แชร์ประสบการณ์และคำสอน หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

ประมวลภาพในการทำพิธีพลีมวลสารและขอขมา

ตอนขับรถลุยน้ำ เสียวรถดับมากกกกกก

 

พอจุดธูปบอกกล่าวเสร็จ ควันธูปก็พัดมาที่กองมวลสารอีกแล้ว

ครั้งนี้ผมรีบถ่ายคลิปไว้เลย

 

พอเสี่ยงทายดูว่าเรียบร้อยหรือยัง ผลออกมาเรียบร้อยแล้ว ควันธูปก็เปลี่ยนทิศไปอีกฝั่งเฉย

รีบถ่ายคลิปไว้เหมือนกันคราวนี้

โปรดใช้วิจารณญารในการรับชมด้วยนะครับ อาจจะเป็นเหตุบังเอิญก็อาจเป็นไปได้

 

พอวันที่ 16 กันยายน ก็เจอเหตุการณ์ชวนอึ้ง
เลขธูปที่ไปจุดหน้ามูลนิธิเซียนแปะโค้วเซี่ยงงี่ ที่ทำพิธีพลีมวลสารตามฤกษ์
ไปตรงกับสลาก ธ.ก.ส.

(ไม่ใช่เล่นๆนะครับรุ่นนี้ นี่แค่มวลสาร แต่พอดีผมไม่ใช่แนวเสี่ยงโชค555+)

 

คลิปเมื่อวันอาทิตย์ ที่ 4 กันยายน 2565
.
หลวงปู่อินตอง สุภวโร มอบพระบรมสารีริกธาตุ 3 ขวด เพื่อนำมาใส่ในวัตถุมงคลของท่านที่ผมจะจัดสร้างถวายแด่หลวงปู่อินตอง โดยใช้งบส่วนตัวและของครอบครัว ไม่ได้รบกวนทางวัด สร้างแล้วถวายให้หลวงปู่อินตองและวัดวีระธรรมทั้งหมด โดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
.
นับว่าเป็นสิริมงคลแก่ผม(ผู้จัดสร้าง) และผู้ที่จะบูชาวัตถุมงคลรุ่นนี้

 

วันอังคาร ที่ 13 กันยายน 2565
.
เกศาหลวงพ่อมงคล วัดมหาธาตุ (พระอาจารย์ใหญ่ผู้สอนวิปัสสนากรรมฐาน คณะ 5 วัดมหาธาตุ)
.
พี่สมคิดเดินทางไปที่โรงพยาบาล แถวเซ็นทรับเวสต์เกต (พอดีผมจำชื่อโรงพยาบาลไม่ได้) พอดีทางลูกศิษย์หลวงพ่อมงคลแจ้งว่าอยากได้คนมาปลงเกศาให้หลวงพ่อมงคล ซึ่งตอนนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล

พี่สมคิดก็รับอาสาไปปลงเกศาและโกนหนวดให้หลวงพ่อมงคล และทางลูกศิษย์หลวงพ่อมงคลก็เมตตาเก็บกศาของหลวงพ่อมงคลไว้ให้ผมมาใส่ในโถเกศารวมพ่อแม่ครูอาจารย์ที่ไว้ใส่ผสมในการทำพระรุ่นนี้

 

