วิธีพิสูจน์ ว่าใคร คือ พระศรีอารยเมตไตรย

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Hanataro, 26 มิถุนายน 2012.

  1. dear031

    dear031 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +11
    แปลกๆ

    <ins style="display:inline-table;border:none;height:280px;margin:0;padding:0;position:relative;visibility:visible;width:336px"><ins id="aswift_0_anchor" style="display:block;border:none;height:280px;margin:0;padding:0;position:relative;visibility:visible;width:336px"></ins></ins>
    อุบล คือใครครับ บอกเหตุผลได้มั้ยว่าทำไมต้องไปขอความช่วยเหลือจากเค้าเพื่อให้พบพระศรีอาริ ยะ ถ้าเราเป็นคนดี มีบุญ ปฏิบัติตามที่พระพุทธเจ้าสอน ก็น่าจะเจอพระศรีอาริยะได้ด้วยตัวเอง ก็ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนไงครับ ทุกคนมีสิทธินิพพานได้เหมือนกัน มีสิทธิไปเกิดเป็นเทวดาที่สูงสักแค่ไหนก็ได้แล้วแต่เราจะเลือกปฏิบัติตัว ทำไมต้องพึ่งคนอื่นด้วยครับ จะศรัทธาใครอยากได้เหตุผลก่อนน่ะครับ
     
  2. Naiky

    Naiky Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +85
    ไม่ต้องตามหาหรอกครับ คนที่มีเวรมีกรรมเกี่ยวเนื่องกัน เดี๋ยวก็เจอกันเองด้วยแรงกรรม..
     
  3. Pinbow

    Pinbow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    130
    ค่าพลัง:
    +297
    เห็นด้วย ก่อนจะให้เชื่อ ช่วยบอกด้วยว่าเป็นใครมาจากไหน มีคุณวิเศษอะไรทำให้นึกอะไรแล้วก็ได้ บรรลุธรรมขั้นไหนอ่ะงง เพราะดิฉันสัมผัสอาจารย์คนนี้ไม่ได้เลย ไม่อยากปรามาสก่อนรู้จัก แต่ช่วยแนะนำประวัติ เหตุผลที่ต้องเชื่อว่าช่วยได้ก่อนดีมั้ยคะ
     
  4. P184

    P184 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +809
    ไร้สาระกันไปใหญ่แล้ว
    อ.คนที่เขาอ้างถึงคือใคร
    ไม่มีที่มาที่ไปก็เชื่อกันไปหมด
    เขาบอกว่าใช่ ว่าดีก็เชื่อ ก็ทำตาม

    ยุคของพระศากยมุนียังเหลืออีกสองพันกว่าปีจะตามหาพระศรีอาริยไปทำไมครับ
    ถ้าตามเจอแล้วไงต่อครับ? คิดว่าจะรอดพ้นจากภัยพิบัติหรือ?
    เป็นไปไม่ได้

    อย่าให้ความกลัว+ความไม่รู้ มาปกคลุมจนปัญญาหดหาย
    ไม่น่าปัจจุบันนี้ถึงได้เกิดลัทธิ/ความเชื่อกับพุทธทำนายแบบนี้ขึ้น เพราะเหตุนี้นี่เอง

    อ่านดูก็แปลกนะครับ ได้รับบัญชาจากพระพุทธเจ้า ??? งง
    พระองค์ทรงบัญชาด้วยหรือ? เหมือนเทพนิยาย/นิทานชาวบ้านเลย
    และที่แปลกคือ

    ยิ่งมากคน ที่ท่านสงสัยว่าจะเป็นพระศรีอาริย์ ก็ยิ่งดี เพราะนี่คือ การทดลอง แบบนักวิทยาศาสตร์
    แบบนักวิทยาศาสตร์
    แบบนักวิทยาศาสตร์

    วิทยาศาสตร์มากกก

    ก็ขอฝากเราชาวพุทธนะครับ
    ใช้สติพินิจพิจารณาอย่างปัญญาชน
     
  5. Teetab

    Teetab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +4,659
    วิธีการพิสูจน์ปัญญาอ่อนสุดๆ บ้าเพ้อเจ้อ คนโง่เท่านั้นถึงเชื่อ รหัสมั่วๆ ไปหลอกควายเถอะ
     
  6. ไทร

    ไทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    205
    ค่าพลัง:
    +771
    เรื่องแบบนี้ฟังหูไว้หูนะครับ อย่าเพิ่งเชื่อมากนัก จะเชื่ออะไรต้องพิจารณาให้ดีเสียก่อนครับ

