โชคเหนือเมฆ-กำไลเหนือดวง- มูลนิธิเทียนฟ้า 2497 - วัตถุมงคล หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย bat119, 20 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,516
    ค่าพลัง:
    +30,849
    ขอบคุณครับที่แจ้งให้ทราบ กำลังให้น้องเค้าเลี่ยมถักกับสร้อยเชือก เสร็จเมื่อไหร่จะนำมาให้ชมกันครับ
     
  2. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,516
    ค่าพลัง:
    +30,849
    สวัสดียามบ่ายครับเสี่ยเฟริส์ท
     
  3. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,516
    ค่าพลัง:
    +30,849
    ep255045293th ตลิ่งชั่น
     
  4. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,856
    ค่าพลัง:
    +14,116
    สวัสดียามสายครับป๋า
     
  5. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,516
    ค่าพลัง:
    +30,849
    สวัสดีครับเสี่ยเฟริส์ท
     
  6. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,516
    ค่าพลัง:
    +30,849
    ep425646374th ลาดพร้าว
     
  7. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,516
    ค่าพลัง:
    +30,849
    พระกริ่งอากาศมงคล 25 โรงเรียนนายเรืออากาศเนื้อนวะโลหะปี 2521 สภาพสวยกล่องเดิม บูชา 3,500 บาท

    <a href="http://www.mx7.com/view2/yR7vx9kL0liKuIHB" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/975/0wrOAY.jpg" /></a>​

    “พระกริ่งอากาศมงคล” ครบรอบ 25 ปี สถาปนาโรงเรียนนายเรืออากาศ พ.ศ.2521 เนื้อนวะโลหะ หรือที่เรียกกันติดปากว่าพระกริ่งนายเรืออากาศ ซึ่งที่ถูกต้องแล้วต้องเรียกว่า “พระกริ่งอากาศมงคล” จำนวนสร้าง 2,521 องค์
    ประวัติการสร้าง : ทางคณะกรรมการสร้างบรรดาศิษย์เก่าโรงเรียนนายเรืออากาศ ได้เป็นผู้รวบรวมจัดหาแผ่นโลหะ ทอง,เงิน,นาค และได้รวบรวมชนวนโลหะมงคล นำไปให้พระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศที่มีชื่อเสียงเป็นที่นับถือ จำนวน 136 รูป ลงอักขระเลขยันต์และปลุกเสก เพื่อนำมาเป็นชนวนหลอมเป็นองค์พระกริ่ง“อากาศมงคล” โดยได้จัดพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ ทั้งพิธีพุทธและพราหมณ์ มีพระเกจิอาจารย์ 26 รูปนั่งปรกปลุกเสก ได้แก่
    1.สมเด็จพระญาณสังวร(สมเด็จพระสังฆราช) วัดบวรนิเวศ
    2.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    3.หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง
    4.หลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูง
    5.หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู
    6.หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม
    7.หลวงพ่ออุตตะมะ วัดวังก์วิเวการาม
    8.หลวงปู่ผาง จิตตคุตโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต
    9.ท่านพระอาจารย์วัน อุตโม วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม
    10.ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ วัดภูทอก
    11.หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง
    12.พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง
    13.หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง
    14หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง
    ฯลฯ
    ปัจจุบันราคายังไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับอายุการสร้างและจำนวนการสร้างที่มีไม่มาก อีกทั้งชนวนโลหะและพิธีพุทธาภิเษก ที่ดำเนินการโดยโรงเรียนนายเรืออากาศ ซึ่งได้เคยสร้างวัตถุมงคลถวายเกจิอาจารย์สายกรรมฐาน ล้วนแล้วแต่ได้รับความนิยมทั้งสิ้น ปัจจุบันผู้ที่ทราบประวัติต่างก็เก็บสะสมทำให้ไม่ค่อยพบเห็นในสนามเท่าไหร่
     
  8. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,516
    ค่าพลัง:
    +30,849
    พระนางพญาหลังยันต์ดวงพระฤกษ์พระราชทาน พิมพ์ใหญ่+พิมพ์เล็ก(เลี่ยมเงิน) อ.ถนอม วัดนางพญา พิษณุโลก ปี 2514 บูชา1,650 บาท

    <a href="http://www.mx7.com/view2/yR7zByckTWutWDqk" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/t/1e7/BNWPKb.JPG" /></a> <a href="http://www.mx7.com/view2/yR7zByckTY0ffxjC" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/t/66f/h9rhlF.JPG" /></a> <a href="http://www.mx7.com/view2/yR7zBUb1bwqTrFMP" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/t/1f9/7jX2r2.JPG" /></a>

    <a href="http://www.mx7.com/view2/yR7zBUb1bCMIsEEg" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/t/b45/SnJF8N.JPG" /></a> <a href="http://www.mx7.com/view2/yR7zCg9Ht6PqWbix" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/t/7a1/WRoWDU.JPG" /></a>​

