ใครกราบไหว้พระพุทธรูปเรียนเชิญ...ครับ

ครับผม คุณเข้าใจผม ผมเข้าใจคุณก็ดีแล้ว หนักนิดเบาหน่อย

อภัยกันนะครับ มีอะไรก็แลกเปลี่ยนกันครับ


ผมเองก็ไม่รู้ไปเสียทุกเรื่องหรอกครับ

 

------------

หน้าที่คุณกล่าวไว้ผมทั้งอ่านและก็ฟัง ก็ไม่น่าจะเป็นพันอย่างที่คุณว่าไว้นะครับ

(copy มันอ่านภาษาไม่ได้ครับ)

¾ÃÐÊصµÑ¹µ»Ô®¡ ·Õ¦¹Ô¡Ò ÊÕŢѹ¸ÇÃä [ò.ÊÒÁÑ­­¼ÅÊÙµÃ]
ÁѪ¬ÔÁÈÕÅ

[ñùø] ô. ÀÔ¡ÉØàÇŒ¹¢Ò´¨Ò¡¡Òâǹ¢ÇÒÂ㹡ÒÃàÅ‹¹¡Òþ¹Ñ¹Íѹà»ç¹à˵Ø
áË‹§¤ÇÒÁ»ÃÐÁÒ· ઋ¹·ÕèÊÁ³¾ÃÒËÁ³¼ÙŒà¨ÃÔ­ºÒ§¾Ç¡©Ñ¹âÀª¹ÒËÒ÷Õèà¢ÒãËŒ´ŒÇÂ
ÈÃÑ·¸ÒáÅŒÇÂѧ¢Ç¹¢ÇÒÂ㹡ÒÃàÅ‹¹¡Òþ¹Ñ¹Íѹà»ç¹à˵ØáË‹§¤ÇÒÁ»ÃÐÁÒ·Í‹ҧ¹Õé ¤×Í
àÅ‹¹ËÁÒ¡ÃØ¡á¶ÇÅÐ ø µÒ ËÃ×Í ñð µÒ àÅ‹¹ËÁÒ¡à¡çº àÅ‹¹´Ç´ àÅ‹¹ËÁÒ¡äËÇ àÅ‹¹
⹺‹Ç§ àÅ‹¹äÁŒËÖè§ àÅ‹¹¡Ó·Ò àÅ‹¹ÊÐ¡Ò àÅ‹¹à»èÒãºäÁŒ àÅ‹¹ä¶àÅç¡ æ àÅ‹¹Ë¡¤ÐàÁ¹
àÅ‹¹¡Ñ§Ëѹ àÅ‹¹µÇ§·ÃÒ àÅ‹¹Ã¶àÅç¡ æ àÅ‹¹¸¹ÙàÅç¡ æ àÅ‹¹à¢Õ¹·Ò àÅ‹¹·ÒÂã¨
àÅ‹¹ÅŒÍàÅÕ¹¤¹¾Ô¡ÒÃ
[ñùù] õ. ÀÔ¡ÉØàÇŒ¹¢Ò´¨Ò¡·Õè¹Í¹ÍѹÊÙ§ãË­‹ ઋ¹·ÕèÊÁ³¾ÃÒËÁ³¼ÙŒà¨ÃÔ­
ºÒ§¾Ç¡©Ñ¹âÀª¹ÒËÒ÷Õèà¢ÒãËŒ´ŒÇÂÈÃÑ·¸ÒáÅŒÇÂѧ㪌·Õè¹Í¹ÊÙ§ãË­‹Í‹ҧ¹Õé ¤×Í àµÕ§
ÁÕà·ŒÒÊÙ§à¡Ô¹¢¹Ò´ àµÕ§ÁÕà·ŒÒà»ç¹ÃÙ»ÊѵǏÌÒ ¾ÃÁ¢¹ÊѵǏ à¤Ã×èͧÅÒ´¢¹á¡ÐÅÒÂ
