วัตถุมงคลพระพิราพ พ่อแก่ ฤๅษี พระอาจารย์ศิริพงศ์ ต้นตำหรับวัตถุมงคลพระพิราพ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ariyachot, 7 เมษายน 2008.

  1. ทิพยจักร

    ทิพยจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +10,078
    บทไหว้ครูพระพิราพ
    ประพันธ์โดย ชำนาญ เกิดพิบูลย์

    ข้าไหว้พระบาทบูชา เดชะอสุรา
    องค์พระพิราพฤทธิ์รอน

    ล้ำโลกเลิศคุณสุนทร นามพระขจร
    มหิทธิฤทธิ์พิสดาร

    เรืองเดชเรืองเวทย์เรืองการ แต่ครั้งโบราณ
    เป็นที่เคารพยำเกรง

    ไหว้ครูรู้กันบรรเลง ปรากฏจดเพลง
    องค์พระพิราพเต็มองค์

    หน้าพาทย์ชั้นสูงสุดทรง ศักดิ์สิทธิ์ฤทธิ์รณ
    เสนาะสั่นลือนาม

    ทางเพลงโอ่อ่าสง่างาม มีพลังดังความ
    ท่ารำยอดในแผ่นดิน

    นาฏดุยางคศิลปิน ถ้วนทุกชีวิน
    ล้วนแต่เคารพนบองค์

    กายใจไหว้ครูอยู่ยง อสุรพงษ์
    องค์พระพิราพลือชา

    ขอพระประสิทธิวิทยา รำร่ายนานา
    อีกทั้งบรรเลงเพลงการ

    ไม่ติดผิดแผกแตกฉาน เรียนร่ำชำนาญ
    ไม่ลืมไม่หลงคงไป

    ขอพระขจัดปัดภัย เสนียดจัญไร
    ไม่มากล้ำกรายหายสูญ

    พ้นทุกข์สุขล้ำ จำรูญ
    ลาภยศเพิ่มพูน ตราบนิจนิรันดรเทอญ
     
  2. ariyachot

    ariyachot เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,334
    ค่าพลัง:
    +4,422
    ขออนูโมทนากับคุณทิพยจักรด้วยครับ ที่นำข้อมูลเกี่ยวกับองค์พระพิราพมาเผยแพร่ครับ
     
  3. ทิพยจักร

    ทิพยจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +10,078
    วัตถุมงคลพระพิราพ
    วัตถุมงคลพระพิราพที่จัดสร้างโดยพระอาจารย์ศิริงพศ์ ครุพันธ์กิจ ในปี ๒๕๕๑ อันเป็นการจัดสร้างย้อนยุคปี ๒๕๒๙ นับเป็นการจัดสร้างที่สำคัญอีกครั้งหนึ่งและจัดสร้างขึ้นเพียง ๕๑๙ องค์เท่านั้น มวลสารสำคัญคือ มวลสารจากหัวโขนพระพิราพ ที่ได้จากของทายาทครูถึก รัตนเกตุ(หมื่นพจนาเสนาะ) ซึ่งเป็นหัวโขนพระพิราพที่เก่าแก่ที่สุด อายุการสร้างราวรัชกาลที่ ๒ หัวโขนของพราหมณ์เส้ง สะพานเหลือง (ท่านสิริธรรมาจารย์) และหัวโขนพระพิราพของครูอาคมสายาคม

    ถือว่าเป็นการสร้างวัตถุมงคลพระพิราพที่รวมรวบมวลสารจากหัวโขนพระพิราพหน้าสำคัญถึงสามหน้าแต่ละหน้านั้นผ่านการทำพิธีไหว้ครูมานับครั้งไม่ถ้วน และมวลสารทั้งหมดนี้พระอาจารย์ท่านได้ทำการขอจากเจ้าของอย่างถูกต้อง เนื่องจากท่านเป็นผู้ทำการซ่อมแซมหัวโขนทั้งสามด้วยตัวท่านเอง

    นอกจากนี้วัตถุมงคลพระพิราพทั้ง ๕๑๙ องค์ยังได้ทำพิธีเบิกเนตรเบิกทวาร เชิญอาการ ๓๒ ดุจดั่งหัวโขนจริง