    เคยทราบมาจากเพื่อนว่า มีสำนักบางแห่ง อันที่จริงเขาบอกชื่อมาด้วยว่าแห่งไหน แต่ขอไม่ระบุชื่อนะครับ และสำนักแห่งนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการพิสูจน์ว่าใครคือพระศรีอารยเมตไตรยตามกระทู้นี้ ตามที่เพื่อนเล่าให้ฟังทางสำนักแห่งนั้น เจ้าสำนักเขาใช้วิธีการทางไสยศาสตร์เพื่อแสวงหาสาวก รวมถึงใช้เพื่อครอบงำจิตใจของผู้ที่เข้ามาเป็นศิษย์ด้วยครับ

    วิธีการของเขาก็คือ เขาจะพยายามให้เรากล่าวประโยคใดประโยคหนึ่ง ซึ่งถ้าเรากล่าวขึ้นมา ก็จะไปกระตุ้นให้เกิดกระบวนการทางไสยศาสตร์ที่เขากระทำไว้ ซึ่งเขากระทำให้เชื่อมโยงกับคำพูดประโยคนั้นตั้งแต่แรก ผลก็คือจะทำให้เราตกอยู่ภายใต้การกระทำทางไสยศาสตร์นั้น และตกเป็นผู้ที่เชื่อถือเขา ทำอะไรตามที่เขาต้องการให้ทำ เหมือนถูกครอบงำทางจิตใจไปเลย

    ฟังดูแล้วหลักการมันก็เหมือนกับการโปรแกรมอะไรสักอย่างหนึ่ง ถ้ามีเหตุอันใดอันหนึ่งขึ้นมาตามที่ตั้งโปรแกรมไว้ ก็จะเกิดผลตามที่ระบุไว้ล่วงหน้าขึ้นมา เพียงแต่เรื่องนี้เป็นการตั้งโปรแกรมทางไสยศาสตร์เท่านั้นเองครับ

    ที่เล่ามานี้ไม่ได้หมายความว่า ผมทราบมาว่ากระทู้นี้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องอย่างนี้นะครับ เจตนาในการเล่าก็เพียงเพื่อต้องการเตือนเพื่อนสมาชิกและผู้ที่ได้อ่านว่า เดี๋ยวนี้อาจจะมีการใช้วิธีการที่แปลก ๆ อย่างนี้ด้วย จะได้ระวังตัวกันไว้ อย่าเพิ่งเชื่ออะไรง่าย ๆ หรือทำอะไรตามที่ได้ยินได้ฟังมาโดยไม่ได้พิจารณาให้ดีเสียก่อนครับ
     
  7. ไทร

    ไทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    205
    ค่าพลัง:
    +771
    สำหรับการพิสูจน์ว่า ใครคือพระศรีอารยเมตไตรยนั้น ผมเห็นว่า เราควรจะพิจารณาโดยใช้หลักฐานทางพระพุทธศาสนาประกอบด้วย การจะพิสูจน์โดยอาการที่เกิดขึ้นกับเราอย่างเดียวนั้น เราจะทราบได้อย่างไรว่า อาการที่เกิดขึ้นกับเราเกิดขึ้นเพราะเหตุใด หากเชื่อเลยก็อาจนำเราไปสู่ข้อสรุปที่ผิดพลาดได้

    จึงจะขอนำหลักฐานทางพระพุทธศาสนามาอ้างอิงไว้เท่าที่พอจะเคยได้ยินได้ฟังมาบ้างนะครับ หากผู้ใดสนใจจะนำมาประกอบการพิจารณา จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปค้นหามากนัก


    ก) พระศรีอารยเมตไตรยท่านเป็นนิยตโพธิสัตว์ หมายถึงเป็นพระโพธิสัตว์ที่เที่ยงแท้ที่จะตรัสรู้ ซึ่งในอรรถกถาพุทธวงศ์ได้แสดงอานิสงส์ของนิยตโพธิสัตว์ไว้ดังนี้ครับ

    พระนิยตโพธิสัตว์ ถึงพร้อมด้วยองค์ครบถ้วนอย่างนี้
    แม้ท่องเที่ยวไปตลอดกาลยาวนานนับร้อยโกฏิกัป ก็ไม่เกิด
    ในอเวจีและในโลกันตริกนรก ไม่เกิดเป็นนิชฌานตัณหิก-
    เปรต ขุปปิปาสิกเปรต กาฬกัญชิกาสูร แม้เข้าถึงทุคติก็ไม่
    เป็นสัตว์ขนาดเล็ก

    เมื่อเกิดในหมู่มนุษย์ก็ไม่เป็นคนตาบอดแต่กำเนิด
    โสตก็ไม่วิกลบกพร่อง ไม่เป็นคนประเภทใบ้ ไม่เป็นสตรี
    ไม่เป็นคนสองเพศและไม่เป็นบัณเฑาะก์.

