แชร์ผลการปฏิบัติ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ฐสิษฐ์929, 13 มิถุนายน 2014.

  1. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ถ้าศึกษาพระไตรปิฎก
    เอตทัคคะฝ่านฤทธิ์มีตั้งหลายด้าน
    อาจจะปุคคลาธิษฐาน อยากเป็นอย่างใคร เจริญตามรอยใคร หรือขนาดอยากเป็นพุทธภูมิ เราก็ไม่รู้ใจคนอื่นๆ
     
  2. ิ์Fist of the North Star

    ิ์Fist of the North Star เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    564
    ค่าพลัง:
    +385
    คุณ ปุณฑ์ ครับเมื่อก่อนผมชอบฟัง เสียงอ่านพระไตรปิฏก ผมว่าเนื้อเรื่องฟังไม่ยาก บางทีมีเรื่องราวของพระพุทธเจ้า ที่ตรัสโต้กับปริพาชกทั้งหลายนี่สนุกมากครับ แล้วได้ธรรมะด้วย แต่ตอนนี้มีท่านที่รวบรวมพุทธวจนให้เราโดยแยกเป็นเรื่องๆ สะดวกกับการศึกษาอย่างยิ่ง เป็นประโยชน์แก่ คนและเทวดา อย่างมากครับ พอผมได้ยินเพื่อนๆผมบอกว่ายุคนี้ศาสนาพุทธเสื่อมมาก ในใจผมว่าไม่ใช่ครับ เป็นยุคที่เจริญมาก จะเสื่อมจริงๆก็ยุคที่ไม่มีคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว พอไม่มีธรรม ก็ไม่มีผู้ปฏิบัติธรรม ยุคนั้นแหละครับเสื่อมของจริง
     
  3. ิ์Fist of the North Star

    ิ์Fist of the North Star เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    564
    ค่าพลัง:
    +385
    อ้อจริงครับปั่นกระทู้ซะยาวเลย แต่ได้ความรู้ดีครับ เหมือนแชทแบบกลุ่มเลย ขออภัยคุณฐสิษฐ์ด้วยเช่นกันครับ 55
     
  4. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    การฝึกฤทธิ์นั้นก็ผิดธรรมแล้ว การฝึกธรรมนั้นต่างหากที่ได้ทั้งธรรมและฤทธิ์ การฝึกฤทธิ์นั้นผืดธรรมตั้งแต่แรกเพราะยังไม่เข้าใจอริยสัจสี่เลย จนเวลาล่วงไปป่าวกว่าจะกลับใจมาเรียนรู้อริยสัจบางคนก็สายไป บางคนก็ทัน ดังตัวอย่างในสมัยพุธทเจ้าก็มีให้เห็น นั่งดูอดีตชาติตนเองเป็นแสนๆกัปล์จนตัวเองจะตายนึกได้ก็เสียเวลาไปชาติหนึ่ง
     
  5. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    อ่ะ อีกหน่อย..
    ไปบอกพระพุทธเจ้า ดีไหม..
    พระองค์ท่านจะเป็นพระสัพพัญูญู. นะ
    สายสุขวิปัสสโก คงมีฤทธิ์เนอะ จำนวนมากกว่าสายมีฤทธิ์ด้วย
    ท่านอุบลวรรณา เป็นพระอรหันต์ ได้เตโชกสิณ
    บุญฤทธิ์น่ะมี แต่ฤทธิ์อภิญญา ได้ง่ายๆที่ไหน
    พระอุบลวรรณาเถรี อัครสาวิกาเบื้องซ้าย ในอดีตชาติเป็นพระขนิษฐาของพระราหุล


    เมื่ออรหัตตมัคคจิต เกิดขึ้นแล้วดับไป
    จิตดวงต่อมาจะเป็นอรหัตตผล 3 ขณะจิตบ้าง 2 ขณะจิตบ้างตามกำลังอินทรีย์ของผู้บรรลุ

    อรหัตตผลจิตนั้นมีความแตกต่างกันในเรื่องของฌานที่มาเป็นบาทรองรับ แต่มีปัญญาเดียวกันคือปัญญาในการสละวาง