ÇԨԵà à¤Ã×èͧÅÒ´¢¹á¡ÐÊÕ¢ÒÇ à¤Ã×èͧÅÒ´ÁÕÅÒÂÃÙ»´Í¡äÁŒ à¤Ã×èͧÅÒ´ÂÑ´¹Ø‹¹ à¤Ã×èͧ
ÅÒ´¢¹á¡ÐÇԨԵôŒÇÂÃÙ»ÊѵǏÌÒÂઋ¹ÊÕËÐáÅÐàÊ×Í à¤Ã×èͧÅÒ´¢¹á¡ÐÁÕ¢¹ ò ´ŒÒ¹
à¤Ã×èͧÅÒ´¢¹á¡ÐÁÕ¢¹´ŒÒ¹à´ÕÂÇ à¤Ã×èͧÅÒ´»Ñ¡´ŒÇÂäËÁ»ÃдѺÃѵ¹Ð à¤Ã×èͧÅÒ´¼ŒÒ
äËÁ»ÃдѺÃѵ¹Ð à¤Ã×èͧÅÒ´¢¹á¡Ð¢¹Ò´ãË­‹·Õè¹Ò§¿é͹ ñö ¤¹Ã‹ÒÂÃÓä´Œ à¤Ã×èͧ
ÅÒ´º¹ËÅѧªŒÒ§ à¤Ã×èͧÅÒ´º¹ËÅѧÁŒÒ à¤Ã×èͧÅÒ´ã¹Ã¶ à¤Ã×èͧÅÒ´·Ó´ŒÇÂ˹ѧàÊ×Í
à¤Ã×èͧÅҴ˹ѧªÐÁ´ à¤Ã×èͧÅÒ´ÁÕྴҹ à¤Ã×èͧÅÒ´ÁÕËÁ͹ ò ¢ŒÒ§
[òðð] ö. ÀÔ¡ÉØàÇŒ¹¢Ò´¨Ò¡¡Òâǹ¢ÇÒÂ㹡ÒûÃдѺµ¡áµ‹§Ã‹Ò§¡ÒÂ
ઋ¹·ÕèÊÁ³¾ÃÒËÁ³¼ÙŒà¨ÃÔ­ºÒ§¾Ç¡©Ñ¹âÀª¹ÒËÒ÷Õèà¢ÒãËŒ´ŒÇÂÈÃÑ·¸ÒáÅŒÇÂѧ
¢Ç¹¢ÇÒÂ㹡ÒûÃдѺµ¡áµ‹§Ã‹Ò§¡ÒÂÍ‹ҧ¹Õé ¤×Í Íº¼ÔÇ ¹Ç´ ÍÒº¹éÓËÍÁ à¾ÒСÒÂ
ʋͧ¡ÃШ¡ ᵌÁµÒ ·Ñ´¾Ç§´Í¡äÁŒ »ÃзԹ¼ÔÇ ¼Ñ´Ë¹ŒÒ ·Ò»Ò¡ »ÃдѺ¢ŒÍÁ×Í
ÊÇÁà¡ÕéÂÇ ãªŒäÁŒ¶×Í ãªŒ¡ÅÑ¡ÂÒ ãªŒ´Òº 㪌¾ÃТÃä 㪌ËÁ ÊÇÁÃͧ෌ÒÇԨԵà µÔ´
¡Ãͺ˹ŒÒ »Ñ¡»Ôè¹ ãªŒ¾Ñ´áÅÐáÊŒ¢¹ËÒ§¨ÒÁÃÕ ¹Ø‹§Ë‹Á¼ŒÒ¢ÒǪÒÂÂÒÇ
[òðñ] ÷. ÀÔ¡ÉØàÇŒ¹¢Ò´¨Ò¡à´ÃѨ©Ò¹¡¶Ò ઋ¹·ÕèÊÁ³¾ÃÒËÁ³¼ÙŒà¨ÃÔ­ºÒ§
¾Ç¡©Ñ¹âÀª¹ÒËÒ÷Õèà¢ÒãËŒ´ŒÇÂÈÃÑ·¸ÒáÅŒÇÂѧ¾Ù´à´ÃѨ©Ò¹¡¶ÒÍ‹ҧ¹Õé ¤×Í àÃ×èͧ
¾ÃÐÃÒªÒ àÃ×èͧâ¨Ã àÃ×èͧÁËÒÍÓÁҵ àÃ×èͧ¡Í§·Ñ¾ àÃ×èͧÀÑ àÃ×èͧ¡ÒÃú àÃ×èͧ¢ŒÒÇ
àÃ×èͧ¹éÓ àÃ×èͧ¼ŒÒ àÃ×èͧ·Õè¹Í¹ àÃ×èͧ¾Ç§´Í¡äÁŒ àÃ×èͧ¢Í§ËÍÁ àÃ×èͧ­ÒµÔ àÃ×èͧÂÒ¹

