สถานที่โบราณที่มีอายุเก่าแก่ประมาณ 17,000 ปีที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงในการตัดหิน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ทูต, 3 มีนาคม 2011.

  1. deneta

    deneta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    2,712
    ค่าพลัง:
    +5,723
    มีอีกมากมายที่มนุษย์ไม่รู้
     
  2. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากท่านซาลูซ่า แห่งดาวซีรีอุส
    ในนามของสหพันธ์แห่งกาแล็กซี่ (Galactic Federation)

    ผู้รับการสื่อสาร: นาย Mike Quinsey
    วันที่รับการสื่อสาร: 21 มกราคม 2011
    ที่มา:

    Mike Quinsey - SaLuSa, January 21, 2011


    ตอนที่ 3:

    สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ข้อมูลใดๆที่พวกเราบอกพวกคุณไปนี้
    พวกเราสามารถพิสูจน์ให้พวกคุณเห็นได้ และหายสงสัยได้แน่นอน

    และวิธีที่พวกเราจะใช้พิสูจน์ก็คือ “การเดินทางย้อนกลับไปในอดีต”
    ถึงแม้ว่าฟังแล้วมันจะทำให้พวกคุณประหลาดใจก็ตาม


    พวกคุณอาจจะชอบให้ประวัติศาสตร์เหล่านี้มันคงความลึกลับอยู่ต่อไป
    แต่พวกคุณจะยินดีปรีดาที่จะได้ฟังคำเฉลยมากกว่า ซึ่งเรื่องของ “มหาปิรามิด” คือตัวอย่างที่ดีตัวอย่างหนึ่ง


    [​IMG]

    พวกคุณพากันสงสัยเป็นนักเป็นหนา ว่า "มหาปิรามิด" นั้น
    มันถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ และเพื่ออะไร?

    ซึ่งนักสำรวจบางคนอาจจะค้นพบคำตอบของคำถามเหล่านี้ไปบ้างแล้ว แต่ว่าสำหรับพวกคุณส่วนใหญ่
    ก็ยังคงไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเกี่ยวกับพวกมันเลยอยู่ต่อไป


    พวกเราอยากจะบอกพวกคุณว่า มันถูกสร้างขึ้นเมื่อ 10,000 ปีที่แล้ว โดย “รูปธรรมชีวิตจากนอกโลก”
    ซึ่งพวกเขาได้สร้างเครือข่ายของปิรามิดขนาดใหญ่แบบนี้ไว้ทั่วโลกของพวกคุณ
    อย่างที่พวกคุณก็ค่อยๆค้นพบพวกมันบ้างแล้ว

    ในประวัติศาสตร์หลักๆที่พวกคุณบันทึกกันไว้ มีเรื่องราวของพวกมันน้อยมากๆ และก็ไม่ถูกต้องด้วย
    เพราะว่าพวกคุณประมาณการว่าพวกมันถูกสร้างขึ้นมาเมื่อราวๆ 12,000 ปีก่อนหรือนานกว่านั้น


    ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ พวกคุณเองนี่แหละที่เป็นบรรพบุรุษของตัวคุณเอง

    นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม พวกคุณบางคนจึงมีความรู้สึกว่ามีความสนอกสนใจ
    เรื่องราวของอารยธรรมใดอารยธรรมหนึ่งมากเหลือเกิน มันส่งผลกระทบถึงรสนิยม
    และความชอบของพวกคุณในปัจจุบันนี้ด้วยซ้ำไป และมันก็เห็นได้ชัดในหลายๆบ้าน

    มันจะทำให้พวกคุณตื่นเต้นมาก ถ้าพวกเราแสดงให้พวกคุณเห็นว่า
    พวกเขาสร้างปิรามิดขึ้นมาได้ด้วยวีธีใด
    โดยการพาพวกคุณย้อนกลับไปดูในอดีต


    ......................................
    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...่ของมนุษยชาติ-ไปสู่มิติที่-5-a.246190/page-54

    .........................................
     
