เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ฝึกไปอีกสักหน่อย พลังของน้องบาส จะแผ่มากกว่านี้อีกเยอะ เลยนะจารย์ ก็คือ

.......... มะพูดดีกว่าครับ ผมไม่รู้ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 555555555 แต่อาจารย์รู้ดี


จักกระที่ 1 มันก็เย็นฉ่ำได้ทุกวันอ่ะครับ เวลากระตุกถี่ ๆ เหมือนโทรศัพท์ แล้วมันร้อน

สักแป็บ มันแปลงร่างเป็นเย็น คือผสมกันไป ผสมกันมา อิอิ


ใช้เวลาเรียกคืนพลัง คงไม่เกิน 15 นาทีอ่ะครับ

 

พอดี คุณ"ตัวกลมๆๆ "มาที่ บู๊ธ
บ่น เรื่อง ปลวก ขึ้น บ้าน..และ อีกคนบ่น แมลงสาบเต็ม บ้าน
สัตว์ สอง ตัว นี่..เป็น ศัตรู สำคัญ ของ ทุกๆๆ บ้านที่อยู่ในประเทศ ไทย
บ้นฝรั่ง เขาไม่ค่อย มีปัญหา..เพราะ เวลา หน้า หนาว..อุณหภูมิ ติดลบ
พวก แมลงสาบ / ปลวก จะอยู่ไม่ได้..ตายหมด
.........................................................................
ผมเคยมีประสบการณ์ เรื่องปลวก.ที่ ค่อน ข้าง จะพิศดาร
คือไป ที่ บ้าน ญาติผู้ ใหญ่ที่ นับถือ ท่านหนึ่ง
ท่านบ่นว่า..ปลวก ขึ้นบ้าน ชั้นบน
เราก็ฟังเสียง..ก็ได้ ยินเสียง..ซ่า ซ่า เบาๆๆ
แปลว่า ปลวก กำลัง กินบ้าน กินไม้..
กินตรงไหน..เราก็ ลอง ใช้หูฟัง..พบว่า มาจาก คานใต้บันได
...................................................................
เราก็เพ่งดูว่า ปลวก มัน กินตรงไหน..เพ่งอยู่นาน กว่า สองนาที
อ้าว..มีอะไร หล่น ลงมา เหมือน ข้าวสารรั่ว ตกลงมา.มากกว่า 30 เม็ด
ก็ เดินเข้าไปดู ใกล้ๆๆ..อ้าว ปลวก ตกลงมาตาย..แหง แก๋
........................................................................
อ้าว ใช้ ตาเพ่งมากๆๆ..ตาที่สามมันเปิด..พลังตา มัน ร้อนเหมือนไฟ
เคย เพ่ง หลัง มือ ตัวเอง..พบว่า เหมือนถูกนาบด้วยไฟ
พอเพ่ง ปลวกนานๆๆ ความร้อนก็ ค่อยๆๆ ทวีขึ้น..
มันก็เลย ร้อน ตับแตก ตกลง มาตาย.เหมือนตาตี๋ ตก ต้นตาล
.........................................................................
ก็เลยได้ ความรู้ว่า คนที่ มีพลังตาทิพย์แรงๆๆ เพ่ง ปลวก ตายได้
และ นั่นคือ ปลวก ตายด้วยความร้อน
ดังนั้นจึงเกิด ความคิดเบื้องต้นว่า..ความร้อน ไล่ปลวกได้
แล้ว จะเอา อะไร ร้อนๆๆ ไปไว้ในบ้าน..ให้ มัน ร้อน ไล่ปลวกได้
..........................................................................
ก็เลย ถึงเรื่องเก่า ได้ ว่า เมื่อ ก่อน เคยทำ..แผ่นทองเหลือง
มีรูป พระอาทิตย์ ยิ้ม..มี สิบสามแฉก..
ห้คนเอาไป ติด หน้า ประตู บ้าน
เพิ่อ ให้ ท่าน ปกป้องบ้าน..และให้ความร้อน
ไม่ให้ วิญญาณ และ สิ่งที่ไม่ดี ไม่กล้า มาตอแย บ้านที่ ติด
..............................................................
ก็คิด ว่า ถ้าเอาพระอาทิตย์มาติดในบ้าน..จะกันปลวกได้ แน่นอน
แต่ในทางปฏิบัติ..ทำไม่ได้ เพราะ แสงอาทิตย์ แสงรังษีที่ ร้อนแรง
จะทำให้ คนที่ อยู่ในบ้าน ไม่มีความสุข เพราะ จะร้อนไปด้วย
ความคิด ที่ จะเอาพระอาทิตย์ มาไล่ ปลวกในบ้านจึงต้องเลิกไป
.............................................................................