    จัดสร้างโดย วัดนางพญา จังหวัดพิษณุโลกสมัยพระอาจารย์ ถนอม เขมจาโร และพระครูบวรชินรัตน์ โดยมีสมเด็จพระวันรัต (ปุ่น ปุณณสิริ) ซึ่งต่อมาเป็น สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์และทรงจุดเทียนชัย พระอาจารย์ ไสว สุมโน เป็นเจ้าพิธี พระครูวามเทพมุนี เป็นประธานฝ่ายพราหมณาจารย์ และพลโท สำราญ แพทยกุล แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานฝ่ายฆราวาสและหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ทำพิธีดับเทียนชัย
    วัตถุประสงค์… เพื่อจัดหาจตุปัจจัยในการสร้างพระอุโบสถวัดนางพญา เพื่อเป็นสถานที่ประกอบสังฆกรรมแห่งสงฆ์ โดยเริ่มต้นดำเนินการเมื่อวันพุธ ที่ 29 มกราคม 2512 เวลา 9 นาฬิกา 12 นาที เป็นปฐมฤกษ์ตามพระฤกษ์สร้างพระอุโบสถ ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และได้ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกมหาจักรพรรดิ์ตราธิราชตามจารีตประเพณีโบราณจารย์ เมื่อวันเสาร์ที่ 30 มกราคม 2514 ในวิหารวัดนางพญา จังหวัดพิษณุโลก
    เจ้าอาวาสวัดนางพญาเล่าว่าพิธีพุทธาภิเษกในครั้งนั้นต้องเรียกว่าเป็นอภิมหาพิธีพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่ ที่สุดในยุคนั้นมีสุดยอดเกจิอาจารย์จากทั่วประเทศร่วมพิธี อาทิเช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ ฉิมพลี หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่ผาง หลวงปู่แหวน หลวงพ่อเกษม หลวงพ่อแพ เป็นต้น มีการถ่ายทอดเสียงออกอากาศทางสถานีวิทยุไปทั่วประเทศตลอดวัน ตลอดคืน เริ่มตั้งแต่เวลา 06.05 น.ประกอบพิธีบวงสรวงครูบาอาจารย์ และอดีตเจ้าอาวาสตามด้วยพิธีถวายเครื่องสักการะบูชา
    พระพุทธชินราช พิธีถวายเครื่องสักการะบูชาบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พิธีถวายเครื่องสักการบูชาพระคุณพระรัตนตรัย พิธีบวงสรวงเทพยดาและพิธีบวงสรวงบูชาฤกษ์ เวลา 16.00 น. สมเด็จพระวันรัต ประธานฝ่ายสงฆ์ ทรงอธิษฐานจิตจุดเทียนชัย พระคณาจารย์จากทั่วประเทศนั่งปรกรอบมณฑลพิธีภาวนาปลุกเสกตลอดเวลา เวลา 19.30 น. จุดเทียนชัยมหาพุทธาภิเษก เวลา 02.00 น. เริ่มต้นสวดคาถาพระจักรพรรดิ์ตราธิราช พระคณาจารย์นั่งปรกเจริญภาวนาปลุก
    เสกตลอดรุ่ง และหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอมได้กระทำพิธีดับเทียนชัย ณ เวลา 06.05 น. ในครั้งนั้นวัดนางพญาได้จัดสร้างวัตถุมงคลหลายรายการที่สำคัญ คือ พระนางพญาเนื้อดินเผาที่พบอยู่ในขณะนี้ ตามประวัติการสร้างเป็นพระนางพญาที่ถอดพิมพ์และผสมเนื้อพระนางพญาจากกรุพระนางพญามี 2 พิมพ์คือ พิมพ์ใหญ่ (เข่าโค้ง) และ พิมพ์เล็ก (สังฆาฏิ) โดยอัญเชิญพระฤกษ์ พระราชทานประดิษฐานด้านหลังพระนางพญารุ่นนี้ทุกองค์ ปั้นกดพระด้วยมือและใช้ใบเลื่อยตัดออกทีละองค์ๆ สันนิษฐานว่าสร้างจำนวน 84,000 องค์ บูชาในขณะนั้นองค์ละ 10 บาท ปัจจุบันเล่นหากันอยู่องค์ละ 200 - 3,000 บาท แล้วแต่สภาพว่าสวยหรือไม่สวย

    โดยมี สุดยอดพระเกจิ ในยุคนั้นร่วมพิธี มากมาย อาทิ

    ลป โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    ลป ฝั้น สน.สงฆ์ ถ้ำขามสกลนคร
    ลป แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง
    ลพ เกษม เขมโก
    ลพ แพ วัดพิกุลทอง
    ลพ ถีร วัดป่าเลไลย์
    ลพ โอด วัดจันเสน
    ลพ ผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต
    ลพ ขอม วัดไผ่โรงวัว
    ลพ บุญมี วัดท่าสต๋อย
    ลพ แกร วัดส้มเสี้ยว นครสวรรค์
    ลพ ประมุข วัดจงโก ลพบุรี
    ลพ ทบ วัดช้างเผือก เพชรบรูณ์
    ลพ สว่าง วัดคหบดี กำแพงเพชร
    ลพ สิงห์ วัดกุญชรวราราม
    ลพ สด วัดหางน้ำสาคร ชัยนาท
    ลพ เอีย วัดบ้านด่าน ฯลฯ
     
  9. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,516
    ค่าพลัง:
    +30,849
    พระผงว่าน 108 อริยธัมโมรุ่นแรก+เหรียญพระบรมครู(หลวงพ่อกบ) หลวงพ่อชื้น วัดเขาพลอง ลูกศิษย์หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา และเป็น
    ศิษย์ผู้น้องของ หลวงพ่อโอภาสี บูชาชุดละ 799 บาท


    <a href="http://www.mx7.com/view2/yR7DeEHoXW1LC8XU" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/t/729/CUAgH7.JPG" /></a> <a href="http://www.mx7.com/view2/yR7DeEHoXQOgzQ0P" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/t/12e/oBe661.JPG" /></a> <a href="http://www.mx7.com/view2/yR7Df0G5fAqMmDNR" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/t/17e/faV1KO.JPG" /></a>

    <a href="http://www.mx7.com/view2/yR7DfmELx0jEfGL3" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/t/4a2/pFt8TK.JPG" /></a> <a href="http://www.mx7.com/view2/yR7DfmELx5UACdG9" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/t/804/xvOHub.JPG" /></a>

