เมื่อจิตเกิด-ดับ การดูจิตจะเป็นไปตามความเป็นจริงได้อย่างไร???

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมภูต, 10 สิงหาคม 2009.

  1. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    คับหากปัญญาที่พ้นจากสมาธิ พ้นจากวิปัสสนานั้นคือทางสายกลางที่แท้จริงใช่ไหมคับ
    บางครั้งก็คิดเหมือนกัน เขาสงบแบบนี้หรือกระทำแล้วคิดแบบนี้ เขาทำได้
    แต่เราทำไม่ได้ แต่เราก็ทำอีกแบบของเรา คือเรารู้ว่าเรากำลังทำอะไร ไปเรื่อย ๆ
    แอบเฉื่อย ก็มีคับ เน้นจิตของเรารู้ชัดไหม ถ้าไม่ชัดก็เพียรมาซ้ำที่แบบของเรา
    นะคับ แบบนี้ ธรรมดา มาก ๆ ไม่มีอะไรพิศดารเล๊ย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2009
  2. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ธรรมดา ...ธรรมะ

    เสมอไปตามฐานะ...(ตรงนี้แหละยาก เพราะ บุคคลที่รู้ฐานะมีเพียงเอกบุรุษเท่านั้น)

    ดังนั้น เราก็ทำไปเท่าที่จะเห็นได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2009
  3. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    ใครเหรอ? อยากรู้
     
  4. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    อ้าว .....

    .....เอกบุรุษ ...คือ พระนามของตถาคต
     
  5. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    อ้อ ขอบคุณค่ะ พระนามของพระพุทธท่านมีเยอะจัง
     
  6. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    นานา เธออยากเป็นเอกบุรุษ กับเขามั่งไหม

    (กว้าน อีกแระ)
     
  7. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    หึ ไม่อยากเป็นอะไรหรอก เพราะมันไม่มีอะไรให้เป็น
    ไม่มีอะไรน่ายินดี หรือไม่ยินดี
     
  8. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ท่านอัล จำที่ผมเคยกล่าวกับท่านได้ไหมว่าบางคนคงต้องรอไปก่อนบางคนไม่ต้องรอไปได้เลยมีพาสปอตแล้ว วีซ่า เสร็จแล้ว ท่านต้องทำใจจะคาดคั้นขู่เข็ญไปเมื่อใจยังมองไม่เห็น ก็คือไม่เห็น เมื่อใจไม่ยอมรับในความเป็นจริงของธรรม ก็เรียกว่าไม่ยอมรับ อาศัยการปรุงแต่งของจิตใจตนเองไปให้เกิดความสุขไปวันๆก็เท่านั้น ผมรู้ผมเห็นผมเข้าใจดีในความรู้สึกที่หวังดีของท่านทั้งหลาย ที่มีต่อผู้อื่นด้วยดีเสมอมา อะไรก็ดีทั้งนั้น แต่ความเพียงพอที่จะทำให้เกิดปัญญานั้น มีแต่เขาเท่านั้น จะทำให้เห็นและเข้าใจได้ด้วยตนเอง อย่างเช่น สะสมความวุ่นวายไว้ในจิตใจมากย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จิตจะเกิดสมาธิได้ภายในเวลาอันสั้นทั้งหมดเป็นเรื่องมุสาทั้งสิ้นของมันมีเหตุมีผลเป็นกฏตายตัว เมื่อจิตไม่มีความวุ่นวาย ไม่ลังเลสงสัยในธรรมทั้งหลายแล้วอย่างนี้สิถึงมีเหตุมีผลที่จะเกิดสมาธิและเกิดปัญา แต่นั่นแหละมันมาจากการตั้งสติ
    อนุโมทนาครับ
     
  9. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    ไห้ผมอุเบขขาได้แล้วสินะ
     
  10. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424

    อือ...สาธุ เขาเรียกว่า ไม่มากพิธี

    เอาสติเป็นตัวนำทั้งหมด สอบได้สอบตกเป็นเรื่องธรรมดา กลับมาให้เร็วให้ไวเป็นใช้ได้ อย่าไปจมแช่นาน มันเสี่ยงทั้งนั้น

    กลับมาที่ไหน...ก็กลับมาที่ความปกตินั่นแหละ

    แล้วความปกติมันอยู่ตรงไหน..ก็อยู่ตรงที่ระลึกได้นั่นแหละ

    ถ้าระลึกได้แล้วยังพอใจอยู่จะทำยังไงดี...ก็ละความพอใจนั้นเสียสิ อย่าไปปรุงอาหารให้เขาต่อ