    อรหัตตผลจิต มีปัญญาเดียวกัน แต่มีฌานเป็นบาทแตกต่างกันดังนี้ครับ
    1.อรหัตตผลจิต ที่ประกอบด้วยปัญญา + ฌาน 1 เป็นบาทบรรลุแบบปัญญาวิมุติ
    2.อรหัตตผลจิต ที่ประกอบด้วยปัญญา + ฌาน 2 เป็นบาทบรรลุแบบปัญญาวิมุติ
    3.อรหัตตผลจิต ที่ประกอบด้วยปัญญา + ฌาน 3 เป็นบาทบรรลุแบบปัญญาวิมุติ
    ดับกิเลสสังโยชน์ได้หมดสิ้น แต่ขันธ์ยังเหลืออยู่

    พระอรหันต์ 3 ประเภทนี้ ไม่มีอภิญญา เรียกว่า พระสุขวิปัสสโก
    ให้จำไว้ว่า สุขวิปัสสโก เป็นผลไม่ใช่เหตุ

    4.อรหัตตผลจิต ที่ประกอบด้วยปัญญา + ฌาน 4 เป็นบาท บรรลุแบบปัญญาวิมุติ
    ดับกิเลสสังโยชน์ได้หมดสิ้น แต่ขันธ์ยังเหลืออยู่
    พระอรหันต์ประเภทนี้มีผล2 อย่าง
    คือ วิชชา 3 และหรืออภิญญา 6

    5.อรหัตตผลจิต ที่ประกอบด้วยปัญญา + ฌาน 4 เป็นบาท
    บรรลุแบบปัญญาวิมุติก่อน เจโตวิมุติภายหลัง
    หรือบรรลุเจโตวิมุติก่อน บรรลุปัญญาวิมุติภายหลัง
    หรือบรรลุเจโตวิมุติ
    ดับกิเลสสังโยชน์ และดับขันธ์ 5 ได้หมดสิ้นด้วยสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ

    พระอรหันต์ประเภทนี้ย่อมถึงญาณ 67
    ที่เรียกกันว่าพระอรหันต์ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 อภิญญา 6 และวิชชา 3


    http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?t=28283
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2014
  6. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    สมัยพุทธกาลนั้นผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาก็เพื่อความหลุดพ้นเป็นเป้าหมายสูงสุดและพระพุทธเจ้าก็พรำ่สอนอริยสัจธรรมแก่ผู้สนใจบางท่านก็สนใจออกบวชทิ้งบ้านเรือนทิ้งครอบครัวมาก็เพื่อหวังความหลุดพ้นกันทั้งนั้น แต่การปฎิบัติธรรมนั้นเป็นเป้าหมายสูงสุดเมื่อสำเร็จธรรมเป็นพระอรหันต์แล้วส่วนฤทธิ์ที่เป็นผลมาจากการปฎิบัติธรรมที่เกิดจากองค์ของสมาธิร่วมด้วย แต่ละองค์ได้ไม่เท่ากันและน้อมไปเพื่อกระทำฤทธิ์ เพราะสะสมมาจากอดีตชาติ ฤทธิ์จึงเป็นผลที่เกิดจากการปฎิบัคิธรรมเท่านั้น พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนฤทธิ์เลย และคนปฎิบัติธรรมสมัยนี้เริ่มต้นก็ต้องการฤทธิ์ มันจึงผิดธรรมไปไกลพระนิพพานเหลือเกิน เมื่อได้สมาธิก็จึงนึกว่าบรรลุธรรมได้ฤทธิ์เดช หลุดออกทางกันมากมาย คำสอนที่ผิดจึงมีมากมายมีแต่อาจารย์นั้นอาจารย์นี้ ลองไปเปิดดูอริยวินัยตรวจสอบดูก่อนได้ทั้งมิจฉาอาชีวะมิจฉาทิฎฐิ ท่านก็จะรู้ว่าใครเป็นนอย่างไรตามทิฎฐิของพระพุทธองค์ ไม่ใช่สัมมาทิฎฐิของเราเอง ถ้ายอมพระพุทธเจ้าคนเดียวทุกอย่างก็จบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2014
  7. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    สวรรค์ นรก กรรมฐาน 40
    วิชชาสาม อภิญญาหก
    คงสอนทุกอย่าง แม้นแต่เรื่อง คุณธรรมต่างๆ ทางโลก

