เตือนพระหาเงิน ผิดทั้งวินัย ผิดทั้งกฏหมาย!

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย THODSAPOL SETTAKASIKIT, 28 พฤศจิกายน 2010.

  1. THODSAPOL SETTAKASIKIT

    THODSAPOL SETTAKASIKIT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +101
    คุณผู้ใช้นามว่า เพชรกร ขอทราบชื่อนามสกุลได้ไหมครับ

    ถ้าซัดจะด่ายังไงก็ไม่เกี่ยงหลบเลี่ยงหรอกครับ
    ผมมีหน้าที่แค่เปิดเผยธรรมวินัย ชี้ไป แจงไป เท่านั้น
    ส่วนคำถามนี้ ง่ายมากๆครับ จะตอบให้อย่างชัดเจนไม่หลบเหลี่ยงไร้สาระครับ
     
  2. ทหารเก่า

    ทหารเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    3,027
    ค่าพลัง:
    +19,019
    ก่อนอื่นต้องขอโทษทุกท่านก่อนเพราะผมติดตามอ่านมาตลอด สรุปว่าท่านใดถูก ท่านใดผิดเพี้ยนเพราะแต่ละท่านก็มีเหตุผล แล้วเหตุผลท่านใดล่ะครับเป็นเหตุผลที่ถูกต้อง เพราะแต่ละท่านก็ไม่ได้รับคำสอนโดญตรงมาจากพระพุทธองค์ ในความคิดผมเดินทางสายกลางจะดีกว่าไม่ตึงและไม่หย่อน น่าจะดีที่สุด
     
  3. THODSAPOL SETTAKASIKIT

    THODSAPOL SETTAKASIKIT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +101
    ขอถามชาวพุทธทั้งหลาย
    เราคงเคยได้ยินเรื่อง สายพิณสามสายตอนที่พระพุทธเจ้ายังไม่ตรัสรู้
    แต่รู้หรือไม่? ว่าอะไรคือ ทางสายตึง สายหย่อน หรือสายกลางของพระพุทธเจ้า
    เล่ม ๒๐ เรื่องแรก
    http://palungjit.org/tripitaka/index.php
    http://www.dhammahome.com/front/tipitaka/
    http://www.samyaek.com/tripidok/book20/001_050.htm


    บุญจากการเปิดเผยธรรมวินัยนี้ จงสำเร็จแก่ ญาติ นายเทวดาที่รักษา นายเวร เชื้อโรคข้า ครอบครัวข้า ชาวทิพย์ที่ดูแลกิจการที่ข้าเกี่ยวข้อง ชาวทิพย์ที่ดูแลรักษาพุทธศาสนาและผู้ต้องการตลอดไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2011
  4. THODSAPOL SETTAKASIKIT

    THODSAPOL SETTAKASIKIT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +101
    ...ผมว่า น้องต้องเรียน Logic หรือ ตรรกะศาสตร์ใหม่นะครับ
    น้องบอกว่า น้องไม่เคารพทองเหลือง เพราะทองเหลืองไม่ใช่พระพุทธเจ้า...
    ถ้าจะกล่าวกว่าพระพุทธเจ้านั่งอยู่ในโบสถ์ ก็หลอกกันสิครับ
    ถ้ากล่าว่าทองเหลืองหล่อให้เป็นรูป แล้วหลอกกันว่ารูปพุทธะ อยู่ในโบสถ์ อันนี้เป็นความจริงไม่ใช่หรือครับ หรือจะให้ผมกล่าวเท็จ แต่เคยกล่าวเท็จไหม? เคยครับไม่ใช่ไม่เคย

    แต่เมื่อศึกษาแล้วก็กล่าวตามความจริงนั่นแหล่ะครับ มันเป็นบารมีอย่างหนึ่ง ชาวพุทธภูมิทั้งหลายรู้จักหรือเปล่า? สัจจะบารมี ผมกล่าวไปตามพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าสอนให้กล่าวธรรมว่าเป็นธรรม อธรรมว่าเป็นอธรรมครับ

    สารีบุตร และพึงทราบธรรมวาทีภิกษุ ด้วยวัตถุ ๑๘ ประการ คือ
    ภิกษุในธรรมวินัยนี้:-
    ๑. แสดงสิ่งที่ไม่เป็นธรรม ว่าไม่เป็นธรรม.
    ๒. แสดงสิ่งที่เป็นธรรม ว่าเป็นธรรม.
    ๓. แสดงสิ่งที่ไม่เป็นวินัย ว่าไม่เป็นวินัย.
    ๔. แสดงสิ่งที่เป็นวินัย ว่าเป็นวินัย.
    เล่ม ๗ หน้า ๔๘๒ บรรทัด ๒๑
    http://palungjit.org/tripitaka/index.php
    http://www.dhammahome.com/front/tipitaka/
    http://www.samyaek.com/tripidok/book07/451_500.htm

