เป็นนักกฏิบัติแต่ทำไมจิตคิดอกุศล

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย nanakorn, 4 มีนาคม 2009.

  1. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    จริง ค่ะ พอเรากำหนดรูปแบบปั๊บความยึดตัวตนมาทันที อย่างเช่นการกำหนดลมหายใจเข้าพอเราไปกำหนดปั๊บ การหายใจก็จะติดขัดอึดอัดมาทันที แต่พอเราเฝ้าดูเฉย รู้เฉยๆว่ามันเข้ามันออก เรากับรู้สึกโล่ง เบาสบาย ตอนนี้ความคิดมันจะนึกเรื่องอะไรอะไรก็เลยปล่อยมัน พอปล่อยมัน มันดันไม่คิดแฮะ แต่ไม่หายขาด เพียงแต่รู้ว่าเนี่ยจิตมันกำลังจะคิดอีกแล้ว พอรู้ตามปัจจุบันมันก็ดับของมันเอง แต่ก็ไม่เจอห้วหน้ามันสักทีเลย
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ตรงการเห็นว่า เราทำสมาธิอานาปานสติ แล้วเห็นก้อนแข็ง แน่นๆ อันนี้วิเศษ

    เพราะคุณจะตรวจทานด้วยตัวเองแล้วว่า จิตกำลังสร้างภพชาติหรือเปล่า

    หากจิตมันสร้างภพทุกคติเพื่ออยู่ จิตจะแข็ง แน่น เป็นวิบากปรากฏทันที

    อาการแข็ง แน่นๆ เป็นวิบาก ที่เกิดจากจิตเผลอไปข้างโลภเจตนา มีโลภะ
    มูลจิต จิตเขาได้รับการอบรมให้รู้จักความปราณีตแล้ว เขาก็ฟ้องคุณได้

    ทีนี้ แข็ง แน่นๆ แล้วอย่าไปอยากหาย อยาก คือ โลภะ ตัวที่สองที่จะเจริญต่อ

    * * * *

    ตรงที่เราไปรู้ทันคิด อันนั้น เราจะเพ่งเข้าไปด้วย คือ ตอนที่สติเห็น จะ
    แว็บเดียว แต่หลังจากนั้น ชั่วฟ้าแลบ จิตจะเพ่งเข้าไปดู คาเอาไว้ มันเลย
    ดับหายวับไป ซึ่งก็เอาไว้เจริญ อินทรีย์สังวรณ์ ซึ่งเป็น ศีลที่ละเอียดกว่า
    ศีล 5 ศีล 227 อ่านเรื่องศีลของหลวงปู่มั่นประกอบ

    คราวนี้อย่าไปกังวล ที่จิตเรายังไม่เป็นกลาง ตอนนี้จิตจะยังไม่เป็นกลาง
    มันเลยเข้าไปเพ่ง ไปแทรกแซงการเห็น ไปเติมการเห็น จะไปเติมรู้ ทั้งนี้
    เพราะจิตมันยังรักดี รักผลการปฏิบัติ อยากเห็นผลการปฏิบัติ

    ก็ให้ภาวนาเห็นไปเรื่อยๆ จะเกิดอะไร ให้ดูปัจจุบันไว้ อะไรผ่านแล้วผ่านเลย
    ไม่งั้น สงสัยที่เป็นนิวรณ์มันจะแอบยิ้ม

    ภาวนาไปเรื่อยๆ พอจิตจดจำได้ และ สติเกิด และประกอบปัญญา มันจะ
    เป็นกลาง คราวนี้ กิเลสจะเดินผ่านหน้าบ้านจนพ้นสายตา ไม่ใช่ผ่านหน้า
    บ้านแล้วเราตีหัวจนมันจมหายไป

    จิตที่ตั้งมั่นรู้ เป็นกลางด้วยปัญญา จะเป็น ขั้น สังขารุเบกขาญาณ ก็ต้อง
    เข้าใจตรงนี้ว่า ก็ไม่ง่ายเท่าไหร่ และถึงแม้ได้แล้ว ก็เสื่อมได้อีก เพราะ
    ยังเป็นโลกียปัญญาญาณ

    * * *

    หัวหน้า หากโผล่มาง่ายๆ ก็ไม่ใช่หัวหน้าสิครับ อย่าไปคิดสู้ หรือ หามันนะครับ

    ต้องชำเลืองอย่างไร้ความจงใจเอา หากมีจงใจนิดเดียว หัวหน้ามันจะหลอก
    คุณทันที ได้หลากรูปแบบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2009
  3. แพ้สะกดยังงัย

