้นดอกเป็นหมื่นเท่าไหร่ก็ไม่พอจนต้องประกาศหยุดทำเพราะประสบการณ์อธิษฐานครอบคลุมกวาดผ่านได้ทุกอย่างแต่ติดว่ามีขนาดใหญ่น้ำหนักมากจึงใช้ยากนัก องค์ปฐมท่านจึงให้พ่ออาจารย์ทำพระเจ้าจับแหเหวี่ยงกวาดผ่านสังสารวัฏขึ้นมาเพื่อแปรนามธรรมให้เป็นรูปธรรมจะได้ใช้ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมและง่ายต่อการตั้งจิตอาราธนาพระพุทธคุณโปรดชีวิตผู้บูชาโดยทำเป็นรูปองค์ปฐมกางแหออก
- เหวี่ยงกวาดผ่านสังสารวัฏ..คือกวาดทั้งหมดได้ทั้งสิ้น,ได้ไม่เลือก,ได้แบบไม่เฉพาะเจาะจง
- เหวี่ยงแห..ปรารถนาสิ่งใดให้มองที่แห จิตเห็นแหคลุมสิ่งนั้นแล้วค่อยๆดึงขึ้นมา
- เหวี่ยงแห..ให้กว้างออกไปตามเป้าประสงค์จะเอาสิ่งใดมากแค่ไหนปากแหก็กว้างไปได้เท่านั้น
- เหวี่ยงแห..รอดักจับได้ทั้งหมดแม้นยามหลับไร้สติแต่แหที่อธิษฐานเหวี่ยงไว้ก็ยังทำงานไปเรื่อยๆทุกกาลเวลา ลืมตาตื่นมาต้องสมหวังทันที

พระเจ้าวางแหนี่สำคัญมากเพราะวางดักไว้ล่อไว้ทิ้งไว้เฉยๆตัวเราไปกิน,ไปเที่ยวเล่น,ไปนอนพัก..แต่พอจะใช้ดึงขึ้นมาย่อมได้ทั้งหมด การณ์ใดไม่ร้อนก็วางไว้ค่อยๆเอาค่อยๆดึงแต่การณ์ใดเร่งรีบก็ชักขึ้นมากวาดทั้งหมดเลย ### พ่ออาจารย์ท่านว่าพระชุดนี้สำหรับคนที่มีเป้าหมายและภาระในชีวิตหลายอย่างหรือต้องทำหน้าที่หลายๆทางในเวลาเดียวกันพร้อมกัน ด้วยแหนี้เป็นเครื่องจับชั้นเลิศเพราะองค์ปฐมท่านว่ากวาดแหผ่านสังสารวัฏไม่ใช่หมายมุ่งเป้าเอาแค่ 1 หรือ 2 หรือ 3... หากแต่กวาดไปทั้งหมดทอดเอาในปริมาณที่มากไม่มีประมาณ เรียกว่าหากห้อยเฉยๆไม่เจาะจงเอาอะไรก็จะได้รับผลดีแบบหวังผลแบบคาดเดาและประมาณไม่ได้(หากไม่มีเจตจำนงค์ย่อมได้เกินวัตถุประสงค์)

"ด้วยไม่มีการลงทุนและการกระทำใด ที่จะได้รับผลประโยชน์ผลตอบแทนมากไปกว่าการเหวี่ยงแหนี้" พ่ออาจารย์ท่านว่าพระพิมพ์นี้องค์ปฐมท่านรับรองไว้ว่าเป็นเครื่องมงคลที่ให้ผลประโยชน์มากที่สุดในระดับที่ว่าเกิดมาทั้งชีวิต ไม่มีการลงทุนใดจะได้ผลประโยชน์มากไปกว่านี้และไม่มีการกระทำใดจะได้รับผลตอบแทนชั้นเลิศมากขนาดนี้ (อุปมาว่าทำกิจใดไม่สูญเสีย แต่ได้รับกลับคืนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้) ก็แล้วในชีวิตคนมีวันไหนบ้างที่ไม่มีการลงทุนไม่มีกิจกระทำหน้าที่การงาน ท่านว่าวิชานี้แม้ออกไปเที่ยวเล่นหรือทำอะไรเล่นๆลองเสี่ยงดวงเสี่ยงโชคดูยังได้ผลประโยชน์
1. แม้สิ่งที่คิดหวังก็ได้ ดุจกางแหจับเอา
2. แม้สิ่งที่ไม่คาดหวังก็ได้ ดุจสรรพสิ่งน้อยใหญ่ติดร่างแหขึ้นมาทั้งหมด

เช่นนั้นจะเป้าหมายหรือสิ่งที่ไม่ใช่เป้าหมายของเราก็ดีหากเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่มันเป็นเรื่องดีๆสำหรับเราย่อมได้รับกลับมาทั้งหมดแบบไม่ทันตั้งตัวดุจวิชานี้จะกวาดผ่านคัดกรองผลประโยชน์ลาภสักการะน้อยใหญ่รอบด้านในที่ที่เราอยู่,ในที่ๆเราไป,ในทุกก้าวที่เราเดิน,ในที่ที่เราหยุดเดินกวาดผ่านมาสู่เราทั้งหมด ..แหฟ้าตาข่ายดินกวาดผ่านสังสารวัฏทั้งสิ้นไม่มีสิ่งใดแม้จะเล็กน้อยหลุดรอดไปได้เลย พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่เพียงแต่เรื่องใหญ่ๆที่หวังผลได้แม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยก็มีมาให้ยินดีได้ตลอด ทั้งเป็นความสบายเนื้อ,สบายตัว,สบายใจที่ชีวิตต่อไปนี้จะไม่ต้องติดร่างแหความซวยไปกับคนอื่นเพราะแหพันชั้นย่อมครอบคลุมตัวเรากันเราออกจากวงแหวงกรรมของผู้อื่นที่พร้อมจะกวาดผ่านดึงลากเราเข้าไปสู่วงจรเหตุการณ์น้อยใหญ่ร่วมเวรร่วมกรรมของเขา อันเป็นเครื่องที่จะชักลากเราไปผูกกรรมและติดอยู่ในบ่วงเวรของผู้อื่นไม่จบสิ้น แต่วิชานี้นอกจากจะกันเราออกแล้วตาข่ายเวรกรรมใดๆก็กวาดผ่านเราไปไม่ได้ แม้กรรมนั้นจะมีพละกำลังมากมายสักปานใดเราก็รอดได้อย่างน่าอัศจรรย์

ไม่มีการลงทุน..ที่จะได้รับมากไปกว่านี้
ท่านว่าอาราธนาให้ดีว่าจะวางแหไว้..ดักเอาอะไรเดี๋ยวได้เอง อุปมาว่าเราอยู่นิ่งๆเฉยๆใช้ชีวิตของเราไปเดี๋ยวสิ่งที่เป็นเหยื่อ(เรื่องที่ต้องการ)มันจะมาติดร่างแหของเราเอง วิชานี้ใช้เพียงแรงปรารถนาของเราเป็นตัวขับเคลื่นแห พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งต้องการมาก,อยากได้มาก,มีความปรารถนามากแหยิ่งกวาดเข้ามาไวมาก เหยื่อชั้นดีทุกสิ่งเธอจะได้รับคืนมาแบบไม่ต้องออกแรงให้เหนื่อยเลย ทั้งพระเจ้าวางแหนี้ยังเป็นอิทธิคุณเร้นลับที่เด็ดดียิ่งกว่าวิชาสร้างตัวบนพื้นฐานความสบายใดๆเพราะวิชาอื่นนั้นได้ทีละอย่างสองอย่างเท่านั้น..แต่กับพระเจ้าวางแหสิ่งที่ได้กลับมานั้นประมาณมิได้เลยท่านว่าได้เป็นเบือมากมายเหลือเฟือนี่จึงเรียกว่าเป็นวิชาที่เหมาะจะใช้ยามที่เราลงทุนหรือลงมือกระทำกิจต่างๆเป็นปกติทุกวันในชีวิตมากที่สุด เพราะสิ่งที่จะได้กลับมายามเราใช้ชีวิตไปโดยปกตินั้นย่อมได้ผลตอบแทนแบบประมาณมิได้ที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าผลเหลือกินเหลือใช้แม้นจะนั่งกินนอนกินก็ยังมีกินไม่ต้องออกไปหาเหยื่อเลย

เอาไว้ใช้เวลาเธอทำมาหากินที่คาดหวังผลสำเร็จจะช่วยให้วัตถุประสงค์สิ้นสุด..แม้นสิ่งใดที่กำหนดไว้ว่าเป็นเหยื่อที่แหเราดักย่อมชะตาขาดติดกับเราทั้งหมด(อยากกินอะไรย่อมได้กิน)
- พ่ออาจารย์ท่านว่าหากเธอใช้เป็นแหทิพย์นี้ก็เล่นกับใจสิ่งมีชีวิตทั้งปวงได้ เหมือนใจเหมือนความรู้สึกของเขามาติดอยู่ในแหติดอกตรึงใจปักใจต่อเรา เป็นที่มาของความเมตตาและความซื่อสัตย์ภักดีไม่กล้าหักหลังทรยศเราเลย(ท่านว่านึกหน้าใครเอาแหครอบไว้ก็ได้ใจคนนั้น) เอาความรักที่องค์ปฐมมีต่อลูกๆเป็นกระแสเมตตาอันยิ่งใหญ่ประมาณมิได้กวาดคลุมตัวเราให้เป็นที่รักของมนุษย์ทั้งหลาย..ให้เป็นที่ชื่นชมของท้าวมหาพรหมทั้งหลาย..ให้เป็นที่ชื่นชอบของเทพเทวาทั้งหลาย..ให้เป็นที่นิยมของอมนุษย์ทั้งหลาย

- พ่ออาจารย์ท่านว่าหากเธอใช้เป็นแหทิพย์นี้ไม่มีทางเสียทรัพย์เสียผลประโยชน์ให้ใครได้เลย เพียงอาราธนาเอาแหครอบมือตนเองไว้ทรัพย์มีแต่เข้าไม่มีไหลออกสิ่งที่แสวงหามาได้ย่อมเป็นของเราตลอดไปพ่ออาจารย์ท่านอุปมาว่าดั่งติดอยู่ในมือเราเหนียวแน่นจะทิ้งก็ยังไม่ไปหากไม่กำหนดจิตปลดแหออก ทั้งยังเป็นเคล็ดดักล่อโชคทั้งปวงให้เข้าสู่มือเราโดยตรงทางเดียวไม่มีเลี้ยวไปไหนด้วย..ใครที่พลาดแล้วพลาดอีก..เอียงไปเอียงมาในเรื่องเล็กๆน้อยนี่จะกลับเป็นเข้ามือทั้งหมด

- พ่ออาจารย์ท่านว่าหากเธอตั้งจิตใช้เป็นแหทิพย์นี้คลุมเงินของตนคลุมบ้านของตนไว้ ย่อมไม่มีทรัพย์ใดจะเล็ดรอดออกจากเราไปได้เลยจากคนที่เคยฝืดเคืองติดขัดหาเงินไม่คล่องจะกลับมาเป็นคนหาเงินคล่องมีเงินใช้คล่องตัว ทั้งตัวเราและบ้านของเราจะทวีด้วยเงินทองทรัพย์สินที่หามาได้และได้มาแบบงงๆจนน่าประหลาดใจ ดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่ามีเงินล้นบ้าน(และต่อไปแม้บ้านเธอก็ไม่มีที่ให้พอเก็บเงินได้อีก) จากคนที่เก็บเงินไม่อยู่เงินไม่เหลือเก็บจะกลายเป็นเก็บเงินได้รักษาทรัพย์ไว้มั่นคงเงินทองกำไรพอกพูนเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ

- พ่ออาจารย์ท่านว่าหากเธอใช้เป็นแหทิพย์นี้ไม่มีทางเสียลูกค้าหรือเสียคนของตัวเอง อธิษฐานเอาแหครอบไว้เขาไม่คิดเป็นอื่นเลย ที่เคยเมตตาเราเพียงใดก็เมตตาเพียงนั้นไม่ทรยศขายความและจะวนเวียนเป็นลูกค้าของเราเป็นคนของเราตลอดไป ดังที่พ่ออาจารย์ท่านว่าจะเป้นลูกค้าเธอไปจนตายไม่ห่างหายไปหาคนอื่นนั่นแหละ

พ่ออาจารย์ท่านว่าปรับใช้ได้อีก 108 พันประการแท้จริงแล้วสารพัดจะใช้นั่นทีเดียว ให้ใช้สติตรองดูให้ดีและใช้ให้เกิดประโยชน์ในสถานการณ์เบื้องหน้ามากที่สุด อยากให้มีสิ่งใดใช้ทางไหนก็อธิษฐานเอาแหไปคลุมสิ่งนั้นแล้วทุกอย่างจะมีมากขึ้นเต็มบ้านของเราไปเอง ท่านว่าให้ใช้เพื่อความมั่งมีของชีวิตตนเอง..จะได้สร้าง..จะได้หาความสุขให้ตนเอง
- ผ่านไป 7 วัน..ชีวิตเธอจะเป็นคนมีโชคกลายเป็นผู้โชคดี
- ผ่านไป 7 เดือน..ชีวิตเธอจะจับทิศทางได้ เดินไปบนหนทางเศรษฐี
- ผ่านไป 7 ปี...เธอจะสร้างชีวิตให้มั่นคงถึงขั้นคหบดีไม่ตกต่ำลงอีก

พ่ออาจารย์ท่านแกะพระเจ้าวางแหเหวี่ยงกวาดผ่านสังสารวัฏจากไม้โพธิ์ตรัสรู้กิ่งที่ชี้ไปทิศตะวันออก(มหาโพธิ์จากต้นจริง) ท่านว่าไม่มีสิ่งใดเหมาะสมมากไปกว่านี้ด้วยท่านถือว่าต้นไม้ก็เป็นสิ่งมีชีวิตทั้งเป็นสิ่งที่ผ่านรัศมีพุทธะซึ่งเหลืออยู่บนโลกและยังมีชีวิต ท่านเรียกว่าเป็นบุญญาภินิหาริย์โดยธรรมดาโลกย่อมจะช่วยให้ผู้บูชาเกิดมงคลได้เป็นปกติธรรมดา ทั้งยังเป็นไม้ที่มีเทพเทวดาทุกภูมิทุกชั้นคอยเฝ้ารักษากันแน่นขนัด ท่านว่ายามอาราธนาคุณเทพพรหมย่อมสงเคราะห์ด้วยจะให้ดีทางใดก็เปิดขึ้นทั้งหมดอยากได้เงินเทวดาก็จะนำมาซึ่งลาภสักการะสู่เราเช่นนี้ พ่อาอจารย์ท่านว่าไม้นี่เป็นสิริมงคลสูงสุดเราได้ขอพุทธบารมีและบอกกล่าวเทพยดาเจ้าที่รักษาไม้ไว้แล้วว่าให้สงเคราะห์ผู้บูชาทุกประการ