    แล้วถ้าระลึกได้แล้วไม่พอใจกับที่ผ่านมา...ก็จะไปเก็บเอามาคิดอีกทำไม จะย้อนเวลากลับไปทำไม อยู่กับปัจจุบันดีกว่า

    อย่าเป็นคนล้าสมัย เราต้องเป็นคนทันสมัย ใหม่เสมอ สร้างเหตุในปัจจุบันสมัยปัจจุบันขณะนี่แหละให้ดี ว่ากันเป็นขณะจิต เป็นขณะ ๆ ไปเลย แล้วอนาคตมันจะดีเอง ที่ดีเพราะปัจจุบันมันดี ไม่ใช่ดีเพราะอนาคตดวงมันจะดีนะ

    ปัจจุบันขณะเอามาใช้ทางโลก ก็ืคือคิดดี ทำดี เอามาใช้ทางธรรม ก็คือทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ไม่ติดยึด ทำดีแล้วรู้จักวาง อย่างนี้เขาเรียกว่า รู้จักใช้รู้จักวาง ใช้เป็นวางเป็น เราก็จะเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม

    ถ้าทำดีแล้วติดดีมันก็ทุกข์ ทำชั่วยิ่งไม่ต้องพูดถึงใหญ่ ทุกข์ทั้งนั้น มันเป็นภพในใจ เมื่อมีสติ มีปัญญาเข้าใจความจริงได้ เราก็ไม่หลงสร้างภพขึ้นมาในใจง่าย ๆ อีก โดยเฉพาะภพหยาบ ๆ (นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน) อันนี้ควรจะหมดไปได้แล้ว

    มีสติไม่หลงสร้างภพอะไรในใจทั้งนั้นดีที่สุดแล้ว สำคัญว่า เราจะมีสติปัญญาพอที่จะอ่านภพในใจตนเองให้ออกหรือไม่เท่านั้นเอง ถ้ามีภพขึ้นมาในใจเมื่อไรมันก็มีตัวเราขึ้นมา เมื่อไหร่ไม่มีภพ มันก็ไม่มีตัวเรา มันก็มีเท่านี้ มา ๆ ไป ๆ อย่างนี้ อาศัยการสติมีปัญญารู้เท่าทันการมาการไปของเขาให้รอบด้าน เรียกว่า รอบรู้ในกองสังขาร เราก็ไม่หลงสร้างภพง่าย ๆ อีก เริ่มไปตั้งแต่ภพหยาบ ๆ เป็นต้นไปนั้นเอง...อาตาปี สัมปชาโน สติมา.
     
  11. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    เอ่ออะไรเหรอล้าสมัยเหรอคะ แต่ถ้ามันเป็นสิ่งที่ดีก็ยอมล้าสมัยค่ะ
    เพราะบางครั้งเราอยู่กับปัจจุบันเตือนสติตัว แต่เจอเหตุการณ์เดียวกัน
    ที่เหมือนในอดีตเราก็ไประลึกถึงอดีต แล้วมาแก้ไขปัจจุบันได้ไหมคะ
    เหตุที่นำพาไป เราก็ไ่ม่ไ้ด้เติมเท่านั้น เพียงเรารู้ กับไม่รู้เท่านั้น

    คือบางอย่างนะเรารู้และเข้าใจแล้ว ไปถามหลวงพ่อ หลวงพ่อก็ตอบแบบนั้น
    ตามที่เราเข้าใจ แต่คนอื่น ๆ มองว่าแปลก ก็วางเหมือนกันนะ ไม่ได้เก็บเอา
    ทุกข์ ไม่พยายามทำให้มันรก และไม่ค่อยจะยึดความคิดตนเองเท่าไร
    ก็ปล่อย ให้มันว่างมากมาย แต่เราก็รู้ว่ามันว่าง และบางครั้งเราก็ปฏิเสธ
    อะไร ที่ใครมาพยายามจะหยิบยื่นอะไรให้มา เพราะนั้นคิดว่ามันเกินความจำเป็น
    แล้ว เกินฐานะแล้วเราไม่เครียดไปกับมัน

    ขอบคุณค่ะ ที่แนะนำ ไม่พยายามตามใจอารมณ์ตนเอง และไม่เอาใจอารมณ์ผู้อื่นเพราะไม่อยากสร้างภพในใจค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสวรรค์ก็ดี หรือนรกก็ดี
    เพราะเดี๋ยวมันก็จางและหายไป ไม่เก็บเอาไว้มาใส่ใจเท่าไรหรอกค่ะ
    ยกเว้นสองคนที่แคร์คือพ่อและแม่ค่ะ