    และขอย้ำให้ชัดๆอีกครั้งว่าผู้ที่ได้ไปอย่าได้นำไปปิดทองหรือเพ้นท์สีใดๆทั้งสิ้น เพราะจะเกิดอัปมงคลแก่ตนเอง เหมือนกับว่าเราเอาผ้าเราเอาสีไปปิดตาหูจมูกท่านซะ จะเป็นการไปปิดโชคลาภที่จะเข้ามาหาเราด้วย

    วัตถุมงคลพระพิราพชุดนี้ถือว่าเป็นการสร้างจากสายนาฏศิลป์แท้ๆ และมวลสารก็มาจากหัวโขนดั่งเดิมที่ไม่มีใครได้ไว้ จึงเป็นที่เชื่อมั่นที่ศรัทธาของศิษย์คณะพระภรตมุนีและผู้นับถือที่รู้จักท่านพระอาจารย์ศิริพงศ์โดยทั่วไปว่า วัตถุมงคลพระพิราพชุดนี้ถือเป็นวัตถุมงคลที่เป็นขวัญกำลังใจ เป็นมิ่งมงคลแก่ผู้ครอบครองไว้ และจะนำพาสิ่งที่ดีที่เย็นเป็นมงคลในโลกียะสถานมาสู่ผู้บูชาอย่างแน่นอน
     
  4. ariyachot

    ariyachot เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,334
    ค่าพลัง:
    +4,422
    เรื่องการนำวัตถุมงคลองค์พระไปปิดทอง เขียนสี แล้วจะนำกลับมาให้พ่อครูเปิดเนตรใหม่
    ได้กราบเรียนถามพ่อครูแล้ว ได้คำตอบดังนี้

    ๑. เป็นการทำผิดข้อห้าม
    ๒. เตรียมรับผลจากความผิดนั้น
    ๓. ถ้าจะทำต้องตั้งเครื่องสังเวย ดิบ สุก ขอขมาและทำพิธี เฉลิมเนตรใหม่
    ๔. ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง
    ๕. ผู้ที่กระทำเยี่ยงนี้ไม่ใช่คณะศิษย์แน่นอนเพราะ ถ้าเป็นศิษย์จะเชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อครู


    ขณะที่กำลังพิมพ์ข้อความนี้ผมนั่งอยู่ที่เรือนพ่อครูครับ
     
  5. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
    ฝากกราบพ่อครูตอนนี้ด้วยนะครับอนุโมทนาเเละชื่นใจเเทนพ่อครูที่ท่านโชคดีมีศิษย์ดีไม่ลืมครู
     
  6. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
  7. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
  8. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
  9. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
    พระพิราพเต็มองค์ที่ผ่านการสร้างโดยพระศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจเเบบเต็มสูตรการสร้างมีการเบิกพระเนตรเเละเฉลิมพระนามถูกต้องตามตำราการสร้างตำรับสร้างหน้าครูหน้าโขนที่ท่านพระศิริพงศ์สืบทอดการสร้างหัวโขนจากครูชิต เเก้วดวงใหญ่ เเละคำเเนะนำของคุณตาบทิพย์ เเก้วดวงใหญ่ เเละ ท่านอาจารย์ยังเป็นศิษย์ที่ใกล้ชิดพ่ออาคม สายาคม ปรมาจารย์นาฏกรเเห่งรัตนโกสินทร์
    <!-- / message --><!-- attachments -->
     
  10. ariyachot

    ariyachot เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,334
    ค่าพลัง:
    +4,422
    นำบทความจากท่านสมาชิกในเว็บมนต์นัทธ์โพสต์มาให้อ่านกันครับ

    ท่องเวป แวะผ่านไปเจอกับ เวบนี้เข้า เห็นว่าน่าสนใจดีเลยนำมาฝากครับ

    http://www.aromamodaka.com/oldletter3.HTM

    จาก คุณ tee w (๒๔ ต.ค.๕๐)

    สวัสดีครับอาจารย์ครับ
    ขอรบกวนถามอาจารย์เกี่ยวกับพระพิราพครับอยากทราบประวัติของพระพิราพ
    ไม่ทราบว่าครูพิราพ ของไทย กับพระพิราพของแขก
    นี่เป็นองค์เดียวกันหรือไม่ครับแล้วท่านเป็นครูทาง
    ด้านนาฎศิลป์ด้วยหรือครับ แล้วทำไมถึงได้มีคนบอกว่า
    พระพิราพสร้างยาก เสกยาก ใน อดีตที่ผ่านมาแทบจะ
    ไม่มีผู้ใดสร้างได้สำเร็จเลยจริงมั้ยครับ


