สมเด็จนางพญางิ้วดำ วัดใหม่บ้านดอน และครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัตดีปฏิบัติชอบ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย poon-pan, 6 พฤษภาคม 2016.

  1. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,303
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,134
    มีเพื่อนเมลมาถามเรื่องพลังในพระเครื่อง จากกระทู้เก่าครับ ผมเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย อย่างน้อยก็พอจะเป็นความรู้แบบรู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหามน่ะครับ ลองพิจารณาดูครับ

    ผมขอเล่าแบบเท่าที่จำได้นะครับ ส่วนพระของหลวงปู่/หลวงพ่อที่ไม่ได้มีชื่ออยู่นี้ ไม่ได้หมายความว่า ของท่านไม่แรงนะครับ แต่เป็นเพราะว่า ผมไม่ได้มีพระของท่านน่ะครับ อย่างเช่น หลวงพ่อกวย ฯลฯ

    ที่ผมเล่านั้น คือสิ่งที่ผมรู้มาด้วยตัวเองและกับที่รู้มาจากรุ่นพี่ที่ทำงานอีกที (ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย) เอาตามความเข้าใจของผมนะครับคิดว่าน่าจะแบ่งออกเป็นได้ตามนี้ครับ


    พระเครื่องที่มีพลังจัดอยู่ในระดับแรงถึงแรงมาก

    - รูปหล่อลอยองค์หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร
    (พลังแรง ตัวท่านมาทันทีตอนที่จับพระ)

    -เหรียญหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ จ.นครสวรรค์
    (พลังแรง ตัวท่านมาทันทีตอนที่จับพระ)

    - หลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุนนาค จ.นครสวรรค์
    (พลังแรง เทียบเท่าพระของสมเด็จโตฯ)

    - สมเด็จองค์ปฐมรุ่น 3 หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
    (พลังแรงมาก มีแสงมากมาย)

    - เหรียญตุ๊ปี่หลง วัดป่าบง รุ่นแรก
    (พลังแรงมาก) ท่านบอกว่า ที่ท่านเคยจับมามีประมาณ 8-9 องค์ที่มีระดับความแรงของพลังแบบเหรียญตุ๊ปี่หลง แต่ท่านจำไม่ได้ว่าชื่ออะไรบ้าง

    -พระผงหลวงพ่อสดวัดปากน้ำไม่แน่ใจว่ารุ่นไหน
    (พลังแรงมาก)

    -พระสมเด็จ หลวงปู่ภู สร้างประมาณปี 2537 วัดบางขุนพรหม กทม.
    (พลังแรง)

    -พระสมเด็จกรุวัดพระแก้ว พิมพ์ต่างๆ เป็นพลังของสมเด็จโตล้วนๆ

    -พระสมเด็จกรุพระธาตุพนมที่วังหน้า มีพลังของหลวงปู่เทพโลกอุดร ส่วนพลังของสมเด็จโตนั้นผมไม่แน่ใจ จำไม่ได้ว่ามีพลังของสมเด็จโตด้วยหรือเปล่า พิมพ์กรุะพระธาตุพนม มีปลอมด้วยเพราะพี่คนที่เอาพระมาให้ท่านดูก็กลับไปเช่ากันมาอีก แต่พอพระอาจารย์มาจับดูปรากฎว่าไม่มีพลังอะไรเลย เราเลยหยิบกล้องส่องดูพิมพ์เลยเห็นว่าเป็นลักษณะถอดพิมพ์ แต่มีเนื้อหามวลสารมีความใกล้เคียงมาก แต่ก็ดูออกว่ามวลสารไม่ใช่ไม่เหมือนกับองค์ที่นำมาจับกันก่อนหน้านี้

    พระเครื่องที่มีพลังจัดอยู่ในระดับแรง
    ส่วนมากเป็นพระเครื่องที่พระอรหันต์/พระอริยเจ้าสร้าง พลังจะไม่เสื่อม เว้นแต่ท่านกำหนดระยะเวลาเอาไว้ครับ

    -(ลูกอมปี 53บูชาครู) หลวงปู่หมุน
    พลังจะแรงกว่าพระเครื่องเพราะพลังมาจากลมปราณตอนที่ท่านเคี้ยวและบริกรรม



    -(พระผงวัดพลับพลา จ.นนทบุรี) หลวงพ่อเกษม จ.ลำปาง พระอรหันต์ขั้นสูงสุด (จตุสัมภิทาญาณ)

    -(เหรียญไม่ทัน)หลวงปู่ฉลวย วัดป่าบ้านวลัย จ.ประจวบฯ พระอรหันต์ขั้นสูงสุด (จตุสัมภิทาญาณ)

    -(เหรียญรุ่น 2) หลวงปู่ชม จ.ปราจีนบุรี พระอรหันต์ (อภิญญา 6 )

    ***สีม่วงหมายถึง ท่านสิ้นแล้วแต่ยังเก็บร่างไว้ที่วัด


    -(พระผงรูปเหมือนรุ่นหยดน้ำ) หลวงพ่อสายทอง วัดป่าห้วยกุ่ม จ.ชัยภูมิ (พระอรหันต์)