  3. dark light

    dark light สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2011
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +0
    อะไรก็เป็นได้ทั้งนั้น
     
  4. spersion

    spersion สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +0
    เขาทำได้ยังไงกันนะ ช่างน่าประหลาดใจ
     
  5. jengz

    jengz สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +18
    เป็นอะไรที่สุดยอดมากครับ
     
  6. yavoiii

    yavoiii Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +65
    -- มีหนังอยู่เรื่องนึง(จำชื่อไม่ได้) คีนูรีฟเป็นมนุษย์ต่างดาวมาช่วยดาวโลกที่กำลังทรุดโทรมด้วยการทำลายล้างเผ่าพันธ์มนุษย์ และปล่อยแมลงโลหะกัดกินทุกอย่างที่ขวางหน้า ผมว่าที่อารยธรรมมนุษย์ยุคก่อนๆหายไป น่าจะมาจากสาเหตุนี้นี่แหละ --
     
  7. allfornine

    allfornine Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +38
    รึว่าประวัติศาสตร์ อาจจะมีสิ่งมหัศจรรย์ อย่างที่พ่วเราเคยได้อ่าน และได้ดู กันแน่นะ
     
  8. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    [​IMG]

    ถ้าว่า ใช้หลายๆคนช่วยกันยก ก็ว่ายากแล้ว..

    แล้วที่ยากเข้าไปอีกคือ.. ใช้อะไร ??>< ยกหินขึ้นไปวางเรียงๆๆๆๆกันแบบนั้น o_O!!
     
  9. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    เรื่องนี้เพิ่งดูไปเมื่อ 2 วันก่อน อิอิ ^^
     
  10. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    แล้วอันนี้ล่ะ >< ??? >>> [​IMG] สร้างได้ยังไง ??? ><


    At the time of its completion, the Empire State Building, at 102 stories and 1,250 feet high (1,454 feet to the top of the lightning rod), was the world's tallest skyscraper. The Depression-era construction employed as many as 3,400 workers on any single day, most of whom received an excellent pay rate, especially given the economic conditions of the time. The new building imbued New York City with a deep sense of pride, desperately needed in the depths of the Great Depression, when many city residents were unemployed and prospects looked bleak. The grip of the Depression on New York's economy was still evident a year later, however, when only 25 percent of the Empire State's offices had been rented.

    ------------------

    [​IMG]

    The Great Pyramid of Giza (also called the Pyramid of Khufu and the Pyramid of Cheops) is the oldest and largest of the three pyramids in the Giza Necropolis bordering what is now El Giza, Egypt. It is the oldest of the Seven Wonders of the Ancient World, and the only one to remain largely intact. Egyptologists believe that the pyramid was built as a tomb for fourth dynasty Egyptian Pharaoh Khufu[1] (Cheops in Greek) and constructed over a 14 to 20-year period concluding around 2560 BC. Initially at 146.5 metres (480.6 ft), the Great Pyramid was the tallest man-made structure in the world for over 3,800 years, the longest period of time ever held for such a record. Originally, the Great Pyramid was covered by casing stones that formed a smooth outer surface; what is seen today is the underlying core structure. Some of the casing stones that once covered the structure can still be seen around the base. There have been varying scientific and alternative theories about the Great Pyramid's construction techniques. Most accepted construction hypotheses are based on the idea that it was built by moving huge stones from a quarry and dragging and lifting them into place.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2011
  11. khuntik

    khuntik สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +6
    หากเป็นผมล่ะก็คิดไม่ยากครับ พระพุทธเจ้าท่านก็ได้บอกแล้วไงครับว่าโลกมนุษย์เรานี้ มีเกิด แตก ดับ มาแล้ว นับครั้งไม่ถ้วน วนเวียนเป็นวัฏจักร ไม่รู้จักจบสิ้น สิ่งที่ยังเหลืออยู่นี้ที่เราเห็นกันก็มนุษย์นี่แหละครับเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง เพียงแต่ไม่เหลือคนที่บอกได้ว่าใครเป็นคนสร้าง ก็เท่านั้นเอง
     
