แนวทางปฏิบัติธรรมของ หลวงปู่ต่างๆ

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย aprin, 20 เมษายน 2008.

  1. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    พระนิพนธ์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

    ความคิดอย่างหนึ่งที่สมควรฝึกให้เกิดขึ้นเป็นประจำ คือความคิดว่าพอ

    คิดให้รู้จักพอ ผู้รู้จักพอจะเป็นผู้ที่มี ความสบายใจ ส่วนผู้ไม่รู้จักพอจะเป็นผู้ร้อนเร่าแสวงหา ไม่หยุดยั้ง ความไม่รู้จักพอมีอยู่ได้แม้ในผู้เป็นใหญ่ เป็นโตมั่งมีมหาศาล และความรู้จักพอก็มีได้แม้ในผู้ยากจน ต่ำต้อย ทั้งนี้ก็เพราะความพอเป็นเรื่องของใจที่ไม่เกี่ยวกับ ฐานะภายนอก คนรวยที่ไม่รู้จักพอก็เป็นคนจนอยู่ตลอดเวลา คนจนที่รู้จักพอก็เป็นคนมั่งมีอยู่ตลอดเวลา

    การยกฐานะจากยากจนให้มั่งมีนั้นทำได้ไม่ง่าย บางคนตลอดชาตินี้อาจทำไม่สำเร็จ แต่การยกระดับใจ ให้มั่งมีนั้นทำได้ทุกคนแม้มีความมุ่งมั่นจะทำจริง

    คนรู้จักพอไม่ใช่คนเกียจคร้าน และคนเกียจคร้าน ก็ไม่ใช่คนรู้จักพอ ควรทำความเข้าใจในเรื่องนี้ให้ถูกต้อง แล้วอบรมตนเองให้ไม่เป็นคนเกียจคร้านแต่ให้เป็นคนรู้จักพอ


    “พอ” เป็นสิ่งหายากในหมู่คน “โลภ”

    “นิ่ง” เป็นสิ่งหายากในหมู่คน “โกรธ”

    “หยุด” เป็นสิ่งหายากในหมู่คน “หลง”

    “ธรรมะ” เท่านั้นที่ช่วยท่านได้

    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี


    "....สมบัติอะไรก็ตามในโลกนี้ สู้ธรรมสมบัติภายในใจไม่ได้ สมบัติภายในใจเลิศเลอสุดยอด ขอเพียงให้ใจกับธรรมได้สัมผัสกัน มันจะแสดงฤทธิ์เดชเป็นอัศจรรย์ เมื่อ"หัวใจได้ความสง่างาม"แล้ว อยู่ใต้ร่มไม้ร่มใด ภูเขาลูกใด ถ้ำหรือเงื้อมผาแห่งใด สถานที่แห่งนั้นย่อมพลอยสง่างามไปด้วย "สติ" นี่เองจะเป็นกุญแจดอกสำคัญ ไขไปสู่พระไตรปิฎกภายใน เพื่อเปิดเข้าไปสู่ประตูพระนิพพาน"

    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
    วัดอรัญญบรรพต ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย


    "ธรรมะ เป็นสิ่งประเสริฐ หากแม้นธรรมะประดิษฐานอยู่กลางดวงจิตดวงใจของผู้ใดแล้ว ผู้นั้นจะได้รับความอบอุ่นใจ มีที่พึ่งอันถาวรสมบูรณ์ทุกประการ จะไม่มีสิ่งใดๆในโลก ที่จะให้ความอบอุ่นยิ่งกว่า ธรรมะ"

    หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
    วัดหินหมากเป้ง หนองคาย


    ไม่ว่าใครทั้งหมด เรื่องภาวนาไม่ใช่ของเป็นง่ายๆ
    คนที่เป็นเอง เรียกว่า วาสนาสูงส่งที่สุด

    โดยมากที่อยากจะมาภาวนา
    ก็เพราะเห็นทุกข์ทั้งหลายเหล่านี้แหละ
    ต้องฝ่าฝืนอุปสรรคบากบั่นเพื่อจะให้พ้นทุกข์ คือหัดทำความสงบ

    ถ้าไม่เห็นทุกข์อย่างนี้แล้ว
    ไม่มีใครอยากภาวนาให้พ้นจากทุกข์เลย

    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
    จากหนังสือ เทสโกวาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    พระนิพนธ์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

