อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ปู ท่าพระ, 26 ธันวาคม 2013.

  1. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,435


    น้อมกราบพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
    สวัสดีพี่ปู พี่วรรณ และทุกๆท่าน
     
  2. PraKhoonPhan

    PraKhoonPhan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    881
    ค่าพลัง:
    +6,624
    สวัสดีครับพี่ๆทุกท่านและชาวคณะอัลบั้มพระ ประวัติและวัตถุมงคลทุกท่าน
    วันนี้จะมาขอเล่าอะไรสักหน่อย
    เมื่อเช้าฝันว่ามีอะไรกับแฟนแล้วแฟนก็พูดมาว่าประจำเดือนกำลังจะมาอาคมของขลังจะเสื่อม
    ผมก็เฉยๆสักพักรู้สึกเหมือนมีน้ำอะไรออกจากปากรสชาติในความฝันไม่ใช่น้ำลายพอคายออกมาเป็นถุงพลาสติกข้างในเหมือนเลือดประจำเดือนซีนอย่างดีพอคายออกจากปากได้ผมเอาทิ้งใส่ถังขยะต่อ แล้วก็เห็นภาพตัวเองเหน็บเหรียบเสด็จพ่อ ร.5
    พอตื่นเช้ามาผมก็เหน็บเหรียบเสด็จพ่อ ร.5 จริงตามท่ฝันเพราะผมลืมสร้อยพระไว้กับเพื่อน

    อยากทราบว่าที่ผมเล่าความฝันนี่คือผมโดนของใช่ไหมครับ :'(
     
  3. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326


    อย่าเพิ่งกังวลใจไปครับน้องนิก มีพระอยู่กับตัวคงไม่เป็นไรครับช่วงนี้ก็หมั่นสวดมนต์ไหว้พระบ่อยๆ หรือพระเดชพระคุณหลวงพ่อเคยแนะนำให้ภาวนา "สัมปจิตฉามิ" หรือ "สัมปฏิจฉามิ"ก็ได้ ท่านยังแนะนำว่าเรื่องคุณไสยให้ขอบารมีกรมหลวงชุมพรคุ้มครองท่านมีหน้าที่ด้านนี้โดยตรง

    นำน้ำมนต์จากพระที่เคารพนับถือมาดื่มมาอาบก็จะเป็นสิริมงคลนะคร๊าบบ
     
  4. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]



    คำบอกเล่าของหลวงปู่มั่น
    เรื่องประวัติความเป็นมาของพระแก้วมรกต



    เรื่องนี้อัตถุปัตติเหตุเกิดขึ้นเมื่อครั้ง พระอาจารย์มั่น พักอยู่วัดป่าบ้านหนองผือ พระอุปัชฌาย์อุ่น (พระครูบริบาลสังฆกิจ (อุ่น อุตฺตโม) วัดอุดมรัตนาราม อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร) ได้ไปกราบนมัสการฟังเทศน์ และได้นำรูปพระแก้วมรกตขนาด 20 นิ้ว เป็นภาพพิมพ์ใส่กรอบไปถวายท่านพระอาจารย์ แต่ดูท่านจะลืมทำความสะอาด เพราะมีฝุ่นจับอยู่ ท่านพระอาจารย์ก็น้อมรับด้วยความเคารพ

    หลังจากท่านอุปัชฌาย์อุ่นลาลงกุฏิไปแล้ว ท่านพระอาจารย์ได้ทำความสะอาด โดยนำผ้าสรงน้ำของท่านฯ มาเช็ดถู ผู้เล่า (หลวงตาทองคำ จารุวัณโณ) เอาผ้าเช็ดพื้นเข้าไปช่วยทำความสะอาดด้วย เพราะเห็นว่าผ้ายังสะอาดอยู่ ท่านหันมาเห็นเข้า พูดว่า

    “อะไรกัน นั่นรูปพระพุทธเจ้าแท้ๆ ยังเอาผ้าเช็ดพื้นมาถูได้”

    ผู้เล่าสะดุ้งไปทั้งตัว เพราะความโง่เขลาปัญญาอ่อน ท่านฯ ก็เลยทำความสะอาดเอง เสร็จแล้วก็มีเพื่อนภิกษุทยอยกันขึ้นไป รวมทั้งท่านอาจารย์วิริยังค์ด้วย ท่านเลยเทศน์ถึงความมหัศจรรย์ของพระแก้วมรกต ท่านว่า

