หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง กับ หลวงพ่อจันทร์ วัดมฤคทายวัน

.......
................................................................................................................
......แต่เนื่องจาก..หลวงพ่อศุขท่านเอง...ที่ผมเล่าไปในเรื่องแล้ว..หลังการเปลี่ยนแปลง
การปกครองเมื่อ ๒๔๗๕ ไม่นาน...ชาวบ้านบางส่วน..กับข้าราชการส่วนใหญ่..ก็ได้
ทราบว่า..นายกรัฐมนตรี..หรือ..หัวหน้าผู้เปลี่ยนแปลงการปกครอง...คนที่ใหญ่ที่สุด
ในประเทศ..ขณะนั้น..พันเอกพระยาหลพลพยุหเสนา...ยังมาให้..หลวงพ่อศุข..ลง
กระหม่อมให้...ปากต่อปาก..ไม่นับ..ชื่อเสียงความลังของหลวงพ่อเดิมที่มีอยู่แล้ว..
...ก็ทำให้..มีคนศรัทธามากขึ้น..ไม่เว้นแม้แต่..พระเอง......
.............จึงก็อาจเป็นไปได้..ว่า..หลวงพ่อเอ๋ย...ศรัทธาใน..หลวงพ่อศุข..ก็เลยไปขอ
ความกรุณาจากท่าน...ให้ปลุกเสกเหรียญที่มีรูปหลวงพ่อเอ๋ย..แต่ด้านหลังใช้ยันต์
ของหลวงพ่อศุข....ให้ด้วย...เพราะก็มีกล่าวกัน..และไม่สิ่งยืนยันข้อมูลว่า....
.......เหรียญหลวงพ่อเอ๋ย..รุ่นนี้...หลวงพ่อศุข มาปลุกเสกให้.......
...ครับก็เป็นเพียงข้อสันนิษฐานเท่านั้น............
..........หลายท่านที่..เป็นนักเลงพระเมืองเพชร..หรือ..คนเมืองเพชรเองที่ชอบเล่นพระ..
..ข้องใจว่า..พี่ยัง..ตกไปอีกเหรียญรึเปล่า.....ไม่หรอกครับ......
.......เพราะว่า..เหรียญดังกล่าว..ไม่มีระบุ..พ.ศ...มายืนยัน...เรื่องคำที่บรรยายในลักษณะ
..........."ว่าเอาว่า"...นี่มันคือ..คำที่เลื่อนลอยเหมือนกัน...ไม่ชัดเจน...ผมก็เลยจะพูดถึง..ทีหลัง
......เป็นเหรียญที่..ทำนองเดียวกับ..หลวงพ่อเอ๋ย..คือ..ในสมัยก่อนที่..หลวงพ่อศุข..จะดัง
ระดับประเทศ..ไม่เคยมีใครพูดถึง...นักเลงพระ..ไม่รู้จัก(รู้จัก..แต่ไม่สนใจ..ก็คล้ายๆกัน)
............นั่นคือ..เหรียญพระครูวัน วัดหนองศาลา.......รุ่นแรก..
.....เหรียญไม่ระบุปี...แต่จากการพิจารณาลักษณะเหรียญแล้ว..คาดว่า..สร้างก่อนปี ๒๕๐๐
ค่อนข้างแน่....น่าจะทันหลวงพ่อศุข..และ..หลวงพ่อศุข..น่าจะปลุกเสกให้ด้วย..เพราะ
อะไร..ที่ทำให้ผม..ว่าอย่างนั้น.............................
.....อีกอย่าง..ที่ผมไม่พูดถึง...ตอนแรกเพราะ..ถึงแม้เหรียญจะเก่า..แต่ที่มาที่ไป..ของยันต์นั้น
ชัดเจน..มาจากหลวงพ่อศุข..แน่....
.......................ก็เพราะ..วัดหนองศาลา..อยู่ห่าง วัดโตนดหลวง...ประมาณ ไม่เกิน ๒ กิโลเมตร
เรียกว่า..เดินถึงกัน..สบายมาก..ผมว่า..น่าจะเป็นวัดที่อยู่ใกล้วัดโตนดหลวง..มากที่สุด..
...ถ้าคุณ..จะไป..วัดโตนดหลวง..ออกจากเมืองเพชร(หรือ..กรุงเทพ)...คุณต้องไปลง..รถไฟ
ที่..สถานีหนองศาลา...แล้วเดินเท้าต่อ(เดี๋ยวนี้..น่าจะมีมอเตอร์ไซค์รับจ้างแล้ว)..คุณจะถึง
วัดหนองศาลา..ก่อนวัดโตนดหลวง.......
.........สมัยก่อนไปถามคนเมืองเพชร..สถานีหนองศาลา..รู้จัก...แต่วัดหนองศาลา..ไม่รู้จัก
รู้จักแต่..วัดโตนดหลวง...ก็เรียกว่า..เดินผ่านไปเลย..........
............พระครูวัน..นี้เป็นเจ้าอาวาส..วัดหนองศาลา...และอวุโสกว่า..หลวงพ่อศุข
เพราะเป็นเจ้าอาวาส..ตั้งแต่ปี ๒๔๓๑..จนถึงปี ๒๔๘๘...เหรียญนี้..ไม่มีประวัติการสร้าง
แน่นอน..ว่ากันว่า..ย้ำ..ว่ากันว่า...สร้างเมื่อปี ๒๔๙๒ .......แต่ที่แน่ๆ..สร้างหลังจากพระครูวัน
เสียแล้ว.....
.....แต่ที่ผมบอกไปเบื้องต้น..ว่าดูจากเหรียญแล้ว..ก่อน ๒๕๐๐ ค่อนข้างแน่...ดังนั้น..หลวงพ่อศุข
คงปลุกเสกให้..เพราะเหมือน..วัดพี่..วัดน้อง....
.....ท่าน..กับ..หลวงพ่อศุข...ไม่น่าจะเกี่ยวกันด้าน..วิชา..เพราะ..เมื่อหลวงพ่อศุข..มาถึงวัด
โตนดหลวง..พระครูวันก็เป็นเจ้าอาวาสแล้ว...คงจะได้เกื้อกูลกัน(เพราะ..วัดอยู่ใกล้กัน)...
และ..พระครูวันก็อวุโสกว่ามาก...คงต้องเป็นที่เคารพของหลวงพ่อศุข........
....อีกอย่างเมื่อพระครูวันเสีย...เจ้าอาวาสองค์ต่อมา..ก็คงได้พึ่งบารมีหลวงพ่อศุข..ไปด้วย
..เพราะตอนนั้น..หลวงพ่อศุขดังมากแล้ว....และน่าจะได้มีโอกาศ..เรียนวิชาเพิ่มเติม..จาก
หลวงพ่อศุขด้วย...เพราะ..เหรียญรุ่นต่อมา...หลังจากหลวงพ่อศุข..เสียแล้ว(..หลวงพ่อศุข
เสีย ปลายปี ๒๕๐๐)....ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อศุข..ด้านหลังเป็นรูปพระครูวัน...และ
มียันต์ครู..ประทับอยู่ในเหรียญด้วย...
..................ต่อตอนหน้าครับ.......................


