ใครพอจะทราบสถานที่หรือวัดที่มีความเกี่ยวข้องกับพญานาคบ้างครับ?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Joey, 20 กรกฎาคม 2006.

  1. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    วัดถ้ำพระโพธิสัตว์ ตั้งอยู่ที่ ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จากจังหวัดไปตามทางหลวงหมายเลข 2 เส้นไป จ.นครราชสีมา(ถนนมิตรภาพ) ประมาณ 15 กม. จะมีป้ายบอกชื่อวัดอยู่ทางขวามือ ให้เลี้ยวขวาไปตามทางลาดยางประมาณ 2 กม. จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าทางลูกรังอีกประมาณ 9 กม. ผ่าน" สำนักสงฆ์เจ้านาคราช" ก่อนจะไปสุดทางที่"วัดถ้ำพระโพธิสัตว์ "
    ................................................

    Confirmed!!!!!

    There is a palace under
    the temple ground.

    They often come to Wat's ceremonies.

    Many buildings were designed by them.

     
  2. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,860
    1. ลองไปวัดถ้ำเบญจรัตน์นคร ที่ไทรโยค กาญจนบุรี ของหลวงปู่ถวิลดูซิครับ
    รู้สึกได้เลยว่ามีพญานาค
    2. วัดใหม่สันติ ที่อ. สูงเนิน นครราชสีมา อยู่ริมอ่างเก็บน้ำซับประดู่ มีศาล
    พญานาคในวัด ลูกสาวพญานาคก็บวชเนกขัมมะอยู่ในวัดนี้

    แฮะๆๆๆ.......ว่าแต่ว่าอยากรู้เนี่ย....จะไปสนทนาด้วยหรือครับ
     
  3. eutayan

    eutayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +166
    1. วัดอัมฤต ต.ลานดอกไม้ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เคยเป็นข่าวโงดังทางหน้าหนังสือพิมพ์มาแล้วเมื่อหลายปีก่อน ว่าพญานาคขึ้นเล่น และเดี๋ยวนี้ ทุก 15 ค่ำ ไม่รู้ขึ้น หรือแรม หลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านจะสัมผัสได้
    2. วัดบ่อเงิน หลวงพ่อราม (เป็นหลวงพ่อของคุณเท่ง เถิดเทิง ) ก็มีบ่อน้ำทิพย์ที่พญานาคให้น้ำอยู่ รายละเอียดหลวงพ่อเล่าให้ฟังหลายครั้ง แต่ เรามันคนขี้หลงลืมน่ะ เคยมีผู้มีฤทธิ์อภิญญา ไปสนทนาธรรมกับหลวงพ่อมาแล้ว ท่านลงเว็ปเหมือนกันเราจำชื่อไม่ได้ แต่เขาไปทำพิธีเปิดศาลหลักเมืองที่โกสัมพี จ.กำแพงเพชร ชื่อวัดเขาวังเจ้ามั๊ง (โอ...โง่จิรง ๆ จำอะไรไม่ได้สักอย่าง)
     
  4. eutayan

    eutayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +166
    แก้ไข
    1. " เคยเป็นข่าวโด่งดังทางหน้าหนังสือและมีคนถ่ายรูปไว้ได้"
    2. "พญานาคขึ้นเล่นน้ำ"
     
  5. ซอแก้วสามสาย

    ซอแก้วสามสาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +34
    กว๊านพะเยาเป็นที่อยู่ของพญานาค5เศียร ถ้ำลอดที่แม่ฮ่องสอน ถ้ำปลาที่เชียงราย วัดพระธาตุภูข้าวที่เชียงแสน ที่ๆผมพูดถึงผมได้ไปสัมผัสกับท่านเหล่านั้นมาเพราะผมมีความผูกพันธ์กับท่านเหล่านั้นมาตั้งแต่อดีตชาติที่ผ่านมาน่ะครับ
     
  6. best_pd

    best_pd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +320
    พญานาคสายไหนอะครับ
     
