อบรมการสร้างกังหันลมจากพี่บรรจง นักทำ....กังหันลม....จากคนค้นคน

การสร้างใบ


<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/Fba9OxibREo?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/Fba9OxibREo?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/qGzskuBlsgY?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/qGzskuBlsgY?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/mgEhGHsYQfo?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/mgEhGHsYQfo?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>





<!-- / message --><!-- attachments -->

<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>ไฟล์แนบข้อความ</LEGEND><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD></TD><TD>VDO2_1.wmv (94.59 MB, 0 views)</TD></TR><TR><TD></TD><TD>VDO2_2.wmv (93.20 MB, 0 views)</TD></TR><TR><TD></TD><TD>VDO2_3.wmv (92.92 MB, 0 views)</TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></FIELDSET>

1. ใช้ไม้...ที่ทนแดดทนฝน...หรือไม้ที่หาได้ง่าย...ขนาด กว้าง 6 นิ้ว ยาว 4 ฟุต หนา 2 นิ้ว (ในแบบบอกให้ใช้ 1 นิ้วครึ่ง)...จำนวน 3 ชิ้น ( 3 ใบ)



2. ใช้ดินสอแบ่งไม้ออกเป็น 6 ช่วง...จากนั้น...กำหนดตำแหน่งตามตาราง...แล้วลากเส้นเชื่อมต่อกัน...จากนั้นเฉือนไม้ออก...ตามเส้นที่ลาก (ในแบบเขียนว่า Cut along this line )



3. ต่อไปจะทำการถากเนื้อไม้ส่วนที่ไม่ต้องการออก...โดยกำหนดตำแหน่ง (ตามตาราง)...แล้วลากเส้นเชื่อมต่อกัน...จากนั้นถากเนื้อไม้ออก (ในรูปเรียกว่า Drop)






4. ต่อไป...จะทำการเฉือนใบพัดให้ได้ความหนาตามต้องการ...โดยกำหนดตำแหน่ง...ที่สันไม้ทั้งสองด้าน (ตามตาราง)...แล้วลากเส้นเชื่อมต่อกัน...เฉือนเนื้อไม้จนได้ความหนาที่ต้องการ

สังเกตุว่า...ขณะนี้...สันใบพัดทั้งสองด้านจะมีความหนาของสันในแต่ละช่วง...เท่าๆกัน (ตามตาราง)






5. ทำการแต่งใบ...ให้เป็นรูปโค้ง...โดยมีสัดส่วนของโค้งที่ 70% และ 30%....(ดังรูป)





ลักษณะใบพัดที่เสร็จแล้ว




.

 

การประกอบกังหัน

แบบโครงสร้างกังหัน อยู่หน้า 2-6 ครับ

- ใช้ดุมล้อหลังรถเก๋ง (ของเก่า)...มาใช้เป็นดุมของกังหันลม
- หลังจากเชื่อมโครงกังหันตามแบบแล้ว...นำดุมล้อ...มายึดกับโครง
- จากนั้นใส่...Rotor และ Stator
- ต่อสายไฟเข้า Briged Diode ตามแบบหน้า 9


.

 

ทาวเวอร์ และฐานราก


<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/-SpaMR8qbaY?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/-SpaMR8qbaY?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/tzJsW0WGfnE?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/tzJsW0WGfnE?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>



แบบอยู่หน้า 7 และ 16-17 ครับ

- ทาวเวอร์ (หน้า 16-17)...ใช้แป๊ป 3 นิ้ว ความยาวตามต้องการ เช่น 6, 12, 18 เมตร....หากใช้แป๊ปมากกว่า 1 ท่อน...ต้องขึงสลิง 4 ด้านด้วยครับ

- ฐานราก (หน้า 7)...ให้หล่อฐานแผ่ (คอนกรีต) ลึกประมาณ 1 เมตร....ครับ

<!-- / message --><!-- attachments -->



<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>ไฟล์แนบข้อความ</LEGEND><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD></TD><TD>VDO3_1.wmv (77.67 MB, 0 views)</TD></TR><TR><TD></TD><TD>VDO3_2.wmv (77.60 MB, 0 views)</TD></TR></TBODY></TABLE></FIELDSET>

.

