เป็นนักกฏิบัติแต่ทำไมจิตคิดอกุศล

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย nanakorn, 4 มีนาคม 2009.

  1. nui_sirada

    nui_sirada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2008
    โพสต์:
    399
    ค่าพลัง:
    +371
    ได้ความรู้มากมายเลยน่ะเกี่ยวกับจิต อนุโมทนาสาธุค่ะ
     
  2. misty

    misty Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +57
    ใช้อุบายนี้จะได้ไหมคะ คือ พอคิดปุ๊บ รู้ตัวปั๊บ ก็ให้รีบปัดออกอย่างรวดเร็ว เสมือนปัดลูกไฟดวงใหญ่ที่ตกมาถูกตัวเรา เราต้องรีบปัดออกจากตัวจะได้ไม่ลุกไหม้ติดเสื้อผ้าเรา แล้วเผาเราทั้งเป็น
     
  3. chura

    chura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +1,971
    อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ..... จิตที่คิดอกุศล เราไม่สามารถห้ามมันได้ เพราะที่จริง

    แล้วจิต เค้าแสดงให้ดูว่าแม้นแต่เราเองยังบังคับเค้าไม่ได้ ฉนั้นอะไรที่บังคับไม่ได้ย่อม

    เป็นอนัตตา .... จิตคิดอกุศล ก็รู้ว่าจิตคิดอกุศล ทันทีที่มีสติรู้ทันจิตอกุศล จิตนี้จะดับ

    มันจะแสดงความไม่เที่ยงให้เห็น คือดับไปให้เห็น.... รู้บ่อยๆว่าเวลาเกิดจิตอกุศล อย่า

    พยายามไปบังคับกดข่มมันเพราะ จิตมันจะยิ่งแสดงสิ่งตรงข้ามคือ มันจะคิดอกุศลหนัก

    ขึ้น เราเพียงแต่รู้ว่ามันเกิด แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว ..... ศึกษาแนวทางดูจิต จากหลวง

    พ่อปราโมทย์ ปาโมชโช น๊ะครับ แนวทางดูจิตเหมาะกับคนเมือง คนที่คิดมาก .....

    แนวทางดูจิต เนี่ยหลวงพ่อปราโมทย์ ท่านบอกว่าถ้าถึงจุดนึง เราจะรู้วาระจิตคนอื่น

    ได้ด้วย ....
     
  4. Tom-Sung

    Tom-Sung สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +0
    คิดว่าเป็นบททดสอบกำลังใจครับ
    ว่าเราหนักแน่นในความดีแค่ไหน
    คนจะประสบความสำเร็จได้
    ก็ต้องผ่านอุปสรรคที่เข้ามาทดสอบอยู่ทุกเมื่อ
    สู้ๆนะครับ อย่าท้อต่ออุปสรรคเหล่านี้
    ถ้าผ่านมันไปได้แล้ว ก็ลองนึกดูว่า
    ถ้าเราไม่เจออุปสรรคเหล่านี้ เราก็ไม่พบเข้าถึงความดี
    ทุกคนก็ย่อมเจออุปสรรคกันทั้งนั้นแหละครับ
     
  5. เล่งอ๋อง

    เล่งอ๋อง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    236
    ค่าพลัง:
    +147
    ช่ายคับผมก็เคยเจอกับตัวและบางครั้งก็เป็นนะ สงสัยเลวมากๆเลยงะ แต่ที่สำคัญโดนคนที่ปฎิบัติธรรมหลอกนี่สิ น่าเจ็บใจ ปากบอกว่าปฎิบัติแต่นะ สุดยอดดดสงสัยกรรมเราเจงๆๆ
     
  6. บัวใต้น้ำ

    บัวใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    891
    ค่าพลัง:
    +1,937
    ไม่ต้องไปปัดน่ะ เพระการปัดเป็นโทสะ ไม่อยากให้สิ่งไม่ดีๆมาอยู่ในเรา มันก็เป็นกิเลสซ้อนไปอีกชั้นหนึ่ง กริยามีแต่ "รู้หรือเห็น" ไม่ต้องไปลงมือทำอะไรขึ้นมา เพราะเมื่อทำอะไรขึ้นมาก็เป็นการสร้างภพขึ้นมา