    แพ้สะกดยังงัย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +69
    จิตมันฟุ้งซานนะคุณมันเป็นยังงี้ คุณต้องมั่นฝึกจิตของคุณแล้วขืนปล่อยอย่างงี้ไปเวลาคุณมรณังจิต คุณเป็นอกุศลก็ตัวใครตัวมันนะคุณช่วยกันไม่ได้เสียดายชาติที่เกิดมามันเร่งฝึกจิตเทอะคุณอย่าให้มันฟุ้งซาน เอวัง โหตุ
     
  4. Jeerachai_BK

    Jeerachai_BK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +821
    สาธุ _/\_

    การเห็นและพิจารณาจิตของตนเป็นสิ่งดีแล้ว

    ใครที่ทำสิ่งที่ดีก็อนุโมทนาแก่เขา ทำจิตให้มีมุทิตา เราจะได้มีสุข
     
  5. ทดแทน

    ทดแทน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    580
    ค่าพลัง:
    +116
    มีกันทุกคนละครับถ้าจิตหรือสมาธิยังไม่หนักแน่นหรือสูงขึ้นไปนะครับ ผมก็เป็นครับแต่พยายามเอาพระพุทธ พระะรรม พระสงฆ์ เข้าช่วยครับ ถ้าจิตมันนึกก็ภาวนาพุทโธไว้ครับภาวนาบ่อยๆครับ ทุกกริยาบทเลยได้ยิ่งดีครับผมก็พยายามหมั่นภาวนาอยู่ครับเก็บเล็กปะสมน้อยไปเรื่อยๆครับ อนุโมทนาสาธุครับ
     
  6. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    จ้า
     
  7. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    หน้าที่ 7 แล้วครับ..555
    เจ้าของกระทู้เขายังไม่เข้าใจ หรือยังไงเนี่ย ?
    หรือว่าท่านทั้งหลายเข้ามาตอบราวกับว่ามาระบายความในใจที่เึึคยเกิดขึ้นกับ เพื่อแสดงว่าตนเองเคยผ่านมาแล้วเหมือนกันนะเว่ย..

    ไม่น่าจะไม่เข้าใจนะ..
     
  8. hi5

    hi5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +701
    เพราะตอนนั้นกำลังขาดสติ
    ต้องฝึก สติปฐาน
     
  9. จิปาถะ

    จิปาถะ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +7
    สวัสดีครับทุกท่าน ไม่น่าเชื่อว่าสมัยนี้ จะมีคนสนใจทางธรรมเยอะมากเหมือนกันผมน้องใหม่ฝากตัวด้วยนะครับ
     
  10. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ลำบากหน่อยนะครับ การฝากตัวแบบมีบุญนี่ จะนอนกินดอกไม่ได้
    จะต้องลงมือปฏิบัติ ทำบุญ ทำทาน รักษาศีล ทำสมาธิ ภาวนา

    ทำเรื่อยๆ ส่งแบบฝากประจำ ผลตอบแทนเองก็วัดหน่วยไม่ได้

    แต่คุ้มสุดๆ

    ;aa8
     
  11. มหาพรหมราชา

    มหาพรหมราชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +903

    พยายามดูจิตให้ทันทุกขณะจิตนะครับ แล้วเราจะแยกออก ว่า อันไหนเป็นความคิดของเรา อันไหนเป็นความคิดที่ดูเหมือนมีสิ่งอื่นนำมาให้ เมื่อแยกออกได้ชัด รู้ได้ทันกับความคิด หรือแม้ขณะกำลังจะคิด เมื่อนั้นจิตก็จะวาง เพราะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร เมื่อผ่านจุดนี้ไปก้จะดีเองและอาจจะดีกว่าเดิมด้วยครับ
     
  12. มหาพรหมราชา

    มหาพรหมราชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +903
    และที่สำคัญนะครับ จิต เขาไม่เคยว่าเขาเป็นของเราหรือของใครเลย เขาเป็นเพียงสภาวะที่เกิด ดับ ตามเหตุปัจจัยเป็น ธรรมดา คือเมื่อมีเหตุปัจจัยให้เขาเกิด เขาก็เกิด เมื่อมีเหตุปัจจัยให้เขาตั้งอยู่ เขาก็ตั้งอยู่ เมื่อหมดเหตุหมดปัจจัยเขาก็ดับไป เป็นธรรมดา ซึ่งเขาเป็นเพียง ทำตามหน้าที่ของเขาเท่านั้น มีแต่เราที่ไปสำคัญ หรือ ยึดว่าเป็น จิตของเรา ทั้งๆที่ จิต เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่มันก็ทำได้ยากนะ อิอิ ก็พยายามกันต่อไปนะครับ สาธุ
     