    สัจจะ
    3 ลักษณะคือมีความจริง ความตรง และความแท้ จริง คือ ไม่เล่น ตรง
    http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%88%E0%B8%88%E0%B8%B0

    ...น้องบอกว่า พระรับเงินผิด...
    พระพุทธเจ้าบอกครับ ผมกล่าวตามพระพุทธเจ้าครับ

    ผมก็งงว่า เงินที่ว่า คือ "กระดาษ" หรือ "ทองเหลือง" แต่ทำไมน้องถึงให้คุณค่าของ "กระดาษ" หรือ "ทองเหลือง" มากเหลือเกิน Logic มันแปลก ๆ นะครับ

    แปลกๆ เพราะยัง งงๆ ถ้าไม่งงไม่แปลก ที่มันแปลกเพราะมัน งง
    รู้จักไหมครับ ตัวงงหน่ะ? ก็ตัวลังเลสงสัยในธรรมนั่นแหล่ะครับ

    พระพุทธเจ้าจึงสรรเสริญ วิชชา และ ติเตียนอวิชชา

    วิชชา วิชฺช หมายถึง ความรู้ที่ได้จากการเล่าเรียนหรือฝึกฝน
    http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2

    อวิชชา หมายถึง ความไม่รู้แจ้ง คือ ความไม่รู้ความเป็นจริงของสิ่งต่างๆ โดยถูกต้องแจ่มแจ้ง
    http://th.wikipedia.org/wiki/อวิชชา

    จึงต้องเรียนรู้ไปอีกครับ ถ้ามันรู้จักมันจะไม่งงหรอกครับ เมื่อก่อนผมก็งงเหมือนกันครับ
    แต่ศึกษาไปค้นไปทิ้งทองเหลืองทองแดงปูนปั้นพลาสติกหล่อไป มันก็ง่ายมาเรื่อยๆจนไม่งงเรื่องนี้ จนต้องมาชี้แจงในหมู่คนที่ยังงงๆนี่แหล่ะครับ


    ..ลองกลับไปคิดดูให้ดีครับ แล้วการอ้างพระวินัย หรือ พระไตรปิฎก
    ถ้าตีความผิด ลงอเวจีมหานรกเลยนะครับ...
    ถ้าตีความผิดเข้าใจผิดปฏิบัติผิด ไม่แก้ไขผิด ก็ไล่ระดับตามโทษที่ทำผิดปฏิบัติผิด ตั้งแต่ไปนรกขุมเล็กๆน้อยจนไปถึงอเวจี
    ถ้าตีความถูกเข้าใจถูกปฏิบัติถูก ก็ไล่ระดับตามบุญต่างๆที่ทำถูกต้อง ตั้งแต่สวรรค์ใกล้มนุษย์พรหมโลก หรือกระทั่งไม่มีที่เกิดให้ยากลำบากอีก
    ผมทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้นครับ ไม่เกินธรรมของพระพุทธเจ้าไปหรอกครับ

    ..เรื่องที่บอกว่า ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต เป็นเรื่องจริง

    แต่ที่พระองค์บอกว่า อย่ายึดติดในรูป ไม่ได้หมายความว่า ห้ามสักการะรูปของพระองค์นะครับ เพราะพระองค์ได้สอนไว้ใน มงคล 38 ประการว่า...
    "พึงเคารพบุคคลที่ควรเคารพ" ดังนั้น สิ่งใดที่สื่อถึงพระพุทธเจ้านั้น
    การที่คนส่วนใหญ่จะเคารพ ก็ไม่เห็นแปลก...


    [๒๖๘] ๒๒. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คน ๒ จำพวกนี้ย่อมกล่าวตู่
    ตถาคต ๒ จำพวกเป็นไฉน คือ คนเจ้าโทสะซึ่งมีโทษอยู่ภายใน ๑ คน
    ที่เชื่อโดยถือผิด ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คน ๒ จำพวกนี้ ย่อมกล่าว
    ตู่ตถาคต.
    จบสูตรที่ ๒
    อรรถกถาสูตรที่ ๒
    ในสูตรที่ ๒ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
    บทว่า อพฺภาจิกฺขนฺติ ได้แก่ กล่าวตู่ คือกล่าวด้วยเรื่องไม่จริง
    บทว่า โทสนฺตโร แปลว่า มีโทสะตั้งอยู่ในภายใน. จริงอยู่ คนแบบนี้
    ย่อมกล่าวตู่พระตถาคต เช่น สุนักขัตตลิจฉวี กล่าวว่า อุตตริมนุสสธรรม
    ของพระสมณโคดมหามีไม่. บทว่า สทฺโธ วา ทุคฺคหิเตน ความว่า
    หรือว่า ผู้ที่มีศรัทธาแก่กล้า ด้วยศรัทธาที่เว้นจากญาณ (ความรู้) มีความเลื่อมใส
    อ่อนนั้น ถือผิด ๆ กล่าวตู่พระตถาคตโดยนัยเป็นต้นว่า ขึ้นชื่อว่า
    พระพุทธเจ้านั้น เป็นโลกุตระทั้งพระองค์ พระอาการ ๓๒ มีพระเกสา
    เป็นต้นของพระองค์ล้วนเป็นโลกุตระทั้งนั้น ดังนี้.
    จบอรรถกถาสูตรที่ ๒

