เตรียมตัวให้พร้อม!มันกำลังมา แจ้งข่าวสารการชำระโลก

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย jityim, 23 เมษายน 2018.

  1. Reflect

    Reflect เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    887
    ค่าพลัง:
    +1,439
    โน้นข้าศึกกลับมาแล้ว เทยหงบ คืนชีพแล้ว
     
  2. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    แล้วคุณสมบัติของชาว
    พุทธลูกผู้หญิง
    ควรเป็นอย่างไรฮับ??
     
  3. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,421
    ค่าพลัง:
    +3,204
    เห็นรูปตัวแทนนี้ไหมล่ะคะ 690007.jpg

    690193.jpg บางทีรูปตัวแทนบางคนก็สร้างมันขึ้นมา เพื่อแทนลักษณะ หรือนิสัย ของเจ้าของ

    แล้วคุณสมบัติของชาวพุทธลูกผู้หญิงควรเป็นอย่างไร?

    ก็โดยทั่วไปก็ต้องมีกิริยามารยาทที่เรียบร้อย สำรวมระมัดระวังกาย วาจา ใจ ให้ดูสุภาพ อ่อนโยน นุ่มนวล ให้ดูใจเย็น ใจดีมีเมตตา เป็นธรรมชาติของผู้หญิง

    images (19).jpeg

    แต่ด้วยเพราะ...ไม่มีสติ ไม่รู้สติ และไม่ใช้สติ เป็นผู้ปล่อยให้ตนเองขาดสติทั้งสามประการนี้ จึงเป็นผู้ขาดพลังอำนาจทางจิตวิญญาณแพ้ความคิดในตนเอง แพ้อารมณ์ และวิบากกรรมเก่าในอดีต สิ่งที่เกิดมาล้วนจากมีเหตุ และเหตุนั้นย่อมเกิดจากสิ่งที่ได้สั่งสมไว้ในอดีตชาตินั่นเอง อาจเคยเกิดเป็นคนไม่รู้จักยอมคน เคยอหังการ์ มนังการ์ ในการรักษาพระพุทธศาสนา หรือ ชอบความยุติธรรม เคยปราถนาที่อยากจะให้ความสิ่งใด ๆ ที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะความถูกต้องชอบธรรม หากใครมาขัดขวางก็จะไม่ยอม จะยอมแลกด้วยทุกสิ่ง ถึงแม้ว่าจะต้องสูญเสียสิ่งใดไปก็ตาม

    แต่....หน้าที่หลักของมนุษย์โลกทุกคนที่พึงมีต่อกัน อันเป็นหน้าที่หลักของตัวเราเองที่พึงมีต่อเขาด้วยก็คือ เราจะต้องสั่นสะเทือนตนเองเป็น "ความรัก" เพื่อส่งมอบตอบแทนเขากลับไปเท่านั้น..?

    มนุษย์จะสั่นสะเทือนทางอารมณ์รู้สึกด้านลบ เพื่อตอบแทนการกระทำด้านลบของเขาที่กระทำต่อตัวเราไม่ได้!

    มีความจริงที่แท้จริงอยู่ข้อหนี่งว่า ถ้าตัวเราจะสามารถเปลี่ยนอารมณ์รู้สึกจากความโกรธ ความไม่พึงพอใจไม่ว่าจะรุนแรงระดับไหนไปเป็น ไม่โกรธ หรือเปลี่ยนเป็น เมตตา เวทนา สงสาร เสียได้ ตัวเราต้องสั่นสะเทือนจิตสำนึกตนเองไปทางด้านบวกค่อนข้างสูงกว่าปกติอยู่ไม่น้อยเลย ทั้งนี้ก็เพื่อเอาชนะความโกรธ ความไม่พอใจซึ่งกำลังเกิดขึ้นอยู่ภายในจิตใจตนเองในขณะนั้นให้จงได้