    -(พระผงและเหรียญรุ่นแรก) หลวงปู่บุญฤทธิ์ สำนักสวนทิพย์ จ.นนทบุรี (พระอรหันต์)

    ***สีดำหมายถึง ท่านยังมีชีวิตอยู่

    -(พระกริ่งสมเด็จนางพญางิ้วดำ วัดใหม่บ้านดอน)มีหลวงพ่อคูณ และพระสายวัดป่าอีกหลายรูป

    -(เหรียญพญาเต่าเรือน) หลวงปู่หลิว จ.นครปฐม ตอนที่ท่านจับมีเต่ามาเกาะมือของท่านเต็มไปหมด เป็นด้านโชคลาภ

    - (พระผงสีวลี) หลวงปู่โต๊ะ พลังสีทองเป็นพระด้านโชคลาภ

    ***สีฟ้าหมายถึง ท่านสิ้นแล้ว


    พระเครื่องที่มีพลังที่ไม่รู้ว่าจะจัดอยู่ในระดับแรงขนาดระดับไหนครับ

    - เหรียญดวงโพธิญาณ หลวงปู่ดู่ (หลวงตาม้าสร้าง)
    (ไม่ได้ให้พระอาจารย์จับ แต่ท่านเห็นแสงพุ่งออกมาจากคอของผม)

    - พระปิดตาของหลวงปู่ละมัย สวนสมุนไพร จ.เพชรบูณ์
    ( จับรอบแรกไม่มีพลัง ต้องจับรอบสองถึงรู้ว่าท่านปิดไม่ให้ใครดู)

    -เหรียญรูปเหมือน/ล๊อกเกต สมเด็จอยู่ญาโณทัย วัดสระเกศ กทม.
    ( ท่านถามหาว่าผมว่ามีอีกไหม เหมือนท่านอยากจะได้ไว้ )

    - เหรียญเบญจมหาโพธิสัตว์ หลวงปู่พุทธอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม
    ( ท่านสัมผัสพลังของพระโพธิสัตว์ได้ 3 องค์ จากทั้งหมด 5 องค์ที่มีชื่อยู่ในเหรียญ และตอนจับพระก็โดนหลวงปู่ด่าเข้าให้ ตามคำพูดที่ท่านใช้อยู่เป็นประจำ)

    - รูปหล่อลอยองค์ หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ รุ่น1( หลวงปู่สอ )
    (ยังไม่ทันจับพระก็มีเสียงบอกมาว่า
    "...ไม่ต้องจับหรอก..." พระอาจารย์ท่านก็เลยวาง อันนี้ไม่รู้จะถือว่าอยู่ในระดับขั้นแรงมากหรือเปล่า แต่ผมเดาเอาว่าต้องไม่ธรรมดา เพราะไม่มีพระองค์ไหนที่จะมีเสียงเตือนมาแบบนี้ครับ) ..."
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2018
  2. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,303
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,134
    เผื่อมีเพื่อนถามครับ ขอตอบเผื่อเอาไว้

    พระที่ผมแขวนใส่มาทำงาน 5 วันตามนี้ครับ

    พระสมเด็จองค์ปฐม รุ่น3
    พระสมเด็จหลวงปู่ดู่ วัดสะแก จ.อยุธยา
    หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์
    พระอวโลกิเตศวร เหรียญเบญจมหาโพธิสัตว์
    พระสมเด็จกรุวังหน้า
    พระคำข้าวหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    ล็อกเกตหลวงปู่บุญฤทธิ์ สวนทิพย์ จ.นนทบุรี
     
  3. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,303
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,134
    ยังมีพระเครื่องของพระอริยเจ้าที่ท่านไม่ได้บอกว่าสำเร็จขั้นไหนที่ผมเพิ่งนึกออก

    - (เหรียญพระหล่อรูปเหมือนนั่งเสือ ประมาณปี 2535-36) หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม

    -( เสือขี่ปลัดปี 2553) หลวงปู่แย้ม วัดตะเคียน จ.นนทบุรี

    - (เหรียญจัตุรพิธ วัดเขาใหญ่)หลวงพ่อออด วัดบ้านช้าง จ.อยุธยา เหรียญนี้แรงมากทางคงกระพัน

    เพิ่มอีกองค์ครับ คือสมเด็จองค์ปฐม รุ่น 5 วัดท่าซุง นี้พลังอยู่ในระดับแรงครับ
     
  4. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,303
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,134
    ต้นมะหาดต้นนี้เจ้าของก็คือคนผู้หญิงที่ใส่ชุดสีดำตามรูปเล็กซ้ายมือครับ
    ต้นมะหาดนี้มีเทพธิา ชื่อมาลา สถิตย์อยู่ ตอนหลวงปู่เคนจะไปรับไม้ต้นนี้ต้องทำการบอกกล่าวขออนุญาตจาก (รูปเล็กทางขวามือหลวงปู่จะโยงสายสิญ ทำพิธีตอนจะตัด) เทพธิดามาลา ก่อน ถ้าเขาไม่ยินดี ท่านก็จะไม่เอา ท่านบอกกับเทพธิดามาลา ว่าให้มาอยู่กับหลวงปู่ที่วัด ( ข้อมูลจากลูกศิษย์หลวงปู่เคน แจ้งมาครับ)
     