    “พระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่ในประเทศใด ประเทศนั้นจะไม่ว่างจากพระอริยบุคคล พระอริยบุคคลมีอยู่ในประเทศใด ประเทศนั้นจะไม่ฉิบหายด้วยภัยแห่งสงคราม”

    ท่านพระอาจารย์มั่นเล่าว่า พระแก้วมรกตหล่อที่ลังกาทวีป ผู้เป็นประธานหล่อคือ พระจุลนาคเถระ เป็นชาวลังกา หล่อเมื่อศาสนาล่วงมาได้ 300 ปี ส่วนแก้วนั้น ท่านเล่าเชิงปาฏิหาริย์ พอเริ่มจะหล่อไม่ได้ตั้งใจจะเอาแก้วมรกตเพราะเป็นของหายาก บอกบุญตามแต่ศรัทธา จะเป็นแก้วอะไรก็ได้ ร้อนถึงพระอินทร์อยู่บนสวรรค์ มาอาสาเป็นช่างหล่อ และพระองค์มีแก้วอยู่ดวงหนึ่ง ขออนุโมทนาเป็นกุศลด้วย พระอินทร์ไม่ได้เป็นช่าง แต่ช่างคือเทพบุตรชื่อ วิษณุกรรม ส่วนแก้วก็ไม่ใช่ของพระอินทร์ แต่เป็นแก้วอยู่ในถ้ำจิตรกูฏหรืออินทสารนี้ละ ผู้เล่า (หลวงตาทองคำ จารุวัณโณ) ไม่มั่นใจ

    ท่านพระอาจารย์ท่านเล่าว่า เป็นแก้วหน่อเนื้อพุทธางกูร ประจำภัทรกัปป์ เหลืออยู่ 2 ลูก มียักษ์รักษา พระอินทร์ไปขอแก้วดวงใหญ่ ซึ่งสุกใสกว่าจากยักษ์ตนนั้น แต่ยักษ์ไม่ให้ บอกว่าไม่ใช่ของเจ้า จึงให้แก้วดวงเล็กมา พระอินทร์นำมาหล่อเป็นผลสำเร็จ แต่ยังมีแก้วเหลือค้างอยู่ที่เรียกว่าแก้วก้นเตา เผาอย่างไรก็ไม่ละลาย พระจุลนาคเถระจึงอธิษฐานบรรจุไว้ใต้ฐาน ปรากฏว่าเป็นกระปุกระปะ ไม่เรียบ

    หล่อเสร็จมีการสมโภช ท่านจุลนาคเถระ ได้อธิษฐานอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐาน 5 แห่ง คือระหว่างพระขนง 1 แห่ง พระอังสาทั้งสอง 2 แห่ง พระเมาลี 1 แห่ง และพระนาภี 1 แห่ง ท่านฯ ว่าอย่างนี้

    การเสด็จไปสู่สถานที่ต่างๆ ของพระแก้วมรกตนั้นมีปัจจัย 3 อย่าง คือ เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา เกิดกลียุคในประเทศนั้น และด้วยความรัก

    ท่านพระอาจารย์เล่าต่อว่า ได้มีการอัญเชิญจากกรุงลังกาสู่นครศรีธรรมราชโดยทางเรือ เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา นำโดยเถรเจ้าป่า (คำว่า เถรเจ้าป่า หมายความถึง พระกัมมัฏฐานที่ชอบออกปฏิบัติภาวนาอยู่ตามป่าเขา) อยู่นครศรีธรรมราชก็ไม่ได้กำหนดว่านานเท่าไร ต่อจากนั้นจึงอัญเชิญไปสู่นครวัด นครธม ประเทศเขมร เพื่อเผยแผ่พระศาสนา นำโดยเถรเจ้าป่าอีกนั่นแหละ

    จากนครวัด นครธม สู่กรุงจันทบุรีศรีสัตตนาคนหุต (ประเทศลาว) ปัจจุบันคือเวียงจันทน์ สาเหตุเกิดกลียุคแย่งราชสมบัติ เถรเจ้าป่าท่านเห็นว่าพระแก้วจะไม่ปลอดภัย จึงได้เอาผ้าห่อแล้วบรรจุลงในบาตร (คงจะเป็นบาตรขนาดใหญ่) เพื่ออำพรางผู้ทุศีลไม่ให้แย่งชิงไป เถรเจ้าป่าองค์นั้นไปอยู่ที่เวียงจันทน์ก็ไม่มีกำหนดปีเหมือนกัน

