เปิดบ้านแวมไพร์

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย DevaIsis, 29 ธันวาคม 2010.

  1. ชุนชิว

    ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +780
    อวยพรล่วงหน้า สวัสดีปีใหม่ทุกท่านครับ นิพพานัง ปรมังสุขัง ขอให้ทุกท่านถึงพระนิพพานโดยไว
     
  2. สกั๊ง

    สกั๊ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +131
    โห ~ มาช้า ไป ขอบคุณ ที่แบ่ง ปันสิ่งดีๆ นะครับ
    ปีใหม่ขอให้ มีรอยยิ้ม กว้างขึ้น ทุกคนเลย
     
  3. khun

    khun Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +33
    แฟนเจ๊เป็นแวมไพร์เหรอครับ บรึ๋ยยยย
     
  4. e20ehq

    e20ehq เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    334
    ค่าพลัง:
    +770
    In physics, resonance is the tendency of a system to oscillate with larger amplitude at some frequencies than at others. These are known as the system's resonant frequencies. At these frequencies, even small periodic driving forces can produce large amplitude oscillations, because the system stores vibrational energy.
    <BIG></BIG><BIG>
    ********************************************

    What Is A Hypobaric Chamber?
    </BIG>
    A hypobaric chamber, or altitude chamber, is a chamber used during aerospace or high terrestrial altitude research or training to simulate the effects of high altitude on the human body, especially hypoxia (low oxygen) and hypobaria (low ambient air pressure). Some chambers also control for temperature and relative humidity.

    *********************************************************
     
  5. สกั๊ง

    สกั๊ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +131
    มีคำถาม(แปลกๆ) 3 ข้อ งับ พี่สาว (ถือว่าโชคดีมากๆเลยถ้าพี่ตอบ)
    1. ไม่ต้องทานเลือด เลย.. ก็ อยุ่ได้ใช่ไม๊ฮะ (แล้วถ้าไม่ทานอะไรเลยล่ะ)
    2. แล้วถ้าดื่มเลือด มีเชื้อ เอดส์ หรือ เชื้อต่างๆ ละครับ
    3. บุคลิก ความรู้สึกนึกคิด มีผล ต่อกลิ่นเลือด หรือความชอบส่วนบุคคล
    ของแวมไพร์ไหม (ถ้ามี พี่ชอบแบบไหนครับ)
     
  6. lowprofile

    lowprofile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,391
    ค่าพลัง:
    +6,023
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=yARe4m0ZeJo&feature=related"]YouTube - True Blood Intro[/ame]


    thanks for cool stories
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2011
  7. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    สาหวัดดีปีใหม่ เจ้าค่ะ

    หวัดดี เเบบเป็น ทางการ --------------มาตามอ่าน อีกเเล้วค่ะ เเต่ รอบนี้ ไม่มี วิจาร ไม่ป่วน ไม่ ถาม อ่าน เชย ๆ ----------อย่าพึ่ง ค้อน สิ เดี๋ยว เเก่เร็ว น้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา(k)
     
  8. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    ตอบข้อ 1 โถ โถ...กล่าวไปแล้วค่ะว่า เลือดแวมไพร์ไม่มีฮีโมโกบิล ทำให้นำพาอ๊อกซิเจนไม่ได้ ฉะนั้น จะอยู่โดยปราศจาคอ๊อกซิเจน ได้อย่างไรจ๊ะ

    ตอบข้อ 2 แวมไพร์ติดเชื้อ เอดส์ คงมีเยอะแยะ แต่เขามียาต้านเชื้อเอดส์แล้วจร้า

    ตอบข้อ 3 แฟนของเจ๊ชอบเลือดเจ๊มาก เพราะมันอบอุ่น และอ่อนหวาน ทั้งนี้ เลือดของมนุษย์นั้น เกี่ยวข้องกับบุคลิกภาพของมนุษย์ด้วย เช่น มนุษย์ที่มีแต่ความดีงาม เลือดก็จะน่ากิน มนุษย์ที่มีความเร่าร้อน เลือดก็จะน่าขยะแขยง