    http://www.mx7.com/i/6b6/NmctQ8.jpg

    พระผงว่าน 108 อริยธัมโมรุ่นแรก สร้างพร้อมกับเหรียญ สมเด็จพระบรมครู (หลวงพ่อกบ) เหรียญหลวงพ่อโอภาสี ในปี 2518 โดยคณะศิษย์ขออนุญาตใช้ชื่อว่า "รุ่นพิเศษ" ออกแบบโดย นายช่างยิ้ม ยอดเมือง ผสมมวลสารมงคลมากที่สุดรุ่นหนึ่ง ทั้งผงพระสมเด็จวัดระฆัง ผงพระสมเด็จบางขุนพรหม ผงพระกรุสมเด็จปิลันทน์ ผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงตรีนิสิงเห ผงพุทธคุณ เกสรว่าน 108 กิ่งไม้โพธิ์หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิจิตร ไม้ขนุน ไม้แก่นจันทร์ กาฝากรักซ้อน ดินเขาสารพัดดี ดินแร่กรุวัดเขาธรรมามูล กาฝากมะยม ไม้ชัยพฤกษ์ กัลปพฤกษ์ ราชพฤกษ์ เกศา ชานหมากและจีวรหลวงพ่อชื้น หลวงปู่แหวน สุจิณโน หลวงพ่อโอภาสี บางมด หลวงพ่อทรัพย์ วัดตลุก ทำพิธีปลุกเสกวันอาทิตย์ที่ 14 ก.ย. 2518 ในศาลาการเปรียญหลังใหญ่บนเขาพลอง โดยอัญเชิญดวงจิต สมเด็จพระบรมครูหลวงพ่อเขาสาริกา (หลวงพ่อกบ) หลวงพ่อโอภาสี และเหล่าทวยเทพทั่วแสนโกฏจักวาลมาเป็นสักขีพยานและอวยพร
    รายนามพระเกจิมาร่วมอธิษฐานจิต เท่าที่มีข้อมูลมีดังนี้ หลวงพ่อกวย ชุตินธโร วัดโฆสิตาราม อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท หลวงพ่อเชื้อ สุกกวัณโณ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท หลวงพ่อกล่อม วัดโพธาราม หลวงพ่อประเทือง วัดโพธาราม หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี หลวงพ่อพุฒ วัดศรีวิชัยวัฒนาราม หลวงพ่อชม วัดตลุก หลวงพ่อชื้น อริยธัมโม พระอาจารย์บุญยัง และพระสงฆ์ศิษย์ในสายหลวงพ่อกบ และหลวงพ่อโอภาสี เป็นต้น
     
  10. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,516
    ค่าพลัง:
    +30,849
    พระผงพุทธะมงคล พิมพ์ขุนแผนแหวกม่าน ซุ้มเรือนแก้ว หลวงปู่พิศดู บูชา3,500บาท มอบใบโพธิ์ท่านพ่อลี วัดป่าคลองกุ้ง ปี2553ให้อีก1องค์ครับ

    [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    ..พระผงพุทธะมงคล..
    พิมพ์ขุนแผน แหวกม่าน ซุ้มเรือนแก้ว
    (ยอดขุนพลแห่งเมืองจันทบูรณ์)

    พระผงชุดนี้จัดสร้างโดยท่านผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาล จังหวัดชลบุรี(ในสมัยนั้น) และคณะ โดยได้ขออนุญาติองค์หลวงปู่พิศดู จัดสร้างอย่างเป็นทางการ เพื่อแจกจ่ายให้แก่ญาติสนิทมิตรสหาย และผู้ใต้บังคับบัญชาได้มีไว้บูชาเพื่อความเป็นศิริมงคลโดยจัดสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 หลวงปู่อธิษฐานจิตให้เป็นกรณีพิเศษและยังตั้งชื่อพระรุ่นนี้ด้วยว่า " พระผงพุทธะมงคล " เนื่องจากนำผงพุทธะมงคลมาผสมเป็นมวลสารหลักอีกด้วย..

    อันผงพุทธะมงคลนี้ แท้จริงแล้วก็คือ การรวมมวลสารต่างๆหลายๆอย่าง ที่เกี่ยวกับองค์หลวงปู่ และมวลสารที่อยู่ในวัดเทพธารทอง เช่น.. ผงที่ใช้ทำพระรุ่นเก่าๆของหลวงปู่ ดอกไม้ มาลัย และของที่ใช้บูชาพระและที่ลูกศิษย์นำมาบูชาหลวงปู่ ผลไม้ อาหารที่หลวงปู่ฉันเหลือ กากยาสมุนไพรต่างๆที่หลวงปู่เสกไว้ ผงไม้มงคล ผงธูป กำยานหอมต่างๆ แป้งกะแจะ น้ำอบ น้ำมันหอมต่างๆที่หลวงปู่ท่านเสกไว้ ฯลฯ เหล่านี้รวมเรียกว่าผงพุทธะมงคล หรือมวลสารพุทธะมงคล เนื่องจากว่าสิ่งเหล่านี้องค์หลวงปู่ท่านได้น้อมถวายบูชาแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธะเจ้า จัดเป็นของมงคลชั้นสูง ท่านมักจะสั่งว่าให้เอาไปทำผง สร้างพระ สร้างเครื่องราง ห้ามเอาไปทิ้งเดี๋ยวจะเสียประโยชน์ เป็นของมีคุณค่า ฯลฯ ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้จึงเป็นอีกหนึ่งที่มาของชื่อ พระผงพุทธะมงคลนั่นเอง

    นอกจากนี้ยัง ได้รับความเมตตาจาก หลวงปู่เปรี่ยม วัดโพธิ์เรียง , หลวงปู่มหาปลอด วัดโพธิ์นิมิตรอธิษฐานจิตอีกเป็นกรณีพิเศษสุด
    โดยคณะท่านผู้สร้างได้นำมวลสารต่างๆมาผสมมากมายอาทิ..
    - ผงกสิณ ของหลวงปู่พิศดู ที่สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2520
    - ผงพุทธะมงคล
    - ผงพรายกุมารหัวเชื้อ ของหลวงปู่ทิมวัดระหารไร่
    - ผงพรายกุมาร ของหลวงพ่อเต๋ , หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม
    - ผงพรายเจ้าเงาะ ของหลวงปู่ทอง วัดเกาะ
    - สีผึ้งของหลวงปู่พิศดู
    - สีผึ้ง ของหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่
    - สีผึ้งเขียว ของหลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง
    - สีผึ้งเกจิอาจารย์ต่างๆ จำนวนมาก
    - น้ำมันเมตตา จากที่ต่างๆจำนวนมาก
    - ผงอิทธิเจ ของหลวงพ่อสละ วัดประดู่ทรงธรรม
    - ผงพระขุนแผนต่างๆ จำนวนมาก
    - ชาญหมากหลวงปู่คำบุ
    - ข้าวก้นบาตร ของหลวงปู่พิศดู
    - ผงยาจินดามณี ของหลวงปู่พิศดู
    - กล้วยเสก ของหลวงปู่พิศดู
    - น้ำผึ้งเสกของหลวงปู่พิศดู
    - ผงไม้เทพธาโร ของหลวงปู่พิศดู
    - ผงว่านยา ของหลวงปู่เชยเขาเจ้าหลาว
    - ผงพญาไก่กุก
    - ดอก ว่านดอกไม้ทองจำนวนมาก
    - ว่านเมตตาต่าง อาทิ ว่านเสน่จันทร์ ,ว่านสาวหลง , ว่านดอกไม้ทอง , ...ฯลฯ ที่ปลุกแล้วรดด้วยน้ำมนต์ทุกวัน
    - ว่าน 108 ชนิด ที่ปลุกแล้วรดด้วยน้ำมนต์ทุกวัน
    - เกษรดอกไม้มงคล
    - ผงพุทธคุณของเกจิอาจารย์ต่างๆ อีกจำนวนมาก
    - ............. ฯลฯ
    ในการนี้ก่อนที่จะทำการกดพิมพ์พระท่านครูบากฤษดาได้เมตตาทำพิธี เจิมแท่นพิมพ์และแม่พิมพ์ให้ก่อนเพื่อความเป็นศิริมงคล จากนั้นได้กดพิมพ์เป็นปฐมฤกดิ์ไว้อีก 21 องค์ด้วย

