เข้าใจตัวเองบรรลุธรรมแล้วจะแก้อย่างไร

ทีหลังกุจะไม่คาดหวังคำตอบมึงอีกแระ เดี๋ยวตอบมืดๆ ไม่มีเวลา...ไข้เลือดออกกินแน่มึง อิอิ

 

ตามสบายเลย...ท่านก็ปฏิบัติแบบมั่วๆอยู่แล้วนี่...เราไม่สงสัยเลยทำไมท่านปฏิบัติไปไม่ถึงไหนขนาดตอบคำถามท่านปราบยังมั่วไปหมดอธิบายก็ไม่รู้เรื่อง

ด้วยจิตท่านหน่วงเหนี่ยวกับความเห็นแก่ตัวมากไปและเป็นคนชอบประจบสอพลอด้วยนะท่านน่ะ

 

การปฏิบัติก็คือการสอนใจตนเอง...คนอื่นสอนไม่เท่าตนสอนตน

 

อะไรอีกล่ะหนอนหนังสือ..ปลวกแทะตำรา

ท่านน่ะไปแก้อักขระภาษาก่อนดีกว่า

 

ถ้าจะรอคนนั้นคนนี้มาโปรด..เลิกคิดเถอะ

ร่างกายสติปัญญามีอยู่ ก็ปฏิบัติกันเองสิ

 

เราไม่ได้มาขึ้นยกหนึ่งยกสองกับใคร...เรานักชกภูธรไม่ขึ้นเวทีใหญ่

ชกตามภูธรนี่แหละสบายใจกว่าและชาตินี้ก็สบายแล้วเห็นทางแล้ว

บาย...

 

555 อ่านแล้วเหมือนดูหนังตลกเลย ลักทรัพย์โดยการเอาสิ่งที่ได้ยินมาเป็นสมบัติตน ท่าทางจะอาการหนัก ไม่รู้จะรู้สึกสงสารหรือขำดี แยกไม่ออกเลย เอาแบบนี้ดีกว่า สงสารแบบขำๆ เสพธรรมอย่างลามก เลยออกมารูปนี้ไง 555 ใครกันแน่น่าสงสาร ขำเขียดจริงๆ

 

กอดคอกันไว้อย่าให้หลุดนะสองโพธิสัตว์แฟนตาซี เดี้ยวจะเหงาหากปล่อยทิ้งกันไปกลางทาง 555

 

ไปว่าเขาทำไม ไม่กลัวมันเข้าตัวเหรอทิดหงบ

 

ด่าซะอย่างกะกุไปเตะชามข้าวมึงคว่ำเลยเนอะ แต่ก้อขอบจายยที่ชม อิอิ ...ชอบ

 

เวทนา สัญญา สังขาร ฯลฯ ไม่ได้อยู่ในขันธุ์ 5 หรอวะ

แล้วกุก้อไม่ได้แจกออกว่าอะไรเป็น เวทนา สัญญา สังขาร ฯลฯ จากตัวอย่างที่กุยกด้วยดิ ตรงไหนที่กุแจกออกวะ

 

ตาคือรูป เห็นคือนาม แล้วจิต(ใจ)ที่รู้คือไร นามหรือรูป? = รูป นาม นาม หรือ รูป นาม รูป
หูคือรูป ได้ยินคือนาม จิตคือนามหรือรูป? = รูป นาม นาม , รูป นาม รูป

แถมถ้าเลยไปถึงโลภะ ผิดศีลแน่นวลอีก จะผิดศีลนี่ต้องครบองค์5 ไม่ใช่หรอวะ ....ทฤษฎีใหม่มึงบัญญัติขึ้นมาไรงี้ ...

ลองไปเรียนการฝึกพวกสายรูปนามมั้ยมึง จะได้เข้าใจ ไม่ใช่มโนเอาเอง กุเคยคิดว่าบางทีคนฝึกไม่ต้องมีคนสอนก้อได้มั้ง แต่หลังๆ กุว่า มีเหอะ ยิ่งแบบมึงด้วยนะ ยิ่งต้องมี จะได้เข้าใจหลักการทำที่ถูก

 

อารมณ์วิปัสสนาคือ มีรูปนามเป็นอารมณ์

ประตูเข้าของกิเลสมี 6 เพราะมีสิ่งกระทบเลยเกิดรูปนาม
เช่น
เสียงกระทบหูเกิดจิต เสียงกับหู = รูป รู้ = นาม กำหนดหยุดแค่เสียง (ถ้ามีคำบริกรรม คำบริกรรมคือแค่เสียง) อย่าเลยไปเสียงนกร้อง หมาเห่า ไรเบอร์นั้น

ตากับสี= รูป รู้ = นาม กำหนดหยุดแค่เห็น อย่าเลยไปสีแดง เหลือง ขาว

ถ้าแจกออกจะยาวมากตามสายรูปนาม สั้นๆ มึงยังไม่เข้าใจ ยาวๆ ไม่ต้องคิด...แนะนำไปเรียนสายรูปนาม จะได้เปิดกะลา

 

น้องวิษณุถามว่าอะไรนะครับ

 

ถามว่า เห็นรูปนาม เห็นปัจจุบัน เห็นไตรลักษณ์ยังไงค่ะ

 

อ๋อ ก็ดีอยู่นะ ที่ตอบมา

 

ไปรักษาตัวเองก่อนดีกว่า...เป็นโรคเดียวกับเสก โลโซเลยนี่อ้ายทิดเคน

ท่านคงไม่แฟนตาซีสินะ...นิมิตเห็นครูบาอาจารย์มาช่วยเนี้ยยยย55555

 

ท่านจะแยกรูปนามไม่ใช่หรอ...เวทนาสัญญา สังขาร วิญญาณ มันเป็นอีกกอง

แยกรูปนามก็ไปแยก ตา-เห็น หู-ได้ยิน จมูก-กลิ่น...อะไรแบบนี้

สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่อาจเห็นชัดได้ด้วยการคิดนึก

 

จิต(ใจ)ก็เป็นนามนั่นแหละ...เราแค่อธิบายต่อเนื่องให้เห็นถึงการยึดและการระวังรักษาไม่ให้จิตหลงไปยึด

 

จิตมันมีอยู่แล้วแต่จิตเดิมแท้ไม่มีอะไร...จิตเดิมแท้ว่างอยู่ สงบอยู่

ที่เกิดหลังรูปผัสสะรูปก็ธรรมารมณ์คือความคิดนึกปรุงแต่ง...ธรรมารมณ์เกิดวิญญาณจึงเกิด...ส่วนจิตแค่รู้แล้วเฉย