สอบถามนะครับ เกี่ยวกับกาม อภิญญา

ไม่ถูก จิฮับ

พระพุทธองค์ ทรงกำชับ กำกับ ลงไปในกาม โดย กำหนดพยัญชนะ
ไว้ว่า " กามคุณ " เพื่อ ป้องกัน พวก ที่จะอ้างเลห์ กินตับ แล้วไข่ทิ้ง

เราจะต้องไม่ลืมกำพืชของเราเด็ดขาด การเกิดของเรา การเกิดของมนุษย์
จะอาศัย กามของพ่อแม่ เป็น ปัจจัยในการ มาเกิด

การเห็น "กาม" แล้ว ปฏิเสธ กล่าวโทษ ด้านเดียว จะ เนรคุณ ทันที

พระพุทธองค์จึงอนุเคราะห์ ไม่ให้ พุทธบริษัท ตรึกในธรรมผิด โดย
ให้เรียก กาม ว่า กามคุณ

เพียงแต่ คุณนั้น มันมีน้อย

โทษนั้นมีมาก

โทษมีมาก หากเอามากำหนดรู้ ตมจะกลายเป็นฐานรากของ ดอกบัว

การตรึก ต้องตรึกให้ลงเป็น ขันธ์5 ธาตุ6 12 18 22 เข้าไว้ ถึงจะเป็น
การปรารภธรรม

ถ้าตรึกโดยไม่ลงเป็นขันธ์5 โลกเขาจะอาศัย บริภาษ พระศาสดา ว่า
สอนให้โลกเกิดความวิบัติ อันนี้ ลองสังเกตุดู

 

เชื่อมั๊ย
ไม่อยากเข้ากะทู้นี่เลย
ไม่ชอบคนหายใจถี่
เหมื่อนพวกจะคลอดลูก
ฟืดฟาด
ฟืดฟาด
ไปคลอดก่อนค่อยเข้ามาก็ได้นะ

 

ยกตัวอย่าง วันนี้ ในกระทู้ พันทิป

มี นักปฏิบัติท่านหนึ่ง ปฏิบัติไป ปฏิบัติมา เกิด อาการเก่งกว่า ศาสดา ขึ้นมา

โดยไป ยกพระสูตร ประมาณว่า อิตถีย์อินทรีย์ ชื่อว่า ไม่อิ่มจากเมถุนธรรม
และ การอยากมีบุตร

นักเลงพันทิพย์ ตรึกลงไปเป็น ธาตุ เป็น อินทรีย์ ไม่ได้ เลยไปแปลคำว่า
อิตถีย์ หมายถึง ผู้หญิง เท่านั้นแหละ ทำเป็นว่า ตนนั้นประเสริฐกว่า
กล่าวไม่เห็นด้วยที่ พระศาสดาไปกล่าวหาว่า ผู้หญิงเป็นเพศที่ไม่มีวัน
อิ่มจากการเสพเมถุน และ ไม่อิ่มการอยากมีบุตร

จริงๆ ต้อง ตรึกให้ลงเป็น ธาตุ

อิตถีย์อินทรีย์เป็น ธาตุ ที่มี เป็นฝ่ายโอบอุ้มกามคุณ(รูป) และ ย่อมไม่หมด
ความเมตตาอุทรณ์ต่อสรรพสิ่งเป็นดั่งบุตร

พูดอีกแง่ ต่อให้แก่แค่ไหน รูปอันเป็นไปเพื่อแสดงออกถึงกามคุณ จะปรากฏ
ที่อิตถีอินทรีย์ และย่อมมีเมตตาต่อทุกสรรพธาตุ (จึงสะท้อนออกเป็น รูปที่ให้
กามคุณ เช่น ความอ่อนช้อย มีน้ำมีนวล มีจริตจะก้าน สุภาพ ที่ผัสสะแล้ว
เกิดก่อความเพลิน)

ไม่ใช่เรื่อง เหยียดเพศ เป็นเรื่อง ธาตุ

อย่างกรณี คุณ จขกท เสพกามโดยวางจิตเป็นฝ่ายรับ เก๊กท่าเป็นฝ่ายดึงดูด
ให้อีกฝ่าย บริการ เนี่ยะ การเสพกามของบุรุษ จะเป็น ปัจจัยให้ไปเกิด
เป็นเพศหญิงในชาติหน้า ส่วนผู้หญิงที่เป็นฝ่ายกระทำ ตอนนั้น จะถือว่า
ผลิกเป็น ปุรุษอินทรีย์

ส่วนเพศชาย เพศหญิง หันมาใส่ใจธรรมาปฏิบัติ ตอนนั้น จะไม่ถือว่ามี
ปุรุษอินทรีย์ อิตถีย์อินทรีย์ จะเป็น สัตบุรุษ เสมอกัน

 

ใช่ เขาเขียน ถึงเรื่อง พรรณอย่างว่า

แต่ เป้าหมาย นั้น ปราถนาจะ ถกเรื่อง ออกจากกาม

ใครละเมอ เรื่องกาม แม้นแต่ อภิญญาโลกีย์ ยังโดนไล่ตะเพิด


พวกจานลาย สใส่เกือก พาเขาเข้าไปตรึก เรื่อง จานลาย

 

ใชเลยเห็นด้วยยยยยยย

 