  5. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,303
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,134
    มีเรื่องประสบการณ์เกี่ยวกับผีเข้าจากรุ่นพี่ที่ทำงาน

    พี่เขากลับไปเชิญกระดูกของปู่จากฮวงซุ้ยที่อยู่ในวัดเพื่อนำมาเผา เพราะว่ารุ่นลูกก็แก่ตัวลงไม่สามารถจะไปทำพิธีไหว้ได้อีกต่อไป ส่วนรุ่นหลานก็ไม่ค่อยสนใจกัน เลยเห็นพ้องกันว่าจะนำกระดูกขึ้นมาเผาที่วัดนั่นแหล่ะ

    พี่เขาเล่าให้ฟังว่า ตอนไปทำพิธีเชิญกระดูกขึ้นมา พี่สาวคนโตก็มีอาการตัวสั่นอย่างรุนแรง อยู่สักระยะนึง แล้วคนที่สุสาานที่คอยดูแลสุสานอยู่ก็เข้ามาช่วยจนหายเป็นปกติ พอหายจากอาการดังกล่าว พี่สาวก็เล่าว่า ตอนก่อนจะมีอาการสั่นนั้นได้เห็นกลุ่มสีฟ้าลอยออกมาจากที่เก็บกระดูก แล้วพี่สาวก็เริ่มมีอาการสั่น

    ผมกับพี่ทีทำงานก็เลยถกกันว่า สงสัยกลุ่มสีฟ้าที่เห็นน่าจะเป็นวิญญาณที่พยายามจะเข้าร่างของพี่สาวคนโตนี้ แต่ยังไม่ทันเข้าดี ก็มีคนที่ดูแลสุสานเข้ามาช่วยแก้ไขให้
    พี่เขายังเล่าว่า พี่สาวเขาก็ใส่แขวนพระที่ครูบาอาจารย์ที่เป็นอริยสงฆ์สร้าง แต่ทำไมถึงกันผีไม่ได้ ผมก็เลยเล่าเรื่องทีพระอาจารย์ของผมเคยจับพลังพระ ท่านบอกว่าพระที่เราแขวนไม่ใช่ว่าจะกันผีได้ทุกองค์ เพราะบางทีท่านลงเมตตาไว้ อย่างนี้ก็กันไม่ได้ ...พอมาฟังเรื่องของพี่สาวของพี่ทำงาน มันก็เข้าทำนองนี้เลย

    ตลกแถมท้าย...หลังจากที่พี่สาวคนโตจะโดนผีเข้าที่สุสาน พอกลับมาแกก็เลยหาพระมาแขวนเพิ่มอีกองค์...555...เพื่อความมั่นใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2018
  6. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,303
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,134
    เรื่องราวเกี่ยวกับพระเครื่องที่ไม่สามารถกันผีได้นั้น ผมรู้มาจากพระอาจารย์นานแล้ว
    ตอนแรกก็ไม่อยากจะเชื่อท่านเท่าไหร่นัก เพราะยังติดจำหนังผี ที่พอผีเจอพระก็กลัวพระพุทธรูปหรือพระเครื่องที่แขวนอยู่กับตัวของนักแสดงซึ่งพอผีเห็นพระ ก็เจอแสงพุ่งออกมาจากพระแล้วผีก็ร้องโหยหวนแล้วก็หนีจากไป...แต่เรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับพี่สาวคนโตของพี่ที่ทำงานนั้นมันช่างตรงกับพี่พระอาจารย์เคยบอกผมไว้
     
  7. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,303
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,134
    เรื่องเจ้ากรรมนายเวร
    ตอนที่ 1


    สิ่งที่ผมจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องความเขื่อส่วนบุคคลนำ
    มาเล่าสู่กันฟังครับ เป็นเรื่องของผมเองสดๆร้อนๆ

    เมื่อก่อนเคยได้ยินได้ฟังแต่เรื่องราวของคนรู้จักว่า คนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่นที่ดวงตกหรือประสบปัญหาโรคภัยไข้เจ็บหรือเหตุการณ์ที่ประสบเหตุแบบหาสาเหตุไม่เจอ

    และคนที่เข้าไปช่วยเหลือก็มักจะประสบเหตุต่างๆในทำนองว่าต้องเข้าไปรับเคราะห์กรรมแทน จนสะบักสะบอม ตอนที่ผมได้ยินก็ฟังไปแบบที่เราไม่รู้ว่ามันจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่อาจตัดสินได้ด้วยตัวเอง

    แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมมันเริ่มต้นเมื่อวันเสาร์ที่ 31 มีนาคม 2561 ผมขับรถพาแฟนไปเยี่ยมดูอาการเจ็บขาของพ่อตาที่นครนายก ขาแกเป็นแผลช้ำเลือดช้ำหนอง ไปหาหมอมาหลายที่ก็ไม่หายขาด ทั้งทำแผลทานยา ก็ยังมีอาการคันมีน้ำเหลืองไหลบ้างบางครั้ง แม่ยายก็พยายามช่วยกันดูแลกันตามความสามารถและลูกสาว(แฟนผม) ก็เป็นห่วงเพราะพ่อตาเป็นแผลนี้มานานแล้วไปหาหมอแล้วอาการก็ยังไม่ดีขึ้น

    สภาพแผลที่ขาเป็นแบบนี้ครับ
    ?temp_hash=bb93d200a0d7c71300728bd31180d919.jpg



    แม่ผมเคยเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องทำน้ำโอโซนสำหรับล้างผักกับเนื้อสัตว์ แม่เลยบอกให้ผมทำน้ำโอโซนล้างแผลให้พ่อตา เราก็เลยขับรถไปเพื่อทำน้ำโอโซนล้างแผลให้พ่อตา ผมก็เลยขับรถพาแฟนไปเพื่อจะทำความสะอาดแผลด้วยน้ำโอโซน ที่บ้านพ่อตาผมมีเครื่องทำโอโซนอยู่ 1 เครื่อง ผมเคยนำไปไว้ที่บ้านพ่อตาสำหรับใช้ทำน้ำโอโซนล้างผักผลไม้และเนื้อสัตว์ เครื่องทำโอโซนนี้ ทางการแพทย์ก็มีใช้าอยู่ตามโรงพยายาบาลเพราะมันมีสรรพคุณเรื่องกำจัดเชื้อโรค ( ผมเห็นจากใบโบรชัวร์)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2018
  8. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,303
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,134
    เรื่องเจ้ากรรมนายเวร
    ตอนที่ 2


    วันเสาร์ตอน 5 โมงเย็นแฟนผมก็ช่วยกันล้างแผลด้วยน้ำโอโซน และช่วงนั้นก็มีเพื่อนบ้านคนนึงเขาก็นำตัวอย่าง ยาที่ใช้ทาสำหรับโรคผิวหนังที่ติดเขื้อมาบอก ให้ไปซื้อมาทา เขาบอกว่า เขาก็เป็นแผลแบบนี้ ใข้ยานี้ทาแล้วหาย เราก็เลยเสริชดูเน็ทจึงรู้ว่ายานี้เป็บยาเสตอรอยด์ สำหรับรักษาโรคผิวหนัง

    พอล้างแผลเสร็จก็เอาผ้าก๊อตพันแผลปิดไว้เหมือนเดิม ผมกับแฟนก็ขับรถกลับ นนทบุรีกันมาถึงสามทุ่มกว่า พอตอนเช้าแฟนโทรไปถามแม่ยายว่าพ่อตาเป็นไงบ้าง แม่ยายก็เล่าให้ฟังว่า พอล้างแผลด้วยน้ำโอโซนอย่างเดียว พ่อตาก็นอนหลับพักใหญ่จนตื่นตอน สองทุ่ม

    พ่อตาบอกว่ารู้สึกตึงๆที่แผล ตอนแรกก็นึกว่าพันผ้าก๊อตแน่นไปก็เลยแกะผ้าพันแผลออก แกเลยเห็นว่าแผลที่ช้ำเลือด นั้นเริ่มแห้ง แกก็แปลกใจว่าจู่ๆแผลมันแห้งขึ้นมา ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้แผลช้ำเลือดแดงมาตลอด แกก็เลยเอายาครีมที่ผมกับแฟนเพิ่งไปซื้อมาช่วงประมาณบ่ายสี่โมง ทาแผลทับไปอีกที แต่ไม่ได้พันผ้าปิดทับเพราะวิธีใช้ยานี้เขาระบุว่าไม่ให้ปิดแผลด้วยผ้าหรืออะไร

    พอตอนเช้าวันอาทิตย์ เขาก็ถ่ายรูปมาให้ดูครับ
    สภาพแผลเป็นแบบนี้ ดูแห้งไปเลย
    ?temp_hash=76fb1a1bd9cb3f5afb958cf21fa866a8.jpg


    ดูรูปเปรียบเทียบก่อนกับหลังอีกครั้งครับ
    รูปในสี่เหลี่ยมขวาล่างเป็นรูปเมื่อตอนเช้าวันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน 2561

    ?temp_hash=76fb1a1bd9cb3f5afb958cf21fa866a8.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2018
  9. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,303
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,134
    เรื่องเจ้ากรรมนายเวร
    ตอนที่ 3


    ตอนเช้าวันอาทิตย์ผมตื่นมาแฟนก็บอกว่าขาของพ่อตาดีขึ้นมาก ผมก็คิดแบบสงสัย เอ๊ะ !!! ทำไมมันจึงดีขึ้นแบบกระทันหัน แบบแปลกๆ ตามหลักแล้วมันน่าจะค่อยๆดีขึ้นนะ ไม่น่ารวดเร็วทันใจขนาดนั้น