    จำนวนพระที่สร้างทั้งหมด
    กดพิมพ์นำฤกษ์ 21 องค์ (โดยท่านครูบากฤษดา สุเมโธ)
    เนื้อมาตรฐาน 1,400 องค์
    (ในการนี้จะมีพระที่กดเป็นเนื้อลองพิมพ์ อีกประมาณ 5 - 6 โทนเนื้อ เนื้อละประมาณ 3 - 10 องค์ เป็นเนื้อพระไม่มีมาตรฐานตายตัว เนื่องจากเป็นการทดลองผสมเนื้อ และกดพิมพ์ดูเพื่อหาความเหมาะสมเท่านั้น แต่ว่าหายากมาก และเข้าพิธีเสกพร้อมกัยกับพระเนื้อมาตรฐานครับ..)

    ลักษณะของพระพุทธพิมพ์
    ออกแบบได้สวยงามลงตัวอย่างมากและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของทางวัดเอง ไม่ซ้ำแบบของใคร..

    ด้านหน้า
    เป็นรูปพระพุทธเจ้าประทับนั่งขัดสมาธิเพชรปางมารวิชัยอยู่ในซุ้มเรือนแก้วมีม่านแหวกออก สื่อแสดงถึงความหมายในการแหวกปัญหาอุปสรรคต่างๆให้เปิดออกพบหนทางสว่าง ที่สดใสราบรื่น โดยด้านซ้าย-ขวาจะมีเทวดาองค์น้อยนั่งคุกเข่าพนมมืออยู่ข้างๆ ด้านบนทางซ้ายมือเรามีอักขระคาถาอ่านว่า นะจังงัง พระอะระหัง ด้านบนทางขวามือเรา มีอักขระคาถาอ่านว่า พุทโธ โสทายะ ซึ่งเป็นคาถานะจังงังมีอานุภาพในทางเป็นที่ต้องตาต้องใจให้ผู้คนเมตตา ตะลึง งวยงงหลงไหล..

    ด้านหลัง
    เป็นอักขระยันต์ต่างๆโดยยันต์ประธานตรงกลางเป็นยันต์มหาอำนาจ(ซึ่งนอกจากจะดีเด่นทางด้านเมตตาแล้วยังต้องมีอำนาจวาสนาด้วยจึงถือว่าครบเครื่องพระยอดขุนพลเมืองจันทบูรณ์)อักขระแนวตั้งด้านซ้าย-ขวาเป็นพระคาถาหัวใจนกยูงทอง อ่านว่า นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา ซึ่งคาถาหัวใจนกยูงทองนี้หลวงปู่พระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตโต ได้เคยใช้และถ่ายทอดให้กับลูกศิษย์รุ่นต่อๆมาซึ่งมีอานุภาพเด่นในเรื่อง เมตตา และแคล้วคลาดปลอดภัย จึงถือได้ว่าเป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์ประจำสายพระป่า เหนือขึ้นไปอีกเป็นยันต์พระพุทธเจ้าเรียกนางภิกษุณี มีอานุภาพในทางเมตตามหานิยม เรียกโชคลาภและความสำเร็จต่างๆ ส่วนด้านล่างสุดคือ ชื่อ-ฉายา และชื่อวัด ขององค์ หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี วัดเทพธารทอง

    พระผงพุทธะมงคล หรือที่หลายๆคนเรียกว่า ขุนแผนพุทธะมงคล ถือว่าเป็นพระที่สร้างได้เป็นเอกลักษณ์ และแหวกแนวพระทุกรุ่นขององค์หลวงปู่เลยก็ว่าได้ ก็คือ พระชุดนี้เป็นพระรุ่นเดียวที่มีการนำผงพรายกุมาร มาผสมเป็นมวลสารเพื่อจัดสร้างด้วยครับ นับว่าไม่เหมือนกับพระชุดใดๆที่หลวงปู่ท่านเคยสร้าง และเสกเลย

    งดงามด้วยพุทธศิลป์ .. เปี่ยมล้นพุทธานุภาพ .. เอกลักษณ์แห่งความเมตตาในสากล .. พระผงพุทธะมงคล ยอดขุนพลเมืองจันทบูรณ์..