 

VDO ภาพบรรยากาศ...การอบรมการสรางกังหันลม

- การสร้าง Alternator (การพันขดลวดของ Stator และการติดแม่เหล็ก Rotor)
- การสร้างใบพัด และการถ่วงใบพัด
- ทาวเวอร์ และฐานราก
- ปัญหา และอุปสรรคต่างๆ


ปล. จากรูป...ท่านสามารถ Copy Shortcut ไฟล์ VDO แล้วนำไปเปิดใน Windows Media Player โดยเลือกแบบ Open URL จากนั้นนำ Shortcut ใส่ลงไป...ก็จะสามารถดู VDO ได้โดยไม่ต้อง Download ไฟล์...ครับ

.

 

ผมขอ share VDO จากรายการคนค้นฅน (จาก CD แผ่นที่ 2 ของพี่บรรจงครับ)

ปล. เนื่องจากข้อมูลจาก CD ไม่ค่อยจะสมบูรณ์จึงทำให้บางไฟล์มีเนื้อหาตอนท้ายๆจะหายไปครับ

 

ของดีดีช่วยกันดัน..

สนใจมากเลยครับ(f)

 

เพิ่มเติมการเหลาใบของ อ.บรรจง ครับ

 

ชัดเจนดีมาก...ครับ

 

วานนี้เห็นนสพ.ลงข่าวการขายคาร์บอนเคดิตได้จริงๆแล้ว ไม่รู้ขายยากมั้ย

เอทีบีประเดิมรายแรกไทย ขายคาร์บอนเครดิตญี่ปุ่น



โพสต์ทูเดย์ — เอ.ที.ไบโอพาวเวอร์ ได้รับอนุมัติให้ขายคาร์บอนเครดิตเป็นรายแรกของไทย


นายนที สิทธิประศาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ.ที.ไบโอพาวเวอร์ (เอทีบี) กล่าวว่า โรงไฟฟ้าชีวมวล เอ.ที.ไบโอพาวเวอร์ ได้ดำเนินงานตามโครงการกลไกพัฒนาที่สะอาด (ซีดีเอ็ม) และได้รับอนุมัติ จากคณะกรรมการบริหารซีดีเอ็มขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ให้ขายสิทธิในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณที่กำหนดไว้ (คาร์ บอนเครดิต) เป็นรายแรกของไทย

ปริมาณคาร์บอนเครดิตที่ขายครั้งนี้กว่า 1 แสนตันคาร์บอน ซึ่งเป็นปริมาณตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค. 2548-30 มิ.ย. 2550 ได้รับการตรวจสอบรับรองจากยูเอ็นแล้ว และครั้งต่อไปจะมี 3 แสนตันคาร์บอน เป็นปริมาณตั้งแต่เดือน ก.ค.-ธ.ค. 2550

นายนที กล่าวว่า ปีนี้บริษัทจะ มีรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิต 40 ล้านบาท จากรายได้ทั้งหมด ในการผลิตไฟฟ้าจำหน่ายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 400 ล้านบาท กำลังผลิต 20 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ บริษัทได้ทำสัญญาซื้อ ขายคาร์บอนเครดิตกับ บริษัท ชูบู อิเล็กทริก พาวเวอร์ จากญี่ปุ่น โดยผูกพันการซื้อขายตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2550-2555

ที่ผ่านมา บริษัทประสบปัญหาต้นทุนผลิตไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะราคาแกลบที่สูงขึ้นตามราคาข้าวเปลือกและน้ำมัน เมื่อมีรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิต ทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น

สำหรับราคาคาร์บอนเครดิตในตลาดโลกอยู่ที่ 20 ยูโรต่อตันคาร์บอน ปรับตัวขึ้นสูงจากปีที่แล้ว ที่ราคา 10 ยูโรต่อตันคาร์บอน และมีราคามีแนวโน้มสูงขึ้น

