สัมมาทิฎฐิเป็นไฉน( ไม่ธรรมดา )

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 5 มีนาคม 2009.

  1. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ผมโทรไปถามที่ธรรมสภา ประมาณเดือนก่อนนะครับ......เพราะได้ไปเจอหนังสือวิสุทธิมรรค สำหรับประชาชน ที่หอสมุด มจร. ธรรมสถาบอกว่าไม่มีเลยครับ....เป็นหนังสือจ้างพิมพ์ ....ฉบับอื่นก็ไม่มีนะครับ........

    ตอนนี้ยังหาอยู่เลยครับ........
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    เน้นแนวพิจารณา สุญตา อิทธิพล แนวคิด จากพระสูตรหลัก กมลสูตร....
     
  3. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    แหะ แหะ ผมก็อธิบายเลยไป ทีนี้ คุณต่อทางที่ขาดหายไปไม่ได้
    อาจจะออมมือ เพื่อให้ผมได้ระบายคำบรรยาย

    ก็ต้องขออธิบายเข้ามาตรงๆ

    มรรค กับ ผล นั้นแยกออกจากกันยาก

    เพราะ มรรค คือ ทางปฏิบัติ แนวทางปฏิบัติ วิธี่ปฏิบัติ

    แต่ปฏิบัติไปเพื่ออะไร ก็ต้องเพื่อให้เห็น ผล

    ดังนั้น เวลาพูดมรรควิธีปฏิบัติ ก็จะตามด้วยผล เสมอ

    เช่น สอนการยิงธนู เราก็จะสอนการเล็งที่เป้าหมาย ชี้ที่เป้าหมาย
    แล้วก็ค่อยสอนการเหนี่ยว การวางคันศร การโน้มน้อมในจะหวะที่
    พอดีแก่การถึงเป้าหมาย ตึงไปก็เลย(ผล) หย่อนไปก็ไม่ถึง(ผล)

    ทีนี้ มันก็ง่ายๆ หากฟังเผิน มันก็เข้าใจว่า การยิงธนู ก็คือการเหนียว
    คันศรด้วยลูกธนู แล้วยิงไปที่เป้า ....หากเราใช้การปลงใจเชื่อ เรา
    ก็ได้แต่เข้าใจ

    แต่ถ้าเรามาลองเหนี่ยวคันศรจริงๆ จะพบว่า ไม่ง่าย การวางท่าทาง
    ก็ไม่ง่าย การเหนี่ยวคันศรก็ไม่ง่าย การปล่อยคันศรก็ไม่ง่าย การให้
    เข้าเป้าก็ไม่ง่าย ทุกอย่างจะมีรายละเอียดระหว่างการปฏิบัติเต็มไปหมด

    ก็จะถึงเวลาที่ลูกศิษย์จะถามครู ว่ายิงอย่างไร

    ครูก็จะตอบเอื้อไปว่า คันศรที่เหนี่ยวต้องตึงพอดีแก่กำลังมือที่เหนี่ยว
    หากดึงมาสุดกำลัง ตัวจะสั่น หากดึงเบาไปลูกศรก็จะไม่ตรง ฟังเสร็จ
    แล้วก็ไม่ควรน้อมใจเชื่อ ก็ต้องไปปฏิบัติด้วยตัวเอง ต้องอาศัยกำลัง
    ของตัวเองพิสูจน์ และหาจุดที่สุดกำลังของตัวเอง ก็จะพบว่าจุดไหนที่
    พอดีสำหรับตัวเองในเวลานั้น ตรงนี้ก็เหมือนการทำสมถะสมาธิ ที่เรา
    ต้องไปทำเพิ่มทีละน้อยๆ ให้มีกำลังเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่เพิ่มมากเกินไป ต้อง
    พอดีกับชนิดของคันศร เคยดูเรื่องจูมงไหม คันศรทาโม อันนี้คนไม่
    มีกำลังดึงไม่ได้ ดึงได้ก็ยิงได้ไม่ไกล แต่จูมลเหนี่ยวจนหัก! คันศรแต่
    ละชนิดจะมีระยะเหนี่ยวที่เหมาะแก่การยิงไม่เหมือนกัน เหมือนฌาณนั้น
    มีหลายชนิด

