ร้านพระกรรมฐาน พ่อแม่ครูอาจารย์ แท้ทุกรายการ (ใหม่)

ขอปิดครับ

 

รับทราบครับผม ขอบพระคุณคับ

 

Transfer 700.01 ... 20:59 ... 7-12-2018

 

255. เหรียญธรรมจักร 60 ปี วัดป่าสันติกาวาส หลวงตาสมหมาย อัตตมโน (หลวงตาเรียกเหรียญ พุทโธ ธัมโม สังโฆ)



เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญรุ่นแรกและรุ่นเดียว ณ ปัจจุบัน ที่หลวงตาดำริสร้างเอง เนื่องในโอกาส 60 ปี วัดหลวงตาออกแบบเองทั้งหมด มีคนถามหลวงตาว่า "ทำไมต้องเป็นรูปแบบนี้"
หลวงตาตอบว่า "พุทโธ พระพุทธเจ้า ขลังสุดแล้ว ธรรมจักรหมุนขจัดกิเลส แบบนี้ละดี"
ด้านหลังของเหรียญเป็น ยันต์ของหลวงปู่บุญจันทร์ ที่จารให้ทหาร ตำรวจ สมัยก่อน หลวงตาก็เอามาใส่เพิ่มความเข้มขลังขึ้น ทำไมต้องบอกว่ารุ่นนี้สุดๆแล้วสำหรับหลวงตา เพราะท่านเคยพูดกับพระที่ดูแลท่านว่า "จะสร้างของดีและขลังจริงๆให้คนได้แขวน" ทั้งๆที่หลวงตาไม่อะไรเลยกับวัตถุต่างๆ เหรียญ รูปหล่อ หรือ อะไร ก็ล้วนลูกศิษย์มาขอความเมตตาจากท่านทั้งนั้น หลวงตาไม่ได้ยินดียินร้ายกับของภายนอกแบบนี้อยู่แล้ว แต่เหรียญรุ่นนี้ หลวงตาท่าน ตั้งใจสร้างจริงๆ เหรียญรุ่นนี้แม้ด้านหลังจะบอกปี 53 แต่จริงๆเสร็จตั้งแต่ปี 50 และหลวงตาท่านอธิฐานจิตเดี่ยว 3 ปีเต็มๆในระหว่างนั้นมี พิธีอธิฐานจิตที่ไหน ท่านก็ขนไปเข้าพิธีด้วยทุกครั้งในช่วง 3 ปี และพุทธาพิเศกครั้งสุดท้ายก่อนแจกในวัดครบรอบ 60 ปี วัดซึ่งมีครูบาอาจารย์มาร่วมจำนวนมาก เช่น
หลวงปู่ก้าน วัดถ่ำเป็ด
หลวงปู่บุญมา วัดศรีพนม
หลวงปู่ศรี วัดคำชโนด
หลวงปู่หลอ วัดถ่ำพวง
หลวงปู่บุญพิน วัดผาเทพนิมิตร
หลวงปู่หนูหยาด วัดป่านาคำ
หลวงปู่เสถียร วัดพระภูวัว
เป็นต้น ซึ่งแต่ละชื่อ ล้วนสุดยอดการันตีเรื่อง ภูมิธรรมขั้นสูงทั้งนั้น


ราคา 450 บาท

 

256. เหรียญรุ่นเเรก หลวงปู่กลม อภิลาโส พระเถระเจ้าแห่งบ้านแพงสะพัง วัดโพธิ์ชัย จ.นครพนม ปี 2561 เนื้อทองเเดง สวยๆ ตอนนี้กำลังมาเเรงมากครับ รีบเก็บก่อนจะเเพงกว่านี้



‍♂️ #ประวัติหลวงปู่กลม อภิลาโส (โดยย่อ)
ท่านได้ถือกำเนิด ณ บ้านแพงสะพัง ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๔ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๗๑ ตรงกับวันขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๙ ปีมะโรง เป็นบุตรของ นายชาย – นางมน เอกสพัง ท่ามีชื่อเดิมว่า นายกลม เอกสพัง
#เมื่อท่านอายุได้๒๓ปี จึงได้อุปสมบทเพื่อตอบแทนพระคุณบิดามารดา อยู่ ๑ พรรษา แล้วได้สึกออกมาประกอบสัมมาอาชีพ และมีครอบครัวตามปกติทั่วไป

‍♂️ #ครั้นเมื่อท่านอายุได้๕๓ปี ท่านจึงได้ตัดสินใจอุปสมบท อีกครั้ง ณ พัธสีมาวัดกลาง ต.ท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เมื่อวันพุธที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๒๓ ตรงกับวันขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๘๘ ปีวอก โดยมีพระครูอนุรักษ์อุเทนการ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูโอภาสธรรม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูโพธิชยา ภรณ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “#อภิลาโส” เมื่อท่านได้เป็นพระภิกษุแล้ว พระกลม ก็ได้กลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดโพธิ์ชัยศรี บ้านแพงสะพัง (วัดโพธิ์ไชย ในปัจจุบัน) อันเป็นบ้านเกิดท่าน ด้วยความมุ่งมั่นที่จะศึกษาธรรมจากพระอุปัชฌาย์อย่างเคร่งคัดทำให้ท่านสอบนักธรรมชั้นตรี ได้ในปี ๒๕๒๔ และด้วยความวิริยะมุ่งมั่นไฝ่หาความรู้ทางธรรมและด้านการวิปัสนากรรมฐาน ท่านจึงได้เดินทางไปกราบนมัสการ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ แห่งวัดธาตุมหาชัย เพื่อขอสนทนาธรรม #จากคำบอกเล่าของหลวงปู่กลมว่า “#เมื่อท่านไปกราบขอศึกษาธรรมจากหลวงปู่คำพันธ์ท่านก็ได้เรียนหนังสือการทั้งการอ่านเขียนตัวธรรม และสรรพวิชาพุทธาคมต่างๆ #การเขียนเลขยันต์ต่างๆ #การทำตะกรุด#โดยเฉพาะการฝึกวิปัสสนากรรมฐานและการเดินจงกลมนี่ หลวงปู่คำพันธ์ ท่านให้ความสำคัญมากจะต้องปฏิบัติทุกวันเช้า-เย็นไม่ให้ขาด” ผมได้จึงถามหลวงปู่ว่า “แล้วหลวงปู่คำพันธ์ท่านสอนให้หลวงปู่ทำอย่างไรบ้างครับ" หลวงปู่กลมท่านก็ตอบว่า “#เพิ่นก็สอนวิปัสนาท่านนั่นแหละเช้าเย็นมาก็สวดมนต์ทำวัด เสร็จแล้วก็ไปเดินจงกรม เดินไปท่านก็ภาวนาไปว่า #ขวายกย่างวางพุทธ #ซ้ายยกย่างวางโธ แล้วก็ไปนั่งกรรมฐานต่อ ทำไปเลื่อยจนกว่าเพิ่นจะบอกว่าให้พอได้” แล้วหลวงปู่คำพันธ์ท่านภาวนาว่าอย่างไรหรอคับหลวงปู่ พุทโธ รึป่าวคับ หลวงปู่กลมท่านก็บอกว่า “#บ่บ่เพิ่นให้ว่า #ยุบหนอ #ผองหนอ#ให้ดูลมหายใจนั่นหละ” หลวงปู่กลมท่านเดินทางไปศึกษาธรรมะจากหลวงปู่คำพันธ์เป็นเวลาราว ๖ ปี ซึ่งในบางครั้งท่านก็จะจำพรรษาอยู่ที่บ้านนกเหาะ อ.ปลาปาก ใกล้กับวัดพระธาตุมาชัย ครั้นในปี ๒๕๒๙ ท่านก็ได้ไปสอบนักธรรมชั้นโท และเมื่อหลวงปู่คำพันธ์ท่านเห็นว่า หลวงปู่กลมได้เรียนรู้ธรรมและสรรพวิชาต่างๆ จากท่านไปครบถ้วนดีแล้ว ท่านจึงบอกให้หลวงปู่กลม ออกธุดงค์เพื่อไปฝึกจิตและแสวงหาโมคธรรม...