    แค่เห็น"อกุศล"ก็ใช้ได้แล้ว ถ้าเห็นมันจะครอบงำเราไมได้ ถ้าเกิดอีกก็เห็นอีก เห็นบ่อยๆ แต่ไม่ใช่ให้เห็นทุกครั้งน่ะ เพราะเห็นทุกครั้งเป็นสิ่งที่ปุถุชนอย่างเราทำไมได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2009
  7. lukchai

    lukchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2006
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +323
    รู้ก็สักแต่ว่ารู้ อย่าไปสำคัญมั่นหมายกับมันครับ
     
  8. countdown

    countdown เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,016
    ค่าพลัง:
    +3,165
    เป็นเหมือนกันเลย แต่มันมาเป็นช่วง ๆ นึกถึงพระพุทธเจ้าไว้จิตชั่วมันกลัวพระพุทธเจ้า
     
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ขอนอนยันคำกล่าวนี้ครับ

    เสริมแบบสั้นๆ บ้าง

    ตอนที่จิตไปเห็นอกุศลจิต จิตเศร้าหมองไปแล้ว

    หากเราไปปัด ก็เท่ากับ สร้างกรรมใหม่ หนักกว่าเก่า เพราะเป็น โทษะมูลจิต

    เท่ากับทำอกุศลครั้งที่สอง ภายในเวลาไม่กี่อึดใจ

    หยุดอยู่ที่รู้ ก็พอดีเอง อยู่ที่ฐานสติ
     
  10. natspdo

    natspdo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +1,505
    ผมอ่านหลาย ๆ ท่านก็อนุโมทนาครับ ได้มีความเข้าใจมากขึ้นด้วยครับ
     
  11. p_pand_j

    p_pand_j Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +71
    ขออนุโมทนามิ แก่ทุกความเห็นของผู้รู้ทุกท่านค่ะ

    เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง สาธุ
     
  12. kong_sorakrit

    kong_sorakrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,771
    ค่าพลัง:
    +3,426
    ผมแนะนำให้ฟังพระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต
    วัดร่มโพธิธรรม กิ่งอำเภอหนองหิน อำเภอหนองหิน จังหวัดเลย

    ท่านอธิบายไว้ชัดเจนจนจบจิตไปเลยครับ

    นอกเหนือจิต นอกเหนือชีวิต
    ใจจริงๆไม่มี ที่มีไม่ใช่ใจ-1
    ใจจริงๆไม่มี ที่มีไม่ใช่ใจ-2
    ไม่ติดจิต ไม่ติดใจ
    จิตมีเพราะหลง ไม่หลงจิตไม่มี


    ที่มา http://www.rombodhidharma.com/Pg-04-Dharma.htm
    http://web.nkc.kku.ac.th/manit/watromphothitham.htm

    ขออนุโมทนา
     
  13. Shinray01

    Shinray01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,309

    อันนี้ใช่เลยครับผมก็เป็นแบบคนตั้งกระทู้ แต่บางครั้งกลัวจะเป็นการล่วงเกินพระหรือบาป ยิ่งข่มมันยิ่งหนักเพิ่มขึ้น แต่พอผมขี้เกียจคิดต่อปล่อยมมันไปมาตั้งสติภาวนาพุธโธ ก็เริ่มจะหาย แต่ก็ใช่จะหายขาด แต่กลัวบาปว่าจิตคิดไม่ดีแม้กระทั่งมองเห็นพระอยู่ มันก็คล้ายๆว่าเห็นพระแก่และสังขารเสื่อม ฟันไม่มี อะไรอย่างนู้นอย่างนี้กลัวบาปเหมือนกันขอขมาพระทุกวันยิ่งถ้าผมยิ่งภาวนาไปเรื่อยๆพอเคลิ้มๆก็แวปเข้ามา ผมว่ารู้สึกเลวร้ายยังไงไม่รู้
     
