เสียงธรรม วนเวียนในการเกิด / หลวงพ่อสุธรรม สุธัมโม

ในห้อง 'ธรรมเทศนาทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 9 พฤศจิกายน 2021.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,275
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    หลวงพ่อสุธรรม สุธัมโม เทศนาธรรมเนื่องในงาน ถวายเพลิงสรีระสังขาร หลวงปู่สังข์ วัดป่าอาจารย์ตื้อ ชม

    ชาย ต้อม
    Dec 28, 2022
    24 ธันวาคม 2565 17.00น. พระราชวชิรธรรมาจารย์ วิ.(หลวงพ่อสุธรรม สุธัมโม) เจ้าอาวาสวัดเกษรศีลคุณ(วัดป่าบ้านตาด) จ.อุดรธานี เทศนาธรรมเนื่องในงาน พิธีพระราชทานเพลิงสรีรสังขาร พระครูภาวนาภิรัต วิ. (หลวงปู่สังข์ สังกิจโจ) ณ เมรุชั่วคราว วัดป่าอาจารย์ตื้อ ตำบลสันมหาพน อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
     
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,275
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    lpsungsungkitjo.jpg
    ประวัติโดยสังเขป หลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ เมื่อครั้งบวชเป็นสามเณร ได้มีโอกาสเข้ากราบฟังธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดป่าบ้านหนองผือ แต่ในขณะนั้นท่านยังไม่ค่อยเข้าใจในธรรมคำสอนนัก ภายหลังเมื่อบวชเป็นพระภิกษุได้ศึกษาปริยัติธรรมพอสมควรแล้วก็ออกติดตามธุดงค์ไปกับหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ผู้เป็นทั้งอาจารย์และหลวงลุง คือหลวงปู่สังข์ ท่านมีศักดิ์เป็นหลานของหลวงปู่ตื้อ กล่าวได้ว่า หลวงปู่สังข์นี้ ท่านเป็นพระภิกษุสงฆ์ผู้เป็นญาติทั้งทางสายโลหิต และเป็นพระภิกษุผู้เป็นญาติทางสายธารธรรมขององค์หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ที่ได้รับการเคี่ยวเข็ญอบรมอย่างเอาจริงเอาจัง อย่างที่เราเคยได้รับทราบสมญานามขององค์หลวงปู่ตื้อ แล้วว่า ท่านเป็น “พระอริยเจ้าผู้มีปฏิปทาประดุจดังเสือโคร่ง” คือ ท่านเป็นครูอาจารย์ที่เด็ดเดี่ยว อาจหาญ กล้าไปในที่มีภยันตรายโดยไม่หวาดหวั่นต่อมรณภัย พูดตรง ๆ สอนตรง ๆ พูดจาขวานผ่าซาก สั่งสอนตักเตือนอะไร ลูกศิษย์ต้องรีบปฏิบัติตาม เช่นการให้อดนอนผ่อนอาหาร ภาวนาทั้งวันทั้งคืน เป็นต้น ท่านทรมานศิษย์เหมือนกับช่างตีเหล็ก ทั้งทุบทั้งตีเหล็ก ขณะที่ยังร้อน ไม่ระย่อท้อถอย เพื่อให้เหล็กนั้นได้รูปทรงอย่างที่องค์ท่านต้องการ ในบรรดาลูกศิษย์ขององค์หลวงปู่ตื้อ จึงเป็นพระสุปฏิปันโน ที่สมควรแก่การกราบไหว้ และบางรูปก็มีอภิญญาเหมือนอย่างองค์ท่าน เช่น หลวงปู่ประยุทธ ธัมมยุตโต แห่งวัดผาลาด อ.เมือง จ.กาญจนบุรี , หลวงปู่ไท ฐานุตฺตโม แห่งวัดเขาพุนก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี , หลวงปู่หนูบาล จันทปัญโญ แห่งวัดป่าสันติธรรม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม , หลวงปู่รินทร (หลวงปู่ลิ้นทอง) กิตฺติสัทโท แห่งวัดพุทธิการราม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และ หลวงพ่อผจญ อสโม แห่งวัดสิริปุญญาราม อ.วังสะพุง จ.เลย ครูบาอาจารย์สายธารแห่งธรรมขององค์หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ทุกๆ ท่านที่กล่าวมาล้วนมรณภาพลงหมดแล้ว คงเหลือหลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ เท่านั้น
    นามเดิมของท่านชื่อ สังข์ นามสกุล คะลีล้วน ท่านถือกำเนิดตรงกับวันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ.๒๔๗๓ บ้านเกิดของท่านอยู่ที่บ้านข่า อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม บิดามารดา นายเฮ้า และ นางลับ คะลีล้วน พี่น้อง ท่านมีพี่ชายติดโยมบิดา ๑ คน มีพี่ชายติดโยมมารดา ๑ คน มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกันจำนวน ๔ คน ท่านเป็นลูกชายคนที่ ๑ เมื่อท่านเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ซึ่งถือว่าสูงสุดในสมัยนั้น