    ศีลเท่านั้น เป็นเลิศในโลก

    พุทธภาษิตบทหนึ่งกล่าวไว้แปลความว่า “ศีลเท่านั้นเป็นเลิศในโลก ส่วนผู้มีปัญญาเป็นผู้สูงสุด ความชนะในหมู่มนุษย์และเทวดา ย่อมมีเพราะศีลและปัญญา”

    หมายถึง ในบรรดาคุณทั้งปวงในโลก ศีลเป็นคุณวิเศษ แต่มิได้กล่าวว่าผู้มีศีลเป็นผู้สูงสุด หากกล่าวว่าผู้มีปัญญาเป็นผู้สูงสุด จึงเปรียบศีลเป็นรากฐานที่มั่นคงและแข็งแรงที่สุด

    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    วัดป่าสุทธาวาส บ้านคำสะอาด ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร


    “พึงทราบไว้อย่างถึงใจว่า “ธรรม” เจริญ ณ ที่ใด กิเลสย่อมเสื่อมและดับสูญไป ณ ที่นั้น คำว่า "ที่ใด" นักปฏิบัติทั้งหลายพึงทราบว่า คือ “ที่ใจ” ดวงเดียวเท่านั้น”

    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท
    วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม ต.คลองควาย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี


    ครั้งหนึ่งหลวงปู่เจี๊ยะท่านสนทนา
    กับ ท่านอาจารย์เฟื่อง โชติโก ผู้เป็นสหธรรมิก

    อาจารย์เฟื่อง : “เจี๊ยะ! ไปสอนเขาแบบนี้ เขาก็หนีหมดซิ
    ผู้หญิงฯ สอนให้พิจารณาแต่ของเน่าของเหม็น”

    อาจารย์เจี๊ยะ : “ไอ้ฉิบหาย! กูไม่เชื่อเลย ไอ้พวกนั่งจับลมๆ แม่งมึงก็หลับซิ
    พระพุทธเจ้าไปอยู่กับอาฬารดาบส และอุททกดาบส จนสำเร็จฌานแปด รูปฌาน ๔ อรูปฌาน ๔ ถึงมาเจริญอานาปานสติในตอนหลัง

    นี่ยังไม่ได้อะไรเลย จะมาจับลม เข้าพุท โธออก ไม่ทันหรอก
    อยู่กับหลวงปู่มั่น ๓ ปี ๔ แล้ง ไม่เคยสอนซักที
    จับลมนี่ มีแต่ให้พุทโธเร็วๆ บริกรรมพุทโธเร็วๆ เฟื่อง! สอนอย่างไรวะ”

    อาจารย์เฟื่อง : “ไอ้ฉิบหาย! สอนเขาอย่างนี้ให้เหม็นเน่า
    ตัดคอตัดแขน ตัดขา แลบลิ้นออกมาตัด คอขาด แขนขาด
    เน่าเฟะ เรี่ยราดอยู่กลางศาลา แค่ฟังเขาก็กลัวแล้ว
    แล้วใครเขาจะมาฟังเทศน์เล่า

    ใครเขาจะเข้ามาใกล้ มีเพลงเดียว กัณฑ์เดียว ๑๐ ปี ก็เอาอย่างเก่า
    ปรับปรุงสำนวนให้มันนุ่มนวลหน่อยไม่ได้หรือ?
    บางทีคนเหล่านี้เขาเข้ามาฟังพอสบายใจ ก็กลับบ้านไปอยู่กับลูกกับเมียเขา
    ธรรมะรุนแรงเอาไปทำเองเอามาออกสังคมไม่ได้”

    อาจารย์เจี๊ยะ : “ที่เทศน์ที่แสดงอยู่นี่ เพราะพริ้งที่สุดในโลกแล้ว
    หาฟังที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว มันไม่น่าฟังก็ชั่งแม่งมัน
    ก็ธรรมะเป็นอกาลิโกไม่จำกัดกาล เทศน์ที่ไหนก็ซัดมันซะจนเต็มเหนี่ยว”

    หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
    วัดอรัญญบรรพต ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย


    "ถ้าใครไม่ฝึก ปล่อยให้ลอยลมไปตามกิเลส ก็นานกว่าจะพ้นทุกข์
    การละกิเลส ไม่มีใครสามารถละให้ใครได้ ต้องฝึก ต้องฝืนเอาเอง"

    หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
    วัดหินหมากเป้ง หนองคาย