    หรือเข้าใจว่ารูปทองเหลืองเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า?
    ดูก่อนอานนท์ บางที่พวกเธอจะพึงมีความคิดอย่างนี้ว่า ปาพจน์มีพระศาสดาล่วง
    แล้ว พระศาสดาของพวกเราไม่มี ข้อนี้พวกเธอไม่พึงเห็นอย่างนั้น ธรรมก็ดี
    วินัยก็ดีอันใดอันเราแสดงแล้ว ได้บัญญัติไว้แล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัย
    อันนั้นจักเป็นศาสดาแห่งพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา
    เล่ม ๑๓ หน้า ๓๒๐
    http://palungjit.org/tripitaka/index.php
    http://www.dhammahome.com/front/tipitaka/
    http://www.samyaek.com/tripidok/book13/301_350.htm

    แล้วพระอาศัยอะไรถ้าไม่ใช่ทองเหลือง?
    ว. ข้าแต่ท่านพระอานนท์ ก็เมื่อไม่มีที่พึ่งพาอาศัยอย่างนี้ อะไรเล่า
    จะเป็นเหตุแห่งความสามัคคีกันโดยธรรม.
    อา. ดูก่อนพราหมณ์ อาตมาภาพทั้งหลายมิใช่ไม่มีที่พึ่งอาศัยเลย
    พวกอาตมภาพมีที่พึ่งอาศัย คือ มีธรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
    เล่ม ๒๒ หน้า ๑๕๕
    http://palungjit.org/tripitaka/index.php
    http://www.dhammahome.com/front/tipitaka/
    http://www.samyaek.com/tripidok/book22/151_200.htm


    ถ้าไม่เอาทองเหลืองแล้ว ชาวพุทธควรมีอะไรเป็นที่พึ่ง?

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงมีตนเป็นเกาะ มีตน
    เป็นที่พึ่ง อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง
    จงมีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นสรณะ
    อย่ามีสิ่งอื่นเป็นสรณะอยู่.

    เล่ม ๑๕ หน้า ๑๒๐
    http://palungjit.org/tripitaka/index.php
    http://www.dhammahome.com/front/tipitaka/
    http://www.samyaek.com/tripidok/book15/101_150.htm

    แล้วจะคิดอีกหล่ะ?พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนธรรมของฆราวาสหรือหนอ?

    พึงเคารพบุคคลที่ควรเคารพ?
    เล่ม ๑๖ หน้า ๗๗
    http://palungjit.org/tripitaka/index.php
    http://www.dhammahome.com/front/tipitaka/
    http://www.samyaek.com/tripidok/book16/051_100.htm

    ทองเหลือง ทองแดง ปูนปั้น พลาสพติกหล่อ หรือแก้วระยิบระยับ
    รักษาศาสนาไว้ได้หรือไม่?

    ชื่อว่าอามิสบูชานั้น ไม่สามารถจะดำรงพระศาสนาแม้ในวันหนึ่งบ้าง แม้ชั่วดื่ม
    ข้าวยาคูครั้งหนึ่งบ้าง. จริงอยู่ วิหารพันแห่งเช่นมหาวิหาร เจดีย์พันเจดีย์ เช่น
    มหาเจดีย์ ก็ดำรงพระศาสนาไว้ไม่ได้. บุญูผู้ใด ทำไว้ก็เป็นของผู้นั้นผู้เดียว.
    ส่วนสัมมาปฏิบัติ ชื่อว่าเป็นบูชาที่สมควรแก่พระตถาคต. เป็นความจริงปฏิบัติ
    บูชานั้นชื่อว่าดำรงอยู่แล้ว สามารถดำรงพระศาสนาไว้ได้ด้วย
    เล่ม ๑๓ หน้า ๔๒๑ บรรทัด ๑๕
    http://palungjit.org/tripitaka/index.php
    http://www.dhammahome.com/front/tipitaka/
    http://www.samyaek.com/tripidok/book13/401_450.htm


    เช่นเดียวกัน ในเมื่อน้องบอกว่า ทองเหลืองไม่ใช่พระพุทธเจ้า

    งั้น "เงินที่เราใช้อยู่" ก็เป็นแค่ "กระดาษ" ไม่ใช่ "แร่เงิน" หรือ "แร่ทอง"
    ดังนั้น ถ้าพระรับกระดาษ หรือ ทองเหลือง ก็คงจะไม่ผิด
    เพราะ "ใจ" ของท่านมองมัน คือ "กระดาษ" หรือ "ทองเหลือง" เท่านั้น
    ดังนั้น น้องต้องไปทบทวนให้ดีว่า ตกลงจะเอายังไงแน่ครับ