    ส่วนตัวเจ๊ชอบเลือดของแฟนแวร์วูฟมาก เพราะเมื่อกินเข้าไป จะรับรู้เรื่องราวส่วนตัวต่างๆ ของเขา ทั้งการใช้ชีวิต และรสนิยมของแฟนด้วย ทำให้เกิดความอบอุ่นและมั่นคงทางจิตใจสูง

    ถูกต้องแล้วจร้า แวร์วูฟหนุ่มหน้ามน ทำไมต้องอุทานด้วยล่ะจ๊ะ คนเขารักกัน รักข้ามภพอ่ะคุณน้องรู้จักมั้ยคะ
     
  9. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    มาดูการเสพย์เลือดมนุษย์ของแวมไพร์บ้าง

    แวมไพร์ที่มีรสนิยม นิยมบ่มเลือดให้มีกลิ่นเอกลักษณ์ที่ตนชอบ เช่น รสผลไม้ ตามที่กล่าวมาแล้ว เลือดดังกล่าวจะถูกบรรจุในขวดๆไวน์ และหาซื้อตามท้องตลาดได้

    หากแต่มีการเสพย์เลือดแบบหนึ่ง ที่ดูแล้วไม่น่าพิสมัย แต่นิยมทำกัน อันเป็นการลงโทษเหยื่อที่ทำผิดด้วย เช่น มนุษย์ขโมยของพวกแวมไพร์ ก็จะโดนลงโทษด้วยการ ถูกทำเป็นอาหาร เป็นต้น

    ก็จะจัดการ นำมนุษย์ผู้กระทำผิด มาฉีดยาสลบ หรือให้กัญชาให้อยู่ในสภาพ สลึมสลือ แล้ว จัดปาร์ตี้ เอาเข็มมาเจาะเลือด โยงกับสายยาง เวลาเสพย์เลือดก็ค่อยๆ ปล่อยให้เลือดไหลลงมาในภาชนะที่รองรับ เลือดจะไหลออกมาทีละน้อย ทีละน้อย ทำให้ได้อรรถรสมากกว่าการดื่มทีละมากๆ

    ต่อเมื่อมนุษย์ดังกล่าวเสียเลือดในขั้นวิกฤติ ก็จะถูกปล่อยให้ตาย หากกระทำความผิดร้ายแรง แต่หากทำผิดเล็กน้อย ก็จับมนุษย์ผู้นั้นไปให้เลือด เพื่อให้มีชีวิตรอดต่อไปได้

    ทั้งนี้ ขึ้นกับความร้ายแรงของการกระทำผิด นั่นเอง
     
  10. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600

    นราสภาเข้ามาก็ดีแล้ว อ่านเยอะๆ เก็บข้อมูลไปเยอะๆ ก็จะได้ความรู้เพิ่มมากขึ้นนั่นเองค่ะ คนเราต้องมีความรู้รอบตัว
     
  11. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    แวมไพร์เลื้อยคลาน อิลลูมิเนติ Reptilian Illuminati Vampire

    Reptilian Illuminati เอเลี่ยนที่เป็นสัตว์เลื้อยคลาน จะกินเลือดเพื่อเหตุผลต่างๆ ดังนี้

    1.เสพย์ติดเลือดมนุษย์...ทำให้หยุดเสพย์ไม่ได้

    2.ต้องการเชื่อมสายใย กับมนุษย์ที่ถูกเลือก

    3.เลือดเป็นที่เก็บ ความทรงจำของมนุษย์ และรายละเอียดส่วนตัวของมนุษย์ผู้นั้น

    4.เลือดมนุษย์ประกอบไปด้วย อะดรีนาลีน ซึ่งเป็นสารกระตุ้นโดยธรรมชาติ ที่ทำให้รู้สึกสดชื่น เมื่อแวมไพร์เสพย์ไป จะรู้สึก สดชื่น คึกคัก มีชีวิตชีวา

    หากใครลองได้ฉีด สารอะดรีนาลีน เข้าไปในเส้นเลือด จะทราบทันทีเลยว่า ความรู้สึกสดชื่นนั้น เป็นอย่างไร ฉะนั้น จึงเสพย์ติด หากได้รับบ่อยๆ เช่นเดียวกับ แวมไพร์ที่ได้รับเลือดเข้าไปนั่นเอง

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=I9LL6YQTMAg"]YouTube - Why do they drink human blood?[/ame]​
     