  13. yordnakorn

    yordnakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2008
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +653
    ผมก็เคยคิดครับ...แค่คิดนะครับ..ยังดีที่ท่านครูบาอาจารย์เตือนให้ได้ยินดังๆ...โอย อายแทบจะแทรกแผ่นดินหนี..ตอนนี้ก็ยังเลวอยู่แต่ก็จะสู้กับกิเลสของตัวเองต่อไป..ตอนนี้ก็ขอสร้างบารมีให้เต็มก่อน...มารเยอะเหลือเกิน...แห่ะๆๆ...
     
  14. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424

    น่าสนใจนะครับ รบกวนท่านช่วยขยายเพื่อให้เห็นภาพชัดอีกหน่อยจะได้มั้ยครับ อันไหนเป็นความคิดของเรา อันไหนเป็นความคิดที่ดูเหมือนสิ่งอื่นนำมาให้

    -------------------------------------

    สำหรับส่วนตัว หากแยกออกระหว่าง ความคิดลอย ๆ หรือความคิดที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจคิด กับ ความคิดที่ตั้งใจคิดแต่เป็นการคิดตามอารมณ์ ความอยาก กิเลส หรือ ความคิดที่ตั้งใจคิดโดยมีสติคอยกำกับ ถ้าเรามีสติต่อเนื่องเพียงพอ แยกออกและรู้ทันความคิด รู้ทันตั้งแต่จิตมันเริ่มจะก่อตัวเป็นอารมณ์ขึ้นมาได้ เห็นทันอย่างนี้ได้ จิตมันก็จะไม่เข้าไปร่วมไปหลงกับความคิดที่ไม่ได้ตั้งใจคิดนั้นทันที ตรงนั้นแหละเราจะเข้าใจทันที ว่าที่จริงเราหลงอะไรกัน ก็จะหายสงสัยละทีนี้

    แม้หากจะมีใครมาขู่บังคับ จะเอาเราไปฆ่าให้ตาย จะให้บอกว่า ที่เห็นที่เข้าใจนั้นผิด จะให้บอกดังนี้ให้ได้ หากไม่บอกดังนี้จะฆ่าให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เราก็จะยอมตาย ไม่เสียดายชีวิต เพราะเราเห็นและเข้าใจชัดอย่างเต็มที่ซะแล้วว่า ที่แท้พระพุทธเจ้าท่านสอนอะไร พระพุทธเจ้าท่านสอนอย่างนี้เอง ๆ เราก็จะมองเห็นหนทางที่จะดับทุกข์ต่อไป นี้เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้นเอง เราก็ทำความเข้าใจตรงส่วนของความหลงนี้ต่อไป รู้จักการคลายความหลงเป็นแล้ว มองเห็นหนทางแล้ว แยกได้คลายได้ต่อไปเขาก็จะวาง ธรรมชาติของจิตเขาอยากจะวางอยู่แล้ว หาทางออกทางวางอยู่ตลอดเวลา พอเขารู้ความจริงแล้ว ถึงเราไม่วาง เขาก็วางของเขาอยู่ดีนั่นเอง

    ที่ว่าแยกได้นะ ในความหมายของผมคือ แยกได้ว่า นี้คือจิต อาการของจิต นี้คือสติ และนี้คือความคิด ทั้งสามตัวนี้เป็นคนละส่วนกัน บางทีเราใช้จิตคิดก็มี ใช้สติคิดก็มี... แยกออกถึงจะเข้าใจความหมายนี้ครับผม
     
