เมื่อจิตเกิด-ดับ การดูจิตจะเป็นไปตามความเป็นจริงได้อย่างไร???

เอ่อท่านวิดนุ ท่านกำลังจะบอกสองนาว่า ไม่ให้พยายามหยุดผัสสะ
แต่ให้เข้าใจในสิ่งกระทบเพื่อเรียนรู้และจดจำสภาวะ
ใช่ไหมจ๊ะ ด้วยการ ยืน นั่ง เดิน นอน
สงสัยสองนา จะเข้าใจผิด นะจ่ะ

 

เอาละเอาละ คะแนนเต็ม 10 ให้ 10 เต็มเลย

เราหยุดกระบวนการ ขันธ์ 5 ถาวรณ์ไม่ได้

แต่เราละ การยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ 5 ได้ โดยอาศัยเครื่องมือเหล่านั้น อันวิเศษ ที่มีในชาติมนุษย์

 

ท่านครับ ต้องรอท่านวิษณุ๑๒ ขึ้นกระทู้ลงรูปและบรรยายบรรยากาศในงานให้ฟังครับ
งานอบอุ่นมาก ยิ่งกว่าหม้อหุงข้าวอุ่นทิพย์(ฮา)อีกครับ
เจอหน้าท่านศรีฯ ทำให้รู้เลยว่า การเกิดเป็นคนช่างไม่ยากแท้เลยครับ

;aa24

 

อยากเห็นรูปพี่ศรีจัง ไม่รู้จะยังถือไมค์หรือเปล่า หน้าตาจะเหมือนพี่แคทไหม
ถ้าร้องเพลง "ok นะคะ" คงไพเราะน่าดู เลย

------------------------------------------------------------------------

ตารางที่ 7 การจำแนกองค์คุณ 9 ประการ โดยระดับแห่งศีล สมาธิ ปัญญา​

<table style="border-collapse: collapse;" id="AutoNumber1" border="1" bordercolor="#008000" cellpadding="0" cellspacing="0" width="70%" height="717"><tbody><tr> <td align="center" bgcolor="#f4e2f5" valign="top" width="25%" height="48"> องค์คุณ</td> <td align="center" bgcolor="#f4e2f5" valign="top" width="24%" height="48">

ศีล​

</td> <td align="center" bgcolor="#f4e2f5" valign="top" width="26%" height="48">

สมาธิ​

</td> <td align="center" bgcolor="#f4e2f5" valign="top" width="26%" height="48">

ปัญญา​

</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" width="25%" height="46">

1. สิกขา 3​

</td> <td align="center" bgcolor="#e9e9e9" valign="top" width="24%" height="46">

อธิศีลสิกขา​

</td> <td align="center" bgcolor="#e4faec" valign="top" width="26%" height="46">

อธิจิตสิกขา​

</td> <td align="center" bgcolor="#faece2" valign="top" width="26%" height="46">

อธิปัญญาสิกขา​

</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" width="25%" height="98">

2. ศาสนามีความงาม 3​

</td> <td align="center" bgcolor="#e9e9e9" valign="top" width="24%" height="98">

ความงาม​

ในเบื้องต้น​

(การไม่ทำบาปทั้งสิ้น)​

</td> <td align="center" bgcolor="#e4faec" valign="top" width="26%" height="98">

ความงาม​

ในท่ามกลาง​

(ยังกุศลให้ถึงพร้อม)​

</td> <td align="center" bgcolor="#faece2" valign="top" width="26%" height="98">

ความงาม​

ในที่สุด​

(การทำจิตให้ผ่องแผ้ว)​

</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" width="25%" height="59">

3. อุปนิสัยแห่ง​

คุณวิเศษ​

</td> <td align="center" bgcolor="#e9e9e9" valign="top" width="24%" height="59">

เป็นผู้ได้​

วิชชา 3​

</td> <td align="center" bgcolor="#e4faec" valign="top" width="26%" height="59">

เป็นผู้ได้​

อภิญญา 6​

</td> <td align="center" bgcolor="#faece2" valign="top" width="26%" height="59">

เป็นผู้แตกฉาน​

ในปฏิสัมภิทา 4​

</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" width="25%" height="79">