    เห็นเขามาแปะกระทู้ว่าด้วยจริตห้องนี้ (เนอะ ส่วนเขาจะเอาฤทธิ์จะไปห้ามก็คงไม่ได้)
    http://palungjit.org/threads/%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%95.534263/
     
  8. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    พระองค์อึดอัดขยะแขยงเรื่องฤทธิ์เป็นไปไม่ได้ที่จะสอนเรื่องฤทธิ์พระองคเ์กิดมาเพื่อแก้สิ่งสามสิ่ง เกิด แก่ ตาย
     
  9. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ก๊อปเขามา

    การจะได้เป็นพระพุทธเจ้าหรือไม่นั้น ไม่ได้อยู่ที่การตั้งความปรารถนาเท่านั้น
    สำคัญที่เหตุเป็นสำคัญ ซึ่ง ผู้ที่จะปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ก็ต้องมีอัธยาศัยใหญ่
    มีฉันทะ ความพอใจอย่างยิ่ง อีก 4 ประการ คือ ​

    พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก เล่ม ๙ ภาค ๓ - หน้าที่ 583
    ...อนึ่ง บุคคลฟังมาว่า ผู้ใดสามารถข้ามท้องจักรวาลนี้ทั้งสิ้นอันมีน้ำท่วมนองเป็นอัน
    เดียวกัน ด้วยกำลังแขนของตนเท่านั้นแล้วจะถึงฝั่งได้ผู้นั้นย่อมถึงความเป็น
    พระพุทธเจ้าแล้ว ไม่ย่อท้อเพราะทำได้ยาก กลับพอใจว่า เราจักข้ามถึงฝั่งได้.
    ไม่แสดงอาการสยิ้วหน้าในกาลนั้นเลย
    ...อนึ่ง บุคคลฟังมาว่า ผู้ใดเหยียบจักรวาลนี้
    ทั้งสิ้นอันเต็มไปด้วยถ่านเพลิงปราศจากเปลวไฟ ปราศจากควันไฟด้วยเท้าทั้งสอง
    สามารถก้าวเลยไปถึงฝั่งได้. ผู้นั้นย่อมถึงความเป็นพระพุทธเจ้า. แล้วไม่ย่อท้อ
    เพราะทำได้ยากกลับพอใจว่า เราจักก้าวเลยไปถึงฝั่งได้. .
    ...อนึ่ง บุคคลฟังมาว่า ผู้
    ใดสามารถทะลุจักรวาลทั้งสิ้นปกคลุมด้วยพุ่มไม้ไผ่หนาทึบ รกรุงรังไปด้วยป่าหนาม
    และเถาวัลย์ แล้วก้าวเลยไปถึงฝั่งได้ ฯลฯ
    .. อนึ่ง บุคคลฟังมาว่า ผู้ใดที่หมกไหม้
    ในนรกตลอดอสงไขยแสนกัป จะพึงบรรลุความเป็น พระพุทธเจ้าแล้วไม่ย่อท้อ
    เพราะได้ยากกลับพอใจว่า เราจักหมกไหม้ในนรกนั้น แล้วบรรลุความเป็นพระพุทธเจ้า.
    ...​