#หลวงปู่กลมท่านได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ในการออกธุดงค์ครั้งนี้ท่านจะขอเดินจงกรมธุดงค์ไปเท่านั้น โดยท่านตั้งใจเดินทางจากบ้านแพงสะพัง อ.ท่าอุเทน ไปกราบรอยพระพุทธบาท ณ วัดพระพุทธบาท จ.สระบุรี #หลวงปู่ท่านเล่าว่า"ระหว่างทางก็มีโยมหลายคนที่ขับรถผ่านทางมาพบท่านกำลังเดินธุดงค์ก็จะขออาสารับท่านไปส่งตามจุดต่างๆที่ตนผ่าน แต่ท่านก็ได้ปฏิเสธเพราะท่านได้ตั้งจิตไว้แล้วว่าจะเดินจงกรมธุดงค์โปรดสัตว์ไปเท่านั้น จึงไม่ขอรับนิมนต์ขึ้นรถ" #ครั้นเมื่อเดินทางผ่านไปยังที่ภูจ้อก้อ ท่านก็ได้เข้าไปกราบนมัสการ#หลวงปู่หล้า เขมปัตโต แห่งวัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) จ.มุกดาหาร และได้อยู่ศึกษาธรรมะและการวิปัสสนากรรมฐานจากหลวงปู่หล้า อยู่ระยะหนึ่ง ท่านจึงได้ออกเดินธุดงค์ต่อไป จนถึง อ.พุทธบาท จ.สระบุรี หลวงปู่ท่านก็ได้เดินทางขึ้นไปกราบนมัสการรอยพระพุทธบาท ณ วัดพระพุทธบาท และปักกลดพักอยู่ที่ อ.พุทธบาท นานนับเดือน ชาวบ้านในละแวกนั้นเห็นวัตรปฏิบัติของท่านน่าเลื่อมใส่และมีความเมตตาสูง #ชาวบ้านจึงพากันมากราบขอนิมนต์ให้ท่านอยู่จำพรรษา ณ ที่หมู่บ้านแห่งนั้น แต่ท่านก็ได้ขอปฏิเสธด้วยท่านต้องการกลับมาบูรณะวัดบ้านเกิดของท่านจึงไม่อาจรับนิมนต์ได้ หลวงปู่กลมท่านจึงได้ออกเดินทางกลับมายังวัดโพธิ์ไชย บ้านแพงสะพัง รวมระยะเวลาที่หลวงปู่ท่านได้ออกธุดงค์เป็นเวลารวมนานกว่า ๕ ปี

#เมื่อครั้งที่หลวงปู่กลม ท่านได้จัดพิธีพุทธาภิเษก “พระพุทธะมหาสุวรรณะกาญจนาภิบาล หรือหลวงพ่ออู่ทอง” พระประธานในพระอุโบสถ วัดโพธิ์ไชย พร้อมทั้งรูปหล่อจำลองขนาด ๙ นิ้ว นั้น หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ ท่านได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีนั่งปรกอธิษฐานจิต ณ อุโบสถวัดโพธิ์ไชย ถือได้ว่าหลวงปู่คำพันธ์ท่านมีความเมตตาต่อหลวงปู่กลมเป็นอย่างมากอีกด้วย

#จึงนับได้ว่า พระครูโพธิชยาทร (หลวงปู่กลม อภิลาโส) เป็นศาสนทายาทธรรมอีกองค์หนึ่งที่ได้สืบทอดพุทธาคมสรรพวิชาต่างๆ และมีวัตรปฏิบัติที่งดงาม ถือสันโดษ สมถะไม่สะสมทรัพย์ เห็นได้จากที่ท่านถือคลองผ้าไตร เพียงชุดเดียวตลอดชีวิต และปฏิบัติกรรมฐานอย่างเคร่งคัด มีเมตตาต่อสรรพสัตว์เจริญด้วยอายุพรรษากาล เจริญรอยตามอาจาริยูจารย์ คือ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ แห่งวัดธาตุมหาชัย นั่นเองคับ

#ปัจจุบัน หลวงปู่กลม อภิลาโส ท่านมีอายุ ๙๑ ปี ๔ เดือน พรรษา ๓๗ ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ไชย และเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลรามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
ซึ่งท่านยังมีธาตุขันธ์ที่แข็งแรงดี ถือเป็นพระสุปฏิปันโน ที่เราเคารพกราบไหว้ได้อย่างสนิทใจจริงๆครับ..



ราคา 450 บาท

 

257. เหรียญแจกทหาร รุ่นสร้างบารมี หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง จ.ร้อยเอ็ด ปี 2552 พิมพ์จับเข่า เนื้อทองแดง สวยๆ ประสบการณ์สูง

เหรียญแจกทหาร รุ่นสร้างบารมี พิมพ์สมาธิและพิมพ์จับเข่า หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง จ.ร้อยเอ็ด จัดสร้างถวายโดย คุณ อานุภาพ(โอ๋)บุณยเกียรติ ***เพื่อนำเหรียญทองแดงไปแจกทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้และแถบเขาพระวิหาร*** ถวายหลวงปู่ศรี ปลุกเสกเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๗ ธันวาคม๒๕๕๒ จำนวนการจัดสร้าง ชุดทองคำลงยากรรมการ๑ชุดมี๒เหรียญ จำนวน ๙ ชุด ชุดเงินลงยากรรมการ๑ชุดมี๖เหรียญ จำนวน ๑๙ ชุด และชุดกรรมการ๑ชุดมี๖เหรียญ(เนื้อเงิน นวะ สำริด) จำนวน๑๐๐ ชุด และเนื้อทองแดงพิมพ์ละ ๑๓,๐๐๐ เหรียญ (นำไปแจกทหารพิมพ์ละ๑๐,๐๐๐เหรียญ)...



ราคา 450 บาท ปิดรายการ

 

258. เหรียญหลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง ออกวัดบวรนิเวศ เนื้อทองแดง ปี 2520 ปลุกเสกพร้อมพระกริ่งภูริทัตโต พิธีใหญ่ ตอกโค๊ต มาพร้อมเลี่ยมเก่าครับ...!

วัตถุมงคลพิธีพระพุทธภูริทัตโตจัดว่าเป็น พิธีมหาพุทธาภิเษก ณ.วัดบวรนิเวศวิหาร พิธีจัดขึ้น 3 วัน 3คืน ณ.พระอุโบสถ์ ในวันที่ 26-27-28-พฤศจิกายน 2520 และเป็นงานชุมนุมพระคณาจารย์สายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต รวมพระเกจิอาจารย์และพระเถรานุเถระที่ทรงคุณวุฒิทั่วประเทศ สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย ภายหลังพิธีพุทธาภิเษกแล้ว ได้นำไปให้หลวงปู่แหวนและหลวงปู่ขาวแผ่เมตตาเป็นกรณีพิเศษ ชุดพระพุทธภูริทัตโตประกอบไปด้วย...

1.พระกริ่งภูริทัตโต
2.พระชัยวัฒน์ภูริทัตโต
3.เหรียญรูปไข่หลวงปู่มั่น
4.เหรียญรูปไข่หลวงปู่แหวน

วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง

1.เพื่อสร้างพระประธาน เพื่อถวายเป็นอุเทสิกะเจดีย์ไว้เป็นที่เคารพสักการะบูชาในยามระลึกถึงองค์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและจะได้นำมาประดิษฐาน ณ วัดบ้านตาล ตำบลโคกศรี อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร โดยจำลองแบบมาจากพระพุทธชินบัญชรพรหมรังษี และสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช ได้ประทานพระนามพระประธานนี้ว่า”พระพุทธชินบัญชรพรหมรังษี”
2.เพื่อเทอดทูนเกียรติคุณแด่พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต โดยถวายนามพระกริ่งว่า พระกริ่งภูริทัตโต
3.เงินรายได้จากค่าสั่งจอง เช่าบูชา นำถวายวัดศิษย์สายพระอาจารย์มั่นที่ร่วมเป็นคณะกรรมการ
ทำพิธีเททองเมื่อ 15 ต.ค. 2520 เวลา 18.25 น. สมเด็จพระญาณสังวรณ์เป็นองค์ประธานในพิธีเททองที่วัดบวรนิเวศวิหาร