    พระโพธิจักรเนื้อผงน้ำมัน วัดป่าคลองกุ้ง สร้างปี 2553 แจกงานผูกพัทสีมาปิดทองฝังลูกนิมิตร
    เป็นวัตถุมงคลทางเลือกอีกรุ่นหนึ่งครับ ที่ได้รับเมตตาจากหลวงปู่พิศดู(เดินจิตไปเสกให้)
    พระชุดนี้เป็นพระที่ทางวัดป่าคลองกุ้งจัดสร้างขึ้นเพื่อแจกงานปิดทองฝังลูกนิมิตร โดยได้นิมนต์พระเกจิครูบาอาจารย์นับสิบๆรูป มานั่งปรกอธิษฐานจิต อาทิ..
    -หลวงปู่สนั่น จิณธัมโม วัดธารเกษม
    -หลวงปู่ฟัก สันติธัมโม วัดเขาน้อยสามผาน
    -หลวงปู่บุญกู้ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน
    -หลวงพ่อมหาเข้ม วัดป่าคลองกุ้ง
    -หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ
    - ... ฯลฯ
    ซึ่งในพิธีพุทธาภิเษกดังกล่าวนี้ ทางวัดได้จัดพิธีกันตลอดราตรี
    ซึ่งองค์หลวงปู่พิศดูของเรา ท่านก็ได้รับอาราธนามาร่วมอธิษฐานจิตด้วย แต่ว่าหลวงปู่ท่านมิได้เดินทางไปเนื่องจากไม่สะดวก แต่ก็ได้รับการอาราธนานิมนต์กับทางวัดป่าคลองกุ้งไว้แล้วว่าจะไปช่วยเสกให้ ท่านจึงตั้งใจอธิษฐานจิตส่งกระแสญาณบารมีธรรม จากวัดเทพธารทอง ไปยังวัดป่าคลองกุ้งแทน ถ้าจะพูดง่ายๆก็คือ หลวงปู่ท่านถอดจิตไปเสกให้นั่นเองครับ เรื่องนี้มีพยานต์ผู้รู้เห็นอยู่ กล่าวคือ เมื่อได้เวลาที่พิธีที่วัดป่าคลองกุ้งจะเริ่ม หลวงปู่ท่านได้บอกกับลูกศิษย์ที่วัดเทพธารทองว่า..
    " อย่าให้ใครมากวนเรา เราจะไปที่วัดป่า(คลองกุ้ง).." แล้วหลวงปู่ท่านก็นอนคลุมโปง เข้าฌานสมาบัติ นิ่งไปเป็นเวลานับชั่วโมงๆ พอเสร็จแล้ว ท่านก็เปิดผ้าที่คลุมโปงออก ลูกศิษย์ที่เฝ้าท่านอยู่ก็ได้ ถามท่านว่า เมื่อสักครู่นี้หลวงปู่ไปไหนมา ท่านตอบว่า " เราเพิ่งกลับจากวัดป่าคลองกุ้ง.."
    ซึ่งเป็นที่รู้กันอยู่ในลูกศิษย์ใกล้ชิดว่า ถ้าหลวงปู่ท่านนอนคลุมโปง จะต้องมีอะไรแน่ๆ ซึ่งจะไม่มีใครกล้าไปเรียก หรือรบกวนท่านเลย..
    และอยากจะบอกด้วยครับว่า ในพิธีดังกล่าวนี้ ทางคณะศิษย์ของหลวงปู่พิศดู ได้นำพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ธัมมจารี ไปเข้าร่วมพิธีด้วยครับ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มกราคม 2016
  11. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,516
    ค่าพลัง:
    +30,849
    พระกสิณพิมพ์รูปเหมือน หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง บูชา 4,000 บาท

    <a href="http://www.mx7.com/view2/yR7Ok1tMNgAAQOR3" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/80f/h5QOPH.jpg" /></a>​

    พระเนื้อดิน และพระเนื้อผงผสมดินของหลวงปู่พิศดูท่าน เรียกว่า พระกสิณ ครับ เริ่มสร้างประมาณปี 2520 เป็นต้นมา... พระเนื้อดินเผา เมื่อกดพิมพ์พระ และนำมาตากแห้งเรียบร้อยแล้ว จะนำมาเผาไฟ สุมด้วยแกลบตามกรรมวิธีแบบโบราณ ในระหว่างนั้น หลวงปู่ท่านสวดมนต์เดินจงกรมบริกรรมทั้งหมด ถ้าดินสุกแล้วท่านจะนำมาไว้ที่ห้องสวดมนต์ ท่านจะสวดลายลักษณ์ของพระพุทธเจ้า ตลอดถึงพระคาถาและบทสวดต่างๆมากมายเลยครับ สำหรับพระยุคแรกๆของท่าน
    องค์หลวงปู่ได้ทําการลงอักขระบนกระดาน และลบผงเอง นอกจากนั้น ยังแกะพิมพ์และกดพิมพ์กันเองในวัด โดยลูกศิษย์ลูกหาที่มีความสามารถ และผู้ที่สนใจ (ฟังแล้วคิดถึงตอนที่สมเด็จโต วัดระฆังท่านสร้างพระสมเด็จครับ) อย่างใน มวลสารหลักๆ นอกจากผงที่หลวงปู่ท่านได้ลบสูตรเองแล้ว ยังมี ธูปอธิษฐาน ดอกไม้องค์หลวงปู่ไหว้พระ ว่านยา แร่ต่างๆ ผงพ่อแม่ครูบาอาจารย์ กาฝาก 108 เกศา ชาญหมาก ดิน ทรายลำธารศักดิ์สิทธิ์ของวัดเทพธารทอง(ปฐวีธาตุ)
    พระกสิณ คณะสมัยก่อนได้เล่าให้ฟังว่า องค์หลวงปู่ได้บอกว่า ถึงไม่ค่อยสวย แต่ก็เมตตามากนะ อีกหน่อยจะหายาก...ซึ่งก็เป็นไปตามองค์หลวงปู่ได้ทํานาย ใครมีใครก็หวง จะหาได้ที่ไหนที่พระป่าสายกรรมฐานจะสร้างพระแบบนี้ครับคือ ลงมือทําเอง และลบผงเองครับ (ส่วนมากทางสายป่ากรรมฐานนี้ลูกศิษย์จะยกมาให้เสก เสกเสร็จก็ยกไปแจกครับ)
    พระกสิณถ้าจะมองผ่านๆบางคนอาจจะบอกว่า ไม่คมไม่สวย แต่ถ้าคิดในมุมกลับจะรู้ถึงคุณค่า เพราะกว่าจะได้แต่ละองค์ต้องผ่านอะไรๆหลายๆอย่าง เช่น หามวลสาร ทําบล็อค รวมถึงองค์หลวงปู่จะต้องลบผงอีกต่างหาก อีกทั้งองค์หลวงปู่จะเดินจงกลมรอบกองไฟ ระหว่างเดินท่านจะภาวนาตลอดครับ เรียกได้ว่าทุกขั้นตอนการสร้างท่านควบคุมดูแลตลอด ไม่ปล่อยให้ตกหล่นเลยครับ คณะสมัยนั้นเล่าให้ผมฟังว่า แม้กระทั่งที่ไม่สวยองค์หลวงปู่สั่งว่าห้ามทําลาย ให้ปล่อยไว้แบบนั้นครับ.. ( ข้อมูลคุณแฝงจันทร์.. )