    จากนครเวียงจันทน์ก็ได้เสด็จสู่นครลำปาง และนครเชียงใหม่ ด้วยสาเหตุแห่งความรัก เนื่องจากเจ้าผู้ครองเวียงจันทน์ได้บุตรเขยเป็นชาวเชียงใหม่ หลังจากนั้นจะนำบุตรีสู่เชียงใหม่ บิดาให้พรบุตรีว่าอยากได้อะไรก็จะให้ บุตรีจึงขอพระแก้วมรกตไปด้วย ด้วยความรักของบิดาก็จำยอมยกให้

    พอไปถึงลำปาง ช้างที่นั่งไปไม่ยอมไปเอาดื้อๆ จะขับไสอย่างไรช้างก็ไม่ไป ตกลงกันว่าองค์พระแก้วมีพระประสงค์จะประทับที่ลำปางแน่ พระแก้วก็เลยประดิษฐานที่ลำปางก่อน นานพอสมควรจึงได้อัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ ท่านก็ไม่ได้บอกว่ากี่ปี ต่อมาบุตรเขยก็เสียชีวิตลง บุตรีเจ้าผู้ครองนครก็กลับสู่เวียงจันทน์ และนำพระแก้วมรกตกลับมาด้วย จึงประดิษฐานอยู่ที่เวียงจันทน์อีกเป็นครั้งที่สอง

    ท่านพระอาจารย์มั่นเล่าว่า ไทยคือลาว ลาวคือไทย เป็นชาติเดียวกัน แต่ครั้งอยู่ราชคฤห์ แต่หนีตายมาคนละสาย มาบรรจบกันที่แม่น้ำใหญ่ๆ 4 สาย คือ แม่น้ำโขง เจ้าพระยา สาละวิน และแม่น้ำตาปี

    ต่อมาเหตุการณ์บ้านเมืองในลาวเปลี่ยนแปลง เกิดกลียุค ราชวงศ์และราชบุตรเป็นศัตรูกัน ราชบุตรมักถูกรังแกใส่ความ ทนไม่ไหวจึงอพยพครอบครัวข้ามโขงมาอยู่อีกฝั่งหนึ่ง (ปัจจุบัน คือ จังหวัดหนองบัวลำภู) ราษฎรก็ทยอยติดตามมา โดยมีพระตา น้องชายราชบุตรเป็นหัวหน้า ราชวงศ์ยังยกกองทัพมารังแกข่มเหงอีก

    ฝ่ายพระตาและพระวอก็ได้ถอยร่นลงมาสู่ดอนมดแดง คืออุบลราชธานีในปัจจุบันอย่างทุลักทุเล บังเอิญกองทัพทางเวียงจันทน์เสบียงขาดแคลนลง จึงต้องยกทัพกลับ หลังจากนั้นก็ได้ยกทัพมาตีอีกครั้งที่สอง ชาวดอนมดแดงได้ต่อสู้ถวายหัวเต็มกำลังความสามารถ

    พระตาสวรรคตในสนามรบอย่างสมพระเกียรติ พระวอเห็นท่าไม่ได้การ ได้ให้ม้าเร็วนำสาส์นขอกองกำลังจากบางกอกไปช่วย สมัยนั้นสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเป็นพระมหากษัตริย์ จึงส่งกองทัพม้าเป็นทัพหน้าเดินทางไปก่อน กองทัพหลวงนำโดยสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก เป็นแม่ทัพยกตามไป ชาวดอนมดแดงก็มีกำลังใจสู้ถวายหัว พอกองทัพหลวงยกมาถึง กองทัพทางเวียงจันทน์จึงแตกพ่ายกลับไป

    ทั้งทัพม้าศึกและทัพหลวงแห่งบางกอก พร้อมกองอาสาสมัครแห่งดอนมดแดง ก็ติดตามไล่ตีไม่ลดละ จนถึงฝั่งโขง และข้ามโขงเข้ายึดนครเวียงจันทน์ได้ทั้งหมด

    หลังจากชนะศึกแล้ว ชาวลาวได้ยินยอมพร้อมใจมอบพระแก้วมรกตและพระบาง ให้มาประดิษฐานที่กรุงเทพฯ นี่คือสาเหตุที่พระแก้วมรกตมาประดิษฐานในประเทศไทย