    วิปัสสนาปัญญา เป็นวิชาสูงสุดในพระพุทธศาสนา
    ใช้คู่กับสมถะ ตั้งแต่เบื้องต้น จนถึงที่สุด

    ถ้าไม่มีสมถะ ปัญญาวิปัสสนาก็ไม่เจริญ
    แต่ถ้ามีปัญญาวิปัสสนา ไม่มีสมถะ ปัญญาก็ทู่

    ขอให้ผู้ทำความเพียร พิจารณาดู
    ขณะใดที่เจริญสมถะให้แก่กล้า วิปัสสนาเป็นไปเอง
    โดยพิจารณาสิ่งต่าง ๆ เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

    ถ้าเวลาใดสมถะอ่อน ปัญญาวิปัสสนาก็ทื่อตั้งแต่ต้น
    เจริญสมถะ มีสมถะเข้มแข็ง ปัญญาวิปัสสนาจึงจะก้าวหน้า
    สมถะและวิปัสสนาจะคู่กันไปจนตลอดที่สุดของพรหมจรรย์

    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่ฝั้น อาจาโร
    วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร


    “ คนเรานี้สำคัญอยู่ที่ใจ ถ้าใจดีแล้วอะไรๆ ก็ดีหมด
    ลูกก็ดี ภรรยาก็ดี สามีก็ดี บ้านก็ดี ของใช้ก็ดี ถ้าใจไม่ดีแล้ว ลูกก็ไม่ดี ภรรยาก็ไม่ดี สามีก็ไม่ดี ของใช้ก็ไม่ดี

    ทำอย่างไรใจของเราจึงจะดี
    พุทโธเข้าสิ พุทโธเข้า ภาวนาเข้า ทำจิตให้เป็นสมาธิเข้า ใจมันดีเอง ถ้าเราฝึกใจได้แล้วจะทำอะไรก็ได้ เวลาเราจะตายก็ไม่หลงตาย ไปสู่สุคติแน่นอน

    จิตฺเต อสงฺกิลิฏฺเฐ สุคติ ปาฏิกงฺขา
    จิตไม่เศร้าหมอง สุคติเป็นที่หวังได้
    จิตฺเต สงฺกิลิฏฺเฐ ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา

    เมื่อจิตเศร้าหมองแล้ว ทุคติเป็นที่หวังได้
    ท่านได้ยกตัวอย่าง เช่น อาตมานี้ หนังสือก็เรียนไม่ได้มาก
    เขียนก็ไม่เก่ง อ่านก็ไม่ได้เท่าไหร่ แต่อาตมาฝึกจิตให้มาก และได้ที่ อาตมาเทศน์ก็ได้ไม่ต้องดูหนังสือ ทำอะไรๆ ก็ได้”

    หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่หล้า เขมปฺตโต
    วัดบรรพตคีรี(ภูจ้อก้อ) จ.มุกดาหาร


    เห็นอนิจจังขณะจิตเดียว
    เห็นโลกทั้งโลกแล้ว
    เพราะโลกเต็มไปด้วยอนิจจัง

    หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี


    เห็นพระเจ้าพระสงฆ์ก็เป็นสิริมงคลแก่หูแก่ตาแก่จิตใจ เป็นมงคลอยู่ที่นี่ ถ้าไปเจอไปเห็นสิ่งที่ไม่ดีเข้ามา ก็เป็นฟืนเป็นไฟมาเผาไหม้หัวใจเรานั้นแหละ จึงว่า สมณานญฺจ ทสฺสนํ การเห็นสมณะเป็นมงคลอันสูงสุด เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ สมณะคืออะไรท่านแยกไว้เป็นประเภท สมณะ คือผู้สงบกาย วาจา ใจจากบาป รวมแปล แต่สมณะนั้นมีหลายประเภท

    สมณะที่ ๑ คือ พระโสดา สมณะที่ ๒ คือ พระสกิทาคา สมณะที่ ๓ คือ พระอนาคา สมณะที่ ๔ คือ พระอรหันต์ ได้เห็นสมณะเหล่านี้เป็นมงคลอันสูงสุด ๆ จิตใจก็ยิ้มแย้มแจ่มใส ตาเห็นเป็นเครื่องมือของใจ ยิ้มแย้มเข้าไปสู่ใจ หูได้ยินยิ้มแย้มเข้าไปสู่ใจ ทุกสิ่งทุกอย่างสัมผัสสัมพันธ์เข้าไปสู่ใจ ใจเป็นผู้ยิ้มแย้มแจ่มใสในสิ่งที่เป็นมงคลทั้งหลายซึ่งมีอยู่รอบตัว และใจได้ไปสัมผัสกับสิ่งเหล่านั้นจากทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ผลประโยชน์เข้ามาสู่จิตใจเป็นมงคลมหามงคลแก่เรา พากันจำเอานะ