4. การเว้นความสุดโต่ง​

2 อย่าง​

</td> <td align="center" bgcolor="#e9e9e9" valign="top" width="24%" height="79">

เว้นจาก​

กามสุขัลลิกานุโยค​

</td> <td align="center" bgcolor="#e4faec" valign="top" width="26%" height="79">

เว้นจาก​

อัตตกิลมถานุโยค​

</td> <td align="center" bgcolor="#faece2" valign="top" width="26%" height="79">

มีการเสพข้อปฏิบัติสายกลาง คือ​

มัชฌิมาปฏิปทา​

</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" width="25%" height="59">

5. อุบายเป็นเครื่องพ้น​

จากคติ​

</td> <td align="center" bgcolor="#e9e9e9" valign="top" width="24%" height="59">

อุบายก้าวพ้น​

จากอบาย​

</td> <td align="center" bgcolor="#e4faec" valign="top" width="26%" height="59">

อุบายก้าวพ้น​

จากกามธาตุ​

</td> <td align="center" bgcolor="#faece2" valign="top" width="26%" height="59">

อุบายก้าวพ้น​

จากภพทั้งปวง​

</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" width="25%" height="98">

6. การละกิเลส​

ด้วยอาการ 3​

(ชนิดของการละ)​

</td> <td align="center" bgcolor="#e9e9e9" valign="top" width="24%" height="98">

ละโดย​

ตทังคปหาน​

</td> <td align="center" bgcolor="#e4faec" valign="top" width="26%" height="98">

ละโดย​

วิกขัมตนปหาน​

</td> <td align="center" bgcolor="#faece2" valign="top" width="26%" height="98">

ละโดย​

สมุจเฉทปหาน​

</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" width="25%" height="98">

7. ธรรมอันเป็นปฏิปักษ์ต่อกิเลส​

(ชนิดของกิเลส)​

</td> <td align="center" bgcolor="#e9e9e9" valign="top" width="24%" height="98">

ละกิเลสชนิดวิติกกมะ​

(ที่จะออกทางกาย วาจา)​

</td> <td align="center" bgcolor="#e4faec" valign="top" width="26%" height="98">

ละกิเลสชนิด​

ปริยุฏฐาน​

(นิวรณ์ที่กลุ้มรุมจิต)​

</td> <td align="center" bgcolor="#faece2" valign="top" width="26%" height="98">

ละกิเลสชนิด​

อนุสัย​

(ที่อยู่ในสันดาน)​

</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" width="25%" height="59">

8. การชำระสังกิเลส 3​

</td> <td align="center" bgcolor="#e9e9e9" valign="top" width="24%" height="59">

ชำระสังกิเลส​

ที่เป็นทุจริต​

</td> <td align="center" bgcolor="#e4faec" valign="top" width="26%" height="59">

ชำระสังกิเลส​

ที่เป็นตัณหา​

</td> <td align="center" bgcolor="#faece2" valign="top" width="26%" height="59">

ชำระสังกิเลส​

ที่เป็นทิฏฐิ​

</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" width="25%" height="64">

9. เหตุแห่งความเป็นพระอริยบุคคล​

</td> <td align="center" bgcolor="#e9e9e9" valign="top" width="24%" height="64">

พระโสดาบันบุคคล​

พระสกทาคามีบุคคล​

</td> <td align="center" bgcolor="#e4faec" valign="top" width="26%" height="64">

พระอนาคามีบุคคล​

</td> <td align="center" bgcolor="#faece2" valign="top" width="26%" height="64">

พระอรหันต์บุคคล​

</td></tr></tbody></table>

 

พระอรหันต์แต่ละองค์ พระพุทธเจ้ายังมีอุบายสอนไม่เหมือนกัน

พระสูตรเดียวกันยังตรัสสอนไว้ตั้งหลายเรื่องหลายหมวด

ใครไม่เน้นทำอานาปานสติ ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร
ใครไม่เน้นทำจิตตานุปัสสนา ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร

ความถนัดในกรรมฐานหมวดไหน ก็เหมือนวิชาเฉพาะทาง


อะไรที่อยู่ในวงจรปฏิจสมุปบาท จะอยู่ในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต
ต่างก็นำมาใช้เป็นฐานในการเจริญวิปัสสนาได้ทั้งนั้น

ตัวที่ปรุงแต่งจิต ก็คือ ในหมวดหนึ่งก็คือ ตัณหา
ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า จิตมีโทสะ ก็รู้ว่าจิตมีโทสะนั่นเอง
(มันมีได้ทั้งในอดีต ในปัจุบัน และในอนาคต)

อดีตก็ไตรลักษณ์ ปัจจุบันก็ไตรลักษณ์ อนาคตก็ไตรลักษณ์
จิตอดีตก็ไตรลักษณ์ จิตปัจจุบันก็ไตรลักษณ์ จิตอนาคตก็ไตรลักษณ์
ลมหายใจอดีตก็ไตรลักษณ์ ลมหายใจปัจจุบันก็ไตรลักษณ์ ลมหายใจในอนาคตก็ไตรลักษณ์.