- ให้ชีวิตบังเกิดมงคลและความอุดมสมบูรณ์ มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น
- ให้อยู่ดีกินดีมีฐานะมั่นคง ไม่เดือดร้อนโดยโลกวิสัย
- ให้มีชีวิตสุขสบาย ถึงที่เศรษฐีคหบดีมีทรัพย์มาก
- ให้กิจที่ทำไร้อัญหาความขัดข้องทำสิ่งใดให้ผ่านลุล่วงด้วยดี
- ให้หยิบจับสิ่งใดก็เป็นนเงินเป็นทอง เป็นที่มาแห่งความรุ่งเรือง
- ให้ศัตรูมุ่งร้ายกลับกลายเป็นมิตร ละความอาฆาตพยาบาท
- ให้สะเดาะเคราะห์ภัยรอดพ้นอันตรายเรื่องไม่ดีอย่าได้เกิด
ท่านว่าเราใช้กิ่งโพธิ์ตรัสรู้ในการทำเครื่องมงคลน้อยมากเพราะเราตั้งใจไว้สร้างของสูงจริงๆเพื่อให้เติมเต็มสิ่งที่เธอขาดและประทานสิ่งที่เธอมีให้บริบูรณ์ ทั้งเสริมอำนาจวาสนาบารมีให้การทำมาหากินเจริญรุ่งเรือง

ตามยุคสมัยที่โลกาภิวัฒน์ทำให้ชีวิตคนหมุนวนและขับเคลื่อนไปกับหน้าที่การงานการเอาตัวรอดและใช้เงินตราเป็นสิ่งขับเคลื่อนวงจรชีวิต วิชานี้จึงกวาดผ่านทุกข์เข็ญให้อยู่นอกขอบข่ายแหพันชั้นทั้งหมด พ่ออาจารย์ท่านว่าในขอบข่ายรัศมีแหนี้ทุกข์เข็ญเล็ดรอดเข้ามาไม่ได้เลย..ไม่ผ่อนปรนให้เข้ามาได้เด็ดขาด แม้ดวงชะตาที่กำลังจะตกต่ำก็ต้องดีขึ้นเพราะไม่มีกำลังใดมาฉุดลงให้ตกต่ำเมื่อไม่เหลือเหตุแห่งทุกข์เรื่องซวยก็ไม่มีที่จะตกต่ำลงอีกก็ไม่มี ท่านจึงเรียกว่าปรับวงจรให้ความซวยหายไป ชีวิตที่เคี่ยวกรำความทุกข์ยากลำบากมาสาหัสมันจะผ่อนปรนลงด้วยตัวเองจนเธอสังเกตุได้ว่ามันเบาลงๆจนว่างสบายแม้นเรื่องหนักหนาสาหัสใดแบกยันค้ำอยู่ก็จะผ่อนให้เบาลงจนน่าอัศจรรย์ เพราะในขอบเขตแหฟ้าตาข่ายดินนี้ไม่มีทุกข์ร้อนใดจะมั่นคงอยู่ได้เลยทุกข์ภายนอกไม่เข้ามาเพิ่มและทุกข์สาหัสภายใน(ที่เจออยู่)ต้องเบาลงปลดเรื่องเศร้าให้หมดไป แม้นภาระที่หนักหนาก็ย่อมคลี่คลายเคลี่ยร์ได้จบไวท่านว่าติดตัวไว้เถิดจะเสริมการงานการหาเงินทั้งหมด..แม้สิ่งที่ชีวตยังขาดไปย่อมถุกเติมเต็ม

ตอกหมุดหิมาลัยไกรลาสธิบดี
พ่ออาจารย์ท่านได้แร่ก้อนนี้มาจากศิษย์นักปีนเขาที่ชอบความท้าทายแบบเสี่ยงชีวิต เป็นแร่ที่ได้มาตอนไปไกรลาสในเทือกเขาหิมาลัย ท่านว่าสมัยนั้นองค์ปฐมให้รอแร่ก้อนนี้นี่แหละ พอได้มาท่านก็นำมาเสกอุปมาว่าก้อนแร่นี้คืออเหมเขาไกรลาสเชิญกำลังเทพเจ้าทั้งหมดเข้ามารักษา ก่อนจะพลีทุบก้อนแร่ลงให้มีลักษณะเป็นหมุดนำมาตอกอุดใต้องค์พระนี้ โดยหมุดคือสิ่งที่ใช้สำหรับตรึงแต่หมุดไกรลาสนั้นมีความเชื่อว่าเป็นแดนศูนย์กลางของหมื่นจักรวาล หากมีไกรลาสดำรงค์อยู่สายธารแห่งชีวิตย่อมกำเนิดขึ้นหล่อเลี้ยงสรรพชีวิตทั้งหลาย ย่อมนำพาอารายธรรมและความเจริญรุ่งเรืองนับกัปกัลป์โดยลำดับให้ปรากฏขึ้นแม้นท้ายสุดของชีวิตยังได้กลับรวมเป็นหนึ่งกับเทพเจ้าทั้งหลาย เมื่อพ่ออาจารย์ท่านทำเป็นหมุดอุดรูทะลวงที่ก้นองค์พระ(ซึ่งบรรจุว่านยาตำรับลับขององค์ปฐมไว้) ท่านว่าเป็นเคล็ดให้ยึด..ได้ทั้งหมด

เพราะหมุดคือสิ่งที่ยึดให้นิ่งอยู่ไม่ไหลออกรั่วออก หมุดนี้จึงมีอาถรรพ์เป็นกฤติยาคมแฝดขององค์พระให้เราถือและยึดครองสิ่งต่างได้โดยง่าย อย่าลืมว่ายึด..ไม่ได้ไปขอเขามาเพราะยึดนี่คือเราถือเอาตามกำลังตามอำเภอใจของตัวเราเลย เช่นนั้นจึงต้องใช้หมุดหิมาลัยไกรลาสธิบดีเพราะมีศักดิ์ใหญ่มากดั่งศูนย์กลางโลกเป็นศูนย์กลางของภพภูมิทั้งหลายและเป็นที่รวมตัวกันของเทพเจ้าทั้งหมดจึงมีอานุภาพมากช่วยให้เรายึดความปรารถนาทุกอย่างให้เกิดขึ้นได้จริง
- จะอุดรอยรั่วทุกอย่างในชีวิต
- จะทำให้สิ่งกลวงโบ๋ว่างเปล่าได้รับการเติมเต็ม
- จะทำให้อุปสรรคขัดขวางทุกอย่างทะลุะทะลวงโล่งไปทั้งหมด
- จะช่วยให้เราตรึงสิ่งที่เราปรารถนา ให้อยู่กับเราได้ได้ตลอดไป
- จะช่วยให้เรายึดครองถือครองกิจธุระต่างๆได้โดยง่าย

พ่ออาจารย์ท่านว่าอธิษฐานดีๆเถิดเอาหมุดนี้ปักตรึงสิ่งใดแล้ว..สิ่งนั้นต้องเป็นของเราและอยู่กับเราเป็นแม่นมั่นไม่คลาดเคลื่อนเลย (หากเราใช้หมุดนี้ตอกย้ำคำอธิษฐานของเรา คำอธิษฐานเราย่อมไม่หลุดรอดไป..ที่จะไม่เกิดรึไม่สัมฤทธิ์ผลเป็นไม่มี) อธิษฐานผ่านหมุดนี้เหมือนเราตอกย้ำคำอธิษฐานด้วยหมุดหิมาลัยไกรลาสธิบดีไม่มีสิ่งใดหลุดรอดได้ ### แม้จะเป็นสิ่งที่ไร้วาสนาในชะตาเราไม่มี..ในเหตุการณ์ชีวิตเราไม่มีวันเกิดขึ้นได้ แต่หมุดนี้จะตรึงเข้าหากันให้เกิดให้มีและยึดไว้ไม่ให้คลายตัวเลย เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงเน้นย้ำไว้ว่าให้คิดอ่านปรารถนาแต่การณ์มงคลทั้งปวงเถิดอย่าไปใช้ด้านทำลายผู้ใด เพราะอธิษฐานดีๆแม้สิ่งที่แยกขาดหมดวาสนาจากเราไปแล้วยังมีสิ่งทดแทนปรากฏขึ้นมาใหม่ได้อุปมาว่ายึดคืนมาได้ ด้วยหมุดหิมาลัยไกรลาสธิบดีอันเป็นอาถรรพ์สูงสุดคู่ฟ้าดินซึ่งไม่มีวันล่มสลาย

ท่านว่าให้อาราธนาสวมคอมีคุณครอบจักรวาลแล้วแต่จะอธิษฐาน เมื่อองค์พระอยู่กับตัวชีวิตจะอยู่ดีมีสุข..ห่างไกลจากสิ่งที่ทำให้เดือดร้อนทั้งปวงและเจริญรุ่งเรืองด้วยโภคทรัพย์เงินทอง
- คนที่เคยเสียไป ..ข้าวของทรัพย์สมบัติจะกลับมาคับคั่ง
- คนที่ไม่เคยมี ..ข้าวของทรัพย์สมบัติจะปรากฏจนร่ำรวย
ด้วยการบูชาพระเจ้าวางแหเหวี่ยงกวาดผ่านสังสารวัฏมันคือการทำอาถรรพ์กับชีวิตตัวเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าพอเราคล้องคอลงไป *** นั่นคือร่างกายเรารับคุณสมบัติพิเศษขององค์พระเข้าสู่รูปธาตุ,นามธาตุของตนเอง ทีนี้หน้าที่ของเธอก็มีแต่อธิษฐานไม่ต้องทำอะไรอีกแล้ว ที่เหลือก็คือให้องค์พระนำเธอไปสู่ยุคทอง..ยุคที่เธอจะเป็นใหญ่ขึ้นมาโดยแท้จริง พ่ออาจารย์ท่านว่าเครื่องมงคลนี้สว่างมากนะและจะส่องสว่างมากยิ่งขึ้นพร้อมกับเสริมคุณสมบัติต่างๆตรงไปที่รูปนามหากมีคนนำไปสมคอบูชาคุณพระพุทธเจ้าองค์ปฐม

สำหรับผู้ปรารถนาความร่ำรวยมั่งมีแบบง่ายๆย่อมได้โชคลาภควรแก่กาลโอกาสยิ่งคนที่อับโชคด้านการเงินท่านว่าให้อธิษฐานบ่อยๆตามเคล็ดข้างต้นยิ่งจะได้รับทรัพย์ก้อนโต ท่านว่าห้อยพระองค์นี้เสมือนดวงชะตาเธอเปิดรับทรัพย์อยู่ตลอดเวลาทีเดียว หากทำกิจใดที่มีคู่กรณีหรือมีคู่แข่งก็อยู่เหนือเขาตลอดไม่โดนเอาเปรียบเลย
*** จะใช้แบบเฉพาะกิจ
*** จะใช้แบบฉุกเฉิน
ท่านว่าใช้ได้เลยให้อาราธนาให้ดีขอแบบฉุกเฉินคือแบบมีเป้าหมายอันนี้จะได้รับรวดเร็ว เมื่อใดก็ตามที่เธออาราธนาองค์พระแขวนคอย่อมบังเกิดโชควาสนามากมายอยู่ตลอดเวลาด้วยเทพเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายอันมากมายหาประมาณมิได้จะผลัดกันลงแรงเข้ามาช่วยเหลือ และเทพเจ้าทั้งหลายย่อมชื่นชมยินดีประสาทพรในตัวเธอเป็นเนืองนิตย์ *** ขอให้ขอพรเถิดอะไรที่ไม่มีจงกล้าที่จะขอ แล้วความสว่างไสวจะเกิดขึ้นแก่ชีวิตเธอต่อให้อยู่ในความมืดมานานเท่าไหร่หากเธอสว่างเท่าดวงตะวัน..ที่นั้นยังจะมืดอีกหรือ

คาถาบูชา
(พ่ออาจารย์ท่านว่า..แค่คิดในใจเทวดาก็รู้หมดแล้ว อธิษฐานได้เลยไม่ต้องใช้คาถา)

*** รายการนี้รับจองทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย

ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้าวางแหเหวี่ยงกวาดผ่านสังสารวัฏ(ตอกหมุดหิมาลัยไกรลาสธิบดี) บูชา 4,000 บาท

​

 

พระชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเน้นการใช้งานจริงคือเอาไปแล้วต้องห้อย..และขอให้ขยันขอในทุกๆเรื่อง

เรื่องไหนสำคัญให้แตะที่หมุดก่อนขอ(ท่านว่าขอแบบปักหมุดเลย) เรื่องที่ไม่เร่งร้อนมากก็แตะที่แหอธิษฐาน

 

พระเจ้าวางแหนั้นเป็นเครื่องมงคลที่องค์ปฐมย้ำกับพ่ออาจารย์ท่านเสมอว่า “มันเป็นโชคดีที่สะสมมาหลายภพชาติของชีวิตผู้ได้รับท่านมา ..แต่มันจะเป็นชะตากรรมหากเอาไว้ไม่ได้และทำเสียไป”

### พ่ออาจารย์ท่านว่าสุดท้าย ..ของทุกอย่างล้วนมีเจ้าของ วาสนาจะดึงคนของท่านมาเอง

 

ร่วมทำบุญบูชา องค์วราหา 7 จันทร์เพ็ญคลี่เงินล้านเข้าทรายกรดเพลิงกัลป์(ตอกหมุดไกรลาส)