ดูรูปตามนี้ครับ uauction2.uamulet.com/AuctionDetail.aspx?bid=297&qid=29417

 

ติดตามอ่านตลอดครับ...คุณลุง

 

สวัสดีครับ พี่มด
ก็เป็นกำลังใจ...ให้ครับ.... งานดี ๆ แบบนี้ น่าติดตามมากครับ

ปล. อยากสอบถามพี่มด เรื่องตะกรุดพอกชันนางโรง (ครั่ง ) หน่อยครับ ว่าส่วนใหญ่แล้ว หลวงพ่อศุข ท่านจะทำตะกรุดยาวประมาณกี่นิ้วครับ ... เห็นในอินเตอร์เน็ตบอกว่า ส่วนใหญ่จะสร้างยาวประมาณ 2 -3 นิ้ว นานๆ ที จะสร้างตะกรุดยาว 4 -5 นิ้ว ขอรบกวนพี่มด ช่วยบอกข้อเท็จจริงให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ

 

..ขอบคุณครับ..สำหรับกำลังใจ..
..............................
....ผมว่า...เพราะผมเป็นคนรุ่นเก่า...และ..สัมผัสวิถีเก่าๆแบบบ้านอกมาไม่น้อย...
.......อย่างที่..ผมเคยเล่าไปในเรื่อง...หลวงพ่อจันทร์เล่าให้พ่อ..กับ..ตัวผมฟังว่า...ปกติแล้ว..คุณพ่อ(หลวงพ่อศุข)ท่านจะไม่ทำอะไร..มีแต่..ลูกศิษย์..จะทำมาให้..แล้วให้ท่านปลุกเสก...หรือ...ชาวบ้านเองเตรียมของมา...แล้วขอให้ท่านปลุกเสกให้.........
..........ดังนั้น...รูปแบบจึงไม่มี...เพราะไม่ได้ทำเป็นทางการ..ที่ผมบอก..ท่านทำตะกรุด..ลูกอม..เป็นเครื่องรางหลักมาก่อนออก..เหรียญ...
....ดังนั้น..ตะกรุดท่าน...ถ้าลูกศิษย์อยากได้รวมๆกันหลายคน..อาจจะสัก ๑๐ ดอก..ก็ไปเตรียมซื้อแผ่นทองแดง..ในจังหวัด..ตัดมาเรียบร้อย..อาจจะเป็น..๓ หรือ ๔ นิ้วตามาตรฐานทั่วไป..รวบรวมมา..ให้ท่าน..จารปลุกเสกให้...ตะกรุดขนาดนี้จึงมากกว่าขนาดอื่น...ส่วนขนาดนอกเหนือ..ส่วนใหญ่..ก็จะมาจาก..แต่ละบุคคล...อยากให้ลูกห้อยตะกรุดท่าน..ก็ลดขนาด..มาเหลือ..๒ นิ้ว บ้าง...บางคนชอบ..ดอกใหญ่..ก็ไปตัดแผ่นทองแดง..๕ นิ้ว..มาให้..ท่านก็ทำให้..อะไรทำนองนี้...
....ที่..ผมพูดนี่..มันคือ..วิถี..ของชาวบ้าน..และ..อาจารย์..ในภาคกลางยุคโบราณ..ทั่วๆไป...เพียงแต่..บางอาจารย์..ยันต์ที่ลงตะกรุด..มันบังคับ..เพราะมีรายละเอียด..และ..ขนาดใหญ่..จึงทำให้ตะกรุด..เลยมีขนาดที่แน่นอน..อย่าง..ตะกรุดโสฬสมหามงคล วัดสะพานสูง..ตะกรุดจักรพรรดิ วัดกษัตราฯ...จะมีขนาด..ค่อนข้างแน่นอน..ด้วยเหตุผลที่ผม
กล่าว...
........หลวงพ่อศุข..ท่านใช้ยันต์ครู..ในการลง...คุณลองกลับไปดูว่า..
ยันต์ครู..มี..อักขระ..กี่ตัว...ดังนั้น..ขนาด ๑ นิ้ว ท่านก็ลงได้..อย่างตะกรุดสำหรับผู้หญิง..พวก..ตะกรุดเงิน..ตะกรุดทอง..เป็นต้น..
........หรือไม่แน่..ท่านลง..นะปัดตลอดให้..ก็ใช้พื้นที่..น้อยลงไปใหญ่.....
..........สรุป...ไม่ต้องสนใจ..ขนาดครับ..ขอให้แท้..เป็นพอ..อย่างเอาตะกรุด..สมัยนี้..มาเป็นบรรทัดฐาน...ทำที ๑๐๐ - ๒๐๐ ดอก..แล้วเอามาวางให้..จำหน่าย..แต่................
........ขอโทษ...ที่เห็น..ตะกรุดหลวงพ่อศุข..ออกมา..จำหน่าย..วนอยู่ในดลาดเยอะแยะ..เก่าด้วย..อายุถึง...นะ..ผมรับรองว่า..ไม่ใช่..ของหลวงพ่อศุข..ทั้งหมด..ลูกอม..ด้วย...
............มันยาว...เอาไว้ต่อตอนหน้า..เมื่อยมือแล้ว..

 