    ก็อย่างที่บอก สิ่งใหนที่ทำให้เรารู้ใจชัด ก็พยายามวนไปซ้ำกับที่เราทำได้
    ใช้สติตัวไหน หลักการณ์สังเกตุเป็นอย่างไร ก็ใช้ตัวนั้น
    เพราะจริตเราก็ไม่เหมือนกับเขา เขาก็ไม่เหมือนเรา
    ก็เลยไม่สร้างตัวเองเป็นมาตราฐานเพื่อไปวัดผู้อื่น
    สิ่งที่ทำคือ วัดตัวเองทุกวันหมายถึง วันนี้เรารู้สึกตัว หรือรู้ตัวบ่อยไหม
    หลงกี่ครั้ง รู้ไหมตอนหลง อะไรแบบนี้ค่ะ แต่เดี่ยวนี้ไม่ค่อยรีบหรอก

    และก็ไม่สนใจว่าใครจะเป็นพะรอรหันต์ เร็วหรือช้า ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเราสักนิดนิน่า
    ทุกอย่างในโลก และผู้คนที่วุ่นวายเราเป็นผู้สร้างทั้งหมด หากจะหนีโลก หรือความวุ่นวาย เราต้องดับได้ที่ใจ ทุกอย่างจะสงบท่ามกลางความวุ่นวาย
    ทั้งหลาย โลกหยุดหมุนได้ที่ใจ ผัสสะเกิดที่ใจ หยุดผัสสะ คือหยุดโลก
    ออกแนวปรัชญานิดนึงนะ อืม
     
  12. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    และที่สำคัญไม่อยากเป็นอะไร ไม่มีเป้าหมายอะไรหรอก แค่รู้ว่า วันนี้เรารู้ทุกข์
    รู้สุขหรือยัง หรือเฉย นิพพานอะไรนั้นปล่อยไป ตอนนี้พยายามทำตัวให้เป็นธรรมชาติ
    และหาวิธีการจะกลับคืนสู่ธรรมชาติอย่างเนียนๆ ไม่มีหลักการณ์อะไรเท่าหรอก
    เป็นไง นานาเนียนไหม พี่ที เท่ห์เนอะ
     
  13. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    อือ....รู้จักใช้ รู้จักวาง ใช้เป็นวางเป็นก็โอเคแล้วววว...
     
  14. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    พิมพ์ตั้งยาว ตอบมาแค่นี้ โห ...อืม จ้า
     
  15. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
  16. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    ไปอ่านมาแล้ว .....
     
  17. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    อนูโมทนา สาธุ..
    นี่แหละการค้นหา...มัชชิฌาปฏิปทาของตนเอง..

    ทางสายกลาง..ที่ถูกต้อง..คือ มรรค 8
    เริ่มที่การปฏิบัติที่พอเหมาะพอควรแก่ตนเอง
    และเป็นสาระประโยชน์ในแนวทางแห่งการพ้นทุกข์

    ไม่ใช่เอามาตราฐานของคนอื่นหรือของตนเองไปตัดสินใคร..

    ตรวจสอบวัดในกลางใจตัวเอง หมายถึง
    ตรวจสอบจิตใจเราว่า..อะไรที่มันยังติดยังข้องยังต้องปรับปรุงแก้ไข
    สิ่งไหนดีควรรักษา สิ่งไหนเลวควรขจัดทิ้ง..
    ฉลาดรู้เท่าทัน แต่อย่าหลงรู้..สำคัญตัวสำคัญตน จะหลงอุปทานความคิดตนเอง

    ทุกสิ่งต้องดับได้ที่ใจ โลกกิเลสหยุดหมุนได้ที่ใจ
    ใจเท่านั้นคือ สิ่งประเสริฐิ์เลิศที่สุด..
    ขึ้นชื่อว่า..ฝึกหัดอบรมใจตนได้แล้ว..จึงจะเรียกว่า..ผู้ฝึกตนดีแล้ว


    กิเลสมารูปแบบไหน..เอามรรคแก้ให้ทันกิเลสรูปแบบนั้น
     
  18. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    ตอบคุณนานา
    เป็นความคิดที่ดี แต่ขออนุญาติเสริมนิดนึงครับ..
    ถ้าท่านใดท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จิตของเราก็ควรจะยินดีอนุโมทนากับท่านผู้นั้น..
    เป็นการฝึกจิตของเราให้มีมุทิตากับผู้อื่น ลดความอิจฉาพยาบาท
    ถ้ามีตัวนี้จะจบเห่..เรื่องภาวนาไปไม่เป็น..
    เพราะจิตใจแบบนี้ที่มีความอิจฉาพยาบาท มันเป็นจิตของภูมิเดรัจฉาน..อบายภูมิ
    เอาจิตใจเราเป็นตัวตรวจสอบ มันเป็นแบบไหน..มันก็อยู่ภูมินั้นแหละ
    ดีและชั่วอยู่ที่การกระทำและจิตใจของผู้นั้น..