 

----------------

นับได้ 9,000 ปฏิบัติได้เท่าไหร่ครับ
ไม่สำรวม ด่าญาติโยมรุนแรง อวดตริฯ

ผมไม่ได้ใส่ร้ายนะครับ คุณก็น่าจะเห็นเช่นกัน

 

-----------------------------

จิตทุกดวงไม่สามารถประมาณได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าสุดท้ายจะรวมเป็นหนึ่ง
เพราะจิตทุกดวงต้องผ่านกระบวนการอะไรมากมายจนถึงขั้นเข้าถึงได้

ผมรู้แต่ว่าจะรวมเป็นหนึ่ง จากนั้นแล้วนี่สิ จะกลับแยกใหม่หรือไม่
เพื่อกำเนิดเวลาอีกครั้ง

 

ผมหาคำว่า "ตักบาตเทโว" ในพระไตรปิฏกไม่เจอครับ มันน่าจะเจอนะครับ ท่านพิมพ์ถูกเปล่าครับ

 

จะรวมจะแยกผมว่าปล่อยไปเถอะครับ ช่างจิตมัน ผมชอบนั่งนิ่งๆ กายเบา ลมหายใจเบา พอมันเบา สักพักมันก็มีเบากว่า พอมีเบากว่าสักพักมันก็มีเบากว่าอีก พอมีเบากว่าอีกสักพักมันก็มีเบากว่าอีก

 

ปฎิบัติได้ครับ ดูแบบอย่างจากหลวงปู่มั้นสิครับ ท่านรักษาใจข้อเดียวเองครับ

งั้นเอาคำใหม่ "ศีลของเธอ" มี ๗๙ หน้า
ผลการค้นหาที่ ๑ - ๑๐ จากทั้งหมด ๗๙ หน้า สำหรับคำว่า "ศีลของเธอ"

ท่านจะหาคำว่า "ศีล" อย่างเดียวก็ได้มี ๑๙๑๗ หน้า
ผลการค้นหาที่ ๑ - ๑๐ จากทั้งหมด ๑๙๑๗ หน้า สำหรับคำว่า "ศีล"

 

ผมส่งเบอร์ไปแล้วครับ ท่านนัดกันเองนะครับ

 

ได้อ่านเรื่องราวของ จขกท. แล้วรู้สึกงงๆ ครับ ขออนุญาติแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วยคน คงไม่ว่ากันนะครับ

ถ้าผมมีความเข้าใจผิดคลาดเคลื่อนไปก็ขออภัยด้วย

งง 1.

เท่าที่ผมอ่านมาผมเข้าใจว่า จขกท. นั้นเน้นไม่ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการสรัางพระพุทธรูปเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชาเพราะมันผิดพระวินัย(ตามที่คุณจขกท.บอกไว้) แต่ทำไมถึงกลับมอบพระกริ่งให้คนไปกราบไหว้บูชา ผมอ่านแล้วก็ยิ่งงง !

งง 2.

ข้อมูลที่ว่าพระพุทธรูปนั้นสร้างหลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว แต่เท่าที่ผมได้อ่านมาหลายๆเวปเขาบอกว่า พระพุทธรูปนั้นมีการสรัางตั้งแต่สมัยที่พระพุทธเจ้ายังมีพระชนม์อยู่ ซึ่งไม่ตรงกับที่คุณลงไว้( ส่วนตัวผมก็ยังไม่ได้หาอ่านว่ามีข้อความแบบนี้อยู่ในเล่มไหนของพระไตรปิฎก)

งง 3.

