ลางบอกเหตุ?

อนุมาน [ V ] deduce</B>
[ Sample] เราอาจจะอนุมานอารมณ์ของคนได้จากพฤติกรรมที่คนแสดงออกมา [ Def ] คาดคะเนตามหลักเหตุผล

<TABLE cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD> อนุมาน คาดคะเน , ความคาดหมาย </B>
</TD></TR></TR></TBODY></TABLE>


<TABLE cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD> อนุมาน </B>
ก. คาดคะเนตามหลักเหตุผล. (ป., ส.).
</TD></TR></TR></TBODY></TABLE>


<TABLE cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD> อนุมาน </B>
ก. คาดคะเนตามหลักเหตุผล. (ป., ส.).
</TD></TR></TBODY></TABLE>​

สรุปได้ว่าอนุมานก็แค่การคาดคะเนครับ แล้วการคาดคะเนก็ไม่ได้พิสูจน์จากหลักความจริงที่คุณบอกซักหน่อย ไหนบอกว่าสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้จะไม่เป็นจริงและโบราณไง พิสูจน์จากการอนุมาน ผมก็พูดได้ครับว่าองค์นู้นองค์นี้มีจากการอนุมาน ก็คนอื่นเค้าเห็นถึงได้สร้างมาเป็นรูปปั้นได้ไง อนุมานเหมือนกัน
ถ้าไม่มีคนเชื่อและนับถือมันจะสร้างกันมาได้ไง และมีคนนับถือมามากกว่าสองพันห้าร้อยห้าสิบหนึ่งปีด้วยนะ
ผมไม่มีความรู้หางอึ่งหรอกครับ ผมไม่ได้ฉลาด เป็นคนธรรมดาและไม่สามารถรักษาศีล 5 ได้ครบถ้วนบริบูรณ์ แต่ก็พยายามทำดีครับ
เลิกเถียงกันแล้วนะครับเถียงไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร เถียงกันมานานไปแล้วจะผิดใจกันเปล่า ๆ
ผมยอมรับว่าผมเป็นฝ่ายเริ่มพูดจายั่วยุก่อกวนคุณก่อนเพราะอยากรู้ว่าคุณจะตอบผมหรือเปล่าเท่านั้นแหละ อันที่จริงที่คุณตอบมันก็ถูกต้องแล้วเพราะกระทู้นี้ถามว่าจะเป็นอะไรหรือเปล่าคุณก็ว่าไม่มีอะไร แค่นั้นแหละ
สุดท้ายก็คือถ้าผมพูดอะไรที่จะทำให้คุณรู้สึกไม่ดี หรือพูดอะไรรุนแรงก็ขออโหสิกรรมไว้ ณ ที่นี้ครับผม ^^
ผมพยายามส่งข้อความแบบนี้ไปก่อนหน้านี้แล้ว ประมาณสามข้อความก่อนแต่ข้อความของผมมันไม่ยอมส่ง ผมก็เลยเปลี่ยนข้อความแล้วตอบกลับไป(แปลกดีเพราะพอแก้แล้วส่งมันดันส่งไป) อิ อิ

 

ลืมบอกไปว่าที่เลิกนี่ไม่ได้แปลว่าผมเห็นด้วยกับคุณขันธ์นะครับ แต่ผมรู้ว่าต่างคนต่างความคิด และต่างวาระกันครับ ถ้าไม่มีคนแบบคุณ และไม่มีคนแบบผม ก็ไม่มีคนมาเถียงกัน ชีวิตอาจจะไม่สนุกก็ได้นะครับ อิ อิ

 

ผม อโหสิให้หมดแหละ ไม่ได้ถือ

ไม่ได้โกรธ ที่พูดนี่อยากให้ พบทางที่สว่าง ซึ่งผมพบแล้ว ก็กระจ่างไปทุกทิศ

ถ้าอยากจะรู้ว่ากระจ่างอย่างไร ผมท้าให้คุณ ถามทุกคำถามที่ เกี่ยวกับ ชีวิต แต่อย่าหวังว่าจะตอบตรงใจ เมื่อตอบไม่ตรงใจ แล้วให้พิจารณาให้มาก เพราะว่า หากคนเรามีกิเลสในใจ การตอบตรงใจ คือ ตามกิเลสมันไม่ใช่ตามธรรม

ถ้าตามธรรมแล้ว ต้องฝืน ต้องทวน ธรรมชาติที่เราเป็นอยู่ แล้วถ้าอยากพบที่พึง เป็นหลักใจที่แท้จริง
เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว ได้เจอพระพุทธศาสนา อย่ามัวแต่ ถือ แต่ให้ศึกษา ให้เจอว่าแท้จริงแล้ว พระพุทธองค์พูดอะไร ถ้าไม่เข้าใจก็ถาม นั้นแหละ จะพบว่า ความจริงคืออะไร

ในศาสนาพุทธ มีพยานเป็นมนุษย์ ที่ประจักษ์ แล้ว สี่จำพวก คือ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และ พระอรหันต์ เป็นมนุษย์เดินดิน แต่พบทางอันเป็นที่สุด และ ระหว่างทางนั้น มี คนคอยเป็นพยานในหนทางเดิน ถึง สามจำพวกก่อนหน้า นี่พระพุทธองค์ เป็นบรมศาสดาเอก ไม่มีบิดเบือนแม้แต่นิด เปิดออกทุกอย่าง เปิดเผยความจริง หมดไส้หมดพุง

ผมคอยเป็นพยานให้ พระพุทธองค์ ดังนั้นแล้ว ก็จะเปิดออกทุกอย่างทุกประตู ไม่มีบิดเบือน ไม่มีปิดบังหรือล่อหลอก เพื่อ ลาภ ยศ สรรเสริญ แม้แต่นิด ไม่มีผลประโยชน์เข้ามาร่วมแม้แต่นิด
ทุกอย่างเป็นไป เพื่อ ประโยชน์ ของ เพื่อน

ก็ให้รีบมาศึกษาเสียก่อน จะได้ไม่เนิ่นช้า

 

ขอบพระคุณอย่างมากครับ

ที่ผ่านมาก็ทราบครับว่าคุณขันธ์พยายามจะบอกอะไร และผมก็คิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่มาจากใจของคุณจริง ๆ ครับ เพียงแต่ว่าผมเป็นพวกที่ชอบแกล้งกวน ทำเป็นไม่รู้น่ะแหละ ^^

ส่วนเรื่ององค์เทพกับผมนั้น เมื่อผมก้าวข้ามมา ณ จุดนี้แล้วผมไม่สามารถกลับไปได้หรอกครับ ของที่เห็นก็คือเห็น รู้สึกก็คือรู้สึก เป็นสิ่งที่เกิดกับผมจริง ๆ จึงไม่สามารถเลิกหรือห้ามได้

แต่สุดท้ายแล้วผมก็ยังรับและปฏิบัติในสิ่งที่ดีและทำตามคำแนะนำที่ดีครับ ผมอาจจะทำแบบที่คุณบอกมาไม่ได้ทั้งหมด แต่ผมก็ขอขอบคุณมาก ๆ อีกครั้งครับ ในความหวังดีของคุณ ถ้าผมจะหลุดพ้นจากวัฏฏสงสารได้ในชาตินี้จริง วันหนึ่งผมก็จะพบทางนั้นได้ด้วยตนเอง (ซึ่งอาจจะมาจากคำแนะนำของคุณก็เป็นได้) ^^