ชนวนโลหะที่นำมาสร้างประกอบด้วย
1.ชนวนพระกริ่งชัยวัฒน์ นวหรคุณทุกรุ่น วัดราชนัดดา
2.ชนวนพระกริ่งนเรศวร พิษณุโลก
3.ชนวนพระกริ่งพุทธสิหิงค์ ชลบุรี
4.ชนวนพระกริ่งหลวงพ่อเพชร พิจิตร
5.ชนวนพระกริ่งยุทธหัตถี สุพรรณบุรี
6.ชนวนพระกริ่งรอดภยันตราย เชียงใหม่
7.ชนวนพระกริ่งเอกาทศรถ เชียงใหม่
8.ชนวนพระกริ่งพุทธชินราช พิษณุโลก
9.ชนวนพระกริ่งรูปเหมือนธรรมวิตโก วัดเทพศิรินทราวาส
10.ชนวนพระกริ่งพระชัยวัฒน์ ตากสินมหาราช สระบุรี

งานพิธีมหาพุทธาภิเศก
สมเด็จพระสังฆราช เป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย
พระอาจารย์บุญมา ฐิตเปโมเป็นองค์ประธานดับเทียนชัย
ณ พระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ วันที่ 26 27 28 พฤศจิกายน 2520

รายนามพระเกจิที่เข้าร่วมพิธี
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2520
1.สมเด็จพระญาณสังวรณ์ วัดบวรนิเวศ กทม.
2.พระราชธรรมวิจารณ์(หลวงพ่อธูป) วัดสุนทรธรรมทาน กทม.
3.พระราชญาณดิลก(หลวงพ่อชิต) วัดเขาเต่า ประจวบคีรีขันธ์
4.พระวิมลกิจจารักษ์(หลวงพ่อศิริ) วัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ
5.พระสังวรวิมล(หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ
6.พระรักขิตวันมุนี(หลวงพ่อถิร) วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี
7.พระโมราณณิตศร(หลวงพ่อใหญ่) วัดสะแก อยุธยา
8.พระโพธิวรคุณ(หลวงพ่อไพฑูรย์) วัดโพธิ์นิมิต กรุงเทพฯ
9.พระศิลวุฒาจารย์(หลวงพ่อบาง) วัดหนองพลับ สระบุรี
10.พระพิทักษ์วิหารการ(หลวงพ่อสา) วัดราชนัดดา กรุงเทพฯ
11.พระครูอนุกูลพิทยา(หลวงพ่อเส็ง) วัดน้อยนางหงษ์ กรุงเทพฯ
12.พระครูจันทสโรภาส(หลวงพ่อเที่ยง) วัดม่วงชุม กาญจนบุรี
13.พระครูวรพรตศิลขันธ์(หลวงพ่อแฟ้ม) วัดอรัญญิกาวาส ชลบุรี
14.พระครูฏโสภณกัลยานุวัตร(หลวงพ่อเส็ง) วัดกัลยาณมิตร กรุงเทพฯ
15.พระครูสังฆรักษ์(หลวงพ่อหิน) วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ
16.พระครูสุจิตตนุรักษ์(หลวงพ่อจวน) วัดหนองสุ่ม สิงห์บุรี
17.พระครูวราโภคาพินิต(หลวงพ่อนนท์) วัดเหนือวน ราชบุรี
18.พระครูสุรชัยบุญญาคม(หลวงพ่อเชื้อ) วัดบำเพ็ญบุญ ชัยนาท
19.พระอาจารย์พันเทพ ฐานวโณ วัดศรีบุญเรือง เชียงใหม่
20.พระครูอุดมสิทธาจารย์(หลวงพ่ออุตมะ) วัดวังวิเวกทาราม กาญจนบุรี
21.พระครูนิรภัยวิเทศ(หลวงพ่อทองอยู่) วัดเกยชัยเหนือ นครสวรรค์
22.พระโสภณวิสุทธิเถระ วัดศิลขันธาราม อ่างทอง
23.พระครูประสิทธิ์วิทยาคม วัดพียรบาตร ศรีสะเกษ

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2520
1.พระครูศรพรหมโสภิต(หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
2.พระคัมภีรญาณเถร วัดชัยภูมิวนาราม ชัยภูมิ
3.พระครูเกษมธรรมมานนท์(หลวงพ่อแช่ม) วัดดอนยายหอม นครปฐม
4.พระครูประดิษฐนวการ(หลวงพ่อบุญ) วัดวังมะนาว ราชบุรี
5.พระครูสิลาวุฒาจารย์(หลวงพ่อผิว) วัดสง่างาม ปราจีนบุรี
6.พระครูสุตาธิการี(หลวงพ่อทองอยู่) วัดใหม่หนองพองค์ สมุทรสาคร
7.พระครูสมุรธรรมสุนทร(หลวงพ่อสุด) วัดกาหลง สมุทรสาคร
8.พระครูนนทสิทธิการ วัดไทรน้อย นนทบุรี
9.หลวงพ่อพุฒ สารสุข วัดวงษ์ภาสน์ อ่างทอง
10.พระครูสุนทรธรรมมานุศาสตร์(หลวงพ่อรวย) วัดท่าเรือแกลง ระยอง
11.หลวงปู่คำมี พุทธธาโร วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ลพบุรี
12.หลวงพ่อคง สุวรรณโณ วัดวังสรรพรส จันทบุรี
13.พระครูสารกิจประยุค วัดกุญชรนาราม มหาสารคาม
14.พระครูประสาทวรคุณ(หลวงพ่อพริ้ง) วัดโบสถ์โก่งธนู ลพบุรี
15.หลวงพ่อคร่ำ ยะโสธโร วัดวังหว้า ระยอง
16.พระครูผนวกกิจโสภณ(หลวงพ่อทองสุข) วัดสะพานสูง นนทบุรี
17.ครูบาธรรมชัย วัดน้ำทุ่งหลวง เชียงใหม่
18.หลวงพ่อสด วัดหางน้ำสาคร ชัยนาท
19.พระครูพิพิธพัชรศาสน์ วัดเขาพระบาทลูกช้าง เพ็ชรบุรี
20.พระครูบวรชิมรัตน์ วัดนางพญา พิษณุโลก
21.พระครูสุวรรณศิลาจารย์ วัดก้อนแก้ว ฉะเชิงเทรา