  12. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    สายเลือดของ แวมไพร์เลื้อยคลาน อิลลูมิเนติ

    สืบทอดกันมายาวนาน ตั้งแต่สมัยอียิปต์ เมโสโปเตเมีย อินเดีย และในประเทศจีน

    ลองมาดูแผนที่กันเลยนะคะ

    ในคลิปมีรายละเอียดด้วย

    พวกนี้จะนับถือ Serpent Gods พระเจ้าในรูปเลื้อคลาน ที่มาจากดาวอังคาร

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=lyYb3cCPLPY"]YouTube - Reptilian Illuminati Bloodlines - Pictures Of The Past[/ame]​

    โปรดสังเกต รูปปั้น ปีศาจมีเขี้ยว ที่มีหาง ที่อยู่ที่ โบสถ์คริสต์ในคลิปนะคะ และโลโกของรถยี่ห้อ อัลฟา โรมิโอ ที่เป็นไม้กางเขนแดงของอัศวิน เทมพลาร์ และรูปงูทางด้านขวา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2011
  13. noinid0209

    noinid0209 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    742
    ค่าพลัง:
    +570
    มาตามอ่านต่อเหมือนกันครับ

    ขอถามหน่อยครับ

    แวมไพร์ แข็งแรงเหมือนในหนังหรือเปล่า
    แวมไพร์แพ้แวร์วูฟ เหมือนในหนังหรือเปล่า
    แวมไพร์เหาะหรือกระโดด วิ่งเร็ว เหมือนในหนังหรือเปล่าครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2011
  14. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    แข็งแรงมาก เจ๊เคยทำไม่ถูกใจแฟน เพราะโดนลบสมอง เลยจำแฟนไม่ได้
    เฮียหวานใจเลยจับเจ๊ เขย่า เขย่า ตัวสั่นเลย ยิ่งกว่า เขย่าเหล้ามิกเซอร์ อีก

    แวมไพร์มักหลีกเลี่ยงการปะทะกับแวร์วูฟ เพราะฝีมือ สูสี สู้กันไป ก็บาดเจ็บทั้งสองฝ่าย เพราะฝีมือ พอพอกัน

    โอย เร็วมากจนเจ๊มองไม่ทันเลย เจ๊จำได้ว่า ไม่กล้าออกจากห้อง ล๊อคห้องนอนไว้ แล้วเอาถุงพลาสติกมา ฉิ๊งฉ่อง เพราะกลัวพวกแวมไพร์เข้ามาในห้องนอน

    แต่ตอนหลังนี่ เรียกให้มา บ่อยๆ อิ อิ
     
  15. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    แหม...นอกเรื่องหน่อย เจ๊วางแผนจะไปเกาหลี พอดีที่บ้านดูซีรี่ย์เกาหลี และชอบ กิมจิ กันทั้งบ้าน

    ก็เลยจะสอบ CU-TEP แล้วเอาคะแนนไปขอทุนไปเกาหลี ตามประสาคนขี้ งก

    ไม่ทราบใครเคยสอบบ้างเอ่ย เล่าให้ฟังบ้างสิ เพราะค่าสอบ 600 บาทถูกกว่า Ielts เยอะเลยจร้า

    นี่หากได้ไปนะ จะไปทำวิจัย แวร์วูฟ แวมไพร์เกาหลี

    ใครอยากได้ผลวิจัย ออกค่าเครื่องบินพร้อมที่พักให้หน่อยดิ หุ หุ

    หัวข้อวิจัย ประกอบด้วย
    1.การวัดปริมาณไขมันในร่างกายของแวมไพร์+แวร์วูฟเกาหลี เทียบกับสัดส่วนร่างกายของแวมไพร์-แวร์วูฟไทยแลนด์ (เจ๊จะลงมือวัดเอง อิ อิ)
    2.ความแคล่วคล่องว่องไวแวมไพร์ของเกาหลีและไทย ใครเร็วกว่ากัน
    3.ความมีมนุษยสัมพันธ์ของแวร์วุฟ แวมไพร์เกาหลี
    4.วัฒนธรรมการกินของแวมไพร์แวร์วูฟเกาหลี เหมือนหรือต่างกัน
    5.และอื่นๆ ที่ใครๆ อยากรู้
    -----------
    ขากลับ เจ๊จะซื้อ FaceShop ที่เป็นมาร์คหน้าใส ไฮยารูลอน และคอลลาเจนมาขายต่อ อ้าวใครอยากซื้อ ลงชื่อ ลงชื่อ ด่วน เจ๊จะทำธุรกิจ ได้ทั้งขึ้น ทั้งล่อง เฟ้ยยยยย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2011
  16. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    อัศวิน เทมพลาร์ อัศวิน แวมไพร์