    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
    เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ ๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๖

    ในภาพ - ท่านพระอาจารย์สงบ มนัสสันโต วัดป่าสันติพุทธราม จ.ราชบุรี เข้ากราบคารวะองค์หลวงปู่ลี กุสลธโร ที่วัดป่าภูผาแดง เมื่อบ่ายวันนี้ ๓/๗/๒๕๕๖
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    วัดป่าสุทธาวาส ต.ธาตุเชิงชิม อ.เมือง จ.สกลนคร


    - “ท่านอาจารย์มั่น ท่านเป็นคนเด็ดเดี่ยวสละชีวิตถึงตาย สลบไป ๓ คราว และท่านต้องการคนใจเด็ดเป็นสานุศิษยฯ”

    - “ท่านทำตัวของท่านใหม่อยู่ในตระกูลทั้งหลาย ไม่ทำตัวของท่านให้คุ้นเคยในตระกูลเลย การไปมาของท่านไปโดยสะดวก มาโดยสะดวกไม่ขัดข้องในตระกูล”

    - “เป็นคนมักน้อยขอบใช้บริขารของเก่าๆ ถึงได้ใหม่บริจาคทานให้คนอื่น ข้อวัตรหมดจดดี สติตั้งอยู่ในสติปัฏฐานเสมอ เป็นผู้ไม่ละกาลวาจาพูดก็ดีเทศน์ก็ดี ไม่อิงอามิสลาภ สรรเสริญวาจาตรงตามอริยสัจ ตามความรู้ความเห็น อ้างอริยสัจเป็นหลักฐานเสมอ กาย วาจา ใจ เป็นอาชาไนยล้วน”

    - “ท่านประพฤติตนเป็นคนขวนขวายน้อยอามิส หมดจดในข้อวัตร และหมดจดในธรรมะ พ้นวิสัยเทวดา และมนุษย์ที่จะติเตียนได้ ไม่เป็นข้อล่อแหลมในศาสนา ท่านได้วัตถุสิ่งใดมา ท่านสละทันที สงเคราะห์หมู่พรหมจรรย์ฯ”

    - “สิ่งของอันใดท่านอยู่ที่ไหน เขาถวาย ท่านก็เอาไว้ให้พระเณรใช้ ณ ที่นั้น ท่านไม่ได้เอาไปด้วยฯ”

    - “มีคนไปหาท่านอาจารย์มั่น ท่านไม่ดูคน ท่านดูจิตของท่านเสียก่อน จึงแสดงออกไปต้อนรับแขกผู้มาถึงถิ่น อนึ่ง ท่านหันข้างและหันหลังใส่แขกท่านพิจารณาจิตของท่านก่อน แล้วพิจารณานิสัยของผู้อื่น นี้เป็นข้อลี้ลับมาก ต่อนั้นถ้าจะเอาจริงจังต้องประชันต่อหน้ากันจึงเห็นความจริงฯ”

    - “ปฏิบัติธรรมท่านพูดทรมานใครแล้วย่อมได้ดีทุกๆ คน ถ้าหมิ่นประมาทแล้วย่อมเกิดวิบัติใหญ่โต”

    - “นิสัยท่านเป็นคนใจเดียว ไม่เห็นแก่หน้าบุคคล ในเวลาถึงคราวเด็ดเดี่ยวต่อธรรมะวินัยจริงๆฯ”

    - “หาบุคคลที่จะดูจริตของท่านรู้ได้ยาก เพราะท่านเป็นคนนิสัยลึกลับ จะรู้นิสัยได้ต่อเมื่อบุคคลที่มีภูมิจิตส่วนเดียวฯ”

    - “ท่านถือข้างใน ปฏิปทาความรู้ความเห็นของท่านเกิดจากสันตุฎฐี ความสันโดษของท่าน ท่านนิสัยไม่เป็นคนเกียจคร้าน ขยันตามสมณกิจวิสัย หวังประโยชน์ใหญ่ในศาสนาฯ”

