แจ้งรายชื่อผู้ที่ได้รับเพนดูลั่มท่านละ1ชิ้น3ท่านวันที่ 6ธ.ค.52

ในห้อง 'แจกฟรี แต่มีค่าส่ง' ตั้งกระทู้โดย มนต์เศก, 11 พฤศจิกายน 2009.

  1. .sittiporn.

    .sittiporn. Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +62
    ลงชื่อด้วยครับผม...
     
  2. คุณบรรเจิด

    คุณบรรเจิด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +714
    ขออนุญาตลงชื่อด้วยครับ สุประพนธ์ ครับ
     
  3. ordturbo

    ordturbo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2009
    โพสต์:
    406
    ค่าพลัง:
    +1,200
    ขอลงชื่อครับ
    นายชุมพล อนุสรณ์เสรี
    44/12 ม.3 ถ.รามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์
    เขตบางเขน กทม. 10220
     
  4. tenis

    tenis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    343
    ค่าพลัง:
    +1,228
    มาลุ้นลงชื่อด้วยคะ หากเค้าเลือกเราก็แจ้งทางพีเอ็มมานะคะ
     
  5. king_6914

    king_6914 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    614
    ค่าพลัง:
    +18,384
    ... 88/847 ม.สิวารัตน์3 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน สมุทรสาคร 74130
     
  6. chak5100

    chak5100 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +21
    ขออนุโมทนา
    ขอลงชื่อด้วยครับ
    นายจักรวัฒน์ ตันตินราศักดิ์
    18/1 ซ.7 ถ.หมื่นด้ามพร้าคต ต.ช้างเผือก
    อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ 50300
     
  7. Chyanisa

    Chyanisa สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +14
    ขอลงชื่อรับแพนดูลัมด้วยอีกคนน่ะค่ะ
     
  8. pinsiri

    pinsiri Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +25
    ลงชื่อด้วยคน
     
  9. ณธพรหม

    ณธพรหม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +62
    โมทนาด้วยครับ

    โมทนาบุญกับคุณมนต์เศก คุณรุชชานนและทุกๆท่านด้วยครับ...
    สาธุ..สาธุ..
     
  10. Daverko

    Daverko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,661
    ค่าพลัง:
    +8,902
    ลงชื่อด้วยค่ะ
     
  11. Kittapakkung

    Kittapakkung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +644
    อยากได้แพนดูลั่มครับ

    ผมนายกฤตภัค ดวงไชย

    บ้านทราย 306 ม.4

    ต.ต้นธงชัย อ.เมือง

    จ.ลำปาง 52000

    ถ้าแพนดูลั่มเป็นของผมส่งมาเลยครับ

    ขอบคุณครับ
     
  12. jinngee

    jinngee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2009
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +114
    ^^ ลุ้นครับผม
     
  13. bytoomtoom

    bytoomtoom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +201
    มาลง ชื่อด้วยคน

    นาย ประกาญจน์
     
  14. suchat1121

    suchat1121 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    644
    ค่าพลัง:
    +128
    ลงชื่อด้วยครับ
     
  15. ครึ่งชีวิต

    ครึ่งชีวิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,178
    ค่าพลัง:
    +15,103
    ลงชื่อด้วยคนครับ
     
  16. นิพพานให้ได้

    นิพพานให้ได้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +104
    ขอลงชื่อด้วยครับ
     
  17. mssoda

    mssoda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,182
    ค่าพลัง:
    +50
    ลงชื่อด้วยค่ะ
     