  12. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    บางทีพวกเราอาจกำลังเข้าใจผิด คิดว่า การวิวัฒนาการจะต้องเป็นเส้นตรง และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

    เช่น.. เรามักจะเข้าใจว่า .. คนเมื่อ 100 ปีก่อน จะมีความรู้และปัญญาน้อยกว่าปัจจุบัน และคนเมื่อ 1000 ปีก่อน ก็น่าจะมีความรู้และปัญญาน้อยกว่าคนเมื่อ 100 ปีก่อน

    การคิดง่ายๆเช่นนี้ mamboo ว่า ไม่ค่อย fair สักเท่าไหร่

    ถามว่า.. ปัจจุบันนี้ ให้คุณ(ที่กำลังอ่านข้อความนี้) ไปเขียน Program computer มาสิ่ 1 program คุณทำได้ไหม?? ><

    คำตอบคือ: ทำไม่ได้!

    เพราะ คำว่า วิวัฒนาการ.. มันเป็นแค่เรื่องของคนไม่กี่คน.. มีคนที่เก่งวิทยาศาสตร์และเป็นนักประดิษฐ์อยู่ไม่กี่คน เป็นคนส่วนน้อยบนโลกใบนี้ คนส่วนมาก ก็ยังไม่ค่อยได้ใช้สมอง ไม่ค่อยได้ใช้ความคิด มีแต่ใช้ ของที่คนเก่งๆเขาประดิษฐ์มาให้ได้ใช้

    ส่วนคนในยุคอียิปต์และในสมัย Baalbek .. ก็ต้องมี คนใดคนหนึ่ง ที่ฉลาดเหนือคนอื่นๆ จาก 1 คน กลายเป็น 2 คน และเป็นกลุ่มคน ที่ฉลาดล้ำเหนือคนทั่วๆไป

    มีการวิวัฒนาการด้านความคิดและสมองไปในทิศทางหนึ่งๆ ในสมัยโบราณอาจจะมีเครื่องยกหิน เครื่องตัดหินก็ได้ แต่อาจทำจากหินจากไม้ แล้วก็ไม่มีหลักฐานหลงเหลืออยู่

    ส่วนที่ว่า.. ทำไมคนเมื่อ 5000-10,000 ปีที่แล้ว ถึงได้ฉลาดกว่าคนเมื่อ 500-1000 ปีก่อน

    มันก็เป็นไปได้หลายเหตุผล

    อาจเป็นเพราะว่า.. คนกลุ่มน้อย..ที่เป็นคนฉลาดในสมัยนั้นๆ เขาอาจตาย ไม่มีคนสืบทอดความรู้ หรืออาจเกิดเหตุภัยพิบัติ ตายหมู่ คนที่เหลือ ก็ล้วนเป็นคนไม่มีความรู้

    มีความเป็นไปได้หลายๆทาง

    ส่วนที่ว่า ถ้าเป็นเอเลี่ยนมาสร้างไว้จริงๆ

    mamboo ว่า เอเลี่ยนน่าจะสร้างเป็นตึกสมัยใหม่ เอเลี่ยนคงไม่มาใช้เลเซอร์ตัดหินก้อนใหญ่ๆแล้วเอาไปวางเรียงๆๆๆกันหรอก

    และไม่อยากให้คนปัจจุบัน ดูถูกคนสมัยโบราณ

    เพราะการวิวัฒนาการ ไม่ได้เป็นเส้นตรง

    สมมติว่า วันนี้เกิดอุกาบาตชนโลก คนตายไป 90% ตึกลานบ้านช่องพังยับเยิน

    คน 10% ที่เหลือ ไม่มีนักวิศวกร หรือนักวิทยาศาสตร์เลยสักคน.. ลองจินตนาการดูว่า.. จะเป็นอย่างไร