  7. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,378
    ค่าพลัง:
    +12,917
    อนุโมทนา ครับ

    ถ้าสนใจ เรื่องราว ที่ท่าน ตั้งกระทู้ และ ท่าน ที่ลงข้อมูล ใว้ หลายแห่ง ครับ

    ขอแต่ อย่ายึดมั่น ให้เป็น เทวตานุสติ

    พระรัตนตรัย คือ ที่พึ่ง อันสุงสุด ครับ

    การ ไม่เกิด เวียนว่าย ถือว่า เป็น สิ่งที่หลายคน ค้นหา นั่นคือ นิพพาน
    ลองดู ครับ ที่ภูเก็ต ;

    1. สำนักสงฆ์เกาะแก้ว พิสดาร มีรอย พระพุทธบาท ( เป็นเกาะ ห่างจาก หาดราไวย์ มีเรือโดยสาร ฟรี วันพระ , คนไปทำบุญ ที่เกาะ เรือจะติดธง ธรรมะจักร์ )

    [​IMG]
    [​IMG]


    2. ยอดเขานาคเกิด ห่างจาก วัดฉลองภูเก็ต ไปทาง ห้าแยกฉลอง ตามประวัติ ที่ คนเมืองบัว ลงใว้ ครับ ( ปัจจุบัน มีสำนักสงฆ์ , และ ที่ยอดเขา มี ระบบ ทวนสัญญาณ วิทยุสื่อสาร ของ ตำรวจ และ วิทยุสมัครเล่น ความสูง กว่าระดับน้ำทะเล 400 กว่าเมตร )

    และ ขณะนี้ ใด้ ร่วม สร้าง พระใหญ่ ปางมารวิชัย บนยอดเขานาคเกิด ....ลองตามlink ข้างล่าง ดู น่ะครับ สวยงามมาก---
    พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคาคีรี

    http://www.mingmongkolphuket.com/
    <!-- / sig --><!-- edit note -->

    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1>
    [​IMG]


    มองทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ.....เห็นตัวเมืองภูเก็ตครับ..จากที่ยืนอยู่สูงเฉียดๆ
    450เมตรจากระดับทะเล.....วิวสวยงามมากครับ...จะให้ดีต้องดูตอนกลางคืน...แสงสีเมืองภูเก็ตยามราตรี
    มองทีไรสวยงามจับใจมากครับ....

    [​IMG]


    ยืนที่ระเบียงข้างตู้ครับ.. ( ตู้ ระบบ ทวนสัญญาณ repeater วิทยุสื่อสาร )

    [​IMG]




    [FONT=CordiaUPC, BrowalliaUPC, MS Sans Serif]ตำนานจากนาคเทวา บอกกล่าวเขานาคเกิด[/FONT]​

    [FONT=CordiaUPC, BrowalliaUPC, MS Sans Serif]พระพุทธบาทเขานาคเกิดและหาดราไวย[/FONT]
    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG][​IMG] [​IMG]


    http://www.konmeungbua.com/foot/nakkud.html


    แต่เดิมสมัยสุวรรณภูมิอันรุ่งเรือง ไทยมีอำนาจการปกครองทางใต้ถึงสิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ซึ่งตรงกับพุทธพรรษาที่ 44 พรรษา แห่งองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าองค์ปัจจุบัน
    ชาวเมืองนาค (จ.ภูเก็ต) ได้ทราบเหตุแห่งการอุบัติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเช่นกัน จึงได้ส่งตัวแทนไปอัญเชิญเสด็จพุทธองค์ ที่เมืองหลางสุวรรณภูมิ (ปัจจุบัน คือ จ.ราชบุรี) ในคราวที่เสด็จมาโปรดชาวเมืองนาค มาพร้อมพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ มายังเกาะแก้วพิศดาร (แต่ก่อนแผ่นดินใกล้ชิดกันอยู่)
    เมื่อพุทธองค์ทรงแนะนำข้อธรรมแก่ชาวบ้าน ซึ่งเป็นชาวประมง ชาวบ้านจึงขอพระพุทธองค์ประทับรอยพระพุทธบาทไว้ เป็นเครื่องสักการะบูชาที่ริมน้ำ (ดั่งเดิม) นามว่า "รอยพระพุทธบาทเกาะแก้วพิศดาร" และที่สันเกาะบนก้อนหินใหญ่อีก 1 คู่ ขนาดเท่าครึ่งของคนปกติ