    ถ้ามนุษย์เอาชนะความโกรธด้วยการไม่โกรธผู้อื่นได้

    ถ้ามนุษย์เอาชนะความเกลียดด้วยการไม่เกลียดได้

    ถ้ามนุษย์เอาชนะความเคียดแค้นด้วยการไม่เคียดแค้นได้


    นั่นเท่ากับว่า มนุษย์จะต้องใช้พลังอำนาจด้านบวกที่มีอยู่แล้วภายในจิตใจตน ซึ่งรวมเรียกว่า ความรัก เข้าดับอารมณ์รู้สึกด้านลบทั้งสามแบบนั้นลงได้อย่างราบคาบแน่นอน

    ความรักในที่นี้อาจแสดงได้หลายช่องทาง เช่น อดทน อดกลั้น ให้อภัย เมตตา ความเวทนา และความสงสาร เป็นต้น

    เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ล้วนเป็นบททดสอบ จงใช้โอกาสนี้เพื่อกำจัดกรรมของตน โดยการพิจารณาให้เห็นสิ่งที่เกิดขี้น แล้วนำมาแก้ไขอบรมตนเองเสียใหม่ค่ะ
     
  4. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,421
    ค่าพลัง:
    +3,204
    ด้วยเหตุนี้เอง ถ้าตัวเราจะสั่นสะเทือนทางอารมณ์รู้สึกด้านบวกให้ได้สูงสุดแล้ว ระหว่างเงื่อนไขด้านลบกับเงื่อนไขด้านบวกที่ผู้อื่นจะหยิบยื่นให้แก่เรานั้น เงื่อนไขด้านลบ ดูเหมือนจะมีพลังอำนาจในการกระตุ้นหรือปลุกเร้าตัวเราให้สั่นสะเทือนทางอารมณ์รู้สึกด้านบวกได้มากกว่ มิเช่นนั้นแล้วเราก็จะไม่สามารถเอาชนะอารมณ์รู้สึกด้านลบที่เกิดจากการยั่วยุด้วยเงื่อนไขด้านลบของผู้อื่นได้เลย

    มนุษย์ต้องรู้ว่า จิตวิญญาณผู้เป็นแก่นแท้ของแต่ละคนนั้น ส่วนใหญ่มักจะถือเอาบทละครที่ร่วมกันวางแผนมาตั้งแต่ก่อนมาเกิดเป็นรูปธรรมมนุษย์ในภพชาติแรก เป็นบทบาทด้านลบเพื่อแสดงออกหรือกระทำต่อกันเสมอ จะช่วยเป็นเงื่อนไขด้านลบในอันที่จะทำให้ผู้อื่นสั่นสะเทือนทางอารมณ์รู้สึกด้านบวกได้สูงสุดเท่าที่จะเข้าถึงได้นั่นเอง

    น่าเสียดายที่มนุษย์โลกทั้งหลาย ไม่รู้ความจริงที่แท้จริงดังกล่าวนี้

    โดยมนุษย์ไม่สำนึกรู้ว่า ทุกคนต้องมีเพียงตำตอบเดียวเท่านันที่จะสั่นสะเทือนตนเองตอบสนองการแสดงออกหรือกระทำด้านลบใด ๆ ของผู้อื่นได้ นั่นคือ "ความรัก" เพื่อพิทักษ์รักษาความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างตนเองกับผู้อื่นนั้นเอาไว้ให้มั่นคงตลอดไปไม่แปรเปลี่ยน

    พอมนุษย์ไม่ล่วงรู้ความจริงข้อนี้เข้า มนุษย์ก็จะสอบตกบทเรียนในความเป็นหนี่งเดียวกันทันที นั่นคือ มนุษย์จะกระทำการใด ๆ เพื่อต่อสู้ ตอบโต้ ต่อต้าน หรือหลบเลี่ยงตัวตนของผู้สร้างเงื่อนไขด้านลบให้ตนเสมอ ชนิดแรงมาแรงไป ดีมาดีไป เป็นต้น
     
