สัมมาทิฎฐิเป็นไฉน( ไม่ธรรมดา )

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 5 มีนาคม 2009.

  1. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    เหมือนตอนมองใช่ป่าวพี่ ที่ว่า พอเห็น จะแบบ มองเห็น กับรู้ว่าเห็น

    พี่งง ก๊ะภาษาแว๊ด ป่าวนี่
     
  2. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    แว๊ดถ้าเธอทำได้ตามคุรุของเราแว๊ดจะสงบอย่างแท้จริง

    แว๊ดลองแนวคุรุของเราดูสิ


    การปฎิบัติธรรมทางด้านจิตจงเป็นผู้มีสติปัญญารู้เท่าทันความเคลื่อนไหวของจิตทุกลมหายใจเข้าออกและทุกอิริยบทเว้นเสียแต่หลับ เมื่อรู้ทันจิตแล้ว ต้องรู้จักรักษาจิต คุ้มครองจิตจงดูจิตเคลื่อไหวเหมือนเราดูลิเกหรือละคร เราอย่าเข้าไปเล่นลิเกหรือละครด้วยเราเป็นเพียงผู้นั่งดู อย่าหวั่นไหวไปตามจิต จงดูจิตพฤติการณ์ของจิตเฉย ๆด้วยอุเบกขา จิตไม่มีตัวตนแต่สามารถกลิ้งกลอกล้อหรือยั่วเย้าให้เราหวั่นไหวดีใจและเสียใจได้ฉะนั้นต้องนึกเสมอว่าจิตไม่มีตัวตน อย่ากลัวตจิต อย่ากลัวอารมณ์เราหรือสติสัมปชัญญะต้องเก่งกว่าจิต


    ความนึกคิดอารมณ์ต่าง ๆเป็นอาการของจิต ไม่ใช่ตัวจิต แต่เราเข้าใจว่าเป็นตัวจิตธรรมชาติคือผู้รู้อารมณ์คิดปรุงแต่งแยกแยะไปตามเรื่องของมัน แต่แล้วมันต้องดับไปเข้าหลักเกิดขึ้น ตั้งอยู่ดับไป คือไม่เที่ยง ไม่จีรังยั่งยืนทนได้ยากเป็นทุกข์ และสลายไปไม่ใช่ตัวตนมันจะเกิดดับ ๆ อยู่ตามธรรมชาติ เมื่อเรารู้ความจริงของจิตเช่นนี้เราก็จะสงบไม่วุ่นวาย เราในที่นี้หมายถึงสติปัญญา สัพเพ ธัมมา อนัตตา ธรรม (สิ่งทั้งปวง ) เป็นอนัตตาคือไม่ใช่ตัวตน<O:p


    นิมิตที่เกิดขึ้นขณะนั่งสมาธิมีอยู่ ๒ ประการ คือ ๑ .เกิดขึ้นเพราะเทพบันดาล คือเทวดาหรือพรหมแสดงภาพนิมิตและเสียงให้รู้เห็น ๒.นิมิตเกิดขึ้นเพราะอำนาจสมาธิเอง<O:p


    นิมิตจะเป็นประเภทใดก็ตามขอให้ผู้เจริญกรรมฐานจงเป็นผู้ใช้สติปัญญาให้รู้เท่าทันนิมิตที่เกิดขึ้นนั้นด้วยปัญญาอย่าเพิ่งหลงเชื่อทันทีจะเป็นความงมงายให้ปล่อยวางนิมิตนั้นไปเสียอย่าไปสนใจให้เอาจิตทำความจดจ่ออยู่เฉพาะจิต<O:p


    เมื่อจิตสงบรวมตัวจิตถอนตัวออกมารับรู้นิมิตนั้นอีก หากปรากฏนิมิตอย่างนี้ซ้ำ ๆ ซาก ๆหลายครั้งแสดงว่านิมิตนั้นเป็นของจริงเชื่อถือได้แต่อย่างไรก็ตามนิมิตที่มาปรากฏนี้อยู่ในขั้นโลกียสมาธิ นิมิตต่าง ๆจึงเป็นความจริงน้อย แต่ไม่จริงเสียมาก จงมุ่งหน้าทำจิตให้สงบเป็นอัปนาสมาธิอย่าสนใจนิมิต หากทำได้อย่างนี้ จิตจะสงบตั้งมั่นเข้าถึงระดับฌานจะเกิดผลคือสมาบัติสูงขึ้นตามลำดับ จิตจะมีพลังอำนาจอันมหาศาลฤทธิ์เดชจะตามมาเองด้วยอำนาจของฌาน
     