    เมื่อขึ้นมาโปรดที่ริมหาดแผ่นดินเกาะใหญ่ ชาวบ้านจึงทูลขอรอยพระหัตถ์ไว้ 1รอย จึงเรียกชาวบ้านสมัยนั้น ในนามว่ารอยพระหัตถ์ "เราไหว้" ซึ่งหมายเอาถึง หมู่คณะนอมน้อมนพไหว้ ทูลขอรอยฝ่าพระหัตถ์ของพุทธองค์
    ต่อมาริมหาดจึงมีนามว่า "เราไหว้" เมื่อกาลเวลาผ่านไป คนลืมรอยพระหัตถ์ไปแล้ว และประกอบกับสำเนียงพื้นเดิมเปลี่ยนไป คำว่า "เราไหว้" จึงสั้นลง คือ สระ "-เ" หายไปเหลือแต่ "รา" และ พยัญชนะ "ห" หายไปเหลือแต่ "ไว"
    เมื่อรวมความว่า "ราไวย์" หรือหาดราไวย์ ในปัจจุบันนี้เอง
    ต่อมาพุทธองค์ได้เสด็จตามคำเชิญของเทวดา ที่มีอทิสมานกายเป็นกายสิทธิ ซึ่งจัดอยู่ในหมู่เทพในชั้นจาตุมหาราช ซึ่งดูแลสมบัติจักรพรรด์ในอนาคต ได้แก่ แก้วแหวน ทอง อื่นๆ ซึ่งสมบัตินี้จะปรากฎขึ้นในสมัย พระศรีอริยะเมตตรัย มาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
    นัยว่าท่านปู่พระอินทร์องค์ปัจจุบัน (ท่านมัคคมานพ) จะลงมาจุติเป็นมหาจักรพรรดิ์ ทองจำนวนนี้จะปรากฎขึ้นมาดั่งเม็ดหิน เม็ดทราย เพื่อรองรับบารมีของผู้ที่มาเกิดในสมัยนั้น
    ก็ชาวอทิสมานกายนาคเหล่านี้ ก็ได้มีความยินดีที่พระพุทธองค์เช่นกัน จึงได้ทูลอันเชิญพระพุทธองค์จากริมหาด "ราไวย์" มาสงเคราะห์บนยอดเขา ที่เหล่ากายสิทธิ์ทั้งหลายได้นัดประชุมฟังธรรมกัน โดยจัดเตรียมที่ประทับแบบธรรมชาติ คือ โขดหินใหญ่บนยอดเขานั้น