  5. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    เอิ่มม์ ทั้งลูกผู้หญิงและลูกผู้ชาย
    ต้อง
    ตรงต่อธรรมจะมีโอกาสเข้าถึง
    ความว่าง และเข้าถึงอนัตตา
    ไม่มีเขา ไม่มีเรา มีแต่ธรรมะภาคสมมุติ
    กับธรรมะภาควิมุติ
    เท่านั้น
    เอวัง
     
  6. พพพ

    พพพ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2019
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +3
    คือจะสื่อว่าตัวเองเป็น ไบโพล่าร์ หรือเปล่า แบบเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
     
  7. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
    ส่งพลังสั่นสะเทือนความรักให้กับธรรมชาติ

    d4a8324d0ab56d6cd355efdb9fd77173.jpg


    9e404ec5429b5a40e32364624446c9e9.jpg

    ผมนี้นอนน้ำตาไหลกันเลยทีเดียว (แบบว่าซาบซึ้งอะ)

    b714bd522342ef046dc9be947876d5fd.jpg
     
  8. พพพ

    พพพ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2019
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +3
    คนอ่านสองกระทู้ร่วมแสนโว้ย

    มึงไม่ต้องมาพูด มึงพูดคำหยาบเป็นอย่างเดียวหรือ

    แล้วการพูดมึง มีสิทธิ์คนเดียวหรือ

    ถุยส์..รู้อยู่คนเดียวไง

    งานแรงส์ต้องมา งานแค้นต้องมี จิตรจักรวาลมรึงไปสั่นตรงอื่นก่อนแปร๊ป ตอนนี้ขอสั่นเอง

    ข้างบนนั่นแมวพิมพ์
     
  9. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,421
    ค่าพลัง:
    +3,204
    เรื่องสนามพลังงาน....

    อยู่ดีดี ใคร! เคยคิดถึงไหมคะว่า สรรพสิ่งที่มองเห็นอยู่นี้ จุดเริ่มต้น...นั้นมาจากไหน!!

    มีคำสื่อกล่าวไว้ว่า.....ในบัดดล มีสิ่งหนึ่งที่อุบัติขึ้นแรกสุด (รูปธรรมมหาสุญญตา) การสำนึกแรกแห่งการรู้ตัวรู้ตนนั้น ก็พบว่า รูปธรรมทางพลังงานอันเป็นตัวตนแก่นแท้แห่งบิดานี้ (เพราะเป็นจุดเริ่มต้นผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง) มิได้ดำรงอยู่อย่างเลื่อนลอยในท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ว่างเปล่าจนไม่มีอะไรเลยแต่อย่างใด แต่ทว่ารูปธรรมของพระบิดานี้กลับอุบัติขึ้นและดำรงอยู่บนสนามพลังงานที่เข้มข้นและกว้างใหญ่ไพศาลต่างหาก ซึ่งสนามพลังงานสากลที่ว่านี้มันมีของมันอยู่ก่อนแล้ว มันมีมาก่อนที่สิ่งเริ่มแรก(พระบิดา) จะอุบัติขึ้นเสียอีก

    จากความรู้ใหม่นี้ทำให้เจ้าได้รู้ว่า เริ่มแรกเดิมทีก่อนพระบิดาของเจ้าจะอุบัติความมีตัวตนซึ่งเป็นรูปธรรมทางพลังงานที่สมดุลขึ้นมารูปแรกนั้น ในที่ว่างโล่งอันมืดสนิทและสงบซึ่งเป็นสิ่งแวดล้อมของบิดานั้นมันมี สนามพลังงานสากล ที่มีของมันอยู่แล้ว ก่อนบิดาจะอุบัติขึ้นเสียอีก มันมิใช่ความมืดที่ว่างเปล่าแต่อย่างใด!!