    คน 10% ที่เหลือ จะไปสร้างตึกสร้างอะไรได้?? >< วิธีทำปูนผง ยังไม่รู้เลยว่าทำอย่างไร ความรู้ด้านวิศวะโยธาก็ไม่มี

    สุดท้าย มนุษย์ก็ต้องเริ่มต้นใหม่ วิวัฒนาการจาก 0

    พอผ่านไปสัก 10,000 ปี คนในอนาคต 10,000 ปี ก็จะได้เห็นหลักฐานการก่อสร้างในอดีต แล้วก็สงสัยอีกว่า ><

    เอ๊ะ >< สิ่งก่อสร้างเหล่านี้ ทำได้ยังไง ?? >< มนุษย์เมื่อ 10,000 ปี น่าจะโง่กว่ามนุษย์เมื่อ 1,000 ปีนะ ><

    ไปๆมาๆ ก็เป็นเหมือนตอนนี้ คือ พวกตึกที่ยังหลงเหลือจากการล้างโลก ก็จะกลายเป็นสิ่งก่อสร้างปริศนา และถูกโบ๊ยให้กับมนุษย์ต่างดาว --' ว่าเป็นคนมาทำ --'

    (ถ้ามนุษย์ต่างดาวเป็นคนทำจริงๆ มันน่าจะ hi-tech กว่านี้นะ อิอิ ^^)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2011
  13. rawats_99

    rawats_99 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,947
    ลองคิดแบบเล่นๆแบบว่าคล้ายๆกับการอินเตอโพเลต(Interpolate)
    สมัยนี้นับแต่พระพุทธเจ้าปรินิพานมาเพียง 2500 ปีกว่าโลกและเทคโนโลยีก้าวหน้ามาขนาดนี้..และกำลังก้าวไปสู่ยุกต์อวกาศ..อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆกำลังพัฒนา..เครื่องมือสำหรับตัดเฉือนเช่นเลเซอร์กำลังพัฒนา...อะไรจะเกิดขึ้นอีก 500 ปีข้างหน้า คำตอบคือวัตถุที่บอกว่ามนุษย์ไม่สามารถตัดให้ขาดได้เราคงไม่คิดกันต่อไป..เพราะแม้แต่ดวงดาวมนุษย์ยังทำลายได้ด้วยการยิงลำแสงกระตุ้นเพียงครั้งเดียว..
    แล้วในช่วงก่อนที่หน้านี้สักแสน...สองแสน...สามแสนปีวัฒนธรรมทางเทคโนโลยีจะก้าวหน้าขนาดไหน
    อย่าลืมว่าโลกนี้กว่าจะแตกสลายไปก็หลายๆๆๆๆๆๆๆล้านนนนนนครั้ง....และในช่วงที่ผ่านมาของภัทรกัปนี้ก็ผ่านช่วงที่รุ่งเรือง..เสื่อมสลายเป็นวัฏจักรมาแล้วไม่รู้กี่รอบตามกฎไตรลักษณ์(เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป) "ความเจริญทางด้านวัตถุเมื่อถึงจุดสูงสุดแล้วก็จะ..กลับลงต่ำเสมอเหมือนกับคลื่น"
    และซากอารยะธรรมเหล่านั้นก็เป็นแค่สิ่งที่เล่าขานถึงความหน้าของมนุษย์ในอดีตเท่านั้นซึ่งเรามนุษย์ยุคนี้ก็กำลังเดินไปและเมื่อถึงจุดสูงสุดของความก้าวหน้าของเทคโนโลยีแล้วจิตใจเราก็จะไม่มีศาสนาอยู่เลย...แล้วก็เสื่อมสลายไป...ตามกฏอีกเช่นเคยแล้วกลายเป็นมนุษย์ที่..มีอายุ 10 ปี.....ถึง 80000 ปี...และมาสู่จุดๆเดิมคือคำถามของอีกหลายๆๆคนวันนี้ก็จะเป็นคำถามเดียวกันกับคนในอีก 100000 ปีข้างหน้า...ผมเชื่อว่าคำถามที่เราถามกันในวันนี้ไม่ได้เป็นคำถามครั้งแรก...แต่เป็นครั้งที่นับไม่ถ้วน..ถ้าเรานำกฏไตรลักษณ์มาเป็นหลักคิดทุกอย่างเป็นเรื่องของธรรมดาเท่านั้นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2011
  14. rawats_99

