เมื่อพระยามัจจุราชมาทวงชีวิตข้าพเจ้า

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย tjs, 14 มิถุนายน 2013.

  1. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    สวัสดีครับพี่ผมกำลังหาโอกาสไปฝึกมโนที่บ้านสายลม

    อยากทราบว่าวาระจิตผมพร้อมที่จะฝึกหรือเปล่าครับพี่หรือต้องทำอะไรเพิ่มเติมอีกอยากไปแบบพร้อมๆ

    เวลาผมไม่ค่อยเอื้ออำนวยกลัวฝึกไม่ได้ครับ

    รบกวนพี่ตรวจดูให้ทีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2013
  2. SpringDove

    SpringDove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,488
    ค่าพลัง:
    +4,807
    ============

    หากร่างกายไม่เอื้ออำนวยก็ไม่เป็นไร ผมเชื่อว่า หากเราทำการฝึกสมาธิด้วยวิธีใดก็ตามย่อมให้ผลดีทั้งนั้น ดังนั้นจึงขอแนะนำต่อว่า
    ให้นอนฝึกสมาธิดังเดิม แต่ให้กำหนดจิตสวดมนต์ภาวนา และฝึกสมาธิด้วยการ นอนพิจารณาลมหายใจเข้าและออก ตามดูลมหายใจที่เข้ามาผ่านเข้าไปในร่างกาย แล้วดูว่าลมหายใจวิ่งออกมาสั้นยาวอย่างไร พิจารณาง่ายๆอย่างละเอียดเช่น ความสัจจริงเกิดขึ้นคือ
    1 เมื่อใดที่ลมหายใจเข้ายาวและลึก ลมหายใจออกก็จะยาวและลึก
    2เมื่อใดลมหายใจเข้าแผ่วเบายาวและลึก ลมหายใจออกก็แผ่วเบาจะยาวและลึก
    3เมื่อใดลมหายใจที่เคยยาวและลึก หากละเอียดขึ้น ลมหายใจจะค่อยสั้นลงและเบาลง
    4 เมื่อสติและจิตรวมเป็นหนึ่งในจุดใดจุดหนึ่ง ระบบการทำงานของร่างกายจะหยุดทั้งหมด แต่ระบบประสาทและจิตจะไปรวมอยู่แค่จุดเดียว ลมหายใจก็แผ่วลงเพราะไม่จำเป็นต้องการพลังงานหรือออกซิเจ่นอะไรมากมาย ครับ
    5เมื่อลมหายใจแผ่วลงเพราะกายสงบระงับลงการเผาผลาญพลังงานน้อยลง จนในที่สุด สมองก็จะทำงานน้อยลงเช่นเดียวกับหัวใจ เพราะจะทำงานแค่จุดเดียวที่จิตไปรวมอยู่ตรงนั้น
    6เมื่อสมองทำงานเบาลงเพียงจุดเดียวอย่างเดียว จิตรวมอยู่จุดเดียวกัน จิตที่เคยแผ่กระจายทั่วทั้งกาย ก็จะหดตัวรวมไหลมาอยู่จุดเดียว ตรงนี้สมาธิเกิดระดับฌาณ เวทนาความรู้สึกทางกายส่วนอื่นๆดับไปหมดแล้วเหลือเพียงจุดเดียวที่รวมกันอยู่
    7เมื่อจิตรวมเป็นหนึ่งเดียวจุดเดียว ขณะนี้สมาธิดิ่งลึกลงสู่ระดับฌาณ ไล่ลำดับลงไปอีก ตามวิตก วืจารณ์ ปิติ สุข เอกคตา ว่าง อยู่ภายใน
    8 เมื่อจิตมีกำลังมาก อภิญญาจะเกิดของมันเอง จิตทำหน้าที่ของมัน เพราะมันมีอิสระเหนื่อกายเวทนาแล้วนั่นเอง แต่จะเป็นฤทธิ์ นิมิตแบบใดก็สุดแท้แต่ความบริสุทธิ์ของจิตและอุปกิเลสอย่างละเอียดที่อยู่กับจิตมานานปรุงแต่งจิตครับ

    ลองทำตามที่กระผมกล่าวมาดูนะครับ สาธุ
    [/QUOTE]