  14. Shinray01

    Shinray01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,309
    ผมเป็นยิ่งข่มมันยิ่งบ้าหนักจนคิดฟุ่งซ้านกลัวบาปกรรมบางครั้งเห็นพระที่เราเคารพพยายามจะนึกกราบท่านจะจิตมันไม่ยอมอยู่มันก็นอนไม่ยอมกราบ จริงๆผมก็นึกถึงหลวงพ่อเงินเป็นครูบาอาจารย์องค์หนึ่งแต่อยู่ๆจิตมันก็คิดนึกภาพท่านขึ้นมาว่าทำไมท่านถ่ายภาพท่านปากท่านจะเบี้ยวไม่เท่ากัน บางครั้งจิตคิดน้อบน้อมจะเคารพพระแต่อยู่ก็คิดเรื่องไม่ดีหรือลามกผมรู้สึกเหมือนตัวเองเลว ยังปรามาสล่วงเกินพระกลัวมันบาปแบบว่าอยู่มันก็แว็ปคิดมันมาเอง ยิ่งข่มมันยิ่งมีแต่ฟุ้งซ่านไปเรื่อยจนผมเป็นคนรู้ว่ามันมาเวลานั่งสมาธิรู้ตัวแต่ผมไม่ใส่ใจมันปล่อยมันไป อาการมันก็เริ่มหายไปไม่ค่อยจะเป็น แต่อยากให้หายขาด ทรมานมากกลัวบาปกรรมที่เราคิดอย่างนั้นว่าเราเอาเรื่องเลวๆมารวมกับพระเพราะเวลาผมนั่งสมาธิมักนึกถึงพระแต่แล้วมันก็ชอบคิดไม่ดีขึ้นมารวมกับเรื่องพระ
     
  15. Shinray01

    Shinray01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,309
    ส่วนใหญ่อาการนี่ส่วนใหญ่จะเป็นตอนภาวนาเหมือนผมภาวนานึกถึงภาพพระดีก็ชอบมากวนว่างั้น ช่วยนี้ปิดเทอมอยู่บ้านเลยนั่งสมาธิเป็นส่วนใหญ่เลยอยู่ก็เกิดอาการอย่างพี่เจ้าของกระทู้ขึ้นมา
     
  16. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    การภาวนานั้น จุดที่ควรสังเกตก็คือ เป็นไปเพื่อความละวาง

    การที่ภาวนาแล้ว ทำให้จิตแข็งๆ แน่นๆ หนักๆ กังวล สงสัย เหล่านี้คือการ
    ภาวนาเข้าไปเติมเชื้อ ไม่ใช่ภาวนาเพื่อการละวาง

    การละวางนั้น ก็ต้องเกิดจาก มหากุศลจิต ได้แก่ ปคุณตา ลหุตา มุทุตา ฯ

    มหากุศลจิตปคุณตา คือ ทำให้จิตนั้นควรแก่การงาน คือ การเจริญภาวนา

    มหากุศลจิตลหุตา คือ ทำให้จิตปลอดโปร่งเป็นอิสระพร้อมรู้ ทั่วพร้อม

    มหากุศลจิตมุทุตา คือ ทำให้จิตเบา ไม่หนัก ไม่แน่น ไม่แข็ง ไม่โดนกักขัง
    ไม่โดนบังคับ ไม่โดนบัญชา ซึ่งจะไปแปรไปเป็นอัตตาทั้งสิ้น

    มหากุศลจิต นั้น ไม่สามารถทำให้เกิดได้ เหมือนเรากำลังเศร้า แล้วเราไปสั่ง
    ว่า เอ้าบัดนี้ฉันจะยิ้ม และหายทุกข์ จะเห็นว่า ทำไม่ได้ หากทำได้จะกลายเป็น
    การคิด เกิดงานของใจ สร้างภพเอาไว้อย่างหนึ่ง แล้วเข้าไปอยู่ เอาจิตเข้าไป
    อยู่ เข้าไปขัง เช่น เราอยากเป็นนางสาวไทย เราก็คิด จิตจะเข้าไปครองแล้ว
    สามารถมีความสุขได้ แต่ลมๆ แล้งๆ ไม่ใช่ของจริง

    มหากุศลจิตนั้น จะเกิดขึ้นพร้อมกับ สติเจตสิก ซึ่งเป็นมหากุศลจิตเหมือนกัน

    มหากุศลจิตชนิดอื่นๆ นั้นจะเกิดตาม สติเจตสิก พระพุทธองค์จึงตรัสให้
    สาธุชนพึงเจริญสติไว้เนืองๆ โดยสรุปออกมาเป็นทางเดิน4สาย คือ สติปัฏฐาน4