    พระนิยตโพธิสัตว์ ไม่เป็นผู้นับเนื่องดังกล่าว พ้นจาก
    อนันตริยกรรม มีโคจรบริสุทธิ์ในภพทั้งปวง ไม่เสพมิจฉา
    ทิฏฐิ มีความเห็นว่ากรรมเป็นอันทำมีผล

    แม้อยู่ในสวรรค์ทั้งหลายก็ไม่เข้าถึงอสัญญีภพ ทั้ง
    ไม่มีเหตุที่ไปเกิดในเทพชั้นสุทธาวาส เป็นผู้น้อมไปใน
    เนกขัมมะ เป็นสัตบุรุษ ไม่เกาะเกี่ยวในภพใหญ่น้อย
    บำเพ็ญแต่โลกัตถจริยาทั้งหลาย บำเพ็ญบารมีทั้งปวง.


    อ้างอิง : http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33.2&i=26


    ข) มีข้อความกล่าวถึงพระศรีอารยเมตไตรยโพธิสัตว์อยู่ในฎีกามาลัยเทวสูตร ผมลองค้นดูแล้วยังไม่พบฎีกาฉบับที่อ้างถึงนี้ในอินเทอร์เน็ต แต่พบว่ามีข้อมูลจากฎีกาฉบับดังกล่าวปรากฏอยู่ในวิทยานิพนธ์ฉบับหนึ่งในห้องสมุดมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จึงขอยกมาตามด้านล่างนี้นะครับ

    “พระศรีอริยเมตไตรยโพธิสัตว์ มีนามว่า “นาถเทวเทพบุตร” ประทับ
    อยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิต ซึ่งเป็นสถานที่อุบัติของพระโพธิสัตว์ทุก ๆ พระองค์
    ก่อนจะเสด็จมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้านั้น จะเสด็จมาอุบัติในมนุษย์โลก
    อีก ๒ ครั้ง คือ

    ๑) จะเสด็จมาอุบัติเป็นมนุษย์เพื่อบำเพ็ญทานบารมี คือ สละทรัพย์สมบัติ
    บุตร ภรรยา และบริจาคสัตตสดกมหาทาน คือ การบริจาคสิ่งของต่าง ๆ
    อย่างละ ๗๐๐ เช่นเดียวกับพระเวสสันดรโพธิสัตว์ ทรงบำเพ็ญมาแล้วนั้น
    เมื่อทรงบำเพ็ญบารมีอยู่ในโลกจนถึงอายุขัยแล้ว ก็จะอุบัติในดุสิตบุรีอีกครั้ง

    ๒) เมื่อมนุษย์มีอายุยืน ๘๐,๐๐๐ ปี พระองค์จะเสด็จมาอุบัติในโลกมนุษย์อีก
    เป็นครั้งสุดท้าย แล้วจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงธรรมสั่งสอน
    เวไนยสัตว์ให้หลุดพ้นจากทุกข์เป็นอันมาก เสด็จโปรดเวไนยสัตว์อยู่นานถึง
    ๘๐,๐๐๐ ปี จึงจะเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ศาสนาของพระองค์จะมีอายุยาวนาน
    ถึง ๑๘๐,๐๐๐ ปี จึงจักอันตรธานจากโลกนี้ไป


    อ้างอิง : http://www.mcu.ac.th/userfiles/file/library1/Thesis/891.pdf


    เมื่อประมวลหลักฐานทั้งหมดนี้ หากจะมองว่า ถ้าพระศรีอารยเมตไตรยโพธิสัตว์มาเกิดเป็นมนุษย์ตามข้อ ๑ นั้น จะมีคุณลักษณะอย่างไรบ้าง ก็จะสรุปได้ดังนี้ครับ