    พอตอนสายวันอาทิตย์นั้นผมก็ข้บรถพาลูกคนเล็กไปร้านหมอฟัน และไปส่งคนโตที่โรงเรียนเรียนพิเศษอีกที่นึง พอลูกคนโตเรียนเสร็จตอน 11 โมง ก็ขับรถไปรับและพากันไปที่ งานสัปดาห์หนังสือที่ 0 ประชุมสิริกิติ์ แถวถนนพระรามสี่- คลองเตย

    ตอนที่ผมขับรถไปก็รู้เจ็บที่เท้า ตินนั้นก็คิดไปว่าสงสัยคงเป็นเพราะเมื่อวันเสาร์ตอนไปนครนายก ผมแวะปั้มน้ำมัน เดินพลาดเหยีบยพื้นที่เปียกน้ำจนลื่นเกือบจะล้ม แต่ยั้งเท้าไว้ได้ คงทำให้มีอาการเจ็บ

    มันก็เริ่มเจ็บมากขึ้น จนกลับมาถึงบ้าน เท้าขวาบวมเป่งจนเหยียบพื้นแบบเต็มเท้าไม่ไหวมันเจ็บมาก และมันทำให้ผมนึกไปถึง ว่าที่ผมขาเจ็บกระทันหันมันจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับขาของพ่อตาที่มันดีขึ้นแบบกระทันหันหรือเปล่า รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ

    พอวันจันทร์ต้องหยุดงาน ให้แฟนพาไปหาหมอแถวบ้าน เราก็เล่าอาการให้หมอฟัง หมอเลยสั่งเจาะเลือด เอ็กซเรย์เท้า พอผลตรวจออกมา หมอบอกเลยว่าถ้าไม่ได้ฟังที่ผมบอกมา หมอสรุปเลยว่าเราเป็นโรคเก๊าท์ทั้งๆที่ ผลเลือดบ่งชี้โรคเก๊าท์อยู่ในเกณฑ์ปกติ 5.6 กระดูกไม่มีปัญหาอะไร มีแต่สภาพบวมที่เนื้อด้านข้าง หมอบอกว่าเก๊าท์มีสองอย่าง เป็นเก๊าท์แบบมีผลเลือดเก๊าท์ค่าสูง และแบบผลเลือดปกติ ...ตอนนั้นก็งงว่า ผลเลือดปกติ มีอาการเท้าบวมก็ต้องเป็นเก๊าท์ด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2018
  10. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,303
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,134
    เรื่องเจ้ากรรมนายเวร
    ตอน 4 (จบ)


    หมอเลยสั่งฉีดยาสามเข็มและ รับยากลับมาบ้านนอนพักผ่อน หลังจากฉีดยาเท้าก็ยุบลง แต่ยังเจ็บอยู่เดินเต็มเท้าไม่ได้เหมือนเดิม พอเช้าวันอังคารเห็นว่า (โง่งมงาย) เท้าเจ็บน้อยลงก็เลยแต่งตัวไปทำงาน แต่ด้วยต้องเดินจากที่จอดรถมาที่ออฟฟิศค่อนข้างไกลพอสมควร คือปกติจะใช้เวลาเดิน เกือบ10 นาที ตอนเช้าพอไหว แต่พอเดินกลับช่วงเย็น เท้าบวมเป่งกว่าเมื่อวันอาทิตย์อีก

    ผมเลยต้องหยุดงานเพิ่มในวันพุธกับวันพฤหัส ที่จริงแล้ววันศุกร์ที่ 6 เมษายน ผมมีนัดกับรุ่นพี่ที่ทำงานจะไปคุยเรื่องงานก่อสร้างเจดีย์ที่ปราจีนบุรี ผมเลยต้องอดไป ส่วนพี่ที่เข้ามาช่วยดู นั้นแกจะกลับบ้านที่บุรีรัมย์อยู่แล้วแกก็ต้องไปเองต่อ

    เมื่อเช้านี้ผมเลยโทรไปเรียนถามคุณแม่สมใจว่า ผมไม่ได้ไปเพราะเท้าบวม ท่านเลยทักผมมาว่า มีวิบากกรรม ผมเลยเล่าให้ท่านฟังว่า เมื่อวันเสาร์ที่ แล้ว ผมไปช่วยดูแลอาการเจ็บขาของพ่อตา แล้วไปลื่นจนเกือบล้มที่ปั้มน้ำมัน กลับมาขาเลยบวม ส่วนขาของกพ่อตากับดีวันดีคืนจนอดแปลกใจไม่ได้

    ท่านบอกผมมาว่า ที่พ่อตาผมขาหายแบบรวดเร็วก็เพราะเราต้องไปรับแทนเขา คุณแม่ท่านบอกเหมือนกับที่ผมรู้สึกสังหรณ์ใจคิดไว้ไม่มีผิดจริงๆ...เอวัง

    ถ้าใครมีอาการเจ็บเท้าแบบผมสมควรงดใช้เท้าแบบเด็ดขาดนะครับพยายามอย่าใช้เลยจะดีที่สุด ไม่งั้นมันจะทำให้เท้าช้ำหนักยิ่งจะหายช้าเผลอๆอาการจะหนักขึ้นกว่าเดิมเหมือนกับผม