...หวัดดี..และ..ขอบคุณ คุณธรรมจักร..ที่มาเยี่ยมเยือน....
.......ต่อเรื่องตะกรุดครับ....รอจบเรื่องนี้...แล้วค่อยเข้าเรื่องเดิม
.............................................................
.........ที่ว่าไปนั้น...ก็คือ..ของลูกศิษย์ท่าน...แต่ถ้าบอกไปอย่างนั้น..จะปล่อยได้
ราคาแค่ไหน...ก็ต้องสวมรอย..เหมือนกับ...แหวนหัว นะปัดตลอด......
...............หลวงพ่อจันทร์..ท่านก็ทำ...บางคนไม่รู้เรื่องนึกว่า..ท่านทำแต่...ตะกรุดไม้รวก
อย่างเดียว..ผมถามว่า..คุณทราบมั้ย..ว่า..ตะกรุดไม้รวกท่าน..ทำได้..วันละกี่ดอก..
..ตัวอักขระ..ตั้ง สี่สิบ ห้าสิบตัว(ประมาณเอาอาจผิด..เพราะผมขี้เกียจนับ)...กระดูกยันต์
ตั้งกี่เส้น..แล้ว..กระดูกยันต์..และ..กรอบยันต์..ต้องวัด..ต้องทาบ..ขีดทีละเส้น..อักขระเขียน
ทีละตัว..ขูดลงไปในเนื้อไม้ไผ่........................
.......................ผมว่า....เก่งสุด..ไม่น่าเกิน ๒ ดอก..เพราะท่านไม่ใช่พระลูกวัด..เป็นเจ้าอาวาส
...ต้องมีภาระกิจ..ต่างๆ...................................
......ท่านทำมาตั้งแต่แรก..ลูกอมด้วย..ก็เหมือนอย่าง..หลวงพ่อศุขทำ...นี่คือ..ของทั่วไป..แต่
ตะกรุดไม้รวกถือ..ว่า..พิเศษหน่อย..ทำยากกว่า...ขืนทำแต่..ตะกรุดไม้รวก..ท่านคงไม่มีชื่อเสียง
โด่งดัง..มาตั้งช้านาน...เพราะ..ทำได้ไม่เยอะ......
............ผมก็เคยเล่าไปแล้ว..เรื่องหลวงพ่อจันทร์..ที่เป็นศิษย์องค์แรก..ที่บินเดี่ยว...ไปเป็นเจ้าอาวาส
..วัดที่..หลวงพ่อศุขสร้าง(..ความจริง..หลวงพ่อจันทร์..ก็ร่วมด้วยในหลายกรณี)...แต่ก่อนเป็น
เจ้าอาวาส..สมัยอยู่วัดโตนดหลวง..ท่านก็บินเดี่ยว..ธุดงค์ได้แล้ว..ก็แสดงว่า..หลวงพ่อศุขเชื่อมั่น
ในฝีมือ.....ขณะที่ศิษย์..รุ่นใหญ่ อย่าง....หลวงพ่อนิ่ม.....ยังเรียนวิชา
อยู่เลย....อย่าลืมนะครับว่า..หลวงพ่อจันทร์..อยู่ศึกษาวิชากับ..หลวงพ่อศุขมาตั้งแต่เป็นเณร..
อยู่ด้วยกันมา..หลายปี..ก่อนจะมาถึงวัดโตนดหลวง........
............ท่านออกธุดงค์เดี่ยวเอาประสพการณ์..แล้วก็เรียนวิชาเพิ่มเติม...ดังนั้น..ก่อนท่านจะไปอยู่
..วัดช้างแทงฯ(..คนเพชร..เขาเรียกแบบนี้..สั้นหน่อย)...ท่านก็พร้อม..ทุกอย่างแล้ว....
.........ดูอย่าง..หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง..ยังต้องไปเรียนวิชา ชาตรี..(เป็นวิชาเฉพาะของหลวงพ่อ
จันทร์..ที่ท่านได้มาจากการธุดงค์)..กับ..หลวงพ่อจันทร์เลย.......
.......ท่านต้องไปอยู่กลางดงกะเหรี่ยง...ที่เดิมเกือบทั้งหมด..นับถือแต่ผี....(ถ้าเทียบกับ..รุ่นน้อง
ท่าน..อย่าง..หลวงพ่อจ้วน..หลวงพ่อนิ่ม..หลวงพ่อชิน.....ลำบากกว่ามหาศาล)..อย่ามาดูตอน
ปัจจุบัน..ที่ไปวัดช้างแทงฯ..ง่ายสบายมาก...สมัยก่อนคือ..ป่าแก่งกระจาน..รกทึบ...ไม่มีถนน
มีแต่ทางเกวียน..รถธรรมดาหมดสิทธิ์เข้า..หน้าฝนไม่ต้องพูดถึง..รถเข้าไม่ได้.....
..........ท่านไปอยู่ตั้งแต่ ปี ๒๔๗-กว่าๆ...สร้างชื่อเสียงโด่งดัง..ทำให้กะเหรี่ยงหันมาถือพุทธ
กัน..เป็นจำนวนมาก...ท่านก็คงเริ่มทำ..ของขลังตั้งแต่..ตอนนั้นแล้ว..จะมีอะไร..ก็ไม่พ้น..
ตะกรุด ลูกอม..เพราะพกพา..สะดวกทำง่าย...ขลังจนกระทั่ง..กะเหรี่ยงยกย่อง..กลายเป็น
เทพเจ้าแดนกะเหรี่ยง.....แล้วลองคิดดูว่า..ตะกรุดท่าน..มีอายุก็..ใกล้เคียงกับ..ตะกรุดหลวง
พ่อศุข..นั่นแหละ...อายุตะกรุด..ประมาณ ๘๐ ปี.ตุณว่า..เก่ามั้ย..วัสดุ..ก็ทำแบบอาจารย์....
แล้วใคร..จะแยกออก.......
............................ต่อตอนหน้าครับ...ว่าจะให้จบ..แต่..ไม่จบ............................................

 