    ท่านจะเกิดมาเป็นผู้ชายปกติที่ไม่ตาบอด หูหนวก และเป็นใบ้มาแต่กำเนิด เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ เป็นคนดีมีศีลธรรม มีอัธยาศัยในทางถือบวช เป็นผู้บำเพ็ญประโยชน์แก่โลก บำเพ็ญบารมีทั้งปวง ในชาตินั้นท่านจะบริจาคสัตตสดกมหาทาน และบริจาคบุตรภรรยาเป็นทาน เพราะฉะนั้น หากเราเข้าใจว่าท่านผู้ใดเป็นพระศรีอารยเมตไตรยโพธิสัตว์และมีลักษณะต่างไปจากนี้ ก็แสดงว่าเราเข้าใจผิดครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2012
  8. เมธาวี1

    เมธาวี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    692
    ค่าพลัง:
    +1,051
    พระศรีอารยเมตไตรย ท่านก็อยู่สวรรค์ชั้นดุสิต ท่านจะลงมาทำไม บารมีท่านเต็มแล้วไม่ใช่เหรอ ไปฟังไฟล์เสียงลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษี ที่ใช้มโนมยิทธิขึ้นข้างบนก็ยังบอกว่าท่านอยู่ชั้นดุสิต ฝ่านมาไม่ถึง 20 ปี ท่านจะลงมาทำไม
     
  9. รอยตะวัน

    รอยตะวัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +116
    มิได้ลบหลู่ เจอแล้วเป็นอย่างไร รอท่านมาโปรด แต่ก็อย่าลืมว่าการปฏิบัติและผลการปฏิบัติให้รอดพ้นเป็นเรื่องเฉพาะตน หากมิเคยพากเพียรและปฏิบัติเจริญในศีล สมาธิ ปัญญา จะได้ประโยชน์ไหม ถึงเวลาก็เจอเอง
     
  10. สะระตะ

    สะระตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +128
    เค้าก็ออกมาปฏิเสธแล้วไม่ใช่หรอคะ ว่าเค้าไม่ใช่พระศรี



    แล้ววิธีการพิสูจน์แบบนี้ โง่หรือโง่คะ
     
  11. Gemini Saga

    Gemini Saga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +216
    อย่าลืมนะครับว่าตอนนี้เราอยู่ในพระศาสนาของพระสมณโคดมนะครับ พระศาสนาของพระองค์สอนให้รู้จักใช้ปัญญาพิจารณากันไม่ใช่หรือครับ
    เราเกิดมาทันในยุคพระศาสนาของพระสมณโคดมผมว่าทางที่ดีเราควรจะหันมาศึกษาหลักธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เข้าใจและนำไปปฏิบัติกันดีกว่าเพื่อเป็นประโยชน์เพื่อเป็นการสร้างบุญสร้างกุศลให้กับตัวเราเองทั้งชาตินี้และชาติหน้าจะดีกว่าไหม?
     
  12. Jubb

    Jubb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,281
    ค่าพลัง:
    +2,145
    [​IMG]
     
  13. madee998

    madee998 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2006
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +10
    เห้ออ...ว่ากันไป
     
  14. P184

    P184 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +809
    ไร้สาระ ว่าไปปป...

    เฮ้อ...
     
  15. โซ

    โซ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +872
    อีกหนึ่งเสียงครับ..ถ้าท่านจะบอกไห้ตามหาทำไมท่านไม่ไปบอกพระที่ปฏิบัติ ปฏิบัติชอบแหละครับ ถ้าท่านเหล่านั้นได้สั่งสอนศิษย์จะมีคนเชื่อและนับถือมากกว่า พุทธศาสนาไม่ได้เป็นของคนใดคนนึง หรือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งครับ เป็นของสัพสัตว หรือโอปปาติกะ ทุกชนิดครับ ไม่ต้องตามหา เพราะท่านยังไม่อุบัติลงมาครับ แค่เรากระทำคุณงามความดีในแบบอย่างของพระพุทธศาสนาสอน ปฏิบัติ และตั้งมั่น ประกอบดีแล้ว บุญบารมีพร้อมแล้ว อฐิฐานแล้ว เมื่อมีบุญบารมีที่กระทำร่วมกันมาแล้ว ปรารถนามาแล้ว ก็จะเจอเองครับ
     
  16. จอมโลกธาตุ

    จอมโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2012
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +2,063
    ทางพระพุทธเจ้าทำทางตรงเปิดเผยดีแล้ว กลับจะทำให้เป็นทางลึกลับสำหรับคนบางกลุ่ม

    ทุกวันนี้เหล่า มิจฉาชีพ และ มิจฉาทิฏฐิ เขายังหากินได้ก็เพราะอาศัยความโลภของคนนี่ล่ะเป็นสะพาน