    <TABLE class=toccolours style="FONT-SIZE: 85%; BACKGROUND: #c6dbf7; FLOAT: left; MARGIN-LEFT: 0em; WIDTH: 30em; COLOR: black; MARGIN-RIGHT: 1em; max-width: 40%" cellSpacing=5><TBODY><TR><TD style="TEXT-ALIGN: left">"[อัศวินเทมพลาร์]เป็นอัศวินที่กล้าหาญอย่างแท้จริง และปลอดภัยในทุกๆด้าน วิญญาณได้รับการปกป้องจากเกราะแห่งศรัทธา เช่นเดียวกับร่างกายได้รับการป้องกันโดยเกราะเหล็ก ดังนั้นเขาจึงเสมือนติดอาวุธเป็นทวีคูณ และไม่เกรงกลัวต่อปีศาจและมนุษย์"</TD></TR><TR><TD style="TEXT-ALIGN: left">เบอร์นาร์ดแห่งแคลโวซ์, c. 1135, De Laude Novae Militae—ในการยกย่องกลุ่มอัศวินใหม่<SUP class=reference id=cite_ref-8>[9]</SUP></TD></TR></TBODY></TABLE>








    มาดูเอาเองนะคะ หามาจาก วิกิพีเดีย ตามเคย

    ทหารผู้ยากแห่งพระเยซูคริสต์และวิหารแห่งโซโลมอน (ละติน: Pauperes commilitones Christi Templique Solomonici) หรือที่รู้จักกันในชื่อ อัศวินเทมพลาร์ หรือ ภาคีแห่งวิหาร (ฝรั่งเศส: Ordre du Temple หรือ Templiers) เป็นภาคีทางทหารคริสเตียนที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุด<SUP class=reference id=cite_ref-Barber_0-0>[1]</SUP> เป็นองค์กรที่คงอยู่เกือบสองศตวรรษในสมัยกลาง
    ภาคีได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากคริสตจักรโรมันคาทอลิกราวปี ค.ศ. 1129 ภาคีกลายเป็นองค์ที่ได้รับบริจาคทรัพย์สินอย่างมากมายตลอดคริสตจักรและเติบโตอย่างรวดเร็วทั้งในแง่สมาชิกและอำนาจ ลักษณะพิเศษของอัศวินเทมพลาร์คือเสื้อคลุมไร้แขนสีขาวที่มีกางเขนสีแดงอยู่บนเสื้อ อัศวินเทมพลาร์นับเป็นหนึ่งในหน่วยรบที่มีฝีมือที่สุดในสงครามครูเสด<SUP class=reference id=cite_ref-HC_1-0>[2]</SUP> สมาชิกของภาคีที่ไม่ได้เป็นทหารมีหน้าที่จัดการโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ตลอดคริสตจักร สร้างสรรค์เทคนิคทางการเงินที่เป็นต้นแบบของธนาคาร<SUP class=reference id=cite_ref-2>[3]</SUP><SUP class=reference id=cite_ref-3>[4]</SUP> และสร้างป้อมปราการมากมายทั่วยุโรปและดินแดนศักดิ์สิทธิ์

    กองบัญชาการแห่งแรกของอัศวินเทมพลาร์ มัสยิดอัลอักซา บนภูเขาพระวิหารของเยรูซาเลม หรือที่เรียกว่าวิหารแห่งโซโลมอนซึ่งสร้างอยู่บนวิหารเดิม และเป็นที่มาของชื่ออัศวินเทมพลาร์
     
  17. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    วิหาร โซโลมอน สร้างโดย ญิน