    เอาตามพระพุทธเจ้าครับ ไม่เกี่ยวว่าใครจะอรหันต์หรือไม่อรหันต์ ใหญ่หรือเล็กก็ตาม
    ถ้าอาจารย์สอนก็ยังต้องมาตรวจกับพระพุทธเจ้าอีกครับ

    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ความบังเกิดแห่งเหตุเฉพาะบาง
    ประการพึงบังเกิดขึ้นได้ในธรรมวินัยนี้ คือ ฝ่ายหนึ่งเป็นพระผู้มีพระภาคเจ้า
    (ตรัส) และฝ่ายหนึ่งเป็นภิกษุสงฆ์ (กล่าว) ฝ่ายใด พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส
    หม่อมฉันพึงเป็นฝ่ายนั้น ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าโปรดทรงจำหม่อมฉันว่าเป็น
    ผู้เลื่อมใสอย่างนี้.
    [๑๕๒๒] ...ฝ่ายหนึ่งเป็นพระผู้มีพระภาคเจ้า (ตรัส) และฝ่ายหนึ่ง
    เป็นภิกษุสงฆ์และภิกษุณีสงฆ์ (กล่าว) ฝ่ายใด พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส หม่อม
    ฉันเป็นฝ่ายนั้น...
    [๑๕๒๓] ... ฝ่ายหนึ่งเป็นพระผู้มีพระภาคเจ้า (ตรัส) และฝ่ายหนึ่ง
    เป็นภิกษุสงฆ์ ภิกษุณีสงฆ์ และอุบาสกทั้งหลาย (กล่าว) ฝ่ายใด พระผู้มี
    พระภาคเจ้าตรัส หม่อมฉันเป็นฝ่ายนั้น ...
    [๑๕๒๔] ... ฝ่ายหนึ่งเป็นพระผู้มีพระภาคเจ้า (ตรัส) และฝ่ายหนึ่ง
    เป็นภิกษุสงฆ์ ภิกษุณีสงฆ์ อุบาสกทั้งหลาย และอุบาสิกาทั้งหลาย (กล่าว)
    ฝ่ายใด พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส หม่อมฉันเป็นฝ่ายนั้น ...
    [๑๕๒๕] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ความบังเกิดแห่งเหตุเฉพาะบาง
    ประการ พึงบังเกิดขึ้นได้ในธรรมวินัยนี้ คือ ฝ่ายหนึ่งเป็นพระผู้มีพระภาคเจ้า
    (ตรัส) และฝ่ายหนึ่งเป็นภิกษุสงฆ์ ภิกษุณีสงฆ์ อุบาสกทั้งหลาย และอุบาสิกา
    ทั้งหลาย โลกพร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก หมู่สัตว์พร้อมทั้ง
    สมณพราหมณ์ เทวดาและมนุษย์ (กล่าว) ฝ่ายใด พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส
    หม่อมฉันพึงเป็นฝ่ายนั้น ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าโปรดทรงจำหม่อมฉันว่าเป็น
    ผู้เลื่อมใสอย่างนี้.
    เล่ม ๓๑ หน้า ๓๓๓
    http://palungjit.org/tripitaka/index.php
    http://www.dhammahome.com/front/tipitaka/
    http://www.samyaek.com/tripidok/book31/301_350.htm


    ...อย่าสับสนนะครับ ใช้กาลามสูตร 10 ในการทบทวนครับ...
    ...ค่อย ๆ คิดหลักเหตุผล เพราะธรรม ของ พระพุทธเจ้า คือ
    ธรรมชาติ และ สัจธรรม ดังนั้น สิ่งใดที่มีข้อขัดแย้งในตนเอง
    สิ่งนั้น มิใช่ธรรมที่พระพุทธเจ้าสอนครับ...

    จะขัดแย้งตรงไหนนี่?
    โอ้เหน๊าะ ถูกสอนมาให้ฆ่าตัวตายก่อนลงสนามรบ ก็เลยจะหาทางเลี่ยงหรืออย่างไร?


    ปัจจุบันเราชาวพุทธถือพระพุทธเจ้าอย่างไร?
    เล่ม ๒๓ หน้า ๒๕ บรรทัด ๗
    http://palungjit.org/tripitaka/index.php
    http://www.dhammahome.com/front/tipitaka/
    http://www.samyaek.com/tripidok/book23/001_050.htm


    บุญจากการเปิดธรรมวินัยนี้ จงสำเร็จแก่ ญาติ เทวดาที่รักษา นายเวร เชื้อโรคข้า ครอบครับข้า ชาวทิพย์ที่ดูแลกิจการที่ข้าเกี่ยวข้อง ชาวทิพย์ที่ดูแลรักษาพุทธศาสนา และผู้ต้องการตลอดไป