ด้านนายศิริธัญญ์ ไพโรจน์บริบูรณ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้มีโครงการที่ได้ รับการอนุมัติจากภาครัฐ แต่ยัง ไม่ได้ขึ้นทะเบียนหรืออนุมัติให้ขายคาร์บอนเครดิต 30 โครงการ คิดเป็นปริมาณ คาร์บอนเครดิต 2.13 ล้านตันคาร์บอน
นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่รอพิจารณาอีก 27 โครงการ ปริมาณคาร์บอนเครดิต 1.4 ล้านตันคาร์บอน เมื่อรวมปริมาณที่ไทยจะลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 3.5 ล้านตันคาร์บอน และสิ้นปีนี้จะมีโครงการเพิ่มเป็น 80-90 โครงการ

ที่จริงเห็นข่าวทีวี บอกว่าช่วงนี้รัฐบาลให้เงินกู้แบบปลอดดอกเบี้ย เพื่อโครงการประหยัดพลังงาน แหมถ้ากู้มาสร้างกังหันกันได้ก็ดี หรือกู้มาซื้อของอ.บรรจงก็คงได้มั้ง รึเปล่า ???

 

หากจะผลักดันให้เกิดต้องพยายามทำเรื่องขอติดมิเตอร์ไฟแบบหมุนกลับได้มาติดที่บ้านก่อน เพราะจะทำให้ประหยัดการใช้แบตตารี่ ซึ่งมีราคาสูงออกไปจากระบบ

จากนั้นทำเรื่องขายไฟฟ้ากลับให้การไฟฟ้า (หากผลิตไฟฟ้าได้เกินนะ)

จากนั้นจึงทำเรื่องขาย คาร์บอนเครดิตแบบขนาดเล็กรายย่อย

จะให้เยี่ยม ทำให้เกิดเต็มรูปแบบ

1. รวมตัวกัน เป็นสหกรณ์บริการพลังงานทางเลือก

2. ร่วมกันผลิต สั่งผลิตชิ้นส่วน เพื่อลดต้นทุนกังหันลม

3. รวมตัวกันทำเรื่องขอเสนอขายไฟฟ้าเป็นโครงการให้การไฟฟ้า และขอมิเตอร์ ไฟฟ้าหมุนกลับ

4. รวมตัวกันขายคาร์บอนเครดิต ในฐานะรายย่อย(ระเบียบขั้นตอนง่ายกว่า)

ตันละ 20 ยูโร ก็คือ 1200 บาท โดยประมาณ เรทประเภทพลังงานทางเลือกที่ลดปริมาณคาร์บอนมีวิธีคำนวนอยู่ ซึ่งพลังงานลม ได้เยอะเพราะสะอาดมาก

อย่างที่ยกมาเป็นพลังงานที่ผลิตไฟฟ้าจากการเผาแกลบ เป็นโรงงานที่พิจิตร เครื่องยนต์ที่เป็นแก็ซเทอร์ไบน์เป็นของโรลลอยย์ ซึ่งราคา พันกว่าล้านบาท(อ่า ของจีนหรือเยอรมันก็มีราคาถูกกว่า)

ทำไปทำมารายได้จากคาร์บอนเครดิตดีกว่าขายไฟฟ้าอีก เท่ากับได้ใช้ไฟฟ้าฟรีและมีรายได้อีก

หากสนใจเรื่องขายไฟฟ้า วันหลังหากเจอจะเอาสัญญาที่การไฟฟ้าให้สัญญาขอซื้อไฟฟ้าจากโครงการที่ผมเขียนโปรเจ็คค์เอาไว้มาให้ดู

 

หากท่านใดสงสัยในขั้นตอนการสร้างหรือปัญหาอื่นใด...สามารถโพสไว้ในกระทู้ได้...ครับ


<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/OrEaq3TNOe4?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/OrEaq3TNOe4?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/68H3uY3XXlQ?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/68H3uY3XXlQ?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

 

ขอเสนอความคิดเห็นเพิ่มเติมจากครับ (i)