  3. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    เราเป็นผู้ดูใช่ป่าวพี่สี เหมือนเราดูมวยเขาชกกัน

    แต่นั่งมา ไม่เห็นมีนิมิตอะไรกับเขานะพี่สี

    เพราะครั้งแรกมาปฏิบัตินี่ ก็ แนวพองยุบเลย ไม่ได้ฝึกอะไรมาก่อน
     
  4. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
    ของอย่างนี้เห็นด้วนตาไม่ได้ นอกจากเห็นด้วยความรู้สึก
    ที่ว่าจิตเป็นดวงแก้ว เป็นโน่น เป็นนี่ นั่นไม่ใช่แล้วล่ะ

    อย่างแว๊ด นั่งสมาธิ เกิดเวทนา ปวดเมื่อย แว๊ดรู้สึกใช่ไหม แต่ไม่เห็นตัวเมื่อย แต่ก้รู้ว่ามี

    ทีนี้ เมื่อย อะไรเป็นรูป อะไรเป็นนาม มันก็อยู่ในที่เรากำหนด ปวดหนอนั่นแหละ

    ต่อมาเมื่อสมาธิละเอียดขึ้น มันก็จำแนกสภาวะได้มากขึ้น
    เกิดขึ้นเราก็รู้ ตั้งอยู่เราก็รู้ ดับไปเราก็รู้ เมื่อดูนานๆเข้ามันก็เป็นปัญญา รู้จริงว่าไม่เที่ยงเป็นอารมณ์
    ตรงนี้คือสิ่งที่หนังสืออธิบายยังไงก็ไม่เข้าใจ ถูกไหม

    การดูจิตก็เหมือนกันในหลักการ รูปนาม และไตรลักษณ์
     
  5. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
    ทุกอย่างที่ท่านนึกออกครับ แต่อ่านผ่านๆ เพราะหัวไม่ถึง หุหุ
     
  6. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    เก็ทเลยพี่ ดูมันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เหมือนดู พองหนอ ตอนมันพองตั้งแต่แรก ตอนกลาง แล้วก็ปลาย พร้อมกับลมหายใจ พร้อมกับคำบริกรรม พร้อมกับอาการพอง
     
  7. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
    [​IMG] พระธรรมที่ยกมา หลวงปู่เทพอุดรนี่
     
  8. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    ไปนอนแล้วกั๊ป ขอบคุณ พี่ ๆ ทุกคนเน้อ

    และกราบขอภัย ขออโหสิกรรม ที่อาจจะผิดพลาดเพราะรู้เท่าไม่ถึงการ
     
  9. บุคคลทั่วไป 1 คน

    บุคคลทั่วไป 1 คน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +7
    สหายโชแปงเคยเอ่ยถึงเรื่องเต๋า
    สหายโชแปงคิดว่าท่านเหล่าจื๊อลิ้มรสชาถ้วยเดียวกับพระพุทธเจ้าหรือไม่?
     
  10. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
    นั่นแหละดูมันทั้งนอกและในสมาธิ หมายถึงอิริยาบถย่อยเราก็ไม่ทิ้ง
    ก็จะเข้าใจเรื่องจิต เพราะในแต่ละวัน เราคิด เราโกรธ เราเซ็ง เราชอบ หมุนเวียนไปเรื่อย
    ถ้าไปสนองมัน ก็เป็นเรื่องกรรมไป ก็ลองคิดดูเมื่อห้านาทีที่แล้ว อารมณ์เราเป็นอย่างไร ก่อนนั้นอารมณ์เป็นอย่างไร

    ทีนี้เมื่อเข้ามาดูอารมณ์ ก็จะรู้ว่า มันเกิดๆดับๆ เป็นกรรมหมุนอยู่อย่างนั้น

    นี่ ผู้ปฎิบัติสูงมักจะสร้างเหตุดี บรรเทากรรมได้เพราะสิ่งนี้
    คนเข้าวัดปฎิยัติแวดีขึ้น ชีวิตดีขึ้น ไม่ใช่เรื่องคุวิเศษ แต่เป็นเรื่องเข้าใจธรรมชาติ เข้าชีวิต เข้าใจอารมณื
    เมื่อทัศนะเปลี่ยน อะไรๆมันก็สะเทือน เปลี่ยนไปเป็นธรรมดา
     