    พระพุทธองค์ได้ตรัสสั่งสอนเทวธรรม อันได้แก่ ศีล 5 กรรมบท 10 และหิริ-โอตตัปปะ เป็นต้น เพื่อให้ละความยึดมั่นถือมั่นละเอียดแบบกายสิทธินาค จนในที่สุดนาคเหล่านั้น ได้เข้าใจธรรมไปเกิดจุติในสรวงสวรรค์ ที่บารมีธรรมสูงขึ้น มีรัศมีกายสว่างไสว ดังดอกไม้ไฟที่พุ่งสู่ท้องฟ้า ชาวบ้านซึ่งอยู่ใกล้บริเวณนั้น ได้เห็นปรากฎการณ์แห่งจิตวิญญาณนั้น (ดั่งบ้องไฟพญานาคที่ จ.หนองคาย) จึงขนานนามยอดเขานั้นว่า "นาคเกิด"
    ในการนั้นเอง ที่เหล่านาคทั้งหลายที่ยังไม่เข้าสู่เทวธรรมชั้นสูง ก็ได้ทูลขอรอยพระบาท แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน เพื่อสักการะบูชาแก่ชาวนาค ได้แก่ รอยประทับนั่งของพระพุทธองค์ รอยพระหัตถ์และรอยพระพุทธบาทไว้ให้
    ด้วยเหตุนี้รอยพระพุทธบาท จึงปรากฎแห่งรอยทั้ง 3 แห่งนี้ มาให้ผู้ที่มีความเคารพในพระรัตนตรัยได้กราบไหว้บูชา ยอดเขานาคเกิดนี้จึงเป็นสถานที่อันเป็นอุดมมงคล
    มูลเหตุแห่งการค้นพบรอยพระบาท โดยคยเมืองบัว ล้วนแล้วแต่ได้ค้นพบตามหลักวิชา "ฤทธิ์ทางใจ" ทั้งสิ้น
    กุศลใดบังเกิดมี ในพุทธานุสสติทั้งหลายบังเกิดมี ข้าพเจ้าขอน้อมถวายบูชาแด่ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ด้วยเถิด...
    คนเมืองบัว...


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤศจิกายน 2007
  8. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,378
    ค่าพลัง:
    +12,917
    3. พังงา ที่วัดถ้ำนาคราช อ. ทับปุด ( มาจาก สุราษร์ฯ ตรงไปทาง เขานางหงส์ ถ้าเลี้ยวขวา จะไป พังงา --ภูเก็ต )

    ดินแดน ที่พระ ท่านบอก ว่า มีวังบาดาล จะมีถ้ำ หลายห้อง บนสุด จะมีทางเดิน ข้ามสะพานไม้ นิดหนึ่ง

    มองลง จากสะพานไม้ ท่านจะใด้ ยิน เสียง บางอย่าง.....

    4. ถ้ำเขาทะลุ ( สำนักวิปัสสนา ) อ.ทองผาภูมิ ดินแดน บ้านยายผีป่า ท่าน ลอง เข้าไป นั่ง ธรรมะ ภายในถ้ำ แล้ว ท่าน จะ เจอ...

    [​IMG] [​IMG] [​IMG][​IMG] เมื่อถ่ายภาพ กลางคืน จะเห็น แบบนี้ ...

    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG] บริเวณ สมเด็จองค์ปฐม ภายในถ้ำ เน้อ....กับเรื่องราวมากมาย....
     
  9. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    [​IMG]

    ภูลังกา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 พฤศจิกายน 2007
  10. coolz

    coolz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,594
    ค่าพลัง:
    +1,337
    นี่คะ รูปวัดถ้ำพระโพธิสัตว์ที่ไปมาบรรยากาศทุกอย่างขลังและศักดิ์สิทธิ์ ขออนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ด้วย ถ้าได้ไปวัดอื่นๆอย่าลืมส่งรูปถ่ายมาให้ดูบ้างนะคะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 032bbc.jpg
      032bbc.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78.2 KB
      เปิดดู:
      123
    • P2260079.jpg
      P2260079.jpg
      ขนาดไฟล์:
      109.7 KB
      เปิดดู:
      270
    • P2260087.jpg
      P2260087.jpg
      ขนาดไฟล์:
      133.4 KB
      เปิดดู:
      264
    • P2260053.jpg
      P2260053.jpg
      ขนาดไฟล์:
      91.8 KB
      เปิดดู:
      137
    • P2260112.jpg
      P2260112.jpg
      ขนาดไฟล์:
      116.6 KB
      เปิดดู:
      101
  11. crazybmw

    crazybmw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +331
  12. Indesol

    Indesol Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2011
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +30
    ขอบคุณค่ะ ♥♥
     
  13. HLC

    HLC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +259
    ทุกวัดก็มีพญานาคทั้งนั้นแหละครับ

