เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

ด็อกเตอร์แวะคลายเครียดกับงานหนัก ส่งภาพเบาๆน่ารักของเจ้าเหมียวให้ชม เห็นแล้วต้องอมยิ้ม มันช่างเจ๋งอะไรเช่นนั้น ส่วนบทต่อไปของเรื่องเล่า จะพยายามเขียนต่อในสัปดาห์นี้ แต่ก็มีงานรอทั้งเสาร์(กลางคืน)-อาทิตย์(กลางวัน) ไม่รู้จะเคี่ยวเข็นรีดพลังออกมาไหวหรือเปล่า

 

น้องต้อดเปลี่ยนสถานที่ ก็คงต้องปรับตัวอีกสักพักกว่าจะเข้าที่เข้าทางกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม เรื่องตารางบุญสายรุ้งก็อย่าได้กังวล ไม่มีตารางบุญก็หาเป็นไรไม่ ลูกน้องผมจดบันทึกทุกรายการตลอดทาง ทั้งบุญ+ทานที่สมาชิกร่วมกระทำกันมาไม่ตกหล่นไปข้างไหน

ขอบคุณน้องต้อดที่ติดตามเส้นทางบุญกันมายาวนาน ว่างเมื่อไหร่ก็เข้ามาอ่าน แวะตอนไหนก็ทักกันได้ทุกเมื่อ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มีแต่ปรับเปลี่ยนไปตามเวลาที่เลื่อนไหลไม่หยุดดุจสายน้ำ

 

เลขจัดส่งวันนี้
--ED 2868 2493 0 TH ภาษีเจริญ

 

ขออนุญาตพี่วันครับ



ในที่สุดก็หงายไพ่ประกาศออกมาชัดเจนเเล้วอาจว่ามีสงครามศาสนา ถ้าชาวไทยพุทธไม่ยอมให้อิสลามสร้างมัสยิด

รองประธานผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรี ออกมาพูดว่า ท่านต้องการอิสรภาพในทางศาสนา ท่านต้องการสร้างมัสยิดเเม้ที่นั้นจะไม่มีอิสลามสักคน !!

ถ้าอิสลามต้องการสร้างมัสยิดต้องสร้างได้ (เเต่ไทยพุทธเคยมีความคิดจะสร้างพุทธมณฑลที่ปัตตานี พวกท่านไม่ยอมให้สร้าง) ถ้าไทยพุทธไม่ยอม อาจจะเกิดสงครามศาสนา

ท่านผู้นี้บอกว่า อิสลามร่วมกู้กรุงศรีอยุธยาตอนเสียกรุง เคียงบ่าเคียงไหล่มากับชาวไทยพุทธ อิสลามไม่ใช่ผู้อาศัยเเต่อยู่ที่ไทยนี้มานานเเล้ว (เเต่ข้อมูลที่ผมมีคือ อิสลามเข้ามาเผยเเผ่ครั้งเเรกในยุคสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีการเผยแผ่คำสอนว่า พระเจ้าสร้างทุกอย่าง ...ชาวบ้านอยุธยาไม่เชื่อ คณะที่มาจึงเอาดาบไล่ฆ่าฟันประชาชน ขุนหลวงสรศักดิ์ทราบเรื่องจึงนำทหารไปปราบคณะอิสลามกลุ่มนั้น คณะอิสลามคณะนั้นถูกฆ่าตายทั้งหมด

ต่อมาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชกอบกู้เอกราชได้ เเล้วถวายเเผ่นดินสยามทั้งหมดเป็นพุทธบูชา ตรงนี้ท่านที่พูดเเย้งว่ามีอิสลามร่วมกู้ด้วย แต่ข้อมูลที่ผมมีคือ ไม่เพียงสมเด็จ พระเจ้าตากสินจะยกเเผ่นดินสยามเป็นพุทธบูชา พระองค์ยังทรงห้ามเผยเเผ่ศาสนาอิสลามด้วย เเต่ไม่ทรงเรียกว่าอิสลาม โดยเรียกว่า “ลัทธิมะหะหมัด” และ ถ้าใครเผยเเผ่ ทรงกำหนดโทษไว้ให้ประหารชีวิต เพราะฉะนั้น การพูดว่าร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กอบกู้เอกราชชาติไทย จึงไม่ใช่ !!