    - “ท่านไม่ใคร่พยากรณ์ใครๆ เหมือนแต่ก่อน ท่านพูดแต่ปัจจุบันอย่างเดียว นิสัยท่านชอบเก็บเอาเครื่องบริขารของเก่าไว้ใช้ เพราะมันภาวนาดี เช่นจีวรเก่าเป็นต้นฯ”

    - “ท่านไม่ติดอามิส ติดบุคคล ติดลาภ ยศ สรรเสริญ ท่านถือธรรมะเป็นใหญ่ ไปตามธรรมะ อยู่ตามธรรมะฯ”

    - “ท่านพูดธรรมะไม่เกรงใจใคร ท่านกล้าหาญ ท่านรับรองความรู้ของท่าน ฉะนั้น ท่านจึงพูดถึงพริกถึงขิง ตรงอริยสัจ พูดดังด้วย พูดมีปาฏิหาริย์ด้วย เป็นวาจาที่บุคคลจะให้สิ้นทุกข์ได้จริงๆ เป็นวาจาที่สมถะวิปัสสนาพอ ไม่บกพร่องกำหนดรู้ตามในขณะกาย วาจา จิตวิกาลตรงกับไตรทวารสามัคคีเป็นวาจาที่เด็ดเดี่ยวขลังดีเข้มแข็งดี เป็นอาชาไนยล้วน วาจาไม่มีโลกธรรมติด เป็นธรรมชาติที่บริสุทธิ์”

    อุปนิสัยของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต
    บันทึกโดยหลวงปู่หลุย จนฺทสาโร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2013
  14. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่ศรี มหาวีโร
    วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) อ.ศรีสมเด็จ จ. ร้อยเอ็ด


    "แต่ถ้าหากเป็นของจริงไม่ค่อยชอบ ถ้ามีมหรสพขบงันเกี่ยวกับหมอลำหมู่ แบบนี้ไปเร็วมาก ค่ำมืดเท่าไหร่ฟ้าฝนตกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ว่า หาคนเฝ้าบ้านยาก ไกลแสนไกลก็อุตส่าห์พยายามไป

    เพราะว่าจิตใจมันเคย จิตใจมันเคยส่งไปทางนอก ก็เลยยินดีแต่ด้านทางนอก ไปบูชาของแค่นั้นหละ อันเรื่องของเหล่านี้เป็นเหตุให้จิตใจฟุ้งซ่านรำคาญ ส่งหน้าส่งหลัง ไม่รู้อะไรเป็นอะไร จึงวุ่นวายในเรื่องอารมณ์ต่าง ๆ หาที่สงบสงัดได้ยาก หาสิ่งที่จะเป็นคู่ชีวิตจิตใจของตนไม่ได้ ก็เลยเพลิดเพลินตามอารมณ์ของโลก"

    หลวงปู่ศรี มหาวีโร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images.jpg
      images.jpg
      ขนาดไฟล์:
      6.7 KB
      เปิดดู:
      37
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กรกฎาคม 2013
  15. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปูอ่อนสา สุขกาโม
    วัดประชาชุมพลพัฒนาราม บ้านหนองใหญ่ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี


    "การปฏิบัติดี ต้องออกมาจากใจ การที่เราเที่ยวฟังพระอาจารย์ทั้งหลายพูดว่าสิ่งนั้นดี ไม่ดี แล้วจดจำเอามาทำนั้นไม่ยั่งยืน เพราะเอามาวันนี้ พรุ่งนี้อาจจะลืมไปแล้วก็ได้ ดังนั้นควรหัดปฏิบัติขัดเกลาจิตใจให้ดีเสียเอง ทีนี้ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะลืม เพราะเรามีอยู่กับใจแล้ว"

    หลวงปูอ่อนสา สุขกาโม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ
    สวนโมกข์พลาราม จ.สุราษฏร์ธานี


    พระพุทธองค์ตรัสว่า “แต่ก่อนก็ดี บัดนี้ก็ดี เราบัญญัติแต่เรื่องความทุกข์ กับความดับไม่เหลือแห่งทุกข์เท่านั้น” ดังนั้นพวกเราอย่าต้องเสียเวลาในการศึกษา การถาม การเถียงกันด้วยเรื่องอื่นที่มิใช่สองเรื่องนี้กันอีกเลย

    หลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่ขาว อนาลโย
    วัดถ้ำกองเพล ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู


    ถ้าใจไม่ยึด มันจะมีทุกขเวทนามาจากไหน ไม่มี ดับเวทนาดับสัญญาได้อยู่
    ดับสังขารความปรุงได้อยู่ ดับวิญญาณความรู้ทางทวารทั้ง ๖ ได้อยู่