    ขอให้อาจารย์มีความสุขมากๆ นะครับ

    อ.กิตติ : เรื่องขององค์พระพิราพ ซึ่งเป็นครูนาฏศิลป์ไทยองค์หนึ่ง พูดกันมานานแต่ไม่ค่อยจะลงรอยกัน
    ข้อมูลที่ผมมีก็เป็นอีกแบบหนึ่ง คุณอ่านแล้วอย่าเพิ่งรีบเชื่อ ควรจะศึกษาจากแหล่งอื่นๆ อีก
    โดยเฉพาะจากผู้เชี่ยวชาญทางนาฏศิลป์ของกรมศิลปากร ส่วนแหล่งที่คุณอ้างถึงว่าเขาบอกอย่างนั้นอย่างนี้
    คุณจะเชื่อก็แล้วแต่ใจ แต่ผมไม่เคยเชื่อถือสิ่งที่เขาพูด

    พระพิราพที่เป็นครูนาฏศิลป์ไทย คือพระพิราพป่า เกิดจากไมยราพณ์กับนางจุลอคีนาคราช
    เมื่อเติบใหญ่ขึ้นมาได้สร้างอุทยานปลูกไม้ดอกไม้ผลไว้แห่งหนึ่งให้รากษสเฝ้า
    อยู่มาวันหนึ่งพระราม พระลักษมณ์ พระนางสีดาหลงเข้าไปในอุทยานนั้น
    พวกรากษสเข้าโจมตีก็ถูกพระลักษมณ์ฆ่าตายหมด พระพิราพป่ากลับมาเห็นเข้าก็โกรธ
    เข้าต่อสู้กับพระรามก็ถูกพระรามสังหาร แล้วพระราม พระลักษมณ์ พระนางสีดาก็เสด็จต่อไป

    บทบาทของพระพิราพป่าในรามเกียรติ์มีอยู่แค่นี้ และไม่มีในรามายณะที่แต่งโดยมหาฤาษีวาลมีกิ
    แต่มีใน รามาวดารัม (Ramavadaram) ซึ่งเป็นรามายณะฉบับอินเดียใต้ และเป็นต้นฉบับเรื่องรามเกียรติ์ของเรา

    ถ้าบทของท่านในรามเกียรติ์มีแค่นี้ ก็ไม่มีเหตุที่ชาวโขนละครต้องกราบไหว้ท่านเป็นครู
    แต่ที่เขานับถือว่าท่านเป็นครูเพราะคนอินเดียใต้ก็ทำอย่างนั้นมาก่อน
    และคนอินเดียใต้ก็ไม่ได้บูชาท่านเพราะความเกี่ยวข้องระหว่างท่านกับรามาวดารัม
    แต่เพราะท่านเป็นภาคหนึ่งของพระศิวะ
    ที่เรียกกันว่า พระไภรวะ หรือ ไภรพ (Bhairava) และ อสูรวีรภัทร (Virabhadra)

    ทั้งพระไภรวะ และอสูรวีรภัทรเป็นเทพอสูรที่ได้รับการนับถือมากในอินเดียใต้
    เมื่อศาสนาฮินดูไศวนิกายแพร่ไปถึงอินเดียใต้ จึงได้มีการแต่งเทพนิยายรวมเอาอสูรทั้งสองตนนี้
    เข้าเป็นภาคหนึ่งของพระศิวะ โดยพระไภรวะกลายเป็นปางดุของพระศิวะซึ่งตัดเศียรที่ห้าของพระพรหม
    และเพราะผลกรรมนั้นทำให้ต้องตระเวนไปทั่วโลก
    เพื่อขอทานโดยใช้เศียรที่ห้าของพระพรหมนั่นแหละเป็นบาตร
    จนถึงเมืองพาราณสี (กาศี) บาตรนั้นจึงหายไป
    และพระไภรวะกลายเป็นเทพารักษ์ประจำป่าช้าของกรุงพาราณสี
    ผู้ใดนำเนื้อดิบและเหล้าไปเซ่นสังเวย พระไภรวะจะกินบาปของผู้นั้น ผู้นั้นก็เป็นอันพ้นจากบาปที่ก่อขึ้น