    rawats_99 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,947
    สำหรับวัตถุที่หนักๆยกได้อย่างไร?....ลองมองบนเรื่องของพื้นฐานดังนี้ครับ
    วัตถุสองชนิดที่มีมวลจะออกแรงดึงดูดซึ่งกันและกับเช่นตัวเรากับโลกครับ..โลกมีแรงดึงดูดมากกว่าเราเพราะโลกมีมวลมากกว่าคนเพราะฉนั้นคนจึงยืนบนโลกได้โดยที่ไม่ล่องลอยออกไปนอกอวกาศ....ใช่มั้ย แล้วระหว่างดวงจันทร์กับโลกล่ะ?ทั้งสองไม่ได้ตั้งอยู่บนอะไรเลยแต่มีแรงดึงดูดไว้ไม่ให้ดวงจันทร์ลอยไปจากโลก...อะเริ่มเห็นภาพกันหรือยัง?
    ที่นี้เข้ามาที่คำถามว่าเราจะยกของหนักๆเป็นล้านตันได้อย่างไร..สมมุติว่าในอนาคตมีคนที่สามารถทำให้วัตถุที่วางอยู่บนโลกนี้ให้มีแรงที่ต้านกับแรงโน้มถ่วงล่ะมันจะกลายเป็นออกแรงผลักกัน..วัตถุที่มีน้ำหนักมากก็จะลอยขึ้นได้เท่าที่ต้องการไม่ว่าจะหนักขนาดไหน
    .....1)สมมุติว่าวันหนึ่ง...คนสามารถทำให้โมเลกุลของวัตถุเรียงตัวกันแบบมีสัมพัทธแบบว่าเรียงกันแบบสามัคคีกันไปทางเดียวกัน..เราก็สามารถกระตุ้นให้เกิดแรงภายในวัตถุนั้นให้ต่อต้านกับแรงโน้มถ่วงของโลกได้มันก็ลอยได้...ทำไมต้องคิดถึงเครนที่ใหญ่ที่สุดในโลก..ทำไมต้องคิดถึงสิ่งที่เคยเห็นแค่คิดถึงความเป็นพื้นฐานง่ายๆ
    2)ถ้าเราสามารถทำให้มวลของอากาศที่ห่อหุ้มก้อนวัตถุหนักๆให้มีความหนาแน่นเพียงพอจนเกิดแรงพยุงตัววัตถุหนักๆก็ลอยได้...เหมือนซุงที่ลอยอยู่ในน้ำเราสามารถออกแรงเพียงนิดก็ผลักท่อนซุงได้แล้ว...
    ...ผู้มีอภิญญาลอยตัวเหาะเหินเดินอากาศได้ก็มีวิธีคล้ายๆกัน...แต่ต่างกันที่เขาเหล่านั้นใช้พลังงานทางจิตกระตุ้นร่างกายหรือบังคับกายให้หยุดเคลื่อนไหวในทุกอณูแล้วก็มีพลังอันหนึ่งเดียวกับจิต..แล้วจิตบอกอย่างไรกายก็ทำอย่างนั้น...
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,687
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** เรื่อง ปฏิมากรรมหิน ****

    ใช้วิธี...หลอมหินให้เป็นลาวา แล้วหล่อขึ้นรูปใหม่ ตามที่ต้องการ
    ง่ายและใช้เวลาน้อยกว่า วิธีตัด
    ที่ต้องเสียแรงงานมาก ต้องเสียเวลาตัด ต้องใช้แรงงานจำนวนมากมายก