โดยส่วนตัวผมเห็นว่า ในเรื่องการผลิตนั้น ถ้าเราไม่มีความชำนาญ จะต้องใช้เวลามากขึ้นหลายเท่าตัว เช่นที่ท่าอ.บรรจงได้เล่าให้ฟัง ท่านใช้เวลาลองผิดลองถูก ผลิตแล้วเสียหายไปบ้าง หรือทำออกมาแล้วได้พลังงานออกมาไม่คุ้มกับต้นทุนที่เสียไป สุดท้ายจึงได้ต้นแบบที่ท่านคิดว่าคุ้มค่าในการสร้าง ในราคาที่ไม่แพงไป แต่ต้องใช้เวลากว่า สามปี

ผมเลยคิดว่าถ้าจะสร้าง ควรใช้ ต้นแบบที่น่าจะใช้งานได้แน่ๆ เป็นตัวอย่างก่อน ( หมายถึง Spec. ของอ.บรรจง ) แบ่งงานเป็นส่วนๆ และหาทางทำในแต่ละส่วนโดยผู้ชำนาญการในแต่ละด้าน จะประหยัดเวลา ลดความเสียหาย และที่สุดได้ผลผลิตที่ใช้งานได้เลย และได้ output ที่คุ้มค่าต้นต้นทุน

ตัวอย่างเช่น

ส่วนของตัว generator นั้น ถ้าเราจะมาช่วยกันพันสายทองแดงเอง ไม่รู้ว่าแต่ละท่านจะพันแล้วนำไปประกอบได้หรือไม่ บางคนอาจจะพันวงใหญ่เป็นพิเศษ บางคนพันแล้วไม่เป็นวง พันแล้ว บวมๆ เบี้ยวๆ เป็นต้น อันนี้ เราต้องหาคนที่มีฝีมือเชิงช่างกลอยู่แล้ว เป็นผู้ผลิต

ส่วนเรื่องเวลา พวกเราแต่ละคนไม่มีเวลา เพราะมีงานประจำอยู่แล้ว มาทำเป็นพักๆ สัปดาห์ละ 5 -6 ชั่วโมง บางสัปดาห์ก็ไม่ว่าง ก็คงไม่สามารถสร้างเป็นรูปเป็นร่างได้

ข้อนี้ ผมเลยมาคิดว่าถ้าจะทำได้จริงต้องวางโครงงาน ในรูปแบบกึ่งอุตสาหกรรมครับ โดยแบ่งเป็นส่วนๆ มีผู้คุม Line การผลิต และผู้ปฏิบัติงาน

ผู้รู้จริง คือ ท่านอ.บรรจง เป็นผู้คุมงานการผลิต

ผู้ที่มีเวลาว่าง คือ ชาวบ้านแถวนั้น หรือ โรงเรียนเพาะช่าง เช่น ผมเคยเห็นแถวริมมอเตอร์เวย์ทีโรงเรียนเพาะช่างบางปะกง ( หรือเปล่าไม่แน่ใจ ) ซึ่งพวกนักเรียนพวกนี้ มีเวลาเรียนวิชาช่างอยู่แล้ว มีพื้นที่และเครื่องมือพร้อมของโรงเรียน

เราอาจจะเสนอเป็นโครงการเข้าไปให้โรงเรียน หรือชุมชน ให้คนพวกนี้ มาเป็นแรงงานหลักในการทำส่วนที่ยากนี้ ถ้าเป็นโรงเรียน เด็กนักเรียนจะได้ประโยชน์ด้วย ได้เบี้ยเลี้ยง ได้ความรู้ประสบการณ์ และได้คะแนนไปพร้อมกัน หรืออาจจะเป็นแนวทางไปประกอบเป็นวิชาชีพได้ทันที ที่เรียนจบ ( ถ้าอ.ผู้สอนเห็นด้วย น่าจะ work ) ในระหว่างการผลิตก็มี อ.บรรจง คอยดูแลความถูกต้อง หรืออาจจะได้อ.จากโรงเรียนเพาะช่าง มาเป็นผู้ช่วยดูแล

หรือถ้าจะช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ก็เสนอให้มีการแข่งขันประกวดเป็นทีม ให้เด็กนักเรียนนำไอเดียนี้ ไปทำเป็นโครงงานมาเสนอ แข่งกันว่าทีมไหนสามารถประดิษฐ์เครื่องที่ใช้ต้นทุนได้ต่ำที่สุด และได้พลังงานไฟฟ้าคุ้มค่าที่สุด และเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของไทยเรามากที่สุด