    ปีนั้นบางกอกเกิดฝนแล้ง โหรหลวงทำนายว่า เพราะพระแก้วและพระบางมาอยู่รวมกันเป็นเหตุ สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก จึงส่งสาส์นแจ้งไปยังเจ้ามหาชีวิตลาว พระองค์ทรงยินดีรับคืน แต่ให้ส่งไปนครหลวงคือ กรุงศรีสัตตนาคนหุต ไทยได้ทำการสักการะจัดส่งอย่างสมพระเกียรติ ท่านพระอาจารย์มั่นเล่าอย่างนี้ ตั้งแต่วันพระบางไปถึงกรุงศรีสัตตนคนหุต ก็เปลี่ยนชื่อเป็นเมืองหลวงพระบางมาจนบัดนี้

    ท่านฯ ยังเล่าต่อไปว่า เดิมไม่ได้เรียกเมือง “หลวงพระบาง” เรียก “หลวงพระบ้าง” เพราะว่าทองที่หล่อนั้นเป็นทองหลายชนิด ผู้มีศรัทธาไปร่วมพิธีเททองหล่อนั้น มีทั้งสร้อยทองคำ ตุ้มหูทองคำ กำไลทองคำ เงิน ทองแดง นาก ทองสัมฤทธิ์ เอาออกมาใส่ลงในเบ้าหล่อ โดยทุกคนก็กล่าวว่า ฉันบ้าง ข้าบ้าง กูบ้าง ข้าน้อยบ้าง เมื่อเป็นพระออกมาก็คงจะมีชื่ออย่างอื่น ชื่ออะไรท่านมิได้กล่าวๆ แต่คนนั้นก็ว่าพระบ้าง คนนี้ก็พระบ้าง ลักษณะชายจีวรบางแผ่ออกทั้งสองข้าง เป็นแผ่นบางๆ คนภายหลังมาเห็น เลยกลายจากบ้าง มาเป็นบาง จากพระบ้างมาเป็นพระบางไป

    หลังจากสมเด็จเจ้าพระมหากษัตริย์ศึก ได้เสวยราชย์เป็นรัชกาลที่ 1 แล้ว ได้ยกฐานะบ้านดอนมดแดงขึ้นเป็นเมืองให้ชื่อว่า เมืองอุบลราชธานี ตั้งพระวอเป็นพระวรวงศาธิราชครองเมืองอุบลฯ พระวรวงศาธิราชสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พ้นภัยพิบัติมาได้ จึงได้ประกาศเป็นทางการว่า แผ่นดินฝั่งขวาแม่น้ำโขงทั้งหมดขอขึ้นตรงต่อบางกอก ไม่ขึ้นตรงต่อเวียงจันทน์ ตั้งวันนั้นมาถึงปัจจุบันปรากฏอยู่ในแผนที่ประเทศไทยโดยสมบูรณ์

    หลังเทศน์จบ พระไปกันหมดแล้วก่อนจะจำวัด ท่านพระอาจารย์ (หลวงปู่มั่น) มักมีคำพูดขำขันบ้าง เป็นปริศนาบ้าง เป็นคำของบุคคลสำคัญพูดบ้าง อย่างที่ผู้เล่า (หลวงตาทองคำ จารุวัณโณ) กำลังจะเล่าเรื่องภาคกลาง ต่อไปนี้

    สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสฺโส) เคยพูดว่า ภาคกลางคือ “จอมไทย” (ผู้ปฏิบัติใกล้ชิด คิดอยากรู้อยากฟัง ไม่ต้องถามท่านพระอาจารย์ดอก ถวายการนวดไปท่านก็เล่าไป พอจบเรื่องท่านก็หลับ โปรดเข้าใจการสนทนาธรรมด้วยอิริยาบถนอน เป็นการไม่เคารพธรรม แต่ท่านพระอาจารย์กล่าวว่า เวลานอนมิเป็นการสนทนาธรรม เป็นการพูดกันธรรมดาๆ แบบกันเอง ท่านจึงไม่เป็นอาบัติ)

    คำว่า “จอม” หมายถึง วัตถุแหลมๆ อยู่บนที่สูง เช่น ยอดพระเจดีย์เป็นต้น “จอมไทย” ก็คือ กรุงเทพมหานครเรานี้เอง ท่านที่เป็นปราชญ์ ก็เรียกว่า จอมปราชญ์ มงกุฎฉลองพระมหากษัตริย์ก็เรียก จอมมงกุฎ พระมหากษัตริย์ก็เรียก จอมกษัตริย์ วัดพระแก้วมรกตอีกแห่งหนึ่ง เรียกว่า จอมวัด ก็ไม่ผิด