    เนื้อดินเผา ผสมผงวิเศษ และเผาแบบสุมไฟด้วยแกลบให้ดินสุก โดยทำกันในวัด ในระหว่างนี้หลวงปู่ท่านจะเดินจงกรมรอบกองไฟ(เพิกกสิณ)ครับ..
    พระกสิณนี้ เมื่อทำสำเร็จและได้จำนวนมากพอแล้ว ท่านจะสั่งให้ลูกศิษย์เอามาเก็บไว้ที่กุฏิโดยเอาผ้าขาวปูรอง แล้วเอาพระกสิณวางเรียงกันไว้เป็นชั้นหนึ่ง จากนั้นก็เอาผ้าขาวปูทับ และนำพระมาเรียงซ้อนกันไว้อีกเป็นชั้นที่สอง แล้วปูผ้าขาวทับอีก สลับกันไปเรื่อยๆ จนพระหมด ท่านจึงทำการอธิษฐานจิต เป็นเวลายาวนานนับสิบๆปี คล้ายกับรอเวลาที่จะแจกในอนาคตมากกว่า.. ซึ่งโดยปกติพระที่มีพลังจิตสูงอย่างหลวงปู่พิศดู ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเสกพระอะไรที่ยาวนานขนาดนั้นหรอกครับ เพียงแค่ท่านกำหนดจิตแป๊บเดียว หรือแค่จิตท่านคิดของก็มีความศักดิ์สิทธิ์ได้ถึงที่สุดแล้ว.. แต่การอธิษฐาน สวดมนต์ ภาวนาเป็นระยะเวลานานเกือบ 20 ปี พระที่อยู่กับท่านจะยิ่งมีความศักดิ์สิทธิ์มากแค่ไหน..? อันนี้คงไม่ต้องกล่าวถึง
    แต่ที่หลวงปู่เก็บพระชุดนี้ไว้นานถึง 20 ปี ก็เพราะว่าท่านอาจทราบเหตุการณ์ล่วงหน้า ว่าในอนาคตจะมีภัยต่างๆมากขึ้น อีกอย่างถ้าหลวงปู่ท่านแจกพระในสมัยที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักท่าน พระที่ทำก็คงสูญหายไปหมด ไม่มีใครรู้จัก สิ่งที่สร้างไว้ก็คงเสียเปล่า..
    พระอริยะอจิณไตยอย่างองค์หลวงปู่พิศดู ท่านทราบความเป็นไปในทุกสภาวะธรรม(ชาติ) ทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต ท่านทราบโดยละเอียดด้วยความเมตตากรุณา สิ่งใดที่ท่านตั้งใจทำ ตั้งใจสร้างขึ้นมานั้น ย่อมมีเหตุมีผลทั้งสิ้น เรื่องบางเรื่องเราไม่อาจรู้ได้ แต่หลวงปู่ท่านรู้โดยละเอียด..
    พระกสิณนี้ก็เป็นวัตถุมงคลอีกสิ่งหนึ่งที่หลวงปู่เป็นผู้ดำหริให้จัดสร้างด้วยองค์ท่านเอง ด้วยมวลสารที่ท่านสะสมมาสมัยธุดงค์ และของมงคลของครูบาอาจารย์ของท่าน ฯลฯ ทุกอย่างทำกันในวัด ทั้งลบผง ผสมเนื้อ กดพิมพ์ เผาดิน ตลอดถึงการอธิษฐานจิตเดี่ยว ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่น ตั้งใจอย่างดีที่สุด นับเป็นพระเครื่องชุดแรกของท่านก็ว่าได้ ถึงรูปแบบอาจจะดูไม่สวยคมชัดเหมือนพระสมัยนี้ แต่ว่ามีความคลาสสิคในตัวมาก เพราะพระทุกองค์เป็นงานที่ทำด้วยมือ และใจของผู้ศรัทธาจริงๆ เป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางใจสูงมาก.. หลวงปู่เคยบอกว่า ถึงจะไม่ค่อยสวย แต่คุณภาพสูงครับ.. สาธุ
    ( ข้อมูลคุณทุเรียนทอด..)

    " นะมะภะทะ จะภะกะสะ นะโมพุทธายะ นะชาลีติ พุทธคุณัง ธัมมะคุณัง สังฆคุณัง สะระณังคัจฉามิ "
    พระคาถาหลวงปู่พิศดู ไว้สวดเสกกำกับ พระกสิณ. เวลาเราสวมใส่เห็นหน้าใครต้องการผูกมิตรทำจิตใจให้เป็นสมาธิ แล้วบริกรรม. เมกะมุอุ. ครับ. หลวงปู่เคยกล่าวไว้ว่า การบูชาพระพุทธเจ้านำมาชื่งเดชเดชาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระธรรมเจ้านำมาซึ่งปัญญาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระสงฆ์เจ้านำมาซึ่งทรัพย์อันยิ่งใหญ่ ครับ. พระผงกรรมมัฏฐาน ยุคแรกๆของท่านสามารถใช้มือกำภาวนาได้ครับ คาถากำกับ พระขมิ้นเสกต่าง มิตติ จิตติ จิตติ มิตติ นะชาลีติ นโมพุทธายะ. (ทำไมหลวงปู่ถึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระครับ. เหตุผล. พระเวลาบวชต้องห่มเหลืองสมัยก่อนเขาใช้ขมิ้นย้อมผ้า. ขมิ้นเหลืองดั่งทองคำมิผันแปรเหมือนดั่งทองคำ. ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ท่านจึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระเสมอๆครับ. ) หลวงปู่เสกพระด้วยบทกรรมมัฏฐานทั้งสิ้น เช่นสวดพิจารณาอาการ32 เกสา โลมา.........มัตถะลุงคันติ สาคะลังฯ และอื่นๆ คาถาพระปัจเจกก็ใช้สวดด้วย สมัยก่อนท่านสวดทุกเช้าศิษย์เก่าๆรู้ดีครับ..
    ( ข้อมูลคุณเอื้อนขจี.. )

    พระกสิณหลวงปู่พิศดู ครูบาอาจารย์บอกมาว่าหลวงปู่ท่านลงวิชาหัวใจพระพรหม ไว้ในองค์พระมีอยู่ 2 รุ่น คือพระกสิณ และพระรูปหล่อพระธรรมธาตุ
    หัวใจพรหมหรือที่เรียกกันว่า พรหมวิหารธรรม คือ หลักธรรมของผู้ใหญ่ หรือหลักของผู้ครองเรือน ประกอบด้วยหลักธรรมสำคัญ 4 ประการ คือ
    - เม ตตา = ความรัก ความเอื้ออารีย์
    - ก รุณา = ความสงสาร เห็นอกเห็นใจกัน
    - มุ ทิตา = ความพลอยยินดี ที่เห็นผู้อื่นได้ดี
    - อุ เบกขา = ความวางภาระ วางเฉย
    ครูบาอาจารย์จึงถอดเป็นหัวใจของพระพรหม หรือ หัวใจพรหมวิหารธรรม ได้เป็น เม กะ มุ อุ ครับ
    ( ข้อมูล การสร้างพระกสิณ ของหลวงปู่พิศดู.. )
     
