สัมมาทิฎฐิเป็นไฉน( ไม่ธรรมดา )

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 5 มีนาคม 2009.

  1. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ถ้าใครต้องการกุศลคือความฉลาดในทางธรรมะขอจงอนุโมทนาเอาเถิดท่านผูเจริญทั้งหลาย

    พระศรีเข้าสมาบัติอยู่หรือ
    ท่านแสดงธรรม มีใครรับรู้ธรรมของท่านไหม
    ท่านจะอธิบายธรรมว่าอะไรหนอ

    โชแปงและทุก ๆ คนในสากลโลก
    คืนนี้เราจะเข้าผลสมาบัติขณะจิตเดียว

    แค่ทำจิตให้สงบเท่ากับช้างกระดิกหูงูแลบลิ้น
    ย่อมมีอนิสงส์มากกว่าการสร้างมหาเจดีย์
     
  2. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
    จะเล่าอย่างนี้ ฮวงจุ้ยมีจริงไหมตอบว่ามีจริง
    เปลี่ยนแปลชีวิตได้ไหมตอบว่าได้

    มันมีหมอฮวงจุ้ยอยู่สองประเภท
    ประเทภแรก ไสยศาสตร์ล้วนๆ อธิบายอะไรไม่ได้ มันก็ไปน้ำขุ่น ให้ทุบให้ถอนบ้านกันมาก
    ไหว้หมู ไหว้ไก่

    อีกประเภท คือรู้หลัก รู้ที่มาที่ไปรู้ดินฟ้าทิศทาง และนิสัยเจ้าเรือน ทุกอย่างอธิบายได้ นี่วิทย์ไหม
    ที่จริงหลักมันมีอยู่ เพราะสังเกตุความสมดุลของธรรมชาติ
     
  3. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
    คิดถึง คิดถึง หายไปไหนมาจินนี่
     
  4. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ไปพักผ่อนที่กาญจนบุรีมา ชื่อแพชมดาวครับ ^-^
     
  5. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
    รู้สึกผมสร้างเหตุให้สหายธรรมไม่พอใจอยู่หลายท่าน
    แค่ต้องการมาล้างไพ่ และ เดินตามชื่อกระทู้ เพราะสัมมาทิฏฐิทางโลกนั้นกว้างนัก
    แต่ทางธรรมกว้างกว่ามากนัก มีอะไรหลายอย่างที่เราไม่รู้แล้วปักใจเชื่อจน สงสัยแล้วปักใจเชื่อ เพราะเขาว่า หรือทำตามๆกันมา

    หากจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ถึงน้อยก็หนึ่ง
    หากปล่อย นานวันจะเติบขึ้นเป็นอัตตา
    เมื่อยากจะเข้าถึงพระรัตนตรัย แม้มองเห็นอยู่ข้างหน้าก็ตาม

    ไปล่ะครับ พบกันคราวหน้า จะเป็นหมาหรือลิงหนอ หุหุ
     
  6. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    แว๊ดบ่อยพี่โชแปง เรื่องสร้างเหตุให้คนอื่นไม่พอใจ ปกติไปแล้วอะค๊าป

    แต่แว๊ดจะเป็นว่า พูดแล้วทิ้ง แต่ใครจะเก็บใส่ตระกร้าไม่พอใจ ก็เรื่องของเขา เหมือนเย็นชา ชาเย็นไหมนี่ หุหุ
     
  7. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    ลืม... มอร์นิ่ง ๆ ทุกท่าน ใครเข้ามาแว๊ด ดัก แล้วนะ
     
  8. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ดักลอบต้องหมั่นกู้

    ฟัง คิด ถาม เขียน

    หัวใจนักปราชญ์
     
  9. Sujinno

    Sujinno Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +90
    ลองดูที่มหาจุฬาบรรณาคาร ข้างวัดมหาธาตุ แถวนั้นมีหลายร้านอาจจะมี
     
  10. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    พี่สี แว๊ดถามน่อย ตอนเข้าผลสมาบัตินี่อะ จะเข้าแบบขนิกสมาธิแล้วเข้าไปเลยใช่ป่าว แว๊ดย้อนไปอ่าน เห็นพี่สีบอกจะเข้าผลสมาบัติ แว๊ดอยากรู้

    แบบไม่ต้องไล่ หนึ่ง สอง สามอะ

    ถามไว้ก่อน อิอิ
     
  11. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    กราบนมัสการ พระคุณเจ้า เจ้าค่ะ
     
  12. Sujinno

    Sujinno Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +90
    เจริญพร เก่ง
    ดักจิตตัวให้อยู่
     