    พระวิหารแห่งเยรูซาเลม หรือ พระวิหารศักดิ์สิทธิ์ (อังกฤษ: Temple in Jerusalem หรือ Holy Temple; ภาษาฮิบรู: בית המקדש (Bet HaMikdash = The Holy House)) หมายถึงพระวิหารที่สร้างต่อเนื่องกันมาบนเทมเพิลเมานท์ (Temple Mount) ในตัวเมืองเก่าเยรูซาเลม ตามประวัติศาสตร์แล้วตำแหน่งนี้มีการก่อสร้างพระวิหารมาแล้วสามครั้ง และพระวิหารที่สาม (The Third Temple) ที่เป็นพระวิหารที่ยังไม่ได้สร้างที่กล่าวถึงใน “Jewish eschatology” ตามความเชื่อโบราณของศาสนายูดาย พระวิหารหรือเทมเพิลเมานท์เป็นอุปมาของสถานที่ของพระเจ้า (ภาษาฮิบรู: Shechina) บนโลกมนุษย์ โดยสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมแบบฟินิเชียน
    ตามคัมภีร์ฮิบรูแล้วพระวิหารแรก (First Temple) สร้างโดยพระเจ้าโซโลมอน (ปกครองระหว่าง 971 - 931 ก่อนคริสต์ศักราช)<SUP class=reference id=cite_ref-ODCC_self_0-0>[1]</SUP> พระวิหารแรกเป็นศูนย์กลางของศาสนายูดายตามบทบันทึกคัมภีร์ฮิบรู<SUP class=reference id=cite_ref-1>[2]</SUP> เป็นที่เดียวที่เป็นที่ใช้ในการทำพิธีสังเวย ตัวอาคารพระวิหารสร้างแทนพระวิหารศักดิ์สิทธิ์เดิมที่มีแท่นบูชาที่สร้างหยาบๆ บนเนิน<SUP class=reference id=cite_ref-2>[3]</SUP> “พระวิหารแรก” ถูกทำลายโดยพวกบาบิโลน เมื่อ 587 ก่อนคริสต์ศักราชเมื่อบาบิโลนเข้าปล้นสดมภ์ทำลายกรุงเยรูซาเลม การสร้างพระวิหารใหม่เริ่มขึ้นเมื่อปี 537 ก่อนคริสต์ศักราชแต่หยุดชะงักไปและมาเริ่มใหม่เมื่อปี 520 ก่อนคริสต์ศักราช และเสร็จเมื่อปี 516 ก่อนคริสต์ศักราช และสถาปนาในปี 515 ก่อนคริสต์ศักราช
    หนังสือเอสรา (Book of Ezra) กล่าวว่าการสร้างพระวิหารเป็นคำสั่งของพระเจ้าไซรัสมหาราชและอนุมัติโดยพระเจ้าดาไรอัสมหาราช ห้าร้อยปีต่อมาพระวิหารที่สอง (Second Temple) ก็ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์โดยพระเจ้าแฮรอดมหาราชราว 20 ปีก่อนคริสต์ศักราช และรู้จักกันในชื่อพระวิหารของแฮรอด ต่อมาก็ถูกทำลายโดยโรมัน ในปี ค.ศ. 70 ระหว่างการล้อมเมืองเยรูซาเลม แต่กำแพงรอบนอกที่เห็นอยู่ทุกวันนี้มิได้ถูกทำลาย และเชื่อกันอยู่เป็นเวลานานว่ากำแพงตะวันตกเป็นสิ่งเดียวที่เหลืออยู่
    ตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 7 เป็นต้นมาเทมเพิลเมานท์ก็เป็นที่ตั้งของโดมทองแห่งเยรูซาเลม (Dome of the Rock) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม และ มัสยิดอัล-อัคซา (al-Aqsa Mosque) จากสมัยใกล้เคียงกัน
    “Jewish eschatology” ทำนายการก่อตั้งพระวิหารที่สามในเยรูซาเลมพร้อมกับการมาของเมสไซยาห์ของชาวยิว (Jewish messianism) ฉะนั้นผู้ที่นับถือศาสนายูดายนิกายออร์โธด็อกซ์และคอนเซอร์เวทีฟมีความเชื่อในการสร้าง “พระวิหารที่สาม” ที่จะเกิดขึ้น
    เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 2007 ก็มีการพบส่วนที่ดูเหมือนว่าจะเป็นส่วนเหลือจากพระวิหารที่สองระหว่างการติดตั้งท่อในบริเวณนั้น<SUP class=reference id=cite_ref-3>[4]</SUP> ต่อมาในเดือนตุลาคมปีเดียวกันนักโบราณคดีก็อ้างว่าได้พบสิ่งของที่เชื่อว่าเป็นของ “พระวิหารที่หนึ่ง”<SUP class=reference id=cite_ref-4>[5]</SUP>
    <SUP></SUP>
    <SUP>เอาเป็นว่า ตอนนี้ เจ๊มีวิชั่น เกี่ยวกับวิหารที่สาม ของโซโลมอน หากไม่บ้าหรือ โดนลอบสังหาร เจ๊จะเอามาเล่าให้ฟังนะคะ เพราะเจ๊เพิ่งเปิดหีบพันธสัญญา จนเกือบเป็นเจ้าหญิงนิทราไปเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนปีใหม่</SUP>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2011
  18. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    ต่อ