วราหา 7 จันทร์นี้(ต้องเสกเน้นหากินในฤกษ์จันทร์เพ็ญมา 7 ปี) เป็นหมูที่.. "เน้นเรื่องหากิินนำหน้าทุกอย่าง ..เป็นหมูหาให้เรkกินเพื่อชีวิตสบายแบบหมูๆของเรา" วิชาหมูนั้นช่วยคนได้จริงคนที่พกหมู 7 จันทร์นี้ทำอะไรมันก็จะง่ายๆหมูๆ เหมือนกับว่าเราอยู่เฉยๆก็มีคนเอาเหยื่อมาให้เอง เหยื่อในที่นี้ก็แล้วแต่ความต้องการแต่ละคน กันเลยแต่หลักๆก็จะเป็นเรื่องของเงินทองโชคลาภที่อยู่ในวิถีทำมาหากินของเรา(หาทางไหนทางนั้นก็เป็นเรื่องหมูๆ)... พ่ออาจารย์ท่านว่าผงวิชาหมูครูบรมพรหมท่านสั่งให้ท่านทำหมูนอนตอง คือเอาหมูสามชั้นวางบนใบตองพร้อมกับกล้วยอีกแปดเครือเซ่นครู *** ท่านว่าเป็นเคล็ดของหมู
- จะได้มีชีวิตกันง่ายๆไม่ลำบากกดดัน
- จะได้อะไรก็ได้มาง่ายๆแบบหมูๆ
- ทำอะไรก็ไม่เกินกำลังเป็นเรื่องฃกล้วยๆเช่นนั้น
พ่ออาจารย์ท่านว่าเคล็ดวิชาหมูที่นี้มีอยู่เยอะมาก แม้ตอนลงผงครูพรหมท่านก็สั่งให้นอนเขียนถือเป็นเคล็ดว่านอนกินเพราะนอนมันสบายกว่านั่งถือคติว่าแค่นอนทำชีวิตง่ายๆทุกอย่างต้องเข้ามาเองมีชีวิตได้ไม่ลำบาก แม้ตอนเสกผงยังต้องนอนเสกท่านว่าจะได้เป็นหมูนอนกินมีแต่กินมีแต่ความอุดมสมบูรณ์(โดนขุนจนอ้วนไม่ต้องเหนื่อยออกไปหากิน)อยู่เช่นนี้

ท่านว่าคนที่มีวิชาหมูตัวนี้
1.ชีวิตของเขาจะได้ไม่ต้องเหนื่อย
2.จะมีคนคอยหาเงินให้
3.จะมีคนคอยอุปถัมภ์เอาโชคดีมาให้เราตลอด
4.จะได้มีกินทั้งวัน,ทุกวันและมีกินไปตลอดชีวิต
ซ้ำหมูวิชานี้ยังใช้ได้ทุกเรื่องเพราะเขามีจิตวิญญาณ ยามใดที่เรื่องร้ายๆมาถึงตัวเราพ่ออาจารย์ท่านว่ามันไม่ได้เข้าตัวนะแต่มันลงที่หมูก่อนเลยเพราะเขาจะมาช่วยเราและรับแทนเรานั่นเองบางทีเขาก็จะมาเตือนเราให้มีลางสังหรณ์ชัดเจนในเรื่องต่างๆ ผงวิชาหมูนั้นพ่ออาจารย์ท่านลงธาตุใส่อาการเรียกรูปนามไปตามที่ท่านเคยร่ำเรียนมาทั้งยังกำหนดจิตตั้งนะนารายณ์พลิกเเผ่นดินแฝงใส่ไปด้วย โดยท่านนำผงวิชาหมูมาปั้นเป็นหุ่นหมูนารายณ์ก่อนจากนั้นจึงเชิญครูพรหมท่านลงมาทำให้เป็นพญาหมูเผือกเขี้ยวเพชรเหมือนตำนานพระนารายณ์อวตารเป็นพญาหมูเฉกเช่นเดียวกัน

"วราหาผู้เป็นเจ้า ได้เสด็จออกปราบมหายักษ์คลี่แผ่นดินทั้งสี่ทวีปให้เจริญรุ่งเรือง"
วิชาหมูนั้นมีอยู่หลายสายเหมือนที่พ่ออาจารย์ว่าหมูนั้นมีหลายตัว
- บางตัวก็ปราบได้แม่แต่เสือเย็นหรือเสือสมิงนั้นคือหมูที่มีเดชมาก
- บางตัวก็กันพวกภูติผีปีศาจ
- บางตัวก็ปล่อยออกไปได้เหมือนพยนต์ที่คอยทำลายอาถรรพ์ร้ายทั้งหลาย
- บางตัวก็ดีด้านโชคลาภอย่างถึงที่สุด
ในยุคนี้หลายๆที่นิยมสร้างหมูนารายณ์กันมากแต่กลับทำได้เพียงแค่ชื่อด้วยไม่ได้มีจิตแห่งพระเป็นเจ้าอย่างแท้จริง กอปรกับของบางอย่างภิกษุทำไม่ได้อย่างสิ้นเชิงพ่ออาจารย์ท่านจึงใคร่สร้างยอดเครื่องรางวราหาวตารนี้ให้ปรากฏ

หมูนารายณ์หรือพระวราหะนั้นสำคัญไฉน พ่ออาจารย์ท่านอุปมาไว้ดั่งว่าเมื่อเกิดกลียุคหิรัณยากษะมหายักษ์ใคร่จะเป็นเจ้าโลกจึ่งกระทำฤทธานุภาพให้ปรากฏม้วนแผ่นดินทั้งสี่ทวีปเอาลงไปในบาดาล สรรพสัตว์ตลอดจนมนุษย์รวมไปถึงพระแม่ธรณีล้วนได้รับความทุกข์แสนสาหัส พูดง่ายๆคือกำลังจะตายและตายกันชนิดล้างเผ่าพันธุ์ ในปางนั้นพระนารายณ์ผู้เป็นเจ้าได้ทรงกู้สถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นด้วยการอวตารพญาหมูป่าตัวเผือกขาวดังสำลีมีเขี้ยวโง้วยาวเป็นเพชรลงไปสังหารมหายักษ์ ครั้นแล้ว " วราหาผู้เป็นเจ้า ได้เสด็จออกปราบมหายักษ์ คลี่แผ่นดินทั้งสี่ทวีปให้กลับเจริญรุ่งเรือง "

ดังนั้นจึงถือคติที่ว่าเมื่อพระวราหาวตารคลี่แผ่นดิน
..คือนำแผ่นดินที่สิ้นหวังแล้ว
..นำแผ่นดินที่ตายแล้วทั้งสี่ทวีป
..นำแผ่นดินอันสรรพสัตว์ทั้งหลายหากำลังใจหรือความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ไม่ได้แล้วนำกลับมา
คลี่ออกให้กำเนิดสรรพชีวิตขึ้นใหม่ สถาปนาแผ่นดินสี่ทวีปขึ้นใหม่จนถึงแก่ความเจริญรุ่งเรืองเป็นที่สุด ด้วยคตินี้จึงอุปมาวราหาคลี่แผ่นดินเป็นวิชาที่ทำให้ชีวิตได้เริ่มต้นใหม่จนถึงที่สุดแห่งความเจริญรุ่งเรือง ถึงแม้จะเป็นชีวิตที่พิกลพิการลำบากยากแค้นสิ้นหวัง แม้จะแห้งเหี่ยวแล้วใกล้ดับสูญแล้วร้ายแรงถึงปานนั้นก็ยังกู้กลับขึ้นมาได้

พ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าถ้าท่านไม่ทำขึ้นมาจริงๆจังๆคนที่รู้และทำได้จริงก็ดูจะไม่มีเสียแล้ว ดังนั้นท่านจึงตั้งใจทำหมูของท่านมากด้วยวิชาพยนต์นารายณ์เป็นหลักเพื่อกู้แก้วิกฤติที่เลวร้ายสิ้นหวังทุกสถาน ซ้ำยังลบผงวิชาหมูทุกตัวผสานลงไปด้วย นอกจากนั้นด้วยปัจจัยที่ว่า
- หมูมันกินจุ
- หมูกินเก่ง
- หมูกินไม่เลือก
- หมูกินได้ตลอดเวลา
ดุจดั่งลาภลอยมีให้กินไม่ขาด..จะกินใช้เท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมด "ท่านว่าหมูมันสบาย ชีวิตมีแต่นั่งกินนอนกินแล้วก็โตขึ้นๆไม่หยุด" ท่านจึงอุปมาว่าชีวิตแบบหมูๆคือการเติบโตแบบง่ายๆสบายๆดั่งวิสัยของคนนั่งกินนอนกินและต้องเจริญขึ้นเท่านั้น

ท่านตั้งใจทำหมูชุดนี้ให้มีอานุภาพมีตัวตนโดยใช้มวลสารเฉพาะทางที่ท่านเก็บไว้นั่นคือ เขี้ยวหมูตันพันปีซึ่งแข็งเป็นหินของชิ้นนี้มีอานุภาพมากท่านว่าใช้ได้ทุกอย่างดุจอาวุธเทวดา มีเดชมากแรงครูสูงวันดีคืนดีมักปรากฏเป็นหมูเผือกเขี้ยวเพชรออกมาหาข้าวกิน ท่านได้นำเขี้ยวหมูหินหรือเขี้ยวเพชรนี้บดเป็นผงเพื่อสร้างวราหาคลี่แผ่นดินทั้งยังผสมด้วยผงลบวิชาหมูนารายณ์รวมถึงหมูทองแดงและหมูทุกสายของท่าน รวมไปถึงซ้องหมูป่าทนสิทธิ์ทรงอำนาจซ้ำซ้องหมูป่ายังมีเดชมาที่มีความเชื่อว่าหากหมูป่าไม่ตายหรือคายออกมาเองจะไม่สามารถพบได้เลย ท่านถือคติว่า..กูไม่ตายคนอื่นก็ไม่ได้กิน ผงทั้งหมดนำมารวมกับว่านยาเฉพาะทางและผงไม้ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆตามตำรับสร้างหมูนารายณ์ที่ท่านไม่ให้เปิดเผย ท่านว่าว่านและตัวยาแต่ละอย่างล้วนหายาก ไม่แปลกใจเลยที่โบราณจารย์จะกำหนดขึ้นไว้และเมื่อสร้างเสร็จนั้นหมูนั้นจะมีเดชมากพิฆาตได้แม้กระทั่งเสือสมิง

รูปนั้นสำคัญไฉน ..ด้วยรูปเป็นสื่อที่บ่งบอกกิริยาและมีความสำคัญในการเรียกอาการตลอดจนสำเร็จตัวตนทั้งหมด พ่ออาจารย์ท่านจึงแกะพิมพ์หมูสำคัญนี้เป็นพระวราหะเขี้ยวยาวโง้งทูนแผ่นดินทั้งสี่ทวีปไว้บนศรีษะ
- ทั้งชนะมาร
- ปราบแผ่นดิน
- คลี่คลายวิบัติ
ดุจว่าแผ่นดินกำลังคลี่ออก..เพื่อรูปนี้จะให้กำเนิดสรรพชีวิตเป็นที่สุดแห่งความเจริญรุ่งเรือง ดุจผู้พกนั้นอยู่ในสถานการณ์ที่หมูนารายณ์นี้กำลังแก้ไขคลี่คลายปัญหาโลกแตกให้ตัวเราตลอดเวลา ไม่มีเหตุการณ์ร้ายๆใดจะมาปิดกั้น,อุดตันหรือเป็นอุปสรรคให้ฝ่าไปไม่ได้