    ส่วนอสูรวีรภัทร เกิดเมื่อพระทักษะจัดยัญญพิธีใหญ่โตแล้วไม่เชิญพระศิวะ
    เป็นเหตุให้พระสตี (ชายาของพระศิวะ,ธิดาของพระทักษะ,ชาติก่อนของพระอุมา) เสียพระทัย
    โดดเข้ากองไฟที่ใช้ในพิธีนั้นจนสิ้นพระชนม์ พระศิวะทรงพิโรธ
    บันดาลให้เกิดอสูรวีรภัทรเข้าทำลายพิธีของพระทักษะ และตัดเศียรพระทักษะขาดกระเด็น
    จนต้องมีการนำหัวแพะมาเปลี่ยนให้ในภายหลัง

    คนอินเดียใต้ หรือทมิฬ เรียกพระไภรวะและอสูรวีรภัทรว่า พิราปปา (Birappa)
    และยังคงพากันเซ่นสังเวยด้วยเนื้อดิบและเหล้าอยู่จนทุกวันนี้
    ในเมืองพาราณสี มีเทวาลัยประดิษฐานพระศิวะเป็นเทพเจ้าสูงสุดในรูปของศิวลึงค์
    เรียกว่า วิศวนาถ หรือ กาศีลิงคะ
    และมีรูปของพระไภรวะในลักษณะของเสาหินที่มียอดเป็นหน้าอสูรเฝ้าคอยพิทักษ์รักษา
    เรียกว่า กาศีลิงคะพิราปปา (Kasilinga Birappa) เราจะเห็นชาวพาราณสีนำเนื้อดิบและเหล้ามาเซ่นพระพิราปปาที่นี่เนืองๆ

    ดังนั้น พระพิราพของไทยก็คือพระพิราปปาของอินเดียใต้นั่นเอง
    และการบูชาพระพิราพในหมู่ชาวโขนละครไทย
    ก็คือการบูชาเทพอสูรที่ติดมากับศาสนาฮินดูไศวะนิกายที่เรารับมาจากอินเดียใต้
    พร้อมๆ กับรับมหากาพย์รามาวดารัมเข้ามาดัดแปลงเป็นเรื่องรามเกียรติ์
    เมื่อพระพิราปปาเป็นเทพอสูรที่ได้รับความนิยมบูชาในอินเดียใต้
    แล้วก็มีเรื่องของท่านอยู่ในรามาวดารัม ไทยเราดัดแปลงรามาวดารัมเป็นรามเกียรติ์แล้ว
    ยังมิได้ตัดเรื่องของท่านทิ้งไป แล้วก็เห็นอยู่ว่าเจ้าตำรับทางอินเดียใต้เขาบูชาท่านมาแต่เดิม
    เราก็เลยรับท่านมาบูชาต่อในฐานะครูโขนละครของเราองค์หนึ่ง
    ทั้งๆ ที่พระพิราปปาในอินเดียใต้ไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับนาฏศิลป์เลย
    ^
    ^
    ^ ส่วนแรกออกจะไม่ตรงกับที่ทราบอยู่สักหน่อยแต่เพื่อความสมบูรณ์จึงต้องคัดมาด้วย สำหรับข้อสันนิษฐานว่า
    พระพิราพ หรือ พระอิศวร มาเกี่ยวข้องกับนาฏศิลปไทยได้อย่างไร โดยละเอียดนั้น
    จะต้องอ่านจากหนังสือ พระพิราพของ พระอาจารย์ศิริพงศ์ พ่อครูของเราครับ



    มาต่อข้อความจากเวบนี้ต่อดีกว่าครับ จากส่วนนี้ไปน่าสนใจมาก


    แต่เมื่อเรารับท่านมาบูชาแล้ว เราก็พบว่าท่านเป็นครูที่ "แรง" เพราะท่านเป็นเทพอสูร
    เป็นปางที่ดุร้ายที่สุดของพระศิวะ อะไรๆ ที่เกี่ยวกับท่าน
    จึงกลายเป็นของสำคัญของสูงขึ้นมา อย่างท่ารำพระพิราพ
    กลายเป็นท่ารำชั้นสูงสุดในทางโขนละครซึ่งไม่ได้มีเอาไว้สำหรับการแสดงอีกต่อไป
    คนที่จะต่อท่ารำพระพิราพได้เป็นศิลปินที่ต้องได้รับการยอมรับ ทั้งในด้านวัยวุฒิ คุณวุฒิ
    คือต้องได้ท่ารำสูงสุดในสายวิชาของศิลปินผู้นั้นแล้ว บวชเรียนแล้ว
    จึงจะสามารถต่อท่ารำพระพิราพจากครูบาอาจารย์ได้
    หรือไม่ก็ต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสียก่อนจึงจะต่อได้