    ทั้งพญานาคปูนปั้น พญานาครูปวาด และไม้ขีดไฟพญานาค

    55555555555


    (||)(||)(||)(||)(||)(||)(||)
     
  14. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,430
    พระธาตุนาดูน จ.มหาสารคาม ตอนบรรจุพระธาตุ จากการบรูระมี งูนับร้อยตัวมาสักการะ หรือตอนนำพระธาตุไปไว้ที่สถานีตำรวจก็มีงูนับร้อยไปที่สถานีครับ

    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  15. chollada

    chollada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +484
    ถ้ารู้สึกว่ามีความผูกพันธ์กับพญานาคลองไปวัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคายดูซิคะ เมื่อลงจากรถจะรู้สึกทันที ขนลุกที่แขนอยู่ตลอดเวลา หนาวสะท้านขึ้นมาทันที เวลาเดินเหมือนลอยๆยังไงไม่รู้ แต่วัดนี้จัดระเบียบได้ดีมากค่ะ บนโบส์ถสะอาดมากประดับด้วยดอกไม้สดกราบหลวงพ่อพระใสเสร็จ นั่งภาวนาได้ดีค่ะ
     
  16. Indesol

    Indesol Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2011
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +30

    ๕๕๕๕ ตลกดีเนอะ เหอะๆ แล้วในซองLCHนี่ มีมั๊ยจ้ะ คิคิคิ ~o~ 55555
     
  17. Indesol

    Indesol Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2011
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +30
    ภูลังกา...แดนลับแล...หนองคาย

    จากหนังสือ “พญานาค...เมืองลับแล” โดยนรเศรษฐ์


    ภูลังกาเป็นเทือกเขาห้าลูก เกาะกลุ่มกันอยู่ใกล้กับบึงโขงโหลงและภูวัว ท้องที่จังหวัดหนองคาย เดิมขึ้นอยู่กับอำเภอบ้านแพง แต่ในปัจจุบันเป็นพื้นที่ของอำเภอบึงโขงโหลง ใกล้กับอำเภอเซกา ภูลังกาเป็นตำนานอันลือเลื่องเกี่ยวพันกับศาสนาและคติความเชื่อปรัมปรา

    ภูลังกามีความลี้ลับอาถรรพ์มาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์จนกระทั่งถึงปัจจุบัน เป็นเรื่องพูดยากอธิบายยากเพราะเป็นเรื่องของนามธรรม ที่ทางวิทยาศาสตร์ก็พิสูจน์ไม่ได้ แต่ทั้งๆ ที่พิสูจน์ไม่ได้ คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันที่มีการศึกษาสูงๆ เป็นครู เป็นข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และระดับศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์จากต่างประเทศ จำนวนไม่น้อยก็ยอมรับว่า เรื่องความลึกลับนามธรรมเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ทางจิตที่ต้องรับฟังไว้เพื่อศึกษาพิจารณาค้นคว้าต่อไป จะปฏิเสธเสียเลยทีเดียวไม่ได้

    ภูลังกา เป็นตำนานเรื่องพระเจ้าห้าพระองค์ นโมพุทธายะ และเป็นเมืองหลวงของชาวบังบดลับแล อันมีเมืองพญานาครวมอยู่ด้วย และยังเป็นสนามรบกับกองทัพกิเลส ที่กองทัพธรรมของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ส่งศิษยานุศิษย์ที่เป็นพระธุดงค์กรรมฐานทุกรุ่นทุกสมัย มารบราฆ่าฟันกับกิเลสตัณหาที่ภูลังกาไม่เคยเลิกรา จนกระทั่งถึงทุกวันนี้

    พระกรรมฐานที่มีชื่อเสียงเป็นที่เคารพเลื่อมใสของมหาชน ที่เคยไปบำเพ็ญเพียรอยู่ที่ภูลังกามาแล้ว คือ หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล, หลวงปู่สิม พุทธาจาโร, ครูบาวัง ฐิติสาโร, พระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย วัดเขาสุกิม, พระอาจารย์ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง และพระอาจารย์โง่น โสรโย ฯลฯ


    พระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย วัดเขาสุกิม


    พระอาจารย์ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง


    ตามตำนานพระเจ้าห้าพระองค์นั้น กล่าวว่า กาเผือกได้ตกไข่ ๕ ฟองที่ภูลังกา วันหนึ่งเกิดลมพายุใหญ่หอบเอาไข่ปลิวไปตามลม ไข่นั้นได้ตกกระจัดกระจายไปในสถานที่หลายแห่ง ต่อมาไข่นั้นได้ฟักออกมาเป็นพระกกุสันธพุทธเจ้า พระโกนาคมนพุทธเจ้า พระกัสสปพุทธเจ้า พระสมณโคตมพุทธเจ้า และองค์ต่อไปได้แก่ พระศรีอริยเมตไตรย ที่จะมาตรัสรู้ในอนาคตอีกประมาณ ๗๕๐ ล้านปี เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ที่ ๕ ในภัทรกัปนี้ (ตัวเลข ๗๕๐ ล้านปีเป็นเพียงสันนิษฐานของปราชญ์ผู้รู้ อย่าได้ยึดเอาเป็นหลักฐานทางประวัติพุทธศาสนา)

    และยังมีความพิสดารแถมท้ายอีกว่า กาทั้งหลายไม่กล้าบินผ่านไป จนต้องถูกอำนาจอาถรรพ์ลึกลับที่ภูลังกา เป็นพายุใหญ่พัดพากาตัวนั้นให้เซถลาปลิวว่อนไปทางป่าเซกา (เขตอำเภอเซกาในปัจจุบัน)

    ภูลังกาในอดีตเมื่อ ๕๐ ปีก่อนโน้น เป็นดงหนาป่าทึบกว้างใหญ่ไพศาล ชุกชุมไปด้วยเสือสิงห์กระทิงแรด และโขลงช้างเถื่อน แต่ในปัจจุบันนี้ป่าใหญ่หายไปหมดสิ้น กลายเป็นทุ่งโล่งรกร้างและไร่นา จะพอมีป่าเหลืออยู่รอบๆ ภูลังกาบ้างเล็กน้อยพอเป็นยากระษัยเท่านั้น เห็นแล้วเศร้าใจ

    รอบๆ ภูลังกามีวัดป่าตั้งอยู่ประมาณ ๑๐ วัด มีทั้งฝ่ายมหานิกายและธรรมยุต พระสงฆ์องค์เณรรูปใดถ้าบกพร่องในศีลพระวินัยแล้วจะอยู่ไม่ได้นาน ต้องมีอันเป็นไปเพราะพระภูมิหรือเจ้าที่เจ้าทางแรงมาก

    หลวงปู่ตอง ถ้ำชัยมงคล ภูลังกา เล่าให้ฟังว่า มีพระธุดงค์ทรงเครื่องคณะหนึ่งมาจากทางขอนแก่น ขึ้นไปแสวงวิเวกอยู่บนภูลังกาใกล้กับถ้ำชัยมงคล เป็นพวกไม่รู้ประสีประสา มีวิทยุทรานซิสเตอร์ไปด้วย เปิดเพลงเปิดเทปกันดังลั่นสนุกสนาน ครองจีวรก็ไม่มีสังฆาฏิเพราะไม่ได้เอาสังฆาฏิมาด้วย หลวงปู่ตองเห็นแล้วได้แต่นึกในใจว่า “พระผีบ้าพวกนี้ ไม่ได้ฉันข้าวเช้าแน่ๆ พรุ่งนี้”

