เรียนพระอภิธรรมกันเถอะค่ะ ปริยัติ และ ปฏิบัติไปด้วย

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Mantalay, 12 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    จองไว่้เท่านั้น...เพราะกระทู้เลื่อนไว.....อธิบายไปแล้วครับ...
     
  2. สปาต้า

    สปาต้า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +46
    จิตเป็นตัวรับอารมณ์ เจตสิกคืออารมณ์ปรุงแต่ง จะเปรียบเทียบให้

    จิต เหมือนน้ำที่สะอาดใส
    เจตสิก เหมือนน้ำสีต่าง

    เมื่อเอาน้ำสีแดง(เจตสิก)เทลงในน้ำสะอาด(จิต) ก็เรียก น้ำแดง
    จิตก็เหมือนกันเมื่ออารมณ์ใดเข้ามาให้จิตรับรู้อารมณ์นั้น ก็เรียกตามนั้น เช่น โกรธ
     
  3. หมูดิน1

    หมูดิน1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2011
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +863
    อภิธรรมความหมาย

    พระอภิธรรมปิฏก ขื่อธรรมะชั้นสูงมี๗ คัมภีร์ได้แก่ ๑ สังคณี ๒ วิภังค์ ๓ ธาตุกถา ๔ปุคคลบัญญัติ ๕ กถาวัตถุ ๖ ยมก ๗ ปัฏฐาน นิยมไช้ในงานศพ

    เริ่มเครียดกันหรือยัง

    เริ่มจะลด จะละ กิเลสกันได้หรือย หุหุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 907104815.gif
      907104815.gif
      ขนาดไฟล์:
      24.4 KB
      เปิดดู:
      110
  4. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ท่านทั้งหลายต่างศึกษากันมานั้นมากแล้วนะครับ....แต่อย่าได้เพียงแต่ศึกษากันนะ......อย่าลืมนำมาปฏิบัติให้เกิดผลกันด้วยนะ......จะได้ถือว่าเป็นผู้ที่ไม่เสียชาติเกิดที่มาพบพระพุทธศาสนากันนะครับ.....

    เป็นกำลังใจให้ทุกท่านได้ปฏิบัตินะครับ....
     
  5. สปาต้า

    สปาต้า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +46
    รู้ไหมว่า พระพุทธเจ้าเทศน์ พระอภิธรรม กี่ครั้งที่ไหนบ้าง เทศน์ให้ใครฟังบ้าง
     
  6. หมูดิน1

    หมูดิน1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2011
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +863

    จ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา (แยกโมเลกุลกิเลส)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 914134717.gif
      914134717.gif
      ขนาดไฟล์:
      18.5 KB
      เปิดดู:
      108
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2011
  7. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ปริยัติ หมายถึงอภิธรรมอย่างเดียวหรือ..
    ที่จริง ปริยัติ มีตั้งแต่คำสอนง่ายๆ ไปถึงยาก
    แม้แต่การไปปฏิบัติโดยไม่รู้อะไร
    ครูผู้สอน ก็คือปริยัติ มีหน้าที่บอกสอนข้อที่ผู้ปฏิบัติติดขัดอยู่
    ถ้าไม่บอก ไม่มีครู งมเอาเอง ... จะไปได้เร็วหรือไม่ หรือหลงป่า ก็คงต้องขึ้นกับตัวเขา

    อนุโมทนาสำหรับผู้เรียนอภิธรรม หรือฝึกสมาธิจนถึงอภิญญา แล้วนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2011
  8. หมูดิน1

    หมูดิน1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2011
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +863
    จิต หมายถึง ธรรมชาติที่รู้อารมณ์ สภาพที่นึกคิด หรือใจ ตามหลักฝ่ายอภิธรรม จำแนกจิตเป็น๘๙ (หรือพิศดาร๑๒๑) แบ่งโดยชาติ เป็นอกุศลจิต๑๒ กุศลจิต๒๑ (พิศดารเป็น๑๗) วิตปากจิต๑๗และกริยาจิต๒๐ แบ่ง โดยภูมิ เป็นกามาวจร๑๕ อรูปวจรจิต๑๒ และโลกุตระจิต๘(พิศดาร๔๐)

    ใกล้ ๑๐๘ ๑๐๐๙ ดวงจิตหรือยัง ถ้ายัง เด๋วนำเสนอต่อนะ หุหุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 906433868.gif
      906433868.gif
      ขนาดไฟล์:
      2.6 KB
      เปิดดู:
      108
  9. สปาต้า

    สปาต้า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +46
    ปริยัติ คือ การเรียนรู้ธรรม ให้ "รู้จัก"

    ปฏิบัติ คือ การลงมือทำ ให้ "รู้จริง"

    ปฏิเวธ คือ การผลุดขึ้นมาเอง เมื่อ "รู้แจ้ง"
     