    มีทางตรงแล้วขี้เกียจทำ
    มัวหวังจะหาทางลัดอีก มันจะเจอแต่ทางหลงทั้งนั้น
     
  17. localpood

    localpood เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +300
    พิสูจน์ไปใย ก็เห็นไปตามหา แล้วก็เชื่อว่าเป็นอาจารย์ตัวเอง จะไปหาอะไร สรุป ไปเสียก่อน แล้วๆ ก็หาหลักฐานมายันว่านี่ไงใช่เลย
     
  18. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ปรารถนาพระโพธิญาณ
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->sutongperd<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_6729559", true); </SCRIPT>
    สมาชิก
    <!-- google_ad_section_end -->
    ขออนุโมทนาสาธุครับ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๘ ผมนั่งฟังเทศ หลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง ท่านเทศ ที่ศาลา พระพินิจ อักษร ทองดี ฝั่งโบสถ เอาแต่ใจความนะครับ ท่านกว่าวว่า ในสายของเรา ลูกหลาน พักพวก บริวาร ติดตามกันมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า ๑๐ อสงไขย กำไลยแสนกัป ท่านหยุดนิดหนึ่ง แล้วกว่าวว่าส่วนใหญ่ติดตามกันมา ๑๖ อสงไขย กำไลยแสนกัป ทุกคนทำความปราถนา พระโพธิญาณ กันมาแล้วทั้งนั้น เมื่อหัวหน้าลา ส่วนใหญ่จะลาตาม หลวงพ่อ กันมากมาย ที่ไม่ลาพุทธภูมินั้นมีอยู่ และสมบัติที่อยู่ ใต้ดินวัดท่าซุง ต่อไปในอนาคต จะไปเป็นสมบัติ ของพระเจ้าจักพรรดิราช ที่ไม่ลา

    ท่านบอก ถ้าลูกหลานที่ไปนิพานยังไม่ได้ อย่างน้อยท่านบอก จะช่วยสอนดึงลูกหลานไปอยู่สวรรค์ชั้น ดาวดึง ตอนสมัยพระศรีอริยะเมตตรัย มาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ได้ฟังเทศจากพระองค์ ก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้วไปนิพพาน ในชาตินั้นเลยครับ เป็นเทวดา กับพรหม ฟังเทศพระพุทธเจ้า สำเร็จมรรคผลง่ายกว่าเป็นคนครับ ตอนเช้าผมเอา ธูปเทียนแพร ใส่พานจะไปลา พุทธภูมิ ที่พระจุฬามณี เพราะฟังเทศจากหลวงพ่อเข้าใจแล้ว

    หลวงพ่ออยู่ตึกกลางน้ำ หลังพระจุฬามณี เมื่อถือพานแพร์มาถึง ไม่ไกลจากจุฬามณี พอดี พวกทหารกับคนขับรถ หลวงพ่อมาถึง ผม หลวงพ่อท่านเปิดประตู ไขกระจกรถลง แล้ว ตระโกนออกมาว่า เอ่อดีแล้ว ลูก เอ่อดีแล้วๆ ประมาณ ๓ ครั้ง แล้วท่านก็ปิดกระจกทันทีนี่เห็นไหม ท่านรู้ล่วงหน้า โดยที่ผมก็ไม่รู้ ว่าท่านจะมา เพราะท่านจะเข้าไปที่ตึก ริมน้ำ ทุกวัน ไปฉันอาหารด้วยครับ และพักผ่อนเมื่อถึงเวลา ท่านจะไปรับแขกที่ตึกรับแขกครับ และปี พ.ศ. ๒๕๓๐ ปีที่หลวงพ่อบวชให้พวกเรา รุ่นเดอะ อ.เล้กวัดท่าขนุน ก็รุ่นเดียวกันครับ ด็อกเตอร์ ปริญญา พ.อ. แดง วิชชุพัน ยังไม่ลา ทั้งหมด ประมาณ ๓๐ คนที่บวชตอนนั้นครับ ผมได้ ฉายา ว่า พระสุธัมมะวิริโย ผมนึกในใจ ไม่อยากได้ ฉายานี้เลย ความเพียรนำหน้า อยากได้ ฉายา พระสุธัมมะปัญโญ แต่ ฉายานี้ เป็นของ หลวงพี่ อ. เล็ก วัดท่าขนุน ผมน่ะอยามีปัญญามาก กับไม่ได้ คิดในใจว่า ปีหน้า ถ้าได้ บวชใหม่ กูไม่เอาแล้ว ฉายานี้ ท่านที่เคารพ เชื่อไหม หลวงพ่อพูดออกมาทันฟวัน บอกว่า บัญชา ถ้าปีหน้า ใครบวชอีก ให้ใช้ฉายาใคร ฉายามัน ผมถึงกับสดุ้งเลยครับ