    ของใครของมันจะมีตนมีตัว มันไม่มีตนมีตัว

    แต่ว่ามันจำมันหมายว่าเจ็บนั่นเจ็บนี่ เวทนาก็พร้อมกันเกิดขึ้น
    มันไม่มีตัวมีตน มันก็ดับไปอีก ดับก็จิตมันสงบนั่นแหละ

    ครั้นจิตมันสงบแท้ ๆ ไม่มีคนหยังจะมาเจ็บอยู่นี่
    จึงว่าให้อบรมจิตนั่นแหละ จิตสงบแล้วไม่มีผู้ใดเจ็บ คนบ่มี บ่อนตัวไม่มี
    แล้วก็ไม่มีอะไรเจ็บแล้ว

    ครั้นบ่มีคนแล้ว เป็นหยังจะมาจำหมายนั่นอยู่ บัญญัติอยู่ก็รู้ว่าไม่มีคน
    บัญญัติทางตา หู จมูก ลิ้น ก็บ่มี บ่มีคน มันว่างม๊ดละ
    ไม่มีอุปาทานแล้ว วางเสียก็มีความสุขนั่นแหละ จิตสงบ ให้ฝึกหัดจิต


    หนังสืออนาลโยวาท
    ในการพระราชทานเพลิงศพ วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๗
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่ท่อน ญาณธโร
    วัดศรีอภัยวัน จ.เลย


    “คำพูดที่ไม่ได้พิจารณา
    ก็ย่อมกระทบกระเทือนผู้อื่น
    ให้พิจารณากลั่นกรองให้ดีเสียก่อนจึงค่อยพูด”

    หลวงปู่ท่อน ญาณธโร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 113.jpg
      113.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.9 KB
      เปิดดู:
      27
  19. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่ท่อน ญาณธโร
    วัดศรีอภัยวัน จ.เลย


    เวลาไหน เราไม่ปรุง ไม่แต่งไปตามสังขาร ราคะ โทสะ โมหะ สังขารปรุงไม่ได้ เรียกว่านิพพานชั่วขณะ

    หลวงปู่ท่อน ญาณธโร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    พระมงคลวิเสสกถา ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ๖ ธันวาคม ๒๕๓๙
    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก


    ในหลวง กับศุภนิมิตของพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร

    "ไม่ว่าจะตกเข้าไปในที่มีภัยอันตรายมากมายเพียงใด
    ผู้ถึงรัตนตรัยเป็นสรณะย่อมพ้นจากภัยทั้งปวงนั้น ทั้งทางกายและทางใจ
    ทางใจ คือ ไม่กลัว ไม่หวาด ไม่สะดุ้ง และไม่หนี

    มีแสดงไว้ว่า ผู้นึกถึงพระพุทธเจ้า หรือพระธรรมของพระองค์
    หรือพระสงฆสาวกของพระองค์ แม้ตกอยู่ในที่แวดล้อมที่น่าสะพึงกลัว ก็จะไม่กลัว ไม่หนี เพราะพระพุทธองค์ทรงเป็นผู้ไม่สะดุ้ง ไม่กลัว และไม่หนี

    สมเด็จพระบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าพระผู้ทรงคุณอันประเสริฐ
    ทรงถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะมั่นคง จึงไม่เคยทรงหนีเหตุการณ์ใดเลย
    ทรงเผชิญได้ด้วยพระอาการสงบอย่างยิ่งและทรงชนะตลอด

    ท่านพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร แห่งวัดถ้ำขาม จังหวัดสกลนคร เล่าไว้ว่า
    ท่านได้นิมิตเห็นสัตว์ร้ายมากมายในป่าแห่งหนึ่ง กำลังอาละวาดวุ่นวายไปทั้งป่า
    สมเด็จพระบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าทรงปรากฏพระองค์ขึ้น
    ท่ามกลางความน่าสะพึงกลัวนั้น และทันใดสิงห์สาราสัตว์ที่กำลังบ้าคลั่ง ก็สยบลงทั้งหมดแทบเบื้องพระยุคลบาท

    ศุภนินิตท่านพระอาจารย์ฝั้น ท่านปรากฏแล้วว่าเป็นจริง
    มีเหตุการณ์เกิดขึ้นรับรองแล้วหลายครั้งหลายหน เป็นที่ประจักษ์ "

    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...