นอกจากสำเร็จรูปพยนต์นารายณ์แล้ว พยนต์หมูนี้ท่านยังฝังของมงคลเพื่อหนุนธาตุวิชาให้เสริมอานุภาพซึ่งกันและกันกลืนกินไม่ขัดแย้งกัน ดังนี้
- ทรายกรดเพลิงกัลป์ เป็นทรายมหามงคลที่หลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดินใช้ขัดตัวท่าน พ่ออาจารย์ท่านเก็บเฉพาะทรายที่ติดตัวหลวงปู่ไว้เป้นมงคลดุจมีของใช้ของท่านไว้เป็นเครื่องระลึกถึงท่านว่าทรายนี้มีค่ามากเพราะบารมีหลวงปู่สรวง ท่านเก็บไว้แต่ก็ได้ไม่มาก(เพราะเลือกเฉพาะทรายที่ติดองค์หลวงปู่) พ่ออาจารย์ท่านจึงขอบารมีหลวงปู่และนำมาเสกเองไว้เรื่อยให้ทราบมีอานุภาพดั่งทรายกรดซัดไปโดนภูติผีที่ใดดุจต้องไฟนรกเผาผลาญ ..แต่เนื่องจากทรายนี้มีปริมาณน้อยเวลาใครมาขอทรายเสกท่านก็จะผสมทรายนี้ให้ไปในทรายเพียงเล็กน้อยก็ถือว่าใช้ได้แล้ว ท่านอุปมาว่าแม้เชื้อไฟเพียงเล็กน้อยก็ย่อมลุกท่วมเป็นมหาอัคคีทรงอานุภาพดังเดิมได้ เมื่อทำวราหาชุด 7 จันทร์ นี้พ่ออาจารย์คิดถึงหลวงปู่สรวงจึงนำหัวเชื้อทรายที่มีน้อยมากๆมาโรยไว้ทำให้วราหาชุดนี้ของท่านทำได้น้อยและมีฤทธิ์ประเสริฐมาก
- ลูกอมเงินล้าน ฝังไว้บนศรีษะหมูเป็นลูกอมที่พ่ออาจารย์ท่านปั้นและผึ่งลมไว้ โดยใช้ผงเงินล้าน ผงพระโพธิสัตว์เป็นพ่อค้า ผงทศชาติ ผงจินดามณี ผงพระสีวลีเปิดบาตร ผงหาลาภ ผงเร่งลาภ ผงเสริมลาภ ท่านได้นำผงต่างๆมาเข้ากับว่านตระกูลเศรษฐีปั้นเป็นลูกอมโดยลูกอมเม็ดเล็กๆนี้ก็ปรากฏความขลังยิ่งนัก ท่านว่าคนเค้าเอาไปแช่น้ำพรมที่ค้าขาย เขาตั้งตัวได้ จับเงินล้านกันก็มีมาแล้ว ท่านจึงถือเป็นอุดมมงคลเรียกเสียว่าลูกอมเงินล้านนำมาฝังวราหาชุดนี้จะได้คลี่คลายทรัพย์ทั้งหมดเอาเงินล้านเข้าตัว
- ตอกหมุดไกรลาส ท่านเอาเชื้อแร่และเศษแร่ที่เหลือจากทำหมุดเนื้อแร่มาหลอมรวมกับตะกั่ววิชาพลิกแผ่นดินทุกสูตรเทเป็นหมุดตะปูฝังหมูวราหะ(ท่านแม้เศษแม้ผงก็ยังเป้นมงคล) พ่ออาจารย์ท่านได้แร่ก้อนนี้มาจากศิษย์นักปีนเขาที่ชอบความท้าทายแบบเสี่ยงชีวิต เป็นแร่ที่ได้มาตอนไปไกรลาสในเทือกเขาหิมาลัย ท่านว่าสมัยนั้นองค์ปฐมให้รอแร่ก้อนนี้นี่แหละ พอได้มาท่านก็นำมาเสกอุปมาว่าก้อนแร่นี้คือเหมเขาไกรลาสเชิญกำลังเทพเจ้าทั้งหมดเข้ามารักษา ก่อนจะพลีทุบก้อนแร่ โดยหมุดคือสิ่งที่ใช้สำหรับตรึงแต่หมุดไกรลาสนั้นมีความเชื่อว่าเป็นแดนศูนย์กลางของหมื่นจักรวาล หากมีไกรลาสดำรงค์อยู่สายธารแห่งชีวิตย่อมกำเนิดขึ้นหล่อเลี้ยงสรรพชีวิตทั้งหลาย ย่อมนำพาอารายธรรมและความเจริญรุ่งเรืองนับกัปกัลป์โดยลำดับให้ปรากฏขึ้นแม้นท้ายสุดของชีวิตยังได้กลับรวมเป็นหนึ่งกับเทพเจ้าทั้งหลาย เมื่อพ่ออาจารย์ท่านทำเป็นหมุดอุดรูทะลวงที่วราหะ ท่านว่าเป็นเคล็ดให้ยึด..ได้ทั้งหมด เพราะหมุดคือสิ่งที่ยึดให้นิ่งอยู่ไม่ไหลออกรั่วออก หมุดนี้จึงมีอาถรรพ์เป็นกฤติยาคมแฝดให้เราถือและยึดครองสิ่งต่างได้โดยง่าย อย่าลืมว่ายึด..ไม่ได้ไปขอเขามาเพราะยึดนี่คือเราถือเอาตามกำลังตามอำเภอใจของตัวเราเลย เช่นนั้นจึงต้องใช้หมุดหิมาลัยไกรลาสธิบดีเพราะมีศักดิ์ใหญ่มากดั่งศูนย์กลางโลกเป็นศูนย์กลางของภพภูมิทั้งหลายและเป็นที่รวมตัวกันของเทพเจ้าทั้งหมดจึงมีอานุภาพมาก ช่วยให้เรายึดความปรารถนาทุกอย่างให้เกิดขึ้นได้จริง
- จะอุดรอยรั่วทุกอย่างในชีวิต
- จะทำให้สิ่งกลวงโบ๋ว่างเปล่าได้รับการเติมเต็ม
- จะทำให้อุปสรรคขัดขวางทุกอย่างทะลุะทะลวงโล่งไปทั้งหมด
- จะช่วยให้เราตรึงสิ่งที่เราปรารถนา ให้อยู่กับเราได้ได้ตลอดไป
- จะช่วยให้เรายึดครองถือครองกิจธุระต่างๆได้โดยง่าย
พ่ออาจารย์ท่านว่าอธิษฐานดีๆเถิดเอาหมุดนี้ปักตรึงสิ่งใดแล้ว..สิ่งนั้นต้องเป็นของเราและอยู่กับเราเป็นแม่นมั่นไม่คลาดเคลื่อนเลย (หากเราใช้หมุดนี้ตอกย้ำคำอธิษฐานของเรา คำอธิษฐานเราย่อมไม่หลุดรอดไป..ที่จะไม่เกิดรึไม่สัมฤทธิ์ผลเป็นไม่มี) อธิษฐานผ่านหมุดนี้เหมือนเราตอกย้ำคำอธิษฐานด้วยหมุดหิมาลัยไกรลาสธิบดีไม่มีสิ่งใดหลุดรอดได้ ### แม้จะเป็นสิ่งที่ไร้วาสนาในชะตาเราไม่มี..ในเหตุการณ์ชีวิตเราไม่มีวันเกิดขึ้นได้ แต่หมุดนี้จะตรึงเข้าหากันให้เกิดให้มีและยึดไว้ไม่ให้คลายตัวเลย เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงเน้นย้ำไว้ว่าให้คิดอ่านปรารถนาแต่การณ์มงคลทั้งปวงเถิดอย่าไปใช้ด้านทำลายผู้ใด เพราะอธิษฐานดีๆแม้สิ่งที่แยกขาดหมดวาสนาจากเราไปแล้วยังมีสิ่งทดแทนปรากฏขึ้นมาใหม่ได้อุปมาว่ายึดคืนมาได้ ด้วยหมุดหิมาลัยไกรลาสธิบดีอันเป็นอาถรรพ์สูงสุดคู่ฟ้าดินซึ่งไม่มีวันล่มสลาย
- ตะกรุดทำวิชาหมูกินเสือ ฝังไว้ด้านหลังกำกับพยนต์หมูด้วย วิชานี้ชื่อประหลาดเพราะปกติหมูต้องเป็นเหยื่อเสือต้องเป็นฝ่ายที่ถูกกิน แต่หมูกินเสือนั้นท่านว่าเป็นวิชาที่กลับตาลปัตรให้เราได้กินเรื่องยากๆที่ไม่เคยกิน เปรียบตัวเองเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนด้อยไร้ฤทธานุภาพ
- แต่เหล่าผู้มากด้วยวาสนาบารมีก็ยังมาตายคาปาก
- มาให้เรากินถึงที่ไม่ต้องแสวงหาไม่ต้องดิ้นรน
- อิ่มฟรีแบบมีเกียรติไม่ใช่อิ่มไปมื้อๆขอไปที
ตรงนี้ท่านว่าสำคัญมากสมัยนี้คนเราชอบแสวงหาสิ่งที่ช่วยเหลือชั่วมื้อชั่วคราวประดุจหิวข้าวก็จะหาโภชนาหารเพียงเติมให้เต็มท้อง..แก้หิว..แก้อยากไปมื้อๆ อิ่มเช่นนี้เป็นอิ่มมื้อเดียวมื้อหน้าก็ต้องเหนื่อยออกหากินใหม่ กว่าจะได้กว่าจะอิ่มอีกก็เสียเวลาสูญเสียช่วงชีวิตไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงทำวิชาหมูกินเสือเพื่อแก้ปัญหาวาสนาชะตาคนให้มีชีวิตที่ง่ายขึ้น ทำอะไรก็ง่ายไปหมด และเป็นผู้ชนะตลอดกาล

พ่ออาจารย์ท่านว่ามงคลและอาถรรพ์ที่ฝังเสริมลงไปนั้นทุกสิ่งล้วนขานรับซึ่งกันและกัน เมื่อนั้นให้ชีวิตแบบหมูๆเจริญและพัฒนาไปเรื่อยๆ หมูนี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้เป็นพยนต์นารายณ์มีอานุภาพมาก ท่านว่าให้ใช้เป็นเครื่องรางหรือทำพวงกุญแจก็ได้ ..คาดเอวก็ได้มีตัวมีตนแรงมากนัก วันดีคืนดีจะเห็นหมูเผือกเขี้ยวยาวถ้าใครตาดีหน่อยก็จะเห็นมาปรากฏกันง่ายๆ

แต่ทั้งนี้ก็ยังมีเคล็ดการเลี้ยงง่ายๆเพื่อให้บูชาได้ผลทันตาเช่นกัน
*** เคล็ดการเลี้ยงหมูให้ชีวิตหมูๆ ท่านว่าหมูมันหากินเก่งกินไม่หยุด แต่เราผู้เป็นเจ้าของมันอย่าให้มันหากินเอง เราต้องเลี้ยงมันอย่าให้มันกินสิ่งใดในบ้านของเราไม่เช่นนั้นมันจะกินจนไม่เหลือ ได้ไปต้องบอกกล่าวกันก่อนว่าห้ามหากินเองหรือกินข้าวของในบ้าน พ่อสัญญาว่าจะเลี้ยงเจ้าให้ดี พูดให้เข้าใจง่ายๆคือให้ถือเคล็ดไปซื้อข้าวสารจากนอกบ้านมาซักถุงและตั้งใจไว้เลยบอกกับหมูเลยว่าข้าวสารนี้คืออาหารของเค้าตั้งใจเลยว่านี่คืออาหารหมู วันพระหนนึงก็เปลี่ยนให้มันทีนึงถือคตินี้มันจะหากินนำทรัพย์สินจากภายนอกเข้ามาหาเราไม่หยุด โดยที่ทรัพย์สินภายในจะอยู่คงเดิมไม่ขาดตกบกพร่องมีแต่จะเพิ่มพูนยิ่งๆขึ้นไป
- อุปมาดั่งกินแต่ของนอกบ้านหาเข้าบ้าน
- ให้ลากมากินในบ้านจนอิ่ม
- ซ้ำยังไม่แตะต้องสมบัติทรัพย์สินใดๆในบ้านนั้น

###หากไม่เลี้ยงก็เพียงบอกกล่าวว่าอย่ากินอะไรในบ้านเรา..ให้เจ้าไปหากินข้างนอก..กินแลวเอากลับมาฝากพ่อ แล้วเอามาเป็นเครื่องรางติดตัวก็ใช้ได้

คาถาบูชา
โอม ศานตาการัม ภุชะคะศะยะนัม ปัทมะนาภัมสุ เรศัม วิศวาธารัม คะคะนะสะทฤศัม เมฆะวรรณัม ศุภางคัม ลักษมีกานตัม กะมะละนะยะนัม โยคิภีร์ ธยานะคัมมยัม วันเทวิษณุมอภะวะภะยะหะรัม สรรวะโลกัยกานาถัม

*** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น สำหรับผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย พ่อาจารย์ท่านจะบอกกล่าวสั่งสอนเพื่อมอบอาญาสิทธิ์ให้เจ้าของใช้งานได้เต็มที่ พร้อมกับประสิทธิ์มงคลชัยอีกวาระหนึ่ง

ร่วมทำบุญบูชา องค์วราหา 7 จันทร์เพ็ญคลี่เงินล้านเข้าทรายกรดเพลิงกัลป์(ตอกหมุดไกรลาส) บูชา 900 บาท

​

 

รายการนี้ท่านตั้งใจทำให้ใช้กันมากๆเพราะของบางอย่างก็จะหายไปกับยุคสมัย ประกอบกับทรายเหล่านี้มีน้อยมากท่านจึงทำได้น้อย

 

รายการหมูจันทร์เพ็ญนี้ส่งหลังวันจันทร์นะ ท่านจะเสกให้อีกเพราะเป็นจันทร์เพ็ญถือว่าเสกปิดในจันทร์เพ็ญ(ขอให้เสกเยอะๆสบายใจ)

 

ร่วมทำบุญบูชา มงคลปั้นโลกอมตะนิรันดร์โลกัยยะสยมภูว(ปักเสายอดคนสิทธิชีวา)

พ่ออาจารย์ท่านว่าหุ่นชุดนี้เป็นวิชาขององค์ปรพรหมเพื่อให้เราเข้าถึงโลกแห่งความสมหวังของตนเอง
- โลกที่เราเป็นอิสระไร้เครื่องขัดขวาง
- โลกที่ในชีวิตจริงตัวเราไม่ถูกทำลาย
- โลกที่อำนวยความสุขสบายแก่เรา
ด้วยกำลังของอาตมันนั้นคือโลกทั้งหลาย(เป็นโลกของทุกสรรพสิ่ง) พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ไม่ใช่ของทะลึ่งลามกแต่อย่างใด หากแต่เป็นดั่งโลกของบิดามารดา(ทิพย์)ที่คอยสงเคราะห์เราในโลกแห่งความจริงเพื่อให้เรามีสิทธิเต็มที่ในเรื่องของชีวิตตัวเอง โดยครูปรพรหมท่านให้พ่ออาจารย์รวบรวมมวลสารชั้นเลิศที่มีดีในตัวจากธรรมชาติอันศักดิ์สิทธิ์มาสร้างขึ้น ท่านว่าไม่ได้ทำให้เอาไปใช้เพียงเป็นเสน่ห์เมตตาชั้นครูแต่ตั้งใจทำเพื่อความกินดีอยู่ดีมีครอบครัวที่อบอุ่นในทุกยุคสมัยและเป็นชีวิตอันสมบูรณ์แบบของผู้ใช้หากบูชาให้ดีก็อยู่สบายถึงขั้นเศรษฐี..สร้างตัวตน..สร้างตัวเราในความจริงขึ้นมาได้ ด้วยวิชานี้จะช่วยฝันฟ่าเศษกรรมทุกระลอกแห่งวัฏสงสาร

โลกัยยะสยมภูว นี้ถือคติว่าเสียบสิ่งใด(เสียงร้องขอ)..แล้วต้องได้ครูพ่อครูแม่ต้องใจอ่อนลงมือทันที พ่ออาจารย์ท่านว่าขอได้ทุกสิ่งไม่มีข้อแม้หรือละเว้นเลยให้บูชาติดตัว ***แล้วนำชื่อสกุลวันเดือนปีเกิดตัวเองพับให้เล็กที่สุดยัดไว้ให้ลึกที่สุด หลังจากนั้นหากจะทำอะไรก็เขียนสิ่งที่ต้องการนั้นเสียบไว้ในเสายอดคน จะคน..สัตว์..สิ่งของ..การลงมือ..การกระทำที่มีความเสี่ยง..การลงทุน...ปรารถนาเรื่องไหนให้สอดไว้แล้วจึงอธิษฐาน(ความปรารถนานี้หมุนเวียนสับเปลี่ยนได้ตามความสำคัญของสถานการณ์) ให้กุมมงคลโลกัยยะไว้ในมืออธิษฐานเสมอๆครูพ่อครูแม่จะหนุนดวงของเราและทุกสิ่งที่เราอยากจะผูกเข้ากับดวงของเราทั้งหมด พ่ออาจารย์ท่านว่าในแท่งเสานี้รวมหมดทุกอย่างและขอแล้วต้องได้ บางอย่างขอไปแล้วในดวงเรามันไม่ได้จริงๆแต่เครื่องมงคลชุดนี้คือรวมสิ่งที่เราปรารถนาไว้กับดวงของตน..ให้เกิดขึ้นได้ในดวงชะตาไม่ฝืน

วิชานี้จะเกื้อกูลในเรื่องที่ขอได้ไม่ยากโดยใช้อำนาจของปรพรหมซึ่งเป็นดั่งพ่อแม่ของโลกทั้งหลาย เป็นบูรพบรรพบุรุษแห่งสรรพชีวิตเช่นนั้นท่านว่าเครื่องมงคลนี้เป็นสิริมงคลชั้นสูงสุดแก่ชีวิตผู้บูชาดั่งอมตะวาจาสิทธิ์ปรพรหมว่า "มงคลอมตะนิรันดร์" อันเชื่อมกาลไม่เสื่อมสูญ,ไม่แปรเปลี่ยน,ทำลายไม่ได้..ท่านว่าผู้บูชาก็ไม่ตกต่ำหรือที่เรียกว่าขอสิ่งใดมาได้แล้วก็ไม่เสื่อมสิ้น