 

เพิ่งโพสต์เรื่องจักร 1 ไปตะกี๊ มันชงร้อน ชงเย็น อีกแระ

ใครบอกจักร 1 อันตรายสูงสุด อ่ะก๊าก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ใจของคนเรานี่ มีอันตรายมากกว่า นาครับ

 

ในที่สุด ก็ต้องมาคิดกันใหม่
ตัวอะไร ที่ มัน ไล่ ปลวก และ แมลงสาบ ได้ พร้อมๆๆกัน
เริ่มจาก..ตัวกินมด..ว้า!!! ตัวมันใหญ่ไป..เซรามิค คงจะไม่มีใครปั้น
ตัวสมเสร็จ..ก็ ใหญ่ไป เช่นกัน
มีคนเสนอ หมู ดิน..ว้าว!! ตัวใหญ่ และ ขี้เหม็น อีก ต่างหาก
.................................................................
ในที่ สุด "วิษณุ ที่ บังเอิญ มานั่ง วิสัชนา ด้วย
ร้องบอก.." ไก่ ไง เพ่ "..ทุกคน..เออ..เออน่า จะใช่
แล้วไก่ พันธ์ไหน ล่ะ ที่ กินปลวก เก่ง /กินแมลงเก่ง / คุ้ยดินหากินเก่ง
..........................................................................
ไก่ ชน..ไม่ได้ แน่ เอาแต่ ชน..ในสนามชนไก่..
เจ้าของ อุ้มชูอย่างดี..ให้ อาหารและล้างหน้า ไก่ ทุกเช้า
เลี้ยงดี ยิ่งกว่า ลูก ตัว เอง..เพราะไก่ชนลางตัว ราคา เหยียบ แสน
...................................................................
ไก่ แจ้.ก็ไม่ได้..เอาแต่ เจ้าชู้ ประตูดิน..
จะไล่เอียง ไล่ทับ ไก่ ตัวเมีย ตลอด..ไม่หาเกิน..หา กิน กันหรอก
......................................................................
ไก่ ซีพีเหรอ..หากินไม่เป็น..ใส่กรงขัง กินอาหารเม็ด เต็ม สุตร เพื่อ ให้ โตเร็ว
เพื่อ ที่ จะมาเป็น ไก่ ย่าง สามดาว
.................................................................................
ไก่ ตาฟาง / ไก่หลง..ตามสวนลุมพินี /ข้างสนามหลวง
คลองหลอด/เสาชิงช้า..อันตราย..มีแต่ เอดส์
..............................................................................
ไก่ อิสลาม..ก็ไม่ได้..เพราะ เลี้ยงอย่างดี..แล้วส่งร้านไก่ ย่าง"จีระพันธ์"
ดังตามงานวัดรอบกรุง..ไป เที่ยวงานวัดที่ไหน ก็เจอ
..........................................................................
ก็มาจบ..ที่ ใครคนหนึ่ง ตะโกน.
." ไก่ ต๊อก พี่..มันคุ้ยปลวก ทั้งวัน..กินทั้งแมลงสาบ .."
ว้าว!!!ใช่เลย..เอ ..แล้ว เซรามิคไก่ต๊อก.ตัวเล็กๆๆ มีใคร..ปั้นขายมั๊ย
นี่ คือ ปัญหา..วันเสาร์ อาทิตย์ นี้ ต้อง ลองไปเดิน
ตลาด นัด จตุจักร อีกที..หาไก่ ต๊อก เซรามิค
ถ้าไม่เจอ...ทำไง
.............................................................................
เอ..ไก่ ลูกเจี๊ยบ ที่ พอโตๆๆหน่อย..ที่เคยดู แม่มันพาคุ้ยอาหาร
ถ้า ไม่เจอ ไก่ต๊อก..ก็ต้องเอาไก่ลูกเจียบ ที่โตพอสมควร
ก็น่า จะได้ น่ะ
สหายธรรม ที่ อยากได้ สิ่งที่ไล่ ปลวก และ แมลงสาบได้
กำลัง จะได้แล้ว
.............................................................................
ให้ สิ่งนั้น กัน ปลวก และ แมลงสาบเข้าบ้าน..ไม่บาป
ดี กว่า ให้ เข้ามาเต็มบ้านแล้วเอา ดีทีที ไล่ ฆ่า
ผิดศีลข้อหนึ่งเต็มข้อเลย
ได้ ผล ยังไง..แล้ว จะมาเล่า ต่อ
ถ้า ทำได้..พวก บริษัท ห่านฟ้า กินยุง /สเปรย์ ตะไคร้หอม/ ยาฆ่า แมลง
เจ๊ง แน่ๆๆ
..................................................................

 