ผมคิดว่าถ้าทำในแนวทางนี้ โครงการนี้ก็จะสามารถเกิดได้งเป็นรูปเป็นร่างได้เร็วขึ้นครับ (smile)

กลัวว่าต่างคนต่างนำไปทดลอง แล้วจะไม่ทันการณ์ เพราะสังเกตุเห็นภัยพิบัติ และความวุ่นวายทั่วโลกตอนนี้ แล้วรู้สึกว่า เหลือเวลาไม่มากแล้วครับ ช่วยๆกัน (||)(||)(||)

 

ไอเดียดีนะครับ แต่ว่าพี่บรรจงจะมีเวลามาคุมหรือเปล่านี่สิครับ

ส่วนอันนี้เป็นเครื่องพันหม้อแปลงแบบ DIY (ทำเองกะมือ) เอามาใช้พันสายทองแดงกังหันลมได้มั๊ย

 

ตอนที่ไปฟังอ.บรรจง บรรยาย เห็นท่านเล่าให้ฟังว่า ขณะนี้มี Order มาก แต่กำลังคนจำกัด งบประมาณจำกัด ก็เลยช่วยคิดเสนอไอเดียนี้ขึ้นมาว่า ถ้าขืนรออ.บรรจงผลิตไปเรื่อยๆ คงได้ Generator ไม่กี่ตัวเองต่อปี ไหนจะต้องเดินทางไปติดตั้งตาม size งานเองอีก บางทีไปวัดในที่กันดาร บางทีไปในป่า ขึ้นไปบนภูเขาสูง หรือไปถึงประเทศพม่าก็มี โครงการนี้ รออ.บรรจงคนเดียว ตายแน่ๆ

ถ้าเราทำให้เป็นระบบมีทีมงานทำเป็นเรื่องเป็นราว อ.บรรจงเพียงแต่ช่วยแนะนำในระยะหนึ่งเท่านั้น หลังจากนั้น ระบบจะช่วยให้ทำกันได้เอง เพราะทุกคนที่ทำมีหน้าที่ชัดเจน และมีผลประโยชน์ ถือเป็น Win - Win

( ผมคิดเอาเองว่า ถ้าเครื่องที่ท่านอ.บรรจง ได้เป็นผู้บุกเบิก สามารถแพร่หลายออกไปในวงกว้างในประเทศไทย ท่านเองก็คงจะดีใจ )

ผมเองเชื่อว่า ถ้างานออกมาเป็นรูปเป็นร่าง บางคนอาจจะรับไปทำเป็น job ส่วนตัว รับเป็นกลุ่มทำแบบ Sub - contract ไปเลยในอนาคต เพราะมี demand ในตลาดแน่ ถ้าขายไม่แพงเกินไป

เรื่องเครื่องพันทองแดง เท่าที่ได้ฟังมา ท่านบอกว่า เป็นทองแดงเบอร์ใหญ่พิเศษ ไม่สามารถพันได้ง่ายๆ ผมจึงคิดเอาเองว่า ถ้ามาลองทำเองคงเสียของไปเยอะกว่าจะพันเป็น คิดว่าไม่น่าจะเป็นแบบ DIY (ไม่แน่ใจครับ )

สาเหตุที่อยากจะดันโครงการนี้ ทั้งที่ ผมก็ทำเองไม่ได้หรอก

คิดว่าโครงการดีๆแบบนี้ ถ้าทำให้สามารถปฏิบัติได้จริง จะช่วยชาติได้มาก ถึงแม้ไม่เกิดภัยพิบัติ ช่วยให้ไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าเครื่องจากต่างประเทศในราคาแพงๆ หรือยิ่งถ้าภัยพิบัติเกิดขึ้นมาจริงๆตามที่เราติดตามเฝ้าระวังอยู่ เครื่องมือนี้จะช่วยให้หลายๆชุมชนมีพลังงานใช้ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาการไฟฟ้า น่าจะช่วยให้หลายๆชุมชนได้เพิ่มโอกาสอยู่รอดได้อย่างมากมายมหาศาล จึงอยากจะลับสมองช่วยกันคิดต่อยอดไปเรื่อยๆ ใครอยากทำก็นำไปปฏิบัติต่อ ไม่มีลิขสิทธิ์ครับ