    และแล้วก็เป็นจริง เสียงเพลงหมอลำซิ่งจากเทปทรานซิสเตอร์ดังลั่นสนั่นหวั่นไหวอยู่พักหนึ่งก็เงียบไป เปลี่ยนเป็นเสียงทะเลาะวิวาทกันเสียแล้ว ไม่รู้ทะเลาะกันเรื่องอะไร แล้วก็พากันหอบข้าวของเครื่องบริขารวิ่งลงจากภูลังกาไปคนละทิศละทาง วิ่งกันกระเจิดกระเจิงอย่างคนเสียสติ เข้าป่าเข้าดงหลงทางอยู่ในป่า ไม่ได้ฉันข้าวในวันต่อมา เป็นไปตามที่หลวงปู่ตองว่าไว้จริงๆ เพราะหลวงปู่ตองรู้ว่าเจ้าป่าเจ้าเขาที่ภูลังกาต้องเล่นงานพวกพระกำมะลอ เหยียบย่ำพระธรรมวินัยคณะนี้แน่ๆ เนื่องจากท่านมีประสบการณ์ นี่คือความเฮี้ยน ความอาถรรพ์ของภูลังกา

    “ถ้าอยากจะรู้เรื่องพญานาค เรื่องเมืองลับแล เรื่องเหล็กไหล...ต้องไปหาหลวงปู่ตอง”

    ผู้เขียนรู้จักกับหลวงปู่ตองได้ ก็เพราะ ท่านเจ้าคุณพระราชเมธากร (ปาน ธัมมสาโร) เจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี ในขณะนั้น วัดโพธิสมภรณ์ (ธรรมยุต) ได้บอกว่า

    “ถ้าอยากจะรู้เรื่องพญานาค เรื่องเมืองลับแล เรื่องเหล็กไหล...ต้องไปหาหลวงปู่ตอง เวลานี้ภูลังกา ถ้ำชัยมงคล มีหลวงปู่ตองเฝ้าถ้ำอยู่กับเณรน้อยชื่อเณรเคน หลวงปู่ตองอายุ ๖๖ แล้ว ยังแข็งแรงมีวิชาตัวเบาหรือลูกเบา ท่านแบกปูนหนักถุงละ ๒๕ กิโลกรัมขึ้นไปสร้างพระเจดีย์บนยอดภูลังกา วันละหลายเที่ยวสบายมาก อยากจะรู้เรื่องลึกลับ ผีสางเทวดา ปีศาจ ยักษ์มาร หรือเรื่องยาสมุนไพร ต้องถามหลวงปู่ตอง ถ้าเป็นพระกรรมฐานปฏิบัติธรรม มีศีลเสมอกัน ท่านถึงจะเล่าให้ฟัง เป็นฆราวาสญาติโยมชาวบ้าน ท่านจะปิดปากเงียบ ไม่ยอมพูดเรื่องนี้ ขืนพูดไปก็เป็นความผิด เข้าข่ายอวดอุตริมนุสธรรม ถูกปรับเป็นอาบัติ”

    นอกจากจะบอกกล่าวแล้ว ท่านเจ้าคุณพระราชเมธากรได้มีเมตตาพาผู้เขียนไปกราบไหว้หลวงปู่ตอง ที่ถ้ำชัยมงคล ภูลังกาอีกด้วย ก่อนที่จะได้ฟังหลวงปู่ตองเล่าเรื่องเมืองลับแลนั้น มาฟังประวัติอัตโนย่อๆ ของท่านก่อน...

    สถานะเดิมของท่านชื่อ นายตอง ศรีสาพันธ์ เกิดเมื่อวันจันทร์ เดือน ๘ พ.ศ. ๒๔๗๕ ที่บ้านน้ำเที่ยง ตำบลบ้านส้ง (ซ่ง) อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร เรียนหนังสือจบชั้น ป. ๔ บิดาและมารดาชื่อ นายจอม และนางเภา ศรีสาพันธ์ บิดามารดาได้อพยพครอบครัวหนีความกันดารแห้งแล้ง มาตั้งหลักแหล่งอยู่ที่บ้านโนนสวนปอ ซึ่งอยู่ใกล้บึงโขงโหลง เขตจังหวัดหนองคาย