  18. มนต์เศก

    มนต์เศก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +279
    [FONT=&quot]เทวดาประจำตัว เทพพรหม องค์ใน ญาณบารมี คนทรงเจ้า คนมีองค์ คืออะไรกันแน่[/FONT]?
    [FONT=&quot]คน[/FONT] [FONT=&quot]เราเกิดมาหลายชาติภพ และเมื่อได้มาเกิดเป็นคนแล้ว จะมี [/FONT][FONT=&quot]เทวดาประจำตัว[/FONT][FONT=&quot]เพื่อคอยดูแล และเทวดาประจำตัวเหล่านี้ จะมีจำนวนมากกว่ามนุษย์[/FONT] ([FONT=&quot]เพราะมนุษย์เกิดได้ยาก จึงมีจำนวนน้อย)[/FONT] [FONT=&quot]เทวดาประจำตัวจึงต้องมีเวรผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาบำเพ็ญบุญบารมี[/FONT] [FONT=&quot]โดยมีพระอินทร์ เป็นผู้จัดสรรที่สำคัญที่สุด ให้เทวดาในชั้นดาวดึงส์[/FONT] ([FONT=&quot]สวรรค์ชั้นที่สอง) ซึ่งเป็นบริวารของท่านลงมาทำกิจ ในขณะที่ท้าวจตุโลกบาล[/FONT] [FONT=&quot]ซึ่งปกครองสวรรค์ชั้นที่หนึ่ง ซึ่งอยู่ติดกับพื้นโลก[/FONT] [FONT=&quot]จะไม่ได้รับผิดชอบเรื่องเทวดาประจำตัว เพราะท่านจะดูแลพื้นที่เขตต่างๆ[/FONT] [FONT=&quot]ทั้งดินน้ำและอากาศของโลก ในรูปของการดูแลจัดการเจ้าที่ เจ้าทาง เจ้าป่า[/FONT] [FONT=&quot]เจ้าเขาแทน ซึ่งเป็นการปกป้องคุ้มครองด้วยการอ้างอิงตามอาณาเขต[/FONT] [FONT=&quot]ไม่เกี่ยวกับตัวบุคคล นับเป็นคนละกิจกัน เทวดาประจำตัว จะมาตั้งแต่ตอนจุติ[/FONT] [FONT=&quot]เพราะต้องคอยระวังปกป้อง ไม่ให้เจ้ากรรมนายเวรรบกวนทำลาย[/FONT] [FONT=&quot]จิตที่จุติฟักตัวในรูปตัวอ่อนในท้องแม่ เพราะง่ายต่อการตายมาก[/FONT] [FONT=&quot]ถ้าเทวดาประจำตัวทำงานได้ดี การตายในท้อง แล้วจุติใหม่ซ้ำๆ[/FONT] [FONT=&quot]ก็จะไม่เกิดขึ้น จวบจนกระทั่งถึงวาระสิ้นอายุขัย เทวดาประจำตัวก็จะออกไป[/FONT] [FONT=&quot]เปิดโอกาสให้ยมทูตหรือเทวทูตมารับตัวแทน ซึ่งจะเป็นเทวดาอีกชุดหนึ่ง[/FONT] [FONT=&quot]คนละชุดงานกัน ลงมาทำหน้าที่รับช่วงต่อนี้[/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อคนเกิดมา[/FONT] [FONT=&quot]พระอินทร์จะจัดเวรเทวดาชั้นดาวดึงส์ มาดูแลเรา เช่น ที่เรียกว่า แม่ซื้อ[/FONT] [FONT=&quot]ฯลฯ โดยนำเทวดาที่มีกรรมเกี่ยวข้องกับเรามาดูแลเรา จะไม่สะเปะสะปะสับสน[/FONT] [FONT=&quot]ไม่สุ่มมั่วซั่ว เพราะการที่คนที่ไม่มีบุญกรรมต่อกัน[/FONT] [FONT=&quot]มาสร้างบุญกรรมกันระหว่างชาติภพนี้ จะก่อให้เกิดกรรมใหม่ๆ[/FONT] [FONT=&quot]ที่ต้องไปชดใช้กันยุ่งเหยิงมากขึ้น ส่งผลให้การบรรลุธรรมนั้น[/FONT] [FONT=&quot]ต้องมีชาติภพยืดยาวออกไป เพราะต้องใช้ชดใช้เวรกรรมกันให้หมดนั่นเอง[/FONT] [FONT=&quot]ดังนั้น เทวดาประจำตัวเราจึงมาจากคนที่เคยช่วยเหลือจุนเจือ[/FONT] [FONT=&quot]มีบุญสัมพันธ์กับเรามาทั้งสิ้น ตามแต่วาระที่พระอินทร์จะจัดสรรลงมา ได้แก่[/FONT] [FONT=&quot]พ่อแม่ปูย่าตายายของเราที่ตายไปแล้วจุติบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ทั้งหลายนั่น[/FONT] [FONT=&quot]เอง ทั้งนี้ โปรดเข้าใจว่าเทวดาชั้นยามา จะไม่มาทำกิจนี้มากนัก[/FONT] [FONT=&quot]เพราะส่วนใหญ่จะปฏิบัติธรรมภาวนากันมาก[/FONT] [FONT=&quot]ไม่ค่อยยุ่งกันเรื่องทางโลกเหมือนเทวดาชั้นที่สอง[/FONT] [FONT=&quot]ส่วนเทวดาชั้นที่สี่สูงขึ้นไป คือ ดุสิต ก็จะไม่มาทำกิจเล็กๆ น้อยๆ นัก[/FONT] [FONT=&quot]การที่ลงมาดูแลคนเป็นคนๆ จึงไม่ควรเป็นกิจของพระโพธิสัตว์แห่งดุสิตสวรรค์[/FONT] [FONT=&quot]เพราะท่านจะรับกิจภาพกว้างมากกว่านั้น เอื้อต่อสรรพสัตว์จำนวนมาก[/FONT] [FONT=&quot]คราวละมากๆ มากกว่านั้น ในขณะที่ชั้นสูงกว่าดุสิตขึ้นไป[/FONT] [FONT=&quot]จะไม่สนใจมาช่วยเหลือมนุษย์นัก อันได้แก่ ชั้นนิมารดี และปรนิมมิตวสวัตตี[/FONT] [FONT=&quot]ทั้งสองชั้นนี้ เป็นชั้นของมาร ที่มีแต่เห็นแก่ตัวเป็นสำคัญ[/FONT]