  12. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,856
    ค่าพลัง:
    +14,116
    สวัสดียามบ่ายครับป๋า
     
  13. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,516
    ค่าพลัง:
    +30,849
    สวัสดีครับเสี่ยเฟริส์ท
     
  14. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,516
    ค่าพลัง:
    +30,849
    ปิดแล้วครับ
     
  15. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,516
    ค่าพลัง:
    +30,849
    ปิดแล้วครับ
     
  16. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,856
    ค่าพลัง:
    +14,116
    สวัสดียามสายครับป๋า
     
  17. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,516
    ค่าพลัง:
    +30,849
    สวัสดีครับเสี่ยเฟริส์ท
     
  18. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,516
    ค่าพลัง:
    +30,849
    พระกสิณพิมพ์รูปเหมือน หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง (pm)

    <a href="http://www.mx7.com/view2/yRf2jPPYQ8eF9tEn" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/6eb/BuPEPZ.jpg" /></a>

    <a href="http://www.mx7.com/view2/yRf2jPPYPXNGdggJ" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/c8d/h74rp7.jpg" /></a>

    <a href="http://www.mx7.com/view2/yRf2jtRiyntPnZWN" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/6c2/z9i19c.jpg" /></a>​


    พระเนื้อดิน และพระเนื้อผงผสมดินของหลวงปู่พิศดูท่าน เรียกว่า พระกสิณ ครับ เริ่มสร้างประมาณปี 2520 เป็นต้นมา... พระเนื้อดินเผา เมื่อกดพิมพ์พระ และนำมาตากแห้งเรียบร้อยแล้ว จะนำมาเผาไฟ สุมด้วยแกลบตามกรรมวิธีแบบโบราณ ในระหว่างนั้น หลวงปู่ท่านสวดมนต์เดินจงกรมบริกรรมทั้งหมด ถ้าดินสุกแล้วท่านจะนำมาไว้ที่ห้องสวดมนต์ ท่านจะสวดลายลักษณ์ของพระพุทธเจ้า ตลอดถึงพระคาถาและบทสวดต่างๆมากมายเลยครับ สำหรับพระยุคแรกๆของท่าน
    องค์หลวงปู่ได้ทําการลงอักขระบนกระดาน และลบผงเอง นอกจากนั้น ยังแกะพิมพ์และกดพิมพ์กันเองในวัด โดยลูกศิษย์ลูกหาที่มีความสามารถ และผู้ที่สนใจ (ฟังแล้วคิดถึงตอนที่สมเด็จโต วัดระฆังท่านสร้างพระสมเด็จครับ) อย่างใน มวลสารหลักๆ นอกจากผงที่หลวงปู่ท่านได้ลบสูตรเองแล้ว ยังมี ธูปอธิษฐาน ดอกไม้องค์หลวงปู่ไหว้พระ ว่านยา แร่ต่างๆ ผงพ่อแม่ครูบาอาจารย์ กาฝาก 108 เกศา ชาญหมาก ดิน ทรายลำธารศักดิ์สิทธิ์ของวัดเทพธารทอง(ปฐวีธาตุ)
    พระกสิณ คณะสมัยก่อนได้เล่าให้ฟังว่า องค์หลวงปู่ได้บอกว่า ถึงไม่ค่อยสวย แต่ก็เมตตามากนะ อีกหน่อยจะหายาก...ซึ่งก็เป็นไปตามองค์หลวงปู่ได้ทํานาย ใครมีใครก็หวง จะหาได้ที่ไหนที่พระป่าสายกรรมฐานจะสร้างพระแบบนี้ครับคือ ลงมือทําเอง และลบผงเองครับ (ส่วนมากทางสายป่ากรรมฐานนี้ลูกศิษย์จะยกมาให้เสก เสกเสร็จก็ยกไปแจกครับ)
    พระกสิณถ้าจะมองผ่านๆบางคนอาจจะบอกว่า ไม่คมไม่สวย แต่ถ้าคิดในมุมกลับจะรู้ถึงคุณค่า เพราะกว่าจะได้แต่ละองค์ต้องผ่านอะไรๆหลายๆอย่าง เช่น หามวลสาร ทําบล็อค รวมถึงองค์หลวงปู่จะต้องลบผงอีกต่างหาก อีกทั้งองค์หลวงปู่จะเดินจงกลมรอบกองไฟ ระหว่างเดินท่านจะภาวนาตลอดครับ เรียกได้ว่าทุกขั้นตอนการสร้างท่านควบคุมดูแลตลอด ไม่ปล่อยให้ตกหล่นเลยครับ คณะสมัยนั้นเล่าให้ผมฟังว่า แม้กระทั่งที่ไม่สวยองค์หลวงปู่สั่งว่าห้ามทําลาย ให้ปล่อยไว้แบบนั้นครับ.. ( ข้อมูลคุณแฝงจันทร์.. )