    เมื่อคืนนี้ผมก็เพิ่งฉลาด ใช้วิธีคลานไถก้นไปเข้าห้องน้ำ แทนที่จะใช้เท้าเดินเขยกๆไปเหมือนสามคืนก่อนหน้า อย่างเต็มที่ก็ใช้เท้าที่เจ็บช่วยยันตอนลุกขึ้นแค่ทีสองที พอตื่นเช้ามาเท้าก็ลดบวมไปได้เยอะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2018
  11. ar_korat

    ar_korat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +2,015
    เป็นกำลังใจให้ครับ ให้หายเจ็บในเร็ววัน ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ที่เผยแพร่ครับ
     
  12. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,303
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,134
    ขอบพระคุณคุณ ar_korat มากครับ สำหรับกำลังใจครับ แค่เข้ามาอ่านก็ดีใจมากนับว่าเป็นบุญมากครับ

    พ่อตาผมเป็นคนดีมีน้ำใจก็จริง แต่เรื่องบุญกุศลสวดมนต์ไหว้พระแทบเป็น 0 พอมีเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่

    ผมก็เลยขอพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสครับ เอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มาอธิบายขยายความ ในเรื่องบุญเรื่องกุศล เรื่องวิบากกรรม กระตุ้นให้พ่อตากับแม่ยายผมเร่งสร้างบุญกุศลด้วยตัวเอง โดยขอร้องให้พ่อตาแม่ยายช่วยสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอนเอาแค่บทสั้นๆก็พอ แล้วแผ่เมตตา พยายามทำให้ได้ทุกวัน

    ถ้าเขาทำได้จริง ผมก็หวังว่า เขาจะได้อาศัยบุญตรงนี้มาเป็นที่พึ่งไว้คอยช่วยเหลือตัวของเขาเอง ดีกว่ามารอรับความช่วยเหลือจากคนอื่น ผมก็บอกเขาไปว่า ถ้าจะให้ผมมารับกรรมแทนทุกครั้ง ผมก็กลัวเหมือนกันว่าผมจะแบกรับแทนไม่ไหว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2018
  13. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,303
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,134
    คุณแม่สมใจท่านบอกว่า คนใกล้หมดบุญมักจะเจ็บไข้ได้ป่วย

    ยกตัวอย่างตอนนี้พ่อตาผมมีโรคผุดมาเพียบเลย ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ตอนเดือนตุลาคมปี 2560 ที่มีอาการวูบตอนไปนา จนทำให้ครอบครัวผมต้องสร้างพระพุทธโสธร หน้าตัก 20 นิ้ว 2 องค์ ให้พ่อตาสร้างองค์นึงเพื่อนำบุญมาต่ออายุตัวเอง ตามที่คุณแม่สมใจท่านบอกให้ทำ

    และตั้งแต่เดือนกุมภาพันธุ์ก็มีอาการไม่สบายหลากหลายมาก ไม่หยุดหย่อน มีทั้งอาการทางไต มีทั้งตรวจพบเป็นโรคไทรอยด์ มีทั้งโรคเกี่ยวกับลำไส้ ล่าสุดก็ขาเป็นแผล เริ่มจากเป็นแค่ตุ่มแล้วไปเกาขยี้มัน เลยขยายเป็นแผลช้ำเลือดขนาดใหญ่ติดเชื้อรักษาไม่หายอยู่นานมาก

    พอเราย้อนมาดูเรื่องบุญกุศลที่พ่อตาผมแทบจะไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย มันก็เข้าเค้าที่คุณแม่ท่านบอกไว้ครับ ตอนนี้เลยต้องรีบเร่งขวนขวายกัน
     
  14. วิคิด

    วิคิด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2012
    โพสต์:
    788
    ค่าพลัง:
    +1,144
    ขอให้หายในเร็ววันนะครับ
     
  15. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,303
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,134
    ขอบคุณมากครับ

    ผมยังนึกถึงอยู่ครับ ตอนนั้นคลาดเจอกับคุณแม่สมใจไปครับ ไม่เป็นไรครับ ถ้ามีบุญวาสนาร่วมกันมาอย่างแล้วก็ต้องเจอกันสักวัน
     
  16. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,303
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,134
    เรื่องเล่าทั่วไปครับ

    พี่คนบุรีรัมย์ที่ทำงานที่เดียวกัน พี่เขาถามผมว่าทำไมผมรู้จักพระเยอะจัง ผมก็นึกอยู่เหมือนกันเพราะช่วงปีสองปีที่ผ่านมามีเหตุทำให้ผมต้องรู้จักครูบาอาจารย์ทั้งรู้จากพระอาจารย์ที่ผมปรนนิบัติท่านอยู่ และทั้งจากเพื่อนที่ทำบุญร่วมกันและพระที่เราเพิ่งจะรู้จัก ท่านก็มีกิจของสงฆ์ที่เราต้องเข้าไปมีส่วนร่วมสร้างบุญสร้างกุศลนั้นๆ จนทำให้ต้องรู้จักพระเป็นทอดๆอีกทีจนทำให้พี่เขาอดถามไม่ได้เพราะว่าพี่เขาได้ยินตอนที่ผมโทรศัพท์คุยกับพระอาจารย์ คุยกับคุณแม่สมใจ คุยกับเพื่อนกับยาณมิตร คุยกับหลวงปู่ฯลฯ