    เข้ามาอ่านตั้งแต่วันแรกแล้วนะคะ ขอบพระคุณที่กรุณาชี้แนะค่ะ ลองฝึกดูแล้ว แต่ยอมรับว่ายังไม่ค่อยผ่านด่านดีเท่าไหร่ค่ะ แต่ดีขึ้นกว่าเดิมนิดหนึ่ง...จะพยายามต่อไปค่ะ อนุโมทนาสาธุค่ะ
     
  3. SpringDove

    SpringDove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,488
    ค่าพลัง:
    +4,807
    อนุโมทนาสาธุ กับคุณtjs ที่ท่านมีปัญญาดีเลิศ และ เมตตาแบ่งปันชี้แนะแนวทางให้เพื่อนมนุษย์ค่ะ
     
  4. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ===============

    ขออนุโมทนาครับ พื้นฐานมีอยู่แล้ว ขอให้ลองไปฝึกมโนมยิทธิ ดูครับ อย่างน้อย เมื่อกลับมาก็จะสามารถนำเอาความรู้วิธีการนำมาฝึกฝนต่อได้ครับ หากฝึกฝนอย่างตั้งใจทุกวัน ไม่เกิน1เดือนก็จะเริ่มทำได้ครับ แต่ยังไปไกลไม่ได้ ลองฝึกในชั้นใกล้ๆเช่น ฝึกไปยังชั้นจาตุมหาราชิกา ก่อนเป็นต้นครับ
     
  5. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    ครับผมขอบคุณครับ
     
  6. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    มีสหายธรรมถามว่า กิเลส ทั้งสามคือโลภ โกรธ หลง นั้น กิเลสอย่างไหนที่น่ากลัวที่สุดมีโทษหนักที่สุด กระผมจึงได้อธิบายไปว่า กิเลสทั้งสามนั้นขออธิบายความหนักเบาตามลำดับขั้นดังนี้ คือ
    1 ความโลภ ให้โทษเพราะเกี่ยวเนื่องด้วยทรัพย์สินหรือวัตถุสิ่งของเป็นส่วนใหญ่ แก้ไขด้วยการฝึกให้ทาน จาคะเสียสละจึงแก้ไขได้ไม่ยากนัก
    2 ความโกรธ มีโทษหนักขึ้น เนื่องจากเป็นอาการที่เกิดกระทบกับจิตซึ่งจะส่งผลให้เกิดการคิดอาคาด พยาบาท ส่งผลกระทบทั้งกาย วาจา ใจ แต่ทว่าความโกรธนั้นเกิดขึ้นดับลงตามระยะเวลาชั่วขณะหนึ่งเท่านั้นสั้นยาวแล้วแต่เหตุปัจจัย สามารถแก้ไขด้วยการเจริญเมตตาหรือพรหมวิหารธรรมเป็นต้น
    3 ความหลง มีโทษที่หนักที่สุดเนื่องจากหากพิจารณาให้ดีแล้ว ความหลงเป็นสภาวะที่เรากระทำผิดพลาดลงไป โดยไม่รู้ตัวไม่รู้ว่าตนกำลังทำผิด และความหลงก็ให้ผลที่กระทบทั้ง กาย วาจา ใจ ที่หนักเบาตามเหตุปัจจัย แต่เพราะการไม่รู้ตัว จึงกลายเป็นการทำผิดอยู่สม่ำเสมอ ไม่จบสิ้น เพราะความไม่รู้ตัวจึงไม่สามารถหลุดพ้นจากบาปกรรมที่ตนทำอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งแตกต่างจากการทำผิดแบบที่รู้ตัว เพราะเมื่อเรารู้ตัว ก็ย่อมจะหาทางแก้ไขปรับปรุงให้ลดละเลิกในที่สุดได้ ดังนั้นความหลง จึงมีโทษที่หนักมากที่สุด
    อนึ่งความหลง นั้นมีมากมายเช่นหลงในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส หรือแม้การหลงในความคิด ที่เรียกว่าความเป็นมิจฉาทิฏฐิ อันเป็นความหลงผิด ซึ่งมีโทษหนักมากเช่นกัน
    การแก้ไขความหลง นั้น อาศัยการเจริญสติปัญญา หรือการเจริญสมถะและวิปัสสนากรรมฐานเท่านั้น จึงจะก่อให้เกิดปัญญา สามารถดับความหลงได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ง่ายต้องอาศัยความเพียรประกอบด้วยนั้นเองครับ สาธุ
     