ปัจจุบันผมเป็นคนที่ไม่ค่อยได้ทำอานาปานสติ (แต่ในอดีตนั้นทำบ่อยๆ)
และไม่ได้เจริญอานาปานสติ เพราะทำแล้วบางทีอึดอัด ลมหยาบอัดอยู่ที่คอ
ก็ไม่ได้เป้นปัญหาอะไร (ทำแล้วทุกข์มากขึ้น = อัตตกิลมถานุโยค)

เพราะผมเจริญในหมวดอื่น ก็ไม่ได้เป้นปัญหาอะไร

 

ยกมาเฉยๆ ประกอบเป็นแนวทางเฉย ๆ ค่ะ แต่ใครจะจริตแบบไหน ก็แล้วแต่จริต
ของแต่ละคนที่จะเพียรต่อไปค่ะ ถือว่าเป็นกลางๆ แล้วกันนะคะ

 

น้อง ขอ 5 ที่ส่งผ่านสายแก้วใยนำแสงเลย

รอรับ ไม่ได้กิน ไม่จ่ายตัง

 

คะแนนเต็ม 10 ขอ 12 ได้ไหม อิอิอิอิ

 

ทันไหมนั่น
คำที่ฟังแล้วทำให้ ยินดี
กับ คำที่ฟังแล้ว ยินร้าย มันเป็นยังไง

 

จิ๊ดนึง 30/100 อืม เดี๋ยวชำเลืองแล้ว ชำเลืองอีกแล้วกัน
ลองใหม่

อาจจะลองทดสอบแผนใหม่ ดูผัสสะอาจจะจำได้แม่นกว่านี้

 

ก่อนเกิด กำลังเกิด หลังเกิด ทันไหม...หนอ....


^^

 

ก็ค่อยๆ ฝึกไปล่ะ ป้าแว๊ด

 

ให้ฝึกถึงไหนละคั๊ป พี่วิ๊ดนุ ^^

 

ก็...ถึงบางอ้อ

 

นั่งสมาธิแล้วตัวหายไป ไม่ใช่แค่เห็นแสงสว่าง

แต่มันขยายได้ด้วย อันนี้คือหยัง...อะคะ

 

ปรมัตถ์ คือสงสัย

 

อ้าว...แล้วเวลาปฏิบัติแล้วเราไม่รู้ ก็ไปหาอ่านตามหนังสืองี้ ก็เป็นสงสัยหรอ....

 

ปรมัตถ์ คือสงสัย
ที่เหลือ คืออาการจิต อุเพ็งคาปิติ (แต่ว่า เจตสิก(อาการจิต) ก็เป็นปรมัติถ์ด้วยนิ)
ถ้าอยู่กับปัจจุบันรู้ปรมัติถ์ไปเรื่อยๆ สงสัยรู้ว่าสงสัย ปิติ รู้ว่าปิติ อุเพ็งฯรู้ว่าอุเพ็งฯ หนอ
โอภาส รู้ว่าโอภาส ภวังค์รู้ว่าภวังค์ (อันนี้มั่วเอา รู้ได้ป่าว...ก็มิรู้นะ)

แม่นบ่อเจ้านาย ให้คะแนน หมูน้อยด้วย..ดิ
กะลังสอบปริยัติ ปฏิเวธ หนูยังไม่มีขอปริยัติติดตัวก็ยังดี

 

ถ้าแว๊ด ...ปฏิบัติไปเรื่อยๆ สังเกตุแม้กระทั้ง สงสัย ความรู้ ที่ผุดขึ้น มันจะทราบเอง เหมือนกับว่า เป็นความรู้ ที่ไม่ได้อยากให้มีแต่มันมี มันจะมากับ วิตก วิจารณ์ เมื่อเข้าปฐมฌาน ที่ชำนาญ
ตังฝึกสังเกตุ บ่อยๆ

 

แฮะๆ เอาเท่าไรดีล่ะคะแนน ..อิอิ