    เพื่อนๆคงจะสงสัยว่า สรุปว่าวันๆผมไม่ได้ทำงานเลยเหรอ จึงมีเวลาว่างคุยกับ ครูบาอาจารย์องค์นั้นทีองค์นี้ที คุยเยอะจัง ผมขอตอบว่า ใช่ครับช่วงนี้ผมไม่ค่อยมีงานเป็นชิ้นเป็นอันเพราะโดนแป๊กโดนดองอยู่เพราะเราไม่ได้เป็นพวกของเขาและไม่ยอมที่จะเป็นพวกของเขา เขาเลยไม่ยอมมอบหมายงานอะไรให้เลย ก็ไม่เป็นไร ขอให้จ่ายเงินเดือนให้ก็แล้วกัน...โหสิ...อุอุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2018
  17. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,303
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,134
    โลกใบนี้ช่างกลมนัก
    ตอน 1


    พระอาจารย์ที่ผมปรนนิบัติท่านอยู่ ท่านเป็นคนจังหวัดมุกดาหาร บ้านท่านอยู่ใกล้กับวัดภูจ้อก้อ (หลวงปู่หล้า)ห่างไปแค่ 2 กม.

    ท่านเล่าให้ผมฟังว่าก่อนที่ท่านจะบวชท่านก็มักจะขึ้นไปบนวัดภูจ้อก้ออยู่บ่อยๆจนรู้จักกับพระที่วัดหลายรูป จนกระทั่งท่านได้มาบวช แต่ท่านบวชที่ไหนผมจำไม่ได้ หรือว่าผมไม่เคยถามท่าน

    ที่จริงผมก็รู้จักกับท่านมาตั้งแต่ปี 2555 ตอนนั้นผมเพิ่งรู้จักกับท่าน ตอนนั้นท่านโทรมาตามให้ไปช่วยท่านหาซื้ออุปกรณ์หูฟังจะเอาไปใช้เกี่ยวกับการเผยแผ่ธรรมะ ผมก็ขับรถพาท่านไปที่บิ๊กซีบางใหญ่

    หลังจากนั้นผมจะเจอกับท่านปีละหนึ่งครั้ง คือท่านลงมากทม.เพื่อมาหาซื้อหนังสือ/อุปกรณ์ต่างๆ ผมก็ขับรถพาท่านไปตามที่ต่างๆเช่นวัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ มูลนิธิมหามกุฎ มหาจุฬาลงกรณ์ ฯลฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2018
  18. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,303
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,134
    โลกใบนี้ช่างกลมนัก
    ตอน 2


    หลังจากที่ท่านมีความมั่นใจว่าตัวผมนั้น พอที่จะแนะนำให้เข้าไปกราบครูบาอาจารย์ของท่านได้ ท่านบอกชื่อพระอาจารย์ของท่านและชื่อวัดให้ผม จนผมไปตามหาวัดจนเจอและได้กราบพระอาจารย์ของท่านได้อย่างสมใจนึก และก็มีอีกหลายเหตุการณ์ที่ผมได้ร่วมบุญกับท่านกล่าวโดยสรุปก็เริ่มมีความคุ้นเคยกับท่านมากขึ้นเป็นลำดับ

    จนมาถึงปีนี้ ผมจึงได้ถามท่านถึงครูบาอาจารย์รูปหนึ่งที่ผมติดใจมานานแล้วตั้งแต่พ่อผมกับญาติและเพื่อนๆที่ไปกันสองถึงสามคันรถ ได้ไปนอนค้างและทำบุญตักบาตรถวายอาหารกับหลวงพ่อองค์นี้ คือมันมีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่าไม่ธรรมดาเลย

    คือเพื่อนของพ่อผมที่ไปด้วยกันต้องการอยากจะพาหลวงพ่อท่านเจ้าอาวาสนั่งรถของเขาเพื่อออกไปรับบาตร จึงเข้าไปกราบนิมนต์ท่าน แต่ท่านก็ไม่ตอบว่ากระไร พ่อผมมาเล่าให้ฟังว่า ที่จริงแล้วท่านมีลูกศิษย์ที่มาจากต่างประเทศมาปวารนารับใช้ท่านอยู่แล้ว