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2011
  5. เพียว

    เพียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +492
    ขอตอบสักอันเถอะนะ แต่ไม่ต้องถามชื่อ ถามนามสกุลนะครับ เพราะชื่อนามสกุลจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อคุณต้องการ ชี้ และแจงในธรรม รู้แล้วจะรู้หรือว่าผมเป็นใคร ไม่รู้แล้ว คุณจะนึกถึงผมไม่ออกหรืออย่างไร ในเมื่อมันเป็นแค่สิ่งที่แทนตัวผม และบอกให้รู้ว่านั่นคือผม มันแค่นามธรรมเองเนอะ
    อันที่จริงผมไม่ได้มีความรู้อะไรในธรรมะเลย ยังไม่ได้อะไรเลยว่างั้นเถอะ แต่เท่าที่ติดตามมาทั้งหมดถึงตอนนี้ และอยากจะตอบอยู่เพราะมาสกิดใจตรงที่ว่าเรื่องพิณสามสาย หรือทางสายกลาง ดูเหมือนเจ้าของกระทู้ไม่เห็นด้วยกับการไหว้พระพุทธรูป การสร้างพระพุทธรูปแทนพระพุทธเจ้าเอามากๆ ทั้งๆที่ มันก็เป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้คนที่จิตใจไม่มั่นคงสามารถระลึกถึงพระพุทธเจ้าได้ หรืออย่างน้อยก็มีความเกรงกลัว เกรงใจ ในการทำบาปอยู่บ้าง แต่นี่ท่านไม่เห็นด้วยแบบว่าสุดขั้ว ตึงไปมั่งครับ จะไม่เห็นใจคนที่ใจไม่เข้มแข็งบ้างเลยหรือครับ แล้วเรื่องพระรับเงิน จะบอกว่าเป็นพุทธบัญญัติ ในพระธรรมวินัย ผมว่าผมเห็นด้วยนะที่คุณคมพูดถึงคืออยู่ที่ใจเป็นใหญ่ครับ ถ้าใจไม่ติดในลาภเสียแล้ว จะถือว่าเป็นการรับเงินก็ไม่ได้นะครับ
    เพราะพระที่รับท่านก็เห็นเป็นเพียงธาตุดิน แล้วท่านก็นำไปเพื่อการศาสนา ไม่ได้สะสม คุณอาจจะไม่เคยได้รับทราบถึงปฏิปทาของพระจริงๆ ท่านจะไม่มีการสะสมเงิน ทอง ไว้กับตัวเอง เพื่อเป็นการป้องกันความโลภ ที่จะเกิดขึ้น ถ้าพระที่เป็นสมสุติสงฆ์ที่ไม่รับเงิน แต่ให้มัคทายกรับ แล้วเกิดความโลภ มีหรือที่จะหาวิธีที่จะนำมาซึ่งให้ได้ในเงินนั้นมาเป็นของตัวเอง
    ผมว่าทั้งสองเรื่องไม่รู้ว่าจะเป็นเหตุใหญ่ที่จะทำให้ใจเราลดความเลว ความชั่วน้อยลงหรือเปล่า กิเลสลดลงหรือเปล่า ถ้าไม่ก็อย่าตึงเกินไปเลยครับ
     
  6. jedsadaphol

    jedsadaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +102
    โลกันตนรก หนักกว่าอเวจี ผมว่าอเวจีหนักสุดนะ 55
     
  7. THODSAPOL SETTAKASIKIT

    THODSAPOL SETTAKASIKIT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +101
    เกี่ยวกับเชื้อโรคในพระไตรปิฎก มีหรือไม่?
    เล่ม ๖๕ หน้า ๒๔๒ บรรทัด ๘
    http://palungjit.org/tripitaka/index.php
    http://www.dhammahome.com/front/tipitaka/
    http://www.samyaek.com/tripidok/book65/201_250.htm

    กล่าวธรรมอยู่เกิดบุญหรือไม่? ทำไมอุทิศบุญบ่อยจัง?
    เล่ม ๔๓ หน้า ๓๒๘ บบรทัด ๙
    http://palungjit.org/tripitaka/index.php
    http://www.dhammahome.com/front/tipitaka/
    http://www.samyaek.com/tripidok/book43/301_350.htm
    และ เมื่อเกิดความกระจ่างความรู้ความเช้าใจ ก็สามารถอุทิศบุญออกได้ครับ

    บุญจากการเปิดเผยธรรมวินัยนี้ จงสำเร็จแก่ ญาติ เทวดาที่รักษา นายเวร เชื้อโรคข้า ครอบครัวข้า ชาวทิพย์ที่ดูแลกิจการที่ข้าเกี่ยวข้อง ชาวทิพย์ที่ดูแลรักษาพุทธศาสนา
    และ ผู้ต้องการตลอดไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2011
  8. THODSAPOL SETTAKASIKIT

    THODSAPOL SETTAKASIKIT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +101
    กฎพระสงฆ์ (ปราบพระชั่ว) ฉบับ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ
    http://www.samyaek.com/board2/index.php?topic=2019.0

    กรณีศึกษาในครั้งโบราณกาล...เมื่อพระอลัชชีชั่วปรากฏทั่วสังฆมณฑล
    http://www.samyaek.com/board2/index.php?topic=1717.0