ลองคิดไปไกลๆๆ..พอแก้เรื่อง ไล่ยุง/กันหนู/ไล่ปลวก /กัน แมลงสาบ
ต่อมา..มีแหงๆๆเลย
ไล่เพลี้ย / ไล่ตั๊กแตน ในนาข้าว/หนุในนาข้าว
หนู ในนาข้าว คงยาก..เพราะ เป็นสถานที่เปิดโล่ง/ ไม่เป็น ห้องปิด
เอาพลังแมว มาอัดไล่ คงไม่ได้
......................................................................
แต่อาจจะเอา พลัง แมว เสกใส่เมล็ด ข้าวเปลือก ก่อน ที่ จะ หว่าน
พันธุ์ ขาวเปลือก มีกลิ่น แมวอยู่ในต้น..หนูอาจจะเผ่น..ไม่กล้า มากวน
เพลี้ย / ตั๊กแตน..อาจจะไม่กล้า กิน..เพราะ ใจมันจะสั่น
.......................................................................
ต่อไป เมืองไทย จะมีข้าว ขายดี พันธ์ใหม่ "ข้าวหอม กลิ่นแมว"
ขายแข่ง กับ ข้าว หอม มะลิ"...อะฮ้า..อะฮ้า..อะฮ้า
ฝันไป หรือ เปล่า.เนี๊ยะ!!!!!
...............................................................
ในประเทศ เวียตนาม คนเขามาเรียน วิชาพลัง จักรวาล ระดับสูง
ในประเทศไทย..มีอยู่วิชาหนึ่ง คือ การฝึกเพ่ง
เพิ่ม ผลผลิตข้าวได้ อีก 3 เท่า หรือ 300 %
พอจบเขาก็กลับไปเพ่ง ต้นข้าว ของเขา
ในไม่ช้า เวียตนามจะมีข้าวออกมา มากกว่า เรา
คนจากเวียตนาม ที่ มา เรียนในประเทศไทย..เป็น ชาวนาจริงๆๆ
...................................................
คนไทยก็เข้าเรียนเช่นกัน..
แต่เป็น คนในเมือง..เป็น คนรวย ..เป็นคนมีอันจะกินอยู่แล้ว
เรียนจบวิชาเพิ่ม ผลผลิตข้าว มี ความสามารถ..ก็เอาไว้ภูมิใจ
ว่า ฉันก็ จบสูง และ ทำได้..เอาไว้คุย เท่ห์ๆๆ
แต่ไม่ได้เอามา ใช้...อย่างนี้ ก็แพ้เวียตนาม วัน ยังค่ำ
...............................................................

 

อาจารย์ครับ ไม่ลอง ไก่อู ดูมั่งล่ะครับ แต่ก่อนเจ้าชู้กว่าไก่แจ้อีก แต่ตอนนี้เลิกเจ้าชู้ขยันทำงานแล้วก๊าบ จารย์ อิ อิ อิ....................;aa10

 

เย้ๆๆๆๆ ได้ตัวจัดการปลวกแล้ว วันนี้น่าจะเอาเจ้านกนางแอ่นกินยุงมา
มัวแต่อยากรู้เรื่องปลวก กลับบ้าน ช่างบ่นเรื่องยุงใหญ่เลย วันนี้พี่klaichid
เจ้าหญิงโบราณ ได้มาลองเอาเจ้าแอ่นน้อยไปลองทำหน้าที่ดู ได้ผลเป็นยังไงวานบอกนะคะ

เล่าเรื่องเจ้าชู้แล้วมีคนมาตอบโดยเร็วเลยล่ะอาจารย์55555

จองเจ้าไก่กินปลวกคนแรกเลยค่ะอาจารย์ แล้วก็จะเอาเจ้าแมว เจ้าแอ่นเช่นกัน
เรื่องปลวกนี่ หลายคนบ่นเหมือนกันนะคะ ตอนคุยกันยังคิดว่า จะเอาโมบาย
the third eye แขวนซะเลยดีไหม คงเท่ดีไม่หยอก กรุ้งกริ้งๆ รูปตา

อ้อ วันนี้โชคดีมากเลย ก่อนไปหาอาจารย์ เผอิญเห็นเขาบริจาคเลือด
ไอ้เราก็ไม่ได้บริจาคมาเกือบครึ่งปี เพราะลืมมั่ง แถมล่าสุดเขาส่งจดหมาย
มาบอกว่า เลือดเราข้น ซึ่งอาจเกิดจากมีไขมันมาก โดนปฏิเษธ คราวนี้
ตอนนอนให้เลือด พยาบาลก็วนมาเรื่อยๆ สุดท้ายก็มาเปลี่ยนตำแหน่งเข็มใหม่
บอกว่าเลือดไม่ไหลแล้ว เย๋ยยยยย หมุนเข็มกระสอบ จนช้ำทันตา แต่เลือด
ก็ไหลดี แต่ระบุข้างถุงไปด้วยว่า เลือดไหลช้า

ที่โชคดีเพราะไปถึงมีอาจารย์ตาที่สาม กับอาจารย์สุวิหมอยาอยู่ อาจารย์สุวิ
เดินไปหายาสมุนไพร ลองเอาตัวโน้นตัวนี้มาให้ อาจารย์ตาที่สามช่วยตรวจ
ฤทธิ์ยาด้วย เอาตัวโน้นเข้าตัวโน้นออก เพราะแก้ตรงนี้ดี แต่ไปโดนเรื่องฉี่ไม่ออก
เรื่องไทรอยด์แทน สุดท้ายได้ กระชายทอง+แปะก๊วย+หลินจือ+โอเมก้า3
เลยรบกวนอาจารย์สุวิจัดยาให้ โห...นี่สุดยอดวิชารักษาของ 2อาจารย์เลย
บุญจากการบริจาคเลือดให้ผลทันตา เพราะถ้าไม่ได้ให้วันนี้ ก็คงไม่ได้เล่า
ให้ใครฟังเรื่องเลือดข้น สาธุๆๆ ขอบพระคุณอาจารย์ทั้งสองท่านด้วยค่ะ