- สิ่งใดที่เกิดขึ้น
- สิ่งใดที่ได้รับ
- สิ่งใดที่สำเร็จแล้ว
ถือว่าเราได้รับการสงเคราะห์โดยคุณบูรพบรรพชน(ดั่งพ่อแม่ครูต้น)ที่ห่างไกลจากลูกเหลือเกิน เพียงลูกร้องขอและปรารถนาพ่อแม่ย่อมเร่งมาสงเคราะห์ ด้วยท่านถือคติว่าพ่อแม่ไม่อยากให้ลูกเจ็บไม่อยากให้ลูกจน เราจะกลายเป็นลูกรักเสมอด้วยแก้วตาดวงใจของพ่อครูแม่ครูทั้งขอสิ่งใดต้องได้ดั่งเจตน์จำนงค์ไม่ให้มีความเดือดร้อน ท่านว่าวิชานี้ตรงๆคือวิชาที่เราใช้สร้างโลกของเราเองมันเกินเรื่องฐานะและสร้างตัวตนไปมากเพราะเราจะมีหน้าที่เป็นผู้สร้างและก่อตั้งวงศ์ตระกูลให้มั่นคงเรียบร้อยโดยง่าย(เกินเรื่องสร้างฐานะไปมาก)หากปรารถนาสิ่งที่เกินตัว,เกินเรื่องหรือฐานะที่เป็นไปไม่ได้ในชีวิตตนก็อาราธนาให้ครูพ่อครูแม่ท่านโปรด

*** หากสิ่งใดไม่เกินกรรมที่เราจะมีได้ย่อมสำเร็จทันที
*** หากสิ่งใดมีบุญหนุนนำบ้างแม้เพียงเล็กน้อยย่อมสำเร็จทันที
*** แต่สิ่งใดที่เกินวาระกรรมของเราไปก็จะใช้เวลาแต่ไม่นานนัก

ให้เธอถือเสมอว่าหุ่นนี้เป็นดั่งบูรพบิดา - บูรพมารดา จงพูดเพราะๆแสดงความปรารถนาอันแรงกล้าของเราด้วยความรักอันบริสุทธิ์แล้วเธอจะได้ความรักอันบริสุทธิ์กลับคืนกลับมา..ความช่วยเหลืออันใดไม่ช้าเลยท่านว่านี่พ่อแม่โปรดลูก(วันไหนลูกนึกถึงพ่อแม่ได้พ่อแม่ย่อมไม่ทอดทิ้ง) ท่านว่าใช้สร้างตัวเธอนะให้ก่อเกิดชีวิตที่ดีงามและให้ก่อเกิดสิ่งดีงามขึ้นในชีวิตก่อร่างสร้างตัวตั้งวงศ์ตระกูลให้ยิ่งใหญ่เพราะวิชานี้เป็นโลกจำแลงขององค์ปรพรหมที่ทำให้เกิดรูปธรรมอย่างแท้จริง ท่านว่าให้มองมงคลอมตะนี้แทนพ่อตัวเองและแม่ของตัวเองที่จะคอยมองและสงเคราะห์เราผ่านโลกทั้งหลาย ด้วยจะนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง

พ่ออาจารย์ท่านว่าพ่อครูแม่ครูนี้ต้องปั้นให้ไร้อาภรณ์ใดๆในปางทิฆัมพร ท่านว่าใช้ไปเถอะแบบนี้ไม่มีวันเสื่อม..โดนลม..อยู่ใต้ฟ้ามีแต่ขลังและแรงขึ้น เป็นเครื่องมงคลที่เอาไว้ค้ำจุนตัว,ค้ำจุนฐานะ,ค้ำจุนชะตา..และค้ำจุนสิ่งที่ทรุดไปทั้งหมดมงคลนี้ท่านว่ามันดึงแต่กรรมดีให้เกิดขึ้นและป้องกันดวงชะตาของเราไม่ให้มีสิ่งใดแย่งไปหรือช่วงชิงไปได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้กับฐานะที่ล่มสลายไปยังฟื้นฟูกลับมาได้..ดังที่ท่านได้ทดลองวิชาหลังเสกให้คนไปบูชาท่านว่าแต่ก่อนปั้นเป็นลูกอมเจาะรูให้สอด..ให้ใช้เฉพาะคนที่ชีวิตพังพินาศและวาสนาชักนำมาอยากได้อะไรให้เขียนอุดใส่ในก้อนกลมๆนี้ท่านว่าบ้าน,รถ,ความสำเร็จทุกรูปแบบมันเกิดขึ้นแล้วทั้งหมดแม้กระทั่งฐานะที่มั่นคง,ชีวิตคู่ที่สมหวัง(ท่านจึงมั่นใจมงคลอมตะมาก ..ว่ารายไหนรายนั้นต้องดีและมีแต่ดีไปเรื่อยๆตามลำดับขั้นการเติบโตในชีวิตเขา)

### โลกัยยะสยมภูว ..โลกที่จะบันดาลอิสระให้เกิดแต่ตัวเรา
- ให้เป็นโลกที่เราจะทำอะไรก็ได้
- ให้เป็นโลกที่เราหาทรัพย์ได้มาก
- ให้เป็นโลกที่เราจะทำอะไรก็เกิดผลดี
- ให้เป็โลกที่เราจะได้พบเจอแต่คนที่ดี
พ่ออาจารย์ท่านเล่าว่าวิชานี้ท่านไม่เคยลงให้ใครเต็มวิชาเช่นนี้มาก่อนท่านเลยประสงค์จะทำไว้เสียซักครั้งหนึ่ง วิชานี้ได้ชื่อว่าเป็นวิชาของปรพรหมเป็นความรักดั่งพ่อแม่ที่ประทานให้ไว้แก่ศิษย์ผู้ศรัทธาความแรงนั้นไม่มีจำกัดไม่มีลดลงเลยยิ่งรักต่อบรมบิดาและบูรพมารดาของเราบริสุทธิ์มากเท่าใดหุ่นนี้ก็ยิ่งประเสริฐสงเคราะห์เราไวมากขึ้นเท่านั้น...ปรารถนาสิ่งใดให้ระลึกถึงคุณพ่อแม่ทุกอย่างย่อมสำเร็จ ยิ่งขอยิ่งได้ปรารถนาสิ่งใดเสียบไว้ในเสาจะกลายเป็นยอดคน พ่ออาจารย์ท่านว่าโลกัยยะสยมภูวนี้จะสร้างตัวเราและสร้างชื่อให้เรามั่นใจเขาไปพร้อมๆกัน เพื่อให้เราอยู่ในโลกที่ตรงกับประสบการณ์และจริตตัวเอง ทั้งหุ่นนี้ยังเป็นเจตสิกภูติคอยตามช่วยเหลือเราไม่ต้องเลี้ยงไม่ต้องเซ่นยิ่งใช้ยิ่งแรงยิ่งมีกำลัง...ท่านว่าให้ใช้เถิดแม้ปรารถนาเราจะไกลสุดเอื้อมทำให้ดีก็ย่อมคว้ามาไว้กับมือได้

### ผู้ที่จะได้ไปครอบครองนั้นจะเป็นผู้ที่พระเวทย์ยอมรับโดยแท้จริง ทั้งพระธรรมได้เลือกเธอแล้ว ท่านชอบพูดว่าหุ่นคู่นี้ท่านแรงเกินไป แม้แต่เทวดาเขายังรู้คุณหุ่นกายสิทธิ์เช่นนี้ที่จะมานั่งทำให้บังเกิดอีกคงยากเต็มทีหากใช้ให้ถูกใช้ให้เป็นจะมีผลสัมฤทธิ์ที่ดีขึ้นทันตา แม้พกไว้เฉยๆไม่ขอสิ่งใดแต่ใจเรามีอารมณ์อยากได้รุนแรง..ให้สังเกตุดูว่าสิ่งนั้นจะวิ่งเข้ามาหาเราเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นมหากำเนิดที่จะรักและช่วยเหลือลูกๆทุกคนด้วยความห่วงหาอาทรและเมตตาซ้ำยังปกป้องคุ้มกันสรรพอันตรายทุกสิ่ง ท่านว่าคุณไสยมนต์ดำ,อุบาทว์,อาถรรพ์,การกระทำฝ่ายต่ำทำอะไรเราไม่ได้
- มาถึงหุ่นนี้เรารอดทั้งหมด
- มาถึงหุ่นนี้เราพ้นทั้งหมด
- มาถึงหุ่นนี้มันเสื่อมทั้งหมด
ท่านรับเอาไว้เองเสียทุกอย่างเพื่อให้ลูกเหลือแต่ความเจริญโดยส่วนเดียวนี่คือเครื่องมงคลที่ลงเมตตาโดยส่วนเดียวจึงเมตตาสงเคราะห์เราทั้งหมดไม่เจือจิตทางอื่นเลย ทุกอย่างมีแล้วจะทำให้ตัวเองเจริญขึ้นรุ่งเรืองขึ้น

มงคลปั้นนี้พ่ออาจารย์ท่านฝังยอดเครื่องรางที่ท่านมั่นใจสุดๆลงไป
- ปักเสาหล่อยอดคน ...ที่เอาไว้ฝังดวงชะตาและเสียบสอดใส่ทุกความปรารถนาให้สัมพันธ์กับดวงเรา กว่าจะทำตะกรุดซึ่งลงวิชาสำคัญนี้ได้ครูพระสยมท่านให้พ่ออาจารย์รวบรวมยอดโลหะที่หาได้ยากตั้งแต่เหล็กยอดประสาท,ยอดพระที่นั่ง,ยอดพระเจดีย์,ยอดนคร,ยอดเมือง,ยอดฉัตร,ยอดวัด,ยอดเมรุ,ยอดมหาธาตุ ตามคติว่าเป็นสิ่งที่สุดยอดที่สุดซึ่งจะมีอาถรรพ์หนุนชีวิตเราให้สูงขึ้นทั้งยังปราบศัตรูช่วยให้เราเป็นยอดคนได้ ท่านจึงเรียกโลหะชุดนี้ว่าตะกรุดหล่อยอดคนหรือเสายอดคน ท่านเอามาหล่อเข้ากับยอดเหล็กจารของบูรพาจารย์ของท่านที่ท่านว่าขลังที่สุดเพราะตอนครูท่านเขียนท่านจารท่านก็กำหนดจิตบริกรรมคาถาไปด้วยตลอดเรียกว่าเป็นสุดยอดด้วยแรงครูทั้งยังผสมด้วยเหล็กไหลฤาษี,ไหลเงินยวง,เหล็กไหลตาแรด,เหล็กน้ำพี้...ชินจากกรุมเหศวร(กลับร้ายกลายเป็นดี) ทั้งยังนำเหรียญทองโบราณที่หายาก(ปัจจุบันมีค่าหลายแสนบาท)เป็นเหรียญทองอาถรรพ์ที่ใช้เรียกทรัพย์โดยเฉพาะท่านว่าหาไม่ได้ไม่มีอีกแล้วท่านหล่อผสมลงไปด้วย ท่านถือว่าประเทศไทยนั้นเป็นธาตุทองถึงต้องใช้กำลังทองอาถรรพ์เพื่อดึงเอาชัยชนะต่างๆเข้ามาในชีวิต เมื่อหลอมออกมาแล้วจึงได้ตะกรุดหล่อวรรณะอมเขียวที่ท่านว่าสร้างได้ยากที่สุดเพราะมวลสารนั้นหาไม่ง่ายเลย พอหล่อออกมาท่านต้องเสกด้วยมนต์ทศกัณฐ์ถอดหัวใจจึงจะสำเร็จแม้ใครได้พกไว้ก็จะเป็นยอดคนดวงไม่ตกฆ่าไม่ตาย ดั่งเราย้ายจิตออกไปจากตัวแม้เจ้ากรรมนายเวรก็ไม่สามารถให้โทษถึงตัวได้ พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าตะกรุดสำคัญนี้เป็นวิชาที่ขอได้ไหว้รับถ้าหมั่นขอทุกวันก็ได้รับในทุกวันเช่นกัน อาศัยความต้องการของเราขับเคลื่อนตะกรุดย่อมให้คุณกับเราหากมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นในชีวิตสามารถอธิษฐานบอกกับตะกรุดได้ว่าเป็นเรื่องอะไรขอแค่เราบ่นแค่เราบอกเท่านั้นเขาก็ช่วยเขาจะช่วยให้เราพ้นไปอย่างแน่นอน ไม่มีสิ่งใดหยุดความช่วยเหลือได้ไม่ติดอยู่ในเรื่องผลบุญผลกรรมจึงช่วยไม่ได้แบบนั้นไม่มีเพราะอดีตชาตินั้นเรามองไม่เห็น แต่ปัจจุบันกับอนาคตนั้นเราต้องกำหนดเอง

- ฝังตะกรุดอาญาสิทธิ์สวรรค์ วิชาทำตะกรุดที่ทรงอาญาสิทธิ์สวรรค์โดยตัวตะกรุดนั้นจะรวบรวมกำลังของพระเวทย์และพระธรรมแรงครูนั้นจะทำให้ประจักษ์แจ้งในเหตุทางอภินิหาริย์ของชีวิตๆทุกประการโดยให้พระธรรมพระเวทย์สงเคราะห์เราปัดเป่ารับเคราะห์แทนตัวเรา ไม่เลือกว่าจะใช้ทางมืดหรือทางสว่างหรือเราเป็นคนแบบไหนอยู่ในสังคมมีชีวิตอย่างไร เป็นวิชาที่ใช้กำลังสัทธรรมมาเกื้อหนุนเพราะสัทธรรมนั้นเป็นสิ่งที่ควบคุมทั้งเทพเจ้าคุมทั้งพลังปาฏิหาริย์ตลอดจนสวรรค์,มนุษย์,นรก,บาดาล จะบันดาลให้กำลังฟ้าและวิถีดาวเกิดผลดีกับมนุษย์อย่างถึงที่สุด ตราบใดที่เท้ายังเหยียบยังสัมผัสกับแม่พระธรณีอยู่ย่อมไม่เกิดเหตุร้ายทั้งยังป้องกันเรื่องร้ายและเรียกโชคได้ทุกประเภทไม่ว่าจะโชคจากนรก,บาดาล,มนุษย์หรือว่าฟ้าสวรรค์ โดยจะเรียกเฉพาะเรื่องดีๆหนักไปจนถึงขั้นเร่งวาสนามีชัยชนะแก่ทุกสิ่งที่ชีวิตผจญอยู่และป้องกันการลงทัณฑ์ทรมานที่จะเปลี่ยนชะตาหรือทดสอบวงเวียนชีวิตจากฟ้าสวรรค์และอมนุษย์