    พระจะปฏิบัติในเรื่องเงินและทองที่มีผู้ถวายอย่างไรตามวินัย?
    เล่ม ๓ หน้า ๘๖๓
    http://palungjit.org/tripitaka/index.php
    http://www.dhammahome.com/front/tipitaka/
    http://www.samyaek.com/tripidok/book03/851_900.htm

    บุญจากการเปิดเผยธรรมวินัยนี้ จงสำเร็จแก่ ญาติ เทวดาที่รักษา นายเวร เชื้อโรคข้า ครอบครัวข้า ชาวทิพย์ที่ดูแลกิจการที่ข้าเกี่ยวข้อง ชาวทิพย์ที่ดูแลรักษาพุทธศาสนา และผู้ต้องการตลอดไป

    **เนื่องจากเข้าไปแก้ไขหัวกระทู้ว่าจะลงข้อมูลเพิ่มเติมให้ผู้ติดตามศึกษา
    แต่แล้วถูกจำกัดหัวกระทู้ จึงต้อง นำมาลงที่นี่ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2011
  9. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,117
    ต้องขอโทษคุณ Komodo ด้วยที่ผมอ้างอิงผิด แต่ตอนนี้ผมได้แก้ไข แล้ว ตามข้อความสีชมพูครับ
     
  10. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605

    ผมอยากให้น้องกดปุ่มอ้างอิงครับ ในข้อความจะเริ่มต้นด้วย [ ] และ จบลงด้วย [ ] ให้น้อง copy ไปแปะครับ

    ถ้าน้องตอบแทรกความเห็นคนอื่นในแต่ละช่วงก็

    [ ] ..................... [ ]

    จะทำให้คนอื่นอ่านแล้วเข้าใจง่ายครับ น้องเล่น copy คำตอบของคนอื่นมาวาง แล้วตอบต่อ คนมาอ่านก็เข้าใจว่า น้องตอบ ทำให้คนอื่นเข้าใจผิด แถมทำให้ประเด็นการนำเสนอของน้องสับสนด้วยครับ

    อยากให้ลองเรียนรู้ และปรับวิธีการตอบ เพื่อให้คนอ่านเข้าใจได้ง่ายขึ้นครับ

    โมทนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2010
  11. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ผมว่า น้องเข้าใจผิดครับ ไม่มีใครบอกว่า พระพุทธเจ้านั่งในโบสถ์ครับ

    แต่เมื่อคนเห็นพระ ก็จะจดจำและนึกถึงพระได้ เมื่อนึกถึงพระได้

    "ใจ" ก็แน่วแน่ มั่นคง เป็นพุทธานุสติครับ

    เรื่องนี้พระพุทธเจ้าสอนไว้ครับ ก็เหมือนชื่อครับ เรียกชื่อ "ถูก" นึกภาพออก
    ก็ช่วยให้เข้าใจอะไรง่ายขึ้นครับ

    โมทนา
     
  12. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    โมทนาครับ อย่าไปซีเรียสครับ ผมเข้าใจ
     
  13. เพชรกร

    เพชรกร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +1,254
    เรื่องพระรับเงินยังพอฟังได้เเต่เรื่องการสร้างพระพุทธรูปนั้นบอกตามตรง
    คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->THODSAPOL SETTAKASIKIT<!-- google_ad_section_end --> ไม่ค่อยเข้าใจ พระท่านก็บอกกันทั่วบ้านทั่วเมืองเเล้วว่าที่สร้างเพื่อเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจสำหรับผู้ที่เพิ่งปฏิบัติใหม่ๆยังไม่สามารถน้อมจิตเข้าถึงพระได้เเต่ถ้าเข้าใจทำได้เเล้วก็ไม่ควรยึด

    คุณอยากรู้ชื่อคนอื่นมากผมว่าไปถามเลยก็ได้ครับเเค่คุณเดินไปส่องกระจกเเล้วถามว่า "นายชื่ออะไร"
     
  14. THODSAPOL SETTAKASIKIT

    THODSAPOL SETTAKASIKIT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +101
    ตัวอย่าง
    [ข้อความของพี่คมน์] ผมอยากให้น้องกดปุ่มอ้างอิงครับ ในข้อความจะเริ่มต้นด้วย [ ] และ จบลงด้วย [ ] ให้น้อง copy ไปแปะครับ []
    อย่างนี้พอได้ไหมครับ ถ้าได้ก็จะใช้ไปอย่างนี้ครับ แต่ถ้ามีจุดไหนยังบกพร่องอยู่บอกได้นะครับ เปิดให้ท่านอื่นเตือนผมได้เหมือนกันนะครับ
     
  15. prayut.r

    prayut.r เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +1,707
    ผมชอบอ่านจังเลยครับกับคนที่คิดอะไรแบบสุดโต่งๆ

    เห็นยกเรื่องพิณสามสายมาด้วย แต่ถ้าให้ผมใช้ภูมิปัญญาอันน้อยนิด ก็คิดได้ว่าความคิดแบบ จขกท. นั้น เปรียบเสมือนพิณที่ตึงมากๆ