    วัดพระแก้วนี้เป็นวัดพระพุทธเจ้าโดยเฉพาะ พระสงฆ์อยู่ไม่ได้ เพราะพระสงฆ์มาจากตระกูลต่างๆ ทั้งหยาบทั้งละเอียด ไม่รู้พุทธอัธยาศัย พุทธธรรมเนียม เพราะพระพุทธเจ้าเป็นทั้งกษัตริย์ และผู้สุขุมาลชาติ เมื่อพระสงฆ์ไม่รู้พุทธธรรมเนียม ถ้าไปอยู่ก็มีแต่บาปกินหัว

    ท่านฯ ว่า ผู้รู้ทั้งพุทธอัธยาศัยและพุทธธรรมเนียมแล้ว มีพระมหากษัตริย์องค์เดียวเท่านั้น ครั้งพุทธกาลก็มีพระเจ้าพิมพิสารเท่านั้นทรงรู้ แต่จอมไทยคือ พระมหากษัตริย์ทรงรู้มาแล้ว ได้ทรงสร้างวัดถวายจำเพาะพระแก้วเท่านั้น

    พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์เป็นหน่อเนื้อพุทธางกูร คือ จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในกาลข้างหน้า ต่างแต่วาสนาบารมีมากน้อยต่างกันเท่านั้น ท่านจึงทรงรู้พุทธอัธยาศัยเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า (พระพุทธศาสนาก็เป็นจอมพุทธศาสนาที่กรุงเทพฯ นี้)

    ไทยนั้นเป็นเจ้าขององค์พระแก้วมรกต ผู้ใดย่างกรายเข้าสู่วัดพระแก้วเป็นบุญทุกขณะที่อยู่ในบริเวณวัด แม้แต่ชาวต่างชาติ จะเป็นฝรั่ง อังกฤษ อเมริกา มีโอกาสเข้าไปในบริเวณวัดพระแก้ว จะด้วยศรัทธาหรือไม่ก็ตาม ก็ได้เข้ามาสู่วงศ์พระพุทธศาสนาโดยปริยาย หรือจะบังเอิญก็แล้วแต่ สามารถเป็นนิสัยให้เข้ามาได้ ต่อไปจะสามารถมาเกิดเป็นคนไทย สืบต่อบุญบารมีสำเร็จมรรคผลได้

    นี้คือบทสนทนาแบบกันเองของครูและศิษย์



    ขอขอบคุณที่มาจาก..ปกิณกะธรรมในหนังสือ “รำลึกวันวาน”
    เขียนโดย หลวงตาทองคำ จารุวัณโณ หน้า 141-145
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2015
  5. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,435



    น้อมกราบพระรัตนตรัย
    อรุณสวัสดิ์พี่ปู พี่วรรณ และทุกๆท่าน
     
  6. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    พระแก้วมรกต หลวงปู่สิม สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง




    [​IMG]


    พระแก้วมรกต หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม




    [​IMG]


    พระแก้วมรกต หลวงปู่หมุน วัดป่าหนองหล่ม
     
  7. PraKhoonPhan

    PraKhoonPhan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    881
    ค่าพลัง:
    +6,624
    ขอบพระคุณครับพี่ปู ช่วงนี้ต้องระวังตัวเองให้มากที่สุด:cool::cool::cool:
     
  8. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    [​IMG]
     
  9. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/DaTa/DSC01895.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/DaTa/DSC01895.jpg" border="0" alt=" photo DSC01895.jpg"/></a>
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/DaTa/DSC01898.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/DaTa/DSC01898.jpg" border="0" alt=" photo DSC01898.jpg"/></a>
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/DaTa/DSC01901.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/DaTa/DSC01901.jpg" border="0" alt=" photo DSC01901.jpg"/></a>
     
  10. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/DaTa/DSC01744.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/DaTa/DSC01744.jpg" border="0" alt=" photo DSC01744.jpg"/></a>
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/DaTa/DSC01742.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/DaTa/DSC01742.jpg" border="0" alt=" photo DSC01742.jpg"/></a>
     
  11. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ของผู้ที่โดนของแต่โชคดีได้บารมีครูบาอาจารย์คือหลวงปู่หงษ์และหลวงพ่อฤาษีช่วยเอาไว้ครับ



    [​IMG]



    [​IMG]





    เพื่อนโดนคุณไสย ที่วัดถ้ำป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน

    โดย NOOKFUFU2



    ขอเกริ่นก่อนว่า บริเวณรอบๆวัดถ้ำป่าไผ่ และพื้นที่ส่วนใหญ่ของ อ.ลี้ ยังมีชนเผ่ากระเหรี่ยงอาศัยอยู่ประปราย และพวกเขาก็ยังมีความเชื่อเรื่องการเลี้ยงผีต่างๆ รวมทั้งสืบทอดวิชาคุณไสย โดยสอนให้กันเฉพาะภายในสายเลือดคนในครอบครัว