(องค์ที่ 108)
.
ครูบาวุฒิชัย สถานพำนักสงฆ์ม่อนพญาอินทร์ จ.ลำปาง (ลูกศิษย์หลวงปู่ครูบาครอง)
.
เดินทางไปร่วมงานหล่อองค์พระมหามัยมุนี หน้าตัก 65 นิ้ว สูง 3 เมตร ที่โรงหล่อ จ.นครปฐม ซึ่งมีฤกษ์เททองเวลา 14.39 น. เพราะลองสอบถามทางกลุ่มชมรมสู่ร่มโพธิญาณว่าสามารถนำมวลสารเข้าร่วมพิธีได้ เพราะรู้จักกับเจ้าของงานคือ ครูบาวุฒิชัย ก็เลยตัดสินใจไปร่วมงานบุญนี้
.
ออกเดินทางไปถึงงานประมาณ 14.30 น.แบบฉิวเฉียดเพราะขับรถวนหลงอยู่หลายรอบ พอไปถึงครูบาวุฒิชัย กำลังนำสายสิญจน์แบ่งกันจับเพื่อเตรียมตัวหล่อตามฤกษ์ คือ เวลา 14.39 น. สักพักนึงท้องฟ้าก็สว่างนะแต่ฝนได้โปรยลงมาเบาๆ เหมือนเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประพรมน้ำมนต์ให้ ผมก็นำสายสิญจน์มาพันกับถุงใส่มวลสารและยืนมองบนท้องฟ้า ซึ่งสว่างจ้าแต่ฝนตกเบาๆพรำๆ ทำให้เกิดความมั่นใจในพิธินี้เป็นอย่างมาก
.
พอถึงเวลาตามฤกษ์ก็เททองตามฤกษ์ทันที หลังจากเททองเสร็จ ก็เข้ามาในที่รับรอง ทางกลุ่มชมรมสู่ร่มโพธิญาณก็ได้ถวายปัจจัยและลูกแก้วแด่ครูบาวุฒิชัย ทั้งนี้ได้นำไม้เท้ารบกวนครูบาวุฒิชัยฝากถวายแด่หลวงปู่โอภาส วัดจองคำ จ.ลำปาง
.
หลังจากนั้นผมก็ได้ขออนุญาตขอเมตตาครูบาวุฒิชัยอธิษฐานจิตมวลสารให้

 

เททองตามฤกษ์ เวลา 14.39 น.

 

ความเป็นมาของลูกแก้วที่ทางชมรมสู่ร่มโพธิญาณถวายแด่ครูบาวุฒิชัยในงานหล่อพระมหามัยมุนี
.
เมื่อคืน อ.วิกรานต์ นอนภาวนา นัมมอออนี้อฮุก น้อมจิตรำลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า
พอจิตสงบระงับบังเกิดภาพนิมิต
หลวงปู่ครูบาครอง ท่านยืนยิ้มอยู่หน้าประตูห้อง
ภาพปรากฏชัดแม้ไฟฟ้าในห้องปิดทั้งหมดเพราะดึกมากแล้ว
ท่านชี้ไปที่กองของแล้วภาพนิมิตเลือนหายไป
ในจิตรู้อย่างประหลาด
ท่านชี้ไปในถุงที่บรรจุกล่องใส่ลูกแก้ว จากนั้นก็ผล็อยหลับสนิทจนรุ่งเช้า
หลังเสร็จภาระกิจจึงรื้อค้นบริเวณที่หลวงปู่ครูบาครองท่านชี้ในนิมิต