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2520
1.พระเทพบัณฑิต วัดศรีเมือง หนองคาย
2.พระอาจารย์จวน กุลเชโฐ วัดเจติยาราม หนองคาย
3.พระอาจารย์คำพันธ์ วัดอรุณรังษี หนองคาย
4.พระพิศาลศาสนกิจ วัดจันทาราม หนองคาย
5.พระครูสุนทรนวกิจ วัดจันทาราม หนองคาย
6.พระศิลขันฑ์สังวรณ์(อ่อนสี) วัดพระงามศรีมงคล หนองคาย
7.พระครูสมุทร์ญาณประยูติ วัดบึงปังพลาราม หนองคาย
8.พระครูญาณปรีชา(เหรียญ) วัดอรัญบรรพต หนองคาย
9.พระอาจารย์บัวพา วัดป่าพระสถิตย์ หนองคาย
10.พระครูศิริธรรมมานุวัตร(ทองพูล) วัดสามัคคีอุปถัมภ์ หนองคาย
11. พระอาจารย์บุญมา ฐิตเปโม วัดศิริสาละวัน อุดรธานี
12.พระครูทัศน์ปรีชาญาณ(หลวงปู่ชม) วัดป่าบ้านวัวฆ่อง อุดรธานี
13.พระอาจารย์บุญเพ็ง วัดถ้ำกลองเพล อุดรธานี
14.พระครูศรีธรรมมาคุนาธาร วัดป่า อุดรธานี
15.พระอาจารย์เพียร วัดป่าบ้านหนองกอง อุดรธานี
16.พระอาจารย์บุญเลิศ วัดโนนสง่า อุดรธานี
17.พระอาจารย์พระครูสันติวรญาณ(สิม) วัดป่าสันติสังฆาราม สกลนคร
18.พระอาจารย์แว่น ธนปาโล วัดสุทธาวาส สกลนคร
19.พระอาจารย์บุญ ชินวังโส วัดศรีสว่างแดนดิน สกลนคร
20.พระอาจารย์วัน อุตโม วัดถ้ำอภัยดำรงค์ธรรม สกลนคร
21.พระอาจารย์ลี ฐิตธัมโม วัดเหวลึก สกลนคร
22.พระอาจารย์อ่อนสี ฐานวโร วัดธรรมิการาม สกลนคร
23.พระอาจารย์ผาง ปริปุรโณ วัดประสาทธรรม สกลนคร
24.พระอาจารย์สุภาพ ธัมปัญโญ วัดทุ่งสว่าง สกลนคร
25.พระอาจารย์คำบ่อ ฐิตปัญโญ วัดใหม่ สกลนคร
26.พระอาจารย์สนั่น รักขิตสีโล วัดป่าบ้านหนองไผ่ สกลนคร
27.พระอาจารย์สุพรรณ จันทวังโส วัดประชานิมิตร สกลนคร
28.พระอาจารย์จันดี เขมะปัญโญ วัดศรีสอาด สกลนคร
29.พระอาจารย์สาม อกิญจโน วัดป่าไตรวิเวก สุรินทร์
30.พระญาณสิทธาจารย์ วัดเทพพิทักษ์ปุณนาราม นครราชสีมา
31.พระชินวงศา วัดป่าสาละวัน นครราชสีมา
32.พระสมุทร์ธรรมทาน วัดศรีธรรมมาราม ยโสธร
33.พระราชธรรมมานุวัตร์ วัดประชานิยม กาฬสินธุ
34.พระอาจารย์หนูอินทร์ กิตติสาโร วัดพุทธคายา กาฬสินธุ
35.พระอาจารย์หนู สุจิตโต วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่
36.พระครูการุณธรรมนิวาส(หลวงพ่อหลวง) วัดป่าสำราญนิวาส
37.พระอาจารย์ไพทูลย์ สุมังคโล วัดป่ารัตนวนาราม พเยาว์
38.พระเทพวลาลังการ(หลวงศรีจันทร์) วัดสุทธาวาส เลย
39.พระอาจารย์ฝัน เปสะกะโร วัดถ้ำเอราวัณ เลย
40.พระอาจารย์ซามา อจตโต วัดป่าอัมพวัน เลย
41.พระอาจารย์พระครูญาณธาราภิรัต(ท่อน) วัดศรีอภัยวัน เลย
42.พระอาจารย์ศรีธน วัดถ้ำผาปู่ เลย
43.พระพุทธิสารธโสภณ วัดศรีโพนแท่น เลย
44.พระอาจารย์บุญเย็น ฐานธัมโม สำนักสงฆ์เจ้าพรหมมหาราช เชียงใหม่
45.หลวงปู่สี มหาวีโร วัดประชาคมวนาราม ร้อยเอ็ด

หลังจากพิธีพุทธาภิเศกแล้วได้มีการนำพระไปให้หลวงปู่แหวน สุจิณโณ และหลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพลปลุกเสกเดี่ยวเป็นกรณีพิเศษ


ราคา 450 บาท

 

259. เหรียญพัดยศ รุ่น 3 หลวงปู่เทศก์ เทศรังสี วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย ปี 2537 หลวงปู่เทศก์ท่านจะไม่สร้างเหรียญหรือวัตถุมงคลที่เป็นรูปของท่านครับผม รุ่นนี้ได้รับการเมตตาจากหลวงปู่เทศก์ แน่นอนครับ โดยมีพยานหลายคน โดยหลวงปู่เมตตาให้ที่วัดถ้ำขาม จ.สกลนคร และหลวงปู่ยังเอ่ยปากชมด้วยว่า เหรียญนี้ทำได้สวยงามมากครับ



ผู้จัดสร้าง :
- จัดสร้างโดย ศึกษาธิการอำเภอ จองที่สน.ศึกษาธิการอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จะได้รับเหรียญจากมือ ลป.เทสก์ ในวันทำบุญเปิดอาคาร
จุดประสงค์การสร้างเหรียญนี้คือ
1 ที่ระลึกพิธีมอบอาคารอนุสรณ์ ลป.เทสก์ เทสรังสี
2 สมทบทุนสร้างอาคารศึกษาธิการอำเภอ(ศูนย์พัฒนาการศึกษา การศาสนา การวัฒนธรรม และการกีฬา)
3 ให้คนในพื้นได้ที่มีวัตถุมงคลของ ลป.เทสก์ ทุกคน




ราคา 350 บาท

 

260. พระผงรูปเหมือนพลอยนพเก้า หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญบรรพต จ.หนองคาย ปี 2536 เนื้อผงพุทธคุณ+พลอยนพเก้า เนื้อสวยมากครับ นานๆจะเจอครับ น่าเก็บมาก

ราคา 350 บาท

 

261. พระผงรุ่นแรก หลวงปู่ถนอม จันทรวโร วัดขามเตี้ยใหญ่ บ้านขามเตี้ยใหญ่ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ปี 2561 ผงโสฬสมหาพรหม ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงปู่สนธ์ วัดท่าดอกแก้ว ปลุกเสกในพรรษายาวนานที่สุด ดีทั้งนอกดีทั้งใน

เป็นศิษย์สืบสายธรรมหลวงปู่สนธิ์ สุรชโย วัดท่าดอกแก้วเหนือ ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม อดีตพระเกจิชื่อดัง ศิษย์เอกหลวงปู่สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน แห่งวัดพระธาตุท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เป็นพระสายป่าที่เคร่งครัดในศีลาจารวัตร ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบรูปหนึ่ง เป็นที่เคารพศรัทธา

พระสุปฏิปันโนที่ดำรงชีวิตอยู่ในวัย 78 ปี พรรษา 58 อยู่อย่างเรียบง่าย พอเพียงสมถะ ถ่อมเนื้อถ่อมตน