    สนามพลังงาน... ที่รูปธรรมแห่งองค์บิดาดำรงอยู่ ซึ่งบัดเดี๋ยวนี้เจ้าทั้งหลายควรเรียกว่า ดินแดนแห่งความเป็นสุญญตา นั้น เป็นสนามพลังงานที่มีอยู่แต่เดิมแล้ว มันมีของมันอยู่แล้ว ใครเป็นผู้สร้าง สร้างขึ้นมาแต่เมื่อใด บิดาเองก็ไม่สามารถที่จะค้นหาคำตอบเหล่านั้นได้ รวมทั้งคำถามที่ว่าเจ้าสนามพลังงานสากลซึ่งพระบิดากำลังดำรงรูปธรรมอยู่นี้มันมีอณาเขตกว้างแค่ไหนก็ยังคงหาคำตอบอยู่เช่นกัน

    ในครั้งกระนั้นรอบ ๆ เต็มไปด้วยความมืดมิดและสงบ มิมีรูปธรรมอื่นใดดำรงอยู่ด้วยเลย พยายามเคลื่อนไหวตนเองไปทุกทิศทางบนสนามพลังงานสากลที่มีอยู่ ไม่สามารถพบเจอสิ่งใดเลย นอกจากรูปธรรมทางพลังงานของพระบิดา ดำรงอยู่ในท่ามกลางความมืดมิดบนสนามพลังงานอันไพศาลที่หาขอบเขตอันเป็นที่สุดของสนามพลังงานสากลที่มีอยู่นี้แล้วมิได้ ทั้ง ๆ ที่มันมีขอบเขตของมันอยู่ และสิ่งที่บิดาเจ้าได้เรียนรู้และพบความจริง ก็คือ รูปธรรมทางพลังงานของบิดาแห่งเจ้าอุบัติขึ้นมาด้วยตนเอง

    ในการอุบัติขึ้นด้วยตนเองของรูปธรรมทางพลังงานแห่งบิดาเจ้านี้ ได้ค้นพบว่าสิ่งแวดล้อมทั้งหมดที่บิดาแห่งเจ้าดำรงรูปธรรมอยู่นั้น คือ "สนามพลังงานที่ละเอียดอ่อนมาก"

    ซึ่งในสนามพลังงานดังกล่าวนี้ไม่มีสรรพสิ่งอื่นใดทั้งที่เป็นวัตถุมวลหยาบในทางมิติกายภาพ และสรรพสิ่งที่เป็นรูปธรรมในมิติทางพลังงานดำรงอยู่ในนั้นเลย ทุกหนแห่งล้วนเต็มไปด้วยความว่างนั่นเอง แต่เจ้าจะกล่าวว่ามันเป็นสนามพลังงานที่ว่างเปล่าเสียทีเดียวมิได้ เพราะอย่างน้อยก็มีรูปธรรมทางพลังงานของบิดาแห่งเจ้าดำรงอยู่หนึ่งรูปธรรมแล้ว แต่ที่สำคัญยิ่งก็คือ

    เจ้าจะกล่าวสรุปว่ามันเป็นสนามพลังงานที่ว่างเปล่าไม่ได้แน่ เพราะเหตุว่ารูปธรรมทางพลังงานของพระบิดาก็อุบัติขึ้นมาด้วยตนเองจากสนามพลังงานสากลที่ว่านี้เอง

    ถ้าหากสนามพลังงานอันละเอียดอ่อนที่กล่าวถึงอยู่นี้ "ว่างเปล่า" มันก็ย่อมต้องไม่มีสรรพสิ่งใด ๆ ทั้งที่เป็นอนัตตาหรือมีอัตตาตัวตนดำรงอยู่อย่างแน่นอน นั่นคือ ถ้าหากกล่าวว่าสนามพลังงานนี้มีแต่ความว่างเปล่าจริง คือไม่มีอะไรอยู่ในสนามพลังงานนี้เลย ความมีตัวตนแห่งองค์พระบิดา อันเป็นรูปธรรมทางพลังงานที่สมดุลอย่างหนึ่งย่อมจะอุบัติขึ้นมาจาก ความว่างที่ว่างเปล่าจนไม่มีอะไรมิได้เป็นแน่แท้