ก็ค้นเจอถุงบรรจุลูกแก้ว
ถุงพลาสติกฝุ่นเขรอะเพราะทิ้งไว้นานมากแล้ว
ในจิตระลึกได้ด้วยความจำได้หมายรู้อย่างแจ่มชัด
ภาพในอดีตผุดขึ้นเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว
วันหนึ่งนิมิตเห็น พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม ท่านสั่งให้นำลูกแก้วขนาดใหญ่พอสมควรไปถวาย หลวงปู่ครูบาครอง
แต่ไม่ทราบว่าเหตุผลกลใดว่า ทำไมต้องนำลูกแก้วไปถวายหลวงปู่ครูบาครอง
เมื่อได้ซื้อลูกแก้วมาแล้วในห้วงเวลานั้นลูกแก้วราคาค่อนข้างแพงมากราคาประมาณ 1200 บาท
จากนั้นนำไปถวาย หลวงปู่ครูบาครอง วัดท่ามะเกว๋น จ.ลำปาง
เมื่อนำลูกแก้วถวาย หลวงปู่ครูบาครอง ท่านก็หัวเราะยิ้มๆแบบเมตตาแล้วท่านนำไปอธิษฐานสักครู่แล้วมอบคืนให้ อ.วิกรานต์ กลับมา
อ.วิกรานต์ จึงกราบเรียนท่านอีกครั้งว่า นำมาถวายหลวงปู่ครับ
ท่านยิ้มๆแล้วบอกว่า รู้แล้ว แต่ฝากไว้ที่เธอก่อน(อ.วิกรานต์)
แล้วท่านถามว่าเคยไปกราบพระมหามัยมุนีที่ พม่า ไหม?ที่นั่นศักดิ์สิทธิ์นะ
จึงกราบเรียนท่านว่า ไม่เคยครับมันอยู่ไกล
หลวงปู่ครูบาครอง พูดว่า ถ้าไปได้ก็ดีถ้าไปไม่ถึงไม่เป็นไรถวายใกล้ๆก็ได้
ต่อไปถ้าได้เจอ พระมหามัยมุนี ฝากไปถวายบูชาให้ด้วย
ประโยคคำสั่งของท่าน อ.วิกรานต์ ก็พอจำได้แม้จะเลือนๆรางๆไปบ้างเพราะกาลเวลาผ่านไปนานมากแล้ว
พอทราบว่า ครูบาวุฒิชัย พระผู้ปฏิบัติดึปฏิบัติชอบลูกศิษย์หัวแก้วหัวแหวนศิษย์รัก หลวงปู่ครูบาครอง กำลังจะหล่อ พระมหามัยมุนี
ประกอบกับมีนิมิตเห็น หลวงปู่ครูบาครอง
อ.วิกรานต์ จึงตัดสินใจจะถวาย ลูกแก้ว นี้แด่ ครูบาวุฒิชัย
เพื่อนำไปถวายบูชาแด่ พระมัยมุนี อีกทอดหนึ่งตามความตั้งใจของครูบาอาจารย์
เพื่อน้อมถวายกุศลแด่ หลวงปู่ครูบาครองและครูบาอาจารย์ทุกๆพระองค์
และนี้คงเป็นสิ่งยืนยันในญาณทัศนะอันแจ่มใสของครูบาอาจารย์
ว่าท่านทราบเหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างน่าอัศจรรย์จริงๆ