    เมื่ออายุได้ ๑๘ ปี บรรพชา ณ พัทธสีมา วัดศรีเทพประดิษฐาราม โดยมีพระสารภาณมุนี (จันทร์ เขมิโย) เป็นพระอุปัชฌาย์ (ต่อมาได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระเทพสิทธาจารย์) เมื่อบรรพชาเสร็จก็กลับมาจำพรรษาที่วัดอรัญญวิเวกบ้านข่า ซึ่งเป็นบ้านเกิด เมื่อครั้งเป็นสามเณรหลวงปู่มัน ภูริทัตโต ได้มาพำนักที่วัดป่าบ้านหนองผือนาใน ท่านก็ได้มีโอกาส ได้ไปรับฟังพระธรรมเทศนาจากหลวงปู่มั่นโดยตรง แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจเพราะยังเป็นเด็กอยู่ ท่านเป็นสามเณรอยู่สามปีสามนักธรรมชั้นตรี โท ได้จากสนามสอบวัดศรีชมชื้อ ซึ่งเป็นวัดบ้านเพราะยุคนั้นสนามสอบของคณะธรรมยุตยังไม่มี ท่านได้ออกติดตามหาหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติทางยายคือปู่ของหลวงปู่ตื้อเป็นพี่ชายของคุณยายของท่าน ได้ยินแต่กิตติศัพท์ของหลวงปู่ตื้อมานาน แต่ไม่เคยเห็นตัวจริงมาก่อน เลยจึงอยากจะออกติดตามหาหลวงปู่ตื้อ มีพระและญาติโยมขึ้นมาเชียงใหม่เป็นครั้งแรก โดยมีพี่ชายของหลวงปู่ตื้อ มีพระและญาติโยมตามมาด้วยซึ่งเมื่อถึงจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ก็เขาพักที่จังหวัดเชียงใหม่ก่อน ได้ยินว่าหลวงปู่ตื้อจำพรรษาอยู่ที้วัดป่าดาราภิรมย์จึงตามไปพบท่านที่วัดป่าดาราภิรมย์ เมื่อได้พบหลวงปู่ตื้อแล้วก็พักอยู่ที่วัดป่าดาราภิรมย์ ระยะหนึ่งจึงเดินทางกลับบ้านเกิด
    อุปสมบท พ.ศ.๒๔๙๓ อายุ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ณ พัทธสี วัดป่าบ้านสามผง อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม โดยมีพระอาจารย์เกิ่ง อธิมุตฺตโก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระทัด เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์บุญส่ง โสปโก เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อท่านอุปสมบทแล้ว ก็อยู่จำพรรษาที่วัดป่าบ้านสามผงกับพระอุปัชฌาย์เป้นเวลา ๕ ปี ท่านสอบนักธรรมชั้นเอกได้ที่วัดป่าบ้านสามผงแห่งนี้ แล้วทำหน้าที่เป็นครูสอนนักธรรมช่วยพระอุปัชฌาย์ จากนั้นปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ท่านจึงออกเดินทางขึ้นเหนือเพื่อมาอยู่กับหลวงปู่ตื้อ อจลธมโม ที่วัดป่าดาราภิรมย์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ท่านได้พบกับพระอาจารย์กาวงค์ โอทาตวณฺโณ ซึ่งเป็นหลานของหลวงปู่ตื้อเช่นกัน และต่อมาได้รับสมณศักดิ์เป็ฯพระครูสังฆรักษ์กาวงค์ และเป็นเจ้าอาวาสต่อจากหลวงปู่ตื้อ ที่นี่ท่านได้เรียนบาลีไวยากรณ์กับพระมหามณีพยอมยงย์ จนจบชั้นหนึ่ง สอบได้แล้วจึงหยุดเรียน เพราะจิตใจใฝ่ในทางธุดงค์มากกว่า ท่านจึงได้ออกวิเวกแถบจังหวัดเชียงราย โดยมีพระอาจารย์ไท ฐานุตตโม เป็นสหธรรมิก เที่ยววิเวกไปด้วยกัน ได้พบพระอาจารย์มหาทองอินทร์กุสลจิตฺโต ที่วัดถ้ำผาจรุย อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม สร้างวัดป่าสามัคคีธรรมซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดป่าอาจารย์ตื้อ อำเภอแม่แตงจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๙ ท่านได้กลับจากเที่ยววิเวกมาจำพรรษากลับหลวงปู่ตื้อที่วัดป่าอาจารย์ตื้อ ได้พัฒนาและบูรณะวัดนี้มาตลอดในปี พ.ศ. ๒๕๒๓ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดป่าอาจารย์ตื้ออย่างเป็นทางการ ท่านได้สร้างอุโบสถหนึ่งหลัง ในปี พ.ศ.๒๕๓๘ ได้รับพระราชสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่พระครูภาวนาภิรัต ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้มา เป็นเวลากว่า ๕๖ ปีแล้ว

    หลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ ละสังขารด้วยอาการสงบ เมื่อเวลา ๑๕.๐๐ น. ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕ สิริอายุ ๙๑ ปี ๑๐ เดือน ๑๗ วัน ๗๒ พรรษา.
    ชาย ต้อม

     

แชร์หน้านี้

Loading...