    เราอยากรู้ว่า..เราปฏิบัติธรรมแล้วมันเป็นอย่างไร..อย่างที่เรียนข้างต้น
    เอาชีวิตประจำวันและจิตใจเราเป็นตัวชี้วัด..
    สวดมนต์ นั่งสมาธิ เจริญสติ ในหนึ่งวันเราให้เวลาต่อการปฏิบัติธรรมมากน้อยเท่าใด
    และจิตใจเราใฝ่กุศลเพียงใด..หรือว่า..จิตใจเรามันยังอิจฉาริษยาพยาบาท โกรธเคือง
    เจ้าคิดเจ้าแค้นมากขึ้นหรือลดลงหรือไม่
    วัดตรงนี้..จะรู้เองว่า..มีสติ สมาธิ ปัญญา หรือไม่

    ส่วนใครจะเป็นโสดา สกิทาคา หรือเป็นผู้ประเสริฐิ์สูงส่งเพียงใด..
    มันก็เป็นสมบัติของเขา ไม่ใช่สมบัติของเรา..
    หากท่านมีท่านเป็นเราก็ยินดีอนุโมทนา...
    แต่เรายังเป็นผู้ประมาทก็ต้องสร้างหนทางของตนเองต่อไป..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 สิงหาคม 2009
  19. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    อนุโมทนาค่ะท่านวิสุทโธ

    ที่ช่วยชี้แนะ เรื่องมุทิตา หากเราไม่มีตรงนี้เราก็คงจะเป็นคนขี้อิจฉาใช่ไหมคะ
    และอาจจะนำไปสู่ความพยาบาท ก็จะพยายามฝึกไว้ค่ะ
    และจะพยายามโน้มใจระลึกถึงพระคุณพระอรหันต์ให้มาก ๆ
    เดี๊ยว นานากลายเป็นใจดำไปเนอะ อิอิอิ

    ไม่เฉยสักทีเดียวยังมีศรัทธาต่อพระรัตนตรัย คืออย่างที่บอกน่ะค่ะ
    รู้สึกเฉยต่อการทำบุญ ทำบาปของคนอื่น แต่ใครเพียรทางด้านจิตฝึกกรรมฐาน
    หรือปฏิบัติจะรู้สึกศรัทธาตรงนั้นมากกว่า จะรู้สึกอยากไปสนทนาธรรมด้วย
    อยากรู้ว่าเขาฝึกอย่างไร อะไรพวกนี้ เพราะเราสนทนาแล้ว
    เขาจะเย็นจิตเขาแผ่มาถึงเราได้ด้วย
    แต่ถ้าเป็นเรื่องการทำบุญ แบบสร้างโน้นสร้างนี้อันมันขัดขืน จิตจะด้นรนขัดขืน
    ทันที ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไม ตัวเองเป็นคนแบบนี้
    เรื่องการปฏิบัติ อะไรแบบนี้รู้สึก กระตุ้นความสนใจ พอเขาแนะนำมาก็ลอง
    มาทำแบบเขาบ้างพอรู้ว่าไม่ใช่ก็ไม่เอา ก็มาแบบของตัวเอง

    ก็มีเมื่อเช้า เข้าไปอ่านกระทู้ เกี่ยวกับผู้หญิงวัยกลางคนที่เขียนจดหมายถึงหลวงพ่อองค์หนึ่ง
    หลวงพ่อบอกว่าคนคนนี้ปฏิบัติตามสัมมาทิฐิ อ่านไป อ่านไปปิติเกิดขึ้นมาลุกขนและรู้สึก
    ตื้นตันใจ มาจับใจตัวเองได้เรายังมีตรงนี้อยู่นี้นาอะไรแบบนี้คืออธิบายไม่ถูกนะ
    เวลาปิติเกิดมันมีความสุขจัง

    จิตนานายังหยาบอยู่ค่ะ คงต้องฝึกฝนให้มากกว่านี้ ขอบคุณค่ะ ที่ช่วยชี้แนะ
     
  20. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านวิสุทโธ และท่านนานา
    ผมหละเสียดายจริงๆที่ท่านทั้งสองไม่ได้ไปมิตติ้ง สนุกมากครับ
    เพราะแต่ละคนได้เล่าประสบการณ์การปฏิบัติของตนเองให้ฟัง
    เป็นกันเองมากครับ ผมและท่านทีบูนได้แลกเปลี่ยนทัศนะกัน
    ได้ประโยชน์มากครับ มีการรวมเงินทำบุญด้วยครับ

    ;aa24
     

แชร์หน้านี้

Loading...