แต่เป็นการเขียนแต่งเติมปั้นเรื่องให้อิสลามในประเทศไทยดูดีขึ้น อิสลามไม่เคยรบเคียงบ่าเคียงไหล่ในการกอบกู้ประเทศชาติบ้านเมือง มีเเต่มาฆ่าฟันประชาชนที่ไม่เชื่อถือตามลัทธิคำสอนในศาสนาของตนอันมีลักษณะของผู้รุกราน

จากข้อมูลทางประวัติศาสตร์ผู้คนที่รบเคียงบ่าเคียงไหล่ในยุคสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกอบกู้เอกราชก็คือ ชาวมอญ ส่วนในยุคสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชผู้ที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กอบกู้เอกราช ก็คือคนไทยเชื้อสายจีน เพราะพระยาตากพระองค์ทรงมีเชื้อสายจีน

ท่านที่พูดนี้กล่าวอ้างว่า อิสลามเป็นศาสนาเเห่งสันติ
...ขอเเย้งว่า สันติแล้วเหตุใดจึงเข่นฆ่าชาวพุทธ ฆ่าได้แม้กระทั่งพระเณร จำนวนคนไทยที่ต้องสังเวยชีวิตตลอดมามีมากมายนับหมื่นในสามจังหวัดขายแดนภาคใต้ ท่านอ้างว่า อาจจะมีอิสลามที่หัวรุนเเรง เเต่เป็นเพียงคนส่วนน้อย ท่านไม่ให้อ้างเอ่ยถึงคนเหล่านั้น และว่าพุทธหัวรุนเเรงก็มีท่านนี้ว่าอย่างนี้ ?!!

แต่ชาวพุทธถูกฆ่าตายรายวัน เเม้เเต่พระออกบิณฑบาตก็ถูกยิงฆ่า ถูกระเบิด ท่านมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย จำนวนชาวพุทธที่ถูกฆ่าถ้าเอาศพมานอนเรียงต่อกันอย่างน้อยต้องยาวไม่น้อยกว่า 5 กิโลเมตร แต่ท่านว่าไม่ให้ใส่ใจเพราะเป็นฝีมือมุสลิมส่วนน้อย มุสลิมส่วนใหญ่รักสันติ ก็ขนาดเเค่ส่วนน้อยประเทศนี้ก็จะลุกเป็นไฟอยู่แล้ว และที่ท่านว่า ชาวพุทธหัวรุนเเรงก็มีนั้น
คำว่า “หัวรุนแรง” ความหมายก็บอกชัดอยู่ในตัวว่า “นิยมการใช้ความรุนแรง” คำนี้น่าจะเหมาะกับพวกมุสลิมที่สุด เพราะการก่อการร้ายในภาคใต้หรือที่ไหนในโลกก็มีแต่พวกมุสลิมทั้งนั้น เคยมีชาวพุทธที่ไหนลุกขึ้นมาก่อการร้ายหรือเข่นฆ่าคนมุสลิมด้วยความเชื่อทางศาสนาบ้างไหม ???จริงอยู่มุสลิมที่รักสันติก็มี แต่พวกที่ก่อการร้ายและนิยมความรุนแรงทุกคนล้วนเป็นมุสลิมนับถือศาสนาอิสลามทั้งสิ้น

สิ่งที่ชาวพุทธออกมาเรียกร้อง ไม่เคยมีการใช้ความรุนแรง..มีเเต่การปลุกให้ชาวไทยตื่นขึ้นมารับรู้ความจริง และให้คนไทยระวังภัยปกป้องประเทศจากหายนะ พวกเขาเหล่านี้คือผู้เสียสละที่ยอมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เสี่ยงคุกตะรางที่ทางการจะยัดเยียดข้อหาให้ พวกเขายอมสละแล้วเพื่อพระพุทธศาสนา พวกเขาเป็นผู้กล้า คือวีรบุรุษของพวกเราชาวพุทธ

ด้วยหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา ชาวพุทธส่วนใหญ่จึงเป็นคนสุภาพ อ่อนโยน ประนีประนอม ไม่มีพฤติกรรมเบียดเบียนข่มเหง จิตใจอำมหิตโหดร้าย ดักยิงลอบฆ่า ลอบวางระเบิดทำลายชีวิตผู้บริสุทธิ์ดังเช่นโจรมุสลิมก่อการร้าย