.................
.......................
........สาเหตุ...ที่ส่วนใหญ่ของตนในเมือง...ไม่ได้เห็นของขลัง...ก็เพราะปัญหาเรื่องความ
ลำบากในการเดินทาง..คือเรียกว่า..ไม่จำเป็นจริงๆ..เมื่อยุต ๗๐-๘๐ ปีก่อน..ก็ไม่มีใครเข้า
ไปเว้นแต่..พวกข้าราชการ..ที่ไปตรวจพื้นที่...หรือ..พระผู้ใหญ่..เข้าไปตรวจเยี่ยม....
....ถึงกระนั้น..ชื่อเสียง..และความเก่งกาจของท่าน..ก็ตามออกมาด้วย..จากป่า...ผลที่เห็น
ได้ชัดคือ....พิธีปลุกเสกพระ..ของหลวงพ่อชิต วัดมหาธาตุ(ปี๒๔๘๐)..ที่เป็นเจ้าคณะจังหวัดด้วย
..ท่านเองเป็นผู้ช่ำชองเรื่องไสยเวทย์..แต่ก็ได้..นิมนต์..พระทั้งในเมืองเพชร...และจังหวัด
ใกล้เคียง...อย่างเช่น หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง เป็นต้น....
...พระของเมืองเพชร..ท่านก็คัดเลือกแต่..ผู้มีฝีมือ..ในยุคนั้น..ก็คิดดูเอา..ว่ายุคนั้น...
เมืองเพชร..มีแต่..จอมยุทธ..ที่ไม่น้อยหน้าจังหวัดไหน..ในประเทศ....จำนวนไม่มาก..
คัดเฉพาะหัวกะทิจริงๆ...๑ในนั้น..เป็นพระที่หนุ่มที่สุด..และพึ่งเป็นพระครูชั้นต้น....อยู่
ไกลในป่า..นั่นก็คือ..พระครูจันทร์ วัดช้างแทงกระจาด...มาร่วม กับ..หลวงพ่อศุข..
..หลวงพ่อโศก วัดปากคลอง...ฯลฯ...ในพิธีปลุกเสกหมู่ที่..ยอมรับกันในปัจจุบัน..ของ
เมืองเพชรว่า...เป็นการชุมนุมของพระอาจารย์ที่ขลังที่สุดในเมืองเพชร..เท่าที่มีมา..
......ของขลังท่าน..ในยุคท่านอยู่วัดช้างแทงฯ..จึงเข้ามาในเมืองน้อย...และถึงแม้..แถวนั้น
..ชึ่งเป็นชุมชน ค่อนข้างปิด..ประชากรที่เป็นกะเหรี่ยงส่วนใหญ่..ก็มีไม่มาก..ทำให้...
จำนวนของขลังท่าน..จึงไม่มากเหมือน..พระในเมือง...ถึงชาวบ้านทั่วไปอยากได้...
แต่ก็ส่ายหน้า..เพราะลำบากมากที่จะไป..อีกอย่างคนคงคิดว่า...ก็อาจารย์ก็ยังอยู่ไป
ง่ายกว่า..จะถ่อเข้าไปทำไม..ให้ลำบาก........
.........พ่อผมเล่าว่า...เมื่อไปอยู่เมืองเพชรใหม่ๆ(หกสิบกว่าปีมาแล้ว)...ท่านก็ได้ยินชื่อ
หลวงพ่อจันทร์..จากพวกนายสิบ..ที่เป็นลูกศิษย์..หลวงพ่อศุข..กล่าวถึงว่าท่านเก่ง...
...แต่พวกนั้นก็..แนะนำว่า..อย่าไปหาเลย..เพราะไปลำบาก..ไอ้พวกนี้เอง..ยังไม่เคยไป
เลย..(ตอนนั้น..ท่านยังอยู่วัดช้างแทงฯ)..........
................ส่วนอีกท่าน..ใหม่กว่าหน่อยแต่ก็ยังเก่าอยู่ดี..ก็คือ..หลวงพ่อแผ่ว..ท่านครอง
วัดโตนดหลวงตั้งแต่..ปลายปี ๒๕๐๐ หลังจากหลวงพ่อศุขเสีย....ท่านก็ทำ..ของขลัง
เหมือนที่..อาจารย์ท่าน..ทำมาก่อน...ทั้งสักยันต์ครู..ที่หน้าอก...ตะกรุด..ลูกอม...แหวน
นะปัดตลอด............ของท่าน...ก็เก่ามีอายุ..เป็น ห้าสิบกว่าปี..แล้ว.....
..........ส่วนลูกศิษย์รุ่นใหญ่ท่านอื่นๆจะทำ..รึเปล่า..ผมก็ไม่ทราบ..อย่างหลวงพ่อนิ่ม..
ท่านก็อยู่วัดโตนดหลวงตั้งร่วมประมาณ ๒๐ ปี...ท่านก็คงคุ้น..และ..คงมีส่วนช่วยทำ
มาไม่น้อย.................................
...................ผมเองนะไม่มี..หรอกครับ..ตะกรุดพอกชันนางโรง...ที่เคยบอกว่า...พ่อผม
สมัยนั้น..ไม่ได้สนใจพระ...ท่านไปหาหลวงพ่อด้วยเจตนา..ส่วนใหญ่เพื่อ...พูดคุย...
แล้วมีความสุข..ไปกัน..พร้อมเมีย..และลูก...เกือบทุกครั้ง..เว้นเพียง ๔ ตรั้ง...อย่างที่เล่ามาแล้วคือ
๑. พ่อ(..ตามคำขอร้องของแม่)ไปขอให้ท่านสัก..ยันต์ครูที่หน้าอกให้..
๒. ไปขอให้..ลงกระหม่อม..ให้พี่ชายผม
๓. แม่ไปขอ..ให้ท่านเหยียบ..ปานแดง..ลูกชายของลูกน้องพ่อ...
๔. ขอถ่ายรูปท่าน..เพื่อ ๑.เอาไปบูชา..และ..๒. เอามาให้ท่านติดไว้ที่วัด
..เพราะ...ที่วัดโตนดหลวงไม่เคยมีรูปท่านเลย.....
......................เรื่องขอ..ของขลัง...ไม่เคยมีอยู่ในสมอง....ดังนั้น...ทุกอย่างนอกเหนือ..ข้อ
๑ .. ๒ ..และ ๔.....ที่ได้มาจากหลวงพ่อ..หลวงพ่อศุข..ท่านเจตนา..มอบให้เอง..ทั้งสิ้น
.....ที่บ้านผม..ก็เลยมีแค่..อย่างเล่าไปแล้ว........ไม่มีตะกรุดพอกชันนางโรง....
............ขนาด..ลูกศิษย์..ฆาราวาสที่รับใช้..หลวงพ่ออยู่...ยังบอกกับ..พ่อ..แม่..ผมว่า..นี่
ท่าน..พูดกับ..ผู้พัน..มากกว่า..พูดกับคนอื่น...เพราะปกติ..ไม่ว่าใครจะมาหา..ท่านก็จะไม่
พูด..ถามคำตอบคำ....แค่นั้น.....
............เพราะท่าน..ก็นับถือพ่อผม...ตามที่ท่านขอร้องเป็นการส่วนตัว..ให้ช่วยควบคุม..
สั่งสอน..และ..กำราบ..หลานท่าน..ที่เป็นนายสิบ..จากความเกเร..นักเลง..และหลายอย่าง
ลงได้....เพราะเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน......
......................ขนาดก่อนสักพ่อผม..ท่านยังสั่งลูกศิษย์มือสัก..บอกอย่าสักแรง...สักเบาๆ..
........ผมว่าจะจบ..มันก็ไม่จบอีก...เพราะมีเหตุการณ์..กับ..ตะกรุดพอกชันนางโรง..นี่แหละ
...ที่จะมาเล่าให้ฟังเล่นๆ...........ตอนหน้าครับ.................

 