    พระคัมภีร์เรียกพระวิหารแห่งเยรูซาเลมว่า “Beit HaMikdash” หรือ “พระวิหาศักดิ์สิทธิ์” และเป็นพระวิหารเดียวในเยรูซาเลมที่ใช้ชื่อนี้ แต่ก็ได้รับชื่ออื่นๆ ในคัมภีร์ฮิบรูที่รวมทั้ง “Beit Adonai” (พระนิเวศของพระเจ้า) หรือเพียง “Beiti” (นิเวศของฉัน) หรือ “Beitechah” (พระนิเวศของพระองค์)
    พระวิหารแห่งโซโลมอน (พระวิหารของพระเจ้าโซโลมอน) สร้างตามแบบที่พระเจ้าทรงวางไว้โดยเฉพาะให้แก่พระเจ้าเดวิด พระเจ้าเดวิดทรงหวังว่าจะสร้างพระวิหารแรกแต่ถูกพระเจ้าทรงสั่งห้ามและบอกให้รอให้พระโอรสเป็นผู้สร้างพระวิหารแรก ระหว่างรัชสมัยของพระเจ้าเดวิดพระองค์ก็เริ่มรวบรวมวัสดุก่อสร้างต่างๆ ที่จะนำมาใช้ต่อไป ตั้งแต่ไม้, หินสำหรับสร้างฐาน ไปจนถึงทอง, เงิน, บรอนซ์ และโลหะต่างที่ต้องใช้ จุดประสงค์ของการสร้างพระวิหารก็เพื่อใช้เป็นสถานที่ตั้งหีบพันธสัญญา (Ark of the Covenant), สำหรับชนทุกชาติโดยเฉพาะชนชาติอิสราเอล และสำหรับเป็นที่ให้ทุกคนสามารถเข้ามาสักการะบูชาพระเจ้าแห่งอิสราเอลได้
    พระวิหารแรกเรียกว่า “พระวิหารโซโลมอน” สันนิษฐานกันว่าสร้างโดยผู้ที่มาจากชนสิบสองเผ่าแห่งอิสราเอล (12 tribes of Israel) เพราะทั้งสิบสองเผ่ามารวมตัวกันภายใต้การนำของพระเจ้าเดวิดและต่อมาพระเจ้าโซโลมอน หลังจากรัชสมัยของพระเจ้าโซโลมอนแล้วเรโฮโบม (Rehoboam) พระราชโอรสผู้ทรงมีพระนิสัยที่หยิ่งยโสที่ทำให้เผ่าอิสราเอล 10 แยกตัวออกไปก่อตั้งเป็นอาณาจักรเหนือ ขณะที่เผ่ายูดาห์, เบ็นจามิน และส่วนใหญ่ของลีไวยังอยู่กับราชอาณาจักรยูดาห์ พระวิหารที่สองต่อมาสร้างโดยเผ่ายูดาห์ที่ยังหลงเหลืออยู่ผู้ที่ถูกพระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์ที่ 2 (Nebuchadnezzar) นำไปเป็นเชลยราว 600 ปีก่อนคริสต์ศักราช เผ่าอิสราเอล 10 อื่นขณะนั้นก็สลายตัวไปก่อนหน้านั้นแล้วหลายร้อยปีเมื่ออาณาจักรถูกทำลายโดยราชอาณาจักรอัสซีเรีย (Assyria)
     