ที่ท่านอ้างว่า การต่อต้านการสร้างมัสยิดของคนไทยพุทธจะสร้างเงื่อนไขทำให้อิสลามประกาศสงครามศาสนาได้ เมื่อประกาศสงครามศาสนาจะนำต่างชาติที่เป็นอิสลามเข้ามาสู้รบกับคนไทยพุทธในประเทศได้

ผมเคยได้พูดไว้หลายครั้งว่า นโยบายของรัฐที่ส่งเสริมอิสลามอย่างออกหน้าออกตาชัดเจนจะนำความหายนะมาสู่ประเทศชาติ เพราะอิสลามจะยังไม่ทำอะไร ถ้าตราบใดจำนวนคนของเขายังไม่มากพอ แต่เขาก็วางแผนมาตลอดที่จะยึดครองประเทศไทย

...แต่ยุคนี้ภารกิจหลักของรัฐบาลคือส่งเสริมอิสลามทุกด้านทั้งในแง่งบประมาณและการออกกฎหมายคุ้มครองเอื้ออิสลามอย่างเต็มที่ในทุกมิติเพื่อผลักดันให้ศาสนาอิสลามขึ้นมาผงาดเป็นศาสนาหลักสูงเด่นเหนือพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นศาสนาคู่บ้านคู่เมืองมาตลอดในประวัติศาสตร์ชาติไทย

นี่คือภารกิจหลักของรัฐบาล คำพูดนี้ไม่เกินจริง เพราะอะไรหรือ ??

เพราะสนช. ที่ได้รับการแต่งตั้งมาก็เพื่อร่างกฎหมายปกครองประเทศไทย 85 คน 63 คนเป็นอิสลาม คนเหล่านี้มาร่างกฎหมายปกครองประเทศไทย แค่นี้ก็เลวร้ายหนักหนาแล้ว แต่ที่เลวร้ายที่สุดคือกฎหมายเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา สนช.ที่เป็นอิสลามก็เป็นคนร่าง วันวิสาขบูชาประยุทธ์ไม่สนใจไม่ให้ความสำคัญทั้งที่ยูเนสโกให้ความสำคัญอย่างยิ่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เปิดทำเนียบขาวจัดงานวันวิสาขบูชา เเต่ประยุทธ์เปิดทำเนียบรัฐบาลจัดเลี้ยงจุฬาราชมนตรีโต๊ะอิหม่าม และพี่น้องมุสลิมของพวกเขาเหยียบย่ำหัวใจชาวพุทธอย่างไม่มีความเกรงใจ

ปัจจุบันมัสยิดผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดทั่วประเทศ ขาดเพียงจ.นครพนมเเละบึงกาฬ ฐานบัญชาการของอิสลามก็อยู่ที่กระทรวงมหาดไทย พวกเขาสามารถเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการได้ทั่วประเทศ เเละมีเงินเดือนสูงจากภาษีคนไทยพุทธ อิสลามไปเเสวงบุญที่เม็กกะ รัฐมีงบประมาณสนับสนุนเต็มที่ พักโรงแรมอย่างดี การเดินทางทั้งภายในและภายนอกประเทศใช้เครื่องบินตลอดสาย แล้วยังมีปลัดกระทรวงมหาดไทยไปคอยบริการดูเเลให้ความสะดวกทุกอย่างเป็นอย่างดี ในขณะที่การเเสวงบุญของพระสงฆ์ และชาวพุทธซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศรัฐบาลกลับไม่มีงบประมาณช่วยเหลือสนับสนุนใด ๆ เลย พรบ.สังเวชนียสถาน ฯ ที่ชาวพุทธเสนอเข้าไปถูกตีตกตั้งแต่วาระแรก ในขณะที่ พรบ ฮัจน์ ผ่านการพิจารณา 3 วาระรวดอย่างง่ายดาย

อิสลามมีธนาคารอิสลาม เเม้จะหล่อเลี้ยงจากเงินภาษีชาวพุทธ เเต่กลับถูกนำไปเป็นฐานสนับสนุนการเเผ่ขยายของลัทธินี้ ในขณะที่ธนาคารชาวพุทธจะมีการขอจัดตั้งกี่ครั้งก็ถูกตีตกไปทุกครั้ง รัฐบาลเปิดให้อิสลามรับเงินสนับสนุนจากต่างชาติทั้งลับๆเเละเปิดเผย โดยไม่มีการตรวจสอบและไม่มีกฎหมายป้องกันเหมือนในประเทศอื่นๆ ทั่วโลกที่เขาเล็งเห็นมหันตภัยของอิสลาม

วันนี้รองประธานผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรีออกมาประกาศเเล้วว่า... ถ้าคนไทยพุทธไม่ยอมให้พวกเขาสร้างมัสยิด อาจเกิดสงครามศาสนา !!