.................
......................................................................................................................
...........เมื่อสัก ๔ ปีที่แล้ว...ผมยังทำงานอยู่บริษัท..ที่ปรึกษา..รับงานออกแบบและวาง
โตรงการเกี่ยวกับแหล่งน้ำ..ให้กับ..กรมชลประทาน...เราได้โครงการปรับปรุงอ่างเก็บ
น้ำป่าละอู...ซึ่งอยู่เขตอำเภอหัวหินตอนบนสุด..ต่อกับ..เขตอำเภอแก่งกระจาน..ของ
เพชรบุรี......ย่านชุมชนที่นี่..เป็นหุบเขา...ส่วนทางเหนือ..เป็น..ตำบลป่าเด็ง..ของเพชร
..สว่นตอนใต้..ของชุมชนเป็น..ตำบลป่าละอู ของ ประจวบฯ...เดินอยู่ในนั้น..ก็ข้ามจัง
หวัดไป..ข้ามจังหวัดมา..ผมมาทำงานตรวจภูมิประเทศ..ที่นี่..เป็นสิบๆครั้ง..ถ้ามากัน
เยอะ..หรือ..มีแขกมาด้วย..เราจะแวะกินที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง..ที่ตั้งอยู่ติดอ่างเก็บน้ำเล็กๆ
พวกข้าราชการถ้ามาจากในเมือง..จะกินข้าวกลางวันกัน..ก็แวะ..ร้านนี้ประจำ...
.....ผมมากินหลายครั้ง..ก็ไม่เคยสังเกตว่ามีอะไร..ดูแต่กล้วยไม้ป่า..ที่ร้านเขาปลูกไว้เยอะ
...ก็แอบเอา..มาจาก..ป่าละอูทั้งนั้นแหละ.....จนมีอยู่ครั้งหนึ่ง..ผมอิ่มก่อน..ขี้เกียจนั่ง
นาน..ก็เลยออกมาสูบบุหรี่..ที่ข้างถนนหน้าร้าน....ปกติผมจะดูดบุหรี่ที่ข้างๆร้าน...
...ปรากฎว่า..ไปพบเอา..แผงพระขนาดเล็กเข้า..เป็นของเจ้าของร้านเอง...อ้อลืมบอก
ไป..ไม่ว่า..ป่าเด็ง..หรือ..ป่าละอู..คนที่ตั้งถิ่นฐานที่นี่..พื้นเพ..เกือบทั้งหมด..เป็นคนเพชร
......เหมือนกับแก..ขายเล่นเอามัน...พระเกือบทั้งหมด..ทั้งเหรียญ..และ..พระผงหลวงพ่อ
...ก็เป็นของเพชรทั้งสิ้น...แล้วสายตาผมก็ไป..จ๊ะเอ๋..เข้ากับ..วัตถุ..ดำๆด้านๆ...รูปทรงยาว
เข้า...ยาวประมาณ ๓ นิ้ว...ก็นั่นแหละครับ...นึกถึง..ตะกรุดของหลวงพ่อศุข..ขึ้นมาทันที
.............ดูชันนางโรง..ดูรอยร้าว...เนื้อทองแดง..จากประสพการณ์..มากกว่าสี่สิบปี..ของผม
ฟันธงได้..ว่า..ของแท้แน่..เก่า..วัสดุเก่า..ผิวได้..เนื้อได้..ที่ว่านี่..ไม่ต้องใช้แว่นส่องหรอกครับ
..ผมไม่ได้เอาไป..แต่..โชคดี..แดดแรง..เห็นได้ชัดเจน...ปัญหาคือ..ของใคร....
...........หลวงพ่อแผ่ว..ตัดไปได้เลย..เพราะเก่ามาก...ก็เหลือแต่..หลวงพ่อศุข..กับ..หลวงพ่อ
จันทร์...แต่..ทั้งสองท่าน..ไม่ว่าท่านไหน..ก็เหลือแหล่..แล้ว..ผมไม่สน...ผมพลิกไป...
พลิกมา..เจ้าของร้านที่อยู่ในร้าน..คงเล็งผมอยู่นานแล้ว..ก็เดินเข้ามาหาผม....
..........ผมก็เลยทักแกไปว่า...พี่เป็นคนเพชรหรือครับ...แกก็รับว่าใช่..(แกเป็นพวกอพยพมา
ที่นี่เป็นรุ่นแรก...)...ผมก็พูดต่อว่า..เห็นของพี่...ของเมืองเพชร..ทั้งนั้น..แกก็ยิ้ม....
....ผมจะถามต่อ..พร้อมหยิบตะกรุดขึ้นมา...แกก็รีบบอกเลยว่า...ของหลวงพ่อศุข...
......ผมก็บอกแกว่า..สวยดี..ผมก็อยากได้...แพงมั้ยพี่...แกก็บอกว่า..โอ้ยในเมืองเขาเล่นกันแพง
...ผมปล่อยไม่แพง..เท่าเขาหรอก...บอกขาดตัวไปเลย...พันเก้าร้อยบาท....
ปัญหา..มันอยู่ที่หูผมฟังเป็น..เก้าร้อย..ก็ดูสมเหตุสมผล...เพราะ..แกบอกว่าไม่แพงเท่าเขา..
....ผมก็เลย..ขอต่อไป...แปดร้อยได้มั้ยพี่...แกก็บอกว่า..ไม่ได้หรอกราคานี้..ผมก็ควักเหรียญ
เงินหลวงพ่อศุข..ออกมาให้แกดู..บอกโดยย่อว่า..มีความผูกพันกับ..หลวงพ่อยังไง...
.......แกก็ไม่ยอมท่าเดียว...ทั้งๆที่..ผมไม่รู้ว่า..ฟังราคาผิด...แต่ผมก็อยากได้..ก็เลย..โอเค
...หยิบแบ็งค์ ๑ พัน บาทให้..แกก็ทำหน้างง...ผมดูหน้าแกก็งงเหมือนกัน..คิดในใจว่า..
มึงก็หยิบเงินทอน..ออกมาซิ..กูจะได้รีบไป(..ตอนนั้น..คนอื่นเขากินข้าวกันเรียบร้อยแล้ว
..ขึ้นไปนั่งรอผมบนรถ...)..ผมก็เลยถามแก..บอกว่า..อ้าวไม่ถูกเรอะพี่...แกก็เลยบอกว่า..
..ขาดไป เก้าร้อย...ผมเลยงงไปชั่วขณะ..แล้วนึกขึ้น..อ้าวกูฟังราคาผิดรึวะ........
.......ผมก็ไม่ไปต่อใหม่แล้วเสียฤกษ์..ก็เลยบอกแก..ขอโทษที..ตกลงผมไม่เอาแล้ว..ฟัง
ราคาผิดไป...
............นี่ขนาดขายอยู่ในป่ายังล่อ..ราคา..ขนาดนี้...อีกอย่างแกคงขายเล่นๆ..เพราะรวยอยู่
แล้ว...กำหนดราคาไว้..ไม่ให้ต่อ...
..............ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ..เล่าไปเล่นๆ...เป็นเครื่องเตือนสติผม..ว่า..มึงนะแก่แล้ว..
........................ตอนหน้าจะกลับไปเข้าเรื่องเดิมครับ.........................

 

