เรื่องเด่น อยากรู้ว่าถ้าศาสนาพุทธเกิดขึ้นในประเทศไทยแล้ว ใครเอาโบราณสถานไปสร้างไว้อินเดีย

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Deejang, 26 กันยายน 2010.

  1. freynatt

    freynatt Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +35
    พระพุทธเจ้าเป็นคนไทย
    คนไทย คือ คน มคธ ที่อยู่แถวอินเดีย เนปาล แล้วหนีตายจากพวกแขกที่มาทีหลัง ย้ายมาอยู่แถวขวานทองตรงนี้อะ ไม่แปลกหรอกว่า พระพุทธเจ้าเป็นคนไทยลองคิดนะ ถ้าคนมคธ หนีตายไปทางยุโรป ไปอิตาลี เงี่ย แล้วพระพุทธเจ้าจะเป็นคนชาติไหนก็ต้องเป็นอิตาลีถูกไหม
    แต่ พวกชื่อสถานที่ต่างๆ ที่ไทยเราเหมือนอินเดีย ก็เพราะว่าชาวมคธ ได้นำเข้ามา เพื่อระลึกถึง หรือทำเอาไว้ให้เหมือนกับว่า อยู่บ้านอยู่แผ่นดินตัวเอง แล้วเพื่อบูชาระลึกถึงพระพุทธเจ้า
    พระพุทธเจ้าเป็นคนไทย พุทธศาสนาเกิดที่อินเดีย แผ่นดินเก่าของชาวไทยแน่นอน
    ใครก็ได้ฮะ ช่วยหา ตอนที่พระพุทธเจ้าทรงตรัจกับพระอานน ที่ว่าในอนาคต จะมีผู้เบือนว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้เกิดที่อินเดีย ขนลุกเลย ท่านทรงพยากร แม่นมาก
     
  2. พงศเวช

    พงศเวช Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +44
    ขอกล่าวเป็นความเห็นกลางๆไม่เข้าใครทั้งสิ้น

    เท่าที่ได้ยินสดับตรับฟัง ล้วนเป็นเพียงความคิดเห็น..มิใช่ความจริงที่เรารับรู้ได้เฉพาะตน..
    ไม่มีฝ่ายใดผิดหรือถูก เพราะผลของความผิดถูกที่ปรากฎ อาจสร้างประโยชน์ได้ แต่เพียงระดับหนึ่ง พระพุทธองค์อาจทราบมาแต่ก่อนแล้วว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น ...แต่พระองค์ก็ได้ให้โอวาทเพื่อเตือนสติแล้วด้วยเช่นกัน มิใช่หรือ..
    การได้พิสูจน์ความจริงอาจเพียงตามหาหรือค้นพบเพียงเถ้ากระดูกหรือซากปรักหักพังให้ได้ยังประโยชน์เพียงย้อนคิด ภูมิใจหรือสะใจ แต่เปรียบประดุจดังพลุไฟที่ยิงขึ้นฟ้าสวยงามสว่างไหวดังกึกก้อง เพียงชั่วอึดใจหนึ่งก็โรยราเงียบไป
    ..แคสอนที่พระพุทธองค์ทรงอยากให้สาวกของพระองค์สดับนั้น ..คือเมื่อ..
    ...ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต...
    โปรดเถิดเวลาของแต่ละท่านมีจำกัด เจ้ากรรมนายเวรมีมากเหลือ เราไม่รู้อนาคตของเรา แต่เราบริหารเวลาหรือกไหนดอนาคตของเราได้ ว่าจะเลือกเสียเวลากับอะไร ผลจึงจะคุ้มค่ากว่ากัน
    หยุดสร้างความแตกแยกในหมู่สงฆ์และหมูชนทั่วไปเถิด แม้สิ่งที่ท่านกระทำจะถือว่าเป็นความหวังดีเพื่อสิ่งที่ท่านเคารพบูชาและที่ท่านรัก ก็ตาม

    ...ขอสดุดีและอนุโมทนาในบุญที่ท่านกระทำทุกความคิดเห็น ไม่ว่าผลจะเกิดอย่างไรในปัจจุบัน แต่กุศลได้เกิดแก่ท่านเองแล้วเมื่อท่าน...คิดดี... สาธุ
     
  3. nrongrit

    nrongrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +546
    ขอแจมด้วยคนครับ

    ท่านอาจารย์ที่สอนกรรมฐานผมตอนนี้คือ อาจารย์กร ก็บอกว่า พระพุทธศาสนาทั้งสิ้น ตั้งแต่องค์ปฐมมาจนถึงองค์ปัจจุบันล้วน ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานในเมืองไทยครับ

    สำหรับพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ท่านอาจารย์กล่าวว่าครั้งหนึ่งว่า