ทำไปก็เพื่อมนุษยชาติครับ (f)

 

คุณ pew pew ไอเดียเยี่ยมครับ
ถ้าแบ่งกันไปทำตามความชำนาญ คงเหมือนโรงงานประกอบเครื่องบินนะครับ
เสร็จเป็น parts แล้วส่งมาประกอบที่โรงงาน..
ดูความถนัดแล้วแบ่งกันไปทำได้ครับ ยุคนี้พลังงานเป็นเรื่องสำคัญมากจริงๆ
เห็นด้วยครับว่า..พลังงานแบบนี้ใช้แล้วไม่มีวันหมด..โลกเราต้องการครับ
พวกอาคารสูงๆ หรือใกล้ยอดเขาจะใช้ประโยชน์จากลมได้ดีมากครับ
อาจทำกังหันในระนาบแนวนอนหมุนรับลมรอบอาคารได้เหมือนกัน
ต่อยอดได้อีกหลายอย่างจริงๆครับ

 

จริงด้วยครับ เห็นด้วยอย่างยิ่ง (smile)

ตอนคิดเรื่องอพยพ จะติดอยู่แต่เรื่องความเป็นอยู่หลังภัยพิบัติ พวกเรามันติดนิสัยการใช้ชีวิตอยู่ โดยอาศัยพลังงานไฟฟ้าแทบทุกอย่าง ถ้าไม่มีพลังงานไฟฟ้า เราต้องปรับตัวอย่างมากมายมหาศาล จนแทบคิดไม่ออกว่าจะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน หากไม่มีพลังงานไฟฟ้าเลย

ในใจลึกๆคิดเอาเองเลยว่า ถึงแม้เรารอดจากภัยพิบัติได้ แต่ถ้าไม่มีไฟฟ้าเลย คงอยู่รอดได้ไม่นานแน่ๆ

พอดีได้ทริปของคุณ Falkman มาช่วยจุดประกายเรื่องแหล่งกำเนิดพลังงานไฟฟ้า ผมจึงอยากให้โครงการนี้ เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม และจริงจัง มากกว่าจะคิดไปเรื่อยๆจน...

มีความรู้ท่วมหัว แต่ก็เอาตัวไม่รอด (cry)

 

​

การติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้า ขนาด 200 W “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านดา”​

จังหวัดนครสวรรค์
​

ผู้ผลิตและจำหน่ายไวน์ดอกบัว, ไวน์กระชายดำน้ำผึ้ง, ไวน์ข้าวหอมมะลิ, ไวน์ชมพู่และผลไม้รวม, ไวน์มะตูม, สาโท, สมุนไพรดองยา

สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP)
ของจังหวัดนครสวรรค์

คุณธัญดา ปานขลิบ
(ประธานแม่บ้านเกษตรกรระดับจังหวัด)
วิสาหกิจชุมชนบ้านดา
สำนักงาน : 359/100 หมู่ 3 ต.หนองกลับ อ.หนองบัว จ. นครสวรรค์ 60110
Tel 081-9712657, 081-4093679, 056-323074-5

​

<table id="table1" width="100%" border="1"><tbody><tr> <td align="center">

ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์

กำหนดตำแหน่งและตอกยึดฐานเสาของกังหันลม

ต่อเสากังหันลมทั้ง 3 ท่อนโดยการสวมยึดให้แน่น

ประกอบเสาของกังหันลมกับฐาน หลังประกอบเสร็จควรอัดปูนเข้าใต้ฐานเพื่อความแข็งแรง

ร้อยสายไฟจาก Generator เข้าไปในเสากังหันลม

สายไฟจาก Generator เพื่อต่อไปยังชุดควบคุม

เตรียมประกอบใบพัดกังหันลม

ประกอบใบพัดกังหันลม

ประกอบหัวกังหันลมเพื่อลดแรงลมปะทะ

</td> </tr> <tr> <td align="center"> ขั้นตอนต่อไป และ Download File VDO</td></tr></tbody></table>