  7. อยู่ที่จิต

    อยู่ที่จิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2013
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +163
    รบกวน คุณ tjs ตอบคำถ้าเพื่อเป็น แนวทางในการปฏิบัติ ดัวยครับ
    ผมเกิด 14 ก.ย. 2523 วันอาทิตย์

    1. เวลา ผมเริ่มสวดมน ทุก ครั้ง จะมีอาการ ชาที่แผ่นหลัง ทุก ครั้ง ไม่ทราบเป็นเพราะ อะไร ครับ
    2.หลังจากสวดมนเสร็จ จะนั้งสมาธิ ต่อ ครับ และจะเกิด อาการเหมือน มีไฟฟ้า สถิต ที่กลาง กระหม่อม ทุกครั้งไป
    3.รบกวนแจ้แนวทาง การปฎิบัติ ของผมด้วยครับ ควรปฎิบัติเช่นไร
    4.เทพประจำตัว หรือ ครูบาอาจาร์ หลัก ของผม คือ ท่านใด้ครับ
    5.อดีดตะชาติ ผมเป็น ใคร และมีเจ้ากรรมนายเวร ตามมาหรือเปล่า ครับ และควรทำอย่างไร ครับ
    รบกวนด้วยครับ และ ขอให้ท่าน tjs เจริญในธรรม สืบไปครับ

    ข้าม
    เด็กน้อยในแดนธรรม
     
  8. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    ขออนุญาตินำไปแบ่งปันให้ผู้ที่ไม่ได้เข้ามาอ่านได้ไหมคะ
     
  9. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    =================

    ยินดีและขอร่วมอนุโมทนาด้วยครับ สาธุ ครับ
     
  10. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ทุกลมหายใจ เข้าและออก
    ทุกย่างก้าวที่ก้าวเดิน มีผิดถูก ดีชั่ว พอใจไม่พอใจ สมหวังหรือผิดหวัง

    ทุกย่างก้าวของชีวิตจึงเป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้ไม่จบสิ้น และสำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดทั้งหมดคือ การเรียนรู้ว่า จิตของท่านมีสภาพเป็นอย่างไร เมื่อท่านเรียนรู้จิตของท่านมากขึ้น ท่านก็จะรู้ว่ามันทำงานอย่างไร และรู้ดีพอว่าจะควบคุมมันอย่างไร ให้ดีงามยิ่งๆขึ้นไป

    จนที่สุดคือการเกิดเป็นสติปัญญาเรียนรู้ว่า ต้อง ละและปล่อยวางทุกย่างก้าวของชีวิตลงอย่างไร เพื่อความเป็นผู้ไม่มีทุกข์หรือสุขหรือสิ่งใดให้หลงเหลือติดอยู่ในจิตของตน เพื่อรักษาจิตตน ให้สะอาดขาวรอบเป็นปกติเสมอเช่นนี้ตลอดไปครับ สาธุ
     
  11. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    วัดเทพนิมิต เป็นอีกวัดหนึ่งที่น่าไปกราบไหว้พระและทำบุญ ที่ฉะเชิงเทรา มีพระนอนกระจก ที่ศักดิ์สิทธิ มากครับ ใครว่างๆผ่านไปก็อย่าลืมแวะเข้าไปนะครับ อยู่ตรงข้ามกับตลาดน้ำ เป็นตลาดเก่าบ้านใหม่ ร้อยปีครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • banmai21.jpg
      banmai21.jpg
      ขนาดไฟล์:
      141.5 KB
      เปิดดู:
      98
  12. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    ขอเชิญร่วมทอด กฐินแสนกอง พ.ศ. 2556 ปีที่ 8

    ขอเชิญร่วมทำบุญ "กฐินพลังจิต ๑๐ ปี" (๑๐ ปีมีครั้งเดียว)

    พี่ผมทำบุญกฐิน2กองโอนเงินไปแล้ว อุทิศให้ผู้มีคุณทุกท่าน

    ร่วมโมทนากับผมนะพี่
     
  13. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    พี่ครับผมได้คำแนะนำการปฎิบัติตามแนวทางหลวงพ่อจากสหายธรรม

    ท่านหนึ่งก็เลยถามถึงพ่อผมให้เขาตรวจดูให้เขาบอกว่าเป็นนาคสีเขียวชั้น

    จาตุมหาราชเลยคิดว่าสงสัยส่งบุญใหญ่ไปให้เลยได้ปรับภพภูมิต่อให้ปรับภพภูมิก็น่าจะได้ไปที่สูงกว่านี้