    ลูกศรที่ปล่อยออกไปก็ต้องเรียบ ขนปลายเรียบ หัวศรเรียบและคม ดั่ง
    การมีศีลที่บริสุทธิ หากศรมีเสี้ยน ขนปลายไม่เรียบ หัวศรทู่ แม้จะถึงเป้า
    ก็ไม่อาจปักเข้าไปได้ ถึงผลแต่ไม่เข้าในผล

    ที่นี้ทั้งสมาธิ และ ศีลก็ปรับกันไปตามแต่จังหวะ ต้องพอเหมาะแก่
    สถานการณ์ ที่เหลือ คือ การตามรู้ ตามรู้สึก จะยิง จะเหนี่ยว จะทำ
    สมาธิ จะขัดคันศร จะปล่อยคันศร จะต้องตามรุ้สึก รู้สึก ตามสิ่งที่
    มีตามจริง ตามที่ปรากฏ ก็จะได้ปัญญา เห็นความไม่เที่ยงในสิ่งที่
    ปรากฏ เราก็จะเป็นนักยิงธนูที่ยิงเข้ามรรคผลได้อย่างมีผลเร็ว
    เพราะการ รู้สึก รู้สึก ตามรู้สึก จะทำให้เกิดการตั้งมั่นรู้ และทำให้มี
    ปัญญาในการปรับทุกสิ่งให้มันเป็นกลาง เข้ากลาง ไม่แฉลบซ้ายขวา

    . . . .

    ชักยาว ขอตัดแค่นี้ก่อน ไม่ทราบว่า พอเข้าใจ มรรค กับ ผลไหม

    อ้อ ผลนี่ ก็เหมือน ยิงธนูแบบหลายเป้า เอาเป้ามาวาง มากาง แล้ว
    กำหนดเป็นแผนการยิง ต้องยิงไปทีละเป้าตามลำดับ เป้าเยอะไปก็
    ไม่มีประโยชน์ เป้าเยอะ ก็มรรคเยอะตามไปด้วย มรรคที่เยอะไปเพราะ
    เป้ามีจำแนกเยอะไปหมดเป็น 100 อาการปิติ แบบนี้ก็เสียเวลา เรียก
    ว่า มรรคมาก(อ่าน มักมาก)

    เพราะสิ่งสำคัญคือ เป้าหมายสุดท้ายนั้นสำคัญที่สุด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2009
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ขอแนะนำล่วงหน้าเลยนะ

    เมื่อถามถึง มรรค กับ ผล แล้ว ควรรู้จักคำว่า ปริยัติ ปฏิบัติ และ ปฏิเวธ ด้วย

    ปริยัติ ก็คือคำพูดที่ผมเล่าๆ ให้ฟัง สมมติกันออกมาจากความรู้สึก อาจจะ
    สมมติตรงกัน หรือไม่ตรงกัน ถ้าตรงกัน ก็เข้าใจกัน สื่อสารกันสำเร็จ

    ปริยัติ นี่จะให้ดี ก็ควรหาคำกลางเอาไว้ใช้ จะสมมติกันเองก็อาจจะพาหลง
    กันไป ดังนั้น ปริยัติจึงมักไปลงที่ คำบาลี สันสกฤติ แล้วประชุมรวมกันเรียกว่า
    พระไตรปิฏก

    ปฏิบัติ(มรรค) อันนี้ ขึ้นกะคุณแว็ด ล้วนๆ ว่าจะเอาไปปฏิบัติอย่างไร ตอนไหน มีศิลป
    ในการหาจังหวะปฏิบัติแค่ไหน

    ปฏิเวธ(ผล) ที่ต้องเอามาถามผู้รู้ เพื่อรับปริยัติไปปฏิบัติเพิ่มอีกที หากปริยัติที่ได้
    รับไปทบทวนแล้วตรงพระไตรปิฏก ก็จะแจ่ม มั่นใจได้ว่า ปฏิบัติ ปฏิเวธ ที่ตนทำ
    นั้นจะพาไปถึง นิพพาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2009
  5. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    พระพุทธเจ้าอิทัปปจยตาเพราะมีสิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้จึง<WBR>เกิดขึ้นธรรมทั้งปวง
    เราจะแก้ปัญหาที่ท่านถามถึงที่ดับของนามรูปทั้งหมด ไม่มีเหลือแก่ท่าน เพราะวิญญาณดับไปก่อน นามรูปจึงดับไป ณ ที่นั้นเองคือ ปฏิจจสมุปบาท เป็นพระธรรมที่ว่าด้วยสาเหตุแห่งการเวียนว่ายตายเกิด และ ถ้าต้องการทำให้การเดินทางในสังสารวัฏของเราหักสะบั้นลงต้องนั่งให้ทุกข์แตกและเพราะดับวิญญาณได้แล้วภพใหม่จึงไม่มี
     