    และตอนไปธุดงค์กับหลวงพี่ อ. เล็ก ท่านบอกว่า ทุกคนที่บวช ๓๐ องค์ตอนนั้น หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า องค์สมเด็จ ท่านบอกตรง ที่เราเคย บำเพ็ญมาแต่อดีดชาติครับ จึงหายสงสัย ถึงบางอ้อเลยครับ งั้นเราถึงได้เป็นแบบนี้ สมแล้ว ที่องค์สมเด็จตั้งตรง ให้หลวงพี่ อ.เล็ก พระสุธัมมะปัญโญ ท่านมีปัญญามากจริงๆ ผมอยุ่กับกระเหรี่ยง เป็น ปีหลายปี ไม่รู้จักชื่อใคร แต่หน้ารู้จัก หลวงพี่ท่านไปวันเดียน รู้จักชื่อ ไม่รู้กี่ คนดีกว่าผม อยุ่ตั้งหลายปี และท่านไปเรียน วิชาทำตะกลุดกับ หลวงปู่เนป่อง กระเหรี่ยง พระคาถา หรือไงนี่แหละ ไม่ต้องจดเลย แค่ท่านปู่เนป่องท่องให้ฟัง ๓ เที่ยว ท่านจำได้เลย แหมถ้าเป็นเราผมว่า ต้องจดใส่กระดาษ ท่อง หลายชั่ว โมง กว่าจะได้ นี่ความจำของท่านเป็นเลิศ และมีปัญญาจริงๆ สัมผัสมาอีกเยอะ เล่าแค่นี้แหละครับ


    พอหอมปากหอมคอ นี่แค่เกร็ดนิดๆเท่านั้น เรื่องจริงที่เด็จๆมีมากมาย เล่า ๒ วัน ๒ คืนไม่จบหรอกครับ:cool: อ้อลืมไปครับ หลังจากนั้นไม่นาน ผมจึงเปลี่ยนคำอธิษฐานใหม่ บุญกุศลที่ข้าพเจ้าทำมาแล้วตั้งแต่อดีดถึงปัจจุบัน ขอคำว่าไม่มีจงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้า มีความคล่องตัว โดยฉับพลัน มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ มีปัญญาดี หายจากโรคภัยไข้เจ็บมีอายุยืนยาว ได้ดวงตาเห็นธรรม ทั้งอิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์ ปัญญาฤทธิ์ ได้เกิดแก่ข้าพเจ้าโดยฉับพลัน และเข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เทอญ ในชาตินี้จะถึงหรือไม่ถึง ชาติหน้าก็ต้องถึง สักวันคงเป็นของเราครับ:cool:<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- edit note -->
     
  19. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    <TABLE id=post6743350 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_6743350 class=alt1>ความเกี่ยวเนื่องกันในการสร้างบารมีของผู้ปรารถนาโพธิญาณ
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Wisdom<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_6585115", true); </SCRIPT>
    สมาชิก
    <!-- google_ad_section_end -->
    [​IMG]ขออนุโมทนาสาธุ เป็นอย่างยิ่ง กระทู้ดีมีประโยชน์มากๆครับ สิ่งใดไม่รู้ ก็จะรู้ สิ่งใดรู้แล้วจะรู้ยิ่งๆขึ้นไปครับ[​IMG]

    ขอเสริมประดับความรู้ต่อกันครับ ขอเอ่ยนามของครูบาอารย์เลยนะครับ เรื่องของพระโพธิสัตว์ หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ท่านได้กล่าวไว้ว่า พระพุทธเจ้า จริงๆในกัปนี้ จะมาตรัสรู้ ถึง ๑๐ พระองค์ แต่พระโพธิสัตว์ ที่มีบารมีเต็มแล้ว รอคิว ที่จะมาตรัสรู้ นับเป็นแสนๆพระองค์ ที่ยังไม่เต็ม ผมว่าน่าจะ นับไม่ถ้วน ถ้าทำไม่ถึง ก็ลามาเป็นสาวก ของพระพุทธเจ้าในสมัยนั้นๆครับ ยิ่งในสมัยนี้ด้วยแล้ว อ่านประวัติหลวงปู่หลวงพ่อ ต่างๆ มาจากพระโพธิสัตว์ ลาเพื่อมาช่วยกันประกาศพระศาสนาให้ครบ ๕,๐๐๐ปี เมื่อลาแล้ว ที่เห็นในสายหลวงปู่มั่น ก็สำเร็จ กิจ กันทั้งสิ้น เมื่อมรณะกระดูก ของแต่ละองค์ ก็เป็นพระธาตุ สายอื่นก็เยอะ สายหลวงพ่อฤาษี สายหลวงพ่อ สังวาลย์ สายหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ก็ยังมีสายอื่นๆอีกครับ