    "... แม่น้ำที่และต้นโพธิ์ที่พระโพธิสัตว์สิทธัตถะนั่งสมาธิจนได้ตรัสรู้อนุตตรธรรมนั้น อยู่ในแนวของแม่น้ำชี -(อันนี้ท่านไม่บอกสถานที่)- จังหวัดที่เกี่ยวของในสมัยพุทธกาลจริงๆ คือ อุบลราชธานี แถบแม่น้ำมูลทั้งหมด, อ. โขงเจียม -อาจารย์กล่าวถึงชฎิล 3 พี่น้อง- , ศรีษะเกษ , ร้อมเอ็ด, มหาสารคาม, กาฬสินธุ์ อุดร-หนองคาย-หนองบัวลำภู (พระองค์เคยบำเพ็ญทุกรกิริยาที่นี่

    แม่น้ำโขงเกิดมาทีหลัง จากฤทธิ์ของพญานาค เรื่องราวของพระเจ้าอโศกจริงๆอยู่ทางเหนือ ติดชายแดนพม่า เป็นศูนย์กลาง แผ่กว้างใหญ่ ไปถึง อินเดีย ยุโรป แอฟริกา การสร้างศาสนสถานที่อินเดีย เป็นกลลวงของเบื้องบน เพราะยุคต่อไปนี้เป็นยุคร่อนทอง

    ใครอยากทราบพุทธประวัติที่แท้จริง ให้ตั้งจิตอธิฐานถึงองค์พระสมณโคดม แล้วบริกรรม ลงที่จิตว่า .... อตีตัง พุทธัง กาลัง โหติ... ท่านจะทราบเรื่องราวต่างๆตามเป็นจริง
    เรื่องราวในพระไตรปิฎกที่ปรากฏถึงปัจจุบัน ผิดจากความจริง 80%ในเรื่องราวของสถานที่ แต่เนื้อหาแก่นคำสอน ผิดไป 40% จึงต้องมีอรรถกถาจากครูอาจารย์ตลอด ..."
     
  4. siritach

    siritach เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2005
    โพสต์:
    243
    ค่าพลัง:
    +555
    จำผมได้ มั้ย คุณเอกอิสโร ......

    ผมที่ ทำให้ คุณหนีหายไป คนอะไร แค่ระยะทาง การเดินเท้า ในสมัยก่อน ยังวัดไม่เป็น
    เอา กูเกิลเอิธ เอาเส่้นทางถนน ในยุคนี้มาเป็นตัว วัดระยะทาง .. คนสมัย2000 กว่าปีก่อนเขาเดิน บนถนน รถยนต์เหรอครับ เส้นทางเดินทาง พวกเขา คุณ รู้เหรอ ว่า เดิน ผ่าน ภูเขาลูกไหนบ้าง จะเอาระยะ แป๊ะๆ เลยเหรอครับ ทำยังกับ สมัยก่อนมีเครื่อง GPS ... ..

    เอกอิสโร ...หรือ นายแจ๊ค ... ผมบอกคำเดียว ว่า ข้อมูล ของคุณมัน เชื่อถือะไรไม่ได้ เลย บิดเบือน พระพุทธศาสนา ด้วย
    ไหน จะเรื่อง พระเจ้าอโศก อีก คุณ พิมพ์ อะไรเอาไว้ โพสอะไรเอาไว้ จำได้มั้ยครับ
    สิ่งที่ผมได้ ถามคุณ เอาไว้ตอนนั้น คุณไม่ยอม ตอบ และ หนี หายไป

    สิ่งที่ผมให้หามานะ หาได้รึยัง โบราณสถาน ในประเทศไทย ที่เกียวกับศาสนาพุทธ ที่มีอายุเกิน 2500 ปี .....
    มัวแต่ อ้าง ตำนาน ของจังหวัดต่างในเมืองไทย พยายาม หาหลักการ มาบอกว่าไม่ใช่ ขนาดลงทุนทำหนังสือขาย

    ความลับของพระพุทธเจ้า <<< แค่ชื่อหนังสือ ก็ หมิ่น พระพระพุทธเจ้า แล้ว ความลับ อะไรของคุณ

    โบรารณสถานใน อินเดีย อายุ2500 ปี ไม่เชื่อ แต่ นายเอกอิสโร มาเชื่อ ตำนาน ....

    ทุกๆ อย่างในอินเดีย อย่าลืม พวก พรามห์ นะครับ ในประวัติ พระพุทธศานา ก็มี พวกเทพเจ้า ต่างๆ ในอินเดีย ด้วย มันเกียวโยงกันหมด มีในประวัติของพระพุทธศาสนา ..