    [FONT=&quot]ดังนั้น[/FONT] [FONT=&quot]ทุกคนจึงมีเทวดาดูแลประจำอยู่แล้วทั้งสิ้น แต่จะไม่เรียกว่ามีองค์ใน[/FONT] [FONT=&quot]บุคคลที่จะถูกเรียกว่ามีองค์หรือมีเทพชั้นสูงๆ มาดูแล[/FONT] [FONT=&quot]ก็ต่อเมื่อเขาถึงวาระแห่งการบำเพ็ญเพียรภาวนาแล้ว[/FONT] [FONT=&quot]เบื้องบนก็จะส่งเทพพรหมที่มีฤทธิ์มาก แตกต่างกันลงมาคุ้มครองดูแล[/FONT] [FONT=&quot]และทำกิจมากกว่าเทวดาประจำตัว[/FONT] [FONT=&quot]เพราะมีอิทธิฤทธิ์ส่งผลต่อชีวิตของคนมีองค์ได้มาก และเทพพรหมเหล่านี้ จะมี[/FONT][FONT=&quot]กิจเฉพาะ[/FONT][FONT=&quot]ที่ได้รับจากเบื้องบนลงมากระทำต่อบุคคลนั้นๆ ดังนั้น[/FONT] [FONT=&quot]จึงมีผลให้วิถีชีวิตต้องเปลี่ยนไปอย่างมากนั่นเอง นี่เป็นสาเหตุว่าทำไม[/FONT] [FONT=&quot]จู่ๆ วิถีชีวิตเกิดเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายกระทันหันในระยะเวลาสั้นๆ[/FONT] [FONT=&quot]และถูกทักว่า [/FONT][FONT=&quot]มีองค์ใน[/FONT][FONT=&quot]เทพ พรหม ฯลฯ[/FONT] [FONT=&quot]ที่ลงมาทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับผู้คนนั้น มีกิจเฉพาะหลากหลายมาก[/FONT] [FONT=&quot]ดังที่ได้เกริ่นมาว่าแต่ละองค์มีฤทธิ์และกิจเฉพาะที่รับมาจากเบื้องบนต่าง[/FONT] [FONT=&quot]กันไป ในบรรดาเทพพรหมที่ลงมาทำกิจเหล่านี้ สามารถจำแนกได้ออกเป็นสามกลุ่ม[/FONT] [FONT=&quot]คือ ๑) กลุ่มสมณเทพ คือ กลุ่มที่มีเทพสองประเภทลงคุ้มครองดูแลหรือทำกิจ[/FONT] [FONT=&quot]ได้แก่ กลุ่มพระสมณะ[/FONT] ([FONT=&quot]เทพที่มีลักษณะเป็นพระตัดกามไร้เพศบำเพ็ญภาวนาทางพุทธะ) และกลุ่มเทพพรหม[/FONT] [FONT=&quot]หรือเทพที่มีฤทธิ์ต่างๆ แต่ไม่ได้ละเพศ ยังมีกามกิเลสตามปกติ[/FONT] [FONT=&quot]กลุ่มคนที่จัดว่ามีองค์ในแบบ [/FONT][FONT=&quot]สมณเทพ[/FONT][FONT=&quot]นี้ จะถือว่ามีทั้งสองแบบ ดังนั้น[/FONT] [FONT=&quot]จะสามารถล่วงรู้ด้วยญาณของตนได้ว่า ผู้ใดมีองค์ในแบบเทพพรหม[/FONT] [FONT=&quot]และผู้ใดมีองค์ในแบบสมณะดูแลอยู่[/FONT] [FONT=&quot]สามารถบริหารจัดการคนที่มีองค์ได้ทั้งสองแบบ ซึ่งกลุ่มนี้มีจำนวนน้อย[/FONT] [FONT=&quot]และมีแนวทางในการบำเพ็ญภาวนาที่แตกต่างกัน ๒) กลุ่มพระสมณะ คือ[/FONT] [FONT=&quot]กลุ่มที่มีเทพประเภทพระสงฆ์ ผู้ตัดกาม ละเพศ[/FONT] [FONT=&quot]บำเพ็ญภาวนาจิตเพื่อพุทธะเพียงอย่างเดียวคอยดูแลคุ้มครองปกป้อง[/FONT] [FONT=&quot]หรือสอนธรรม หรือเปลี่ยนวิถีชีวิตอยู่ กลุ่มนี้[/FONT] [FONT=&quot]หากได้รับการคุ้มครองก็จะพบปาฏิหาริย์ เช่น รอดตายหวุดหวิด[/FONT] [FONT=&quot]หากได้รับการสอนธรรม ก็อาจได้เห็นนิมิตที่แฝงปริศนาธรรม[/FONT] [FONT=&quot]หรือได้ยินเสียงทิพย์[/FONT] [FONT=&quot]หากกำลังถูกปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตก็จะถูกบีบเค้นอย่างหนักให้เข้าสู่ทางธรรม[/FONT] [FONT=&quot]แต่ฝ่ายเดียว ไม่มีเส้นทางอื่นให้เลือกเลย[/FONT] [FONT=&quot]สำหรับคนที่มีองค์ในแบบสมณะเหมือนกัน มักมองกันก็เข้าใจ คุยกันง่าย[/FONT] [FONT=&quot]เข้าใจกันง่าย ในกลุ่มนี้ มักเป็นผู้นิยมเข้าวัดประจำๆ และนับถือพระมาก[/FONT] [FONT=&quot]เช่น องค์ในเป็นหลวงปู่ทวด ๓) กลุ่มเทพพรหม คือ กลุ่มที่มีเทพประเภท[/FONT] [FONT=&quot]มหาเทพฮินดู[/FONT], [FONT=&quot]พรหม[/FONT], [FONT=&quot]เทพจีน ฯลฯ ผู้ยังมีกาม[/FONT] [FONT=&quot]มีเพศอยู่มาคอยดูแลคุ้มครองปกป้อง หรือช่วยการงาน[/FONT] [FONT=&quot]หรือเปลี่ยนวิถีชีวิตอยู่ แต่ปกติ จะไม่มีหน้าที่สอนธรรมะ[/FONT] [FONT=&quot]ยกเว้นบางองค์ที่มีปางอวตารเป็นโพธิสัตว์ เช่น องค์ศิวะ[/FONT], [FONT=&quot]องค์อุมา[/FONT] ([FONT=&quot]บางปางก็คือพระกวนอิม) เป็นต้น หากมีองค์ที่มีปางอวตารแบบนี้[/FONT] [FONT=&quot]จะมีการสอนธรรมได้ แต่หากไม่มีก็จะไม่สามารถสอนธรรมได้[/FONT] [FONT=&quot]จะบำเพ็ญเพียรช่วยเหลือคนในด้านอื่นๆ เช่น ช่วยในมูลนิธิต่างๆ[/FONT] [FONT=&quot]ส่วนใหญ่คนเหล่านี้ มักได้รับการช่วยเหลือแบบพิเศษจากเทพพรหมก่อน[/FONT] [FONT=&quot]แต่หากไม่ทำความดีเลย สุดท้าย เทพพรหมจะถูกเรียกกลับ[/FONT] [FONT=&quot]แล้วปล่อยทิ้งให้ร่างนั้น