....เกิดที่บ้านขามเตี้ยใหญ่ ต.นาขมิ้น อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
บรรพชาสามเณรเมื่อปี พ.ศ.2501 (อายุ18ปี) ที่วัดโพธิ์ศรี บ.ขามเตี้ย ต.นาขมิ้น อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อปี พ.ศ.2503 โดยมีพระอุปัชฌาย์ คือพระครูสันธาน พนมเขต (หลวงปู่สนธิ์ ท่าดอกแก้ว) มีพระกรรมวาจาจารย์ คือ พระครูโสตถิ ธรรมคุณ(หลวงพ่ออุทา ท่าจำปา)
มีพระอนุสาวนาจารย์ คือ หลวงปู่ที วัดท่าดอกแก้ว ....
หลังจากบรรพชาแล้ว ได้กราบลาพระอาจารย์ กลับมาศึกษาพระธรรมวินัย อยุ่ที่วัดบ้านเกิด และจบนักธรรมเอกในสามปีแรกที่บวช ในขณะเดียวกันก็ได้ศึกษาอักษรธรรม บาลี และฝึกกัมมัฏฐาน ควบคู่ไปด้วย.....
หลวงปู่ถนอมท่านเป็นศิษย์ในหลวงปู่สนธิ์ ท่าดอกแก้ว
โดยท่านเป็นผู้ไฝ่รู้ใฝ่เรียน ท่านจะเเวะเวียนไปมาหาหลวงปู่สนธิ์ ผู้เป็นอาจารย์อย่างสม่ำเสมอ ท่านได้ศึกษา หาความรู้ ร่ำเรียน สรรพวิชา พระเวท มนต์คาถาต่างๆ กับพระอาจารย์ อย่างเจนจบ เป็นเวลาประมาณ7ปี ....
สมัยที่ท่านออกธุดงธ์จากฝั่งไทยไปฝั่งลาวเริ่มต้นจากทางภาคเหนือของลาว ท่านได้พำนักที่วัดพระบาทแอวขัน มีโอกาสได้ศึกษาคัมภีร์มูลกันจายน์ ตัวอักษรธรรรม อักษรขอม ไทย ลาว อีกทั้งพระเวท มนต์คาถาต่างๆ และฝึกกัมมัฏฐานกับหลวงปู่เพ็ง แห่งวัดพระบาทแอวขัน และยังได้พบกับพระอาจารย์สายวิปัสนา กัมมัฏฐานหลวงปู่มั่น อีกหลายรูป ได้ศึกษาธรรมและฝึกปฏิบัติพระกัมมัฏฐาน จากพระอาจารย์ฝั้น พระอาจารย์วัน พระอาจารย์จวน และอีกหลายรูปเป็นต้น ....
.....หลวงปู่เล่าให้ฟังว่า ตอนที่ท่านไปนั่งบำเพ็ญภาวนาที่ภูเขาควาย ได้นั่งกัมมัฏฐานที่ถ้ำยักษ์ ท่านได้รับคำภีร์ใบาลาน มาอย่างอัศจรรย์เหนือธรรมชาติถึงสองเล่ม ท่านบอกว่าเป็นคำภีรฺ์พระเวท มนต์คาถา อักขระยันต์ต่างๆ ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังอยู่กับท่าน
หลวงปู่ท่านเล่าให้ฟังอีกว่าเคยเข้าไปกราบศึกษาธรรมกับหลวงปู่ฝั้นระยะนึง หลังจากกราบลาท่าน หลวงปู่ฝั้นท่านได้มอบพระบูชารูปเหมือนท่านให้กับหลวงปู่ถนอม ซึ่งปัจจุบันก็ยังอยู่ที่วัด
ซึ่งยังมีอีกมากมายหลายเหตุการณ์ผู้เขียนไม่สามารถบรรยายได้หมด....
หลวงปู่ท่านได้จาริกธุดงธ์ไปตามสถานที่ต่างๆทางฝั่งลาว แต่จะกลับมาจำพรรษาที่วัดเพื่อสงเคราะห์โปรดญาติโยมชาวบ้านบ้าง หลังออกพรรษาท่านก็จาริกธุดงธ์ เรื่อยมาจนถึงปี38 จึงเริ่มหยุดออกธุดงธ์....
ณ ปัจจุบันหลวงปู่ท่านอยู่ที่วัดขามเตี้ยใหญ่ ซึ่งในขณะนี้เองหลวงปู่ประไพ อัคคธัมโมท่านได้แวะเวียนมาแลกเปลี่ยนกัมมัฏฐานยุประจำ
ซึ่งหลวงปู่ประไพ ท่านเป็นศิษย์ต้นหลวงพ่อผาง สาย
พระป่าผู้ปฎิบัติตนเรียบง่าย
อีกองค์ที่ชาวโพนสวรรค์และลูกศิษย์ไกล้ไกลให้ความเครพนับถือเป็นอย่างมาก
วัดนี้ท่านมาก่อตั้ง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2516
แม้จะไม่ค่อยได้ออกธุดงธ์แล้วแต่ท่านก็ยังคงศึกษาธรรมปฎิบัติพระกัมมัฎฐาน มาโดยตลอด....
ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ เป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีเมื่อปี พ.ศ.2505 เป็นเจ้าคณะตำบลนาขมิ้น ปี พ.ศ.2511 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ประจำตำบลนาขมิ้น อ.ท่าอุเทน (ปัจจุบันเป็น อ.โพนสวรรค์) เมื่อปี พ.ศ2521 และได้รับการแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะอ.โพนสวรรค์ ปี พ.ศ.2538
....ลำดับสมณศักดิ์
ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เมื่อปี พ.ศ.2529
ในราชทินนามที่
พระครูสิริ โพธาภิวัฒน์
และเป็นรองเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก เมื่อปีพ.ศ.2547....หลวงปู่ถนอม เป็นพระที่ยึดมั่นในศีลธรรม คอยอบรมลูกศิษย์ไม่ให้ประมาทในศีลในธรรม อยู่อย่างเรียบง่าย สมถะ ไม่ถือตัว เป็นที่เคารพศรัทธาของญาติโยมเป็นอย่างดี ....แม้จะบวชฝ่ายมหานิกาย แต่ท่านไม่เคยย่นย่อต่อการฝึกปฎิบัติ ภาวนาพระกัมมัฎฐานเฉกเช่นพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายพระป่าฝ่ายธรรมยุติ


ราคา 450 บาท

 

โอนแล้ว แจ้งในกล่องข้อความแล้ว ขอบคุณครับ

 

262. เหรียญรุ่น ๕๗ พระอาจารย์วัน อุตโม วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม ปี 2521 หลังเสือกระโจน เนื้อทองฝาบาตร สุดยอดประสบการณ์ ชื่อเรียกขานว่า "เหรียญเสือกระโจน" สุดยอดพิธี ครับ

จัดสร้างโดยคุณสุนทร อึ้งเจริญสุกานต์ ร้านสุนทรโอสถ จัดสร้าง ได้ยืมหน้าบล็อกของ ผู้ว่าฯ เปลี่ยนบล็อกหลังมีรูปพระปิดตาอยู่บนยันต์ มีรูปเสือกระโดดอยู่ล่าง
มีเนื้อทองคำ เงิน นวะ ทองเหลือง อัลปาก้า ทองแดง

ทางคณะจัดสร้างได้นำเหรียญรุ่นนี้ให้พระอาจารย์สายกัมมัฏฐานปลุกเสกให้อาทิหลวงปู่ขาว หลวงปู่เครื่อง หลวงปู่สิม หลวงพ่อผาง หลวงปู่เกษม หลวงปู่เเหวน หลวงปู่ชอบ หลวงปู่เเว่น หลวงพ่อย้อย เเละยังนำไปปลุกเสก ณ.วัดไชโยวรวิหาร จ.อ่างทอง พิธีใหญ่ปลุกเสกโดยคณาจารย์ทั่วประเทศ





ภาพหลวงปู่ผาง จิตตคุตโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต อธิฐานจิต



ภาพหลวงปู่สิม พุทธาจาโร อธิฐาจจิต


ภาพหลวงปู่ขาว อนาลโย อธิฐานจิต



นับเป็นอีกเหรียญหายากของพระอาจารย์วัน เเละมีประสบการณ์สูงมากครับ สร้างจำนวนน้อย นานๆจะเจอสักองค์นึงครับ


ราคา 550 บาท ท่าน supachaipnu

 

263.เหรียญขวานฟ้า หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาถิรโต วัดถ้ำกลองเพล จ.อุดรธานี ปี 2536 สุดยอดของหายาก เหรียญในตำนาน เหรียญที่พลิกแผ่นดินหาก็ยังยาก มีแต่ศิษย์ปู่เพ็ง รุ่นเก่าๆ เจ้หมวยสายสมรศิษย์ชอำสร้าง ถวายหลวงปู่บุญเพ็ง พร้อมๆกับเหรียญ ขวานฟ้า ลป.ชอบ

ผู้ขออนุญาตสร้าง คุณสายสมร และคณะศิษย์ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี

สร้างและเข้าพิธีเดียวกันกับเหรียญขวานฟ้าหลวงปู่ชอบ ซึ่งปัจจุบันเหรียญขวานฟ้าหลวงปู่ชอบ ราคาหลายพันบาทแล้วครับผม

มวลสารทำจากขวานฟ้า ซึ่งหลวงปู่หลุย จันทสาโร ได้มอบขวานฟ้าจำนวน ๒ เล่ม ให้คุณสายสมร เมื่อปี ๒๕๓๒ ก่อนที่องค์ท่านจะมรณภาพ หลังจากหลวงปู่หลุยท่านมรณภาพแล้วตนเองได้รับมอบอัฐิธาตุและเถ้าอังคารขององค์ท่านมาเก็บบูชาไว้ที่บ้าน..

ทางโยมหมวยมีศรัทธาอยากจะสร้างเจดีย์บรรจุอัฐิธาตุและเถ้าอังคารขององค์ท่านหลวงปู่หลุยไว้ที่วัดถ้ำผาบิ่ง งบประมาณในการก่อสร้างเจดีย์เป็นเงินจำนวนสองล้านบาท ทางคุณสายสมร(เจ้หมวยชะอำ) และคณะศิษย์ขององค์ท่านหลวงปู่หลุย ขอให้องค์ท่านหลวงปู่ชอบพิจารณาช่วยเหลือในเรื่องนี้..

องค์ท่านหลวงปู่ชอบถามถึงวิธีการว่าจะทำอย่างไร ทางคุณสายสมรกราบเรียนองค์ท่านหลวงปู่ชอบว่า ทางตนเองและคณะศิษย์ของหลวงปู่หลุย จังหวัดเพชรบุรี จะพากันทำเป็นกฐิน และผ้าป่าขึ้นมา ถ้าใครร่วมทำบุญกฐินผ้าป่าด้วยก็จะมอบเหรียญให้เพื่อเป็นของที่ระลึก..