    มีแต่ เอกอิสโร มั่วนิ่ม หลักฐาน สักชิ้นก็ยังไม่มีให้ ดู มีแต่ ใช้แผนที่กูเกิลและ ตำนาน จากที่ไหนไม่รู้ เอามาเป็นข้อ กล่าวอ้าง

    ไปหาหลักฐาน มาให้สักชิ้นก่อนดีหว่านะครับ แล้วค่อยมาพูด อย่ามาบอกว่าจม อยู่ใต้ดิน อีกละ อายคนเขาเปล่าๆ
     
  5. siritach

    siritach เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2005
    โพสต์:
    243
    ค่าพลัง:
    +555
    จากระทู้ จุดแตกหัก ว่า พระเจ้าอโศกตัวจริงอยู่ที่เมืองไทยหรืออินเดีย?
    ความคิดเห็น ที่ 128
    ผม ตัด ส่วนที่ไม่ สมควร มาให้อ่านกัน
    ******
    “พระเจ้าอโศกไม่ได้มาจากอินเดียหรอก ท่านมาจากโคราช” ส่วนผมพอได้เห็นหน้าศพนั้น ก็รู้ได้ในขณะนั้นว่า “นี่เป็นร่างกายสังขารในอดีตของตัวเอง” ว่าแล้ว ก็เลยจับพระศพวางท่าให้ลูกน้องที่ไปด้วยถ่ายรูป ทั้งท่านั่ง ท่ายืน ก่อนจะแพ็คกลับลงถุงคืน แล้วก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา

    ----------------------กระทู้นั้นหายไปแล้ว มีแต่กระทู้แยกออกมาของผม
    http://palungjit.org/threads/ไม่รู้จะสรรหา-คำพูดอะไร-มาเปรียบเทียบ.218227/
     
  6. yogibhai2009

    yogibhai2009 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +23

    โอ้ว โดนครับ...
    ผมขอออกตัวก่อนว่า ผมไม่ได้เป็นชาวพุทธนะครับ ผมเห็นกระทู้เรื่องนี้มานานแล้ว ก็อ่านๆ บ้าง อ่านแรกๆ ผมรู้สึกทึ่งที่อุตสาห์หาข้อมูลมาได้ขนาดนี้...
    ผมเริ่มแอบเชื่อนิดนึง 555
    พอคุณ siritach พูดถึงพราหมณ์ ผมรู้สึกทึ่งยิ่งกว่า ...

    ผมเคยดูรายการอะไรซักอย่างที่ ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ เคยพูดไว้ว่า "สมมติว่าตอนนี้ผมได้มาถึงขอบจักรวาลแล้ว... แล้วไงต่อ!!!!!!"

    ผมว่า มันคล้ายๆ เรื่องนี้เลยครับ เหอๆ (จับมามั่วรึป่าวไม่รู้)...
    สมมติว่า คนในประเทศไทยรับทราบและเชื่อแล้วว่า พระพุทธเจ้าทรงมีพระชนม์อยู่ในประเทศไทย... และต่อให้คนทั้งโลกยอมรับความเชื่อนี้แล้ว...
    คำถามต่อมาคือ "แล้วไง??"... นั่นเป็นอดีต

    แต่ปัจจุบันคือ พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงอยู่ในทั้งไทยและอินเดีย...

    สิ่งที่ผมว่าเราควรภาคภูมิใจคือ ไทย เป็นเมืองที่ศาสนาพุทธยังเจริญรุ่งเรือง มีครูบาอาจารย์ดีๆ มากมาย และยังเป็นศาสนาประจำชาติ... แค่นี้พอแล้วดีมั้ยครับ... แลดูเหมือนว่า เถียงกันไปมาอย่างงี้ ไม่เกิดประโยชน์ในการพัฒนาจิตใจใดๆ

    หากจิตใจเราเข้าถึงสภาวะที่สูงส่ง ที่เข้าใกล้พระนิพพาน ตามความเชื่อของท่านทั้งหลายแล้ว มันสำคัญอย่างไรหรือว่าพระพุทธองค์เคยทรงพระชนม์ชีพในประเทศใดบนโลกนี้???
     
  7. siritach

    siritach เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2005
    โพสต์:
    243
    ค่าพลัง:
    +555
    ทำอะไรเอาไว้ ต่อให้มีคน ลบให้ ก็ลบไม่หมด หรอกครับ... มันยังคงหลงเหลือ อยู่

    ถามหน่อย เถอะ เอกอิสโร ตายไปชาติ นี้ คิดว่า ชาติหน้าจะได้ เกิดมั้ยครับเพราะคงต้องชดใช้กรรม อีกนานโข เลยละ

    ผมรู้เรื่อง นาย แจ๊ค มาเยอะเลยนะครับ อยู่อยากจะ ทำอะไรก็ทำไปคนเดียว อย่าทำให้ พระพุทธศาสนา ต้องหม่นหมอง พระเกจิ อาจารย์ ที่นับถือ ของชาวพุทธ หลายๆ รูป ท่าก็ไป แสวง บุญที่ อินเดียกันทั้ง นั้น

    หรือ นาย แจ๊ค จะบอกว่าตัวเองมีความรู้มากกว่า พระเกจิอาจารย์ ผู้บรรลุ ญาณ

    ผมละเบื่อ มาคน ประเภท อยาก ดัง แล้วทำอะไรที่คน เขาไม่ทำ กัน เรื่องบิดเบือนพระพุทธศานา นะ ลอง ดูสิ นรกกินหัวแน่นอน