พี่ผู้ชายอีกคนก็มา พี่เขาไม่ได้โพสในเน็ต เพราะหน้าที่การงาน ตำแหน่งสูง
มาด้วยเครื่องรางตรึม เป็นครั้งแรกที่ได้เห็น เครื่องรางจาก งาดำ คิดถึง
เรื่อง เพชรพระอุมา ที่มีตอนช้างงาดำ มีจริงๆ เห็นพี่เขาว่า ช้างนี้เป็นช้างเผือก
ทีมีงาดำ หายากกกกกกกกกกกกกก ก็เพิ่งเคยเห็นนี่แหละค่ะ โชคดีมีโอกาสได้ดู
เพราะปกติพี่เขาซ่อนเอาไว้ใต้เสื้อตลอด

วันนี้ทำให้เข้าใจแล้วว่า ทำไม้ทำไมถึงได้เกี่ยวกับรัชกาลที่ 5 ได้ความว่า
ถ้าพระองค์ไม่จัดการเลิกทาส ข้าน้อยก็คงไม่รอดได้เป็นทาสแน่ๆ ด้วยพระ
กรุณาของพระองค์ และกล้าที่จะขัดใจกับเหล่าขุนนาง ที่มีทาสมากมาย
ไม่งั้นลูกหลานเจ้ากลมคงเป็นทาสต่อไปแน่ๆ สมเป็นมหาราชแล้ว มิน่า
ขนาดเป็นเด็กๆ ถึงได้รู้สึกผูกพัน และยกให้เรื่องเลิกทาส เป็นพระกรณี
ที่สูงสุดสำหรับตัวเองเลย

ในเวลาที่ไปเจออาจารย์ไม่นานในวันนี้ ได้ความรู้อะไรแปลกๆ สนุกจริงๆ
ทั้งเรื่องหินขวานฟ้า(สมัยมนุษย์ถ้ำ) หินเจ้าป่าเจ้าเขา(ยักษ์หิรัญพนาสูร)
หินเครื่องประดับชาวเขา ที่ยังมีผีสิงอยู่ หินที่เจ้าตัวเล็กชอบพกติดตัว
ทำให้รู้ว่า ทำไมหินธรรมด้าธรรมดาจึงพิเศษต่อเขา เหอๆแถมดีต่อเรา
ในการจัดการเรื่องไมเกรนเสียอีก สบายเลย เสียดายพี่ดาวทะเลทรายไม่อยู่จะได้รู้จัก ชื่อ หิน ด้วย

แล้วเรื่อง ผีที่ติดมากับดินที่เอามาถมบ้านแม่ที่ต่างจังหวัด อาจารย์พูดอย่างกะ
อยู่ด้วย บอกว่ามาจากดินถม เล่าเหตุการณ์เหมือนอย่างที่แม่เล่าเป๊ะ หึๆ
มีวิธีจัดการแล้ว แต่ว่าจะให้ที่บ้านให้บุญเขาก่อน และสุดท้ายที่ติดค้างในใจมานาน
คือได้วิธีแก้ไขกรรมยักยอกทรัพย์ด้วย สบายใจหลายอย่างเลยยยยย ลัลล้าๆๆ

 

อ้อ..ชยา มารุติ
นึกว่า กำลังมัน กับ เรื่อง รูปตลก ดู แล้ว ขำ สะบายใจ..คู่กับ คุณ "ดีใจมาก"
โผล่ออกมา นึกว่า จะสื่ออะไร..กลับมาสารภาพว่า
เลิกเป็น ไก่แจ้ เจ้าชู้ประตูดิน..กลายมาเป็น ไก่ อู..แล้ว
......................................................................
ไก่ นั้น เคยได้ ยินแต่ ชื่อ
นิสสัย มันเป็น ยังไง..ไม่รู้..ใครรู้ ช่วยขยายความที
เดาเอาว่า ไก่ อู..ไม่ค่อย เจ้า ชู้..แต่อึด..ต่อยมวยได้ หลายยก
จริงๆๆๆ อย่างนั้นหรือ เปล่า ชยา
................................................................
คุณ มังกรบูรพา..มองๆๆไป
เหมือน ไก่ พันธุ์ ทาง..ไก่ แจ้ ..บวก ไก่ อู
ผมว่า ได้ เปรียบ คนอื่นเขานะ
....................................................

 