ความจริงคนไทยพุทธนั้นใจกว้าง เป็นฝ่ายอ่อนน้อมยินยอมเหมือนม้าอารีตลอดมา แต่อยากตั้งคำถามกลับว่า เเค่สามจังหวัดชายแดนใต้ที่พวกคุณอยู่อาศัยก็ยังลุกเป็นไฟ ถ้าลัทธิศาสนาอิสลามดีจริง สงบสันติจริง ทำไมพวกคุณไม่ช่วยกันไม่ร่วมมือกับรัฐทำให้สามจังหวัดชายแดนใต้สงบร่มเย็น ก่อนที่จะมาเรียกร้องมากมายจากคนไทยทั้งประเทศ ขอให้ช่วยทำให้สามจังหวัดภาคใต้สงบร่วมเย็นเสียก่อนเถิด เเล้วชาวไทยพุทธจึงจะเชื่อใจพวกคุณ

ตัวเลขที่ผมมี...เดิมชาวพุทธมีหลายล้านคน ปัจจุบันมีเหลือเเค่หลักเเสน ราคาที่ดินไร่ละไม่กี่พันคนไทยพุทธก็ไม่กล้าซื้อ เพราะความโหดร้ายของพวกคุณ ที่ปัตตานี

ทางราชการจะสร้างพุทธมณฑล พวกคุณคัดค้านไม่ยอมให้สร้างอ้างว่า ที่นี่ส่วนมากเป็นมุสลิม เกรงจะมาทำลายอัตลักษณ์ของพวกคุณ คนไทยพุทธเราก็ยอมไม่มีปัญหา ไม่ทำก็ไม่ทำ เเต่พวกคุณลุกขึ้นมาสร้างมัสยิดเกือบจะทั่วประเทศไทยโดยไม่มีการทำประชาพิจารณ์เลย เพราะพวกสนช. ที่เป็นมุสลิมผลักดันออกกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมมาคุ้มครองเอื้อประโยชน์ พวกคุณจึงสามารถสร้างมัสยิดได้โดยไม่ต้องทำประชาพิจารณ์ พวกคุณจึงเป็นพวกอภิสิทธิ์ชนเหนือคนไทยในประเทศนี้ตลอดมา

ครั้นชาวพุทธตื่นตัวลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิของชาวพุทธแสดงความไม่เห็นด้วยคัดค้านบ้าง พวกคุณก็ออกมาขู่ว่า จะเกิดสงครามศาสนา ?!!

ความจริงนายกประยุทธ์เเสดงออกมาตลอดว่า สนับสนุนอิสลามเต็มที่ เห็นได้จากเหตุการณ์สะเทือนใจชาวพุทธอย่างยิ่งที่พระสงฆ์ถูกฆ่าตายขณะเดินบิณฑบาตกลางเมือง

ก็ชัดเจนมากด้วยการที่สั่งห้ามสื่อทุกสำนักเผยแพร่ข่าวขยายความในรายละเอียด จนเรื่องเงียบตั้งแต่ยุค คสช. และแสดงท่าทีปกป้องโจรอิสลามในเหตุการณ์ล่าสุดที่ชาวบ้านถูกมุสลิมก่อการร้ายฆ่าตาย 15 ศพ ท่านก็รีบออกมาปรามสื่อและประชาชนไม่ให้เรียกโจรอิสลามว่า “ผู้ก่อการร้าย”

เมื่อโจรมุสลิมก่อการร้ายเข้ามอบตัว ท่านเดินทางลงใต้ไปมอบเงินให้คนละล้าน เเถโฉนดที่ดินพร้อมบ้านอีกหนึ่งหลัง