  10. Mantalay

    Mantalay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,065
    เรียนพระอภิธรรมกันเถอะค่ะ ปริยัติและปฏิบัติไปด้วย

    ขอถามค่ะ อยากทราบขอแตกต่างระหว่างคนที่เรียน

    ปริยัติ กับคนที่ไม่ได้เรียน เวลามาปฏิบัติ คนเรียนปริยัติมาจะมีผลดีต่อการปฏิบัติอย่างไร

    คนที่ไม่ได้เรียนปริยัติมาจะเจอปัญหาอะไรบ้างค่ะ ขอบพระคุณค่ะ







    chaiyut

    วันที่ 11 ก.พ. 2554 08:59

    ความคิดเห็นที่ 5

    [​IMG] <INPUT class=noborder type=checkbox align=middle value=5 name=c_sel[5]>


    ถ้าเราเรียนปริยัติถูกต้อง คือ เรียนจากพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดง มีการตั้งจิตไว้ชอบ คือ รู้ว่าเป็นสัจจะ หาฟังได้ยาก จึงศึกษาด้วยความเคารพนอบน้อมจริงๆ ไม่ศึกษาเพื่อเหตุแห่งลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ไม่ศึกษาเพื่อพอกพูนกิเลส มีความสำคัญตน เป็นต้น ไม่ศึกษาแบบจับงูพิษข้างหาง แต่ศึกษาเพื่อเป็นที่พึ่ง เป็นสรณะ รู้จุดประสงค์ที่ถูกต้องของการศึกษาธรรม ว่าเพื่อเข้าใจถูก เพื่อละความไม่เข้าใจ เมื่อเรียนแล้วค่อยๆ เข้าใจถูกตามปริยัติที่ได้เรียน ปัญญาก็จะค่อยๆ ละทิ้งข้อปฏิบัติที่ผิด ผลก็คือสามารถปฏิบัติถูกต้องตามหนทางพ้นทุกข์ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ได้ จึงทำให้เกิดการละเว้นอกุศลกรรม เจริญปัญญา เจริญกุศลทุกประการ ขัดเกลากิเลสที่มีในชีวิตประจำวัน เพื่อเป็นปัจจัยให้ถึงการดับกิเลสในภายภาคหน้า

    แต่ผู้ที่ไม่ได้เรียนปริยัติ แล้วอยู่ๆ ไปปฏิบัติ โดยไม่มีความรู้ ไม่มีความเข้าใจในพระธรรมคำสอนที่ถูกต้อง ปัญหาที่พบ ก็คือ จะปฏิบัติผิด, จะสะสมความเห็นผิด,จะพอกพูนการยึดมั่นในข้อปฏิบัติที่ผิดนั้นครับ ผลก็คือ ทำให้ไม่พ้นทุกข์, ทำให้ความไม่รู้และอกุศลต่างๆ มีมากยิ่งขึ้น และทำให้ต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะเนิ่นนานต่อไปไม่สิ้นสุดครับ เพราะฉะนั้น ถ้าเราจะตั้งต้นเรียนปริยัติ ก็เรียนปริยัติที่ถูกต้องจะดีกว่า ถ้าไป

    เรียนปริยัติแบบผิดๆ จะมีโทษมากกับตนเองและผู้อื่นที่เราแสดงสิ่งผิดๆ ให้เขาฟังครับ


    จาก เวป บ้านธัมมะ

    ยกมาให้อ่านกันหน้าสองค่ะ อ่านหัวข้อกระทู้ด้วยค่ะ

    เพราะว่าคนที่ได้ประโยชน์ หรือเสียประโยชน์ ไม่ได้อยู่ที่ตัวผู้ที่ตั้งกระทู้ มันเป็นเรื่องของท่าน แค่มาชวน ใครใคร่เรียน เรียน
    ใครเห็นว่า ไม่ต้องเรียน ก็ไม่ต้องเรียน เชิญตามสะดวกค่ะ
    สิ่งใดที่คิดว่า ดี ก็ดี สิ่งใดที่คิดว่า ไม่จำเป็น ก็ไม่จำเป็นค่ะ แล้วแต่อัธยาศรัยของแต่ละท่าน

    ผู้ที่เรียนนั้น เค้าเรียนไป ปฏิบัติกันไป สำหรับผู้ที่ต้องการหลุดพ้นจริงๆ สำหรับคนเรียนเหตุผลอื่น ไม่ใคร่อยากทราบ ไม่คิดจะไปค้นหามาทราบ เพราะไม่เกิดประโยชน์แก่ตนเอง

    และผู้ที่ต้องการปฏิบัติ ก็มีสถานที่รองรับ สะดวก พ่อแม่ครูอาจารย์ก็มีในการปฏิบัติ เช่น วัดมเหยงค์