  6. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    คุณนิวรณ์ กับคุณ พระศรี ครับ........คุณคิดว่า พุทธศาสนา มหายาน มีพระอรหันต์เหลืออยู่ไม...
     
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    หา.....

    เอ่อ ....เอาไงดี....ขอสวมวิญญาณคุณโชแปงตอบละกัน

    มหายานนั้น ใครอ่านก็รู้ว่า เป็นเรื่องว่าด้วยมรรค

    ดังนั้น คนสำเร็จผลนั้นมีหรือไม่ ไม่รู้ รู้แต่ว่า คนเดินมรรค นั้นมี.....หุหุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2009
  8. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ตอบง่ายๆนะครับ ในเมื่อมีคนเดินมรรค คนที่ได้รับผล(ของการเดินมรรค)ก็น่าจะมีสิ..ครับใช่ไม.....
     
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ผมเคยอ่านพระสูตรหนึ่ง เกี่ยวกับโควัตร หรือ ทางเดินของโค

    โดยบริบทของคำว่า โค ในนี้คือ อึด แต่เป็น อึด ที่หมายถึงเนิ่นช้า
    แต่ก็ไม่ถึงกับ ถึก ที่ไม่ตรงมรรคผล

    บทพระสูตรที่ว่าด้วย โควัตร ก็จะกล่าวชมไปในด้าน การเป็นผู้ฉลาด
    ในการก้าว โคนั้นจะฉลาดที่จะก้าวย่ำลงไป เพราะทางของมันนั้น
    เดินวนๆ ซ้ำๆ ทำให้ทางมีหลุม มีบ่อ อันตรายต่อการเดิน การเดิน
    ของโคจะเดินย่ำแบบลอยๆ ก่อน พอรู้ว่ามีพื้นที่ดีก็ค่อยย่ำลงไป

    ตรงนี้เปรียบเหมือนคนที่ทำกรรมฐานให้ถึงฌาณ8 คือ จะเดินให้ถึง
    อรูปฌาณครบหมด รู้ถ้วนในความว่างที่ไม่ใช่ เสร็จแล้วพอรู้ว่าตรง
    ไหนใช่ก็ย่ำลงไป ก็จะพอดี

    ก็เหมือน อุมงค์ ที่คุณธรรมภูติยกมา พรหมนั้นพอเห็นตนก็จะเผิก
    รูปฌาณ อรูปฌาณออกได้หมด ก็ถึงความบริสุทธิแบบมั่นใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2009
  10. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    พระสูตร โควัตร นี่เป็นพระสูตรมหายานเหรอครับ....
    คุณนิวรณ์ เข้าใจเทียบ กับฌาน 8 นะครับ....
     
  11. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    การปฏิบัตินั้น ไม่ว่าจะทางไหน อย่างไร ถ้าทำไปเพื่อรู้ จะพาไปทางที่ถูก

    แต่ทำเพื่อได้ชื่อว่าทำ ทำเพื่อครองการทำ ทำเพื่ออยู่ เพื่อเป็น ก็จะผิดหมด

    คำว่า รู้ ก็คือ เห็นด้วยตาธรรม

    ในอริยะสัจจ ธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสแสดงโดยลำดับเสมอ หากพิจารณา
    ให้ดี ก็จะพบกริยาตัวแรกคือคำว่า รู้ ซึ่งมาจากวลี รู้ทุกข์(สัจจ)