แต่วัดไทยกลับถูกทุบรื้อทิ้งเป็นว่าเล่น บางเเห่งถูกปิดไม่ให้ชาวพุทธขึ้นไปสักการะบูชากราบไหว้ ในขณะที่มัสยิดอิสลามไม่เคยถูกทุบรื้อทิ้งเเม้เเต่เเห่งเดียว เเม้จะตั้งในพื้นที่หวงห้าม
หรือในเขตป่าสงวนบนเขาบนดอยที่ไหน ๆ ก็สามารถสร้างได้อย่างไม่มีเงื่อนไข

ส่วนอิสลามรัฐบาลมีงบประมาณให้มากมายเหลือเฟือ รัฐและ ศอบต.ทุ่มเงินนับร้อยล้านบูรณะมัสยิดเก่าที่ปัตตานีอ้างว่าเป็นมรดกชิ้นสำคัญของชาติ (ไม่รู้ว่าชาติไทยหรือชาติอะไร)

ส่วนวัดวาอารามที่อบต.เคยช่วยเงินสนับสนุนวัด ก็ออกคำสั่งออกกฎระเบียบห้าม อบต.ให้เงินอุดหนุนวัดอย่างเด็ดขาดโดยปราศจากเหตุผล แถมยังจะออกกฎหมายเก็บภาษีพระ สงฆ์ด้วย ขณะนี้ก็เก็บภาษีวัด โดยทำทุกอย่างเพื่อสกัดกั้นการเผยแผ่และการสร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่พระพุทธศาสนา

ทั้งศาสนบุคคล พระมหาเถระที่เป็นกำลังหลักของพระพุทธศาสนาก็ถูกจับกุมคุมขังยัดเยียดข้อหาความผิดอาญาร้ายแรงอย่างไม่มีเหตุผล ที่ชัดเจนคือวัดพระธรรมกาย ถูกเล่นงานและปราบปรามอย่างหนักด้วยข้อหาความผิดอาญานับร้อยนับพันคดี ถูกยึดอายัดทรัพย์ซึ่งเป็นศาสนสมบัติโดยไม่มีความธรรม และถูกปราบปรามกระทำการทุกอย่างอย่างรุนแรงไร้มนุษยธรรมด้วยเหตุผลใส่ร้ายว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง

เชื่อว่า ...อีกไม่นานเกินรอบ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ สงครามศาสนาจะต้องเกิดอย่างเเน่นอน หากรัฐยังคงกระทำทุกวิธีทางเพื่อสะกัดพระพุทธศาสนา เพื่อให้แผนการของอิสลามที่จะยึดครองประเทศสำเร็จให้จงได้

ปัญหาที่หนักหนาและทำให้อิสลามเหิมเกริมขึ้นทุกวันก็เพราะการสนับสนุนให้ท้ายของรัฐบาล และเพราะชาวพุทธต่างเกรงกลัวสยบยอม ไม่มีปากเสียง พระพุทธศาสนาจึงถูกทำลายลงไปเรื่อย ๆ ทางการเองก็ใช้สื่อทำลายศรัทธาของชาวพุทธที่มีต่อพระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่องตลอดมาทั้งยุค คสช และ รัฐบาลประยุทธ์ 2

เเต่ครั้งนี้ผมเชื่อว่า ประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอยอีกต่อไปเหมือนที่พระพุทธศาสนาและขาวพุทธต้องพ่ายเเพ้มาตลอดดังเช่นที่เกิดขึ้นในประเทศอินโดนีเซียแเละประเทศอินเดียที่ถูกมุสลิมทำลายจนพระพุทธศาสนาต้องสูญสิ้น ขาวพุทธกลายเป็นชนกลุ่มน้อยในประเทศ

ผมเชื่อมั่นว่าคนไทยพุทธส่วนมากจะไม่ยินยอมอีกต่อไป โดยมีพม่าเป็นแรงบันดาลใจและเป็นโมเดลสำคัญในการต่อสู้เพื่อกอบกู้พระพุทธศาสนาอันเป็นมรดกล้ำค่าที่บรรพบุรุษไทยได้พลีเลือดเนื้อสละชีวิตปกป้องแผ่นดินนี้ไว้ให้เป็นแผ่นดินแห่งพระพุทธศาสนา ท่านได้ทะนุบำรุงหวงแหนรักษาและส่งต่อให้ลูกหลานไทยชาวพุทธทั้งหลายสืบทอดปกปักรักษาสืบเนื่องต่อไปเพื่อยังความสงบร่มเย็นแก่แผ่นดิน ให้เมืองไทยเป็นเป็นแผ่นดินทองเหมือนในอดีตที่ผ่านมาที่ประเทศไทยได้ชื่อว่า เป็นดินแดนที่มั่นสุดท้ายของพระพุทธศาสนา ....