    เรื่องของพระพิราพ จึงไม่ใช่เรื่องที่จะมาทำกันเล่นๆ
    ที่มีคนบอกว่าสร้างยากเสกยากจึงเป็นเรื่องจริง
    เพราะเป็นสายวิชาที่สืบทอดกันอยู่เป็นการภายในเฉพาะวงการนาฏศิลป์ชั้นสูงเท่านั้นจึงจะทำได้
    ไม่ใช่เรื่องที่ใครที่ไหนจะไปกว้านหาตำรามาได้แล้วก็มีสิทธิ์ทำ
    คนที่จะมีสิทธิ์ทำรูปพระพิราพ ไม่ว่าจะเป็นเทวรูป หรือแม้แต่แค่เครื่องรางที่มีรูปหน้าพระพิราพ
    จะต้องได้รับสิทธิ์หรือได้รับการอนุญาตจากครูผู้สืบทอดวิชานี้ที่เป็นสายตรง หรือไม่
    คนที่ทำนั้นก็ต้องเป็นที่ได้ต่อท่ารำพระพิราพมาแล้ว
    ได้ร่ำเรียนวิชาอาคมต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องด้วยองค์พระพิราพมาแล้ว

    ถ้าเป็นใครก็ไม่รู้ ไม่ได้อยู่วงในของชาวนาฏศิลป์
    ได้มาแค่ตำรา เอามานั่งกางแล้วทำตาม ไม่ได้ครับ
    ของแบบนี้ลักทำขโมยทำตามอำเภอใจไม่ได้ ต้องได้รับอนุญาตเท่านั้น
    ถ้าลักทำขโมยทำตามอำเภอใจ อาถรรพณ์จะบังเกิดทั้งกับคนที่ทำและคนที่รับไปบูชา
    ซึ่งผมเห็นมาหลายรายแล้ว ขนาดวัดเป็นคนทำเองยังโดนเข้าไปเต็มๆ น่ะ


    เมื่อวิชาที่จะทำ และสิทธิ์หรือความชอบธรรมที่จะสร้างนั้นจำกัดเฉพาะวงใน
    จึงกลายเป็นของที่สร้างยากเสกยาก แต่ที่ว่าที่ผ่านมาแทบจะไม่เคยมีใครทำได้สำเร็จนั้น
    ไม่จริงครับ ผมก็เห็นหลวงพี่หนูที่วัดสุทธาราม ฝั่งธนฯ ท่านก็ทำอยู่
    และคนที่บูชาไปก็ได้รับผลสำเร็จเป็นอันดี หลวงพี่หนูท่านทำทั้งพระพิราพขนาดบูชาแบบลอยองค์
    และเศียรพระพิราพแบบพระผงห้อยคอ ที่เป็นพระพิมพ์รูปพระพิราพเต็มองค์ก็มี
    บรรดาวัดและสำนักต่างๆ ที่ทำพระพิราพแบบลักไก่ก็ก๊อปฯ งานท่านด้วยกันทั้งนั้น
    เพียงแต่ว่าก๊อปฯ ได้แต่งาน ก๊อปฯ วิชาไม่ได้ เพราะต้องไปต่อเอาจากครูโดยตรง

    แล้วถ้าจะถามว่าหลวงพี่ท่านทำได้อย่างไร ก็ต้องตอบว่าเพราะท่านได้รับสืบทอดวิชามาแล้ว
    และท่านเป็นผู้ประดิษฐ์หัวโขนที่สำคัญ คือศีรษะครูที่ใช้ในพิธีกรรมต่างๆ ให้กับกรมศิลปากรมาช้านาน
    ท่านได้สิทธิ์มานานแล้วละครับในการที่จะทำ เมื่อเร็วๆ นี้ท่านก็คิดสร้างศีรษะองค์จตุคามรามเทพขึ้นมาเป็นครั้งแรก
    ก็เป็นที่ตื่นเต้นกันพอสมควร

    นอกจากหลวงพี่หนูแล้ว ผมได้ยินมาว่า
    คณาจารย์บางท่านในวิทยาลัยนาฏศิลปที่ได้วิชานี้มาก็ทำแจกเป็นคราวๆ ในบางโอกาส
    แต่ถ้าจะเอาที่มีการเผยแพร่กันอยู่ในทางสาธารณะ
    และเป็นของที่สร้างอย่างถูกต้อง ก็ต้องของหลวงพี่หนู