    เรื่องนี้เกิดเมื่อประมาณน่าจะสักปี 2547 ได้ ตอนนั้นซัก 24 ไปปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์ถ้ำป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน เป็นเวลา 3 เดือนเศษ ประมาณเดือนมกราคม ถึงเดือนเมษายนช่วงนั้นที่วัด
    เรากับเพื่อนอีก 2 คนตั้งใจเข้าไปช่วยกันทำความสะอาดเพราะถ้ำค่อนข้างสกปรก และมักมีถุงขยะ และเศษหลดไฟเสียถูกทิ้งหมกอยู่ตามซอกต่างๆในถ้ำ ทำให้การทำความสะอาดเต็มไปด้วยความยากลำบากเพราะขยะมักหมกติดต่อกันมาหลายปี และปากถ้ำก็อยู่บนเขา การจะขนขยะทั้งหมดลงมาข้างล่างจนทั้งอาศัยร่างกายค่อนข้างมากพอสมควร ช่วงแรกๆที่เพื่อน 2 คนเข้าไปทำความสะอาดก่อน

    เพื่อนเล่าว่า เจอแมงป่อง ตะขาบและสัตว์มีพิษบ่อยๆตามหลืบหิน ทำให้ต้องคอยระวังตัวอยู่เสมอ เพราะกลัวจะถูกต่อย พอถึงวันที่เราตั้งใจจะขึ้นไปช่วยด้วย เพราะรู้ว่างานนี้ต้องอาศัยแรงหลายคนช่วยกันจะได้เสร็จไวๆ ตอนนั้นเราคิดถึงหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ จ.สุรินทร์ เราเคารพท่านมาก ท่านเป็นครูบาอาจารย์องค์แรกของเรา เรานึกถึงหลวงปู่หงษ์เพราะหลวงปู่หงษ์ เปรียบได้เป็นดั่งเทพเจ้าของสัตว์และแมลง

    หลวงปู่หงษ์ชอบเลี้ยงสัตว์และแมลงมีพิษทุกชนิดไว้ทั่ววัด แต่ที่จริงเราคิดว่าหลวงพ่อท่านคงชอบสัตว์ทุกชนิดแหละ เพียงแต่ สัตว์มีพิษและแมลงที่มีพิษทั้งหลายมักเป็นสิ่งที่ใครไม่ต้องการ

    เมื่อชาวบ้านเขาไม่ต้องการพวกมัน แล้วเขาก็ไม่อยากฆ่า พวกเขาจึงจับมาถวายหลวงปู่ บ่อยๆเข้ามันก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจรเข้ ตะขาบ งูเห่า งูเหลียม งูจงอาง หมูป่า แมงป่อง ตะขาบและพวกมันก็กระจัดกระจายรอบกฺุฏิท่าน และไม่เคยกัดหรือฉกทำร้ายใคร สัตว์พิษทุกตัวเชื่อฟังคำสั่งทุกคำสั่งของหลวงปู่ หลวงปู่มักเรียกพวกมันว่า "พวกนี้คือทหารของหวงปู่"

    และเราก็คิดในแบบของเราทันทีว่า "ถ้าสัตว์เหล่านี้เป็นทหารของหลวงปู่หงษ์ ถ้างั้นพวกมันกับเราก็เป็นสหาย พวกพ้องเดียวกัน"

    มีงูเหลือมตัวเขื่องตัวนึง มันชอบเลื่อยมาห้อยตัวบนกิ่งไม้นิ่งๆ มีคนไปแจ้งหลวงปู่ เพราะตัวมันใหญ่และกลัวว่าจะทำร้ายคนในงาน หลวงปู่ก็บอกว่า นั่นทหารเอก เขามาดูความเรียบร้อย ไม่มีอะไร เขาอยู่ไกลๆ ไม่ได้ตั้งใจทำให้ผู้คนแตกตื่น เอาเป็นว่าหากฝากตัวเป็นศิษย์และเอ่ยชื่อหลวงปู่หงษ์แล้ว สัตว์มีพิษทุกตัวไม่ว่าจะที่แห่งไหน พวกมันจะไม่เข้ามาทำร้าย จะหลีกทางให้ และไม่มารบกวนอีก)