    ความรู้ใหม่สำหรับเจ้าในขั้นตอนนี้ที่น่ารู้ก็คือ แท้แล้วสนามพลังงานที่มีอนุภาคของคลื่นความถี่สูง ๆ และละเอียดอ่อน ที่บิดาอุบัติขึ้นและดำรงอยู่นั้น มันเป็นความว่างที่มิใช่ความว่างเปล่า มันเป็นอณาเขตหรือบริเวณของสนามพลังงานที่ยังมีบางสรรพสิ่งดำรงอยู่แต่ก็เป็นความมีที่เหมือนไม่มี

    ดังนั้นสรรพสิ่งที่พวกเจ้าเรียกว่า "เป็นความมีที่เหมือนไม่มี" หรือสรรพสิ่งที่เป็นอนัตตาในคำกล่าวของเจ้านั้น ในบริเวณที่พระบิดาอุบัติขึ้นและดำรงอยู่นี้ มันจะต้องมีสรรพสิ่งที่เป็นยิ่งกว่าอนัตตาซึ่งอยู่ในมิติที่สูงกว่าดำรงอยู่อย่างแน่นอน พระบิดาพบความจริงว่ามันคือ "แก่นแท้ของสรรพสิ่งที่เป็นอนัตตา" นั่นเอง

    ถ้าเช่นนั้นสรรพสิ่งที่เป็นยิ่งกว่า "อนัตตา" หรือ "แก่นแท้ของสรรพสิ่งที่เป็นอนัตตา" ซึ่งเป็นความมีที่เหมือนไม่มีนี่เอง คือ สรรพสิ่งที่รวมตัวกันจน สร้างรูปธรรมทางพลังงานของบิดาแห่งเจ้า ให้อุบัติขึ้นมาด้วยตนเองได้

    หากจะกล่าวสรุปสั้น ๆ ก็อาจกล่าวได้ว่า รูปธรรมทางพลังงานของบิดาแห่งเจ้านี้ เป็นรูปธรรมทางพลังงานที่อุบัติขึ้นมาจากสรรพสิ่งที่เป็น แก่นแท้ของความว่าง หรือเป็นแก่นแท้ของสรรพสิ่งที่เป็นอนัตตาซึ่งลึกละเอียดเข้าไปอีกมิติหนึ่ง และก็ยังเป็นความมีที่เหมือนไม่มีอยู่เช่นเดิม ด้วยเหตุนี้เองเจ้าจึงสามารถที่จะกล่าวได้แล้วว่า พระบิดาแห่งเจ้าเป็นรูปธรรมทางพลังงานที่มีความสมดุลในตนเอง ซึ่งภายในรูปธรรมนั้นจะเต็มไปด้วยแก่นแท้ของความว่าง ภายในรูปธรรมทางพลังงานของพระบิดาจึงเสมือนมีแต่ความว่างเปล่า ทั้ง ๆ ที่แท้จริงแล้วยังมีแก่นแท้ของความว่างซึ่งอาจเรียกว่า แก่นแท้ของสรรพสิ่งที่เป็นอนัตตา ดำรงอยู่และพร้อมจะแสดงพลังอำนาจออกมาให้เห็นได้ทุกเมื่อหากมีการสั่นสะเทือนภายในรูปธรรมเกิดขึ้น และพลังอำนาจที่เกิดขึ้นย่อมสูงส่งลึกซึ้งและเล็กละเอียดอ่อนยิ่งกว่าอำนาจใด ๆ ของสรรพสิ่งทั้งหลายในเอกภพของเจ้าด้วยซ้ำไป เพราะมันเป็นพลังอำนาจอันบริสุทธิ์อันเกิดจากแก่นแท้ของสรรพสิ่งที่เป็นอนัตตาซึ่งยังคงบริสุทธิ์อยู่นั่นเอง

    เมื่อได้รู้แล้วว่าองค์พระบิดาแห่งเจ้าอุบัติขึ้นมาจากแก่นแท้ของความว่าง จึงมีคุณสมบัติเป็น "มหาสุญญตา" ดังที่กล่าวมาแล้ว นั่นเอง

    พอที่จะนึกภาพออกไหมคะ....