    ... บทความส่วนท้าย ผมตัดออกครับ เพราะไม่เกี่ยวข้องสักเท่าไหร่นัก
     
  11. ทิพยจักร

    ทิพยจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +10,078
    ขออนุโมทนาด้วยครับ นับว่าเป็นการร่วมศึกษาเรื่องราวของพระพิราพซึ่งมีตำนานหลากหลายออกไปมาก

    ในรามเกียรติ์ของไทยเรานั้น พระพิราพป่า มีต้นกำเนิดจากเทพอสูรตนหนึ่งนามว่าวิราธ บ้างว่าเป็นคนธรรพ์ บ้างว่าเป็นเทพอสูร อยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิหา ลักลอบเป็นชู้กับนางฟ้า ท้าวเวสสุวณทราบเรื่องจึงสาปลงมาเกิดเป็นยักษ์วิราธ(พิราพ) โดยมากำเนิดเป็นบุตรของไมยราพณ์กับนางจุลอคนีนาคราช มีสวนขวัญ ภายในสวนขวัญมีไม้วิเศาเรียกว่าต้นพวาทอง ทุก ๗ วันยักษ์วิราธ(พิราพ)จะออกมาตรวจสวนทีหนึ่ง ภายหลังได้เข้าต่อสู้กับพระราม ถูกพระรามแผลงศร เมื่อใกล้สิ้นใจเห็นพระรามมีสวี่กรเป็นพระนารายณ์สิ้นใจไปแล้วกลับไปเป็นเทพบุตรวิราธบนสวรรค์ชั้นจาตุมหาริชาตามเดิม นี่เป็นตำนานนึงครับในรามเกียรติ์ โดยบางท่านสงเคราะห์เข้าไปว่ายักษืพิราพป่าเป็นพระอิศวรอวตารซึ่งนั้นเป็นการผนวกเรื่องในภายหลัง

    แต่ในตำนานของฮินดูเรื่องพระอิศวรภาคดุหรือยักษ์นั้น หลายที่ใช้ตำนานเรื่องพระอิศวร(ศิวะ) ประหารพระพรหมตัดเศียรที่ห้า ทำให้เศียรที่ห้าของพระพรหมติดมือสะบัดเท่าไหร่ก็ไม่ออกต้องเที่ยวจาริกไปเรื่อยเป็นนักบวชทิคัมพร คือเปลือยกายมีสุนิขติดตาม กลายเป็นพระไภรวะไปนี่ก็มี

    หรือพระภูเตศวร อันเป็นพระอิศวรที่ประจำอยู่ในป่าช้าก็ใช่ต้นตอแห่งตำนาน พระพิราพหรือพระไภรวะเช่นกัน

    ดูแล้วมีหลายตำนาน แต่สรุปได้ความว่าพระพิราพนี้คือภาคหนึ่งของพระอิศวรแน่นอน และพระพิราพที่เป็นครูทางโขนละครก็ไม่น่าใช่พระพิราพป่า แต่ด้วยเหตุว่ามีการสับสนมาแต่อดีต รูปลักษณะจึงใช้เป็นพระพิราพป่าไปโดยปริยาย แต่ความหมายลึกลงไปแท้จริงก็คือพระอิศวรนั้นเอง
    มีบทบูชาพระอิศวรบทหนึ่งที่ถือว่าเป็นคาถาบูชาด้วยมีความว่า

    ยักษะ สวะรูปะ ชฏาธะรายะ ปินากะ หัสตายะ สนาตะนายะ ทิวะยายะ เทวายะ ทิคัมพรายะ ตัสไม ยะการายะ นมะหะศิวายะ

    แปลว่าพระศิวะเจ้าผู้มีรูปเป็นยักษ์ ทรงเป็นเทพเจ้าที่มีมาแต่ดั่งเดิม ทรงชฏา ทรงธนูปินากะ ทรงใช้ทิศเป็นเครื่องนุ่งห่ม ข้าขอไหว้อักษร ย แห่งพระศิวะเจ้านั้น

    ซึ่งจับใจความได้ว่า รูปของพระศิวะที่เป็นอสูรนั้นมีมานานแล้ว แต่ครูบาอาจารย์ภายหลังอาจแต่งเรื่องราวไปเป็นต่างๆ จนเกิดรูปแบบเรื่องราวไปต่างๆนาๆ ก็อย่าได้ไปสับสนเลยครับ เพราะสรุปแก่นแท้ใจความแล้วพระพิราพก็คืออวตารภาคดุของพระศิวะที่มีรูปเป็นยักษ์นั่นเอง
     
