แอบเห็นเพื่อนที่รู้จักกันใช้ปากกาแดงเขียนที่เท้าเป็นบทสวดฯ

เจ้าของกระทู้วิตกจริตมากเลยสังเกตุจากการโพสต์ซ้ำๆว่าถูกทำอย่างไรมีประสบการณ์ที่แม่บ้านที่เป็นคนที่ถ้าใครทำอะไรให้จะทุกข์มากเลยกังวลไปสารพัด
แค่เราจิตตกเขาก็สำเร็จไปครึ่งค่อนแล้วค่ะการตอบโต้ไม่เกิดผลดีมีแต่จะก่อเวรกันไป แล้วก็ไม่ควรทุกข์ใจ
ทำใจให้สบายๆคุยกันหน่อยคนเราเข้าใจผิดกันได้ง่ายมาก เค้าอาจเข้าใจอะไรผิดไปจนถึงขั้นกล้าเล่นของต่ำ เล่าถึงแม่บ้านเมื่อเดือนก่อนป่วยเพราะเครียดเข้ารพ.ไปหลายวันตอนนี้เลยลดความกังวลไปเยอะ เพราะหมอเตือนไม่ให้เครียดด้วยความกลัวตายเลยดีขึ้นเยอะ ก็เลยอยากเตือนคุณเจ้าของกระทู้อย่าเครียดอย่าแค้นทำใจสบายๆรับรองคนทำเราเค้าก็ทุกข์ไปเอง เพราะเห็นเราสบายดีถ้าไม่คิดปรับความเข้าใจก็ใช้การขอขมาในใจและแผ่เมตตาไปให้เขา แต่ต้องทำด้วยใจที่ไม่มีแค้นนะค่ะแนะนำได้เพราะในช่วงหนึ่งของชีวิตก็มีคนคิดไม่ดีด้วย แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเขาขอขมาและแผ่เมตตาส่งความรักความเมตตาจากใจจริงไปให้
ทำไมต้องขอขมาเพราะว่าเราอาจทำสิ่งที่ล่วงเกินเขาไปโดยเราไม่รู้หรือไม่คิดว่าเป็นสิ่งไม่ดีหรือผิด
คนปัจจุบันมีเรื่องที่ไม่รู้ว่าผิดอยู่เยอะนะค่ะที่รู้เพราะตัวเองก็เคยทำผิดโดยไม่รู้ล่วงเกินคนอื่นแต่เมื่อมาฝึกจิตจึงได้มีความรู้สึกละเอียดขึ้นทำให้รู้ว่ากรรมน่ากลัวแค่ไหนบางครั้งความไม่รู้ก็ก่อกรรมได้นะค่ะ

 

ทำจิตให้นิ่ง สวดมนต์ไหว้พระ ไม่ต้องไปสนอะไรของคนคนนั้นแล้วคับ และเค้าให้กินอะไรก็เลี่ยง ความกังวล ความกลัวของเจ้าของกระทู้นั้นแหละจะทำให้เจ้าของกระทู้แย่ลง

 

เท่าที่อ่านดูแล้ว เห็นว่าคุณ 1811 กำลัง "ติดกับดักทางจิต" ที่ผู้อื่นวางไว้นะครับ เขาต้องการทำให้คุณเสียกำลังใจ แล้วปล่อยให้วงจรการทำงานของจิต ทำลายตัวมันเอง

การที่เขียนชื่อใส่ฝ่าเท้าด้วยหมึกแดง และเขียนคาถาใส่เศษกระดาษนั้น ไม่มีผลในการทำลาย หรือ มีอะไรต่อคุณได้หรอกถ้าคุณไม่เห็น แต่ถ้าคุณเห็นเมื่อไร "คุณติดกับดักทางจิต" เมื่อนั้น

หากคุณคิดว่ามันมีจริง ก็ลองทำอย่างนี้บ้างก็ได้ คือ เขียนตัวเลข ใส่ฝ่าเท้าของคุณ และเขียนคาถาใส่เศษกระดาษ จากนั้นลองเอาไปแทงหวยดู รับประกันว่า "โดนหวยกินเรียบ" แน่นอน แต่ถ้ามันศักดิ์สิทธิจริง "คุณรวยแน่นอน" เช่นกัน และก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ชีวิตแบบนั้นอีกต่อไปนะครับ ข้อสำคัญคือ อย่าทดลองจนเป็นทุกข์ก็แล้วกัน