  19. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    สนุกมั้ยล่ะ อยู่กับเจ๊อ่ะ มีแต่เรื่องน่าสนุก เห็นมั้ย แล้วเดี๋ยวจะมาเล่าเรื่อง หีบพันธสัญญา หรือ The Ark of Covenant ให้ฟังนะคะ ไปทำงานแป๊บ (คนอย่างเจ๊ มีงานทำด้วยเหรอ พวกผีแซว...บังเอิญมีคนหลวมตัวมาจ้างเจ๊ หุ หุ) 2.gif

    สงสัย องค์จะขยับ จากคลีโอพัตรา เป็น ชีบา ชัวร์ ชัวร์ เด๋วคอยดู
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2011
  20. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    หีบพันธสัญญา ที่เก็บพระบัญญัติ 10 ประการ

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=EC_headnews vAlign=top>พบพระราชวังราชินีชีบาที่เก็บหีบพันธสัญญา
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4>LovE♥</TD></TR><TR><TD class=EC_dessubmmenu1>ฮัมบูร์ก-นักโบราณคดีเยอรมันขุดพบซากวังเก่าที่เชื่อว่าเป็นของพระราชินีชีบา พร้อมแท่นบูชาที่เก็บรักษาหีบพันธสัญญา
    มหาวิทยาลัยฮัมบูร์กในประเทศเยอรมนีแถลงเมื่อวันพุธ (7 พ.ค.08) ว่า คณะนักโบราณคดีชาวเยอรมันได้ขุดพบซากพระราชวังเก่าในเมืองแอ็กซูม ประเทศเอธิโอเปีย ที่เชื่อว่าเป็นของพระราชินีชีบา ทั้งยังค้นพบแท่นบูชาซึ่งเป็นที่เก็บรักษาสมบัติอันล้ำค่าที่สุดของศาสนายิวโบราณ อันได้แก่หีบพันธสัญญา ซึ่งเชื่อกันว่าบรรจุแผ่นศิลาที่โมเสสจารึกบัญญัติ 10 ประการเอาไว้ด้วย
    ทั้งนี้ ราชินีชีบาแห่งเอธิโอเปียเป็นเจ้าสาวของกษัตริย์โซโลมอนผู้ยิ่งยงแห่งอิสราเอลในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 10 ก่อนคริสตกาล ตำนานของเอธิโอเปียอ้างว่าหีบพันธสัญญาใบนี้ถูกพระโอรสของพระเจ้าโซโลมอนและพระราชินีชีบาที่ชื่อว่า 'เจ้าชายเมเนเลก' ขโมยกลับไปยังเอธิโอเปีย และยังคงถูกเก็บรักษาอยู่ที่ประเทศนี้มาจนถึงปัจจุบัน แต่บางตำนานเชื่อว่าพระเจ้าโซโลมอนทรงประทานหีบใบนี้ให้พระโอรสเอง คณะนักวิทยาศาสตร์ที่นำโดยนายเฮลมุต ซีเกิร์ต ได้ขุดพบซากพระราชวังที่มีอายุอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 10 ก่อนคริสตกาลที่เมืองแอ็กซูม-ดังกูร์ ถูกฝังอยู่ใต้ซากพระราชวังของกษัตริย์คริสเตียนพระองค์หนึ่ง มีหลักฐานบ่งชี้ว่าพระราชวังเก่าแห่งนี้ถูกปรับผังใหม่ให้สอดคล้องกับทิศที่ดาวซิริอุสขึ้น ทำให้ผู้เชี่ยวชาญตั้งสมมติฐานว่าเจ้าชายเมเนเลกได้เปลี่ยนมานับถือเทพซิริอุสระหว่างที่เก็บรักษาหีบพันธสัญญา ซึ่งในคัมภีร์ไบเบิลบรรยายว่าเป็นหีบไม้อะคาเซียหุ้มทอง นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังพบสัญลักษณ์ของเทพซิริอุสอยู่ทั่วไป รวมทั้งพบซากวัวหนุ่มที่ถูกนำมาบูชายัญรอบแท่นบูชาด้วย

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...