- ติดหุ่นคู่สะท้อนกรรม หุ่นคู่นี้ท่านเสกให้มีสำนึกพิเศษใช้รับกรรมรับเคราะห์แทนตัวผู้บูชา,ใช้ดูดโรคเวรโรคกรรม,ระงับกรรมเก่า,ชะลอกรรมที่ให้ผลรุนแรงให้บรรเทาอยู่ในสภาพที่เรามีความสามารถแก้ไขและผ่านออกไปได้ พ่ออาจารย์ท่านนำหุ่นนี้ไปเสกตามกลวิธีลี้ลับต่างๆหลายวาระทั้งกลางแสงพระอาทิตย์เสกกลางแสงจันทร์ยามค่ำคืน ลงไล่เสนียด,คัดถอน,ถอนของ,กันสิ่งไม่ดีต่างๆในร่างกายหนุนจักยกจักรให้หนุนดวงยกดวง ท่านว่าสมัยนั้นคิดแต่จะทำมีวิชามีความรู้อะไรเราปล่อยลงไปหมดจึงลงไปทั้งหมดตั้งใจจะให้หุ่นนี้เก่งไม่เป็นสองรองใครต้องสู้เขาได้ ต้องดีทุกอย่าง,ต้องรู้ทุกเรื่องเรียกว่าใช้งานได้ไม่อายใครเช่นนั้นเขาจะส่งเสริมเราในเหตุการณ์ที่เราต้องการให้ส่งเสริมในวันที่ควรส่งเสริมและเวลาที่ควรส่งเสริม

มงคลปั้นโลกนี้จะดึงโชคดึงบริวารเข้ามาหากชีวิตมีเรื่องคั่งค้างหรือทำกิจไม่สำเร็จมงคลแห่งความสำเร็จจะเริ่มแก่ตัวเราทั้งกระแทกพลังงานที่ขาดสู่ตัวเรา และคอยกระแทกพลังงานรอบตัวให้เกิดผลเพื่อส่งเสริมเราอยู่ตลอดทำอะไรก็จะสำเร็จแบบก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว ท่านว่าขาดสิ่งใดก็จะกระตุ้นเรื่องนั้นๆที่ชีวิตเรามีปัญหาไม่ให้ชีวิตยากลำบากไม่ตกต่ำกว่าคนอื่นให้เราเกิดความอัศจรรย์แก่ใจว่าวันนึงเรามีพร้อมทุกอย่างตั้งแต่เมื่อไหร่ พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเราจะประสบความสำเร็จอยู่ในโลกสูงสุดของตนได้ย่อมต้องอาศัยพลังงานหลายสายผูกกันเป็นลูกโซ่กระตุ้นพลังงานให้ทำงานทั้งวงจรเพื่อสงเคราะห์ทุกอย่างที่ใจเราต้องการหรืออยากได้ไม่เลือกว่าจะดีหรือไม่ดีขอให้ไม่ใช่เรื่องเกินกว่าที่จะเกิดขึ้นได้ย่อมปรากฏขึ้น พ่ออาจารย์ท่านขอพรครูปรพรหมต่อหุ่นสำคัญนี้ให้คัดแต่เจ้าของที่ดีมีมโนธรรม มีความระลึกได้อันถูกและสมควรได้รับไป ท่านว่าคนพาลคนโลภทุจริตไม่มีวันเห็นเงาหุ่นโลกัยยะนี้แน่นอน

คาถาบูชา
(มอบให้เฉพาะผู้ครอบครอง)

วิธีใช้
หุ่นนี้ฤทธิ์ไม่เป็นลองใครเขาเลยท่านว่าทำยากแต่ใช้นั้นแสนง่าย ใส่พานรึแขวนคอบูชาก็ได้ผลเสมอกันจะติดตัวหรือไม่ติดตัวก็ได้เพียงแต่อย่าพกต่ำ ก่อนใช้ให้ยกหุ่นขึ้นไหว้เรียกครูบรมบิดา,ครูบรรพมารดาสร้างพลังแรงศรัทธาขึ้นมาในใจก่อนยิ่งมากเท่าไหร่วันนั้นก็ยิ่งแรงเท่านั้น

*** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อสกุลวันเดือนปีเกิดไว้ด้วย พ่ออาจาย์ท่านจะบอกกล่าวฝากดวงและเปิดดวงเศรษฐีของผู้บูชาไว้กับพ่อครูแม่ครู

ร่วมทำบุญบูชา มงคลปั้นโลกอมตะนิรันดร์โลกัยยะสยมภูว(ปักเสายอดคนสิทธิชีวา) บูชา 4,000 บาท

​

 

พ่ออาจารย์ท่านว่าความปรารถนาในโลกของแต่ละคนไม่เสมอกัน เครื่องมงคลนี้ก็เช่นกัน ผู้ไม่มีเส้นทางบนโลกแห่งตัวตนของตัวเองย่อมมองข้ามไป ตั้งแต่แรกไม่เห็นค่าเลย

 

มงคลปั้นนี้พ่ออาจารย์ท่านเอามานั่งเสกเมื่อคืนซึ่งมีความพิเศษเป็นฤกษ์จันทร์ซ้อนจันทร์ ท่านว่าชุดนี้พิเศษมากทุกอย่างในชะตาเราจะหนุนสูงขึ้นมาพร้อมกันทุกๆด้านดั่งที่ท่านเสกในฤกษ์ที่พระจันทร์ทำแรงดึงดูดสูงสุดต่อโลกให้น้ำขึ้นสูงสุด ท่านว่ากำลังนี้ประเสริฐดึงชีวิตคนให้สูงขึ้นได้ แม้ทางเมตตาก็ดีไม่มีคนเกลียดให้ใช้ไปเถิดตักกินตักใช้ไม่พร่องเลย

 

ร่วมทำบุญบูชา โอสถทิพย์เจริญธรรมอาญาสิทธิ์ปฐมโองการ(เทพกลืนฝันเร่งบุพเพสหัสชาติ)

สีผึ้งชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นชุด "เจริญธรรมอาญาสิทธิ์ปฐมโองการ" ..ซึ่งเป็นเครื่องมงคลในหมวดที่ให้อำนาจพุทธคุณแบบเด็ดขาด โดยท่านทำเป็นสีผึ้งที่ง่ายต่อการใช้งานและแสดงผลไวกว่าสิ่งใด ท่านว่าใครมีสีผึ้งชุดนี้ประดุจมีของสำคัญที่ครูส่งมอบครอบต่อจากมือถึงมือให้แสดงออกถึงอาญาสิทธิ์ที่สามารถสมหวังได้แค่เอื้อมทุกเรื่อง เพื่อ
- ฟื้นฟูดวงชะตา
- แก้ความวิบัติ
- กันแรงปะทะทำลาย
- กันทับกันการแทรกแซงโชคชะตาในโทษทั้งปวง

ท่านว่าให้หมั่นใช้สีผึ้งชุดนี้แม้ในจุดที่เดชและอำนาจวาสนาของตนเองเสื่อมถอยไปสิ้นแล้ว ..เวลาอันโชติช่วงที่สุดในชีวิตล่วงเลยไปแล้ว...ทุกสิ่งย่อมฟื้นคืนกลับมา หากอาราธนาและใช้สีผึ้งอาญาสิทธิ์ปฐมโองการอยู่พ่ออาจารย์ท่านว่าก็ดุจพระเจ้าโองการล๊อคเวลาชีวิตเราไว้แบบเด็ดขาดในช่วงที่เจริญโชติช่วงมากที่สุดจะตีแผ่ช่วงเวลานั้นออกไปให้ครอบคลุมทั้งชีวิตของตนไม่ให้ถึงจุดเสื่อมถอยหรือล่วงเลยผิดพลาดเช่นที่ผ่านมา *** ให้เธอใช้ชีวิตดั่งล๊อคเวลาแห่งความโชติช่วงเช่นนั้นตลอดไป

แม้ในชีวิตคนจะมีทั้งด้านร้ายและด้านดีดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านว่าสว่างแล้วก็ย่อมมืดตามคือทุกข์สุขผสมกันไป พบสุขย่อมเจอทุกข์ไม่ได้ดีไปตลอดรอดฝั่งแต่หากใช้โอสถทิพย์เจริญธรรมนั้นจะกลับให้ความสมหวังทุกอย่าง..อุปมาว่าอยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือถึง และหากใช้เป็นประจำแล้วยังมีอำนาจกันความวิบัติล่มจมไปตลอด
- จนถึงระงับอาการเจ็บป่วยแปลกๆ
- ระงับอาการเจ็บป่วยที่คาดไม่ถึง
- ระงับอาการเจ็บป่วยที่ไม่เป็นที่รู้จัก

พ่ออาจารย์ท่านว่าสีผึ้งชุดนี้ทำยากมากเพราะครูพระท่านให้เข้าป่ากู้ว่านกู้ยาโดยมีข้อแม้หลากหลายประการในว่านยาที่กำหนด
- ต้องเป็นว่านยาที่เทวดา(ตั้งใจ)เลี้ยง
- ห้ามใช้สิ่งที่คนปลูกขึ้นเอง
- ห้ามมีสิ่งใดเดินข้าม
- ไม่ต้องด้วยปฏิกูลของคนและสัตว์ทั้งปวง
....พ่ออาจารย์ท่านว่าข้อห้ามเกือบ 20 ข้อ แม้นพบแล้วยังต้องนั่งเฝ้าสังเกตุจนแน่ในจึงจะนำมาใช้ได้ท่านว่าว่านอาถรรพ์เทวดาปลูกเหล่านี้ทำให้สีผึ้งมีฤทธิ์รุนแรงและมีตัวบอกกล่าวได้ทั้งหากใช้จะนำมาซึ่งความสุขเสมอ..เป็นเหตุแห่งความสมหวังทั้งปวง

อาญาสิทธิ์ปฐมโองการ
- เมื่อใช้สีผึ้งดุจรับอาญาสิทธิ์ปฐมโองการ ให้วาสนาที่ลดน้อยถอยถดกลับมาเป็นคนวาสนาดีมากบารมีไม่ต้องคลื่นลมชีวิต ..ไม่ผิดไปจากพระเจ้าโองการ
- เมื่อใช้สีผึ้งดุจรับอาญาสิทธิ์ปฐมโองการ ให้ตัวขวางโชคลาภวาสนาตัวขวางทรัพย์ขวางหนทางทำกินทั้งหลายถูกถอดถอนไป..ไม่ผิดไปจากพระเจ้าโองการ
- เมื่อใช้สีผึ้งดุจรับอาญาสิทธิ์ปฐมโองการ ชีวิตย่อมพ้นจากเสนียดจัญไรทั้งปวงแม้อัปมงคลใดที่แฝงหรือยากต่อการรู้สึกตัวย่อมโดนขับพ้นไปถึงกำแพงจักรวาล..ไม่ผิดไปจากพระเจ้าโองการ
- เมื่อใช้สีผึ้งดุจรับอาญาสิทธิ์ปฐมโองการ เปลี่ยนสิ่งที่ยากให้ง่าย..เปลี่ยนเรื่องที่ไม่เคยสำเร็จให้สำเร็จได้..ไม่ผิดไปจากพระเจ้าโองการ
- เมื่อใช้สีผึ้งดุจรับอาญาสิทธิ์ปฐมโองการ แม้ชีวิตที่ไม่ดีไม่งามหรือผ่านสิ่งใดมาก็ย่อมกลับเป็นมงคลสมหวัง..ไม่ผิดไปจากพระเจ้าโองการ
- เมื่อใช้สีผึ้งดุจรับอาญาสิทธิ์ปฐมโองการ ย่อมถอดถอดคุณอาถรรพ์ไสยมนต์ดำพ้นจากชีวิต..ไม่ผิดไปจากพระเจ้าโองการ

พ่ออาจารย์ท่านว่าสีผึ้งชุดนี้ให้คุณมากแม้นป้ายใส่น้ำยังบันดาลให้น้ำนั้นกลายเป็นน้ำมนต์ดื่มกินมีคุณดุจเดียวกัน ท่านว่าวิชานี้เป็นกำลังคุณพระที่เปลี่ยนสิ่งที่ว่ายากหนักหนาให้กลับมาง่ายดาย,เปลี่ยนเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปแล้ว,เปลี่ยนอัปมงคลให้กลับมาเป็นมหามงคล,เปลี่ยนความวิบัติขัดสนยากจนให้กลับมาเป็นความสุข ..เมื่อเราอาราธนาสีผึ้งนี้สัมผัสไปถูกเนื้อตัวคราวใดก็เสมือนเราได้ชำระร่างกายและจิตวิญญานของตนให้บริสุทธิ์เต็มเปี่ยมไปด้วยกำลังการเปลี่ยนแปลงทั้งปวง

เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงย้ำว่าสีผึ้งชุดนี้เป็นของสูงและสะอาดมากยิ่งถ้าชีวิตเราสกปรกมากเท่าใด(โดนกระทำ,โดนขัดขวาง,โดนทำลาย..)เช่นรู้สึกตัวว่าทำงานก็เจอคนเจอสถานการณ์เหมือนมีใครจับวางขัดขวางความสำเร็จ..เจอคนขัดแข้งขัดขาคอยหาความลำบากให้ตลอด..รู้สึกว่ากำลังโดนบางสิ่งบางอย่างขัดขวางโชคลาภหรือเส้นทางทรัพย์ของตนมาตลอด..พ่ออาจารย์ท่านว่ารวมๆคือที่โดนเบียดบังขัดขวางไว้ทั้งหมดทุกเรื่องเลยถ้าโดนจริงแล้วใช้สีผึ้งนึ้คือตัวเราหลุดจากสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดท่านว่าสิ่งเหล่านี้จะโดนถอดถอนไปทั้งหมด

### ทุกการดับล้างจะนำมาซึ่งสิ่งที่ดีกว่า..เกินกว่าที่ชีวิตเคยมีเคยได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าต่อให้ยามที่เรารุ่งโรจน์โชติช่วงที่สุดเคยได้ดีอย่างไรหากอัปมงคลด้านไหนถูกถอดถอนไปท่านว่าสิ่งที่เข้ามาจะดีกว่าเดิมและได้เกินวาสนาเสมอ ท่านว่าให้หมั่นอาราธนาไว้เถิด...สิ่งใหม่ๆที่ดีกว่าทุกสิ่งที่ผ่านมาจะเข้ามาอยู่กับเราเสมอไป
- หากไม่มีโชคเลย..จะได้รับการเสริมในโชคลาภ
- หากไม่มีแม้แต่ดวง..จะได้รับการเสริมในดวงชะตาให้มีให้ได้
พ่ออาจารย์ท่านรวมความว่าทำสิ่งใดก็สำเร็จและทุกความสำเร็จจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม แล้วใครที่ไปเล่นผีเล่นพรายโดนกินตัวโดนของหน้าดำหรือโดนแฝงร่างแอบแฝงค่อยๆเติบโตอยู่ในร่างกายของเราเพาะบ่มอำนาจบารมีของมันต่างๆเหล่านี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้สีผึ้งชุดนี้ถอดถอนทั้งหมดจะคืนมาซึ่งสิริสง่าราศีไม่มีอาการโดนของโดนผีหน้าหมองดำพาให้ดวงชะตาวิบัติและโชคลาภวาสนาการงานชะตาชีวิตตกต่ำอีกต่อไป