ก็ไม่รู้ฅินะ
ไม่เคยมีเซ็กแบบไม่ถูกต้องซักกกกที
จะมีต้องประกาศให้โคตรพ่อโครตแม่รู้
ให้เกียตรโคตรเง้า
และลูกกลานที่เดินตาม
ให้เกียตรพ่อแม่ที่เลี้องดูมา
ไม่เคยเอาแค่มันส์มันขาดทุน
55555+

 

ตอนนี้เห็นโทษแล้วครับ
ดวงจิตมีการพัฒนาครับ

 

ทำให้เป็นเยี่ยงเป็นอย่าง
คนนะ
ไม่ใช่หมา

 

หายใจให้ยาวๆหน่อยละกัน
ไม่ใช่ถี่โลกนี้ยันโลกหน้า

 

ความรัก ด้วยความเมตตา ก็อย่างหนึ่ง
ความรัก แบบ พ่อ แม่ ก็อย่างหนึ่ง

ความรักแบบผัวเมีย ไม่สะอาด

มีหึงหวง เห็นแก่ตัว ไม่สละออก

ไปมีคนอื่นเมื่อไหร่ ตาย อีแก่ที่บ้านเอาตาย

ตายเป็นตายเลิกเป็นเลิก ฝ่ายชายก็สามารถ

ใช่ปืนฆ่าเมียท่ีตนแสนรักได้ ยิงหัวเลย เพราะพิษรัก รักขม

แต่ความรัก ของบิดา มารดา หญิงชาย ที่เป็นลูก

จะพลาดสักร้อยครัง จะมีผัวมีเมียสักร้อยคน

ความรัก จากพ่อแม่ ไม่เคยเสื่อมคลาย

 

สังเกตุ ตรงนี้ไปเลยะ ฮับ

ให้เห็นเป็น กระแสธรรม การโน้มไป ก็ได้ ถ้ายกอันนี้ได้ จะเรียกว่า รู้เร็ว

จิต มันไม่มีเพศ

พวกที่ สำคัญตัวว่า ตนมีเพศ นั่นคือ จิตที่ไม่เคยภาวนา ไม่เคยเกิด
ความเจริญ สัมผัสเศษเสี้ยวความเจริญ

จึงไปคว้า อุปทายรูป มาเผาจิต ให้จิตหมองไปตาม อุปกิเลส

ดังนั้น หากยกเห็น กระแสแห่งจิตที่โน้มไปในทิศทาง ไหลไปสู่
มหาสมุทร เนี่ยะ เราจะเริ่มเรียกว่า เป็นผู้ ปรารภความเพียร
มี วิริยรัมภา มี รัมภตวัตถุ ( วัตถุที่เป็นเหตุให้เกิดความเพียร )

เห็น จิตตรงนี้เป็นดังญาณ

เห็นญาณที่ยกนั้น เป็นสิ่งเกิดดับ

ต้องยกญาณต่างๆ เห็นเป็นสิ่งเกิดดับ ถึง จะแหวก มรรคส่วนที่เป็นสสังขาร

ถึงจะ เห็น "ตม มรรคส่วนตบแต่งขันธ์" เห็น ดอกบัว " มรรคฝั่งโลกุตระ"

 

ก็เพาะกามมันเป็นโทษ
ใจของปุถุชน มันเหมือนน้ำคลำ
มีดีมีชั่วปนกัน พระบรมศาสาดา
ชี้ทางให้ ทำน้ำคลำ ให้กลายเป็นน้ำใส
มีทางสายเอก มรรค มีองค์แปด มีอริยสัจสี่ เป็นทางเดิน

 

ถ้า ยังไม่มี ภาระ การเดิน มรรค ก็สะดวกในรูปแบบหนึ่ง

ถ้าเผลอไปมี ภาระ การเดินมรรค วินัย ก็จะ มีภาระเพิ่มไปอีก
แบบหนึ่ง

มีสิ่งร้อยรัดมากขึ้น ทุกข์ควรกำหนดรู้ทุกอย่าง รู้เร็วรู้ช้าจะอีกเรื่องหนึ่ง

ผู้มีหวัง คือ ผู้ที่แม้นจะมี ภาระยุ่งยาก แต่ ก็จัดการบริหารตนให้
ถูกต้องตามวินัย ตามภาระเหล่านั้น ก็จะสมหวัง พบ นิพพานได้


ผู้หมดหวัง คือ ผู้ที่ไม่เคยสัมผัสกระแส จมอุปทาน อุปทายรูป
แล้วอ้างว่า ตนเป็นศิษย์พระองค์นั้น มีความสำเร็จแล้วตามคำสอน
ของพระองค์นั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ฮีฑวยเต็มหน้า

 

????

 

เว้นจากการ พูดส่อเสียด
เว้นจากการ พูดคำหยาบ
เว้นจากการ พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล




คุณคุยกับใคร?

วจีกรรมสี่


วจีสุจริต
เว้นจากการ พูดเท็จ
เว้นจากการ พูดส่อเสียด
เว้นจากการ พูดคำหยาบ
เว้นจากการ พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล

 

รับทำไม
เขาว่าคนที่ใช่
ไม่ใช่ไม่ผิดนะะะะะะะ

 

ขอโทษที่ทำให้หมองใจ
นะ

 

ok ครับ

แค่อยากคุยกันด้วยเหตุด้วยผล ดีๆ ครับ

 

นับจากวันนี้เรามาคุยกันด้วยเหตุผลกันคะpig_ballet

 

ครับ อนุโมทนาครับ