    พระโพธิสัตว์มี ๓ แบบ ๓ ขั้น ที่ ๑ ปัญญาธิกะ บารมี บำเพ็ญบารมี ๔ อสงขัยกำไลย แสนมหากัป ที่ ๒ ศรัทธาธิกะบำเพ็ญบารมี ๘ อสงขัยกำไลย์แสนมหากัป ที่ ๓ วิริยาธิกะ บำเพ็ญบารมี ๑๖ อสงขัยกำไลย์แสนมหากัป พระพุทธเจ้าก็มี ๓ แบบนี้เท่านั้น ตัวอย่าง ปู่บุญเหลือ ซึ่ง เป็นฆราวาส ท่านเป็นพระโพธิสัตว์พระองค์หนึ่งที่จะมาตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าในกัปนี้ ท่านสร้างรูปปั้นไว้ที่ ศาลาแก้วกู่ อ.เมือง จ.หนองคาย ม่เคยไปดูไดได้ครับ ท่านสร้างถาวรวัตถุ ไว้ชัดเจนว่าในกัปนี้ จะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ถึง ๑๐ พระองค์ อายุเท่าไหร่ ท่านแสดงไว้หมดครับ เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๘ เฉพาะในสายของท่าน หลวงพ่อ ฤาษี วัดท่าซุง ท่านเทศ ผมนั่งฟังอยู่ จนทำเป็นหนังสืออกมา และเทป ท่านว่าในสายของเรา ติดตามกันมาอย่างน้อย ๑๐ อสงขัย กำไลยแสนกัป ท่านหยุดนิดหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่ จะติดตามกันมา กันมา ๑๖ อสงขัย กำไลยแสนกัป ถ้ามาเป็นสาวก บารมีมันล้นแล้ว ในเมื่อท่านลามาช่วยพระศาสนา ลูกหลาน บริวาร ก็จะลาตาม กันไป

    แต่ก็มีอีกส่วน หนึ่งที่ไม่ลา ต่อไปในภายภาคหน้า ที่บารมีเข้มแข็ง ที่จะเกิดไปเป็นพระเจ้าจักพรรดิ์ราช ท่านบอก ถ้าท่านไม่ลาพุทธภูมิ เกิดอีก ๖ ชาติบารมีเต็ม เพราะชาตินี้ ท่านเกิดแล้วตาย ถึง ๕-๖ ครั้ง (บารมีจะเต็มในชาตินี้ ตรงนี้ผิดขออภัย) ถ้าไม่ลา นับต่อจากพระศรีอริยะเมตตรัย อีก ๒๒ พระองค์ ถึงจะมาตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้า ถ้านับ พระศรีอารย์ ด้วย องค์ที่ ๒๓ และมีเกร็ดเล็กน้อย ท่านพูดในบรรดาศิษย์ ในหลวงองค์ ปัจจุบัน ถ้าท่านไม่ลา พุทธภูมิ ท่านจะตรัสรู้ เป็นพระพุทะเจ้าก่อน ท่าน นับพระศรี อารย์ ไป เป็นองค์ที่ ๑๗ ในหลวงตรัสก่อนหลวงพ่อครับ แต่ท่านได้ลาแล้ว และสอนศิษย์ให้ไปนิพพานในชาตินี้ครับ และถ้าไปไม่ได้ อย่างน้อยไปรอ อยู่สวรรค์ชั้น ดาวดึง ตอนพระศรีอริยะเมตตรัยมาตรัสรู้ ได้ฟังธรรม จากท่าน ก็จบกิจ เป็นพระอรหันต์ไปนิพพาน