ถูกเจ้ากรรมนายเวรและภูตผีต่ำช้าอื่นๆ[/FONT] [FONT=&quot]รุมทึ้งเอาแทน ดังนั้น หลายท่านจึงมักบอกว่าอย่าไปรับขันธ์[/FONT] [FONT=&quot]อย่าเป็นร่างทรง ด้วยเหตุนี้ แท้แล้วการรับขันธ์ไม่ใช่การเป็นร่างทรง[/FONT] [FONT=&quot]ส่วนบุคคลที่เป็นร่างทรงนั้น คือ [/FONT][FONT=&quot]อาชีพ[/FONT][FONT=&quot]อุปมาเหมือนพระ ที่ไม่มีอาชีพ[/FONT] [FONT=&quot]แต่หากทำตัวเรียกเก็บเงินค่าช่วยเหลือผู้อื่น ก็กลายเป็นอาชีพไป[/FONT] [FONT=&quot]คนที่รับขันธ์ ไม่ควรเป็นร่างทรง แต่ควรบำเพ็ญบารมีช่วยเหลือคนไป[/FONT] [FONT=&quot]โดยไม่สนใจเรื่องเงินและอาชีพ แล้วสุดท้ายจะดีเอง ๔) กลุ่มนอกรีต คือ[/FONT] [FONT=&quot]กลุ่มสุดท้ายที่เข้ามาครอบงำจิตของคน[/FONT] [FONT=&quot]หลังจากที่ร่างเปิดรับจิตวิญญาณอื่นแล้ว จะปิดได้ยาก หรือปิดเองไม่ได้[/FONT] [FONT=&quot]เมื่อหลงทะนงตนเย่อหยิ่ง มักจะถูกทอดทิ้งจากเทพพรหมองค์ก่อน[/FONT] [FONT=&quot]เพราะพฤติกรรมที่ตกต่ำเป็นเหตุให้เทพชั้นสูงๆ ไม่สามารถมาช่วยได้[/FONT] [FONT=&quot]เมื่อท่านจากไป บรรดาเจ้ากรรมนาย เวร สัมภเวสี เปรต สัตว์นรก ฯลฯ[/FONT] [FONT=&quot]ก็มาเข้าร่างแทน ซึ่งยังผลให้ชีวิตพบกับความวิบัติหายนะในที่สุด เหล่านี้[/FONT] [FONT=&quot]รวมเรียกว่า [/FONT][FONT=&quot]จิตวิญญาณนอกรีต[/FONT][FONT=&quot]เพราะไม่ได้อยู่ในการดูแลบริหารจัดการของเบื้องบน แต่เกิดจากการ [/FONT][FONT=&quot]ลักลอบ[/FONT][FONT=&quot]หนีจากนรก แล้วมาสิงสู่อาศัยร่วมกับคนเท่านั้นเอง[/FONT] [FONT=&quot]ซึ่งบางท่านถึงกับต้องกลายเป็นปอบ คำว่า [/FONT][FONT=&quot]ญาณบารมี[/FONT][FONT=&quot]ก็เกิดจากการสัมผัส[/FONT] [FONT=&quot]คนมีองค์ต่างๆ นี่เอง เพื่อดูว่าแต่ละท่านมีองค์ใดช่วยอยู่[/FONT] [FONT=&quot]ในที่นี้ของให้เข้าใจว่า องค์เทพใหญ่ๆ จะไม่ลงมาทั้งองค์[/FONT] [FONT=&quot]แต่จะแบ่งส่วนบารมีท่านลงมา เรียกว่า [/FONT][FONT=&quot]ญาณบารมี[/FONT][FONT=&quot]ดังนั้น[/FONT] [FONT=&quot]จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมจึงพบคนที่มีองค์เหมือนกันหลายคน[/FONT] [FONT=&quot]เพราะเป็นการแบ่งญาณบารมีของเทพใหญ่ๆ มาช่วยคนพร้อมกันจำนวนมากๆ[/FONT] [FONT=&quot]เท่านั้นเอง ในการบำเพ็ญให้จิตเป็นหนึ่งเดียวกับเทพเหล่านี้[/FONT] [FONT=&quot]ให้ระลึกเสมอว่าเราคือท่าน ท่านคือเรา จึงจะราบเรียบ[/FONT] [FONT=&quot]ไม่เกิดการยื้อดึงของร่าง การสั่นของร่าง อย่างที่เราเห็น [/FONT][FONT=&quot]คนทรง[/FONT][FONT=&quot]เป็นกัน[/FONT] [FONT=&quot]คนที่บำเพ็ญถูกต้องแบบพราหมณ์ฮินดู คือ เข้าใจว่าเราเหมือนอาตมัน[/FONT] [FONT=&quot]เทพเหมือนปรมาตมัน ก็จะหลอมรวมทั้งสองเป็นหนึ่งเดียว ทำกิจได้เหมือนคนปกติ[/FONT] [FONT=&quot]อย่างราบเรียบกลมกลืน ไม่กระตุก ไม่สั่น ไม่ใช่ร่างทรง[/FONT] [FONT=&quot]และสามารถดึงความสามารถพิเศษที่องค์เทพนั้นๆ[/FONT] [FONT=&quot]มีมาใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาตินั่นเอง อนึ่ง พึงเข้าใจว่า[/FONT] [FONT=&quot]เราและจิตวิญญาณที่มาคุ้มครองเรานั้นคนละส่วนกัน[/FONT] [FONT=&quot]แต่จิตวิญญาณที่มาคุ้มครองเรานั้น มักพูดเสมอว่า เราคือท่าน และท่านคือเรา[/FONT] [FONT=&quot]เพื่อให้เราหลอมรวมแนบสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับองค์ท่าน[/FONT] [FONT=&quot]และท่านจะทำกิจได้ง่าย ไม่ขัดขืน ไม่ลังเล[/FONT] [FONT=&quot]หรือยื้อกันไปมาระหว่างจิตสองดวง ดังนั้น[/FONT] [FONT=&quot]หลักการบำเพ็ญของพราหมณ์ฮินดูจึงมักพูดถึงการหลอมรวมระหว่างอาตมัน[/FONT] [FONT=&quot]และปรมาตมันด้วยเหตุนี้[/FONT] [FONT=&quot]เพื่อเปิดทางให้เทพเบื้องบนทำงานกับเราได้สะดวกนั่นเอง[/FONT] [FONT=&quot]และเราก็จะดึงพลังของเทพที่ท่านมีอยู่ ที่เบื้องบนประทานมาให้นี้[/FONT] [FONT=&quot]นำมาใช้ในการดำเนินชีวิต ประกอบกิจการงานต่างๆ ได้อย่างง่ายดายมากขึ้น[/FONT] [FONT=&quot]แต่ทว่า ต้องไม่หลงตัวเอง ไม่หลงลืมไปว่า