    ถ้าอยู่ในพื้นที่เป็นทราย
    ก็ใช้ทรายมาหลอม ค่อยๆต่อขึ้นสูงไปที่ละก้อน


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,687
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** โลกุตตระภูมิ ****

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->
     
  17. สหพัฒน์

    สหพัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +710
    1.ผมไม่รู้ว่าใครสร้าง
    2.แต่ผมเชื่อว่ามีมนุษย์ต่างดาว ถึงจะไม่เคยเห็น แต่เคยอ่านหนังสือ แต่จำไม่ได้แล้วว่าหนังสือชื่ออะไร แต่เป็นหนังสือเกี่ยวกับพุทธศาสนานี่แหละ ว่าดวงดาวที่มีสิ่งมีชีวิตไม่ใช่แค่โลกเราดวงเดียว หน้าตา รูปร่าง เทคโนโลยี อาจจะต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ มีจิตวิญญาณ แต่พวกเราดีตรงที่เกิดในโลกที่มีพระพุทธศาสนา มีพระรัตนตรัย แค่นี้ก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุด แล้วน่ะครับสำหรับอีก 1 ชาติที่ได้เกิดมา
     
  18. ขนุติโก

    ขนุติโก สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +0
    โอ้โหสวยงามมากเลยนะครับ
     
  19. Destines

    Destines สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2011
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +0
    อาจจะเกิดจากการเล่นแร่แปรธาตุ โดยเฉพาะ (ธาตุดิน ทำให้เป็น หิน ด้วยสารบางอย่าง ) ไม่มีการลากหิน ดึงหินมาจากไหน แค่เอาดินมาปั้น ทรายมาผสมน้ำผสมดิน แล้วทำให้เป็นก้อนต่างๆ ทำแม่พิมพ์ ตัดเป็นรูปทรง ฯลฯ แล้วใส่สารที่ทำให้เป็นหินลงไป ระยะเวลานานหลายปีเข้าจนกลายเป็นหิน อย่างไม้กลายเป็นหินยุคดึกดำบรรพ์
     
  20. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    เขียนเองคิดได้เอง ^^
    หลักฐานแวดล้อมหนึ่ง ที่สนับสนุนทฤษฎีนี้คือ..

    ไม่มีหลักฐานหลงเหลือว่า สิ่งก่อสร้างพวกนี้ สร้างได้อย่างไร??? ประมาณว่า ประวัติศาสตร์ได้ขาดหายไปช่วงหนึ่ง!

    บางที ในอดีตอาจมีการสูญพันธุ์ของอารยธรรม อาจเกิดภัยพิบัติร้ายแรง ผู้คนล้มตายหลายคน คนที่ยังรอดชีวิต อาจเป็นคนธรรมดา ไม่ใช่วิศวกร และด้วยความที่เพิ่งพ้นจากภัยพิบัติ ชีวิตที่เหลือ คือการเอาตัวรอด..

    ส่วนมนุษย์ที่เป็นวิศวะกร คนที่เก่งและฉลาดเหนือคนทั่วไป ก็ล้มตายหมด อาจเป็นเพราะภัยพิบัติหรือโรคภัยไข้เจ็บก็ได้


    ในยุคปัจจุบันนี้ มีการบันทึกความรู้ และถ่ายทอดกันไปทั่วทุกมุมโลก มีการปฏิสัมพันธุ์กันทุกหมู่เหล่าทั่วโลก

    ถ้าเกิดวันหนึ่ง เกิดภัยพิบัติที่ทำลายชีวิตมนุษย์ไปเกือบค่อนโลก ตึกลานบ้านช่องและสิ่งก่อสร้างพังทะลายหมด มนุษย์ที่รอดชีวิต(สมมติว่า)ไม่มีนักวิทยาศาสตร์เลย ไม่มีวิศวะกรเลย ไม่มีนายแพทย์เลย หนังสือทุกเล่มจมลงในมหาสมุทร

    ถ้ามนุษย์ที่ยังรอดชีวิต เป็นคนธรรมดา เป็นนักบัญชี เป็นชาวนา เป็นพ่อบ้านแม่บ้านธรรมดา .. ถามหน่อยว่า.. การวิวัฒนาการของมนุษย์(ด้านความฉลาด) จะเป็นอย่างไร???