เรื่องเล่าก่อนนอน คืนนี้ ของ ตาที่สาม เรื่องที่ ยี่สิบเก้า 29
กรรมของ คน
........................................................................
คนเราเมื่อเกิดมา อีก ครั้ง..ก็แปล ว่า ยังมีกรรม
หลุดจากกรรม ก็เรียกว่า หลุดพ้น..ไม่เกิด อีกต่อไปเรียกว่า " นิพพาน"
คนแต่ละคน ต้องวนเวียนมาเกิด คนละหลายรอบ..หลายพันชนิด สัตว์
แต่ละรอบ ก็ สะสม กรรมดี ที่เรียก ว่า บุญ
และสะสม กรรมที่ไม่ดี หรือ ทุรกรรม..เรียกว่า บาป
...................................................................
เท่าที่ ตรวจ ดูกรรม ของ คนมาแยะ
พบว่า..คนเคยเกิดเป็น อะไร ในชาติก่อนๆๆ ก็จะมาเกิด
มาเป็น คนที่ ต้อง ทำงาน ในชาติ ที่ใกล้เดิมๆๆ..คล้ายเดิมๆๆ
......................................................................
เช่นคนที่เคยเป็น นายอำเภอ ชาติที่แล้ว..ทำบาปมากกว่า บุญ
พอมาเกิดใหม่ ก็จะมาเกิด เป็น หัวหน้า กุลี ทำงานแบกหาม
หรือ ไม่ก็เป็น หัวหน้า พรรคกระยาจก
หรือ ในทางกลับ กัน สำหรับคนที่ ทำบุญ มากกว่า บาป
............................................................
เท่าที่ ตรวจดู พบว่า จังหวะ การมาเกิดใหม่ ของ คน
จะอยู่ในช่วงวงจร 200 ปี หรือ 100 ปี
อย่างคนที่เกิดในอยุธยา กลางๆๆ เช่น ยุค พระนเรศวรมหาราช
อีก 200 ปี มาเกิดใหม่ ในยุค พระเจ้า ตากสิน มหาราช..กู้ชาติ
และ พอตายไป ก็มาเกิด ในยุค รัชกาลที่ 9..ต้องกู้ชาติอีก
.................................................................
ได้ ลอง ดู ชาติภพของ คน..
พบว่า ในยุคปัจจุบัน..มีคนในยุค พระนเรศวร / ยุคพระเจ้าตาก
กลับมาเกิด พร้อมกันมากมาย
ยิ่งยุคพระนเรศวร..นี่ ชัดเจนเลย..ทุกคนระลึกชาติได้
ไม่เชื่อ ลองเปิดดู ตาม เวบ และ กระทู้ ต่างๆๆ
ในห้อง วิทยาศาสตร์ลึกลับ ก็ มี
ในทำนอง รวมพล..คนที่เคยเกิดในยุค พระนเรศวร..มารวมพลกัน
..........................................................

 

การเกิดในอดีต..ยิ่งในยุค ทำสงครามกู้ชาติ
ไม่ว่า ยุคสมเด็จพระนเรศวร หรือ ยุคพระเจ้าตาก
ต้องมีการรบราฆ่า ฟัน..กับ เหล่า นักรบ ต่างชาติ เช่น พยู หรือ พม่า
การฆ่า ฟัน กัน ถึงแม้จะรบเพื่อ ชาติ..แต่ศีล ไม่เคยยกเว้น
โดยเฉพาะ ข้อ แรก คือ.การฆ่า." ปาณาติปาตา ฯ"
...............................................................
การฆ่า จึงเป็นกรรมหนัก ที่ ติดตัวมาตลอด
และ แต่ละคน จะถูก ขึ้นบัญชีดำไว้ ที่เรียกว่า "แบล๊ก ลิสซ์ (Black List)
เขา ขึ้นบัญชีดำไว้
....................................................................
คนที่ถูก ขึ้นบัญชีดำ..จะไป ทำบุญ ณ วัด ในเขตนั้น..บุญจะไม่ขึ้น
แต่ใจมีจิต อนุโมทนา..บุญ ที่ จะทำ ไม่ได้ หายไป
เพียงแต่ต้อง ย้าย สถานที่
แบบ ส่ง ที่ ไปรษณีย์ นี้ ไม่ได้..ก็ไป ที่ ไปรษณีย์ โน้นก็ได้
ไม่ต้องเสียใจ
..........................................................
คนที่อยาก จะรู้ว่า ตัว เอง มีกรรมหนัก ณ ที่ ใด
สามารถ ตรวจสอบ ด้วยตัวเองได้..
ยิ่งพวกมีพลัง จิต สัมผัสสูง..จะยิ่งง่ายและชัดเจน
......................................................
ทำได้ โดยลอง นึก ชื่อ วัดที่เราจะไป
นึกเขตจังหวัดที่เราจะไป..ทีละอย่าง
ก่อน นึก ชื่อ วัด และ จังหวัดที่ จะไป
ให้ลองสูดลมหายใจเข้า..ดู ว่า หายใจ คล่อง และโล่ง แค่ไหน
..................................................................
แล้ว นึก ชื่อ วัด หรือ จังหวัด ที่เราจะไป..ทีละแห่ง
แล้ว ถามในใจว่า เรา มีกรรม ใหม..เราไปได้ ใหม
แล้วหายใจลึกๆๆ..ถ้า หายใจโล่ง..ก็แปลว่า ไปได้ ไม่มีกรรม
แต่ถ้าหายใจ ขัด แน่น หน้า อก.
ก็แปลว่า มีกรรม ณ ที่ นั้น
.หรือ ถ้ารู้สึก โล่งมาก โล่ง น้อย
น้ำหนักของกรรม จะอยู่ที่ การหายใจ
ยิ่ง หายใจขัด..ก็แปลว่า กรรม นั้น หนัก นั่นเอง
........................................................................
โดยวิธีนี้..คนเราสามารถ จะรู้ ว่า
ต่อจะไป อยู่ ณ ที่ใดจังหวัด ที่หายใจได้โล่งที่ สุด
ลอง ไล่ตรวจผู้คนดู..ว่า เขาเหมาะ ที่ ไป อยู่ ที่ ใด ดี ตอนแก่ๆๆ
ปรากฏว่า จังหวัดอุทัยธานี ฮิตที่ สุด..รองลงมา จังหวัด เลยฯลฯ
..........................................................................
พอดูก็ เข้าใจว่า จังหวัด นั้นอยู่ในทางที่ปิด..ไปไหน ต่อไม่ได้..
ผู้คน ไม่ค่อย ผ่านไป..กรรม จึงไม่ค่อยมี ..นั่นเอง
................................................................
(มีต่อ)