    รบกวนพี่ดูหน่อยครับว่าตรงกันไหมครับ

    ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กันยายน 2013
  14. boonnippan

    boonnippan ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +1,099
    *********
    เรียนถามท่าน tjsที่เคารพ
    การที่เราเริ่มปฎิบัติสายสมถะโดยวิธีอาณาปานสติ ควรให้ก้าวหน้าถึงฌานสี่ก่อนใช่มั๊ยคะ แล้วจุดไหนที่ควรบรรจบหาวิปัสนา และในขณะนี้ดิฉันควรทำอย่างไรต่อคะ กราบขอบพระคุณค่ะ
     
  15. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ================

    จากที่ตรวจในสมาธิ ท่านเลื่อนภูมิสูงขึ้น กายทิพย์ท่านเป็นเทพชุดขาวเป็นชายวัยเลยกลางคนไป แต่ยังไม่ชรามาก แต่ท่านมีฤทธิ์ สามารถจำแลงกายท่านได้ตามที่ท่านปราถนา ซึ่งจากที่ถามท่าน ท่านชอบกายทิพย์ที่แสดงเป็นพญานาค เท่านั้น ซึ่งมีสีเขียวเข้มออกนิลครับ ท่านอยู่ชั้นจาตุมมหาราชิกาครับ สาธุ
     
  16. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    ขอบคุณครับสักวันผมต้องไปเยี่ยมท่านให้ได้

    ต้องฝึกให้หนักเรื่องบุญต้องอุทิศให้บ่อยๆจะได้อยู่เป็นกัปๆเอาให้จุติแล้วจุติอีก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2013
  17. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    =================

    ในการสอนของพระพุทธองค์ ท่านสอน ทั้งเรื่องสมาธิ และเรื่องวิปัสสนา
    1เรื่องสมาธิ ท่านสอน ตั้งแต่สมาธิขั้นต้น ขณิกะ อุปจารณ์ จนเริ่มฌาณ1-4และ5-8 เมื่อไปถึงฌาณ8แล้ว ก็สุดทางแล้ว ยังไม่หลุดพ้นเพราะ อวิชายังไม่ดับสนิท ท่านจึง กล่าวสอนให้เดินปัญญาด้วยวิปัสสนา
    2 เรื่อง วิปัสสนา ท่านสอนให้มีการฝึก ตามรู้กาย รู้ การกระทบของกาย รู้จิตของตน รู้ ธรรมมารมณ์ที่เกิดดับ การฝึกรู้ดังกล่าวนี้เองเป็นบ่อเกิดของปัญญาที่สามารถดับอวิชา ตัณหาอุปทานได้ ครับ จึงสามารถหลุดพ้นทุกข์ได้ครับ

    แต่ทั้งการฝึกสมาธิและวิปัสสนานั้น ต้องเริ่มต้นจากการฝึกสติ เพราะสติเป็นบ่อเกิด ของสมาธิและวิปัสสนา จนที่สุดพระพุทธองค์กล่าวว่า สตินั้นแลคือบ่อเกิดแห่งปัญญา ครับ

    จากคำถามว่าหากเดินอาณาปานสติ ได้แล้วจะไปต่อในวิปัสสนาอย่างไร ขออธิบายว่า

    เมื่อเราฝึกอาณาปานสติ ได้แล้ว อาณาปานสตินั้นมีประโยชน์มาก เพราะจะเป็นรากฐานของสมาธิที่ก้าวสู่ระดับฌาณได้ง่ายและรวดเร็ว อีกทั้ง สติที่เกิดดีแล้วสม่ำเสมอแล้ว เมื่อสติดีพร้อมแล้ว ย่อมก้าวไปสู่วิปัสสนาได้ง่ายเช่นกัน