    ที่ท่านซาตานกล่าวว่า อนัตตารู้ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีเนื้ออะไรสักอย่าง จะไปสร้างสนามพลังงานให้เขาทำไม?

    จิตยิ้มว่า...เท่าคำที่กล่าวมา สนามพลังงานสากลมันมีแต่เดิมมาก่อนแล้ว มีมาก่อนที่สิ่งแรกจะอุบัติขึ้น เป็นสนามพลังงานที่เป็นความว่างที่มิใช่ความว่างเปล่า เป็นแก่นแท้ของความว่าง เป็นแก่นแท้ของสรรพสิ่งที่เป็นอนัตตา เป็นพลังอำนาจบริสุทธิ์ สิ่งที่อุบัติขึ้นครั้งแรกจากสนามพลังงานนี้ จึงมีคุณสมบัติ "มหาสุญญตา" นะค่ะ และไม่มีใครสร้างขึ้นมา หากไม่มีสนามพลังงานที่เป็นแก่นแท้อนัตตานี้อยู่ จะไม่มีสิ่งใดอุบัติขึ้นมาได้เลยค่ะ
     
  10. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,421
    ค่าพลัง:
    +3,204
    คำว่า อมตะ นิรันดร์ ถ้าเปรียบความหมายก็คือ คงอยู่ตลอดกาล สภาวะนิพพานมีลักษณะเช่นนั้น

    คำว่ารูปพลังธรรมงาน คือ เกิดขึ้นแล้วไม่มีวันเสื่อมสลายหายไปไหน ที่กล่าวว่า รูปธรรมพลังงานมีตน(แก่นแท้ มีอยู่) คือ ความเป็นแก่นแท้ มีอยู่ แต่...ไม่ใช่ตัวตนของสมมุติบัญญัติที่มีกิเลสตัณหาให้ต้องรับทุกข์แปรเปลี่ยนไปตามเหตุและปัจจัย แต่รูปธรรมพลังงานที่เป็นแก่นแท้คืออนัตตา ที่มีความเที่ยงแท้ ไม่ใช่ตัวตนของสมมุติบัญญัติ แต่มีลักษณะนัยยะมีความเป็นอมตะ นิรันดร คือ มีอยู่จริง ที่มีอยู่ไม่ใช่ตัวตนของสมมุติบัญญัตินะค่ะ
     
  11. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,421
    ค่าพลัง:
    +3,204
    ส่วนคำว่า "จิต" มิใช่ จิตตะสังขาร หรือ จิตมนุษย์ที่มีการปรุงแต่ง

    จิตสุญญตา เป็นอนุภาคที่เล็กละเอียดยิ่งกว่า ปรมาณู ที่เป็นแก่นแท้ของสรรพสิ่งที่เป็นอนัตตาภายในรูปธรรมดวงใหญ่ของพระบิดานี้ คือ เป็นความมีที่เหมือนไม่มี แต่ที่ต้องเรียกว่า จิตจักรวาล ก็เพื่อใช้สื่อความหมายให้เข้าใจตรงกันตามสมุติบัญญัติค่ะ
     
  12. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    นักเม้นต์หลายคนต้องยอมถอยหนี
    ไปนอนแผ่
    หราเพราะแพ้ความ"" อึดจ้าวแห่งจิตจักรวาล""
    555
    ฮึดอึดจริงๆ
     
  13. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391

    ก๊าก กั๊กๆๆๆๆๆๆๆๆ..
    .