    นายตอง ศรีสาพันธ์ ได้อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๒ อายุได้ ๔๗ ปี บวชเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยชราแล้ว บวชที่วัดธรรมทูนุสรณ์ อำเภอบึงโหลง จังหวัดหนองคาย พระอาจารย์อุ้มหรือพระครูจันทเขตพิทักษ์ เจ้าคณะอำเภอเซกา เป็นพระอุปัชฌาย์ อำเภอเซกานี้อยู่ใกล้กับบึงโขงโหลง เหตุที่บวชเป็นพระเมื่อแก่เริ่มผมหงอกแล้ว หลวงปู่ตองเล่าว่า

    ความจริงท่านได้เลื่อมใสในพระศาสนามาตั้งแต่เป็นเด็ก ไปวิ่งเล่นในวัดแล้ว ครั้นเติบใหญ่ก็ไม่มีวาสนาได้บวช เพราะฐานะยากจน ต้องช่วยพ่อแม่ทำไร่ทำนาหาเลี้ยงชีพแบบปากกัดตีนถีบ อยู่ชั่วนาตาปี ต้องผจญกับโลกธรรมต่างๆ มีทั้งสุขและทุกข์

    ที่ว่าสุขนั้นก็เป็นความสุขอย่างแกนๆ แห้งๆ ไปอย่างนั้นเอง ความจริงแล้วมันมีความทุกข์เป็นตัวยืนโรง ดุจแผ่นดินเป็นที่ยืนเหยียบของคนเรา ถึงแม้จะหนีขึ้นไปอยู่บนต้นไม้หรือขึ้นไปอยู่บนบ้านมีความสุข ก็ต้องมีเหตุให้ลงมาเหยียบพื้นดิน ทำมาหากินอยู่บนดินอยู่นั่นเอง แม้กระทั่งตายลง ก็ต้องเอาศพฝังดินหรือเผาที่กองฟอนบนดิน ชีวิตคนเราทุกคนเกิดมาเป็นเรื่องสมมติทั้งนั้น ไม่มีสาระแก่นสารอะไรเลย

    สมมติว่าเป็นตัวเราของเรา พากันหลงในสมมติ แข่งกันทำมาหากิน ไม่รู้จักพอ แก่งแย่งเบียดเบียนกัน ข่มเหงรังแกกัน เข่นฆ่ากันด้วยอำนาจโลภโมโทสัน สนุกสนานมัวเมาในลาภ ยศ สรรเสริญ และความสุขอันไม่จีรังยั่งยืน ไม่เที่ยงแท้แน่นอน และแล้วในที่สุดก็ล้วนต้องเน่าเข้าโลง ตายไปเอาอะไรไปด้วยไม่ได้สักอย่าง ร่างกายอันเป็นที่รักยิ่งของตัวเองก็เอาไปด้วยไม่ได้ ตายไปแล้วร่างกายของเราก็ต้องเน่ากลายเป็นอาหารของฝูงหนอนชอนไชกัดกิน น่าขยะแขยง น่าหวาดเสียวยิ่งนัก ใครคนไหนคิดว่าตัวเองรูปสวยรูปงามนั้น แต่พอตายลงไปนอนขึ้นอืดอยู่ในโลง ก็ต้องเน่าเปื่อยเละเทะเป็นปลาร้าปลาเจ่า ยังไงยังงั้น ชีวิตคนเราเกิดมาล้วนหลงผิด ดังที่ทางพระศาสนาได้กล่าวไว้ว่า การร้องเพลงดูไปแล้วเหมือนร้องไห้ การฟ้อนรำเต้นรำดุจเป็นอาการของคนบ้า เสียงหัวเราะเฮฮาอ้าปากเห็นเหงือกเห็นฟันเหมือนอาการของทารกเด็กอมมือในเบาะ


    (มีต่อ ๑)

    .....................................................

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...