    ผมอยากแสดงความเห็นแบบยกเอาคำสอน"ครูบาอาจารย์สายปฏิบัติ"

    ขอเน้นคำว่าสายปฏิบัตินะครับเพราะท่านเหล่านี้เน้นเรื่องการทำจิตให้พ้นทางความทุกข์
    ถามว่าร่างกายของเรานี่มันก็เป็นแค่ธาตุ 4 ถูกไหมครับ? แล้วถามว่าตัวเราจริงๆคืออะไร ก็คือ"จิต" (หรือกายทิพย์) ถูกไหมครับ

    ถ้าเรายังยึดติดว่า"เงิน"ไม่ใช่วัตถุธาตุเราก็ไม่ก้าวหน้าไปไหนหรอกครับ เพราะขนาดวัตถุธาตุภายนอกยังยึดติด แล้ว ภาษาอะไรกับร่างกายของตัวเราเองล่ะครับ

    ถามว่าพระรับเงินผิดไหมก็เหมือนที่หลายๆท่านตอบว่า "เงิน" หรือต่อให้เป็น "ทอง" มันก็แค่วัตถุธาตุ ถูกไหมครับ? ถ้าใจเราไม่ข้องด้วย(โลภ-อยากได้)แล้วจะบาปได้อย่างไร

    ถ้าเป็นพระอรหันต์ท่านก็คงคิดว่า ได้ก็มาบำรุงพระพุทธศาสนา สงเคราะห์ศรัทธาญาติโยม

    จะได้รับ หรือ ไม่ได้รับ ท่านก็ไม่กังวลแล้วจะเอาอะไรไปบาปล่ะครับ เพราะไอ้ที่บาปน่ะมันบาปตัวอยากไม่ใช่เหรอครับ?

    อยากถามท่านสักนิดครับว่านอกจากศึกษาพระธรรมวินัยแล้ว เคยศึกษาเรื่องการปฏิบัตตัวเพื่อพ้นจากความทุกข์หรือพ้นจากการเกิดไหมครับ?

    อย่างพุทธานุสติกรรมฐาน หลายๆท่านยึดพระรูปพระโฉมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในการกำหนดภาวนาจนเข้าถึงฌาณ 4 กันนับไม่ไหวแล้วครับ

    ถ้า จขกท. จะอ้างว่าพระพุทธรูปก็แค่ ทองเหลือง แล้วทำไมถึงไม่มองว่า เงิน มันก็เป็นแค่กระดาษเหมือนที่พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทั้งหลายท่านทำล่ะครับ?
     
  16. ทหารเก่า

    ทหารเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    3,027
    ค่าพลัง:
    +19,019
    คุณ paryut.r กล่าวได้โดนใจมาครับ ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งผมเองก็คิดแบบนี้ ชอบมากๆ ยังไงผมก็ต้องขออภัยกับท่านใดก็ตามที่คิดแตกต่างไป อย่าโกรธอย่าเคืองผมนะครับ ทุกท่านมีสิทธิคิดและปฏิบัติ แต่จุดประสงค์หลักทุกท่านก็เป็นคนดี ผมไม่คิดว่าใครผิดใครถูกเพราะถ้าคิดผมจะมี มิฉาฐิทิ ทันที ชอบที่คุณ paryut.r กล่าวไว้มากๆ
     
  17. มรรค 8 ประการ

    มรรค 8 ประการ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    884
    ค่าพลัง:
    +2,641
    ตอบได้โดนใจที่สุดเลยครับ
     
  18. THODSAPOL SETTAKASIKIT

    THODSAPOL SETTAKASIKIT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +101
    คุณประประยุทธ์ ได้เข้าไปอ่านในลิงค์เรื่องพิณสามสายที่ผมยกมาหรือยังครับ?
    ถ้าว่าผมตึงก็ลอง หาไล่อ่าน ไล่เข้าออกลิ้งค์ หลายๆรอบครับ มีคำตอบอยู่ว่าทำไม?
    แต่ถ้าจะเพราะแค่มันสะกิดใจให้เจ็บจังต้องอัดสักหน่อยแล้วล่ะก็ คงไม่ว่ากันครับ
    แต่คงเคยได้ยินเรื่องอาหารที่พระพุทธเจ้าไม่รับนะครับ

    [ข้อความของคุณประยุทธ์] เพราะไอ้ที่บาปน่ะมันบาปตัวอยากไม่ใช่เหรอครับ? []
    แล้วรู้จัก หรือเปล่าครับว่าจะอะไรคือความอยาก ความอยากแก้ยังไง ผมยังไม่ชัดเจนเรื่องนี้ครับเลยต้องอาศัยพระไตรปิฎกไปนะครับ แล้วถ้ายก เรื่อง กาลมสูตร ๑๐ มาละก็ได้ครับ เพราะชาวพุทธก็ใช้เยอะครับ ก็มีทั้งผู้ไม่รู้ความหมาย มีทั้งผู้รู้ความหมายไม่ครบ มีทั้งผู้รู้ความหมายจริงๆ และ มีทั้งผู้ทำได้ตามความหมายนั้น (แต่ผมยังทำไม่ได้ตามความหมายนั้นครับ)