    (ขออภัยแค่แวะเข้ามาขำใส่หน้า)
     
  14. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    หึ ไม่เอาปั๋วมาด้วยล่ะ
     
  15. Unexpected

    Unexpected เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    683
    ค่าพลัง:
    +1,513
    ...
    เนี่ยะคำตอบอ่ะมึง ตามโพสคุนซาตาน

    สำนักตัดแปะเหมียนเดิม ไม่ต้องรอมันพิมพ์อธิบายก้อเดาได้ แต่บิดสำนวนแถนิดหน่อยเหมือนว่ารุ้ แต่ไม่รุ้หรอก.... คริๆ
     
  16. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    ตามนั้นฮับ ลุงแมว ป๋มยอมศิโรราบแล้วฮับ
     
  17. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    "รูป" = มีการเคลื่อน เพราะ "รูป" ดังนั้นจึงเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป "ดังนั้นเมื่อใช้คำว่ารูปจึงไม่ใช่ สุญญาตา อนัตตา แน่นอนเพราะมันเป็นรูป"

    และผมจะไม่ตอบอีกแล้วฮับ เดี๋ยวตอบพอมีคนเห็นด้วยก็บอกว่า "มารุมทำร้าย" พอ "บอกก็ยืนยันไม่ตกฟากทั้งๆที่เขียนมาเองชัดๆ ว่า "รูป"" เอวังด้วยประการละฉะนี้ ไร้ประโยชน์สิ้นดี "มันจะไม่มีทางที่เป็นจริงได้ตามที่คุณกล่าว หากใช้ภาษาไม่ตรงตามอาการ นาฮับ
     
  18. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    ฝากไว้ก่อนไป


    ผลกรรมแบบ "เวอร์ชั่นไม่ต้องเดา" จิตปกติแล้วจะสื่อสารกันเองตามปกติ ชอบไม่ชอบเฉยๆ ซึ่งไม่ต้องอาศัยพลังบวกและลบทั้งสิ้น

    ต่อมา "เมื่อจิตดวงหนึ่งโพสท์ ความเห็นผิดจาก จักรวาลขึ้นมา"

    "จิตอีกดวงหนึ่งรับรู้แล้วจึงทราบว่าไม่ตรงตามจริง" แต่ยังไม่มีเหตุปัจจัยจึงเงียบซะ

    "ขณะที่จิตอีกดวงก็รับทราบเช่นกัน" จึงออกมาตักเตือน

    "เมื่อจิตดวงนั่นโผล่มา จิตดวงที่สองซึ่งตอนแรกเฉยๆ แต่เห็นตรงกันจึงออกมากล่าวด้วย"

    และ "เมื่อมีการโต้ตอบกัน" "จิตดวงที่สี่ที่ห้า ที่เห็นตรงกันว่า มันไม่ใช่ความจริง" "ซึ่งเจตนาแต่ละคนอาจจะต่างกันไป" บ้างเพราะอยาก "จะทำลายลัทธิที่เห็นผิดให้หายไป" เป็นต้น


    ดังนั้น "กรรมแบบพลังบวกลบไม่จริงหรอกนี่แหละฟามจริง เมื่อคุณโพสท์ไป คุณจะดี/ไม่ดี. หากมีเหตุปัจจัยครบ กรรมนั้นย่อมแสดงผล ไม่จำเป็นเลยว่าคุณ "คิดว่าจะให้ความรุ้" หรือแสดงพลังบวกเกินพิกัดคุณก็โดนอยู่ดี ดังนั้นพิจารณา "เอาเอง" นะครับหากยังไม่เลิกอีก ก็ขอให้โชคดี"
     
  19. Reflect

    Reflect เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    887
    ค่าพลัง:
    +1,439
    ถ้าเทยหงบเป็นพระยาธรรมเรี่ยราด จิกยิ้มเป็นนางแก้วคู่บารมี ก็สมกันดีแล้วผีกับโลง ศีล ศรัทธา ปัญญา จาคะ เสมอบริบูรณ์กัน
     
  20. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391

    ก๊าก กั๊กๆๆๆๆๆๆๆๆ...

    (เตรียมตัวให้พร้อมมันกำลังมา)

    (หยิน&หยาง กำลังมาเข้าโรงฉายกุมภาฯนี้)


    (อยู่อย่างเบิกบานด้วยตนเอง)
     

แชร์หน้านี้

Loading...