..........
........
.....................................................................................................
.....สรุป..จนแล้วจนรอด...ผมก็หาที่มา..แห่งยันต์ครูของ..หลวงพ่อศุข...ไม่เจอ..แต่วันก่อน
...ผมไปเจอ"ยันต์ครู"..นี้อีก..แต่แปลกมาก...เพราะ..เป็นที่...จังหวัดสมุทรปราการ...ซึ่ง
ไม่เคยปรากฎ..และ..ไม่น่าจะ..มี..ลูกศิษย์หลวงพ่อศุข..ที่ไปอยู่..ปากน้ำ....อย่างเก่ง..หลาน
ท่าน..หลวงพ่อพิมพ์มาลัย...ก็มาแค่..ราชบุรี..ลูกศิษย์ท่านเท่าที่ทราบ..ก็อยู่แค่ ๓ จังหวัด
..คือ..ประจวบ...เพชรบุรี..ราชบุรี.....เป็นเหรียญในงานหล่อรูป..หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน
...แต่ออกที่วัดไหน..ไม่ได้บอก..แต่เขาก็เล่นกัน..เป็นของ..ปากน้ำ..เหรียญชุบทองค่อนข้าง
เก่า เห็นบอกว่า..สร้างปี ๒๕๐๘ ก็เลยยิ่ง...ไปใหญ่...เพราะตอนนั้น...เมื่อ ๒๕๓-กว่าๆ..
หลวงพ่อยิด..ลูกศิษย์..หลวงพ่อกำลังโด่งดัง...ไปออกเหรียญ..หลายจังหวัด.....แต่นี่มันเก่า
กว่า..หลายสิบปี..ผมเลยงงเต็ก...มายังไง......
..........เหรียญด้านหน้า..เป็นรูปหลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน...ด้านหลัง..เป็น.."ยันต์ครู"ตรง
ตามตำรา..เป๊ะ...........
............ความจริง..เรื่องยันต์เฉพาะ...นี่..อีกหลาย..หลวงพ่อ..ก็..มีเช่นกัน..เพียงแต่...
....ยันต์ครู..ของหลวงพ่อศุข..นี่..ไม่ตายไป...เหมือนยันต์อื่น...นอกจากลูกศิษย์..จำนวนมาก
จะใช้แล้ว..ยังส่งต่อไปถึงหลายศิษย์อีก...นับว่าเป็นบุญของ..สำนักที่..หลวงพ่อยิด..ที่เป็น
generation ๒..ต่อจากหลวงพ่อศุข..ผลิต..ลูกศิษย์ที่เก่งกาจ..แถมเก่งตั้งแต่..หนุ่มอย่าง..
............อาจารย์จิ วัดหนองหว้า......กลายมาเป็น..หัวหอกของ..generation 3...ผมคิดว่า..
ด้วยวัยที่หนุ่ม...ท่านคงสามารถ..สร้าง..ลูกศิษย์เก่ง...ได้อีกหลายองค์...เพราะยังมีเวลา
อีกมาก...................
............หลายแห่ง...หลายสำนัก..หมดแค่..ลูกศิษย์...ไม่มีใครสานต่อ....ทำให้เราจะได้เห็น
ยันต์ครู..ในพระรุ่นใหม่ๆ..ไปอีก..นาน...แสนนาน.............................
............ส่วน..นะปัดตลอด..ของหลวงพ่อศุข..นั้น...แสดงอยู่..บนหัวแหวน..เป็น..ตัว..นะ..
แล้วมี..วงแหวนล้อม ๓ วง ของๆจริงนั้น..คาดว่า..หางตัว..นะ..น่าจะไปเชื่อมกับ วงแหวน
...ดังแสดงใน..ตัวตอก..ที่อยู่ด้านท้อง..แหวน นะปัดตลอด ของ หลวงพ่อแผ่ววัดโตนดหลวง
...............อันนี้..ที่มา..ค่อนข้างจะแน่นอน....ก็..มาจาก...หลวงพ่อตาด วัดบางวันทอง..
อุปัชฌาย์..และ..อาจารย์ของท่าน....เพราะ..พระของหลวงพ่อตาด..ด้านหลัง..จะเป็น..
ยันต์ นะปัดตลอด แบบ หางตัวนะ..ลากต่อไป..เป็นวงแหวน ๓ วง...
...........แต่สำหรับ..บ้านผมภูมิใจมาก...เพราะ.."ยันต์ครู"...เป็นลายดินสอ..ที่เป็น..ลายมือ
ของ..หลวงพ่อศุขจริงๆ..ที่ท่านส่งผ่านทางอากาศ..มาประทับอยู่ที่..หลังรูปท่าน....
(..ดังที่ผมเล่าไปแล้วในเรื่อง..และ..ดูจากรูป..หลวงพ่อที่พ่อผมถ่ายไว้ได้ในเรื่อง )...
..ถือเป็นสิริมงคลของบ้าน.......
..........ตอนหน้า..ผมจะเล่าเรื่อง..ผมกลับไปวัดโตนดหลวงมาเมื่อปลายปีที่แล้วให้รับทราบกัน
..............................ต่อตอนหน้าครับ..................................

 

รอติดตามอ่านต่อ...ครับคุณอา Modpong :VO

 

....ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยียน...
..แต่ผมสงสัยอย่างนึง..คือ..คูณเป็น..คนตระกูลนี้..หรือครับ..เพราะผม
...เห็นชื่อ Caracciolo..มันคุ้น...เพราะ..ตระกูลนี้..มีคนมีชื่อเสียงเยอะ
...เป็น..ตระกูลขุนนางเก่า..มาจากทางตอนใต้..ของอิตาลี..และเป็น..
..ตระกูลใหญ่..มีชื่อเสียง..ชอบรูป..สัญญลักษณ์..สวยดี...

 

เข้ามาตามอ่านเรื่องของหลวงพ่อทองศุขและหลวงพ่อจันทร์ มาตลอดๆ ครับ ข้อเขียนของคุณอาน่าติดตามมากครับ ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ผมเคยไปกราบแค่หลวงปู่อุ้น วัดตาลกง แค่รูปเดียว หากมีโอกาสคงได้ไปกราบไหว้หลวงพ่อทองศุขที่วัดโตนดหลวงบ้างในอนาคต

ส่วนศิษย์ของหลวงพ่อที่ยังมีชีวิตอยู่นี้ น่าจะเป็นท่านเจ้าอาวาสวัดโตนดหลวงรูปปัจจุบันและหลวงพ่อห่วย หลวงพ่อหวล หลวงพ่อแถม ใช่ไหมครับคุณอา ยังมีรูปไหนในเมืองเพชร ที่ทันเรียนวิชากับหลวงพ่อทองศุข หรือหลวงพ่อจันทร์ บ้างไหมครับ

 

.............ขอบคุณครับ.....
....ขอบคุณครับ..ที่ติดตาม....
..หลวงพ่อย้อน..เจ้าอาวาสวัดโตนดหลวงปัจจุบัน(ผมกำลังจะเล่าถึง..ในตอนต่อไป)..บวชพระ..ได้ ๑ พรรษา..หลวงพ่อศุข..ก็เสีย
...
....หลวงพ่อแถม..นี่..ไม่ทันเลย..แต่ได้เรียนกับ หลวงพ่อจันทร์(..ตามประวัติ..ที่มีลงใน..เว็ป)..คงเรียน..กับ..หลวงพ่อเมี้ยน..ด้วยมั้ง..
....หลวงพ่อหวล..หลวงพ่อห่วย...นี่ท่านก็เป็น..ศิษย์หลวงพ่อ..รุ่นท้ายๆ..แล้วครับ..แต่มาก่อน..หลวงพ่อย้อน...

 

ไม่ได้เป็นคนตระกูลนี้หรอกครับคุณอา modpong
เมื่อก่อนติดตามฟุตบอลอิตาลีบ่อยครับ เลยยืมเอาเขาชื่อมาใช้ เพราะเรียกยากดีครับ
อันเดรีย คาราคเชียโร่เคยเป็นกองหน้าสโมสรปาแลร์โม่
ตอนนี้น่าจะย้ายไปอยู่เบรสชาล่ะครับ

แอบติดตามกระทู้คุณอามาตลอดครับ
อ่านแล้วได้ความรู้ และเรื่องราวดีๆที่หาจากที่ไหนไม่ได้
จากคุณอา modpong เสมอครับ :VO

 