Cr : ปิติ พูทรัพย์ (ชมรมพุทธะอาสา)

 

ได้รับตะกรุดคู่ทั้ง 2 ดอกเรียบร้อยแล้วครับ

ผมได้รับเหรียญหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ จากคุณพ่อมาครับ คุณพ่อเล่าว่าได้จากเพื่อนที่เป็นคนเพชรบุรีเมื่อปี 2524 ผมก็เลยขอรบกวนท่านอา Wanwi และเพื่อนสมาชิกช่วยดูเหรียญหลวงพ่อแดงเหรียญนี้ของผมด้วยครับ กราบขอบพระคุณล่วงหน้าครับ

 

ขอบคุณท่านอาจารย์ suthamma มากครับ

 

วันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓ ตรงกับวันเสาร์ แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีชวด
ใส่บาตร ๔ รูปในวันพระ
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง
อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ

 

สวัสดีตอนเช้าครับ....ได้รับพัสดุครบทุกรายการแล้วครับ

 

หยุด...! โลกสวย!!
จงช่วยกันแชร์!!!

ทัศนคติเลวร้ายอันตรายต่อสังคม
ของผู้นำศาสนาที่สูงถึงระดับนี้
ไม่สมควรอยู่ในตำแหน่ง เป็นวิสัยทัศน์
ที่อยู่ในปาเลสไตน์-ตะวันออกกลาง
และแผ่นดินที่มีแต่สงครามศาสนา

เถระสมาคม-พุทธสมาคมทั้งหลาย
ทำอะไรกันอยู่ ไม่แห่ออกมาประท้วง
ปล่อยให้เหิมเกริม สามหาวได้เพียงนี้!

ตื่น..ตื่น "ลุงตู่"แขวนพระเต็มคอ
สวดมนต์จบสักบทเป็นหรือเปล่า?
เด็กๆออกมาไล่กันโครมๆ อย่าให้
ชาวพุทธที่แท้ออกไปผสมโรง
เลิกเอาใจ "มุสลิม"เสียที!!!

 

น้องเสฯแจ้งรับตะกรุดของชอบ แต่ส่งภาพที่ตัวเองไม่ถนัดมาให้ชม เห็นท่านบก.ตอบให้แล้ว

แต่ผมเห็นแย้งไว้หน่อยว่า เหรียญลพ.แดงนี้ เป็นเหรียญ "บวม" ครับ ไม่พูดเรื่องผิดพิมพ์หรือผิดเนื้อ เพราะเนื้อเขาทำดีเป็นเก๊รุ่นเก่ายุคที่เริ่มพัฒนาเป็นบล็อคคอมฯ

อย่างว่า เหรียญแกล้งใช้ให้สึกมาก ท่านบก.อาจดูพลาดได้ ส่วนคุณพ่อผู้รับมารวมทั้งผู้ให้ก็คงไม่รู้ทั้งคู่ แม้จะเป็นเรื่องเมื่อ 40 ปีที่แล้ว แต่เหรียญลพ.แดงเก๊มาตั้งแต่ออกจากวัดใหม่ๆหลังปี 03เล็กน้อยนั่นแล้ว

มีเรื่องเล่าว่า หลวงพ่อแดงท่านแจกเหรียญอยู่บนวัด แต่ข้างล่างวัดก็มีของก๊เร่ขาย บอกว่าไม่ต้องขึ้นไปหาหลวงพ่อให้ลำบากเพราะคนเยอะ เอาตรงนี้ไปก็เหมือนกัน-เอากะมันสิ นักทำเทียมเลียนแบบที่มีมาแต่โบราณ...เป็นผีชั่วไม่มีวันตาย คู่กับวัตถุมงคล

 