 

#ครั้งแรกที่คณะชมรมสู่ร่มโพธิญาณ
#ได้พบหลวงปู่ครูบาครอง
.

ในชีวิตเราไม่มีความบังเอิญ หากพบเจอกันไม่มีอะไรเป็นเรื่องบังเอิญทั้งนั้น ทุกสิ่งถูกกำหนดมาด้วยบุญ กรรมล้วนแล้วแต่เคยเกี่ยวข้องกันมาก่อน
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ.2553
คณะชมรมฯตื่นแต่เช้า ออกไปทานอาหารเช้า เมื่อรถเข้าสู่ตัวเมืองสมาชิกเตรียมจัดหาของถวายสังฆทานและอาหารว่างเพื่อจะมุ่งสู่ลําปางผ่านเถิน เพื่อจะไปนมัสการหลวงพ่อทองคําและหลวงพ่อศิลาพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ อําเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย
พี่เสือได้ถามว่าจะพาไปกราบ #ครูบาครอง จะแวะไหม เมื่อตกลงใจเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันรถก็ออกทางแม่ปะ เข้าวัดท่ามะเกว๋น อําเภอเถิน จังหวัดลำปาง จากการสนทนากับญาติโยมใกล้ชิดที่อุปัฏฐากรับใช้ท่าน ได้ทราบว่าท่านเป็นนักปฏิบัติ ที่ชอบสันโดษ อยู่ป่าช้าเป็นข้อวัตรข้อปฏิบัติ มีปฏิปทางดงามนัก และได้รับการยกย่องจากหลวงปู่ครูบาผัด พระมหาเถระแห่งวัดศรีดอนมูล จังหวัดเชียงใหม่
เมื่อสมาชิกชมรมสู่ร่มโพธิญาณเข้าไปถึงนั้น หลวงปู่ท่านครูบาครองอยู่กุฏิไม้เป็นเรือนหลังเล็กกะทัดรัด แต่สะอาดเรียบร้อยดี ช่วงนั้นใกล้จะถึงเพลแล้ว มีคนมากราบหลวงปู่มากมาย แต่ท่านดูผ่องใส อิ่มเอิบงดงามยิ่งนักและมีเมตตาต่อลูกหลานทุกคน มีความยินดีและเต็มใจที่จะปะพรมน้ำมนต์โดยทั่วถึง ถึงแม้ว่าคณะเราจะกราบอยู่ห่างๆท่าน แต่ก็สามารถสัมผัสและรับรู้ถึงกระแสความเมตตา ของหลวงปู่ครูบาครองได้ เมื่อมีลูกศิษย์เข้ามากราบคารวะ ท่านจะปะพรมน้ำมนต์ให้ศีล ให้พรโดยถ้วนหน้า พวกเราจัดเตรียมข้าวของมวลสาร และ พระเครื่องที่ติดตัวมา ตลอดจนเครื่องประดับ กระเป๋าเงินวางบนถาดเพื่อขอความเมตตาให้ท่านช่วย อธิษฐานจิตให้
คุณวิกรานต์เกิดความสนใจใคร่รู้ว่าหลวงปู่ครูบาครอง คือผู้ที่พระแม่โพธิสัตว์กวนอิม ได้มาบอกไว้ในนิมิตว่าเป็นพี่ชายท่านในอดีตชาติหรือไม่ จึงนั่งสํารวมจิตอยู่ใกล้ๆ เมื่อจิตนิ่งดีแล้วก็ได้เห็นภายในของหลวงปู่เป็นทองคําทั้งองค์ น้ำมนต์ที่หลวงปู่ปะพรมเป็นดอกมะลิใสเหมือนแก้วโปรยปราย เห็นองค์พระแม่โพธิสัตว์กวนอิมยืนอยู่ด้านข้าง จึงเกิดความแน่ใจ เมื่อคณะของชมรมฯ พร้อมจะเข้าไปกราบคารวะหลวงปู่นั้น พอดีถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนน้ำในบาตรเพื่อทําน้ำมนต์ขันใหม่ คุณลุงผู้เป็นโยมอุปัฏฐากของหลวงปู่ได้เอาขันน้ำมนต์ไปล้างเพื่อใส่น้ำใหม่ และหักฝักส้มป่อยสีดําๆ ใส่ลงไป 3 ท่อน ตามคติความเชื่อของคนทางเหนือนั้น ถือว่าฝักส้มป่อยเป็นของมงคล มีความศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถล้างอาถรรพ์หรือสิ่งไม่ดี (เสนียดจัญไร) ในตัวคนออกไปได้ คนอื่นนั่งเฝ้า สังเกตการณ์การทําน้ำมนต์อยู่เงียบๆ มีแต่คุณวิกรานต์ที่ยังคงนั่งนิ่งกําหนดอยู่และได้เห็นภาพพระแม่กวนอิมเด็ดใบหลิวจากแจกันหยกในมือ ใส่ลงในขันน้ำมนต์และทําท่าอธิษฐานจิต พลันเกิดแสงสว่างสีทองวาบออกมา แล้วภาพนิมิตที่เห็นอยู่ก็ค่อยเลือนจางหายไป ส่วนกลุ่มลูกศิษย์ที่มาเป็นครอบครัวก่อนหน้า ต่างก็ทยอยกันออกมาหลังปะพรมน้ำมนต์เรียบร้อย
พี่เกสรกับพี่เที่ยง ซึ่งเป็นลูกหลานอุปัฏฐากหลวงปู่ครูบาครอง เป็นผู้มีอัธยาศัยดีเป็นที่ยิ่ง มีน้ำใจงดงาม ได้ให้คําแนะนําเล่าเรื่องราวต่างๆ และตอบคําถามเกี่ยวกับ หลวงปู่ให้พวกเราฟังเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากต้องขอกราบขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วย และได้กรุณาจัดคิวให้คณะชมรมสูร่มโพธิญาณได้เข้าไปกราบเพื่อร่วมทําบุญกับหลวงปู่ครูบาครอง เนื่องจากกลุ่มคณะของเราส่วนมากเป็นสตรี คุณลุงโยมอุปัฏฐากจึงมานั่งข้างๆ กันหลวงปู่ซึ่งมีขันน้ำมนต์ที่ตั้งอยู่ใกล้โต๊ะหมู่บูชา เมื่อพร้อมใจกันกราบหลวงปู่ ถวายสังฆทานและปัจจัย ท่านเมตตาสนทนาธรรมให้ พวกเราได้ฟังแล้วท่านก็อธิษฐานจิตปรกวัตถุมงคล มวลสาร แผ่นโลหะ ชนวน เพื่อใช้ในการหล่อพระ และกระเป๋าเงิน เพื่อเจริญทางโภคทรัพย์ เมื่อเสร็จกระบวนการหลวงปู่ก็สวดให้พรและปะพรมน้ำพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล คุณวิกรานต์นั่งสํารวมจิตอีกครั้ง ได้เห็นรัศมีสีทองแผ่กว้าง รู้สึกเย็นและปิติ ขนลุกซู่ หลังจากเสร็จสิ้นการปะพรมน้ำมนต์ จึงเข้าไปกราบนมัสการถามหลวงปู่ครูบาครองว่ามีอะไรในขันน้ำมนต์บ้าง หลวงปู่ตอบอย่าง ม่วนอก ม่วนใจว่า
“ก๊ะมีน้ำ บ่ดาย มีส้มป่อยและปุทธคุณ ธัมคุณ สังฆคุณ บ่มีอะหยังดอก"
แล้วท่านก็ ยิ้มให้ด้วยความเมตตา คุณวิกรานต์จึงเล่าถึงนิมิตที่ได้เห็นให้หลวงปู่ฟัง ท่านรับ ฟังและก็ยิ้มพยักหน้า คุณวิกรานต์ก็ถามคําถามเดิมว่ามีอะไรในขันน้ำมนต์ อยากจะขออนุญาตชมได้ไหม คุณลุงโยมตอบสวนทันทีทันควันว่า
“ในบาตร น้ำมนต์ บ่มีอะหยัง นอกจากฝักส้มป่อยที่เฮาเป็นคนหักใส่ลงไปกับมือตะอั้น”
แล้วคุณลุงก็เอามือล้วงลงไปคนในขันให้พวกเราดู แต่ปรากฏว่ามีวัตถุสีดํา ลักษณะคล้ายฝักส้มป่อยมีรอยหยักๆย่นๆ และมีรูปพระโพธิสัตว์กวนอิมยืน ประทับข้างดอกบัว มีเจ้าชายอั้งไฮ้ยี้ ยืนอยู่ด้านข้าง แต่ที่น่าประหลาดใจมากไปกว่านั้น คือส้มป่อยที่เหลืออีก 2 ชิ้นอันตรธานหายไปจากขันน้ำมนต์ และ ส่วนที่ เราได้เห็นด้วยตาเนื้อพร้อมๆ กันนั้น มีวัตถุธาตุที่มีลักษณะเหมือนหินหยกมีสีดําสวยงาม ล้ำค่ายิ่งนัก หลวงปู่รับองค์พระแม่ขึ้นมาชม และพิจารณาสักครู่ก็ยก วัตถุมงคลที่ปรากฏนั้นจบหัว แล้วส่งผ่านมาให้พวกเราได้ชื่นชมวัตถุมงคลที่ แกะสลักรูปเหมือนพระแม่กวนอิมด้วยความปราบปลื้มใจ ทุกคนตื่นเต้นและวิพากษ์วิจารณ์กันในความมหัศจรรย์อยู่พักหนึ่ง คุณลุงโยม พี่เกสร พี่เที่ยงและ ทุกๆคน ต่างก็พิศวงสงสัยว่าหินหยกสีดํารูปองค์พระแม่กวนอิม เสด็จมาอยู่ในขันน้ำมนต์แทนฝักส้มป่อยได้อย่างไร คุณวิกรานต์พูดว่า หลวงปู่ช่างมีบารมีแก่