    ดังนั้น แม้จะเป็นสุญญตา รูปคือความว่าง ความว่างคือรูป ฯลฯ ถ้าทำเพื่อเห็น ก็จะ
    ไม่มีปัญหา ก็จะเหมือนคนที่ย่ำเท้าหยั่งเข้าไปวัด เข้าไปตรวจ ตรวจกับอะไร ก็
    สภาวะธรรมคู่ที่ไม่ว่าง เนื่องจากเป็นการหยั่งลงไปเพื่อรู้ ไม่ใช่เพื่ออยู่ เพื่อเป็น
    ไม่ใช่เพื่อสมาบัติ สุญญตาสมาบัติ แต่ทำเพื่อรู้ว่า ว่าง กับ ไม่ว่างต่างกันอย่างไร

    ว่างที่ปราณีต ยังมีธรรมคู่ที่ไม่ว่างเป็นของคู่ไหม ถ้ามีของคู่ ก็จะไม่ตรงกับประโยค
    ที่ว่า รูปคือความว่าง ว่างไม่อื่นจากรูป ฯลฯ ก็จะปรากฏว่า มีการไป มีการมา ก็จะแจ้ง
    ว่าไม่ใช่ธรรมหนึ่ง ก็จะไม่ย่ำลงไปในความว่างชนิดนั้น ก็จะหาความว่างไปเรื่อยๆ จน
    กว่าจะพบของจริง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2009
  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    โควัตร นี่ของ เถรวาท ครับ แต่ไม่รู้สะกดถูกหรือเปล่านะ คำว่า วัตร
     
  13. เกสท์

    เกสท์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +18
    ประสา เซ็น ใคร ก็ เซ็น ได้
    ขอให้มีปากกากับกระดาษเท่านั้นก็เซ็นได้
    ถึงไม่มีกระดาษขอให้มีปากกาก็เซ็นได้
    เซ็นทีฝาผนังก็ยังได้
    จะไปยากอะไร

    เรื่องของเซ็นนี่นะ เนื้อหาทางด้านธรรมะ ของเซ็นนี่
    ก็เปรียบธรรมะระดับมหาวิทยาลัย ของศาสนาพุทธ
    แต่เซ็นโผล่มาตูม ก็ระดับมหาวิทยาลัยเลย
    ไม่พูดถึงที่มาที่ไป ไม่พูดถึง ก.ไก่ ก.กา อนุบาล ประถม มัธยม
    โผล่มาตูมก็ มหาลัยเลย

    แล้วคนไม่เคยเรียน ก.ไก่ ก.กา อ่านหนังสือไม่ออก
    แล้วเอาหนังสือระดับมหาวิทยาลัยมาให้อ่าน
    แล้วมันจะรู้เรื่องมั้ยนี่

    นี่ล่ะ เซ็น ใคร ก็เซ็นได้ ของให้มีปากกา ดินสอ เท่านั้นพอ
    ถ้าไม่มีปากกา ไม่มีดินสอ
    เดี๋ยวเอากิ่งไม้ เซ็นบนพื้นดินก็ยังได้

    ประสา เซ็น
     
  14. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    พอดีผมกำลังคุยกันกับคุณขันธ์ คุณโชแปงอยู่แล้วก็มีหลายท่านร่วมด้วย...นะครับ.....ก็เลยจะเทียบกันว่าในมหายานนั้น จริงๆ แล้ว มีการปฏิบัติให้เข้าถึงการเป็นพระอรหันต์ กันบ้างไม.......

    บางท่านก็บอกว่ามี บางท่านก็บอกว่าอาจไม่มี......
    ผมก็เลยยกพระสูตรหนึ่งขึ้นมา คือกมลสูตร นะครับ

    เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องที่ไกลตัว หรือ ไม่เกี่ยวกับเรา แต่จริงๆ แล้ว ถ้าเอาหลักธรรมจากการเสวนา....และจากพระสูตรมาปฏิบัติจนเกิดผลก็น่าจะมีประโยชน์ต่อเราเองและผู้ปฏิบัตินะครับ......

    ก็เลยอยากจะขอความคิดเห็นของคุณ นิวรณ์หน่อยนะครับ

    คุณนิวรณ์เคยรู้จัก กมลสูตรไมครับ.....