องค์ท่านหลวงปู่ชอบพิจารณาเห็นสมควรในเจตนาของคุณสายสมร(เจ้หมวยชะอำ) องค์ท่านจึงอนุญาตให้สร้างเหรียญของท่านขึ้นมา โดยองค์ท่านหลวงปู่ชอบตั้งชื่อเหรียญรุ่นนี้ว่า “ เหรียญขวานฟ้า ”


พุทธาภิเษก – วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๖ ที่ ศาลาเมตตาฐานสโม วัดป่าโคกมน

ในงานพิธีมหาพุทธาภิเษกเสาร์ห้าที่วัดป่าโคกมน เมื่อคืนวัน ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๖ องค์ท่านหลวงปู่ชอบนิมนต์ พระธรรมวราลังการ(หลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ) วัดศรีสุทธาวาส(วัดเลยหลง) ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย เป็นประธานสงฆ์ในการจุดเทียนชัย นิมนต์ หลวงปู่แว่น ธนปาโล วัดถ้ำพระสบาย ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง เป็นผู้ดับเทียนชัย นิมนต์ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญบรรพต ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เป็นผู้นำสวดชะยันโตหลังดับเทียนชัย..

มหาพิธีพุทธาภิเษกเสาร์ห้า ปี ๒๕๓๖ คืนวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ เป็นพิธีพุทธาภิเษกครั้งเดียวที่ องค์ท่านหลวงปู่ชอบ ฐานสโม อยู่ร่วมนั่งปรกร่วมกับครูบาอาจารย์พระเณรในพิธีนับตั้งแต่เวลา ๑๙.๐๐ น. จนถึงเวลา ๐๖.๐๐น . ที่ดับเทียนชัยของเช้าวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๖

พอเช้าวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๖ คุณสายสมร(เจ้หมวยชะอำ) ได้นำเหรียญหลวงปู่ชอบ “ รุ่นขวานฟ้า ” มาให้องค์ท่านหลวงปู่ชอบอธิฐานจิตอีกครั้งที่ศาลาบำเพ็ญกุศล(ศาลาเมรุ)วัดป่าโคกมน เพื่อให้องค์ท่านแจกกับมือให้ญาติโยมที่ตามมากับคณะของคุณสายสมรจากจังหวัดเพชรบุรี..



ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต

วัดถ้ำกลองเพล
ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู


หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต นามเดิม บุญเพ็ง จันใด จำนวนพี่น้อง 6 คน โดยองค์ท่านเป็นบุตรคนที่ 3 ครอบครัวมีอาชีพทำนา
ป็นบุตรของนายคูณ และนางมา จันใด ท่านเกิดเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ.2472 ณ หมู่ที่ 3 บ้านศรีฐาน ตำบลศรีฐาน อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร 35150
ศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนศรีฐาน ซึ่งเป็นโรงเรียนวัด จึงทำให้ท่านมีความผูกพันกับศาสนา ครั้นอายุ 12 ปี บวชเป็นผ้าขาวเพื่อศึกษาและปฏิบัติข้อวัตรของผู้ทรงศีล และบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดศรีธรรมาราม อ.เมืองยโสธร ในเวลาต่อมา
บรรพชา เป็นสามเณรที่วัดศรีธรรมาราม อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร
อุปสมบทเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ.2492 ที่วัดป่าสุทธาวาส อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร
พระอาจารย์มหาทองสุก สุจิตโต (ศิษย์หลวงปู่มั่น) เป็นพระอุปัชฌาย์
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระอาจารย์มหาไพบูลย์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

อาจาริยธรรม
หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต ในขณะที่ท่านเป็นสามเณรอายุ 16 ปีท่านได้เดินทางด้วยเท้าพร้อมด้วยท่านพระอาจารย์สอ และสามเณรลี จากวัดศรีธรรมาราม จังหวัดยโสธร ไปบ้านหนองผือนาใน ตำบลนาใน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร .ใช้เวลาในการเดินทางเป็นระยะเวลา 15 วัน และท่านพร้อมคณะได้พักอยู่ห่างจากวัดป่าบ้านหนองผือประมาณ 12 กิโลเมตร โดยผลัดกันครั้งละรูป เดินทางเข้ามากราบท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตเถระ เพราะถ้าไปพร้อมๆ กันก้เกรงว่าจะไม่งาม อาจจะมีความวุ่นวายและขาดความสงบได้ โยหลวงปู่บุญเพ็ง เป็นรูปแรกที่ท่านเข้าไปก่อน ท่านได้เล่าถึงเหตุการณ์ในครั้งแรกที่ได้มีโอกาสเข้าไปนมัสการท่านพระอาจารย์ใหญ่หลวงปู่มั่นว่า
“แรกๆ นะตัวเย็นเฉียบเลยนะ หยิกไม่รู้เรื่อง มันตื่นเต้นมาก เพราะเคยได้ยินกิตติศัพท์ของท่านพระอาจารย์มั่น ว่ามีระเบียบ เรียบร้อยมาก เป็นพระผู้มีความเคร่งครัดต่อพระวินัยมาก” ครั้งนั้นอาตตมายังจำได้ดีว่ามันตื่นเต้นมาก เมื่อเข้ากราบนมัสการ ก็เห็นความเป็นพระผู้มีปฏิปทาสูงมาก ยากที่จะมีใครทำได้เช่นท่าน “งามจริงๆ แม้ท่านจะนั่งอยู่ในที่อันควรแล้ว ผิวพรรณของท่านเปล่งปลั่ง มองไม่เบื่อ เพราะเราไม่เคยเห็นอย่างนี้ สมกับคำล่ำลือจริงๆ ” ท่านพระอาจารย์มั่นท่านนั่งเฉยอยู่ มองพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งท่านจึงเอ่ยขึ้นว่า “พอบอกได้สอนได้” หลังจากนั้นก็มีพระนำไปที่พัก ชึ่งก็เป็นป่าดงไม้ไผ่และรอบๆ บริเวณนั้นแหละ จิตใจของอาตมานั้นปีติดีใจมาก คิดว่า “นี้เป็นโอกาสของเราแล้ว เราจะปฏิบัติศึกษาให้เกภูมิปัญญามากเท่าที่จะมากได้ทีเดียว”
เมื่อหลวงปู่บุญเพ็ง ได้เข้ามาอยู่วัดป่าบ้านหนองผือ สมความตั้งใจแล้ว ได้รับหน้าที่อันเป็นกิจวัตรประจำวัน คือคอยดูแลและทำความสะอาดกุฏิ จัดสิ่งต่างๆ ภายในกุฏิของท่านพระอาจารย์มั่น และต่อมาได้อยู่ใกล้ชิด โดยได้รับหน้าที่ปรนนิบัติช่วยครูบาอาจารย์ในยามชรา ชึ่งในเวลานั้นท่านพระอาจารย์มั่นท่านชราภาพแล้ว หลวงปู่บุญเพ็งท่านเล่าว่า นับเป็นลาภของอาตมาที่ได้มีโอกาสอันสำคัญนี้ และเป็นช่วงที่ได้อยู่ปรนนิบัติท่านด้วย อย่างไรก็ตามการได้อยู่ใกล้ชิดครูบาอาจารย์ชึ่งในครั้งนั้นได้มีครูบาอาจารย์มาอยู่จำพรรษษมากองค์ด้วยกัน และแต่ละองค์ก็ล้วนแล้วแต่มีคุณวิเศษมีข้อวัตรปฏิบัติธรรมอย่างละเอียดอ่อน เป็นกำลังในกองทัพธรรมเจริญรุ่งเรืองในกาลต่อมา ครูบาอาจารย์พระเถระแต่ละองค์นั้น การปฏิบัติของท่านเป็นอย่างชนิดทุ่มเท หมั่นเพียร ยอมมอบกายถวายชีวิตพ่อพระรัตนตรัย และมีอารมณ์สงบ เยือกเย็นพูดน้อย เวลาจะถามความสงสัยในธรรม ก็ตอบได้อย่างแจ่มแจ้ง เข้าใจง่าย อันนี้อาตมาคิดว่า “เหมาะสม” คือสถานที่ดี ครูบาอาจารย์พรั่งพร้อมที่จะสอนธรรม จึงเหมาะแก่การภาวนาธรรมในครั้งกระโน้นจริงๆ