กล้าดีแท้ ทําให้ลูกหลานได้พบสิ่งมหัศจรรย์อย่างมิได้คาดฝันมาก่อน แต่องค์พระแม่โพธิสัตว์กวนอิมมีจริงใช่ไหมครับ หลวงปู่ตอบเบาๆ แต่อย่างมั่นใจว่า
“เปิ่นมีแต้ๆ พวกลูกหลานมีบารมีจ้าดนักเนาะ โดยเฉพาะโยมจิตดีจ๊าดนัก (ยิ้มและจ้องหน้าคุณวิกรานต์) ก็ขออนุโมทนาโตยก๋า”
ระหว่างหลวงปู่ฉันเพลชาวคณะต่างก็ชื่นชมวัตถุมงคลหินหยกสีดําของ พระโพธิสัตกวนอิม มีใครบางคนถามพี่เกสรว่า เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ไหม ซึ่งก็ได้คําตอบว่า
"บ่เกยมี พึ่งจะมีเตื้อนี้เป็นเตื้อแรก”
พวกเรา ต่างก็เวียนถ่ายรูปวัตถุมงคล ด้วยโทรศัพท์มือถือ วีดิทัศน์และกล้องถ่ายรูป ทั้ง คุณวิทย์ พี่เสือ คุณแสบ เจ๊หมวยแว่น เจ๊อัมพร ส่วนเจ๊นุ้ยคุณวิไลศรี อธิคมไตรรัตน์ เมื่อถ่ายแล้วได้รูปไม่สวยจึงตั้งจิตอธิษฐานว่า ขอให้ได้รูปสวยสมใจจะเอาไว้ไปกราบไหว้บูชา แต่ทว่ามือยังไม่ทันได้กดชัตเตอร์ ปรากฏว่าชัตเตอร์ถ่ายเอง และได้ภาพสวยถูกใจมากสร้างความฮือฮาในหมู่พวกเราอย่างยิ่ง หลังจากหลวงปู่ฉันเสร็จพวกเราได้ร่วมใจถวายหินหยกรูปพระแม่โพธิสัตว์กวนอิมให้กับ หลวงปู่ แต่ท่านปฏิเสธที่จะรับตามวิสัยของพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ละสิ้นทั้ง ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น ท่านตอบว่า
“เป๋นของบุญบารมีหมู่ตั๋วที่มาบ่ไจ้ของ หลวงปู่”
พวกเราจึงพร้อมใจตั้งจิตอธิษฐานว่า หินหยกสีดํารูปพระแม่โพธิสัตว์กวนอิมอันเป็นมงคลนี้ มิใช่เป็นของพวกเราเช่นกันเพราะเป็นวัตถุมงคลที่ลอยเลื่อน มาจากนภากาศที่เราไม่ได้เห็นด้วยตาเนื้อ จึงสมควรเป็นของคู่บารมีของหลวงปู่ครูบาครอง พวกเราขอถวายโอกาสมีส่วนร่วมถวายกับหลวงปู่ แต่ก็ยังมีผู้เกิดความสงสัยว่าในเมื่อของมิ่งมงคลนี้ไม่ใช่เป็นของๆเราแล้ว เราจะได้บุญหรือ หลวงปู่ ตอบว่า
" ได้ก่ะ ในเมื่อตุ๊กคนตั้งใจ๋ถวาย เพราะของมงคลนี้มาจากอากาศบ่มี เจ้าของที่เป๋นมนุษย์ หากแต่เป๋น มหาโพธิสัตว์เจ้า โยมมีจิตกุศลร่วมถวายร่วมโมทนาก็ได้บุญโตยกั๋น เพราะบุญนี้สําเร็จได้ด้วยใจ๋ ”
เมื่อกราบลาหลวงปู่ครูบาครอง และคณะศรัทธาญาติโยม พวกเรามีความศรัทธาในปฏิปทาของท่าน จึงปรึกษาว่าทางวัดยังไม่มีองค์เทพพระแม่กวนอิมประดิษฐานอยู่เลย สมควรที่จัดสร้างองค์รูปเหมือนขององค์พระแม่กวนอิม โดยบอกบุญร่วมกันสมทบทุนตามกําลังศรัทธาจัดมาถวายท่าน จึง กราบเรียนหลวงปู่ทราบ ท่านอนุโมทนาสาธุการ
เมื่อถึงเวลาสมควร พวกเราก็กราบลาหลวงปู่
#หลวงปู่ครูบาครอง
#พระโพธิสัตว์กวนอิม