    แค่ความคิด ที่ เอา ถนนรถยนต์ ไปเที่ยบ กับเส้นทางเดิน ทาง ของ คนสมัย 2000กว่าปีก่อน มันก็คนละเส้นทางกันแล้ว แล้วสมัยก่อน เขาจะเอาอะไรมาวัดแป๊ะๆ ทำยังกับเมื่อ 2000 กว่าปีก่อนมีตลับเมตร หรือ gps ใช้กัน
    คนสมันนั้นเขาเดินข้ามภูเขา เดินลุยห้วยน้ำ พูดง่ายๆ เดินเป็นเส้นทางตัดตรง ไม่ได้คดเคี้ยว แบบถนน รถยนต์

    แค่นี้ ยังคิดไม่ได้ ความรู้ด้าน โบราณคดีก็ไม่มี .....ไม่ลงทุนใช้ แผนที่ดาวเทียว ของฟรี..ของกูเกิ้ล ... ที่วัดระยะทางโดนใช้เส้นทางถนน รถยนต์ แล้วก็สรุป ว่าใช่

    แบบนี้ พูดง่ายๆ คือ คนประเภท นั่งคิด เองคนเดียว แล้ว เออ ออ เอาเอง แล้ว หาอะไรสักอย่างมาทำลาย หลักฐานในสมัยก่อน เช่นระยะทาง แต่เสียใจครับ ผมจับมุข คุณได้ครับ แล้วเรื่อง ที่หลักฐานจมอยู่ใต้ ดินนะ ไปขุดแล้วรึยังครับ ..
     
  8. siritach

    siritach เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2005
    โพสต์:
    243
    ค่าพลัง:
    +555
    ผมนับถือพระพุทธเจ้า มากครับ และผมไม่ชอบการที่ บางคนเอาชื่อและประวัติ พระองค์ มาหากิน โดย การดัดแปลง และบิดเบือน ต่างๆ ปรกติผมจะอยู่เงียบๆ

    เอาแค่ชื่อคน ในพุทธประวัติ แต่ละชื่อ ก็เป็นชื่อ ของคนอินเดียหมด ไหน สภาพสังคมอีีก ซึ่ง ไม่ได้เหมือนในประเทศไทยเลย แต่ในอินเดีย ยังคงมีอยู่

    ใช่ครับ พระพุทธองค์ จะ ประสูต ที่ไหนหรือ มีชีวิต อยู่ที่ไหนในยุค นั้นไม่สำคัญ ที่สำคัญคือพระองค์ได้ ทิ้งคำสอน ที่มีค่าให้แก่เรา เอาไว้ ...

    แต่ก็นั้นแหละ คนเราในยุคนี้ มีพวก พยายามที่จะบิดเบือน พระพุทธศาสนา เยอะ

    มันจะได้อะไร ถ้าพระพุทธเจ้าประสูตในประเทศไทย คนไทยจะ เป็นคนดีขึ้นมากเหรอ มีแต่จะทำให้คนรุ่นหลัง เข้าใจและสับสนในประวัติ พระพุทธศานา ผิดหมด
     
  9. siritach

    siritach เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2005
    โพสต์:
    243
    ค่าพลัง:
    +555
    นี่ก็ บ้า ไปแล้ว
    - อาจารย์กร ก็บอกว่า พระพุทธศาสนาทั้งสิ้น ตั้งแต่องค์ปฐมมาจนถึงองค์ปัจจุบันล้วน ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานในเมืองไทยครับ - << ใคร ไม่รู้จัก น่าเชื่อถือ แค่ไหน
    -แม่น้ำโขงเกิดมาทีหลัง จากฤทธิ์ของพญานาค- << มีแต่ พญานาค อาศัยอยู่ในแม่น้ำโขง
    -การสร้างศาสนสถานที่อินเดีย เป็นกลลวงของเบื้องบน เพราะยุคต่อไปนี้เป็นยุคร่อนทอง - <<< มาเป็น ขบวนการ เลย นะ นี่คุณนักโบราณคดี เขาพิสูจน์ อายุ วัตุโบราณและโบราณสถานกันได้นะครับ ถ้าจะทำปลอม ก็ต้องทำปลอมไว้ตั้งแต่ 2500กว่า ปีก่อน โน้น

    อ่านแล้วต้องใช้ สติด จับ แยก ออกมา จะมองเห็นได้ชัดเจน ว่า มาเป็น ขบวนการ บิดเบื่อน ต้องการทำให้สิ่งที่ตัวเองคิด เป็นความจริง ทั้งๆที่ไม่หลักฐานเลยสักชิ้น
     
  10. siritach

    siritach เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2005
    โพสต์:
    243
    ค่าพลัง:
    +555
    จะหลอกเด็กไม่ให้พูดเรื่องพระพุทธเจ้าเกิดเป็นคนไทยถ้าพูดจะโดนบีบขมับให้ตาย <<<<<< แบบนี้ ก็เกิดขึนที่ ประเทศจีน และประเทศ อื่นที่นับถือพุทธ ทุกประเทศเลยใช่มั้ยครับ แม้แต่อินเดีย ด้วย
    ต้องโดนบีบขมับ เพื่ออะไรครับ ฝรั่ง ทำแบบนั้นทำไม ในเมื่อเขาเองก็มาเผยแพร่ ศาสนา ของเขาในประเทศได้อยู่แล้ว