    การโต้แย้งของท่าน การมีเหตุผลของท่าน มันไม่ได้อะไรแก่ใคร มันได้แก่ตัวท่าน ท่านคิดอย่างไร ท่านก็ทำตามที่ท่านคิด และท่านก็ได้รับผลอย่างที่คิดที่ทำ มันไม่เกี่ยวกับเรา เรามีหน้าที่ชวน เราก็มาชวน ก็เท่านั้น

    ผู้ที่อ่าน ก็คงจะต้องคิดวิเคราะห์กันไป ถ้าท่านอยากเรียนอยู่และมาเจอ เหตุผลต่างๆ เหล่านี้ ท่านก็วิเคราะห์เอาเองค่ะ ตัวแปรต่างๆ ที่ทำให้เรื่องนี้ดีหรือไม่ดี ล้วนเกิดจากตัวท่านเอง ถ้าท่านคิดว่าเป็นเรื่องดี ก็ดีค่ะ

    เชิญแสดงความคิดเห็นเต็มที่ค่ะ ที่นี่ไม่มีการขัดใจ
    ท่านเห็นว่าสิ่งใดดี สิ่งนั้นดีค่ะ
    เพราะเราเชื่อว่า ถ้าเหตุดี ผลย่อมดีค่ะ

    <SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("ads_core.google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>
    <SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2011
  11. สปาต้า

    สปาต้า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +46
    จิตเดิม ใสสะอาด แต่สิ่งที่จรมาได้ บัญญัติ ให้เรียกกัน เป็นนามต่อท้าย

    เช่น คน คนนี้ชื่อแดง คนนี้ชื่อดำ คนนี้ชื่อขาว แต่ นายแดง นายดำ นายขาว เป็นชื่อ บัญญัติให้เรียกกัน
     
  12. หมูดิน1

    หมูดิน1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2011
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +863
    เริ่มงงตัวเองยังครับ หุหุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 906433868.gif
      906433868.gif
      ขนาดไฟล์:
      2.6 KB
      เปิดดู:
      106
  13. สปาต้า

    สปาต้า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +46
    บอกแล้วว่า พระอภิธรรม เป็นธรรมที่เข้าใจยากสำหรับ ผู้เริ่มปฏิบัติแม้ปฏิบัติมานานก็ยังยากแก่การเข้าใจ

    การเรียนปริยัติ ขอแนะนำเริ่มที่คำสอนของครูบาอาจารย์ โดยเพิ่มความมั่นใจนำไปเทียบเคียงกับพระสูตร

    ถ้ามุ่งเรียนพระอภิธรรม โดยพื้นฐานไม่แน่นไม่เข้าใจ จะทำให้การปฏิบัติเนิ่นช้ากว่า เรียนพระสูตร

    84000 พระธรรมขันธ์ ใช่อยู่อภิธรรมมีมากสุดแจกแจงละเอียด มากกว่า พระสูตร

    พระพุทธเจ้าทรงเทศน์ ธรรมในพระสูตร บุคคลบนโลกมนุษย์ บรรลุมรรคผลมากกว่าอภิธรรม

    ส่วนพระอภิธรรม พระพุทธเจ้าเทศน์สอนพระมารดา บนสวรรค์ เหล่าเทพเทวดา พรหม ได้มากกว่ามนุษย์ไม่ได้ยิน
     
  14. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    อย่าไปคิดว่ายากสิครับ....เขาทำได้ทำไมเราจะทำไม่ได้หละ....

    อย่าไปคิดว่าเราอาภัพ...ใครไปรู้...ตอนที่พระพุทธเจ้าท่านทรงแสดงพระธรรมเทศนาอยู่บนสวรรค์นั้น...เราทั้งหลาย..หลายคนที่นี่อาจได้รับโอกาศฟังธรรมนั้นแล้ว...ระยะเวลาผ่านพบภูมิ....ทำให้เราอาจที่จะลืมไปบ้างเท่านั้น...ก็อาจเป็นได้นะท่าน....

    ค้างคาวในถ้ำห้าร้อยตัวเพียงได้สดับพระสงฆ์ท่านทบทวนพระอภิธรรมในถ้ำ...กลับชาติมาเกิดเป็นศิษย์ในสำนักพระสารีบุตร....แต่ละท่าน...สุดยอด.....อันนั้นขนาดว่าฟังแบบไม่ตั้งใจ...ไม่รู้ความหมาย...แต่ใจน้อม....