    เนื้อดินเผา ผสมผงวิเศษ และเผาแบบสุมไฟด้วยแกลบให้ดินสุก โดยทำกันในวัด ในระหว่างนี้หลวงปู่ท่านจะเดินจงกรมรอบกองไฟ(เพิกกสิณ)ครับ..
    พระกสิณนี้ เมื่อทำสำเร็จและได้จำนวนมากพอแล้ว ท่านจะสั่งให้ลูกศิษย์เอามาเก็บไว้ที่กุฏิโดยเอาผ้าขาวปูรอง แล้วเอาพระกสิณวางเรียงกันไว้เป็นชั้นหนึ่ง จากนั้นก็เอาผ้าขาวปูทับ และนำพระมาเรียงซ้อนกันไว้อีกเป็นชั้นที่สอง แล้วปูผ้าขาวทับอีก สลับกันไปเรื่อยๆ จนพระหมด ท่านจึงทำการอธิษฐานจิต เป็นเวลายาวนานนับสิบๆปี คล้ายกับรอเวลาที่จะแจกในอนาคตมากกว่า.. ซึ่งโดยปกติพระที่มีพลังจิตสูงอย่างหลวงปู่พิศดู ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเสกพระอะไรที่ยาวนานขนาดนั้นหรอกครับ เพียงแค่ท่านกำหนดจิตแป๊บเดียว หรือแค่จิตท่านคิดของก็มีความศักดิ์สิทธิ์ได้ถึงที่สุดแล้ว.. แต่การอธิษฐาน สวดมนต์ ภาวนาเป็นระยะเวลานานเกือบ 20 ปี พระที่อยู่กับท่านจะยิ่งมีความศักดิ์สิทธิ์มากแค่ไหน..? อันนี้คงไม่ต้องกล่าวถึง
    แต่ที่หลวงปู่เก็บพระชุดนี้ไว้นานถึง 20 ปี ก็เพราะว่าท่านอาจทราบเหตุการณ์ล่วงหน้า ว่าในอนาคตจะมีภัยต่างๆมากขึ้น อีกอย่างถ้าหลวงปู่ท่านแจกพระในสมัยที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักท่าน พระที่ทำก็คงสูญหายไปหมด ไม่มีใครรู้จัก สิ่งที่สร้างไว้ก็คงเสียเปล่า..
    พระอริยะอจิณไตยอย่างองค์หลวงปู่พิศดู ท่านทราบความเป็นไปในทุกสภาวะธรรม(ชาติ) ทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต ท่านทราบโดยละเอียดด้วยความเมตตากรุณา สิ่งใดที่ท่านตั้งใจทำ ตั้งใจสร้างขึ้นมานั้น ย่อมมีเหตุมีผลทั้งสิ้น เรื่องบางเรื่องเราไม่อาจรู้ได้ แต่หลวงปู่ท่านรู้โดยละเอียด..
    พระกสิณนี้ก็เป็นวัตถุมงคลอีกสิ่งหนึ่งที่หลวงปู่เป็นผู้ดำหริให้จัดสร้างด้วยองค์ท่านเอง ด้วยมวลสารที่ท่านสะสมมาสมัยธุดงค์ และของมงคลของครูบาอาจารย์ของท่าน ฯลฯ ทุกอย่างทำกันในวัด ทั้งลบผง ผสมเนื้อ กดพิมพ์ เผาดิน ตลอดถึงการอธิษฐานจิตเดี่ยว ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่น ตั้งใจอย่างดีที่สุด นับเป็นพระเครื่องชุดแรกของท่านก็ว่าได้ ถึงรูปแบบอาจจะดูไม่สวยคมชัดเหมือนพระสมัยนี้ แต่ว่ามีความคลาสสิคในตัวมาก เพราะพระทุกองค์เป็นงานที่ทำด้วยมือ และใจของผู้ศรัทธาจริงๆ เป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางใจสูงมาก.. หลวงปู่เคยบอกว่า ถึงจะไม่ค่อยสวย แต่คุณภาพสูงครับ.. สาธุ
    ( ข้อมูลคุณทุเรียนทอด..)

    " นะมะภะทะ จะภะกะสะ นะโมพุทธายะ นะชาลีติ พุทธคุณัง ธัมมะคุณัง สังฆคุณัง สะระณังคัจฉามิ "
    พระคาถาหลวงปู่พิศดู ไว้สวดเสกกำกับ พระกสิณ. เวลาเราสวมใส่เห็นหน้าใครต้องการผูกมิตรทำจิตใจให้เป็นสมาธิ แล้วบริกรรม. เมกะมุอุ. ครับ. หลวงปู่เคยกล่าวไว้ว่า การบูชาพระพุทธเจ้านำมาชื่งเดชเดชาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระธรรมเจ้านำมาซึ่งปัญญาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระสงฆ์เจ้านำมาซึ่งทรัพย์อันยิ่งใหญ่ ครับ. พระผงกรรมมัฏฐาน ยุคแรกๆของท่านสามารถใช้มือกำภาวนาได้ครับ คาถากำกับ พระขมิ้นเสกต่าง มิตติ จิตติ จิตติ มิตติ นะชาลีติ นโมพุทธายะ. (ทำไมหลวงปู่ถึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระครับ. เหตุผล. พระเวลาบวชต้องห่มเหลืองสมัยก่อนเขาใช้ขมิ้นย้อมผ้า. ขมิ้นเหลืองดั่งทองคำมิผันแปรเหมือนดั่งทองคำ. ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ท่านจึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระเสมอๆครับ. ) หลวงปู่เสกพระด้วยบทกรรมมัฏฐานทั้งสิ้น เช่นสวดพิจารณาอาการ32 เกสา โลมา.........มัตถะลุงคันติ สาคะลังฯ และอื่นๆ คาถาพระปัจเจกก็ใช้สวดด้วย สมัยก่อนท่านสวดทุกเช้าศิษย์เก่าๆรู้ดีครับ..
    ( ข้อมูลคุณเอื้อนขจี.. )

    พระกสิณหลวงปู่พิศดู ครูบาอาจารย์บอกมาว่าหลวงปู่ท่านลงวิชาหัวใจพระพรหม ไว้ในองค์พระมีอยู่ 2 รุ่น คือพระกสิณ และพระรูปหล่อพระธรรมธาตุ
    หัวใจพรหมหรือที่เรียกกันว่า พรหมวิหารธรรม คือ หลักธรรมของผู้ใหญ่ หรือหลักของผู้ครองเรือน ประกอบด้วยหลักธรรมสำคัญ 4 ประการ คือ
    - เม ตตา = ความรัก ความเอื้ออารีย์
    - ก รุณา = ความสงสาร เห็นอกเห็นใจกัน
    - มุ ทิตา = ความพลอยยินดี ที่เห็นผู้อื่นได้ดี
    - อุ เบกขา = ความวางภาระ วางเฉย
    ครูบาอาจารย์จึงถอดเป็นหัวใจของพระพรหม หรือ หัวใจพรหมวิหารธรรม ได้เป็น เม กะ มุ อุ ครับ
    ( ข้อมูล การสร้างพระกสิณ ของหลวงปู่พิศดู.. )
     
  19. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    ขอราคาครับ

    ขอราคาบูชาครับผม
     
  20. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,516
    ค่าพลัง:
    +30,849
    แจ้งให้ทราบทางpmแล้วครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...