    ....ยังอุสาหา วิธี บิดเบือน มาได้เรื่อยๆ มันไม่สมเหตุสมผล เลย
     
  11. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649
    เอาเป็นว่าถ้าใครอยากรู้ความจริง ก็ต้องหาถ้ำสัตตบรรณคูหาให้ได้
    ที่รัฐพิหารที่สันนิฐานว่าเป็นกรุงราชคฤห์สมัยพุทธกาล นั้นมีหมดทุกอย่าง
    ในพระไตรปิฏก แต่กลับไม่มีถ้ำสัตตบรรณคูหา มีแต่สถานที่ำสันนิษฐานว่าเป็นถ้ำ
    สัตตบรรณคูหาเท่านั้น โดยมีการอ้างว่าเพดานถ้ำยุบตัวลงมาเลยทำให้ไม่เห็น
    ร่องรอยจากอดีต พอมีการตรวจสอบออกมาปรากฏว่าอายุไม่ตรงกัน แม้แต่คลัง
    สมบัติของพระเจ้าพิมพิสาร ที่ค้นพบ ก็อยู่คนละที่กัน ทั้งที่จริงคลังสมบัติของ
    พระเจ้าพิมพิสารต้องอยู่ที่ถ้ำสัตตบรรณคูหา จากการตรวจสอบอายุของคลัง
    สมบัติของพระเจ้าพิมพิสารก็ไม่ตรงอีกมีอายุแค่ 1000ปีต้นๆเท่านั้นเอง

    ตอนนี้ทางอินเดียก็กำลังหา้ถ้ำสัตตบรรณคูหากัน ทางจีนก็อ้างว่าถ้ำสัตตบรรณคูหา
    อยู่ที่คุณหมิง บ้างก็ว่าอยู่ที่แคชเมียร์ พม่า ลาว ไทย ก็ว่าแต่ก็ยังหาหลักฐานมายืนยันไม่ได้
    เอาเป็นว่าที่อินเดียเองก็ยังหาถ้ำสัตตบรรณคูหาไม่เจอ

    หากใครพบถ้ำสัตตบรรณคูหาก่อนก็จะเป็นหลักฐานที่ชี้ว่า พระพุทธเจ้าอยู่ประเทศนั้น

    ข้อมูลเฉพาะของถ้ำสัตตบรรณคูหา
    1.มีลักษณะโปร่ง
    2.มีถ้ำน้อยใหญ่มากมาย เป็นที่ๆพระเถระพักผ่อน
    3.มีพื้นที่ราบโดยรอบ
    4.ไม่มีค้างคาวอาศัยอยู่
    5.ใกล้แหล่งน้ำ
    6.ง่ายต่อการส่งเครื่องบำรุง
    7.มีอากาศเย็นสบาย
    8.ป้องกันน้ำป่าไหลหลากได้กรณีมีพายุฝนเข้า
    9.มีแท่นหิน(ธรมมาสน์)
    10.มีที่สำหรับพระเจ้าอชาติศตรูประทับ(พระเจ้าอชาตศัตรูเป็นองค์อุปถัมภ์การสังคยานา)พระองค์ทรงประทับอยู่จนการสังคยานาเสร็จ


    [​IMG] ถ้ำสัตตบรรณคูหาที่อินเดีย ปัจจุบันเพดานถ้ำยุบตัวลงมา
    จากการเกิดภัยธรรมชาติ จนไม่เหลือร่องรอย(ตามที่นักโบราณคดีสันนิฐาน)

    ที่สำคัญที่นั่นยังเป็นที่เก็บสมบัติของพระเจ้าพิมพิสารด้วย เป็นอุโมงค์ภายในถ้ำ

    และถ้าเจอถ้ำสัตตบรรณคูหาแล้วไม่ไกลกันก็จะต้องเจอภูเขากุกกุฏสัมปาตบรรพต ทีเก็บร่างของพระมหากัสสปะ

    ซึ่งตรงนี้ยังไม่มีชาติใดหาหลักฐานมายืนยันได้ นอกจากการสันนิษฐานเท่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2010
  12. nalin101

    nalin101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +2,029
    กำลังหาที่มาของแม่น้ำโขงพอดีค่ะ อืม อาจเป็นไปได้ เพราะเคยได้ยินมา ตอนที่มีการรวมเมือง มีการเปลี่ยนทิศทางน้ำ โดยพญานาค ขอบคุณนะค่ะ
     
  13. นิโรธสมาบัติ

    นิโรธสมาบัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    828
    ค่าพลัง:
    +2,562