เมื่อก่อนที่บล็อคคอมฯเริ่มอาละวาด หูเหรียญเป็น "จุดจ่ายตังค์" ที่ทำยาก แต่พอชี้จุดตำหนิมากๆจากนักเขียน เหล่ามือผีก็พัฒนาตามมา เดี๋ยวนี้หูก็ทำได้เหมือน ต้องดูผิว-ความตึง ขอบตัด ตำหนิเส้นขนแมว และอีกหลายจุดให้ครบ แต่มือผีบางตัวก็ยังเผลอปล่อยเหรียญ "บวม"เพราะเท็คนิกยังไม่ถึงขั้น

สมัยนี้เหรียญไม่บวมมันทำได้ 99.99% เหลืออีก .1 %เท่านั้น เผลอเมื่อไหร่โดนเมื่อนั้น

 

ครับ ต้องขอบคุณท่านบก.เช่นกัน ที่สละเวลาดูให้แม้ภาพถ่ายจะทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนมากกว่าตัวจริงก็ตาม

 

คติธรรมที่สอนให้อยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข แต่สังคมที่ไม่สงบสุข บางทีคตินี้ต้องยกไปไว้ข้างหลังก่อน ต้องเอาคติอื่นมาใช้ แทน...อย่างเช่น

ตาต่อตา ฟันต่อฟัน !!! เป็นต้น

เพราะความสงบสุขที่แท้จริง มักจะเกิดขึ้นเมื่อหลังสงครามสงบ

โลกเป็นอย่างนี้ตั้งแต่กำเนิดมนุษย์ขึ้นมา โดยที่ยังไม่มีศาสนา ตั้งแต่มนุษย์ยังนับถือ ท้องฟ้า ต้นไม้ ก้อนหิน แม่น้ำ ลำธาร ภูเขา ฯ แม้ทุกวันนี้ก็ยังเป็น

บางศาสนาที่กำเนิดทีหลังสุด จึงเอาจุดอ่อนของแต่ละศาสนามาประมวล แล้วออกกฏบัญญัติให้ "นับถือพระเจ้าองค์เดียว" ห้ามมีองค์อื่น

นับแต่นั้น โลกจึงไม่มีวันสงบสุข เพราะ "พระเจ้าองค์เดียว"มีที่ไหน กันเล่า....?!

มันมีแต่นับถือใคร ศรัทธามันก็ว่ากันไป แต่ศาสนาที่เผยแพร่ "ด้วยดาบและเปลวไฟ" ไม่สนใจ ไปที่ไหนก็ใช้ความรุนแรงนำหน้าถ้าพวกมากกว่า

ถ้า "พวกน้อย" ก็เสแสร้งสงบเสงี่ยมรอคอยอย่างอดทน ค่อยๆก่อกวน แทรกซึม สร้างสงครามย่อยไปหาสงครามใหญ่ เมื่อระดมศรัทธาได้มากพอ ก็จึง "ชักดาบ" ตามด้วย เพลิงแห่งพระเจ้าเข้าเผาผลาญ

บรรดาชาวบ้านที่ไร้ทางต่อสู้ก็จำต้องก้มหน้าเปลี่ยนศาสนาที่มีคำสอนดิบดีว่า ...

"ห้ามรังแก ผู้อ่อนแอกว่า นักบวชลัทธิอื่น ผู้หญิง เด็ก คนชรา หรือคนที่ยอมแพ้ไม่มีทางสู้"!

บทบัญญัติสวยหรู เป็นแค่ตัวหนังสือในคัมภีร์ แต่ที่สาวกกระทำนั้นตรงกันข้ามทั้งสิ้น!!!

"สงครามศาสนา" ในโลกนี้จึงไม่มีวันสงบ ให้บรรดานักศาสนาอื่นที่ "โลกสวย" จงรับรู้ไว้

 

ความสงบที่แท้จริง มีแต่ศาสนา "พุทธ" เท่านั้นที่มอบให้แก่โลก และไม่บังคับ นับถือก็ได้ ไม่นับถือก็ดีเพราะพระพุทธองค์ทรงสอนไว้ใน "กาลามสูตร"อย่างแจ่มแจ้ง...อย่างมงายเชื่ออะไรง่ายๆถึง ๑๐ ข้อ

ดังนั้น พุทธที่แท้ที่ผ่านการเคี่ยวกรำ ก้าวข้ามพ้น "ความเชื่อลวงๆ" เรียบร้อย ก็ตามอนุโมทนาบุญใส่บาตรเช้าวันนี้ไปเถิด

 