เร่งบุพเพสหัสชาติ
พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องบุพเพก็คือเรื่องแต่เก่าก่อนไม่ใช่บุพเพสันนิวาสหาคู่แต่อย่างใดแต่บุพเพคือ
- บุญวาสนาที่เราทำมาดีแล้วสำเร็จแล้ว
- บุญที่เราเคยทำมาก่อน
เพราะหากไม่มีบุญวาสนาแต่ก่อนเธอย่อมเกิดมาเป็นคนไม่ได้เลย ขึ้นชื่อว่าเกิดมาในชาติมนุษย์นี้จะอย่างไรบุญเก่าย่อมทำมาดีในระดับนึง ทีนี้สีผึ้งตัวนี้มันมีคุณในการเร่งบุพเพสหัสชาติก็คือเร่งบุญเบื้องบูรพแต่แรกแต่ก่อนบุญที่สำเร็จแล้วให้สนองผลแก่ผู้ใช้ทันตาทันใจ

ด้วยบุพเพที่เราทำมาดีแล้วและเป็นของเรานี่แหละที่จะนำมาซึ่งโชควาสนาไม่รู้จบ พ่ออาจารย์ท่านว่าพอเอามาทำเป็นสีผึ้งแบบนี้มันก็ใช้ง่ายเพียงทาเพียงสัมผัสก็เหมือนเราไปเร่งบุพเพที่นอนตกตะกอนอุดตันให้ฟุ้งขึ้นมา จากที่นอนนิ่งๆไม่เห็นผลขาดสิ่งที่เข้าไปเร้าไปกระตุ้นมัน ทีนี้จะผลิดอกออกผลเต็มที่เลยกลายเป็นคนที่ผลแห่งบุญและวาสนาพร้อมมูลเพราะบุพเพของตนเองเกื้อหนุนให้เกิดให้มีขึ้นมาได้แล้วเธอจะภูมิใจในตัวเองว่าวาสนาที่ตัวเธอทำมาดีแล้วไม่ใช่ของน้อยๆเลย
- วาสนาที่ไม่เคยมีจะเกิดขึ้น
- บุญจะนำพาให้ได้ครอบครองตามเป้าประสงค์
- บุพเพจะชักนำโชคชะตามงคลให้เดินหน้าไม่หยุดยั้ง
สิ่งทืี่เคยหาไม่ได้..เคยพยายามแล้วไม่ได้ก็จะได้มาครอบครอง เมื่อบุพเพนี้ตอบสนองวงจรชีวิตเธอจะไม่ร้อนเลยเพราะเธอจะได้ในสิ่งที่ควรได้,ได้ในสิ่งที่เป็นของเธอจริงๆ,ได้ในสิ่งที่จะนำพาความสุขมาลงเองแก่ชีวิต ไม่ใช่ได้ในทุกข์ลาภและสิ่งติดขัดที่จะก่อเกิดปัญหาไปเรื่อยๆเช่นนั้น

เพราะบุพเพจะรักและถนอมชีวิตเธอเท่ากับที่เธอรักตัวเองนั่นทีเดียวและแน่นอนว่าบุพเพของเธอย่อมไม่ทำร้ายตัวเธอเอง เช่นนั้นวิชาเร่งบุพเพสหัสชาติคือผูกวาสนาภพชาติให้เกิดบุพเพที่เกิดผลต่อเนื่องกันเป็นลูกโซ่ต่อๆไป พอเริ่มต้นขึ้นมามันก็คือการเริ่มของวงจรวัฏจักรใหม่ด้วยบุพเพเดิม ..แล้วบุพเพตัวนี้เองที่จะแตกแขนงออกไปจากชีวิตเรานับจากนี้อีกหลายภพชาติพ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้สำคัญมากเพราะมันไม่ได้เกิดผลชั่วครั้งชั่วคราวแต่มันส่งผลดีต่อตัวเธอไปอีกหลายภพชาติแบบบุญต่อบุญและนำมาซึ่งบุญต่อๆไปให้เธอเป็นผู้เจริญรุ่งเรืองเหนือผู้อื่น

พ่ออาจารย์ท่านว่าเกิดมาชาติมนุษย์หากเร่งบุพเพสหัสชาติหรือใช้สีผึ้งนี้แล้วต่อให้ฐานะเธอต่ำสุดในหมู่มนุษย์ชาติด้วยกันก็จะกลับขึ้นมาเป็นชนชั้นสูงซึ่งเป็นจุดสุดยอดของโลกได้ไม่นานเลย...ท่านว่าหมั่นใช้เถิด(ให้ใช้ด้วยสติปัญญานะจะพลิกแพลงได้ไม่รู้จบสิ้น) ท่านว่าป้ายบ้านๆก็เจริญ,ป้ายสัตว์เลี้ยงมันจะรักภักดีกับเรายิ่งนัก,ป้ายที่เก็บเงินป้ายกระเป๋าเงินมันก็ถอดถอนสิ่งขวางการเงินดึงแต่เงินเข้ามา...ไปป้ายเรื่องที่เกี่ยวกับอาชีพหลัก,อาชีพรองเรื่องทำมาหากินของเธอเถิดจะเปลี่ยนสิ่งใดก็สุดแล้วแต่เป้าหมายนั่นทีเดียว

เทพกลืนฝัน
หากมีความฝันสิ่งใดอยากทำให้สำเร็จก็ให้เปลี่ยนความฝันนั้นมาอยู่ในชีวิตจริงเสีย... พ่ออาจารย์ท่านว่าสีผึ้งนี้แม้เธอไม่ใช้แต่พกไว้ไปไหนมาไหนติดตัวด้วย(หรือจะใส่หลอดเล็กๆพกก็ได้) พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเอามาพกก็จะเป็นเทพกลืนฝัน คือเปลี่ยนความฝันและทำให้เป็นจริงหรือจะเรียกว่าทำให้ความฝันเธอเกิดในโลกความจริงเป็นรูปธรรมที่เธอไปถึงและทำสำเร็จได้เช่นนั้นตัวเธอก็จะอยู่เหนือทั้ง 2 สถาน
- บรรลุความฝัน
- ทำความฝันสำเร็จเป็นความจริง

พ่ออาจารย์ท่านว่าพอพกไว้แล้วจะเป็นเทพกลืนฝันคือสีผึ้งนี้เขาจะคอยเสพย์ความฝันความคิดเราว่าตอนนี้สถานการณ์เธอเป็นอย่างไรติดขัดอะไรอยากได้อะไรหรือทำอะไรอยู่ สิ่งใดที่เป็นความฝันของเธอแบบนี้เขาจะเสพย์และเปลี่ยนเป็นรูปธรรม เช่นนี้ท่านจึงให้พกไว้ด้วยส่วนนึงเพื่อจะได้ใช้อธิษฐานบอกกล่าวแล้วจะได้เช่วยเหลือตามที่อธิษฐานเดินตามเส้นทางความคิดความฝันของตนได้สำเร็จ ทั้งสิ่งที่ได้แต่ฝันแต่ไม่เคยได้ทำ..หรือทำแล้วไปไม่สุดทำไม่สำเร็จ..ท่านว่าต่อไปคิดและฝันได้เต็มที่เลยเธอจะไปถึงฝันที่เป็นจริงก็คราวนี้ตรงนี้ท่านวาเป็นประโยชน์มาก

เพราะความฝันของคนมักจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้(เกินวาสนาบารมีตน)จึงได้แต่คิดได้แต่ฝันเอา แค่วิชาสีผึ้งนี้กลับเป็นวิชาที่สนองความฝันเสียด้วยเช่นนั้นจึงสนองในเรื่องที่ปกติเป็นไปไม่ได้และเป็นได้แต่ฝันนั่นเอง เมื่อความฝันสำเร็จสมบูรณ์แล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าวาสนาชะตาคนก็จะเปลี่ยนอีกคำรบหนึ่งเพราะมนุษย์ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิดและฝันได้ตลอดไปทั้งชีวิตท่านว่าไม่มีข้อกำหนดหรือไม่มีใครห้ามความคิดความฝันของเธอได้เลย เช่นนั้นจะเรียกว่าเทพกลืนฝันเป็นการบันดาลในเรื่องลึกๆที่ใจเราแอบคาดหวังเอาไว้ทั้งที่รู้ว่าไม่มีวันเป็นไปได้ก็ได้

พ่ออาจารย์ท่านว่ารายการนี้บอกได้เพียงเท่านี้(แต่บอกว่าให้หมั่นคิด,หมั่นฝันเถิด) ท่านว่าต้องการสิ่งใดก็อธิษฐานเอาจะโชคลาภเงินทอง,การงาน,การทวงหนี้,การเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ท่านว่าขอไปเถิดไม่มีสิ่งใดเกินเอื้อมเลย..ขอให้ใช้จริงจะเห็นผลจริง *** พ่ออาจารย์ท่านว่าสีผึ้งนี้ไม่มีพรายนะแต่เทวดาก็มีไม่น้อย หากเธอเอาไปป้ายสถานที่ไหนแล้วเกิดมีคนหรือสิ่งใดมาทำลายก็จะปรากฏรูปออกมาให้เห็นเหมือนคนคอยปกปักรักษาทีเดียว (ท่านว่าถ้าใช้แล้วมีคนเห็นเทวดาตามหรือจำแลงเป็นคนคอยเฝ้าบ้านเฝ้าที่ๆเราเอาไปป้ายเวลาตัวเราไม่อยู่) นั่นคือเรื่องธรรมดา

คาถาบูชา
(ท่านว่าอธิษฐานสื่อใจกันได้เลยเพราะชุดนี้สำเร็จเกินกว่าจะใช้คาถาแล้ว)

*** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อสกุลไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะประสิทธิให้เป็นกรรมสิทธิแก่ผู้ใช้ตลอดไป

ร่วมทำบุญบูชา โอสถทิพย์เจริญธรรมอาญาสิทธิ์ปฐมโองการ(เทพกลืนฝันเร่งบุพเพสหัสชาติ) บูชา 4,000 บาท

​

 

*** สีผึ้งชุดนี้ท่านเน้นคำเดียวว่า

..ขอให้ใช้จริงจะเห็นผลจริง

 

จากคำถามที่ฝากไว้ สีผึ้งชุดนี้ท่านว่าเจ้าของสามารถแบ่งใส่หลอดให้ญาติมิตรพกพาติดตัวแทนเครื่องรางได้..ถ้าพกก็จะเป็นเทพกลืนฝัน

ท่านว่าจะแบ่งกี่คนก็ได้ผลเสมอกันไม่มีลดทอนลงแต่อย่างใด..แม้แบ่งคนละหัวไม้ขีดก็ยังใช้ได้

 

ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพระอินทร์ป้อนอาหาร (นั่งกินรับทรัพย์เปิดโลกเบิกบารมี)

พระอินทร์ท่านสั่งให้ฉันสร้าง ...ทำให้คนไม่มีจะกิน อดกิน ไม่ได้กิน​

ในอดีตพ่ออาจารย์ท่านสร้างตะกรุดพระอินทร์กินอาหาร..หากแต่ท่านได้ทำตะกรุดพระอินทร์ป้อนอาหารไว้พร้อมกันแต่ไม่เคยออกให้บูชา(ให้เป็นรายบุคคล) เพราะวิชานี้คนที่เคยได้รับไปท่านว่า
- ดั่งพระอินทร์เจ้าสวรรค์ส่งป้อนอาหารให้ถึงปากถึงคอ
- เธอมีเพียงหน้าที่กลืนและกินและกลืนซ้ำๆไปตลอดทั้งชีวิต
- วิชานี้จะป้อนส่งให้ไม่มีวันหยุด,ไม่มีวันพัก,ไม่มีวันเหนื่อย...จะได้เสพย์เข้าไปตลอด

พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าปู่พระอินทร์นั้น นับได้ว่าท่านเป็นเทวดาที่มีความผูกพันธ์กับมนุษย์อยู่มาก เวลาคนดี คนกตัญญู คนมีความเพียร...สรุปเอาว่าคนดีคนมีบุญทั้งหลายเดือดร้อน เธอรู้มั๊ยยิ่งดีมาก ยิ่งมีบุญมาก อันนี้พระอินทร์ท่านก็จะอยู่ไม่ได้เพราะท่านจะรู้จะเห็นในข่ายญาณของท่านทำให้ท่านต้องรีบมาช่วยเหลือ ประจวบกับโลกในปัจจุบันนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าคนดีที่เดือดร้อนนี้ก็มีมากเหลือเกิน แม้ปู่พระอินทร์ท่านอยากจะช่วยบางคนท่านก็ช่วยไม่ได้ทั้งออกหน้าไม่ได้หรือลงมาเล่นเองไม่ได้ ด้วยเพราะคนเหล่านั้นมีอุปสรรคที่จำเป็นต้องผ่านให้ได้ด้วยตัวเอง..หรือกำลังชดใช้เศษกรรมอันใดอันหนึ่งอยู่ จึงกลายเป็นว่าคนดีล้นโลกแต่ทุกคนก็เดือดร้อนเหมือนๆกันและเสียงของความน้อยเนื้อต่ำใจนั้นก็ดังก้องอยู่ในโสตประสาทปู่พระอินทร์ท่านทุกคราไป

เมื่อท่านช่วยตรงๆไม่ได้ก็ต้องช่วยกันทางอ้อม ด้วยเหตุว่าคนที่มีบุญสัมพันธ์กันกับท่านนั้นยังมีอยู่มาก ทั้งเทพที่เคยอยู่ในคณะ..เทพที่เป็นบริวาร ตลอดจนคนที่มีวาสนาจะได้เป็นเทพในดาวดึงส์หรืออดีตชาติซึ่งผ่านมาหลายภพเคยอุบัติในดาวดึงส์เหล่านั้น ล้วนแต่เป็นคนที่มีวาระกรรมร่วมกับท่านทั้งสิ้น ท่านจึงถือเสมือนว่าเป็นคนของท่าน เป็นลูกหลานท่านแบบกลายๆ ดังนั้นท่านจึงปรารถนาจะช่วยให้พ้นทุกข์ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยครอบมือครอบวิชาเฉพาะของท่านให้พ่ออาจารย์ท่านทำแทนไว้จะได้สงเคราะห์คนที่มีแรงกรรมมากหลายชาติหลายภพทั้งหลายสืบต่อไป