  11. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
    หมายถึง เต๋ากับ พระนิพพานคือสิ่งเดียวกันนั้นหรือ

    ผมเข้าใจว่า เต๋าเป็นการพรรณา
    ในยุคนั้น นักปราชญ์ทางปัญญามาก เห็นว่าร่วมสมัยกับพุทธเจ้า

    พระพุทธองค์สอนว่า ลัทธิเหล่าใดมีคำสอนอยู่ในมรรค8 ลักธิเหล่านั้นเป็นสัมมาทิฎฐิ

    นิกายเชน ก็แนวคิดเดียวกันแต่สุดโต่งในเรื่องกรรม นั่นเขาก็พูดถึงนิพพานนะ

    ส่วนเหล่าจื้อลิ้มชาเดียวกับพุทธเจ้าหรือไม่
    กระผมคิดว่า ชาอินเดีย ไม่น่าถูกปากชาวจีนนะ หุหุ
     
  12. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ไม่มีศาสนาใดนอกจากพุทธ เข้าถึง อริยะบุคคล แม้แต่พระโสดาบัน

    เซ็น อ้างว่าเป็นพุทธ ก็ไม่ใ่ช่พุทธ เพราะดูแล้ว ศีล สมาธิ ปัญญา ไม่มีครบ
    และ ทำกุศลให้ถึงพร้อม ละอกุศลทั้งปวง และ ทำจิตตนให้ผ่องใส ไม่มี
    ก็จะบอกว่า เซ็นเป็นพุทธ ความเห็นของผมคือไม่ใช่ และอีกประการหนึ่ง

    ศาสนาใดก็ต้องมี พระศาสดา ซึ่งพระพุทธองค์กล่าวไว้แล้วว่า นับแต่เราปรินิพพานไป พระธรรมและพระวินัยที่เรากล่าวไว้แล้ว จะเป็นศาสดาแทนเรา

    นั่นหมายความว่า กลุ่มบุคคลที่ไม่ถือพระไตรปิฎก กลุ่มบุคคลใดจะเอาแต่ปัญญาตนเป็นหลัก
    และ ไม่ถือวินัยตามพระพุทธองค์ ตามพระไตรปิฎก นั่นไม่ใช่ลูกศิษย์ตถาคต
     
  13. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ก็ เซ็นติดตรงไหนผมจะพูดให้ฟัง
    ในฐานะที่ผ่านวิกฤติเซ็นมาแล้ว เซ็นจะได้เพียงโคตรภู และ อาจจะไม่ได้เสียด้วยซ้ำ
    เนื่องจากติดที่ทัสนะ เช่น จะเห็นได้ว่า มักมีการพูดในการเพิกสมมติ

    มีวิธีการหนึ่ง มาจาก ปรมาจารย์เซ็น ท่านหนึ่ง ชื่อว่า รินไซ ปรมาจารย์รินไซ จะหน้าตาดุร้าย และ ใครถามอะไรท่านเกี่ยวกับธรรม บางทีท่านก็เปล่งเสียง กา ใส่หน้าเอาเฉยๆ
    บางทีก็หวดด้วยไม้เดี๋ยวนั้นเลย เพื่อที่จะทำให้ จิตของคนที่กำลังสงสัยนั้น เปลี่ยนจากคิดเป็นรู้สึกทันที ก็จะเอะใจ บางคนลืมไปเลยว่าตนเองสงสัยอะไรอยู่

    ถึงกับบางทีทัสนะเกิดเห็นธรรมทันที

    แต่ว่า กิเลสอันดองอยู่ในสันดานของสัตว์ มาเป็นเป็นอสงไขย ไม่มีทางที่จะลบไปในขณะนั้นทันทีเป็นเพียงทัสนะที่เกิดได้เท่านั้น ก็ยังถือว่า ติดวิปัสสนูกิเลส

    ทีนี้ หากว่าตนไม่บำเพ็ญละกิเลส เจริญปัญญาต่อ ไม่นานหรอกอวิชชาจะเข้ามาปิดบังแล้วจะมืดไปเลย
     
  14. บุคคลทั่วไป 1 คน

    บุคคลทั่วไป 1 คน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +7
    ถามคุณขันธ์หน่อยสิ
    งั้นแสดงว่าพระจีนไม่มีใครบรรลุธรรมเลยเพราะว่าไม่ได้ถือพระไตรปิฏกเหมือนเถรวาท
    อันนี้สรุปถูกไหม?
     