    ตอบได้เลยว่า... "เริ่มจาก 0 อีกครั้ง"

    พอเริ่มวิวัฒนาการจาก 0 ก็เริ่มคิดค้น ค้นหาความจริงจากธรรมชาติใหม่ ผ่านไป 10,000 กว่าปี ไปเจอหลักฐานสิ่งก่อสร้าง เจอหนังสือที่ไม่จมมหาสมุทร.. ก็เกิดคำถามอีก O.O

    "เป็นไปได้อย่างไร ?? >< มนุษย์เมื่อ 10,000 ปีที่แล้ว จะทำได้แบบนี้ ??? "
    นี่เหมือนเรื่อง Pyramid และ Baalbek เลยนะ ><

    ประวัติศาสตร์ที่ขาดหายไป..

    ลูกหลานของอารยธรรมที่ขาดหายไป...

    มันเป็นการวิวัฒนาการที่ไม่ต่อเนื่อง

    และเมื่อก่อน ชนเผ่า และอารยธรรมยังไม่เชื่อมต่อกันทั่วโลก.. ดังนั้น ภัยพิบัติที่จะทำลายประวัติศาสตร์ ไม่ต้องเป็นภัยพิบัติระดับโลก แค่เป็นภัยพิบัติระดับชนเผ่า.. ก็ทำให้การวิวัฒนาการ(ด้านความฉลาด)ไม่ต่อเนื่องได้เหมือนกัน

    สมมติว่า มนุษย์ในสมัย EgyptหรือBaalbek วิวัฒนาการ มาจนถึงขั้นที่สามารถสร้างเครื่องไม้เครื่องมือ สามารถหลอมมีด รู้จักรูปทรงเรขาคณิตอย่างง่าย ..

    ถ้าการวิวัฒนาการไม่หยุดชะงัก ในอนาคต ก็อาจจะมีการคิดค้น อะตอม ค้นหาสิ่งที่ใหญ่ที่สุด(จักรวาล)และสิ่งที่เล็กที่สุด(อะตอม)

    แต่ยังไม่ถึงขั้นนั้น.. มนุษย์เพิ่งจะวิวัฒนาการมาถึงการคิดเรื่องรูปทรงเรขาคณิต และการก่อสร้าง การใช้เครื่องมือ การหลอมเหล็ก ก็ดันมาเกิดภัยพิบัติ หรือโรคภัยไข้เจ็บ เสียก่อน จนทำให้ผู้คนล้มตายไปเกือบหมด ไม่เว้นแม้แต่ ชนชั้นผู้ปกครอง และ นักคิด/นักประดิษฐ์/นักวิทยาศาสตร์ ทั้งหลาย

    เมื่อชนชั้นปกครองต่างก็ล้มตาย นักก่อสร้างล้มตาย กษัตริย์ก็ล้มตาย

    แล้วประชาชนที่ยากจน ผู้เหลือชีวิตเพียงน้อยนิด จะทำอะไร ?? >< ก็ต้องดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด อาจจะอพยพออกจากถิ่นฐานเดิมไปตั้งรกรากที่แห่งใหม่ และเนื่องจากคนที่รอดชีวิตไม่ใช่นักคิด ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ เขาจึงไม่ได้เห็นความสำคัญ ที่จะต้องไปนั่งจดบันทึกเรื่องราวการก่อสร้างของสิ่งก่อสร้างเหล่านั้น เมื่อมีลูกมีหลาน เขาอาจจะเล่าให้ลูกหลานฟัง แต่ลูกหลานไม่เคยเห็น ก็จำได้บ้างไม่ได้บ้าง