    และการจะได้รับการพยากรณ์ เป็นพระพุทธเจ้า ก็ต้องถึงพร้อมด้วยเหตุ อีก 8
    ประการ ที่เรียกว่า ธรรมสโมธาน 8
    ๑. มนุสฺสตฺต (เมื่อตั้งความปรารถนา ต้องเป็นมนุษย์)
    ๒. ลิงฺคสมฺปตฺติ (ลิงคสมบัติคือเป็นเพศชาย)
    ๓. เหตุ (มีเหตุคือสร้างกุศลมาก สมควรจะเป็นพระอรหันต์ได้)
    ๔. สตฺถารทสฺสน (พบพระพุทธเจ้าและได้รับพยากรณ์)
    ๕. ปพฺพชฺชา (บวชเป็นภิกษุ สามเณร หรือฤาษีผู้เป็นกัมมวาที)
    ๖. คุณสมปตฺติ (บริบูรณ์ด้วยคุณ คือ ฌานสมาบัติและ อภิญญา)
    ๗. อธิกาโร (การกระทำกุศลอันยิ่งใหญ่)
    ๘. ฉนฺทตา (พอใจในโพธิญาณ)

    และ การจะเป็นพระพุทธเจ้า ด้วย เหตุ อีก 2 ประการ คือ มหากรุณา และ ปัญญา
    เพราะ อาศัย ความเห็นสัตว์เป็นทุกข์อย่างยิ่ง จึง บำเพ็ญกุศล สละตนเอง เพื่อประโยชน์กับสัตว์อื่นทั้งหมด
    และ อาศัย ปัญญาย่อมถึงความเป็นพระพุทธเจ้าได้

    ผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมิ ต้องปฎิบัตตนเช่นไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2014
  10. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    นี่ไงครับที่ผมกล่าวว่าการได้ฤทธิ์นั้นเป็นผลของการที่ปฎิบัติธรรม(สมถะวิปัสนา)และได้สมาธิแต่ละระดับ ไม่ใช่การปฏิบัติฤทธิ์เพื่อการบรรลุธรรมมันเป็นไปไม่ได้ในตัวมันเองจิตที่ปราถนาในฤทธิ์นั่นไปตรงกันข้ามกับนิพพานเลย ทีนี้มาดูว่าเราจะรู้ได่อย่างไรว่าใครเป็นอะไรแค่ไหน ดูจากการแสดงธรรมดูจากการกระทำนั้นแหล่ะครับ
    ยังกระทำเดรัชฉานวิชาแสดงเดรัชฉานคาถาอยู่หรือเปล่าเท่านั้นเอง เพราะถ้าไม่ดูจากสิ่งนี้จะไม่มีวันที่จะรู้เลยว่าท่านใดเป็นอริยบุคคล
     
  11. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    คุณคิดว่าคุณจะได้ฌานสี่ ขณะ บรรลุธรรมไหม ถ้าไม่มีอัชฌาสัยมา
    พระพุทธเจ้าจะเป็นพระสัพพัญญูได้ไหมขณะบรรลุธรรม ถ้าไม่คล่องฌาน อภิญญามา