    เคยได้อ่านนิทานพื้นบ้านอีสาน ที่ปริวรรตมาจากใบลาน ว่าด้วยเรื่องกษัตริย์ของเมืองลาว(ถ้าจำไม่ผิด)ให้พระสงฆ์ พราหมณ์ นักปราชญ์ราชบัณฑิตเดินทางไปพระเชตวันมหาวิหาร เพื่อวัดขนาดความสูง ความกว้างของพระเชตวันมหาวิหารเพื่อนำมาใช้เป็นขนาดในการสร้างวัด แต่ไม่ทราบว่าชื่อเรื่องชาดกนั้นชื่อว่าอะไร เส้นทางการเดินทางก็ไปทางภาคเหนือของไทย ทะลุเมืองพม่า เมืองมอญ (เท่าที่จำได้) ซึ่งมีการระบุเส้นทางการเดินทางที่ละเอียดพอสมควรว่ากี่โยชน์ เดินทางกี่วัน กี่เดือน ถึงเดินทางไปถึง และในเส้นทางเดินทางนั้น ผ่านที่สำคัญอะไรบ้าง หนังสือเล่มดังกล่าวนั้นอยู่ที่บ้านเกิดของผม เลยไม่สามารถที่จะหาข้อมูลจากหนังสือนั้นได้ เพราะตอนนี้ไม่ได้อยู่บ้าน เพราะมาทำงานที่ มหาสารคาม นอกจากว่าผมกลับบ้านถึงจะได้ค้นหาในกองหนังสือที่พะเนินเทินทึก อิิอิ

    ลองหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตแล้ว ไม่มีข้อมูลของนิทานเรื่องดังกล่าว

    เผื่อเป็นข้อมูลการสืบค้นอีกทางหนึ่งขะรับ
     
  14. นิโรธสมาบัติ

    นิโรธสมาบัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    828
    ค่าพลัง:
    +2,562


    อาถรรพ์หรือปล่าวหว่า พิมพ์จนเสร็จกำลังจะโพสต์ไฟตกเฉยเลย ได้พิมพ์ใหม่อีกรอบ

    พอดีได้ไปอ่านพบเรื่องราวดีดี เลยจะนำมาเล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับถ้ำสัตบรรณคูหา ซึ่งเห็นว่าพี่ตันติปาละจะเดินทางไปแสวงหาออกพรรษานี้ครับผม


    ถ้ำสัตบรรณ หรือ สัตบรรณคูหานั้น มาจากชื่อของต้นไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งเรารู้จักกันดี คือ ต้นตีนเป็ด หรือต้นพญาสัตบรรณ หรือต้นสัตบรรณ ซึ่งในภาษาบาลีเรียกต้นตีนเป็ดนี้ว่า "
    สตฺตปณฺณรุกฺข" ซึ่งแปลว่าต้นไม้ที่มีเจ็ดใบ (สตฺต แปลว่า เจ็ด ปณฺณ แปลว่า ใบ) ต้นตีนเป็ดนี้เกิดบริเวณหน้าถ้ำเป็นจำนวนมาก ถ้ำนั้นเลยได้ชื่อว่า "สตฺตปณฺณคูหา" ตามชื่อของต้นตีนเป็ดหรือต้นสัตบรรณจำนวนมากด้านหน้าถ้ำครับ(อ้างอิง : :: �ҹ����ѡ� :: :: ��ҹ - ⾸ԭҳ�ġ�� : �鹵չ�索�� (���ѵ���ó))


    ข้อมูลของต้นตีนเป็ดจากเว็บไซต์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชครับ


    พญาสัตบรรณ (Alstonia scholaris (L.) R. Br.)


    พันธุ์ไม้พระราชทานเพื่อปลูกเป็นมงคลจังหวัดสมุทรสาคร
    ชื่อวิทยาศาสตร์ Alstonia scholaris (L.) R. Br.
    วงศ์ APOCYNACEAE
    ชื่อสามัญ White Cheesewood
    ชื่ออื่น ตีนเป็ด หัสบัน สัตบรรน จะบัน บะซา
    ไม้ต้น ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 15 - 35 เมตร โคนต้นมักเป็นพูพอน
    เปลือก สีเทาอ่อนหรือเทาอมเหลือง ค่อนข้างหนา
    ใบ ใบเดี่ยวเรียง กันเป็นวง 4 - 7 ใบ แผ่นใบรูปมนแกมรูปไข่กลับ ปลายแหลมเป็นติ่งเล็กน้อยโคนสอบ เข้าหากันเป็นรูปลิ่ม ขอบใบเรียบ
    ดอก ดอกเล็ก สีเขียวอมเหลือง หรืออมขาวออกเป็นกลุ่มในช่อซึ่งแยกกิ่งก้าน ออกจากจุดเดียวกันตามปลายกิ่ง
    ผล เป็นฝักเรียว ยาว 10 - 20 เซ็นติเมตร เมล็ดแบบทรงบรรทัดแคบ ๆ ยาว ประมาณ 7มิลลิเมตร มีขนยาวอ่อนนุ่มปุกปุยติดอยู่เป็นกระจุกที่ปลายทั้งสองข้าง
    <table style="width: 747px; height: 325px;" align="center" cellspacing="20"><tbody><tr><td width="34%">[​IMG]</td> <td width="66%"> นิเวศวิทยา ขึ้น กระจายอยู่ห่าง ๆ ในป่าดงดิบชื้นทางภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงใต้ และริมลำห้วยในป่าเบญจพรรณทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
    ออกดอก ตุลาคม - ธันวาคม เริ่มติดฝักประมาณเดือนมกราคม เมล็ดแก่ประมาณเดือน มีนาคม
    ขยายพันธุ์ โดยเมล็ด
    ประโยชน์ เนื้อ ไม้สีขาวอมเหลืองอ่อน เนื้อไม้หยาบ อ่อนแต่เหนียว ตบแต่งง่าย ใช้ทำหีบใส่ของ ลูกทุ่นอวน รองเท้าไม้ ของเล่นสำหรับเด็ก ไม้จิ้มฟัน เปลือกใช้รักษาโรคบิด แก้หวัด หลอดลมอักเสบ เป็นยาสมานลำไส้ ใบใช้พอกดับพิษต่าง ๆ ยางทำยารักษาแผลเน่าเปื่อย</td></tr></tbody></table>