    เพื่อนของพ่อผมเขาเป็นช่างเครื่องยนต์ ก่อนขึ้นเขามาที่วัดนี้เขาตรวจสอบรถมาเป็นอย่างดี แต่ตอนเช้าวันที่พยายามนิมนต์ท่านเจ้าอาวาสขึ้นรถเขาให้ได้นั้น เขากับสตาร์ทรถเท่าไหร่ก็สตาร์ทไม่ติดแต่พอหลวงพ่อเจ้าอาวาสนั่งรถไปกับรถลูกศิษย์แล้ว รถเขากับสตาร์ทติด ตอนนั้นเพื่อนของพ่อผมเขาก็แปลกใจมากว่า พอหลวงพ่อไปเท่านั้นแหล่ะ รถเขากับสตาร์ทติดขึ้นมา พอผมได้ฟังเรื่องนี้ก็รู้แล้วว่าหลวงพ่อองค์นี้ท่านคงไม่ธรรมดาแล้วล่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2018
  19. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,303
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,134
    โลกใบนี้ช่างกลมนัก
    ตอน 3


    ก่อนหน้านี้ผมก็ไม่รู้ความเป็นมาของท่านเลยรู้แค่ชื่อของท่านกับชื่อวัด ( ผมขอไม่เปิดเผยนะครับ เพราะว่าผมยังไม่เคยไปกราบท่านด้วยตัวเองจึงไม่แน่ใจว่าท่านจะอนุญาตหรือไม่ครับ)

    เนื่องจากความที่ยังติดใจเรื่องของท่านอยู่ พอผมได้คุยกับพ่อก็จะถามถึงว่าเมื่อไหร่จะสะดวกไปกราบท่านที่วัดกันสักที พอคุยกันเสร็จผมก็มาเสริชชื่อท่าน จนเห็นรูปท่านที่มีคนถ่ายไว้ที่ศาลาฉันข้าว ผมเลยเห็นรูปหลวงปู่หล้าติดอยู่ เลยเดาว่าท่านน่าจะเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่หล้า

    เลยนึกได้ว่า อย่างนี้พระอาจารย์ที่ผมรับใช้ท่านอยู่น่าจะรู้จักเป็นแน่ ผมเลยถามท่านว่าท่านรู้จักหลวงพ่อองค์นี้หรือไม่ ท่านตอบเรื่องราวของหลวงพ่อองค์นี้ได้แบบเจาะลึกมาก ท่านรู้จริง ผมก็เลยถามท่านถึงสิ่งที่รู้มาเกี่ยวกับหลวงพ่อองค์นี้ ท่านตอบผมมาคำว่า หลวงพ่อองค์นี้ท่านมีอภิญญา ผมเลยถึงบางอ้อว่าทำไมวันนั้นเพื่อนพ่อจึงสตาร์ทรถไม่ติด

    ผมอยากรู้เรื่องราวของหลวงพ่อองค์นี้มานานเป็นสิบกว่าปีและในที่สุดผมก็ได้รู้จากพระอาจารย์ที่เรารับใช้อยู่นี่เอง แหม่!!!ช่างบังเอิญเสียจริง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2018
  20. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,303
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,134
    โลกใบนี้ช่างกลมนัก
    ตอน 4 จบ


    ล่าสุด พี่ที่ทำงานที่เดียวกัน คนบุรีรัมย์คนเดิม พอผมไปเล่าให้ฟังว่าโลกใบนี้ช่างกลมนักเกี่ยวกับพระอาจารย์ที่ผมรับใช้ ท่านรู้จักกับหลวงพ่อที่พ่อผมเคยไปทำบุญตั้งแต่ปี 2545-2546 หลวงพ่อองค์นี้ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่หล้าและพระอาจารย์บ้านของท่านอยู่ใกล้วัดภูจ้อก้อ เท่านั้นเอง พี่เค้าเลยบอกว่าเพื่อนพี่เขาสมัยเรียนประถมเรียนจบเป็นหมอและมาบวชอยู่ปรนนิบัติดูแลหลวงปู่หล้า

    ตอนประมาณปี 2537 พี่เขาไปกราบหลวงปู่หล้าที่วัดภูจ้อก้อเลยเจอกับพระหมอที่เป็นเพื่อนกันสมัยตอนเรียนชั้นประถมที่บุรีรัมย์พี่เล่าให้ฟังต่อว่า พระหมอท่านได้รับเงินพระราชทานจากสมเด็จพระราชินี (เป็นเงินที่ต้องใช้คืนรัฐบาลเมื่อต้องการลาออกจากอาชีพแพทย์ ) พี่เล่าให้ฟังว่าพระราชินีท่านอยากให้พระหมอบวชเป็นพระต่อเพื่อคอยดูแลธาตุขันธ์ของหลวงปู่หล้า

    พี่เค้าฝากให้ผมช่วยถามพระอาจารย์ว่า พระหมอท่านยังบวชเป็นพระอยู่หรือเปล่า ผมเลยโทรหาพระอาจารย์ ท่านตอบว่าคุ้นๆชื่อพระหมอมาก ท่านจะสอบถามเจ้าอาวาสวัดภูจ้อก้อให้ และท่านก็แจ้งมาว่า พระหมอท่านยังบวชเป็นพระ ตอนนี้อยู่ที่จังหวัดหนองบัวลำภู

    กล่าวโดยสรุปโลกใบนี้ช่างกลมเสียจริงๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2018

แชร์หน้านี้

Loading...