เราก็ส่วนหนึ่ง คือ อาตมัน[/FONT] [FONT=&quot]และเทพก็ส่วนหนึ่ง คือ ปรมาตมัน (ปรมาตมัน หมายถึง[/FONT] [FONT=&quot]เทพมีความเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นจิตวิญญาณไหนก็ตาม[/FONT] [FONT=&quot]เพราะรับคำสั่งเดียวกันมาจากเบื้องบน แม้จะทำกิจต่างกัน รูปนามต่างกัน)[/FONT] [FONT=&quot]ซึ่ง คนส่วนใหญ่ที่มีอัตตา ตัวกูของกู มากแล้ว มักพบกับความวิบัติภายหลัง[/FONT] [FONT=&quot]เพราะนิยมยึดถือว่าตนเองเป็นเทพยิ่งใหญ่มีฤทธิ์มากอยู่คนเดียว[/FONT] [FONT=&quot]ผู้อื่นไม่ใช่ ผู้อื่นเป็นตัวปลอมผิดไปหมด (ทั้งๆ[/FONT] [FONT=&quot]ที่เทพท่านแบ่งญาณบารมีได้ จึงโปรดช่วยคนได้หลายคนพร้อมกัน)[/FONT] [FONT=&quot]สิ่งนี้ต้องระวังให้มาก เมื่อใดก็ตามหลอมรวมจิตคิดว่าเป็นหนึ่งเดียวแล้ว[/FONT] [FONT=&quot]ต้องไม่ยึดเป็นอัตตา ญาณ บารมี มากหรือน้อย[/FONT] [FONT=&quot]เทพจะองค์ใหญ่องค์น้อยนั้นไม่สำคัญเท่ากับการบำเพ็ญของเรา ยกตัวอย่างเช่น[/FONT] [FONT=&quot]พระนารายมาช่วยคนๆ หนึ่ง ท่านเป็นเทพใหญ่มาก แต่หากบำเพ็ญด้อยแล้ว[/FONT] [FONT=&quot]ตัวเองก็จะแย่ ไปสู้กับคุณไสย ก็ถูกคุณไสยเข้าตัวเสียอย่างนั้น[/FONT] [FONT=&quot]สุดท้ายไม่ได้เป็นผลดีเลย ในขณะที่คนอีกคนหนึ่ง มีองค์พิฆเนศ[/FONT] [FONT=&quot]ซึ่งเป็นมหาเทพระดับลูกของพระมหาเทพทั้งสาม (นับว่าอิทธิฤทธิ์รองลงมา)[/FONT] [FONT=&quot]แต่ผู้นั้นคิดสร้างสรรค์งานเพื่อพุทธศาสนา แล้วด้วยบารมีแห่งองค์เทพพิฆเนศ[/FONT] [FONT=&quot]เป็นองค์เทพแห่งความสำเร็จ[/FONT] [FONT=&quot]ท่านลองไตร่ตรองดูเถิดว่าคนประเภทที่สองที่ได้รับองค์พิฆเนศซึ่งรองจากมหา[/FONT] [FONT=&quot]เทพทั้งสามนี้ อิทธิฤทธิ์แม้น้อยกว่าองค์นารายนี้ กลับได้บุญบารมีมากกว่า[/FONT] [FONT=&quot]เพราะช่วยงานพุทธศาสนาจนสำเร็จ ในขณะที่คนแรก ไปต่อสู้กับมนต์ดำ[/FONT] [FONT=&quot]จนตัวเองต้องถลำเข้าไปสู่วังวนการต่อสู้ทางจิต[/FONT] [FONT=&quot]แทบไม่ได้บุญอะไรเลยในบางครั้ง เพราะเอาแต่ปะลองฤทธิ์กัน เช่นนี้[/FONT] [FONT=&quot]จึงกล่าวได้ว่า เทพองค์ใหญ่หรือเล็กนั้นไม่สำคัญ สำคัญที่ตัวเราทำอะไร[/FONT] [FONT=&quot]หากมีองค์เทพอยู่ด้วย ขอให้ดึงพลังของท่านมาใช้[/FONT] [FONT=&quot]ให้เกิดประโยชน์สุขให้มากที่สุด ไม่ใช่ใช้ไปนอกลู่นอกทาง[/FONT] [FONT=&quot]ซึ่งยังผลให้บั้นปลายสุดท้าย ต้องรับกรรมอย่างหนักหนาสาหัส[/FONT] [FONT=&quot]ไม่เป็นผลดีต่อตนเองเลย การ ดึงญาณบารมีลงมาประทับ และการดึงญาณบารมีกลับ[/FONT] [FONT=&quot]ในบางครั้ง จำเป็นต้องทำ เพื่อปรับให้การบำเพ็ญสมดุลไม่มากไม่น้อยเกินไป[/FONT] [FONT=&quot]ยกตัวอย่างเช่น บางท่านมีญาณบารมีแบบสมณเทพ คือ มีทั้งพระสมณะและเทพพรหม[/FONT] [FONT=&quot]หากมีเทพพรหมมากช่วงไหน ก็บำเพ็ญบารมีมาก[/FONT] [FONT=&quot]หากมีพระมากช่วงไหนก็ปฏิบัติจิตมาก บางครั้ง จำต้องปรับญาณบารมีให้ตัวเอง[/FONT] [FONT=&quot]เช่น การไปวัด ทำบุญ สัมผัสพระธาตุ ไหว้พระธาตุ[/FONT] [FONT=&quot]เหล่านี้ทำให้ญาณบารมีฝ่ายสมณะเพิ่มขึ้น (หากต้องการ) หรือ[/FONT] [FONT=&quot]การไปทำพิธีพราหมณ์ ไหว้องค์เทพ ทำให้ญาณบารมีองค์เทพมากขึ้น (หากต้องการ)[/FONT] [FONT=&quot]บางท่านมีพลังจิตพิเศษสามารถติดต่อสื่อสารกับเบื้องบนได้[/FONT] [FONT=&quot]และอัญเชิญญาณบารมีองค์เทพต่างๆ ลงมาประทับคุ้มครองผู้คนได้[/FONT] [FONT=&quot]และบางท่านก็สามารถดึงญาณบารมีขององค์เทพกลับได้ หากพบว่ามากเกินไป[/FONT] [FONT=&quot]หลงเกินไป หรือเดินทางผิดพลาด ก็สามารถดึงญาณบารมีเก็บกลับได้เช่นกัน[/FONT] [FONT=&quot]ซึ่งบุคคลผู้ที่ทำหน้าที่เหล่านี้ได้แท้จริง มีจำนวนน้อย[/FONT] [FONT=&quot]และมักถูกมองหาว่าบ้า เพราะทำหน้าที่ในกิจที่ตาเนื้อมองไม่เห็น[/FONT] [FONT=&quot]ที่เรียกว่า [/FONT][FONT=&quot]อนุตรธรรม[/FONT][FONT=&quot]ซึ่งจะมีเรื่องของการเปิดจิตญาณต่างๆ นั่นเอง[/FONT]
    [FONT=&quot]ปฐมเหตุของการเกิดร่างทรงองค์เทพ[/FONT]