สมัยก่อน คุณคงทราบว่าถ้าผู้ใดติดเชื้อ HIV จะอยู่ได้ไม่นาน เพราะกำลังใจในการมีชีวิตอยู่หมดไป อันนี้แหละที่ผมเรียกมันว่า "กับดักทางจิต" แต่มีนักกีฬา Basket Ball อยู่คนหนึ่งของทีม LA Laker ผมจำชื่อไม่ได้เพราะมันนานมากมาแล้ว ไม่ยอมเสียกำลังใจเลยแม้แต่นิดเดียว ยังแถมพูดความจริงกับลูกเมียตนเองอีกด้วย จึงทำให้ทุกคนเอาใจช่วย ในยุคนั้นผู้ที่ติด HIV มักจะอยู่ได้ไม่เกินปี (ถ้าจำไม่ผิด) แต่รายนี้อยู่ได้เกิน 10 ปี จนทำให้วงการแพทย์ในอเมริกาเริ่มหันมาใส่ใจในเรื่องของ "กำลังใจ" จนสามารถลงความเห็นได้ว่า เหตุที่ผู้ป่วย HIV เสียชีวิตอย่างรวดเร็วก็เพราะว่า "จิตมันทำลายตัวเอง" นั่นเอง

คุณคงพอเข้าใจในเรื่องของ "กับดักทางจิต" บ้างแล้วนะครับ และก็หวังว่าคุณน่าจะเข้าใจเรื่อง "จิตมันทำลายตัวเอง" อีกด้วย หากสามารถเข้าใจได้แล้ว ก็ขอให้พยายาม นำจิตตนเอง ให้ออกพ้นมาจาก "กับดักทางจิต" ของตัวเองนะครับ

 

ผมว่าคุณเจ้าของกระทู้ต้องไปทำอะไรเค้าถึงได้โกรธแค้นคุณขนาดนี้ วิเคราะห์ตัวคุณเองให้ดีก่อนครับ ส่วนคนที่มาคอมเม้นเพื่อที่จะช่วยเขาน่ะ ใช้สติปัญญากันนิดนึงนะครับ ผมไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าของกระทู้เป็นคนอย่างไร สิ่งเดียวที่คุณควรทำก็คือกลับตัวกลับใจเป็นคนดีครับ

 

อีนั่นมันบ้าโรคจิตงมงายบวกอิจฉาริษยา สิ่งที่เราเป็นอยู่ตอนนี้เราอุปทานไปเองว่ามันเป็นผลจากสิ่งที่เขาทำถามว่าถ้าคุณไม่รู้ไม่เห็นว่าเขาทำคุณจะเป็นยังไง จะมีอาการเครียดวิตกจริตแบบนี้มั้ย สรุปว่าไม่ต้องสนใจหรือไม่ก็เปิดใจถามคุยกันตรงๆ ถ้าไม่กล้าแต่ระแวงก็เลิกคบมันไปเลยพวกหมาลอบกัดแบบคบไปก็ไม่ทำให้ชีวิตคุณดีขึ้นหรอก ขออภัยที่มาแรงไปนิดแต่จริงใจนะ

 

เป็นวิชาไสยดำแน่นอน (สาปแช่ง) แต่ว่าเพื่อนคุณคนนี้ อาคมแก่กล้าจิงรึ
เขาทำแค่สบายใจเขาเท่านั้นเอง หากเขาเก่งจริง คงไม่ใช้วิชาแค่นี้ มันอ่อนหัด
คุณลองสังเกตุเพื่อนคุณดูซิเขาดีขึ้นหรือแย่กว่าเดิม (ปกติวิชานี้เขาเขียนแค่ชื่อ)
แต่เขาเขียนคาถาติดฝ่าเท้าเขา มันก็ไปที่ตัวเขาซิ คุณจะกลัวอะไร

 

ตอบสั้นๆ..

คนนั้นเค้าเพี้ยนครับ.....