    จากข้อมูลเราจะเห็นว่า ต้นสัตบรรณมีถิ่นที่อยู่อาศัย หรือ Habitat กระจายอยู่ทั่วประเทศไทย

    ผมเลยสืบค้นจากข้อมูลของสวนพฤกษศาสตร์ต่างประเทศเกี่ยวกับแหล่งที่อยู่อาศัย หรือ Habitat ของต้นตีนเป็ดหรือต้นสัตบรรณ พบว่า ต้นตีนเป็ดมีนิเวศวิทยาพระจายอยู่แถบตะวันออกและตอนใต้ของทวีปเอเชีย เช่นลาว ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม หมู่เกาะโมลุกกะ ประเทศฟิลิปปินส์ ในตอนใต้และตอนเหนือของอินเดีย แคว้นเบงกอล และแถบเทือกเขาหิมาลัยครับ

    (อ้างอิง : botanical.com - A Modern Herbal | Alstonia
    Alstonia Scholaris Capsules| Indian Herbal Products| Indian Herbs
    The Herb Pictures Of Dita Or Saptaparna Or Alstonia Scholaris
    Species Information )

    ดังนั้นแล้ว ถ้าจะหาถ้ำสัตบรรณคงต้องหาต้นลูกหลาน หรือเหลนที่สืบเชื้อสายมาจากต้นสัตบรรณเมื่อครั้งพุทธกาลครับ ง่ายๆ คือ ต้องหาป่าตีนเป็ดหรือป่าสัตบรรณแล้วก็อาจจะเจอถ้ำสัตบรรณก็ได้ครับผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2010
  15. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649



    อนุโมทนาครับ จะได้เป็นข้อมูล
     
  16. นิโรธสมาบัติ

    นิโรธสมาบัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    828
    ค่าพลัง:
    +2,562
    พอดีมาแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกระจายตัวของต้นสัตบรรณ ลองหาถ้ำที่มีต้นนี้อยู่หน้าถ้ำเยอะๆ นะครับ

    พอดีอ่านไปอ่านมาเจอข้อมูลอีกละ พบว่าแถบภูพาน อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก มีไม้พื้นล่างไม้เด่นเห็นว่ามีกลุ่มของต้นสัตบรรณด้วย และเป็นจุดที่พี่ตันติปาละว่าจะไปสำรวจ บริเวณนี้เด่นคือมีร่องรอยอารยธรรมโบราณ และมีถ้ำ มีน้ำตกด้วยเหมือนกัน

    อีกที่หนึ่งคือกลุ่มป่าดงพญาเย็น ก็เห็นบอกว่ามีไม้กลุ่มสัตบรรณขึ้นเป็นไม้เด่นด้วยเหมือนกัน แต่ที่ไหนจะมีน้ำหนักมากกว่ากันก็คงต้องพิจารณาอีกยาวครับ
     
  17. เอกอิสโร

    เอกอิสโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,051
    ค่าพลัง:
    +3,809
    ข้อมูล จาก คุณนิโรธสมาบัติ น่าสนใจเหลือเกิน นอกจากที่ แปลความ สัตตบรรณคูหา ว่า เป็น ถ้ำเจ็ดคูหา

    เอาเป็นว่า ท่านตันติปาละ ลองค้นหาในพื้นที่ของท่านก่อน ส่วนผม วางแผนว่า ช่วงวันหยุด 23-24 ต.ค. นี้ จะลองไปค้นหา ในเวิ้งเขาที่นายางกลัก ตามความคาดหมายของผม ดูก่อน นะครับ

    โดย เสาร์-อาทิตย์ หน้าโน้น ช่วงวันหยุด ปิยมหาราช และออกพรรษา
    วางกำหนดจะลงพื้นที่ นายางกลัก ที่ จังหวัดชัยภูมิ
    ตามภารกิจ ค้นหา นครราชคฤห์โบราณ ซึ่งเป็นหนึ่งในปฏิบัติการ
    ในการค้นหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่า "พระพุทธศาสนากำเนิดเกิดขึ้น
    ที่ประเทศไทย พระพุทธเจ้าตรัสรู้ที่ประเทศไทย"