  13. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    ดักจิตตัวให้อยู่ ยากแฮะ คำคมนี้
     
  14. Sujinno

    Sujinno Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +90
    ไม่ยากเกินไป ไม่ง่ายเกินไป

    ได้เวลาลาโยมก่อน
     
  15. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    เจ้าค่ะ จะเพียรให้มากกว่านี้ [​IMG]
     
  16. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    การที่เรามีความเมตตาต่อหมู่คณะ ชี้ทางผิดทางถูก
    ให้คนที่มาใหม่ในธรรมะวินัยนี้ อย่ากังวลไปเลยคนรู้ทั่วถึง
    ในเจตนาที่ดีของท่านยังมีอยู่มาก อย่าปรับปรัมตัวเองไปอีกเลยอย่าท้อ จะปันทอนสุขภาพจิตตัวเองไปทำไม
    สมัยที่พระบรมศาสดาตรัสรู้ใหม่ ๆ ก็โดนหาว่าเป็นบ้าไปบ้าง
    เพี้ยนสุดโต้ง นี่คือสิ่งที่ไม่ค่อยมีการบันทึก พอท่านมาศึกษา
    ก็เห็นแต่ความสำเร็จของพระพุทธเจ้า กับชัยนะของพระพุทธเจ้า จนหลายคนเห็นแต่ด้านที่สว่างจนเป็นไอโดลส์ของ
    คนทั้งโลก แต่ในด้านที่ออกประกาศสัจจะธรรมใหม่ ๆ ไม่ได้รับความสนใจจากนักปราชญ์ร่วมสมัย บันทึกไว้น้อยมาก
    เช่นกันกรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในคืนเดียว
    ตลอดถึงเส้นทางของพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆพระองค์ก็ไม่ได้โรยด้วยดอกกุหลาบตั้งแต่เบื้องต้น
     
  17. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    ตายแน่ ๆ ไม่หายใจเข้า

    ไม่หายใจออก ก็ต้องตายแน่ ๆ

    ลมหายใจมีค่า ตอนอยู่ไม่รู้คุณ แต่พอจะตาย ตะเกียกตะกายขอต่อลมหายใจ นะเอย
     
  18. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ร่างกายที่ได้มาก็ไม่ต่างกับคุกที่ขังนักโทษ
    สำหรับผู้ฝึกตนน้อยก็บังคับจิตให้อยู่ในบังคับบัญชาได้ยาก
    จิตย่อมต้องดิ้นรนกลับกรอก เข้า ๆ ออก ๆ เอาอะไรแน่นอนไม่ได้ถูกรู้ผัสสะ ภายนอกก็ยินดียินร้าย ไปตามโลกธรรมแปด

    อริยะแม้มีร่างกายเป็นมนุย์ ได้โลกนี้เป็นสมามฝึก
    เพื่อละเพื่อถอนความพอใจ ความยินดีที่ติดย้อมไปกับ
    กระแสอิทัปปัจจยตา เพราะมีสิ่งนี้ๆเป็นปัจจัย สิ่งนี้ๆจึงเกิดขึ้น
    พระตถาคตให้ดับที่ต้นเหตุของทุกข์ การเกิดเป็นทุกอย่างยิ่ง
    ทุกข์จากการพลัดพรากจากสิ่งที่ยินดีพอใจ อันเป็นกระแสที่มองเห็นได้ยาก เมื่อชนะใจตนได้แล้วใจผู้อื่นก็เข้าใจไปด้วย
    เพราะไม่ว่า คน สัตว์ อากาศเทวดา พรหม ก็ต่างล้วนมีพุทธธาตุ
    ธรรมทั้งสิ้น
    ชีวะประวัติพระอรหันต์สมัยพุทธกาล
    พระโคธิกะเถระเจ้า ถอนตัณหาพร้อมด้วยราก นิพพานแล้ว มารผู้มีบาปถือพิณมีสีเหลืองเหมือนมะตูมสุก เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า
    ข้าพระองค์ได้ค้นหาวิญญาณของโคธิกกุลบุตร ทั้งในทิศเบื้องบน ทั้งทิศเบื้องต่ำ ทั้งทางขวาง ทั้งทิศใหญ่ ทิศน้อยทั่วแล้ว มิได้ประสบ
    โคธิกะนั้นไป ณ ที่ไหน มุณีใดจิตที่หลุดพ้นแล้วจากอาสวะทั้งปวงย่อมดักจิตให้อยู่ในโลกนี้และโลกหน้าไม่ได้ เพราะได้ดับวิญญาณรูปนามเสียหมดสิ้นเชื้อที่เป็นชนกกรรมนำไปเกิดทั้งภพนี้และภพหน้า ดังนี้เอวังโหตุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2009
  19. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    มาตอบแระค่ะ แต่จะถูกป่าวไม่รู้เอาตามที่เข้าใจ