....
...ขอบคุณ คุณCaracciolo..ที่ไขข้อข้องใจ...ผมรู้จักเพราะ..เมื่อเกือบ๕๐๐ ปีก่อน..มีจิตรวาดภาพสีน้ำมัน..ชาวอิตาลี..ที่เป็นคนตระกูลนี้..วาดภาพสวยดีครับ...
...ผมแนะให้..คุณอ่านเป็น..ภาษาไทยผิดนะครับ..ต้องอ่านว่า.."คา-รัค-ชิ-โอ-โล่"...ครับ.........
............เอ้ามาว่า..กันต่อ......
................................................................................
.....เมื่อประมาณปลายตุลา..ปีที่แล้ว..ผม..พร้อมกับ..พ่อ..และ..พี่่ๆ(ผมลูกคนสุดท้อง).....
..เราไปทำบุญกระดูก..แม่ที่บรรจุไว้ที่..โกษฐ์เจดีย์ตีนเขาตะเครา..วัดหลวงพ่อวัดเขาตะเครา
..ซึ่งเราทำกัน..ทุกๆปีไม่เคยขาด..ระหว่างจะแยกย้ายกันกลับ..พี่ชายคนโต(คนที่หลวงพ่อศุข
ลงกระหม่อมให้)..แกก็บอกกับ..ผมว่า..ตอนนี้..หลังเกษียรแล้ว..พี่ว่างขึ้น..นึกขึ้นมาอยาก..
ทอดผ้าป่า..ที่วัดโตนดหลวง..ตอนปลายปี..จะพาพ่อกลับไป..ที่วัดโตนดหลวงอีกครั้ง..เราจะไปด้วยมั้ย
........ผมก็ดีใจ..รีบบอก..ไปซิพี่...ยังไงนัดหมายโทรมาหาผม..อีกที..ล่วงหน้า.....
............ถ้าผม..กลับไป..วัดโตนดหลวง..นี่จะเป็น..ครั้งที่..๓..ของผม...จากที่ผมเคยเล่าไปแล้ว
...ผมไปวัดโตนดหลวง..ครั้งแรก...ประมาณ..ปลายปี ๒๕๑๕ หรือ..ต้น๒๕๑๖..นี่แหละ..ผมจำ
ไม่ได้แล้ว...ครั้งแรกนั้น..ผม..ไปกับ..พ่อ...ด้วยเพราะ..การไปหาหลวงพ่อจันทร์..ที่วัดมฤคทายวัน
...........ครั้งนั้น....ศาลาการเปรียญ..ยังอยู่ในสภาพเดิม..เก่าๆ..ทึมๆ..กว้างขวาง...ยังมี..คนบ้าถูกล่าม
โซ่..ไว้ที่มุม..ศาลา...เพราะตอนนั้น..หลวงพ่อแผ่ว..เจ้าอาวาส...ยังยึดปฎิปทา..ของอาจารย์อยู่..
คือ..รักษาคนบ้า..เสียสติ....ก็ไม่ได้คุยอะไรกับท่านมากตามที่เคยเล่า..เพียงแต่พ่อ..เสียใจ..ที่มี..
มือดี..ไม่ทราบว่า..ฆาราวาส..หรือ..พระ...เอารูปที่พ่อผมถ่าย..หลวงพ่อศุข(รูปเดียว..กับที่ลงใน
บทความนี้..แต่เป็นอันที่นำไปถวายท่านตั้งแต่แรก)..เอาไปแล้ว...หายไปเมื่อไหร่..ถามหลวงพ่อ
แผ่ว..ท่านก็จำไม่ได้แล้ว....ครั้งนั้น..ก็ได้..ลงจากศาลา..ไปดูและเข้าไปด้านในโบสถ์มหาอุตม์..
...พ่อยังชี้..เลยว่า..ท่านนั่งให้สักตรงไหน...หลวงพ่อศุขนั่งตรงไหน...ตอนนั้น..ผมยังไม่ได้เข้าใจ
ลึกซึ้งในประวัติศาสตร์ศิลปไทย..มากมายนั้น..ก็เพียงแต่เห็น..ว่าใกล้ฐานผนังด้านนอก..เขาทำ
บัวตีนผนัง..ส่วนที่จะติดกับพื้น..โค้งแอ่น..สวยดี..พ่อก็บอก..ว่านี่เขา..ทำแบบกราบเรือสำเภา..
...และก็บอกผมว่า..โบสถ์นี้..เขาเรียกว่า..โบสถ์มหาอุตม์..เพราะ..มีประตูหน้าด้านเดียว..และ
มีหน้าต่าง..แค่ ๒ บาน..คือ..ผนังด้านยาว..ข้างละ ๑ บานเท่านั้น......
..............ตอนนั้น..ถนนก็ยังไม่ดี...บ้านเรือนอยู่กัน..ห่างๆมาก..แต่ละหลัง...เรียกว่า..ไกลปืนเที่ยง
เลย...มาทางรถ..ต้องอาศัย..เส้นเลียบคลองชลประทานอย่างเดียว....ตอนนั้น..ผมไม่ค่อยได้สนใจ
...หลวงพ่อแผ่ว..เท่าไหร่...เพราะผมไปหาหลวงพ่อจันทร์..ศิษย์คนแรก..ในความคิดผม..ว่า..
ท่านเหนือ..กว่า..หลวงพ่อแผ่วด้วยประการทั้งปวง...เราก็ได้..พระสมเด็จหลังยันต์ครู..มากัน
คนละองค์..โดยที่หลวงพ่อแผ่วมอบให้......
.............แต่เรื่องแปลกใจอย่างนึง...ก่อนจะไปถึงวัด...เราขับรถกันไปช้าๆ...ก็เห็นไอ้หนุ่มคนหนึ่ง
..ขี่จักรยานสวนมา..อายุไม่น่าเกิน ๒๕-๒๖ แต่..เหนือราวนมขวา...สักยันต์ครู..ดำปึ้ด..ชัดมาก..
.....พ่อผมเห็น..ก็ให้จอดรถ..เข้าไปถาม...ว่า..นี่สักยันต์..กับ..หลวงพ่อศุขด้วยเรอะ.(.ผมว่าพ่อคง
ลืมอายุตัวเองมั้ง...หลวงพ่อเสียไป ๑๕-๑๖ ปีแล้ว..ๆไอ้นี่มัน..จะไปทันสักได้ไง....แล้วท่านก็ไม่
สักให้เด็กด้วย....)....ไอ้หนุ่มนั่นก็บอกว่า...เปล่าหรอกครับ..ผมไม่ทันท่าน...นี่ผมสักกับหลวงพ่อ
แผ่วครับ.....พ่อกลับเข้ามาในรถ..แล้วหัวเราะ(..พ่อยืนอยู่ข้างรถ..คำสนทนาคนในรถ..ได้ยินหมด)
....บอกเอ้อ..ลืมไป...หลวงพ่อท่านเสียไปตั้งนานแล้วนี่....
..............แล้วพ่อก็เล่า..ว่าผู้ชาย..แถวๆนี้..สมัยที่หลวงพ่อศุขยังอยู่...ส่วนใหญ่เดินไปเดินมา...หรือ
ทำงานบ้าน..ก็ไม่ค่อยใส่เสื้อกัน...ส่วนใหญ่จะสักยันต์ครู..เหนือราวนมขวา..กันทั้งนั้น..แล้วไม่
ห้อยพระ..หรือ..คาดตะกรุดกัน...เหมือนอย่างที่อื่น....พ่อเคยถาม..นายสิบลูกน้อง..ที่เป็นลูกศิษย์
หลวงพ่อศุข..บ้านอยู่แถวนั้น..เรื่องนี้...เพราะเวลา..ไปที่อื่น..ต่างอำเภอไป...ก็เห็นคนคาดตะกรุด
(พวกตะกรุดโทน..ตะกรุดมหารูด...กัน)...หรือ..บางคนก็แขวนพระ.....
...........ลูกน้องพ่อก็บอกว่า....ที่นี่( แถววัดโตนดหลวง)..กับ..ที่ท่ายาง(ลูกศิษย์หลวงพ่ออยู่..ท่ายาง
เยอะ)...เขาถือว่า..สักยันต์ครูหลวงพ่อนี่..สุดยอดแล้ว...ก็ไม่จำเป็นต้องพกอะไรคุ้มครองอีก....
...ไม่ต้องมาเสียเวลา..ถอดเข้าถอดออก..(..ผมเข้าใจว่า..คงสะดวกเรื่อง..นอนกับเมีย..ถ้าพก..
ตะกรุด..ก็ต้องถอด...เดี๋ยวออกไปไหนพอรีบๆ..เสือกลืมคาดอีก..)...เว้นแต่..พวกที่ไม่ชอบสัก
กับ..กลัวเข็ม...ถึงจะคาดตะกรุด..หลวงพ่อกัน...(ท่านไม่มีการสักน้ำมัน..นะครับ..หมึกอย่างเดียว)
....สมัยโน้น..ใครจะไปเขาโรงเรียนนายร้อยทหารบก..ทหารเรือ..ทหารอากาศ..หรือ..ตำรวจ..
..จะมีรอยสักที่ไหนๆก็ไม่ได้...แม้แต่ที่เดียว...เพราะถือว่าเป็น..อันธพาล.....
..................................ต่อตอนหน้าครับ................................