 

กรรมที่ดูง่าย คือการทำกรรมเป็นหมู่..เช่น รวมกัน ฆ่า
แบบทำสงคราม ประหัตประหารกัน ทั้ง สอง ฝ่าย

กรรมเฉพาะตน ก็ มี..บางคนทำกรรมไว้ คิดว่าไม่มีใครเห็น
คิดว่ารู้เฉพาะ ตน...คำโบราณที่ ว่า"หน้าต่างมีหู ประตูมีตา"..นั้นเป็น จริง..
แต่ที่แท้จริง คือ ทุกแห่ง มี เจ้าที่ มีเทวดา มีสิ่งศักดิ์ สิทธิ์ ดูแล..ทั้งสิ้น
จดบันทึกไว้หมด อย่างละเอียด..ว่า ใครอะไร ไว้ ที่ไหน..เมื่อไหร่
..........................................................................
เมื่อ สัปดาห์ ที่แล้ว..วันที่ 18 กพ 52..มี คหบดี คนหนึ่งมาจาก เชียงใหม่
เขาเคยมาที่ บู๊ธ 042 สองสามครั้ง..
ส่วนใหญ่จะถาม ว่า ลงทุน อย่างนั้นๆๆ ดีใหม..ขยายกิจการดีใหม
ทำไปแล้ว กี่ ปี จะคืนทุน...คือ ถามแบบพยากรณ์ การลงทุน
.........................................................................
เขาเป็นเด็กเกิด และเรียนที่ เชียงใหม่ มาตลอด
ในปัจจุบัน มีกิจการอพาร์ตเม้นท์ ใหญ่โต ประมาณ 40 ยูนิตให้เช่า
มี กิจการเปิด ร้านเกมส์ ..หลายแห่ง กระจาย ทั่วเชียงใหม่
.......................................................................

 

เมื่อมาที่ บู๊ธ 042..เขาก็ถามแนวทางขยายธุระกิจ ออกไป เช่นเคย
เมื่อได้ คำตอบ ที่เขาพอใจแล้ว..เขาเริ่ม ถาม สิ่งที่ น่า สนใจ
" อาจารย์ ผมเป็น คนเชียงใหม่..ในเมือง มีวัดแยะ
ผมพยายามทำบุญ หลายๆๆวัด..จะได้ กระจายบุญ
แต่มีสามสี่วัด...ที่ ผม เข้าไป แล้ว มีอาการแปลกๆๆ
อาจารย์ ช่วยดู ที...ว่า มันเป็น ยังไง.."
..........................................................
เราก็ฟัง..อย่างเงียบ สำหรับปัญหา ของ เขา...
" อันแรก นะ อาจารย์..วัดอุโมง..ผมเคย บวชเณรที่ นั่น แท้ๆๆ
แต่ตอนหลังๆๆ ผม เข้า วัดนี้ไม่ได้..พอจะผ่านเข้าประตูวัด
เหมือน มีอะไร มากั้น..เหมือน มีกระจกที่ มองไม่เห็น มากั้น
ผม เข้าไม่ได้...ผม ทำบาป อะไร ไว้ แน่ๆๆ เลย
อาจารย์ ช่วยดูให้ ที..จะได้ แก้ บาปได้.."
......................................................................
เราก็ คิดในใจ ว่า.."อ้อ..เข้าวัดไม่ได้..ต้องมีอะไร ผิด แน่ๆๆเลย"
ก็ใช้จิตดู เหตุการณ์ ย้อนหลัง..เหมือนมีหนัง ขาว-ดำ มารีวายด์ ให้ดู
เห็น เขาตอนเป็น เณร เมื่อ หลายปี..กำลัง เดิน รอบวัด
............................................................................
เป็น เณรบวฃใหม่..ก็เดิน สำรวจวัด..จนมายืนอยู่ที่หน้า ศาลาเล็กๆๆ
ที่ ศาลา นั้น..ตรงบันได ทาง ขึ้น..
มองดูไม่มีอะไร มาวางข้างบันได เหมือนที่ ศาลา อื่น
เขาก็ รำพึงว่า ต่อไป ข้างหน้า มี ตัง เมื่อไหร่
จะ หา ช้างหมอบ เป็น เซรามิค มาถวายตั้งที่ เชิงบันได ศาลา นั้น
.......................................................................
นี่ คือ สัญญา หรือ เทียบเท่า การบน-บาน
ต่อมาเมื่อไม่ได้ ทำแก้ บน นั้น..ปัญหา จึง เกิด ขึ้น
......................................................................