    เมื่อรู้ว่าในถ้ำมีสัตว์มีพิษอาศัยกระจัดกระจายอยู่มากตามซอกหินในถ้ำ เราเลยอธิษฐานจิต นึกถึงหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ขอบารมีหลวงปู่ ขอให้เมื่อเข้าไปทำความสะอาดภายในถ้ำ จงอย่าได้พบเจอสัตว์มีพิษสักตัว

    ในเช้าวันต่อมา ก็รีบขึ้นไปช่วยเพื่อนขนขยะออกมาจากถ้ำ เพื่อน 2 คนก็คุยกันว่าวันนี้แปลก พอไอ้นุ้กมา แม้แต่แมงป่องสักตัวก็ไม่เจอ เราก็บอกเพื่อว่าขอบารมีอาจารย์ช่วยคุ้มครองอยู่ เพื่อน 2 คนก็เข้าใจทันที

    ในวันต่อๆมา ภารกิจทำความสะอาดถ้ำผ่านไปด้วยดี เย็นวันนึงเราขึ้นไปนั่งพักเหนื่อยที่ปากถ้ำกับเพื่อน ตรงนั้นจะมีโต๊ะม้าหินตัวนึง นั่งคุยเรื่องทั่วไปจนถึงเวลาใกล้ค่ำ ส่วนใหญ่ก็คุยกับเรื่องผีๆนี่แหล่ะ โดนใจมาก อยู่ในวัด กลางป่าเงียบๆ และคุยเรื่องผี -*- เราต้องลงเขาคนเดียวไปนอนที่วัด ส่วนเพื่อน 2 คนต้องข้างบนเขาที่กุฏิหน้าปากถ้ำ

    คุยจนเริ่มมืดแล้ว เราไม่อยากนอนดึก เลยตั้งใจจะลุกเดินลงเขากลับวัด จู่ๆก็ไปเห็นตะขาบยักษ์ตัวนึง ตัวมันยาวเกือบฟุต ลำตัวกว้างเกือบๆ 1 นิ้ว ด้วยขนาดตัวตะขาบเราคิดว่า ในป่าคงไม่แลปกอะไร แต่ก็ยอมรับว่าไม่เคยเจอตะขาบตัวใหญ่เท่านี้มาก่อน

    ตะขาบมันมานอนตายๆใกล้ๆ เก้าอี้หินที่เพื่อนนั่ง เราก็ชี้ให้เพื่อนช่วนกันเอาไฟฉายมาส่องดู เพราะรู้สึกว่าตะขาบมันจะตายแล้ว

    ลักษณะการตายของมันค่อนข้างแปลก คือมีแมลงประหลาดรุมกัดกินมันจนตาย แมลงตัวเล็กจำนวนมากเป็นแมลงปีกแข็งตัวสีดำ พวกมันรุมกินตะขาบจนเหลือแต่ปล่องลำตัวกลวงๆ แล้วลักษณะของตะขาบก็เหมือนเพิ่งตายได้ไม่นาน มีกลิ่นเหม็นสาปจางๆออกมาจากตัวของมัน

    เราไม่เคยเห็นภาพแบบนี้มาก่อน และนึกถึงหลวงปู่หงษ์ทันที ปกติทุกครั้งที่เราอธิษฐานไม่ให้สัตว์มีพิษเข้าใกล้ ทุกครั้งมันจะได้ผล คือ จะไม่มีสัตว์มีพิษตัวไหนปรากฏให้เห็น พวกมันจะซ่อนตัว และไม่เข้ามาใกล้หรือรบกวนตามระยะเวลาที่กำหนด

    แต่การที่มีตะขาบตัวเขื่องเคลื่อนตัวมาใกล้ห่างจากเท้าเพื่อนเราแค่ไม่กี่คืบ จึงคิดได้เป็นอย่างเดียวคือ มันไม่มีสัตว์ แต่เป็นคุณไสย...

    เรากับเพื่อนมองหน้า คิดตรงกันทั้ง 3 คนว่า นี่คือคุณไสยแน่ๆ และมีใครบางคนส่งมาเพื่อทำร้ายเราคนใครคนหนึ่งให้ตาย และแมลงตัวเล็กสีดำจำนวนมากพวกนี้ก็รีบเข้ามาช่วยกันขัดขวาง

    ตอนนั้นเพื่อน 2 คนคนคิดว่า เมื่อตะขาบตายไปแล้ว คุณไสยก็คงหมดฤทธิ์ เลยหากิ่งไม้แห้งมาเขี่ยตัวตะขาบพลิกดู แต่เรายังไม่วางใจ เลยเตือนว่าถึงจะเหลือแต่ซาก แต่ก็อาจมีพลังติดค้างอยู่ เพื่อนนึกได้จึงรีบปล่อยไม้ทิ้ง