ทำไมต้องตะกรุดดอกแดงๆ(เพื่อแยกออกจากดอกสีเขียวพระอินทร์กินอาหาร)

เพราะวิชานี้จัดเป็นวิชาเฉพาะเป็นเทพวิชาอย่างแท้จริง ที่พ่ออาจารย์ท่านสืบวิชาโดยตรงจากปู่พระอินทร์ให้ทำไว้ช่วยคนสามสถานหรือคนสามจำพวก คือ คนที่ไม่มีจะกิน คนอดกิน แล้วก็คนไม่ได้กิน
- คนไม่มีจะกิน คนประเภทนี้ความหมายก็ตรงตัวอยู่แล้วคือในปัจจุบันนั้นไม่มีอะไรเลย ถึงอดีตจะมีหรือไม่มีก็ตาม ถ้าปัจจุบันไม่มีก็เป็นคนประเภทนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าบางคนเขาถึงกับไม่มีเงินจะกินข้าวหรืออาจอุปมาได้กับคนที่เวลาจะใช้ทรัพย์ทำอะไรจำเป็นจะต้องคิดหนักเพราะชีวิตฝืดเคืองทำอะไรก็ไม่สะดวกราบรื่น ท่านว่าสมัยนี้คนที่ติดเศษกรรมไม่สมารถพ้นไปได้เช่นนี้ยังมีอยู่มาก บางคนจากชีวิตสบายๆกลายเป็นต่ำลงๆเรื่อยๆก็มี ดังนั้นคนประเภทแรกก็คือคนที่ยังไม่มีจุดยืน,คนที่อับจนหนทาง,ไม่มีทรัพย์,ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตน,ไม่มีคนยอมรับ,ไม่มีที่ยืนในสังคม

- คนอดกิน อดกินก็คือกินไม่ได้ซึ่งอันนี้ต้องแยกแยะระหว่างกินไม่ได้กับไม่ได้กิน เพราะกินไม่ได้กินไม่ทันคนอื่นนั้นยังนับว่ามีวาสนายังมีสิทธิที่จะกิน คนประเภทนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ถึงกับแย่บางคนนับว่ามีวาสนาหรือมีชีวิตสบายทีเดียว แต่คนจำพวกนี้เวลาทำอะไรอาจจะมีอุปสรรคหรือเรียกว่าชอบสิ่งใดทำสิ่งใดอยากได้อะไรสิ่งเหล่านั้นล้วนไม่สมหวังไม่ได้ดั่งใจตัวเองไปทั้งสิ้น ท่านจึงเรียกคนประเภทนี้ว่าคนอดกินคือทำไปก็แห้วทำไปก็พลาดเรียกว่ามีทุ มีวาสนาแต่ไม่มีดวงทั้งที่มันควรจะได้ ควรจะเป็นของเรามากกว่าใครทั้งที่เรามีพร้อมในปัจจัยต่างๆมากกว่าคนอื่นเขาแต่เรากลับผิดพลาดอยู่เรื่อยโดยหาสาเหตุไม่เจอ ในขณะเดียวกันคนที่มีดวงแต่ไม่มีทุนไม่มีวาสนากลับได้กินแบบฟลุ๊คๆอยู่ตลอดทั้งด้านการงาน,เรื่องคู่ครอง,เรื่องจังหวะโอกาสต่างๆในชีวิต เช่นนั้นคนอดกินพ่ออาจารย์ท่านจึงเปรียบเทียบไว้กับคนที่ไม่สมหวังในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจทำพูดง่ายๆคือเหมือนจะได้กินแต่ก็หิวอยู่ ยังอดอยู่ ยังชวดอยู่นั่นเอง

- คนไม่ได้กิน คนประเภทนี้ท่านว่าเป็นคนที่ไม่ทันกินกับคนอื่นเขา ดุจว่าคนอื่นเขากินกันอิ่มแล้ว เขาแยกย้ายกันไปหมดแล้วตัวเองก็ยังหิวยังไม่ได้กินกับใครเขา เพราะไขว่คว้า..หยิบฉวย..แย่งชิงโอกาสกับใครเขาไม่ทัน แบบว่ามองไม่เห็นโอกาสต่อให้โอกาสนั้นมาตั้งมาวางอยู่เบื้องหน้าก็จะละเลยมองข้ามไป ซึ่งคนจำพวกนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าจะน่าเวทนากว่าคนประเภทอื่น เพราะเขาชวดไปหมดไม่มีแม้แต่จุดเริ่มเพราะเขามองไม่เห็นอะไรแล้วชีวิตเขาก็จะไม่ได้อะไร ดังนั้นชีวิตจึงวนเวียนอยู่กับคำว่าไม่ได้กินเสียหรอกๆๆอยู่เช่นนั้น

### พ่ออาจารย์ท่านว่าคนทั้งสามลักษณะนี้ เป็นคนที่ให้คำจำกัดความในชีวิตได้สั้นๆแบบผรุสวาทเลยว่า "ซวย" คำเดียว เช่นนั้นพระอินทร์ท่านจึงสั่งให้ฉันสร้าง(วิชาเฉพาะ)...ทำให้คนไม่มีจะกิน,อดกิน,ไม่ได้กินหรือสรุปตรงตัวคือมีชีวิตวนเวียนอยู่กับเรื่องซวยซับซ้อนง่ายๆเช่นนี้

วิชาสำคัญนี้ท่านเรียกว่าพระอินทร์ป้อนอาหาร พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าเทวดานั้นก็มีหลากหลายขั้นด้วยกัน ระดับดีๆหน่อยเขาก็เรียกกันว่าเทพบดีซึ่งพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือเปรียบได้กับเจ้าคนนายคนนั่นเอง แต่ที่เหนือไปกว่านั้นก็คือพระอินทร์เพราะท่านเป็นราชาของเทวดาเป็นประธานของเทวสภาเช่นนั้น ดังนั้นความวิจิตรละเอียดอ่อนของกามคุณทั้งหลายในวิมานของพระอินทร์ก็ดี..ในชีวิตของพระอินทร์ก็ดี..ในวาสนาของพระอินทร์เจ้าสวรรค์นั้นก็ดี แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ย่อมจะประณีตสูงสุดในกามภพจนเหล่าเทพบดีทั้งหลายเทียบกันไม่ติด อันความสุขจากกามคุณทั้งหลายนั้นต้องยอมรับว่าจะหาใครที่สุขเกินพระอินทร์เป็นไม่มี เรียกได้ว่า
-ทั้งกินมากที่สุด
-ทั้งเสพย์มากที่สุด
-ทั้งอิ่มมากที่สุด
-แล้วก็สบายอย่างปราณีตมากที่สุดเช่นกัน
ด้วยความสุขจากกามคุณที่เหนือกว่าเทพเจ้าทั้งปวงนั้นสิ่งเหล่านี้ย่อมดูขัดกับการเป็นพหูสูตรของพระองค์ท่าน จนคราหนึ่งพระมหาโมคคัลลานะถึงกับต้องไปเตือนสติท่านถึงดาวดึงส์พิภพทีเดียว แต่หากใครไปอยู่ในจุดนั้น..จุดที่เป็นราชาของทวยเทพ จ..ดที่เสวยสุขอย่างประณีตสูงสุดทุกด้านของกามคุณก็อาจจะลุ่มหลงจนองค์พระอรหันต์ต้องมาตักเตือนเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่ใครๆก็ปรารถนาอยากจะเป็นพระอินทร์ อสูรก็อยากยึดสวรรค์ เทวดาก็อยากโค่นบัลลังค์ จนสวรรค์นั้นต้องมีตำแหน่งพระอินทร์รองจากพระอินทร์องค์หลักเพิ่มขึ้นรองรับผู้มีบุญวาสนาอีกหลายตำแหน่ง ดั่งคำกล่าวยืนยันของพระอริยะเจ้าหลายๆท่านว่าพระอินทร์นั้นมีหลายองค์เช่นนี้


ดังนั้นวิชาพระอินทร์ป้อนอาหาร จึงอุปมาได้กับพระอินทร์หามาป้อนเรา ส่วนเรามีหน้าที่กิน ดั่งว่าเราได้เสพย์ความสุขที่ประณีตสูงสุดในกามภพดั่งพระอินทร์แล้วนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเหนือกามภพขึ้นไปเทพพรหมทั้งหลายเขาจะไม่ลงมายุ่งกับมนุษย์มากหากไม่มีวาสนาสัมพันธ์กันจริงๆ ดังนั้นเทพที่ยังติดต่อหรือคอยช่วยเหลือมนุษย์ส่วนใหญ่จึงเป็นชาวจาตุมหาราชิกากับดาวดึงส์นี่เอง เช่นนี้ปู่พระอินทร์ท่านจึงตั้งใจให้พ่ออาจารย์ลงวิชาพระอินทร์ป้อนอาหาร
- เพื่อเอาวาสนา
- เอาความสุขของเทวะราชา
- เอาวาสนาของเทวราชอินทรามาล้างความซวยในโชคชะตาของมนุษย์
ไม่ว่าจะเป็นคนไม่มีจะกิน,คนอดกินหรือคนไม่ได้กินก็ดี ท่านว่าต่อไปต้องได้กินได้เสวยความสุขอย่างปราณีตมากขึ้นๆไปเรื่อยๆตามลำดับขั้น

พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ฉันทำง่ายเพราะฉันไม่ได้ทำเอง แต่ให้พระอินทร์ท่านทำท่านสำเร็จให้ล้วนๆฉันกำหนดจิตคอยดูอย่างเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่รู้จะพูดจะบอกอะไรกันมาก ให้พิจารณากันเองว่ามันตรงกับชีวิตตัวเองหรือเปล่า แต่ไอ้ตะกรุดดอกแดงๆนี่แหละที่เคยให้คนเอาไปใช้แล้วเขาก็เอาไปตั้งชื่อกันเองว่าตะกรุดนั่งรับทรัพย์ พ่ออาจารย์ท่านว่าปู่พระอินทร์ท่านลงให้ครบทั้งหมดฉันก็พูดมากไม่ได้ พูดได้แต่น้อยๆว่าครอบคลุมความซวยของมนุษย์ ซ้ำท่านยังกำชับว่า *** ตะกรุดนี้คนที่ไม่มีวาสนาเคยเป็นลูกหลานหรือบริวารกับตัวปู่พระอินทร์ท่านมาก่อนนั้น..เขาจะไม่พบ..จะไม่เห็น..สัมผัสไม่ได้แม้แต่เงาของตะกรุดดอกนี้เลย ถึงจะพบก็จะบันดาลให้ผ่านพ้นไปไม่อยู่ในสายตา มองไม่เห็นความสำคัญของตะกรุดนี้

แต่เดิมนั้นพ่ออาจารย์ท่านนำมาเสกเก็บรักษาไว้เวลาเชิญปู่พระอินทร์ทำพิธีท่านก็จะฝากตะกรุดนี้ให้ปู่พระอินทร์ท่านเสกเรียงดอกจนสำเร็จจึงใช้เวลาค่อนข้างนานและปู่พระอินทร์ท่านยังย้ำว่าให้เก็บเอาไว้ก่อน จนปัจจุบันนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีแต่คนบ่นว่าทำไมมันซวยขนาดนี้ ยุคนี้คือยุคอะไร ประจวบกับปู่พระอินทร์ท่านมีนิมิตอนุญาติให้พ่ออาจารย์นำตะกรุดออกมาได้ ท่านจึงได้นำมาอธิษฐานจิตเสกเปิดโลกเบิกบารมีให้อีกวาระหนึ่ง ท่านว่าดีอย่างไรไม่ต้องพูดเพราะเราเสกจนฟ้าลั่นเสมือนเทวดาท่านรับรู้พระอินทร์ท่านให้พร ดังนั้นตะกรุดนี้จึงใช้ได้หลายด้าน
- เปิดโลก คือเปิดสิ่งที่ปิด..โอกาสที่มีน้อยหรือแทบไม่มีมี เปิดให้พร้อมเปิดให้สำเร็จทั้งหมด
- เบิกบารมี คือขอบารมีปู่พระอินทร์ท่านต่อวาสนาให้คนนำไปบูชาไม่ให้หมด,ไม่ให้อด,ไม่ให้ทิ้งกันไปกลางทาง

คาถาบูชา
นะอินทะราชา นะมามีมา สุวัณณังวา ราชะตังมา มณีวา ธนังวา นะพาทรัพย์มาคะมา(ขอตามปรารถนา)

พ่ออาจารย์ท่านว่าทำให้ทุกอย่างสำเร็จหมดแล้ว จะใช้อย่างไรก็สุดแล้วแต่จะอธิษฐานใจกัน แต่วิชานี้ท่านไม่ได้ทำบ่อยแล้วก็นานหลายๆปีจึงจะทำได้สำเร็จซักครั้งหนึ่ง *** จะใช้จะบูชากี่ดอกท่านว่าแต่ละคนจะมีสัมผัสอยู่ในใจของเขาเองเป็นตัวรู้ที่เกิดขึ้นเฉพาะตัวเขากับวิชาตะกรุดนี้ นั่นคือวาสนาบารมีของเค้า เป็นพลังที่พอเหมาะกับกายเนื้อเขาจะรับได้เพื่อฟันฟ่าอุปสรรควิบากกรรมของเขา ปู่พระอินทร์ท่านจะดลใจให้รู้ได้เฉพาะคน

*** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น

ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพระอินทร์ป้อนอาหาร (นั่งกินรับทรัพย์เปิดโลกเบิกบารมี) บูชา 900 บาท

​

 

พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดพระอินทร์ป้อนอาหารนั้น เป็นวิชาเฉพาะสายสัมพันธ์ของบารมี ถ้าคนที่ไม่เคยถึงความเป็นเพเจ้าแห่งดาวดึงส์หรือมีบุญสัมพันธ์กับปู่พระอินทร์ท่านจะไม่ได้สนใจตะกรุดนี้เลย เพราะคนเหล่านั้นคือพระอินทร์ท่านสงเคราะห์ไม่ได้ แต่หากมีสายสัมพันธ์แต่เก่าก่อนแม้เพียงเล็กน้อยปู่พระอินทร์ท่านจะตามคนของท่านมาเอง

 

ตะกรุดพระอินทร์ป้อนอาหารนี่นับว่าแปลกจริงๆ คนไม่เคยจองก็มาจองสมคำว่าความสัมพันธ์แต่เก่าก่อนพามา