    จากตรงนี้ให้ฝึกคือ ให้น้อมสติและจิต เข้าไปตามดูตามรู้กาย รูปกาย กายธาตุ ของตน ดูสภาพของกาย ดูการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อมดับไป เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ที่สุดจะเกิดปัญญารู้แจ้งในกาย ที่สุดคือจะเห็นว่ากายนี้ไม่ใช่ตน ของตนของใคร
    ตรงนี้คือให้เดินสติปัฏฐาน4 ต่อนั่นเองครับ
    เมื่อดูกายจนรู้แจ้งหมดสิ้นแล้ว ให้ฝึกฝนต่อคือ การตามรู้เวทนาในกายที่กระทบจิตครับ
    ต่อไปก็ให้ตามรู้ จิต คือกำหนดจิตตามรู้สภาวะการทำงานของจิตของตน เป็นจิตดูจิต ตรงนี้จะเป็นเรื่องที่ละเอียดมาก เราจะพบว่าธรรมชาติของจิตตนเป็นอย่างไร ตรงนี้จะเกิดปัญญารู้ทันสภาวะจิตตน และเริ่มรู้วิธีชำระควบคุมจิตให้สะอาดบริสุทธิ์จากกิเลสได้
    สุดท้ายเป็นการฝึกสติตามรู้ เป็นการรู้แจ้งในธรรมารมณ์ที่ปรุงแต่งจิต ทั้งแบบหยาบคือภายนอกที่วิ่งไปมา แบบปานกลางคือภายในที่เกิดขึ้น และละเอียดคือสามารถรู้ลึกถึงเจตสิก ที่ประกอบอยู่กับจิตที่ปรุงแต่งจิตเป็นธรรมารณ์ที่เกิดขึ้นต่างๆได้

    ดังนั้นจากสิ่งที่กระผมกล่าวมาพอจะเป็นแนวทางให้ก้าวเดิน แต่การเข้าไปรู้ การเข้าไปเห็นสภาพความเป็นจริงทั้งหมดจึงเป็นเรื่องที่คุณต้องเพียรปฏิบัติ และแน่นอนว่าจะมีเพียงคุณเท่านั้นที่รู้รายละเอียดต่างๆได้เอง [วิญญูหิติ] เพราะเป็นของเฉพาะตน ครับ สาธุ

    แม้ธรรมที่ปรากฏจะแตกต่างกันบ้างตามสภาพเหตุปัจจัย แต่แก่นแท้ของธรรม นั้นเป็นหนึ่งเดียวกันครับ ผู้ปฏิบัติธรรมย่อมรู้และเข้าใจในสิ่งเดียวกันได้โดยง่ายนั่นเองครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2013
  18. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ================

    ก่อนอื่นต้องขออภัยที่ตอบช้าไปครับ จากการตรวจสอบขออธิบายดังนี้ครับ
    1. เวลา ผมเริ่มสวดมน ทุก ครั้ง จะมีอาการ ชาที่แผ่นหลัง ทุก ครั้ง ไม่ทราบเป็นเพราะ อะไร ครับ

    อาการชา เกิดได้หลายสาเหตุ ส่วนมากเป็นเพราะการที่กล้ามเนื้อหลังทำงานหนักไปหรือ เกิดการเกร็งตัวทำให้ชาได้ครับ ควรแก้ไขด้วยการฝึกนั่งตัวตรงแล้วถ่ายน้ำหนักให้ลงตรงก้นกบ นะครับ น้ำหนักจะสมดุลจะไม่ปวดชา และหากเข้าสมาธิได้เร็ว จิตตัดเวทนาได้ก็ไม่มีความรู้สึกชา คือจะหายไปเองครับ ไม่มีอะไรอันตรายครับ

    2.หลังจากสวดมนเสร็จ จะนั้งสมาธิ ต่อ ครับ และจะเกิด อาการเหมือน มีไฟฟ้า สถิต ที่กลาง กระหม่อม ทุกครั้งไป

    ตรงนี้เกิดจากอำนาจสมาธิที่ยังเกิดต่อเนื่อง อันเกิดจากการไปกำหนดจุดศุนย์รวมจิตขณะทำสมาธิไว้ที่หน้าฝากหรือกระหม่อมครับ การจะให้หาย ต้องฝึกสมาธิแบบไม่เพ่ง แต่ให้เป็นแบบสมาธิที่อ่อนโยนสงบนิ่ง เยือกเย็นให้แผ่กระจายจากจุดรวมไปทั่วทั้งกายครับ ก็จะหายครับ สมาธิที่ดีต้องอ่อนโยน สงบนิ่งลุ่มลึกครับ จะมีพลังมากกว่าแบบเพ่งหรือแข็งกร้าวครับ