    ค่ำวันนั้น เรารีบเดินลงเขามืดๆ กลับไปที่ห้องพัก นั่งสวดคาถาสนองกลับ และว่าอิติปิโสไปตามเรื่องตามราว ในคืนนั้น... เราฝันเห็นภาพของเพื่อนคนที่เอาไม้ไปเขี่ยวตัวตะขาบมีมือสีม่วงบวมเป่งและในฝันภาพบอกว่าให้เอาน้ำมนต์ของวัดท่าซุงมาล้างมือ อาการนั้นถึงจะหาย

    เราตื่นขึ้นตอนเช้า รีบค้นหาน้ำมนต์วัดท่าซุงในห้อง แต่ในกระเป๋าเจอแต่น้ำมนต์จากบ่อน้ำทิพย์ คิดว่าน่าจะพอแทนกันได้ จึงรีบเดินขึ้นเขาไปหาเพื่อนทันที ปรากฏว่าเพื่อนคนที่เอากิ่งไม้แห้งแหย่ตะขาบ มือข้างนั้นมีอาการบวมเป่งเป็นสีม่วง คล้ายถูกพิษ ตามที่เราฝันเห็นทุกอย่าง

    เรารีบยื่นน้ำมันต์ให้เพื่อนอีกคนช่วยน้ำไปล้างมือ แล้วบอกว่าจริงๆต้องเป็นน้ำมนต์วัดท่าซุง แต่เราไม่มี เพื่อนอีกคนก็บอกว่ามีติดตัวมา แล้วเขาก็รีบเข้าไปหาขวดน้ำมนต์วัดท่าซุงมาช่วยล้างมือให้ ไม่นานนักสีม่วงที่มือก็ค่อยๆจางลง พอตอนสายใกล้เที่ยง มือก็หายปวด กลับมาเป็นปกติดังเดิม



    ที่มา: เว็บแดนนิพพาน
     
  12. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/DaTa/man_04_115-1-1.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/DaTa/man_04_115-1-1.jpg" border="0" alt=" photo man_04_115-1-1.jpg"/></a>
     
  13. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2015/DSC_0009.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2015/DSC_0009.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0009.jpg"/></a>

    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2015/DSC_0005.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2015/DSC_0005.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0005.jpg"/></a>
     
  14. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,435
    น้อมกราบสมเด็จองค์ปฐม หลวงพ่อปาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    อรุณสวัสดิ์เช้าวันจันทร์พี่ปู พี่วรรณ และทุกๆท่าน

     
  15. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]



    [​IMG]



    เหรียญทำน้ำมนต์ หลวงพ่ออนันต์สร้าง แม้ไม่ทันหลวงพ่อฤาษีแต่ก็มีประสบการณ์มากมาย ลูกศิษย์ลูกหาเช่าเก็บกันไว้เรื่อยๆเห็นไปวัดที ก็เช่าติดไม้ติดมือกันมา ๑๐เหรียญ ๒๐เหรียญ มีไว้ติดตัวติดบ้านอุ่นใจดีครับ

    หลวงพ่อเคยแนะนำไว้หลังจากบูชาพระเสร็จแล้วให้นึกถึงเหรียญหรือยันต์ไว้ที่กระหม่อม แล้วภาวนาอิติปิโสฯ ๗จบ ต่อด้วย นะมะพะธะ ๑๕จบ จะช่วยคลายกฏแห่งกรรมลง แล้วยิ่งภาวนาคาถาเงินล้านอีก ๓๐จบ ก็จะยิ่งดีครับ
     
  16. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528

    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/DaTa/man_04_115-1-1.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/DaTa/man_04_115-1-1.jpg" border="0" alt=" photo man_04_115-1-1.jpg"/></a>
     
  17. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/DaTa/1043861_190907317753395_1476249940_n.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/DaTa/1043861_190907317753395_1476249940_n.jpg" border="0" alt=" photo 1043861_190907317753395_1476249940_n.jpg"/></a>
     
  18. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]




    พระผงทำน้ำมนต์ หลวงปู่ศรี มหาวีโร
     
  19. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Newest2014/DSC_0004.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Newest2014/DSC_0004.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0004.jpg"/></a>
     
  20. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,435
    น้อมกราบครูบาอาจารย์
    สวัสดีพี่ปู พี่วรรณ และทุกๆท่าน


    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...