  12. ทิพยจักร

    ทิพยจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +10,078
    เมื่อวานนี้ได้นำเครื่องสังเวยไปรับหัวโขนพระพิราพขนาด 1x 1.5 นิ้วมาเรียบร้อยแล้วครับ สวยงามมาก พระอาจารย์สร้างเพียง 95 องค์เท่านั้น เนื้อมวลสารเก่าจาอครูอาคม สายาคมและจากหัวโขนเก่าของครูถึก ซึ่งเป็นหัวโขนสมัยรัชกาลที่สอง หัวโขนของพราหมณ์เส้ง และหัวโขนของครูอาคมสายาคม หัวโขนของพราหมณ์เส้งและครูอาคมเป็นหัวโขนสมัยรัชกาลที่ ๔ ครับนับเป็นการสร้างพระพิราพย้อนยุคที่มีมวลสารดีที่สุด เพราะการสรางชุดนี้ได้มวลสารจากหัวโขนของครูถึกมานั่นเอง
     
  13. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
    พระศิริพงศ์.........อาจารย์หนูของใครๆ

    หากกล่าวถึงพระเครื่องความมีอาคมขลังแล้วอาจารย์หนูไม่เป็นสองรองใครในเรื่องเวทย์วิทยาคมหากเป็นเรื่องสร้างหน้าครูหน้าโขนท่านอาจารย์หนูมีชื่อมาช้านานหลายสิบปี

    คุณย่าบุญธรรมผมเองปรารถถึงท่านอาจารย์หนูว่า พระเหมือนย่าเหมือนทุกอย่างเวลาพระจะเป็นอะไรอยากอะไรเหมือนย่าทุกอย่างย่าเห็นพระตั้งแต่เล็กเพราะย่าอยู่ในวังหน้าเห็นพระช่วยแม่ตั้งแต่เล็กพระเป็นคนกตัญญู อาจารย์ของพระได้รับการเทิดทูนและให้เกียรติจากพระมาก

    อาจารย์หนูไม่ใช่คนมีอาคมขลังอะไรผมไม่สนใจหรอกแม้หากท่านเหาะเหินเดินอากาศผมก็ไม่ได้สนใจ ท่านเป็นมากกว่าพระที่นุ่งห่มเหลืองท่านเป็นพระที่มีจิตใจท่านเป็นพระที่มีความกตัญญูอย่างเด่นชัดคุณธรรมข้อนี้ยืนยันได้แม้บวชแล้วหากอาจารย์คนได้ที่ท่านเคยเรียนเคยสอนท่านมาท่านมักจะไปเยี่ยมซื้อข้าวของไปกราบคาระวะอาจารย์เสมอๆ

    แม้ท่านเองจะพูดจากตรงไปตรงมาไปบ้างบางท่านฟังว่าหยาบคายแต่นี่ท่านไม่ได้พูดเอาใจใครแบบโลกๆที่เขาเป็นกัน ท่านเป็นเสมือนกระจกเงาบานใหญ่ที่สะท้อนเงาของคนที่ไปกราบให้รู้ตัวรู้ตนก่อนเสมอๆ

    หากใครไปกราบท่านอาจารย์โปรดเข้าใจในตัวตนของอาจารย์ด้วยว่าท่านเป็นพระ พระที่ผมอาจกล่าวได้ว่าท่านเป็นทั้ง พ่อแม่ เป็นทั้งพี่ชายที่แสนดีและเพื่อนที่ช่วยคิด ท่านเป็นอะไรมากกว่าคำว่าห่มเหลืองหรือพระที่สูงจนเข้าไม่ได้ เพราะท่านเข้าถึงได้ง่าย ไม่มีเลขา ไม่มียศตำเเหน่งอะไร ท่านเป็นเพียง.......คนดีของสังคม คนกตัญญูคนหนึ่ง ที่หาได้ยากเป็นคนมีคุณภาพที่สังคมต้องการ


    กราบเท้าพี่หนูพี่ชายที่แสนดีในอดีต
    กราบเท้าหลวงพ่อหนูพระที่สอนสั่งในปัจจุบัน


    คนวังหน้า เด็กชายดนัย
     
  14. ทิพยจักร

    ทิพยจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +10,078
    บูชาองค์ละ 2000 ครับ ไปที่วัดสุทธาราม ซ.ตากสิน 19 โดยตรง ทุกวันเสาร์ เวลา บ่าย1เป็นต้นไปเตรียมพวงมาลัยดอกไม้ไปด้วยนะครับ
     