เห็นจขกท. นั้นบอกว่าต้องการมอบพระให้กับผู้ที่มีศีล 5 ครบ อันนี้ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง แต่จขกท.คงยังไม่ได้อ่านสิ่งที่ผมโพสไป เกี่ยวกับเรื่องศีลข้อ 3 นั้น ในพระอรรถกถาได้แจกแจงวัตถุที่เป็นเหตุให้ เกิดการล่วงละเมิดศีล ข้อ กาเมฯ ซึ่งผมคิดว่าคนที่ได้รับพระกริ่งคุณ จขกท. นั้นยังขาดคุณสมบัติตามที่คุณได้ตั้งไว้

อันที่จริงแล้วผมก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะเป็นมารคอยกีดขวางใครแต่อย่างใด แต่ที่ผมต้องออกมาแย้งกับจขกท. เกี่ยวกับเรื่องนี้ (ซึ่งผมยังมีความเชื่อมั่นว่าจขกท. นั้นคงมีสัจจะวาจาพอที่จะไม่กลับใจที่จะไม่ให้พระกริ่งกับคุณ) เนื่องมาจากเนื้อหาสาระสำคัญของการล่วงละเมิดศีลห้ายังไม่ตรงกันกับที่ผมก็ได้ศึกษามา ผมคิดว่าข้อสรุปของจกขท.อาจจะไปสร้างความเข้าใจผิดให้กับผู้ที่ยังไม่เคยได้ศึกษาในเรื่องศีล5

ต้องขอโทษกับคุณคนที่ได้รับพระด้วยนะครับ

 

ถ้าไม่มีใครโต้แย้งเรื่อง จิต ผมขอสรุปดังนี้
สำหรับคำว่า "จิต" ไม่ได้เกิดดับอยู่ตลอด
เพราะจิตผ่านภพผ่านภูมิมานับครั้งไม่ถ้วน จึงเกิดสัญญาและอุปทาน
ถ้าจะอนุมาน เรื่องจิต ก็คงเป็นดั่ง processer ที่ไว้ประมวลผล
มีการ copy, move, hidden, หรือ share

จิตสามารถ ทำซ้ำ เคลื่อนย้าย ซ่อน หรือ แบ่งปันข้อมูลได้

บางคนจิตวิปลาส ก็เสมือน processor นั้นประมวลผลผิดพลาด

ซึ่งดูไปแล้วมนุษย์เราไม่ต่างไปจากระบบ computer เท่าไหร่ครับ

เพิ่มเติมอีกนิด จิตที่มีกำลังจะสามารถควบคุมกำหนดสิ่งที่ต้องการได้
ถ้าจิตเกิดดับอยู่ตลอดเวลา แล้วจะมีกำลังดังที่กล่าวมาได้อย่างไร
ช่วงที่เราข้ามถนนอยู่ จิตเราเกิดดับขึ้นมา เราคงดับคาถนนเช่นกันครับ

 

1.ผมไม่ทำลายไงครับ คนที่เขาศัทธาพระพุทธรูป ยังอยู่ในพุทธศาสนา มีศีลห้า เขาเชื่อนรก สวรรค์ เชื่อเรื่องกรรมดีกรรมชั่วอยู่ครับ ส่วนคนไม่มีศีลห้า ไม่เชื่อนรก สวรรค์ ไม่เชื่อกรรม ทำบาปได้ทำ ไม่สนใครจะตาย ใครจะเดือดร้อน ข้าเอาของข้าก่อน

2.ในสมัยพระพุทธกาลไม่มีพระพุทธรูป แต่ก็ไม่แน่ วันหนึ่งอาจจะมีใครเจอหลักฐานก็ได้ เหมือนที่พวกตาลีบันระเบิดพระพุทธรูป มีคนเจอหลักฐานชิ้นส่วนพระไตรปิฏก ตรวจสอบแล้วเป็นคำของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงสอนเรื่องการรักษาความจริง

"อย่างพึ่งคิดว่าสิ่งนี้จริง สิ่งอื่นไม่"

วางเป็นกลางๆ ไว้ดีกว่าครับ ความจริงที่เรารู้กันทุกวันนี้ อาจจะไม่จริงในวันพรุ่งนี้ก็ได้ครับ มีตัวอย่างเยอะแยะครับ

3.ผู้ทำผิดศีล แล้วรู้ว่าตนทำผิด ยังดีกว่าผู้ไม่มีศีลครับ

ผมตั้งเจตนาไว้ผมรู้ คนที่มีศีลไม่ขาดไม่ทะลุ มีสมาธิ มี... ท่านศึกษาธรรม ท่านไม่มารับหรอกครับเป็นภาระท่านเปล่าๆ เหมือนที่ผมเป็นอยู่ ผมเสียเวลากับเรื่องนี้มาก ๆ เลยครับ แต่ไม่เป็นไร ให้หมดก็หมดแล้ว