  15. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ก็ทุกข์และสุขทั้งหลายมาจากการหลงความคิด เราต้องมาเรียนรู้และทำความเข้าใจกับกระบวนการที่เราเผลอหลงความคิดไปให้ได้เสียก่อน ว่าเราหลงไปได้อย่างไร ด้วยอาการอย่างไร เห็นเพื่อให้เข้าใจจะได้ไม่หลงไปสร้างเหตุแห่งทุกข์โดยง่ายอีก ต้องเห็นตั้งแต่มันเริ่มจะก่อตัวเป็นต้นไป นั่นแหละ ถึงจะเรียกว่า การเห็นความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ได้ตลอดสาย ไม่ใช่เห็นแค่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ เห็นตอนมันเกิดสุขเกิดทุกข์ไปแล้ว นั้นคือสติเรามันย้งไม่พอแต่เราก็คิดว่า แค่รู้ทันแค่นี้ก็พอแล้ว มันเลยไม่เข้าใจไม่ถึงเสียที เรียกว่ามาถูกทางอยู่แต่ไปไม่สุดทางเสียที ไม่ทันเห็นตั้งแต่ต้นตอจริง ๆ นี่แหละคือไม่สุดทาง มาเห็นเอาตอนที่เขาแปรรูปมาให้เราดูแล้ว เราไม่รู้จักวัตถุดิบกับกระบวนการผลิตการปรุงแต่งของเขาเลย ถ้าเรารู้จักวัตถุดิบกับกระบวนการผลิตกระบวนการปรุงแต่งแปรรูปแล้วเมื่อไหร่นั่นแหละ ถึงจะอยู่เหนือสุขเหนือทุกข์ได้จริง โลกุตรธรรม คือธรรมเหนือโลก เหนือโลกอะไร ก็โลกธรรม ๘ นั่นแหละ มีลาภ ก็มีเสื่อมลาภ มียศ ก็มีเสื่อมยศ มีสรรเสริญ ก็มีนินทา มีสุขได้ ก็มีทุกข์ได้ นี่แหละ โลกเขาเป็นกันอยู่อย่างนี้ ทั้งหมดมันเกิดขึ้นที่ใจตัวเดียว เพราะใจมันยังไม่เหนือโลก เหนือสุขเหนือทุกข์จริง ๆ มันยังวิ่งตามโลก แก้ปัญหาเรื่องโลก ๆ เรื่องสุขเรื่องทุกข์ไปวัน ๆ นึงเท่านั้นเอง มันจึงไม่พ้นโลกพ้นสงสารอย่างนี้เอง
     
  16. รัศมีธรรม

    รัศมีธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2007
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +330
    ถูกต้องตรงเผง

    ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นค่ะ มันเป็นเรื่องปกติของนักปฏิบัติ เพราะที่นักปฏิบัติทั้งหลายกำลังดำเนินการก็เพื่อ ลด ละ เลิก อกุศล ทั้งปวง มนุษย์ทั่วไปมีอกุศลจิต หรือโมหะจริต เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่มากก็น้อย ซึ่งไม่เท่ากัน หากไม่มีอยู่เลย สะอาดแล้ว ก็ไม่ต้องปฏิบัติอีกต่อไป ถือว่าสุดทาง ประสบความสำเร็จไปแล้ว
    นักปฏิบัติจึงต้องตามดูทุกระยะ ตามดูรู้จิตบ่อยๆ มันก็จะซาบซึ้งเข้าใจ แจ่มแจ้ง เห็นตามความเป็นจริง และปล่อยวางได้เป็นเปลาะๆ ในที่สุด
    นี่ก็ยังไม่ได้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเท่าที่ควร แต่ก็กำลังพยายามตามดูรู้จิตอยู่ค่ะ แต่ก็ได้พบบางเรื่องที่มันเป็นอย่างนั้น สาธุๆๆ
     
  17. ..กลับตัวกลับใจ..

    ..กลับตัวกลับใจ.. Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +96
    ..ผมว่าทุกสิ่งมันมีสองด้านเสมอ..

    ..มีดี..มีชั่ว..มีบุญมีบาป..มีรวย..มีจน..

    ..เราไม่สามารถห้ามสิ่งเหล่านี้ได้...

    ..แต่จะปฏิบัติ ต่อมันอย่างไรมากกว่า..
     
  18. patonghot

    patonghot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +127
    ถ้าเราไม่เจตนา เราก็ไม่บาป
     
  19. pjayut

    pjayut สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ดีจังที่คุณเห็นพฤติของจิตได้..ควรจะดีใจนะครับ น้อยคนนักที่จะเห็นได้แบบคุณ เพราะคนส่วนใหญ่ในโลกใบนี้ล้วนหลงอยู่ในวังวนของกิเลสอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่รู้ตัวหรอกว่ากำลังหลงอยู่... หมั่นตามรู้ หมั่นตามดูเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งก็จะแจ่มแจ้งในแก่นธรรมครับ อนุโมทนาสาธุด้วยนะครับ
     
  20. ศุภกร_ไชยนา

    ศุภกร_ไชยนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    627
    ค่าพลัง:
    +1,122
    ผมก็เป็นเช่นนั้นคับ และเชื่อว่าทุกท่านก็น่าจะผ่านช่วงนี้กันบ้าง
     

แชร์หน้านี้

Loading...