ขอบคุณท่านอา Wanwi มากครับ ผมคงเก็บเหรียญนี้ไว้เป็นเครื่องระลึกถึงคุณพ่อและหลวงพ่อแดงที่เป็นเคารพของคุณพ่อและตัวผมครับ

 

คุณเทพแวะสวัสดีเช้าวันหยุด
ขอบคุณการแจ้งข่าววัตถุมงคล
เดินทางถึงที่หมายเป็นสิริมงคล

 

ถูกต้องครับนัองเสฯ สิ่งใดที่เป็นของระลึกจากบุพการี ย่อมก้าวข้ามพ้น "เก๊-แท้" และมีความหมายทางใจยิ่งยวด เหนือกว่า "ค่าน้ำเงิน" ที่หลายเสี้ยน หลายเซียนชอบพร่ำพูดสอนกันว่า เก็บพระเก๊เอาไว้ วันหน้าลูกหลานเกิดเดือดร้อนจะเอาไปขายกิน ก็ขายไม่ได้ ลำบากทั้งครอบครัว

มันพูดยังกับว่า ทุกครอบครัวในแผ่นดินต้อง "ขายพระกิน" อย่างเดียว อาชีพอื่นไม่มีกันแล้ว

ทัศนคติห่วยแตก เห็นสิ่งศรัทธาทางศาสนาเป็น "ตัวเงิน" อย่างเดียวนี่เอง ที่ทำพระศาสนาเสื่อมถอยลงอย่างร้ายกาจ เป็น "จุดอ่อน"ที่สุดของศาสนาพุทธวันนี้

--คนไม่เกรงกลัวบาป เพราะขายพระกินได้
--คนปลอมพระไม่สนใจบาปกรรม
--คนตัดเศียรพระ ลักขโมยวัตถุมงคลจากวัดไม่สนศีล5 กระทั่งบาปอันเป็น "อนันตริยกรรม"!
--คนต้มตุ๋นหลอกลวงสร้างนิยายขายพระเก่งกว่าพระพุทธเจ้า ไม่กลัวปากเน่า มือหงิก ขี้เรื้อนกุดถัง บาปมันตามสนองเชื่องช้า
======= ฯลฯ=======

ไอ้ชาวพุทธแต่ปากในวงการพระเครื่องเหล่านี้แหละที่ทำลายพระศาสนาทีละน้อย เหมือนน้ำหยดลงหิน ปลวกที่กัดกินเยื่อไม้ ไม่ช้าก็ทะลุถึงแก่นไม้

ศาสนาที่จ้องทำลายเรา ไม่ต้องทำอะไร ถึงเวลานั้น แค่เอามือผลัก ตีนถีบเบาๆ หลักแห่งพระศาสนาก็ล้มครืน

ฝากให้ไอ้พวกขายพระสำเหนียกไว้เสียบ้าง ขายพระกินไม่มีใครว่า แต่ขายแล้ว ช่วยรักษาปกป้อง พระศาสนาไว้บ้าง อย่าเอาแต่มัวหดหัวอยู่ในรู ในเปลือกหอยเน่า ยามที่มีแต่ภัยศาสนาอื่นรุกราน ก็ยังเอาแต่ลอกข้อเขียนพร่ำเพ้อหาสาระไม่ได้วันๆ ในสมองหัวกลวงขี้เลื่อยไม่รู้จักประดิษฐ์ประดอยเรื่องดีๆเพื่อพระศาสนาเลยหรือไร?

ความข้อนี้ ฝากไปถึงไอ้พวกแต่งนิยายขายพระ ใครก็ได้ที่ขายพระไป เล่านิยายลวงโลกไป ทำลายพระศาสนาทุกวันโดยไม่รู้ตัว

สำหรับน้องเสฯ ผมขอยกย่องหัวจิตหัวใจที่มีแต่ความรักในบุพการี เทิดคุณความดีของอริยสงฆ์ ก้าวข้ามพ้น"เก๊-แท้" เต็มเปี่ยม ของท่านมอบให้มา เราไม่ได้ซื้อขาย เก็บไว้ไม่หนักบ้านตรงไหนแม้ขีดเดียว

อย่างน้อยท่านก็ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าพระในนิยายน้ำเน่าที่จงใจขายเพื่อเอาเงินเข้ากระเป๋า-อย่างนั้นแหละรกบ้าน หนักบ้านแน่นอน