    เมื่อลูกมีลูก(หลาน)อีกที ก็อาจเหล่าสิ่งที่ปู่เล่าให้ฟัง แต่มันก็ต้องเพี้ยนๆ และเมื่อหลานมีลูก(เหลน) ก็อาจเล่า(บ้าง)แต่ไม่มาก เพราะไม่เคยเห็น และเมื่อเหลนมีลูก(โหลน) ก็อาจจะเล่าหรือไม่เล่าเลยก็ได้ เพราะไม่เคยเห็น

    และในที่สุด ประวัติศาสตร์ของอารยธรรมนั้นๆ ก็หายไป ไม่มีการสืบทอด วิชาความรู้ที่คิดค้นขึ้นมา ก็พลอยขาดช่วง หายไป ไม่มีการสืบทอด

    และแล้ว การวิวัฒนาการของเผ่าพันธุ์นั้นๆ ก็ต้องเริ่มต้นใหม่ จาก 0(ศูนย์)

    ชนเผ่าอื่นๆทั่วโลกเช่นเดียวกัน.. ในสมัยก่อน มีทั้งภัยพิบัติ โรคระบาด และศึกสงคราม

    แต่ละอารยธรรม ไม่ได้ถูกเชื่อมโยงเข้าหากัน ต่างคนต่างอยู่ เผ่าใครเผ่ามัน เมื่อเผ่าใดเผ่าหนึ่งศูนย์พันธุ์ ความรู้ก็หายไปด้วย ไม่มีการถ่ายทอดความรู้ไปสู่รุ่นหลัง แล้วประวัติศาสตร์ในช่วงเวลานั้น ก็หายไป ><

    หลังการสูญสิ้นของแต่ละอารยธรรม มนุษย์ก็เริ่มการคิดค้นใหม่อีกครั้ง.. มันเป็นแบบนี้ ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า.. จนมีช่วงเวลาหนึ่ง.. ที่ภัยพิบัติ หรือโรคระบาด ไม่สามารถคร่าชีวิตของผู้คนจนถึงกับทำให้สูญสิ้นอารยธรรมได้

    ความรู้ต่างๆ ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ไม่มีการขาดช่วง และยิ่งถ่ายทอดนานเท่าไหร่ ผ่านไปหลายสิบปี คนรุ่นหลังก็เริ่มเห็นคุณค่าของกาลเวลา เรื่องเล่าที่ไม่เพี้ยนไปจากเรื่องเดิม แต่เป็นเรื่องเล่าที่ผ่านมาแล้วเป็นเวลานาน ก็เริ่มถูกจดบันทึก

    ความรู้จากคนหนึ่ง ถูกถ่ายทอดสู่คนหนึ่ง จนในที่สุด ผ่านไป 20,000 ปี ก็กลายมาเป็น โลกปัจจุบันนี้ ที่เต็มไปด้วย เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า

    พอหันกลับไปมองเมื่อ 20,000 ปีที่แล้ว แทบไม่อยากเชื่อว่า.. มนุษย์เมื่อ 20,000 ปีที่แล้ว จะสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ได้แบบนี้ >< เหลือเชื่อจริงๆ เพราะคนเมื่อ 500 ปีก่อน ยังทำไม่ได้เลย O.O แล้วทำไมคนเมื่อ 20,000 ปีก่อนถึงทำได้ ?? o_O???

    จริงๆแล้ว.. การวิวัฒนาการ อาจมาถึงจุดหนึ่ง แล้วถูกทำลาย แล้วเริ่มใหม่ ไปเรื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่ง แล้วก็ถูกทำลาย แล้วก็ต้องเริ่มใหม่ เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนมีครั้งหนึ่ง ที่การวิวัฒนาการไม่ถูกทำลาย ความรู้ความสามารถถูกถ่ายทอดไปเรื่อยๆและพัฒนาไปเรื่อยๆ จนกลายมาเป็น โลกทุกวันนี้

    ทฤษฎีนี้ ก็อธิบายเรื่อง ทวีป ลามูเรีย ได้ด้วย

    คิดค้นโดย mamboo เอง อิอิ ^^
     

แชร์หน้านี้

Loading...