 

คุณอุรุเวลา ครับ

หมดจากพระพุทธรูปแล้ว ก็เริ่มทำการเผาภาพถ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบรรบุรุษด้วยนะครับ
ไม่เช่นนั้น ก็เท่ากับคุณ ละสิ่งหนึ่งแต่มาเกาะสิ่งหนึ่ง ซึ่งไม่ได้ต่างกันเลย

เผาภาพถ่ายหมดแล้ว ต่อไปก็ แจกหรือไม่ก็เผาสมบัติต่างๆ ให้หมดอย่าเหลือไว้
ให้สมกับคำที่คุณทิ้งท้ายไว้ไงครับ "ให้หมดก็หมดแล้ว"

อ้อ... แล้วก็แก้ผ้าไปเลยนะครับ <!-- google_ad_section_end -->

 

ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงกระทำธรรมีกถา ในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะ
เหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ภิกษุผู้ถูก
โจรแย่งชิงจีวรไป หรือมีจีวรหาย ขอจีวรต่อพ่อเจ้าเรือน หรือแม่เจ้าเรือน ผู้มิใช่ญาติ
ได้ เธอเดินไปถึงวัดใดก่อน ถ้าจีวรสำหรับวิหารก็ดี ผ้าลาดเตียงก็ดี ผ้าลาดพื้นก็ดี ผ้าปูที่นอน
ก็ดี ของสงฆ์ในวัดนั้นมีอยู่ จะถือเอาผ้าของสงฆ์นั้นไปห่มด้วยคิดว่า ได้จีวรนั้นมาแล้ว จักคืน
ไว้ดังกล่าว ดังนี้ก็ควร. ถ้าจีวรสำหรับวิหารก็ดี ผ้าลาดเตียงก็ดี ผ้าลาดพื้นก็ดี ผ้าปูที่นอนก็ดี
ของสงฆ์ไม่มี ต้องปกปิดด้วยหญ้าหรือใบไม้เดินมา ไม่พึงเปลือยกายเดินมา ภิกษุใดเปลือย
กายเดินมา ต้องอาบัติทุกกฏ.

ขอบคุณครับผมขอเผาใจพอ พระพุทธเจ้าทรงห้ามเปลือยกายครับ

 

ฤดูร้อนยังเหลือเกินกว่ากึ่งเดือน ภิกษุสำคัญว่าเกิน ทำนุ่ง, เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
ฤดูร้อนยังเหลือเกินกว่ากึ่งเดือน ภิกษุสงสัย ทำนุ่ง, เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
ฤดูร้อนยังเหลือเกินกว่ากึ่งเดือน ภิกษุสำคัญว่ายังไม่ถึง ทำนุ่ง เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
ทุกกฏ
เมื่อผ้าอาบน้ำฝนมี ภิกษุเปลือยกายอาบน้ำฝน, ต้องอาบัติทุกกฏ.
ฤดูร้อนยังเหลือไม่ถึง ๑ เดือน ภิกษุสำคัญว่าเกิน ..., ต้องอาบัติทุกกฏ.
ฤดูร้อนยังเหลือไม่ถึง ๑ เดือน ภิกษุสงสัย ..., ต้องอาบัติทุกกฏ.
ไม่ต้องอาบัติ
ฤดูร้อนยังเหลือไม่ถึง ๑ เดือน ภิกษุสำคัญว่ายังไม่ถึง ..., ไม่ต้องอาบัติ.
ทุกกฏ
ฤดูร้อนยังเหลือไม่ถึงกึ่งเดือน ภิกษุสำคัญว่าเกิน ..., ต้องอาบัติทุกกฏ.
ฤดูร้อนยังเหลือไม่ถึงกึ่งเดือน ภิกษุสงสัย ..., ต้องอาบัติทุกกฏ.
ไม่ต้องอาบัติ
ฤดูร้อนยังเหลือไม่ถึงกึ่งเดือน ภิกษุสำคัญว่า ยังไม่ถึง ..., ไม่ต้องอาบัติ.
อนาปัตติวาร
[๑๔๘] ภิกษุรู้ว่าฤดูร้อนยังเหลืออีกหนึ่งเดือน แสวงหาจีวร คือผ้าอาบน้ำฝน ๑,
ภิกษุรู้ว่าฤดูร้อนยังเหลืออีกกึ่งเดือน ทำนุ่ง ๑, ภิกษุรู้ว่าฤดูร้อนยังเหลือไม่ถึงหนึ่งเดือน แสวงหา
จีวรคือผ้าอาบน้ำฝน ๑, ภิกษุรู้ว่าฤดูร้อนยังเหลือไม่ถึงกึ่งเดือน ทำนุ่ง ๑, เมื่อผ้าอาบน้ำฝน ภิกษุ
แสวงหาได้แล้ว ฝนแล้ง เมื่อผ้าอาบน้ำฝน ภิกษุทำนุ่งแล้ว ฝนแล้ง ซักเก็บไว้ ๑, ภิกษุนุ่ง
ในสมัย ๑, ภิกษุมีจีวรถูกโจรชิงไป ๑, ภิกษุมีจีวรหายเสีย ๑, มีอันตราย ๑, ภิกษุวิกลจริต ๑,
ภิกษุอาทิกัมมิกะ ๑, ไม่ต้องอาบัติแล.