    [FONT=&quot]ปฐมเหตุของการเกิดร่างทรงองค์[/FONT] [FONT=&quot]เทพกล่าวกันว่าเมื่อครั้งพุทธกาล[/FONT] [FONT=&quot]ก่อนที่องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนชีพอยู่[/FONT] [FONT=&quot]พระพุทธองค์ได้ตรัสกับพุทธบริษัททั้งหลายว่า[/FONT] [FONT=&quot]พระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนมีอายุ [/FONT]5,000 [FONT=&quot]ปี[/FONT] [FONT=&quot]แต่ของพระองค์นั้นต้องการจะให้พระศาสนามีอายุเพียง [/FONT]2,500 [FONT=&quot]ปี เท่านั้น[/FONT][FONT=&quot]เหล่าเทพพรหมเทวาทั้งหลายได้ทูลขอให้พวกเขาดูแลรักษาพุทธศาสนาให้อยู่ได้อีก [/FONT][FONT=&quot]1250[/FONT][FONT=&quot]ปีหลังจากนั้น[/FONT] [FONT=&quot]เหล่าพญาครุฑ คนธรรพ์ นาคราช ท้าวกุเวร กินนร กินนรี และภูติผีปีศาจ[/FONT] [FONT=&quot]จึงกราบทูลขอดูแลอายุพระศาสนาเท่าที่เหลือ [/FONT]1,250 [FONT=&quot]ปี ให้พวกเขาได้ดูแลรักษา[/FONT] [FONT=&quot]จนกว่าพระศาสนาจะค่อย ๆ เรียวเล็กลงไป[/FONT] [FONT=&quot]ยุคนั้นมนุษย์จะมีร่างกายเล็กลงไปตามลำดับ ถึงกับต้องปีนบันไดสอยลูกมะเขือ[/FONT] [FONT=&quot]หรือเก็บเม็ดพริก พระสงฆ์สาวกก็จะร่อยหรอแทบว่าจะไม่มีเหลือ จะเหลือเพียง[/FONT] [FONT=&quot]ผ้าเหลืองผืนน้อย ๆ ห้อยอยู่ที่หู[/FONT] [FONT=&quot]เพื่อให้เป็นที่สังเกตุว่าเป็นพระสงฆ์เท่านั้น[/FONT] [FONT=&quot]พระศาสนาก็จะเสื่อมถอยลงไปจนหมดพอดี [/FONT]5,000 [FONT=&quot]ปี ตามพุทธฎีกาที่กำหนดไว้[/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อ[/FONT] [FONT=&quot]ถึงกึ่งพุทธกาล [/FONT]2,500 [FONT=&quot]ปี เป็นต้นมา[/FONT] [FONT=&quot]จึงเป็นหน้าที่ของเทพพรหมเทวาทั้งหลายที่จะมาทำหน้าที่อุปถัมภ์ค้ำชูทนุ[/FONT] [FONT=&quot]บำรุงสืบพระศาสนาขององค์สมณโคดม ตามที่ได้ทูลขอกับพุทธองค์ไว้[/FONT] [FONT=&quot]จึงเป็นเหตุในเกิดมีร่างทรงองค์เทพมากมายในปัจจุบัน[/FONT]