 

สวัสดีครับ พี่มด
บทความน่าติดตามมากครับ ....

ปล. ไม่ได้มาดันกระทู้ แต่อยากบอกว่าหาอ่านที่ไหนไม่ได้ สำหรับผมแล้ว เกิดไม่ทันหลวงพ่อศุข แต่ถ้าผมได้รู้ เรื่องราวของหลวงพ่อศุข บ้าง ไม่มาก ก็น้อย จากพี่มด ก็ยังดีกว่าไม่รู้อะไรเลย หรือว่าศรัทธาแต่เขาว่า ซึ่งจริงหรือเปล่า ก็ไม่อาจทราบได้ แต่สำหรับพี่มด ที่เขียนบทความขึ้นมาจากประสบการณ์ตรง ใช้ภาษาบ้านๆ ที่เข้าใจง่าย ผมว่ามันดีมากๆ ครับ เวลาอ่านแล้ว เหมือนเราเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ ด้วย ก็ขอเป็นกำลังใจให้ครับ...สำหรับผลงานดีๆ แบบนี้

 

ขอรบกวน คุณ มด ช่วย เล่า เรื่อง หลวงพ่อ ฉิน วัดชะอำ ด้วย ครับ

ขอขอบคุณ ล่วงหน้า ครับ

 

.......
...ขอบคุณครับ.....คือเรื่องของเรื่อง...ประวัติหลวงพ่อยุคปัจจุบัน...บางที..เน้นธุรกิจมากไป..แม้กระทั่ง...ที่มีในเว็ปนี้...ขาดรายละเอียด..และความเป็นธรรมดา..ผมก็ไม่ได้มีอะไร..ไม่เกี่ยวข้องกับ..ธุริจพระ..เล่าเท่าที่ตัวเองรู้..ตรงไหนไม่รู้ผมก็ไม่เล่า..เพราะไม่อยากเอาขี้ปากชาวบ้านมาอ้าง..เรื่อง..หลวงพ่อทั้งสอง..ผมก็ไม่ได้รู้ซะทุกเรื่อง..แต่บางอย่างไม่แน่ใจ..ผม..ก็ให้ข้อสังเกตบ้าง...ก็เท่านั้นครับ..ไอ้ที่มาถ่ายทอดนี่..เพราะ..มีเหตุผลประกอบบางประการคือ..ต้องการให้บางอย่างที่เข้าใจ..กันผิด..เข้าใจเสียใหม่ด้วย...ขอบคุณครับ...

 

........
....เรื่อง..หลวงพ่อฉิน วัดชะอำนี่..ผมไม่ค่อยคุ้น..ท่านครับ..เพียงแต่ทราบว่า..ท่านเป็น..ศิษย์รุ่นกลางๆ..เท่าที่พอรู้นี่ท่านก็เก่งนะครับ..ทำเตรื่องราง..วัตถุมงคล..ก็..คล้ายๆกับอาจารย์..คนเอาไปใช้แล้วได้ผล..ไม่น้อย..
...และก็..เป็น ๑ ในลูกศิษย์หลายองค์ของหลวงพ่อศุข..ที่ยึดมั่นกับ..
ยันต์ครู......ลูกศิษย์องค์อื่นๆนี่..ผมไม่ทราบนายละเอียดหรอกครับ..
...ลองไปเปิดหา..ในเว็ปดู..มีคนเขาเขียนกันเยอะแยะ...ผมรู้แค่..หลวงพ่อจันทร์..องค์เดียว..ครับ

 

สวัสดีครับคุณอา ขอบคุณครับสำหรับความรู้หลวงพ่อศุข นับถือนานแล้ว แต่วัตถุมงคลของท่านหายากจัง

ผมมีพระกริ่งยอดหมุด วัดราชบพิตร 2495 ซึ่งได้มาจากเพื่อนโดยพ่อเค้าเป็นคนเพชรบุรี คุณอาทราบไหมครับว่าของหลวงพ่อศุขเอามาแจกหรือเปล่า หรือหลวงพ่อท่านอื่น ขอบคุณครับ

ขอให้คุณอาแข็งแรงนะครับ

 

...ขอบคุณครับ..สำหรับคำชม..และ..คำอวยพร...
...เมื่อครั้งปี ๒๔๘๑ สมัย กรมหลวงชินวรศิริวัฒน์ พระสังฆราชเจ้า...ท่านครองวัดราชบพิธ..มีการสร้างกริ่งยอดหมุด....หลวงพ่อศุข..ก็ไปร่วมปลุกเสกด้วย...มีหลักฐานของวัดราชบพิธ..ระบุชัดเจน....
...ผู้สร้าง..คือ..พระยาศรีสุรสงคราม...
........ส่วนเมื่อ ๒๔๙๕ นั้นร่วมกับ..อาจารย์อีก ๑๘ รูป..นั้นก็มีการเล่ากันในประวัติหลวงพ่อ...แต่หลักฐานของวัดราชบพิธ..ผมหาไม่เจอ...
....ก็อาจเป็น..แบบนั้นก็ได้......
...........ส่วนเรื่องที่..หลวงพ่อศุข..นำมาแจกนั้น..ก็ยิ่งไม่มีระบุเป็นหลักฐาน...และ..ถ้าเป็นจริง..ก็จะต้องหลังการปลุกเสก..ไประยะหนึ่งคือ..
คือ..หลังจากมีการ..ให้บูชากันแล้ว...ซึ่งเรื่องนี้..ผมไม่ยืนยันครับ...