    ถ้าว่ายากขนาดที่เพียรอย่างไรก็ยังศึกษาไม่ได้นี่..ต้องมาพิจารณาตนนะ....ทำไมเขาเรียนกันได้เราเรียนไม่สำเร็จ.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2011
  15. สปาต้า

    สปาต้า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +46
    ไม่ใช่เช่นนั้น หมายถึงยากแก่ส่วนรวม ไม่ใช่ว่าเรียนไม่ดี ต้องแล้วแต่ อัธยาศัย เช่น
    ธุดงค์ พระพุทธเจ้าก็ไม่ทรงห้ามหรือปฏิเสธ ใครมีอัธยาศัยก็แล้วแต่ บุคคลนั้นๆ
    ก็ใช่อยู่หลายท่าน อาจจะเคยอยู่บนสวรรค์ครั้งที่พระพุทธเจ้าเทศน์พระอภิธรรม
    แล้วบนโลกมนุษย์ละ บรรลุเพราะพระสูตร หรือ พระอภิธรรม มากกว่า ต้องชั่งดู
    เรื่องยากไม่ยาก ไม่ยากหรอกถ้ามีความตั้งใจ แต่ผู้ปฏิบัติย่อมรู้ดีว่า ควรศึกษาจากง่ายไปตามลำดับ
     
  16. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    สาธุครับ...............

    ผมเพียงแค่พูดไว้...เพื่อให้...ผู้ที่ต้องการเพียรศึกษาได้ไม่เสียกำลังใจ...
     
  17. สปาต้า

    สปาต้า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +46
    เรื่องค้างคาวฟังธรรม แล้วชอบในเสียงธรรมแล้วตกลงมาตาย ไปเกิดบนสวรรค์ นี้
    ไว้สอนให้เห็นถึง อนิสงค์แห่งการฟังธรรม ก็อนิสงค์มากมายขนาดนี้ แล้วถ้าเราฟังธรรม
    ที่เราเข้าใจง่ายเข้าใจได้ อนิสงค์จะมากมายขนาดไหน
     
  18. สปาต้า

    สปาต้า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +46
    สาธุครับ...............
     
  19. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    จะว่าไป...สมัยนั้นบุคคลฟังธรรม...ในพระสูตรบรรลุหมดแล้ว....เขาไปนิพพานกันหมดแล้ว....

    พูดแบบติดตลกนะ.....ยุคนี้เทพ พรหม ในสมัยนั้น.....คงลงไปเกิดกันที่พม่ามากกว่าไทย....เพราะพระพม่า พุทธศาสนิกชนพม่า เขาไม่ใช่เรียนพระอภิธรรมเฉยๆ.....เขาท่องกันปากเปล่ากันเลย....

    หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเทพพรหมสมัยนั้น....จะลงมาเกิดอยู่ในเมืองไทยมากๆ...พระศาสนาจะได้เจริญมั่นคงกว่าเดิม.....
     
  20. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ยังไม่ได้อ่าน ความคิดคนอื่น แต่ขอแนะนำดังนี้

    ตั้งแต่ นายขันธ์ปฏิบัติธรรมมา ไม่เคยเรียน พระอภิธรรม เลย แต่ไม่ใช่ว่า พระอภิธรรมไม่ดี

    อุปมาว่า คนจะปฏิบัติธรรม นั้นเหมือน คนฝึก บวก ลบ คูณ หาร แต่อภิธรรมนั้นเหมือน แคลคูลัส ฟิสิกส์ อินทีเกรต เราไปอ่านของยากๆ ก่อน เราก็ไม่รู้ เพราะเรา ไม่ได้ไต่ไปตามระดับ

    อภิธรรม นั้น จารนัย ความจริงของจิต ที่จะต้องเป็นผู้ที่มี มหาสติปัฏฐาน บริบูรณ์ แล้ว จึงจะเห็นจิต เห็นอรรถได้ขนาดนั้น

    แต่ใครจะศึกษาก็ไม่ผิด อ่านเอาไว้พอประดับความรู้ แต่ต้องระวังว่า เราอ่านมาแล้วเราจะเอามาสร้าง สัญญาความจำ แล้วนำไปสู่การปฏิบัติแบบผิดๆ ได้

    การปฏิบัติธรรม ของให้ทำแบบโง่ๆ ไปในทีแรก ทำตามระดับ คอมมอนเซ็นส์ ธรรมดา แต่ให้มีสติ

    เหมือนคน เหลาไม้ให้แหลม ค่อยๆเหลาไป ว่ามันแหลมหรือยัง คอยสังเกตุดู ถ้ามันเหลาไม่ได้ก็เพราะมีดทื่อ เราก็ไปลับมีด ให้มันคม ทำแบบนั้นนะ ยังไม่ต้องไปดูว่า ไม้นี้ไม้เนื้อดีเนื้อแข็ง มีดนี้โลหะทำมาจากอะไร
    เมื่อ เราทำได้ดีระดับหนึ่ง เราจึงจะหาทางก้าวหน้าต่อไปได้ เพราะรู้เอง เห็นเอง ทำเอง จากพื้นฐานไปสู่ ระดับลึก
     

แชร์หน้านี้

Loading...