  15. ariyachot

    ariyachot เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,334
    ค่าพลัง:
    +4,422
    [​IMG]


    สามารถบูชาองคพระพิราพ แบบผงกลม ได้ที่วัดสุทธารามครับ
    บูชาองค์ละ1000 บาท
    [/color]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2008
  16. ariyachot

    ariyachot เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,334
    ค่าพลัง:
    +4,422
  17. ทิพยจักร

    ทิพยจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +10,078

    ขออนุโมทนากับคุณวังหน้าด้วยครับ
     
  18. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
    พระที่ท่านสร้างมีความพิถีพิถันมากด้านพิธีกรรมตามโบราณจารย์กำหนดแต่ปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับพระพุทธศาสนา
     
  19. ทิพยจักร

    ทิพยจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +10,078
    การสร้างวัตถุมงคลของพระอาจารย์ศิริพงศ์แต่ละครั้งท่านจะสร้างจำนวนน้อย โดยมากเพื่อให้ศิษย์วงในได้นำไปบูชาเป็นขวัญกำลังใจเป็นที่พึ่ง การสร้างแต่ละครั้งท่านจะทำด้วยตัวท่านเองแทบทุกขั้นตอน ทั้งออกแบบ แกะบล็อก ไม่เคยไปให้ใครเสก ท่านทำเอา เชิญครูเองทั้งสิ้น คงไว้ซึ่งพิธีแต่โบราณ และปรับไปตามสมควร แต่ยังคงแก่นแท้แต่โบราณไว้ได้เป็นอย่างดี

    ด้วยเหตุนี้วัตถุมงคลของท่านจึงเป็นที่นิยมเป็นที่เสาะหาในหมู่ผู้รู้จักทั้งหลาย เพราะทราบดีว่าของๆท่านนั้น ทำยาก หายาก ได้มายาก ใครได้ไว้ก็ภูมิใจอย่างยิ่ง

    พระพิราพ เป็นมหาเทพภาคดุร้ายของพระศิวะ แต่โบราณเป็นที่เกรงกลัวยิ่ง เพราะท่านเป็นครูที่มีเพศเป็นยักษ์ ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีพระเกจิอาจารย์ท่านไหนสร้างพระพิราพไว้เลย เพราะไม่รู้จัก เพราะไม่รู้ที่มา เพราะไม่รู้หลักการสร้าง จะมีก็เพียงพระอาจารย์ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจเท่านั้นที่สืบสานอนุรักษ์และเผยแพร่คุณพระพิราพมาโดยตลอด จนกระทั่งในปัจจุบันนี้มีหลายสำนักที่ขึ้นมาจัดสร้างพระพิราพ

    ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้เลยว่า กว่าจะถึงวันนี้การสืบสานตำนานพระพิราพนั้นเป็นมาอย่างไร

    ดังนั้นการได้มาซึ่งพระพิราพที่ท่านพระอาจารย์ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจสร้างไว้นั้นจึงเป็นสิริมงคลและเป็นที่น่าภูมิใจอย่างยิ่ง ที่เราได้มาจากต้นตอแห่งการสืบสานอย่างแท้จริง

    ทุกขั้นตอน ทุกมวลสาร ล้วนเต็มไปด้วยความพิถีพิถันอย่างยิ่ง และยิ่งได้รับกับมือท่านพระอาจารย์ด้วยแล้วยิ่งเป็นการรับรองความเป็นสิริมงคลแก่ผู้รับไปได้อย่างดีที่สุด

    ขอนุโมทนาทุกท่านที่ร่วมเผยแพร่กิติคุณของครูบาอาจารย์ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
     
  20. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    สวัสดีครับพี่Unique_Angel ก่อนสงกรานต์ไปหาท่านพระอาจารย์หนูแต่ไม่เจอ หลังจากนั้นยังไม่มีโอกาสไปกราบท่านพระอาจารย์หนูเลยครับ

    ยังไงก็อนุโมทนากับทุกๆท่านที่ช่วยกันประชาสัมพันธ์ครับ หัวโขนพระพิราพน่าจะนำรูปมาลงนะครับ เพราะของจริงสวยมาก
     

แชร์หน้านี้

Loading...