    การเห็นอกุศลจิต จิตที่คิดไป ตรึกไปในทางไม่ดี คือ โมหะมูลจิต ในสติปัฏฐาน4
    หมวด จิตบรรพ ได้กล่าวไว้ว่า จิตมีโมหะ ให้รู้ว่าจิตมีโมหะ และก็มีแค่นี้ ในพระ
    สูตรไม่ได้บอกว่า ให้หยุดทำโมหะ ไม่ได้ตรัสให้ทำอะไร มีแต่ให้ รู้ เมื่อรู้ลงเป็นปัจจุบัน
    ขณะเฉพาะหน้า(ปฏิบัติ) ก็จะรู้ชัด เมื่อรู้ชัด จิตผู้รู้ ผู้ดู จะแยกออกจากสังขารธรรม
    ที่เป็นโมหะมูลจิต เมื่อจิตผู้รู้ผู้ดู แยกออกจากโมหะมูลจิต เมื่อนั้นเรียกว่า เกิดสติ

    แต่สติจะเกิดสั้นๆ หลังจากนั้น ขันธ์5 อันเป็นของหนักจะถ่วงเรากลับไปจมกับมัน

    อวิชชา(หัวหน้าโจร) จะมาช่วยปิดบังการเห็น สักกายทิฏฐิ(เสนาโจร)จะมาซ้อนเพื่อให้
    เกิดกิเลส เกลียดชั่วปรุงสุข เกลียดทุกข์ปรุงดี เกลียดดีปรุงว่าง เกลียดว่างปรุงสุญญตา

    เราก็ดูพฤติจิตที่หมุนวนไปเช่นนี้ จนกว่าจะแจ้งแก่ใจในพฤติจิต ว่ามีสภาพไตรลักษณ์เป็นสามัญ
    บังคับไม่ได้ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ก็จะแจ้งในอริยะสัจจ รู้ทุกข์สัจจแห่งจิต เมื่อจิตเห็นทุกข
    สัจจของจิต ก็จะละสมุทัย ประจักษ์นิโรธน เจริญมรรค หมุ่นวนไปจนกว่าจะเต็ม ก็จะถึง
    จุดตัดสินทางปัญญา

    พอถึงจุดตัดสินทางปัญญา กิเลศทั้งหลายก็จะค่อยถูกทำลายลงเป็นกลุ่มๆของสังโยชน์

    ทางสายเอกมีทางเดียว คือ สติปัฏฐาน4 โดยมีสมถะสมาธิ(ความสงบ)เป็นกำลัง
    ให้แก่จิตในการรู้ทุกข์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2009
  17. Mr_Somsak

    Mr_Somsak สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ดีแล้วครับ มีครูมาสอน ให้กำหนดตามสภาะธรรมที่เกิดขึ้น นะครับ
     
  18. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    อนุโมทนาทุกท่านตอบไว้ดีแล้วคับ ขอเพิ่มอีกนิด เจริยพรหมวิหาร 4 คับเพราะอินทรียังไม่กล้าแข็ง ใครทำอะไรก้เอา เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบขขาเมาช่วยคิดคับ รู้ตัวพร้อม เละละลึกได้ตลอดดีอย่แล้วคับ แต่การเก็บมาคิด แล้วคิดว่าเราคิดไม่ดีจิงๆแล้วเกิดจากความไม่รู้ อสิชา สงสัย ขังขา เมื่อสงสัยและหาคำตอบไม่ได้ในคำถาม ก้เลยคิดไปต่างๆๆนาๆ เละบางทีก้ไม่ดีก้เปลี่ยนสิคับไม่รู้ก้ปล่อยมันเอาพรหมวิหารเข้ามา เค้าทำไรกันท่าดีก้มุทิตาจิต ท่าไม่ดีก้เอาเมตตาจิตเข้าขอให้สิ่งที่เค้าทำเกิดแต่ผลดีทำให้ค้าได้รับแต่สิ่งดี มีอุเบขขาปล่อยวาง เท่านี้ก้ตัดนิวรได้คับ
     
  19. sitbudda

    sitbudda สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2009
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +18
    เป็นเหมือนกันค่ะ กลัวบาป ขอบคุณ และอนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ กับ จขกท และวิทยาทานจากทุกท่านค่ะ
     
  20. สุภิญโญ

    สุภิญโญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +325
    ผมก็เป็น มันประมาณว่า อยากจะลองดีกับผมมั้ง ผมก็รู้แล้วก็ทำเป็น ข่มใจ ว่าไม่คิดๆๆๆๆ

    สุดท้ายก็หายไปเอง ยิ่งถ้าตั้งใจมาก ดูเหมือนจะมามากซะด้วย จริงๆแล้วผมว่า

    เกร็งไปหน่อย อิอิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...