  15. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
    ทางนั้นมุ่งไปทางโพธิสัตว์
    แต่ผมรู้แต่เปลือกนะ ที่เห็นๆก็เน้นทำบุญ เน้นนรกสวรรค์ อันไม่เป็นที่สุดแห่งธรรม
     
  16. บุคคลทั่วไป 1 คน

    บุคคลทั่วไป 1 คน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +7
    แหมท่านโชแปง พระไทยก็มีเน้นทำบุญ เบิกบุญ กู้บุญ
    พระจีนก็ไม่ใช่ว่าจะเน้นทำบุญ เน้นนรกสวรรค์ ไปเสียทุกคนนี่ :)
    ว่าแต่โพธิสัตว์นี่คืออะไร?
     
  17. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    สรุปไม่ถูก เพราะพระจีนนั้นอาจจะศึกษาหนทางใน ขันธ์ 5 และวิปัสสนาญาณก็อาจจะบรรลุธรรมได้

    เว้นแต่ เขาไม่ได้ศึกษาตามแนวแห่งพระไตรปิฎกเลย และ ไม่เจอผุ้ชี้ทาง คือพระอริยะเลย นั่นแหละ เขาไม่มีทางจะบรรลุธรรมแน่
     
  18. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
    555+ เบิกบุญ กู้บุญ บริจาคเท่านี้ได้วิมารแบบนี้เนอะ
     
  19. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เพราะว่า มรรคมีองค์ 8 เท่านั้นที่จะพาคนเข้าถึงสัจธรรมสูงสุดได้

    แต่ศาสนาอื่น ไม่มีมรรคมีองค์ 8 นะ

    ใครถามเราว่า ศาสนาเรามีดีอะไร ต้องบอกว่า ศีล สมาธิ ปัญญา และพระพุทธองค์ตรัสรู้ อริยสัจสี่ ซึ่งไม่มีศาสนาไหนสอนครบถ้วน
    และที่สำคัญ ต้องตามอริยสัจสี่เท่านั้น จึงจะเข้าถึง สัจธรรมได้

    ศาสนาอื่น เป็นได้แค่ กุศล ความไม่ทันอกุศลเขาไม่ได้สอน
    เขาไม่ได้สอนวิธีต่อสู้กับอกุศลอันละเอียด แต่เขาสอนให้ทำดี

    บ้างก็สอนเฉพาะปัญญา อันเป็นการทำให้จิตผ่องใสด้วยการคิด ด้วยทัสนะ แต่ก็ไม่ได้สอนให้ละอกุศล หรือ ทำกุศลให้ถึงพร้อม เช่น เซ็น หรือ วิธีการใหม่คือ นั่งรู้ดูเฉย อันเริ่มจะเข้าข่ายเซ็นนี่แหละ

    คือตัดคำสอนในส่วน การละอกุศล และ การทำกุศลให้ถึงพร้อมของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ออกไป
     
  20. บุคคลทั่วไป 1 คน

    บุคคลทั่วไป 1 คน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +7
    ก็เห็นในพระสูตรเว่ยหลางเขาก็มีเรื่องให้พิจารณาขันธ์ 5 นี่คุณขันธ์ ส่วนพระเซ็นที่แบบนั่งตระโกน กา ใส่หน้านี่ก็คงเป็นเฉพาะคนๆ ไปหรือเปล่า?

    ถามคุณขันธ์อีกข้อนะ เราจำเป็นต้องไปหาครูบาอาจารย์แบบเห็นหน้าเห็นตาจริงๆ เลย จึงจะบรรลุธรรมเหรอ? ที่ผ่านมานะ ผมอาศัยอ่านหนังสือ แล้วก็ลักฟังเอาแถวนี้ คุณขันธ์ว่าไม่ work เหรอ :)
     

แชร์หน้านี้

Loading...