    3.รบกวนแจ้แนวทาง การปฎิบัติ ของผมด้วยครับ ควรปฎิบัติเช่นไร

    แนะนำไปบ้างแล้ว แต่เน้นให้เจริญอาณาปานสติ จะรวมสมาธิจิตไว้ที่หน้าฝากหรือที่ไหนก็ได้ให้ฝึกรวมสมาธิให้เป็นหนึ่งเดียวให้ได้ก่อนครับ เมื่อสมาธิรวมแล้ว ก็จะสงบนิ่งไม่รับรู้สภาวะอื่นๆและจิตก็ไม่ไหลไปที่อื่น จิตจะรวมอยู่ที่ฐานที่กำหนดเท่านั้น หากทำชำนาญต่อเนื่องได้แล้ว ก็จะเข้าสู่ฌาณ1ต่อไปได้ครับ ตรงนี้ให้ฝึกสติปัฏฐาน4ควบคู่ไปด้วยกับการทำสมาธินะครับ แล้วจะเกิดปัญญาประกอบ ดียิ่งๆขึ้นไป ให้ทำสลับกันครับ

    4.เทพประจำตัว หรือ ครูบาอาจาร์ หลัก ของผม คือ ท่านใด้ครับ

    เทพประจำตน มีปู่ฤาษีตาไฟ พระศิวะ พระอุมาเทวี ขอให้ฝึกสมาธิตามที่กระผมบอก ของคุณเป็นไปในทางอทธิฤทธิ์ แต่พื้นฐานยังไม่ดีมากนัก ขอให้ลองฝึกสมาธิทุกวัน ให้ฝึกกสินไฟ ด้วยการมองไฟเปลวเทียว ท่านปู่จะนำคุณและทำได้สำเร็จครับ ต้องใช้เวลานะครับ ให้ถือศีล5และ8หรือมังสะวิรัติ ตามโอกาสที่เหมาะสมครับ ห้ามฆ่าสัตว์ดโดยเด็ดขาดครับ


    5.อดีดตะชาติ ผมเป็น ใคร และมีเจ้ากรรมนายเวร ตามมาหรือเปล่า ครับ และควรทำอย่างไร ครับ

    ข้อนี้ยังตอบไม่ได้เพราะขอเวลาตรวจสอบให้อีกทีครับ ไม่เกินวันจันทร์ครับจะแจ้งให้ทราบครับ ตัวคุณมีโรคประจำตัวสุขภาพไม่ดีเป็นบางช่วงเวลาที่กรรมเก่าให้ผลเพราะฆ่าสัตว์ ต้องแก้ไขด้วยการทำบุญสม่ำเสมอ ภาวนาสม่ำเสมอแล้วอุทิศให้เจ้ากรรม จะดีมากครับ ควรดูแลสุขภาพให้ดีนะครับ ไม่ควรให้ผอมหรืออ้วนมากไปจะไม่ดีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2013
  19. dechay

    dechay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +132
    รบกวนหน่อยค่ะพี่ หนูส่งpmขอคำแนะนำไปแล้วค่ะ
    อันนี้หนูลืมถามพี่ค่ะ รบกวนอีกครั้งค่ะ

    คือหนูมักจะมีป่วยเป็นไข้ ไม่สบาย หลังจากมีรอบเดือนมา 3 เดือนแล้ว จะดป็นเวลาเดียวกันทุกเดือนเลยด้วย อยากทราบว่าเป็นเพราะอะไร และควรแก้ไขอย่างไรดีค่ะ

    ตอนนี้เวลาที่นั้งสมาธิหนูจะกำหนด พองหนอ-ยุบหนอค่ะ แต่ก่อนหน้านี้หนูฝึกพุทโธ น่ะค่ะ อยากทราบว่าหนูควรจะฝึกแบบไหนจึงจะเหมาะกับหนู เพื่อให้เกิดปัญญาสามารถแกปัญหาในชีวิตได้ค่ะ

    ขอบคุณมากค่ะ
     
  20. อยู่ที่จิต

    อยู่ที่จิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2013
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +163

    ขอบพระคุณ...คุณ tjs มากนะครับ ผมจะนำไปปฎิบัติ เพื่อพัฒนาจิตและสมาธิ ให้ดียิ่งขึ้น ครับ บุญใดกุศลใด ที่ผมได้บำเพ็ณเพียร มาจงส่งผลให้ คุณ tjs จงสมประสงค์ กับทุกจิตที่ตั้งมั่น เพื่อเป็นธรรมทาน กับทั้ง สามโลก ด้วยเทอญ.......สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...