    ซึ่ง นอกจาก การสำรวจ ภูเขาห้าลูก ที่ล้อม พระนครราชคฤห์เก่า
    สถานที่สำคัญ ที่จะต้องค้นหา เพื่อประกอบการพิจารณา ว่า
    ที่ใดคือที่ตั้งนครราชคฤห์ นั่นก็คือ ถ้ำสัตตบรรณคูหา ที่อยู่ในเขาเวภาระ
    ซึ่งเป็น ๑ ใน ๕ เขา ที่ล้อมรอบพระนครราชคฤห์โบราณ


    จุดเริ่มต้น คงจะเริ่มจาก "เขายายหอม" ซึ่ง เป็นที่ประดิษฐาน
    "รอยพระพุทธบาทเขายายหอม" ก่อน เพื่อ สังเกต ภูมิประเทศ
    บริเวณนั้นก่อน


    [​IMG]


    หลังจากนั้น ก็ จะเริ่ม สำรวจ ไปในเวิ้งเขา เพื่อค้นหา ถ้ำสัตตบรรรคูหา
    ต่อไป

    [​IMG]


    ใครจะช่วยอะไร ได้อย่างไร ก็เชิญได้ตามศรัทธาและความเชื่อของท่านนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2010
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** สัจจะพันธะ มีเขา มีถ้ำ มีแท่นหิน คือ โลกุตตระภูมิ ****

    พระสัจจะพันธะมหาเถร
    อรหันต์ไทยรูปที่ 2 ที่ได้รับเอหิภิขุจากพระศาสดา เป็นรูปแรกในประเทศไทย ที่ เขาสัจจะพันคีรี จังหวัดสระบุรีและได้ทูลขอรอยตีนพุทธ ไว้ที่เขาสัจจะพันคีรี

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  19. เอกอิสโร

    เอกอิสโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,051
    ค่าพลัง:
    +3,809
    อืมม... ลืมถามท่านตันติปาละ และท่านผู้เชี่ยวชาญพระไตรปิฎก ครับ
    ว่า....ในอรรถกถา อธิบายไว้ว่า "ถ้ำสัตตบรรณคูหา" นี่ ในเวิ้งเขา ที่อยู่ในเขตเมือง
    หรือ ว่า อยู่นอกเวิ้งเขา ที่อยู่นอกเขตเมือง ครับ

    ผม ก็ดัน มุ่งจะไปค้นในเขตเวิ้งเขา ยังไม่ทัน ค้นหาข้อมูลอ้างอิง เพราะ ดูจาก
    กูเกิล เอิร์ธ แล้ว แม่น้ำจะอยู่นอก เวิ้งเขาครับ
     
  20. haha4959

    haha4959 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +85
    ปรามาศพระอริยะ เดี๋ยวสักพักคงนึกได้เองครับ ว่ามันส่งผลเร็วเกิ
    ถ้าเรายังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน อย่าเพิ่งเสียงดังเลยดีกว่าครับ

    อย่าลืมนะว่า เมื่อกี่ร้อยปีมานี้เอง โลกของเรายังแบนอยู่เลยนะ

    กาลิเลโอยังถูกตัดสินให้ผิดได้เลยนะ ตะเอง

    แล้วคุณรู้มั๊ย ว่า ศาสนาเราถูกกลืนไป

    ในสังคมสมัยนั้นใครมีอิทธิพล

    ใครใกล้ชิดกับกษัตริย์

    คัมภีร์ใครก็เขียนได้

    ถ้าสมัยนี้ก็ทฤษฏีสมคบคิดในกูเกิ้น

    จะเสพสื่อต้องใช้กำลังสมองคิดดูให้ดีก่อนนะ

    แต่ก็อย่างว่า กรรม ของ ใคร ใคร ก็ ต้อง รับ เอา ไว้ เอง ไม่ มาก ไป ไม่ น้อย ไป ได้รับ เท่า ที่ มัน ควร จะ เป็น ตาม ที่ มัน ต้อง เป็น

    ที่เขาบอกมาเรื่องตั้ง 2500 ปี
    มันแค่สมมุติฐานทั้งนั้นแหละครับ นักวิทย์ก็แค่คิดว่ามันน่าจะเป็นอย่างนี้ จากหลักฐานที่เขามีอยู่ในตอนนี้ ถ้า ใน อนาคต มีหลักฐานใหม่ เขาก็คิดเป็นอีกอย่างแล้ว ไม่ต้องหัวชนฝา ขนาดนั้นก็ได้มั๊ง
    เพราะคนเราจะเชื่อแต่ในสิ่งที่ตนเองอยากที่จะเชื่อเท่านั้นแหละ
    อะไรไม่ตรงใจ ไม่ตรงตามความคืิดตน ก็ย่อมไม่พอใจเป็นธรรมดา
    วางไว้ก่อนจะได้ไม่ต้องร้อน ถ่านแดงๆมันร้อนเน่อ
     

แชร์หน้านี้

Loading...