 

(องค์ที่ 109)
.
หลวงพ่อกริ่ง วัดศรีวิสารวาจา จ.นครปฐม
.
หลังจากเสร็จงานหล่อพระ ผมกับทางชมรมสู่ร่มโพธิญาณก็ได้เดินทางมาวัดศรีวิสารวาจาเพื่อเข้ากราบหลวงพ่อกริ่ง ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับที่หล่อพระพอดี ตอนที่ผมสร้างพระรุ่นปลดหนี้ ผมก็เคยเดินทางจะมาขอเมตตาหลวงพ่อกริ่ง แต่ว่ามาถึงวัดแล้วแต่ท่านไม่อยู่วัด ไปกิจนิมนต์ ครั้งนี้เลยเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ขอเมตตาหลวงพ่อกริ่งเมตตาอธิษฐานจิตมวลสารให้ ทั้งนี้ผมก็ได้ทำบุญถวายปัจจัยแด่หลวงพ่อกริ่ง

 

ขากลับแวะวัดพระประโทณเจดีย์ เลยนำมวลสารไปวางและจุดธูปบอกกล่าวขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดพระประโทณเจดีย์เมตตามาเสกมวลสาร

ปล. ตอนถ่ายรูปไม่มีรูปลูกไฟ แต่พอเปิดดูรูปมีรูปแสงสีเขียวๆฟ้าๆติดมาด้วย...แปลกดี

 

วันจันทร์ ที่ 19 กันยายน 2565
.
หลังเลิกงานก็เดินทางไป รพ. รามาธิบดี เพื่อนำงานไปให้หลวงปู่บุญส่งพิจารณา เดินทางไปถึงห้องพักในรพ. และคิดว่าลป.หลับ นึกในใจ... เอาแล้ว ลป.หลับ สคริปต์ที่ท่องมา จะคุยกับท่าน 4 เรื่อง จะล่มเปล่าวะเนี่ย
.
เดินเข้ามาในห้อง หลวงปู่บุญส่งนอนอยู่และเอ่ยทักว่า "มาแล้วหรอ" พอดีทางลูกศิษย์หลวงปู่ได้เกริ่นมาก่อนว่าวันนี้ผมจะนำงานมาส่งหลวงปู่
.
ผมก็ก้มลงกราบและนำงานส่งให้หลวงปู่บุญส่งพิจารณา ตอนหยิบแผ่นงานไปให้ท่านพิจารณา ท่านก็รับและนอนดูแล้วไม่ตอบอะไร แต่ท่านนอนดูแบบนานมาก 5นาทีอย่างต่ำน่าจะมี ท่านดูแบบเพ่งพิจารณามากเลย แต่ท่านก็พิจารณาดูอย่างเดียวแต่ท่านไม่ได้เอ่ยอะไร จนผมเอ่ยปากสอบถามท่านว่า "แบบผ่านรึเปล่าครับ"
.
แต่หลวงปู่ก็นิ่ง ไม่ตอบอะไร จนสุดท้ายหลวงปู่ก็หลับตาลง ผมก็เลยเปลี่ยนขยับมานวดขาท่านแทน ตอนนั้นคิดในใจว่า
- ท่านกำลังพิจารณาดูแบบอยู่
- ท่านกำลังสื่อกับใคร หรือสื่อกับพระอุปคุตรึเปล่า เพราะตามที่เราทราบๆกัน ท่านก็เป็นสายพระอุปคุต
- หรือว่าท่านหลับหว่า????
.
อันนี้คือสิ่งที่คิดขณะที่นวดขาท่าน ในใจก็นึกว่าเอาแล้ว เราโดนทดสอบรึเปล่าวะ? ตอนนั้นไม่ได้กลัวอะไรท่าน แต่ในใจแค่นึกว่า "จะเอาไงต่อดีวะ"
.
ท่านก็หลับตาไปพักใหญ่ๆเลย ตอนนั้นก็ลุ้นในใจว่า ต้องทำอะไร ยังไงต่อดีน้อ? อีกใจก็รู้สึกว่าท่านเป็นพระดุดีแท้ สุดท้ายลูกศิษย์ของหลวงปู่ก็ขออนุญาตนำยามาหยอดตาท่าน ท่านก็เลยลืมตามาให้ลูกศิษย์หยอดตาให้