    [ข้อความจากคุณประยุทธ์]
    อยากถามท่านสักนิดครับว่านอกจากศึกษาพระธรรมวินัยแล้ว เคยศึกษาเรื่องการปฏิบัตตัวเพื่อพ้นจากความทุกข์หรือพ้นจากการเกิดไหมครับ?[]

    เอ๋า..แล้วธรรมวินัยนี้ไม่ได้สอนเรื่องการพ้นจากความทุกข์ พ้นจากเกิดหรือ?


    เพิ่มอีกสักหน่อยครับ

    [ข้อความจากคุณประยุทธ์] อย่างพุทธานุสติกรรมฐาน หลายๆท่านยึดพระรูปพระโฉมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในการกำหนดภาวนา จนเข้าถึงฌาณ 4 กันนับไม่ไหวแล้วครับ[]
    รู้สึกคำสอนนี้จะฝังมานานเน๊าะ ถ้าพูดถึงพระพุทธเจ้า คุณนึกถึงอย่างไร?
    รู้จักฌาณ ๔ แล้วหรือครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2010
  19. prayut.r

    prayut.r เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +1,707
    ขอตอบส่วนนี้ล่ะกันนะครับ อันที่จริงผมก็ไม่เคยเห็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านหรอกนะครับ แต่ผมก็ระลึกถึงองค์ที่เขาปั้นนั้นแหละแทนตัวท่าน

    ถามว่าทำแบบนี้ถูกไหม? ผมก็ไม่ทราบหรอกครับว่าถูกรึไม่ เพราะผมก็ปฏิบัติตามพระที่ผมคิดว่าท่านไม่มีที่เกิดแล้วแนะนำมา ท่านสอนอย่างไร ผมก็ปฏิบัติแบบนั้น ปฏิบัติแบบคนโง่ๆนั้นแหละครับ

    เพราะครูบาอาจารย์ท่านบอกว่าถ้าสอนแบบนี้ เราเอาแต่มานั่งพิจารณาว่าทำไมต้องทำแบบนี้ ทำแบบนี้แล้วจะได้อะไร เหมือนบัณฑิตหลายๆท่าน ท่านบอกว่าทำจนตายก็ไม่เกิดผลครับ


    ส่วนคำถามนี้ตอบได้เต็มปากเลยครับ ว่าไม่เคยสัมผัสถึงเลย
    อาจจะเฉียดๆ อุปจารสมาธิ ก็อาจมีบ้าง แต่ที่เขียนไปแบบนั้นก็เพราะเอาคำครูบาอาจารย์มาน่ะครับ

    แต่สมมติว่าถ้ามีบุคคลที่เข้าถึง ฌาณ4 แบบที่ผมเขียนไปจริงก็ขอรับรองว่า เขาคงไม่มานั่งเล่นคอมพ์ตรงนี้แน่ๆ เพราะคงไปเอาดีทางพิจารณาวิปัสนา ตัดกิเลศทิ้งยังมีประโยชน์กว่า
    ซึ่งไม่เหมือนมนุษย์ กิเลสครอบหัวแบบผมแน่นอนครับ


    ถูกครับแต่อย่าลืมว่า พระพุทธเจ้าท่านไม่ใช่แค่สอนว่า รักษาศีลบริสุทธิ์แล้วจะเข้าถึงทางดับทุกข์นะครับ

    เพราะศีลเป็นฐานของสมาธิ > สมาธิเป็นฐานของปัญญา
    และเราก็ใช้ปัญญาพิจารณาตัดกิเลส เพื่อเข้าถึงการดับทุกข์ทั้งปวง

    และสุดท้ายนี้ความเห็นของ จขกท. นั้นก็ไม่ใช่ว่าผิดนะครับ เพราะยังไงก็เป็นพุทธพจน์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ก็ต้องดูยุคสมัยด้วย ผมถึงกล่าวว่า จขกท. มีลักษณะปฏิบัติแบบพิณสายตึงนั้นแหละครับ


    หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านบอกว่าถ้าเรารับเงินแล้วคนอื่นเห็นว่ารับและก็ไม่ได้นำไปใช้เป็นการส่วนตัว

    ย่อมดีกว่า

    พระที่ไม่รับเงินต่อหน้าแต่ลับหลังท่านเอาไปใช้เป็นการส่วนตัวเสียอีกครับ
     
  20. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605

    ไม่ใช่ครับ น้องลองกดปุ่ม [​IMG] ดูครับ

    จะเห็น Code ขึ้น ถ้าน้องตอบคนเดียว ก็ตอบข้างล่างได้เลยครับ

    ลองทำดูครับ

    โมทนา
     

แชร์หน้านี้

Loading...