 

ออกจากสมาธิ..ก็ถามเขาว่า..เคยบวชที่ วัด อุโมง นี้ ใช่ใหม
เขาบอกว่า " ใช่"
เคยคิดจะหาช้างหมอบมาถวายวัด ตอนเป็น เณร ใช่ใหม
เขาคิด สัก ครู่ ตอบ ว่า.." ไม่แน่ใจ..แต่คิดว่าใช่.."
"ถ้า อย่างนั้นก็ ต้องแก้ บน.
.โดยไป ซื้อ ช้างเซรามิค หนึ่ง คู่ มาถวายแก้ บน..ซะ "
.............................................................
เขา ถาม .."แล้ว ผม จะเข้าวัดได้ ยังไง..ท่านไม่ให้ เข้า.."
เออ..จริงสิ ..เราคิด...ทำไง ดีว่ะ
ในที่สุดก็ คิดออก..ก็ต้องอาศัย เทพ หรือ องค์ในประจำตัวเขาแล้ว
ก็ใช้จิตเพ่ง ดู และเชิญเทพ องค์ ในออกมา
.......................................................................
อ้าว..ตายล่ะ..คิด ว่า เป็น ใคร
ครูบาศรีวิชัย เถระ ผู้ ยิ่งใหญ่ แห่ง ล้านนา..เป็น อาจารย์ผู้ดูแล เขา
ครูบา ผู้มีร่างเล็ก ผอม บางแต่แกร่ง..ยิ้ม อย่าง อ่อนโยน
มีเสียงแว่วมาทางโสตประสาท
........................................................................
" บอก เขา ว่า..ให้ซื้อช้าง แก้ บนมาเตรียมให้ พร้อม
แล้วไป ยืน ที่หน้า ประตูวัด..แล้ว หันหลังให้ ประตูวัด
พอพร้อม ก็ให้ค่อยๆๆเดิน ถอยหลัง เข้าวัด
โดยอาตมา..จะเดินบัง นำหน้า..
พอเข้าได้ ก็ หันกลับมาเดินอย่างปกติ
แล้ว รีบเอาช้างหมอบแก้ บนไป ถวายที่ ศาลา ตามที่ได้ สัญญาไว้.."
......................................................................
ทำ ตามนี้ ก็ จะแก้ได้..
นี่ ต้องถึง ขนาด ครูบาศรีวิชัย ต้องมาช่วยแก้ ไข ให้
ดัง นั้น การบนบาน / สัญญากับสิ่งศักดิ์ สิทธิอ์ นั้น เป็น เรื่องใหญ่
ถ้า ไม่แก้..เป็น กรรมที่ หนักหนา เอาการ
ใครบนอะไร ไว้..จะต้องแก้..ระวังไว้ด้วย
....................................................................

 

เขา ถามต่อ.."มีอีกวัด..เขาบอกมา
แต่ อาจารย์จำไม่ได้... จำได้คลับคล้าย ว่า ชื่อ สามัคคี ธรรม ??..
...."ผมไปวัดนี้ ทีไร..พอโผล่เข้าไป เดินผ่านประตู เข้าไป..
.....ผมจะเป็น ลมทุกที..หมดแรงเดิน..ก็สงสัย ไป ทำบุญ แท้ๆๆ
.....ทำไมเป็นอย่างนี้...."
........................................................................
อ้อ.... อีกปัญหา หนึ่งแล้ว เข้าวัดแล้วไม่มีแรงเดิน
หรือ ว่า มีผี โอปาติกะ มารุมดูด พลัง บุญ หมด..จนไม่มีแรง
ผี วัดนี้ แรงขนาดบี้เชียวหรือ
..........................................................................
ก็เพ่งจิตดู ย้อน หลัง
ก็เห็นเขาเดินดุ่มๆๆ เข้าวัด
พอโผล่ประตูวัดเข้าไป..ก็จะมีเจดีย์ ใหญ่ อยู่ ตรงหน้า
เขาเดินไป ทางขวา..เดินวน สามรอบ..แบบที่ผู้คนเดินกัน
................................................................
ทีแรก เราก็ไม่คิด ว่า ผิดปกติ ตรงไหน
แต่ติดใจภาพย้อนหลัง..ทำไมเน้น การเดินวนรอบ เจดีย์
ในที่สุด ก็เข้าใจ ในสาเหตุ
.................................................................
ถอนจากจิต ขึ้นมา
ถามเขาว่า เวลาไป วัด..พอไปถึงเจดีย์..เดินยังไง
เขาตอบทันที เดินไป ทางขวา..เพราะ ชิน และ ถนัด
เดินครบ สามรอบ ทุกที
..............................................................
พอ ตอบมา บรรดา สมาชิก ชมรม คนเห็นผี นั่งกันเต็ม
พากัน ฮา ครืน..เขาก็ งง
................................................................
เราก็ ต้อง อธิบายว่า เวลา เดินสวดมนต์ รอบเจดีย์ จะต้องเดินไป ทางซ้าย
หรือ เดินแบบ ให้ ไหล่ขวา หันเข้า เจดีย์
แต่เรา น่ะ..เดิน วนไป ทาง ขวา..ผิด ธรรมเนียม
การเดิน วนขวา..เขาเอาไว้ วนศพ ก่อน ขึ้นเมรุเผา
.....................................................................
พอเดิน วนขวาทุกที และ บ่อย..ก็แปลว่า เราเป็น ศพ ตายแล้ว
เวลาเข้าวัดนี้ไป..ก็แปลว่า ผีดิบมาเดิน...จึงไม่มีแรง..ตามที่เขาเป็น
.........................................................................
ถามเขาต่อ...เวลาไปเดินวน..ไม่รู้สึกว่า เดินสวนกับ คนอื่นหรือ
เขาตอบว่า..เวลาไป..ไม่เคยเจอ ใครเดินสวนมา เลย
ก็เลยไม่รู้ว่า..จริงๆๆ เขาเดินกัน ยังไง
.......................................................................