     
  15. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    ตอบตรง ๆ ไม่วกวน เก็ทเลยท่าน
     
  16. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    มรรคที่แว๊ดเข้าใจ ใช่งี้ป่าว

    มรรคมีองค์ ๘ ที่มี ดำริชอบ วาจาชอบ (จำไม่ได้หมด แหะ ๆ )ฯลฯ ก็คือการกระทำ การปฏิบัติ ที่เราปฏิบัติกันอยู่นั่นเอง รวมทั้งหนทางการปฏิบัติ ที่ว่า มี ๔๐ กอง แล้วแต่จะถนัดทางไหน

    ผล ก็คือ เหมือนผลที่เราปฏิบัติใช่ป่าว เหมือนบวกเลข แล้วผลลัพท์ ออกมางี้ใช่ป่าว
     
  17. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    งี้ถ้าแว๊ด เอาการปฏิบัติของแว๊ด ไปเทียบกับปริยัติ ถ้าตรง ก็โป๊ะเชะ ใช่ป่าวคะ ถ้าไม่ตรงก็มุดต่อไป อิอิ
     
  18. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เรื่อง มหายาน นี่มีพระอรหันต์ไหม ผมบอกตามตรงว่าไม่มีครับ

    เพราะว่า สัมมาทิฎฐิไปไม่ถึง

    สัมมาทิฎฐิ จะไม่มุ่งไปที่ภายนอกเลย ดังนั้นเรื่องของ พระโพธิสัตว์ต่างๆ นี้ไม่มีแล้วครับ

    มีแต่ กิเลส อวิชชาในใจว่ามันเกิดอย่างไร ดับอย่างไร

    อย่างอื่นไม่ต้องสนใจกัน เพราะเป็นเรื่องไกลตัวมาก

    ทีนี้ จริงๆ แล้ว เซ็นก็ไม่ใช่มหายานด้วยซ้ำ เพราะเซ็นก็เป็นแบบของเซ็นไม่ได้นับถือพระโพธิสัตว์ และก็เป็นแบบฉับพลันด้วยซ้ำ รวมถึงเซ็นฉีกตำราทุกชนิดทิ้งด้วย

    ดังนั้น ถ้าจะให้ผมเรียงลำดับความสมบูรณ์ คือ เถรวาท เซ็น มหายาน ซึ่งมหายานนี้เทียบเท่า ศาสนาที่มีพระเจ้าทั่วไป คือ มีแต่กุศล
    เซ็นนี้ ออกมาทางพุทธที่ใช้ปัญญา แต่ก็จะเห็นว่า ความสมบูรณ์ นั้นยังไม่รวม การละอกุศลทั้งปวง และ การทำกุศลทั้งปวงให้ถึงพร้อม เซ็นปฏิเสธจุดนี้
    ส่วนพุทธที่แท้จริง จะต้องทำกุศลให้ถึงพร้อม ละอกุศลทั้งปวง และ ทำจิตตนให้ผ่องใส

    ตรงนี้แหละ จึงจะอบรมให้ กุศลก็เห็นได้ละเอียด อกุศลก็เห็นได้ละเอียด จิตผ่องใสก็ทำได้ละเอียด มันต้องดึงกันไปทั้งสามประการ
     
  19. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    ช่วงนี้ไอ่แว๊ด ท่าจะกระเจิง มาธิแย่ ๆ สงสัยต้องปลีกวิเวก
     
  20. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร(กมลสูตร) รจนา โดย ท่านนาคารชุน เมื่อพระพุทธศาสนา
    ล่วงไปได้ประมาณ 700 - 800 ปี

    วิสุทธิมรรค รจนา โดย ท่านพุทธโฆสะ เมื่อพระพุทธศาสนา
    ล่วงไปได้ประมาณ 1,000 ปี

    ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร(กมลสูตร) เป็นคัมภีร์สำคัญ ฝ่ายมหายาน
    มีอายุเก่ากว่า วิสุทธิมรรค ประมาณ 200 ปี

    วิสุทธิมรรค เป็นคัมภีร์สำคัญ ฝ่าย หินยาน(เถรวาท)
    มีอายุ อ่อนกว่า ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร(กมลสูตร) ประมาณ 200 ปี

    ทั้ง 2 คัมภีร์ อาจกล่าวได้ว่า อยู่ในหมวด ของอรรถกถา.....
     

แชร์หน้านี้

Loading...