ภิกษคิดว่าฤดูร้อนยังเหลือไม่ถึงครึ่งเดือน ภิกษุแค่สงสัย ทำไมต้องอาบัติทุกกฏ มีธรรมให้ศึกษาอีกแล้ว

 

---------------

เช่นนั้นก็ เผารูปบรรบุรุษ แล็วก็แจกทรัพย์สมบัติก็พอครับ
ไม่ต้องถึงแก้ผ้าก็ได้ครับ

 

ท่าน sutanon ผมขอนะครับผมหยุดแล้ว ผมไม่ได้เผาพระพุทธรูป คุณจะมาโกรธผมทำไม ผมต้องการให้พระพุทธรูปที่ผมไม่ศรัทธากับคนที่เขาศรัทธา อย่าลบหลู่บรรพบุรษผม ถ้าจะลบลู่บรรพบุรุษผมท่านต่อว่าผมดีกว่า บรรพบุรุษผมไม่ได้ทำอะไรท่าน ถ้าจะว่ามาว่าผมคนเดียวพอ

 

ท่าน sutanon ถ้าท่านเข้ามาตอบกระทู้ผมอีก ผมจะเอาพระพุทธรูปส่งไปวัดสามแยก ยกเว้นพระกริ่งวัดสุทัศน์องค์ที่ 1 ผมจะรอผู้มีศีลห้าไม่ขาดไม่ทะลุ

 

---------------

ต้องขอโทษคุณด้วย ที่ทำให้คุณแปลเจตนาผมผิด
ผมไม่ได้ลบหรู่บรรพบุรุษของคุณนะครับ
แต่ที่ต้องอ้างถึง เพราะรูปพระพุทธเจ้าซึ่งมีพระคุณอนันต์
เราควรจะต้องเคารพกราบไหว้สักการะเช่นกัน ไม่ต่างจากบรรพบุรุษ
แต่คุณเลือกที่จะทอดทิ้ง และเห็นด้วยกับการทำลาย

ผมจึงมองเห็นจุดนี้ว่าคุณไม่ยึดสิ่งหนึ่งแต่กลับยังยึดสิ่งหนึ่ง
ซึ่งนั่นมันทำให้คุณดูไม่มีเหตุผล ผมกล่าวตรงๆ คงรับได้นะครับ

 

--------------

ผมคงห้ามคุณไม่ได้หลอกครับ ก็แล้วแต่คุณ
แต่ที่ผมได้ชี้แนะเผื่อคุณจะหันกลับมา และไตร่ตรองดู
ว่าสิ่งที่ผมกล่าวมามันถูกหรือผิด

เห็นเป็นนักธรรมด้วยกัน ผมยิ่งต้องนวดให้หนัก
ให้คุณกลับมาอยู่ในสัมมาทิฐิ

 

จบแล้วนะครับ ผมโพสก่อน ผมจะเอาพระพุทธรูปส่งไปวัดสามแยก ท่านใดรู้วิธีส่งพระพุทธรูปไปวัดสามแยกบ้างครับ พระพุทธรุปองค์ใหญ่ ส่งทางไปรษณีย์มีค่าใช้จ่ายเยอะ ไม่อยากไปเอง ช่วยนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