    [FONT=&quot]อนึ่ง[/FONT] [FONT=&quot]องค์เทพเป็นเพียงอากาศธาตุเท่านั้น[/FONT] [FONT=&quot]จึงจำเป็นต้องอาศัยสังขารของมนุษย์ที่มีธาตุทั้ง [/FONT]4 [FONT=&quot]คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ[/FONT] [FONT=&quot]โดยการมาแฝงบังคับร่าง เพื่ออาศัยติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ได้[/FONT] [FONT=&quot]นำพาพุทธบริษัทบริจาคทานสร้างวัดวาอารามต่าง ๆ[/FONT] [FONT=&quot]โดยอาศัยการช่วยเหลือบำบัดทุกข์ร้อน รักษาโรคภัยไข้เจ็บให้กับมนุษย์[/FONT] [FONT=&quot]และบอกบุญกับสานุศิษย์ผู้ศรัทธาได้ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลในโอกาสต่าง ๆ[/FONT] [FONT=&quot]โดยมีจุดประสงค์เพื่อการสืบพระศาสนาเป็นสำคัญ[/FONT]

    [FONT=&quot]การที่องค์เทพจะมาเกี่ยวข้องกับมนุษย์นั้นก็ด้วยเหตุ [/FONT]2 [FONT=&quot]ประการ คือ[/FONT]

    1.
    [FONT=&quot]ญาณจุติ หมายถึงภาระหน้าที่ในการเกิดเป็นมนุษย์ตามวาระ และเป็นส่วนหนึ่งของเทพที่ลงมาจุติ[/FONT]
    2.
    [FONT=&quot]ญาณแฝง หมายถึง องค์เทพในระดับต่าง ๆ ที่ยังไม่ถึงวาระการเกิดเป็นมนุษย์[/FONT] [FONT=&quot]แต่มีความเลื่อมใส ปรารถนาจะช่วยส่งเสริมและมีส่วนร่วมในการสืบพระศาสนา[/FONT] [FONT=&quot]ความสัมพันธ์ในอดีตกับองค์เทพ[/FONT]

    [FONT=&quot]คือให้การอารักขาผู้ที่ได้มาจุติ[/FONT] [FONT=&quot]เป็นมนุษย์ เพราะเคยเกี่ยวสัมพันธ์กันมาแต่ชาติปางก่อน[/FONT] [FONT=&quot]เมื่อร่างนี้ได้ทำบุญและแผ่เมตตาให้ ก็จะได้ร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกัน[/FONT] [FONT=&quot]ขณะเดียวกันก็จะคอยปกป้องคุ้มครอง ช่วยเหลือการทำมาหากิน ดลจิตดลใจ[/FONT] [FONT=&quot]หรือเกิดเป็นลางสังหรณ์ในเรื่องราวต่าง ๆ[/FONT] [FONT=&quot]จะพาสร้างบารมีทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา[/FONT] [FONT=&quot]บางครั้งเวลาสวดมนต์นั่งกรรมฐานองค์เทพท่านจะพาสวดมนต์เป็นภาษาเบื้องบน[/FONT]

    [FONT=&quot]หรือภาษาเทพไปเลยก็มี ความสัมพันธ์ดังกล่าวได้แก่[/FONT]

    1.
    [FONT=&quot]เคยมีบุญคุณกันมาก่อนที่จะลงมาจุติเป็นมนุษย์ หรือ ในอดีตชาติ[/FONT]
    2.
    [FONT=&quot]เคยติดหนี้บุญคุณกันมาก่อนที่จะลงมาจุติเป็นมนุษย์ หรือ ในอดีตชาติ[/FONT]
    3.
    [FONT=&quot]เคยเป็นบุตรหลานหรือบริวารกันมา[/FONT]
    4.
    [FONT=&quot]เกิดจาการสวดมนต์อ้อนวอนขอบารมีจากเทพเป็นประจำ จึงลงมาช่วย[/FONT]

    [FONT=&quot]รับองค์เทพเพื่ออะไร[/FONT]

    [FONT=&quot]มนุษย์[/FONT] [FONT=&quot]เราเกิดมาจะมีองค์บารมีคุ้มครองสังขาร[/FONT] [FONT=&quot]มีจิตญาณเดิมกันทุกคนบุคคลใดเชิญองค์บารมีของตนเองมาประทับร่าง[/FONT] [FONT=&quot]หรือเรียกว่า " การเปิดจิตญาณรับองค์" เปิดแล้วได้อะไร[/FONT]

    [FONT=&quot]๑ . ทำให้รู้ว่า เทพประจำสังขารเราเป็นใคร เมื่อรู้จะได้ส่งบุญสร้างกุศลได้ถูกต้อง[/FONT]
    [FONT=&quot]๒. ทำให้รู้ว่า มีเจ้ากรรมนายเวรมากน้อยแค่ไหน เจรจาต่อรองกันได้หรือไม่[/FONT]
    [FONT=&quot]๓. ทำให้รู้ว่าบรรพบุรุษ ของบางท่าน เป็นวิญญาณที่อด ๆ อยาก ๆ เพราะไม่ได้รับส่วนบุญส่วนกุศลหรือไม่[/FONT]
    [FONT=&quot]๔.[/FONT] [FONT=&quot]ทำให้รู้ว่ามีวิญญาณที่มาเกาะหรือแฝงอยู่ในตัวหรือไม่ เป็นสัมภเวสีหรือไม่[/FONT] [FONT=&quot]เมื่อเปิดจิตญาณแล้ว จะทำให้เรารู้ว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรต่อองค์เทพ[/FONT] [FONT=&quot]และองค์เทพจะดลบันดาลให้เจ้าของสังขารประสบความสำเร็จในชีวิต[/FONT] [FONT=&quot]หากมีวิบากกรรม จากเจ้ากรรมนายเวร ก็จะร่วมกันแก้ไขหาหนทางหลุดพ้น[/FONT]