ท่านได้อยู่รับใช้ครูบาอาจารย์หลวงปู่มั่นเป็นเวลารวม 4 ปีคือตั้งแต่ พ.ศ.2489 ถึง พ.ศ. 2492 สิ่งที่ภาคภูมิใจก็คือ ได้อยู่ปรนนิบัติท่าน ได้อยู่ใกล้ชิดท่าน เมื่อติดขัดในปัญหาอันใดก็จะสามารถถามแก้ไขได้อย่างทันท่วงที ยิ่งในวัยชราของท่าน อาตมาและหมู่คณะได้ปรนนิบัติท่านพยายามเยียวยารักษาท่าน เพราะท่านเป็นพ่อแม่ที่ให้สิ่งที่มีคุณค่าทั้งสิ้น ไม่เคยสอนให้เสียคน ท่านคอยกล่าวตักเตือน ท่านว่า “เวลาไม่รอใคร ความตายอยู่เบื้องหน้า จงอย่าประมาทเลย”
ปีสุดท้ายคือ พ.ศ.2492 ท่านพระอาจารย์มั่นท่านอาพาธ อาการเจ็บป่วยนั้นแรงกล้าขึ้นเรื่อยๆ คณธศิษย์ทุกคนก็พยายามกันมาก ช่วยกันดูแลจัดเวรยาม คอยดูแลอาการเจ็บป่วยท่านพระอาจารย์ใหญ่ด้วยความเป็นห่วงอย่างยิ่ง
ภายหลังจากท่านพระอาจารย์มั่นมรณภาพและถวายเพลิงศพท่านไปแล้ว คณะศิษย์ทั้งหลายต่างแยกย้ายกันออกไป ในระยะ 4 ปี อาตมาคิดว่าได้เหตุผลในทางธรรม ได้รับจากหลวงปู่ครูบาอาจารย์มากมายพอควรทีเดียว
ปี 2500 องค์ท่านเข้ามอบตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ขาว อนาลโย ณ วัดป่าแก้วชุมพล บ้านชุมพล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร และขอโอกาสจากองค์หลวงปู่ออกธุดงค์หาประสบการณ์บริเวณเทือกเขาป่าภูพาน

ปี 2503 เดินทางไปกราบหลวงปู่ขาว ขณะองค์หลวงปู่กำลังสร้างวัดถ้ำกลองเพล อ.เมืองหนองบัวลำภู โดยรับภาระดูแลการก่อสร้าง และอยู่รับใช้หลวงปู่ขาวในเวลาเดียวกัน จนท่านละสังขาร



ราคา 650 บาท ท่าน อาทิตย์03

 

264. เหรียญ พระวอ พระตา รุ่นแรก ปี 2518 ที่ระลึกสร้างศาลหลักเมือง หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี เป็นเหรียญยอดนิยมเหรียญหนึ่ง ของเมืองอุดรธานี สภาพสวยแชมป์ครับ เลี่ยมกรอบกันน้ำสวยมากคับ

หนึ่งในทำเนียบ เหรียญ ที่ หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล และ หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโต วัดศิริสาลวัน หนองบัวลำภู สมทบทุนสร้างศาลหลักเมือง หนองบัวลำภู เหรียญประสบการณ์สูงครับ

(จัดอยู่ในทำเนียบอย่างเป็นทางการครับ)





เมือง หนองบัวลำภูนั้นมีชื่อเรียกอื่น คือ เมืองหนองบัวลุ่มภู เมืองกมุทาสัย หรือนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบานนั้น จากการสันนิษฐานของนักโบราณคดีและประวัติศาสตร์เชื่อว่า เป็นเมืองที่มีความเจริญเก่าแก่ตั้งแต่สมัยขอมเรืองอำนาจ ซึ่งต่อมาในสมัยกรุงธนบุรีเป็นราชธานี ได้มี พงศาวดารกล่าวถึงเมืองหนอง บัวลำภูในหนังสือพงศาวดารหัวเมืองมณฑลอิสานซึ่ง หม่อมอมร วงษ์วิจิตร (ม.ร.ว.ปฐม คเณจร) เรียบเรียงไว้ ความตอนหนึ่งว่า “...จุลศักราช 1129 ปีกุญ นพศก (พ.ศ. 2310) พระเจ้าองค์หล่อยผู้ครองกรุงศรีสัตนาคณหุตถึงแก่พิราไลย หามีโอรสที่จะสืบตระกูลไม่ แสนท้าวพระยา และนายวอ นายตา จึงได้เชิญกุมารสองคน (มิได้ปรากฎนาม) ซึ่งเป็นเชื้อวงษ์ พระเจ้ากรุงศรีสัตนาคณหุตคนเก่า (ไม่ปรากฏว่าคนไหน) อันได้หนีไปอยู่กับนายวอ นายตา เมื่อพระเจ้าองค์หล่อย กำลังมาจับพระยาเมืองแสนฆ่านั้นขึ้นครองกรุงศรีสัตนาคณหุตแล้ว นายวอนายตาจะขอเป็นที่มหาอุปราช ฝ่ายน่า ราชกุมารทั้งสองเห็นว่า นายวอ นายตา มิได้เป็นเชื้อเจ้า จึงตั้งให้นายวอ นายตาเป็นแต่ตำแหน่งเสนาบดี ณ กรุงศรีสัตนาคณหุต แล้วราชกุมารผู้เชษฐาจึงตั้งราชกุมารผู้เป็นอนุชาให้เป็นมหาอุปราชขึ้น ฝ่ายพระวอ พระตาก็มีความโทมนัสด้วยมิได้เป็นที่มหาอุปราชดังความประสงค์ จึงได้อพยพครอบครัวพากันมาตั้งสร้างเวียงขึ้นบ้านหนองบัวลำภู แขวงเมืองเวียงจันทน์ เสร็จแล้วยกขึ้นเป็นเมืองให้ชื่อว่า เมืองนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน ฝ่ายพระเจ้าศรีสัตนาคณหุตทราบเหตุ ดังนั้น จึงให้แสนท้าวพระยาไปห้ามปราม มิให้พระวอพระตาตั้งเป็นเมืองพระวอพระตาก็ไม่ฟัง พระเจ้ากรุงศรีสัตนาคณหุต จึงได้ยกกองทัพมาตีพระวอพระตา สู้รบกันอยู่ได้ประมาณสามปี พระวอพระตาเห็นว่าต้านทานมิได้จึงได้แต่งคนไปอ่อนน้อมต่อพม่าขอกำลังมาช่วย ฝ่ายผู้เป็นใหญ่ในพม่าจึงได้แต่งให้มองละแงะเป็นแม่ทัพคุมกำลังมาช่วย พระวอ พระตา ฝ่ายกรุงศรีสัตนาคณหุตทราบดังนั้น จึงแต่งเครื่องบรรณาการให้แสนท้าวพระยา คุมลงมาดักกองทัพพม่าอยู่กลางทาง แล้วพูดเกลี้ยกล่อมชักชวนเอาพวกพม่าเข้าเป็นพวกเดียวกันได้แล้ว พากันยกทัพมาตีพระวอ พระตาก็แตก พระตาตายในที่รบ ยังอยู่แต่พระวอกับท้าวฝ่ายน่า ท้าวคำผง ท้าวทิดพรหม ผู้เป็นบุตรพระตา แล้วท้าวทิดก่ำผู้บุตรพระวอ จึงพาครอบครัวแตกหนี้อพยพลงไปขอพึ่งอยู่กับพระเจ้าองค์หลวงเจ้าเมืองไชย กุมารเมืองจำปาศักดิ์...” และต่อมาพระวอได้ขอพึ่งบารมีโพธิสมภารพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งภายหลังพระเจ้ากรุงศรีสัตนาคณหุต ได้ส่งกองทัพมาโจมตีพระวออีก และพระวอถูกฆ่าตาย ที่ตำบลเวียงดอนกอง เป็นเหตุให้สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดฯ ให้เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกยกทัพไปตีกรุงเวียงจันทน์แตก เมื่อ พ.ศ. 2321 ต่อ มาในสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระปทุมเทวาภิบาลเจ้าเมืองหนองคาย ได้แต่งตั้งพระวิชโยดมกมุทธเขตมาสร้างเมืองเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบานขึ้น ใหม่ และเปลี่ยนชื่อว่าเมืองกมุทธาไสย์บุรีรัมย์ มีฐานะเป็นเมืองเอก มีศาล เรือนจำ ฯลฯ พระวิชโยดมกมุทธเขตได้ปกครองเมืองกมุทธาไสย์บุรีรัมย์ ต่อมาเป็นอำเภอ มีชื่อว่า “อำเภอหนองบัวลำภู” เมื่อ 1 ธันวาคม 2536 ได้รับการจัดตั้งเป็นจังหวัดหนองบัวลำภู