พอหยอดเสร็จท่านก็เอ่ยว่า "ไม่เอาพิมพ์ทรงนี้ เอาเป็นทรงรูปไข่แทน"
.
จังหวะนั้นก็รู้แล้วว่า แบบผ่านแล้ว แต่ให้แก้ไขเป็นทรงรูปไข่ และท่านให้นำยันต์ล้อมมาใส่ตรงพระอุปคุตด้วย
.
หลังจากนั้นผมก็ขอเมตตานำรัดประคตที่หลวงพ่อมงคลฝากให้นำมาถวายหลวงปู่บุญส่ง หลวงปู่บุญส่งก็รับและโมทนาไปและสอบถามว่าหลวงพ่อมงคลไหน ก็เลยเล่าให้หลวงปู่บุญส่งไปว่าหลวงพ่อมงคลเคยไปเยี่ยมที่วัดสันติวนารามน่าจะ 3-4 ปีที่แล้ว และนำมือถือเปิดภาพให้หลวงปู่บุญส่งได้ชมรูปตอนที่หลวงพ่อมงคลไปที่วัดสันติวนาราม และหลวงปู่บุญส่งมาต้อนรับหลวงพ่อมงคล
.
จากนั้นลูกศิษย์อุปัฏฐากก็คุยสัพเพเหระกับหลวงปู่ ส่วนตอนนั้นในใจผมก็มองที่แบบ เพื่อจะนำกลับไปแก้ไข แล้วก็มองท่าน ตอนนั้นในใจกลับเกิดความคิดว่า" เอ! หรือว่าจริงๆแล้ว ผมมาทำให้ท่านลำบากใจหว่า " ผมเลยนึกในใจกล่าวขอโทษหลวงปู่ ว่าถ้ามีสิ่งไหนที่ผมทำให้หลวงปู่ไม่สบายใจ หรือลำบากใจ ผมกราบขออภัยด้วยครับ
.
หลังจากนั้นผมก็เห็นตัวเองจิตตกขึ้นมา แต่อีกใจก็คิดว่า ท่านเมตตาให้เราสร้างแล้ว จะมาท้อถอยหรือท้อแท้แบบนี้... ไม่สมควรนะ นี่คือโอกาสที่เราจะได้ช่วยท่านอีกครั้ง และเป็นโอกาสที่ผมจะได้สร้างบารมี
.
หลังจากนั้นตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้าอีกวันนึง ผมก็ไม่ได้เข้าไปจัดการกับอาการหรือความคิดเหล่านี้ แต่คอยดูเอา เห็นว่าจิตหรือความคิดแบบนี้ บางทีก็ปกติ บางทีก็เริ่มคิดแบบเฟลๆ
.
พอนั่งสมาธิ ก็ดูเอาตลอด แต่ไม่ไปแทรกแทรง ไม่ได้ท้อหรือหมดกำลังใจ แค่เห็นเป็นสภาวะที่เกิดขึ้นหลังจากเข้ากราบหลวงปู่
.
บางทีก็ทีคิด ท่านดูเฉยชาและดุแท้.....
.
จบครับ ประมาณนี้ ส่วนผมก็เดี๋ยวไปแก้ไขและนำแบบมาเสนอต่อ แต่คืนนั้นขณะกำลังขับรถกลับบ้านก็ต่อโทรศัพท์ไปคุยงานกับคุณเอ๊กซ์ วัดเทพธารทองเพื่อปรึกษาและขอคำแนะนำ

 

ภาพเมื่อครั้งหลวงพ่อมงคล วัดมหาธาตุเดินทางไปพร้อมกับทางชมรมสู่ร่มโพธิญาณ ผ่านทางมาจึงแวะเข้ามาชมอุโบสถวัดสันติวนาราม และหลวงปู่บุญส่งเมตตาออกมาต้อนรับ น่าจะ 3-4 ปีที่แล้ว

 

สายบุญท่านนึงตระเวนเก็บผงธูปมงคลมาร่วมเป็นมวลสารให้

1. ศาลเจ้าแม่ทับทิม สะพานหัน

 

2. วัดโลกานุเคราะห์ (วัดญวณ)

 

3. ศาลเจ้ากวนอู เยาวราช

 

4. ศาลเจ้าเล้งบ๊วยเอี๊ยะ

 

5. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ไต้ฮงกง เยาวราช

 

6. ศาลเจ้าไต้ฮงกง ถนนพลับพลาไชย