 

เราเลยแนะนำเขาไปว่า
คราวต่อไป..เมื่อไป ที่ วัดนี้
ให้เดิน วนไป ทางซ้าย..ให้ถูกต้อง
เดินแก้ ให้ ครบ ว่า
เมื่อ ก่อนเดิน วนไปทางขวา แบบศพเดินไป กี่รอบ..
อาจจะเป็น ร้อยรอบ..ก็เอาให้ ครบ ร้อยรอบ แก้ ของเก่า ก่อน
แล้วมา เริ่ม เดินไป ทางซ้ายให้ ถูกต้อง..อาการผีดิบเดิน จะได้ หาย
...................................................................
จาก ปัญหานี้...ทำให้รู้ว่า การเดินวนรอบ เจดีย์
หรือ วนรอบ โบสถ์ ผิด ทิศทาง..มีผลเกี่ยวกับ กรรมได้ เช่นกัน
ดังนั้น พวกเรา ควรสังวร ไว้ว่า.
.เวลาไปเดิน วนรอบ โบสถ์ รอบ เจดีย์
ต้องเดิน ด้วยทิศทางที่ ถูกต้อง
อย่า แกล้ง ทำเป็น แตก ต่าง เพื่อ ความแปลก
จะได้ กรรม โดยไม่รู้ตัว...โดยเฉพาะ วัยรุ่น
..........................................................
(มีต่อ)

 

เมื่อวันศุกร์ ได้ ฟังอาจารย์เล่า เรื่องเอากระจก สะท้อนแดด ไล่นก
พอกลับมาถึงบ้านลองวิชา หากระจก มาลองไล่บ้าง

ลองไล่นกพิราบ แต่บังเอิญกระจกที่ใช้ บานไม่ใหญ่ เหมือนตอนอาจารย์ทำท่า ยกให้ดู
ผล....นกมันเยอะมาก กว่าจะทำให้มันตกใจแล้วบินหนี เราต้องยืนตากแดด เป็นนานๆ
เลยยกธงยอมแพ้ก่อนเพราะมันไม่ตกใจ

ไว้ รอได้กระจกบานใหญ่ มันจะได้ สะท้อนแดดมากๆ นกมันจะได้ รู้สึก....
แล้วจะมารายงานผลเจ้าค่ะ

 

คิดท่าทางออกเลยค่ะพี่ใกล้ชิด ไม่เอาลูกบอลปากลางวงซะ วงแตกแน่ แหะๆ
เอามอเตอร์ขยับกระจก ติดเซ็นเซอร์อะพี่ ให้เด็กวิศวะทำโปรเจคก่อนจบ
แล้วเจ้าแอ่นไล่นกเวิร์คมั้ยคะ อย่าลืมบอกให้เจ้าแอ่นทำงานกินยุงเน้อ

 

ขอกาบ ท่านอารย์ สามตา ( อ.อาชวิน )
ด้วย จิต คาระวะ
ผม อาจจะเป็น ศิษย์ ผู้น้อย ด้วย ปัญญ หรือ ด้วยบุญฤทธิ์
แต่ด้วย จิต
ข้าพเจ้า .............. ได้ ทราบ ซึ้ง แล้ว ถึงเมตตา ที่ท่านได้มอบให้ แก่ ข้าพเจ้า

ฤทธิ์ เดช ที่ ข้าฯ ...............มีเพียง น้อยนิด
ท่านเป็น ผู้หนึ่ง ที่ ประสิทธิ์ ประสาท ให้ แก่ ข้าพเจ้า

ขอกราบ เท้า ด้วย ความคารวะ อย่างสูง ยิ่ง...................................

 

เห็นท่านพี่ดาวทะเล มากราบคารวะอาจารย์สามตา ให้อยากจะกราบคารวะอาจารย์ด้วย เพราะ ผู้น้อยเคยได้เข้าพบ ก็เลยได้ประจักว่า ท่านนั้น มีเมตตา ก่อนที่จะไปหานั้น ได้เข้ามาห้องนี้และได้เห็นรูปที่คุณวิษณุ เอารูปอ. มาลง ก่อน เห็นตอนนั้นก็ จ้องเข้าไป และสัมผัสถึงความเมตตา จนทำให้น้ำตาไหลออกมา จึงดั้นด้นไปหา และ พอไปถึงปากก็บอก อ.จารย์ไป ว่าหนูไม่ค่อยสบาย ทั้งที่ก่อนไปหาไม่ได้ตั้งใจไปหาเรื่องนี้ ซึ่งวันนั้นไม่ได้บอกอ. ว่าก่อนไปพบอ. สามตา ที่บุ๊ท ได้ไป ไหว้พระทำบุญที่วัดสุทัศ และ วัดพระแก้ว มาก่อนไปหา อาจารย์ ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจไป แต่เหมือนบางสิ่งพาไป