    แม้แต่หลวงปู่ปาน ท่านก็เป็นครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อ ท่านบอก หลวง ปู่ปาน จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในกัปนี้ ต่อจากพระราม ๆเป็นองค์ที่ ๖ ที่ ๗ หลวงปู่ปานครับ อีก ๓ องค์ ไม่กล้ากล่าว ในปัจจุบัน มาเป็นใครบ้างไม่ทราบ แต่ ช้างปาริไลยกะ กับช้างนาราคีรี จะมาตรัสรู้ ในกันนี้เช่นกันครับ ต่อไปในอนาคต พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ ก็จะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ เมล็ดทรายในมหาสมุทร ทั้งสี่ทิศก็ไม่เท่า โอ้มันช่างมากมายนัก แค่หยิบมากำมือเดียว ก็เป็นพันๆเม็ดแล้วอ่ะครับ ผมเองก้เคยสัมผัส ท่านที่เป็นพระโพธิสัตว์ ทั้งสัตว์ และพระ ฆราวาส ทั้งผู้หญิงผู้ชาย หลายองค์ทีเดียวครับ ที่ผ่านมา บารมีแต่ละองค์ก้ต่างกันไป พวกพระโพธิสัตว์นี่ ต้องขยันเกิดขยันตาย เกิดมาบำเพ็ญ บารมี ระหว่างคนกับสัตว์เท่านั้น เกิดไปเป็นเทวดา กับพรหม เขาไม่คิดให้ครับ แต่สาวก บำเพ็ญตอนเป็นเทวดา กับพรหมได้


    พวกพระโพธิสัตว์ ต้องมีเมียมาก ลูกมาก และสร้างบริวารมาก ที่จะไปเกิดร่วมกัน ต้องเก็บละเอียด รู้ สิ่งใดในโลก ละเอียด กรรมฐาน ๔๐ มหาสติปัฏฐาน ๔ ต้องได้หมด และเรียนรู้ อารมย์ พระอริยเจ้าตั้งแต่ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และรู้อารมย์พระอรหันต์ แต่ไม่มีสิทธิ ตรัสรู้ จนบารมีเต็ม รอคิว มาตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าครับ และชาติสุดท้าย ต้องบริจาคลูกเมียให้เป็นทาน เหมือนพระเวสสันดรชาดก มันเป็นกฎ ตายตัว ของการสร้างบารมี ที่จะเป็นพระพุทธเจ้า เหมือนกันทุกๆพระองค์ และผ่านสิ่งต่างมามากมาย นานับปการ ดังที่ท่านเจ้าของกระทู้ บอกกว่าวมาครับ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนยิ่งนัก ส่วนพวกสาวก จะไม่ค่อยเข้าใจ ในการดำเนินชีวิต ของพระโพธิสัตว์เท่าใดนักครับ ในเรื่องหลายๆเรื่อง มันพูดยาก อธิบายยากนัก ที่คนส่วนใหญ่จะเข้าใจ


    พระโพธิสัตว์ จะต้องเกิดเป็นดาบส ออกบวชเป็นพระฤาษี นับชาติไม่ถ้วน บำเพ็ญอยู่แต่ผู้เดียว บางครั้ง ก็สร้างมีบริวารอกมากมาย เหมือนที่พระพุทธเจ้าทั้ง หลาย และองค์พระศาสดา ของเรา องค์ปัจจุบัน ทรงบำเพ็ญมา พระโพธิสัตว์ที่มีบารมีมากแล้ว จะทำอะไร สำเร็จง่าย เพราะบารมีเต็ม พวกบารมียังอ่อนอยู่ ทำอะไร ยังไม่ค่อยจะสำเร็จ เพราะยังต้องเรียนถูกเรียนผิด อีกมากมาย กว่าจะผ่านพ้นไปแต่ละอย่าง ได้ มันไม่ง่ายเลย พระโพธิสัตว์ ถ้าท่านทำหน้าที่ของ ท่านไม่ทัน พระโพธิสัตว์องค์อื่นจะทำหน้าที่แทน ครับ หรือไม่ก็เทวดา พรหมองค์อื่น ทำแทน แค่นี้ก่อนครับ สวัสดี<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2> <SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("6743350")</SCRIPT> </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt1 align=right></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. ชุนชิว

    ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +782
    1 จักรวาล มี 1 จตุมหาราชิก 1 ดาวดึงส์ 1 ยามา 1 ดุสิต 1 นิมมานรดี 1 ปรนิมมิตวัสสวัตรี ลองแหงนดูท้องฟ้าดูสิมีกี่จักรวาล เมื่อคนเปลี่ยนโลกก็เปลี่ยน เมื่อโลกเปลี่ยนจักรวาลก็เปลี่ยน เมื่อจักรวาลเปลี่ยนสวรรค์ก็เปลี่ยน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนสัมพันธ์กัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...