ราคา 1,550 บาท ท่าน j999

 

265. ล็อกเก็ตรุ่นแรก หลวงปู่สำลี สุทธจิตโต วัดถ้ำคูหาวารี จ.เลย ปี 2552 สวยๆครับ หายาก สร้างประมาณ 300-400 องค์เท่านั้นครับผม

ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่หลุย จันทสาโร ผู้เป็นเนื้อนาบุญแห่งดินแดงพุทธธรรมจังหวัดเลย



หลวงปู่สำลี สุทธจิตโต (ชื่อเดิม นายสำลี เพ็งผล) เกิดเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2479 บิดาชื่อนายบุญ มารดาชื่อนางอินทร์ เกิดที่ ต.กุดจอก อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา

เมื่อเรียนจบ ป.4 ก็ออกมาช่วยพ่และแม่ทำนา ต่อมาจึงย้ายภูมิลำเนามาอยู่ที่จังหวัดเลย ลป.สำลี เป็นคนขยัน ช่วยเหลืองานทุกอย่างของ พ่อและแม่ ทั้งยังชอบเข้าวัด สวดนต์ นั่งสมาธิ พ่อและแม่ ได้พา ไปทำบุญ และ รับฟังธรรม กับองค์หลวงปู่หลุย จันทสาโร เป็นประจำ จนกระทั่ง หลวงปู่หลุย จันทสาโร ท่านเล็งเห็นความตั้งใจ ในการสวดมนต์ ภาวนา นั่งสมาธิ จึงได้ดำริ ให้ ออกบวช ซึ่ง ลป.สำลี ท่านก็คิดไว้แล้ว ด้วยศรัทธาต่อองค์หลงปู่หลุบ และชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงได้ออกบวช

หลวงปู่หลุย จันทสาโร ได้พาไปบวชที่อุโบสถ วัดเลยหลง โดยมี พระราชคุณาธาร(ธ) (หลวงปู่ศรีจันทร์ วรรณาโภ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูไบฏีกาไพฑูลย์ เป็นพระกรรมวาจา

ลป.สำลี อุปสมบท เมื่ออายุ 35 ปี ได้รับฉายา "สุทธจิตโต" เมื่อวันที่ 6 เดือนเมษายน พ.ศ.2513 เวลา 11.00 น.


หลังจากอุปสมบทแล้ว ลป.สำลี สุทธจิตโต ก็ได้มาอุปัฏฐาก หลวงปู่หลุย จันทสาโร ที่วัดถ้ำผาบึ้ง ต.ทรายขาว อ.วังสะพุง จ.เลย กระทั่งถึงปี พ.ศ.2515 องค์หลวงปู่หลุย จันทสาโร จึงดำริให้ หลวงปู่สำลี สุทธจิตโต มาเป็นเจ้าอาวาสวัดถ้ำคูหาวารี ต.โคกขมิ้น อ.วังสะพุง จ.เลย เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ.2515 ถึงปัจจุบัน

วัดถ้ำคูหาวารี เป็นถ้ำที่พระมหาเถระฝ่ายธรรมยุต หลายๆองค์ อาทิ หลวงปู่หลุย จันทสาโร , หลวงปู่ชอบ านสโม , หลวงปู่คำดี ปภาโส ได้มาบำเพ็ญเพียรภาวนา ณ ถ้ำคูหาวารีแห่งนี้ เพราะเป็นที่เงียบสงบ เหมาะแก่การ ปฏิบัติบำเพ็ญเพียรภาวนา เป็นอย่างยิ่ง

และในวาระแห่งการสร้างบารมีตอบบุญแทนคุณพ่อแม่ครูอาจารย์ หลวงปู่สำลี สุทธจิตโต จึงมีดำริ จัดสร้างเจดีย์จันทสาโรนุสรณ์ ที่วัดถ้ำคูหาวารี เพื่อน้อมรำลึกถึงพ่อแม่ครูอาจารย์ องค์หลวงปู่หลุย จันทสาโร พระอริยะสงฆ์แห่งวัดถ้ำผาบึ้ง อ.วังสะพุง จ.เลย นั่นเอง


ราคา 550 บาท ท่าน j999

 

266. ล็อกเก็ตเม็ดเเตงรุ่นเเรก หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดภูผาเเดง จ.อุดรธานี ปี 2560 ฉากทอง หลังเม็ดเงินรูปช้าง + ฉากซีเปีย หลังเม็ดทองเหลือง ด้านหลังอุดมวลสาร รุ่นนี้ฉากทองสร้างจำนวน 300 องค์ หลวงปู่เมตตาอธิฐานจิตพิเศษ เก็บได้เลยครับ ตอนนี้หลวงปู่ลีท่านไม่อธิฐานจิตวัตถุมงคลเเล้วนะครับ

ราคา 550 บาท ท่าน supachaipnu

 

ขอจองครับ

 

ขอจองครับ

 

267. เหรียญอาบน้ำมนต์พระจันทร์ พระอาจารย์บุญอุ้ม วัดป่าโนนแพง อาภัสสโร วัดป่าโนนแพง จ.นครพนม ปี 2552 ทองแดง เหรียญประสบการณ์ สวยๆครับ พิเศษมีจารด้านหลังเหรียญ



รายละเอียด
พระอาจารย์บุญอุ้ม อาภสฺสโร เจ้าอาวาสวัดป่าโนนแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม เป็นพระป่าที่สืบสายธรรมจากหลวงปู่มหาเหรียญ ปภาคโร แห่งวัดบ้านหันห้วยทราย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา ปัจจุบันพระอาจารย์บุญอุ้ม สิริอายุ 57 ปี พรรษา 26


ในปี พ.ศ.2552 วัดป่าโนนแพง ได้จัดสร้างวัตถุมงคล ไว้เป็นที่ระลึกในพิธีอาบน้ำมนต์พระจันทร์เหรียญรุ่นนี้ พระอาจารย์บุญอุ้ม ประกอบพิธีปลุกเสกในคืนวันเพ็ญเดือน 12 วันลอยกระทง ตรงกับ 2 พฤศจิกายน 2552 เป็นวันจันทร์ซ้อนจันทร์ ถือเป็นฤกษ์ดีในรอบ 10 ปีจะมีแค่ 1 ครั้ง ในช่วงระหว่างอธิษฐานจิต ต้องรอเวลาให้แสงจันทร์สาดส่องลงมาในบาตร จึงจะได้ฤกษ์ ประกอบพิธีปลุกเสก เป็นเหรียญที่มีพุทธคุณเปี่ยมล้น ด้านเมตตามหานิยม ทำมาค้าขายขึ้น ประกอบกิจการค้าขายคล่อง ไว้แจกจ่ายญาติโยมที่มาทำบุญในวัด เป็นเหรียญพระอาจารย์บุญอุ้ม รุ่น 1 หรือที่บรรดานักสะสมวัตถุมงคล เรียกชื่อว่า “รุ่นอาบน้ำมนต์พระจันทร์” เหรียญรุ่นนี้ ประกอบด้วยเนื้อเงิน 759 เหรียญ ตามจำนวนสั่งจอง เนื้อดีบุก 500 เหรียญ เนื้อทองแดง 9999 เหรียญ เฉพาะเนื้อทองแดง มีหูห่วง และเหรียญที่อยู่ในรูปนี้คือเนื้อทองแดง สภาพยังสวย เลี่ยมกันน้ำ พร้อมใช้ ครับ


มี 2 เหรียญ ราคาเหรียญละ 450 บาท ท่าน j999 ทั้งสองเหรียญ

1.



2.

 

รับทราบครับผม ขอบพระคุณครับ