    ตอนคำบริกรรมมันหาย ตอนมันหาย เป็นรูป

    ตอนที่รู้ว่ามันหาย เป็นนาม จิตเป็นผู้รู้ และการเกิดแต่ละครั้งก็เป็นคนละอัน

    แต่ก่อนเกิด บางทีก็รู้พร้อมกัน บางทีเกิดแล้วถึงรู้

    ตอนกำลังโกรธอยู่ ก็รู้นะว่ากำลังโกรธ

    ตอนมันหายไป บางทีก็รู้ บางทีก็ไม่รู้ว่ามันหายไปตอนใด บางทีก็บริกรรมเพลิน (สติ ขาด ๆ เกิน ๆ งิงิ)

    จบค๊าป
     
  20. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    แจ่มเลย รู้จักผู้ดู จิตผู้ดู หรือ จิตผู้รู้ได้บ้างแล้ว แต่มันวับๆแวมๆ
    ในการเห็น ทำให้ยังมีระยะเวลาตามระลึกรู้(สติ)ล่าช้าไป ที่ล่าช้า
    ไปเพราะมี จิตตัวหนึ่งหมายจะทำหน้าที่บริกรรมว่า รู้หนอ ตัวนี้เป็น
    คำบริกรรมเหมือนกัน หากจะให้จิตระลึกเห็นสภาวะธรรมได้ทันการเกิด
    ดับของมันแล้ว ต้องให้คำบริกรรมทั้งหลายหายไปด้วย

    การที่คำบริกรรมหายไป เราเรียกอีกอย่างว่า วิตก วิจาร ดับ ซึ่งจะเห็น
    ว่า วิตก วิจาร ดับ คือ ลำดับขั้นต่อไปขององค์สมาธิที่ชื่อ อุปจารสมาธิ
    ดังนั้น การคงคำบริกรรม รู้หนอ จะทำให้ไม่สามารถก้าวหน้าได้ ต้อง
    ค่อยๆให้มันหายไป โดยไม่ต้องทำ แต่อยู่ที่ระลึกรู้ -- จะเห็นสภาวะคำ
    บริกรรมหายไปในกรณีที่ จิตจดจำสวภวะธรรมนั้นได้ดีแล้ว จะมีการเห็น
    แบบลงปัจจุบัน ไม่มีการบริกรรม แต่รู้ว่ารู้ ไม่ใช่ไม่รู้

    เมื่อเห็นแบบนั้นเนืองๆ จิตจะค่อยๆ รู้ด้วยตัวเองว่า การบริกรรมรู้หนอ
    จะเป็นเรื่องทำให้เนิ่นช้า กลายเป็นาภาระหนักที่จิตต้อไปจับ ไปแบก
    พอจิตเห็นแบบนี้แล้วมันจะค่อยๆถอนการบริกรรมออกไปเอง
    โดยที่จิตผู้ดู จะทำหน้าที่รู้ อยู่เงียบๆ ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ก็คือ การพูด
    ถึง จิตผู้รู้ที่หน้าที่ได้จริง

    พอจิตผู้รู้ทำหน้าที่ได้จริง คราวนี้สภาวะใดๆเกิด หากจิตมันจดจำได้
    เสถยีรดีแล้ว ก็จะเป็นเหตใกล้ให้เกิด สติ และก็จะทำให้ ผู้รู้ ผู้ดู เด่น
    ดวงตั้งมั่นรู้ ไม่ไหลออกไป อันนี้ลองดูตอนที่คุณแว็ดดูความเจ็บ
    ปวด หากเห็นถูกโดยไม่มีคำบริกรรม จะสังเกตเห็นว่า ผู้รู้ ผู้ดู คือ
    คนละจิตกับจิตที่เจ็บปวด ร้องโอดโอย เพราะ เขาดูของเขาเฉยๆ
    เขาไม่ได้เจ็บไปกับจิตที่เจ็บด้วย เรียกว่า มีจิต แยก ออกจากใจ

    จิตที่ทำหน้าทีโกรธ จิตที่ทำหน้าที่เจ็บปวด ฯ จะแยก ออกจากผู้ดู

    จิตที่ทำหน้าทีโกรธ จิตที่ทำหน้าที่เจ็บปวด คือ ขันธ5

    ผู้ดู คือ จิตตื่น จิตพุทโธ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...