    ฌาน จะเป็นมิจฉา หรือ สัมมา เพราะคน..นะจ๊ะ
    สัมมาในฝ่ายโลกีย์ นี่เขามีปัญญานะ รู้ดีรู้ชั่ว อย่างน้อยก็ไม่ไปนรก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2014
  12. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    และที่จริงแล้วในการปฎิบัติธรรมเราไม่จำเป็นวิ่งหาอริยบุคคลเลยก็ได้ เพราะถ้าเราเองไม่มีความรู้แล้วเราไม่มีทางรู้เลยว่าใครเป็นอะไรแค่ไหน ขอเราศึกษาจากตำราก็พอจะมีขอเพียงให้เราสะสมสุตตะให้มากเราจะรู้ด้วยตนเองว่าสิ่งไหนน่าจะเป็นธรรมะที่แท้จริงโดยเฉพาะจากพระสูตรต่างๆที่พระองค์แสดงไว้ และให้เราทดลองปฎิบัติไปเราก็รู้เองได้ แต่ถ้าท่านสนใจที่จะเข้าหาพระสงฆ์ก็เข้าไปถามไถ่หาความรู้ได้ทั้งนั้นพระสงฆ์ที่ทรงธรรมทรงวินัยก็มีอยู่มาก แต่ถ้าจะหาอริยเจ้านั่นขอให้หยุดความคิดนี้ได้เลย เพราะมีคนไปถามพระพุทธองค์ว่าจะหาพระอริยะนั้นจะรู้ได้อย่างไร พระพุทธองค์ไม่ให้ไปหาหรอกเพราะไม่มีทางรู้ได้ และพระองค์หาทางออกให้เราในเรื่องนี้คือการทำสังฆทานนั้นเองได้บุญมากกว่าทำบุญกับพระองค์เอง เช่นเดียวกันกับเรากำลังหาพระอรหันต์เราจะรู้ได้อย่างไรว่าท่านใดเป็นอะไร และจะทำให้เรามีพระสงฆ์เป็นสรณได้เที่ยงตรง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2014
  13. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    การบรรลุธรรมจะได้ฌานสี่หรือไมไม่มีใครรู้ได้ว่ามรรคจิตจะเกิดตอนไหน การปฎิบัติสมถะวิปัสนานั้นเป็นการเดินฌานครวบคู่กับมีสติพิจารณาความรู้ควบคู่ไปด้วย ส่วนการบรรลุฌานชั้นสูงๆขึ้นหลังการบรรลุธรรมแล้ว ก็สามารถปฎิบัติต่อได้ พระองค์ก็บอกสาวกของพระองค์ให้เพ่งฌานเพื่อความสุขในทิตธรรมอยู่ อันนี้แล้วแต่อัธยาศัยใครที่จะต้องการ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2014
  14. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    อ้าว.. แล้วตกลงมาฝึกฤทธิ์ทีหลัง เป็นพระอรหันต์แล้ว มาฝึกฤทธิ์ที่คุณว่าผิด ภายหลังซะงั้น..ได้ธรรมไปแล้วด้วย ไม่ได้ฤทธิ์ไปเลยล่ะ
     
  15. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    พระอรหันนต์ที่บรรลุธรรมแต่ยังไม่ได้ฌานสี่นั้นมีมากจะมาฝึกฤทธิ์ก็ได้ตรงนี้จิตท่านไมัเป็นอกุศลแล้วจะฝึกก็ได้ไม่ฝึกก็ได้ ฌานเป็นเพียงเครื่องอยู่ที่เป็นสุขเท่านั้น แต่การฝึกฤทธิ์ก่อนสำเร็จธรรมนั้น อย่างที่บอกไปแล้วแค่จิตที่คิดก็ผืดแล้วอย่างเทวทัตไงหลงผิด หรือท่านยากจะเป๊นเทวทัตที่บรรลุคุณวิเศษแต่ไม่ได้คุณธรรม ท่านต้องพิจารณาดีๆที่ผมมกล่าวเดี๋ยวจะสับสน
     
  16. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    ยินดีอย่างยิ่งครับ หากมีคนอย่างท่านๆทั้งหลายในประเทศเราซักครึ่งหนึ่ง ประเทศชาติย่อมสงบร่มเย็นเป็นแน่แท้ครับ
     
  17. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    เรื่องนี้เป็นเรื่องอจินไตย เป็นเรื่องที่ปุถุชนไม่ควรคิดครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2014
  18. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    อจินไตยพระพุทธองค์ไม่แสดงแก่สาวก และสาวกก็ไม่แสดงนะ จขกท ว่าไงครับ
     
  19. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    ก่อนการแสดงธรรมหลวงปู่ได้ขอขมาต่อพระพุทธองค์แล้ว กำเหนิดโลกและจักรวาลนี้เป็นอจินไตย มีผู้คนสนใจกันมาก ท่านก็แสดงเนื่องมีผู้นิมนต์ในขณะนั้น สารปรอธนี้ก็อยู่ในเรื่องเดียวกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2014
  20. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    เอาล่ะครับผมได้แสดงเหตุผลพอสมควรแล้วครับ ใครจะทำอะไรเพื่ออะไรก็เป็นไปตามเหตุปัจจัยผมทำหน้าที่สมควรแก่ตนเองส่วนผู้ฟังจะยังประโยชน์ได้แค่ไหนแล้วแต่เหคุปัจจัย
     

แชร์หน้านี้

Loading...