    [FONT=&quot]พลังบุญบารมี...แก้กรรม[/FONT]&
    [FONT=&quot]ลักษณะของชั้นเทพ[/FONT]

    [FONT=&quot]ลักษณะ[/FONT] [FONT=&quot]ของจิตวิญญาณในระดับต่าง ๆ ที่ลงมาประทับทรงหรือเข้าทรงมนุษย์นั้น[/FONT] [FONT=&quot]หากเรารู้จักสังเกตให้ดี ก็พอจะแยกได้ว่า เป็นเทพหรือเป็นผี[/FONT] [FONT=&quot]โดยอาศัยหลักพิจารณาโดยสังเขปดังนี้[/FONT]

    1.
    [FONT=&quot]ประทับทรงจากส่วนล่าง จิตวิญญาณใดที่ประทับทรงจากปลายเท้าขึ้นมา มักจะเป็นพวกสัมภเวสี หรือ วิญญาณมนุษย์ที่ตายไปแล้ว[/FONT]
    2.
    [FONT=&quot]ประทับทรงจากด้านหลัง จิตวิญญาณใดประทับทรงจากด้านหลัง[/FONT] [FONT=&quot]มักจะเป็นวิญญาณทั่วไปที่มีฤทธิ์อำนาจ ซึ่งมักจะเรียกขานกันว่า เจ้าพ่อ[/FONT] [FONT=&quot]เจ้าแม่ เจ้าปู่ ฯลฯ[/FONT]
    3.
    [FONT=&quot]ประทับทรงจากด้านหน้า[/FONT] [FONT=&quot]จิตวิญญาณใดที่ประทับทรงจากด้านหน้า[/FONT] [FONT=&quot]มักจะเป็นวิญญาณของมนุษย์ที่ไปเกิดเป็น เทวดาชั้นจาตุมฯ[/FONT] [FONT=&quot]ที่อยู่ใกล้ชิดมนุษย์[/FONT]
    4.
    [FONT=&quot]ประทับทรงจากทางบ่า จิตวิญญาณใดที่ประทับทรงจากทางบ่า มักจะเป็นเทพหรือดาบสที่มีฤทธิ์ ในระดับกลาง ๆ[/FONT]
    5.
    [FONT=&quot]ประทับทรงจากกลางกระหม่อม จิตวิญญาณใดที่ประทับทรงจากส่วนศีรษะหรือกระหม่อม มักจะเป็นเทพในระดับสูง[/FONT]
    [FONT=&quot]เหตุใดมนุษย์ถึงต้องมีองค์[/FONT]
    [FONT=&quot]มีองค์แล้วได้อะไร [/FONT]?
    [FONT=&quot]ชีวิตจะเปลี่ยนไปอย่างไร [/FONT]?
    [FONT=&quot]คำแนะนำ[/FONT]

    [FONT=&quot]ถ้า[/FONT] [FONT=&quot]ไม่จำเป็นจริง ๆ จะมีองค์หรือไม่ก็ตาม ถ้าท่านหมั่นสวดมนต์ไหว้พระ[/FONT] [FONT=&quot]นั่งสมาธิ แผ่เมตตาถึงครูบาอาจารย์ องค์เทพเทวาที่คุ้มครองรักษาตนเอง[/FONT] [FONT=&quot]ก็น่าจะเพียงพอ[/FONT] [FONT=&quot]เพราะการที่เทพมาอยู่กับเราก็ด้วยเหตุที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น[/FONT] [FONT=&quot]คือปรารถนาจะได้ร่วมสร้างบารมี และช่วยเหลือผู้ที่เคยเกี่ยวข้องกันมาก่อน[/FONT] [FONT=&quot]พาร่างสร้างบารมีทำบุญไหว้พระ สร้างแต่กรรมดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น[/FONT] [FONT=&quot]ถ้าเราทำได้ดังนี้ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องไปรับขันธ์[/FONT] [FONT=&quot]เทพเป็นผู้ที่มีจิตเมตตา ประกอบด้วย หิริโอตตัปปะ[/FONT] [FONT=&quot]คือความละอายและเกรงกลัวต่อบาป ย่อมไม่สร้างปัญหาใด ๆ[/FONT] [FONT=&quot]ให้กับร่างที่จะมาอยู่ด้วย เพราะท่านกลัวบาป[/FONT] [FONT=&quot]การที่จะทำให้เจ็บป่วยหนักหนาแสนสาหัส หรือลงโทษอะไรหนักหนาคงไม่มี[/FONT] [FONT=&quot]นอกจากช่วยเหลือเท่านั้น แต่ที่มันเจ็บป่วยหรือมีปัญหาในหน้าที่การงาน[/FONT] [FONT=&quot]การเงิน จนล้มละลาย มันเป็นเรื่องของวิบากกรรมที่ใครจะเข้าไปแก้ไขได้[/FONT] [FONT=&quot]นอกจากช่วยประคับประคองหรือดลจิตดลใจให้ไปหาผู้ที่สามารถแก้ไขวิบากกรรมส่วน[/FONT] [FONT=&quot]นี้ได้[/FONT]

    [FONT=&quot]ขอขอบพระคุณทุกข้อมูล ทุกเว็บไซต์ที่ให้ความรู้ เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับพระพิฆเณศ[/FONT]

    [FONT=&quot]ขออำนาจแห่งมหาเทพพระพิฆเณศ ผู้ประทานความสำเร็จและขจัดอุปสรรคทั้งมวลจงบังเกิดกับท่านด้วยเทอญ โอม ศานติ ศานติ ศานติ[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
     
  19. khumsub

    khumsub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +117
    ขอลงชื่อด้วยครับ
     
  20. kamyont

    kamyont เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    533
    ค่าพลัง:
    +533
    บัณฑิตคำยนต์
     

แชร์หน้านี้

Loading...