ใครมี (มโนกรรม) แบบผมบ้าง !!!!!!!!!!

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย foxdevilza, 4 พฤษภาคม 2011.

  1. chatbong

    chatbong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +120
    ยังไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ แค่บางทีเหนพระสงฆ์บางองค์ไม่สำรวม
    จิตก้อคิดขึ้นมาบ้าง แต่ยังไม่เป็นขนาด จขกท แค่รู้สึกว่า
    พอเรา จะคิดดี พูดดี ปฎิบัติดี แต่มีมารมาทดสอบเยอะจัง
    แต่ๆจริงๆ เราว่ามันเกิดขึ้นเปน ปกติเพียงแต่เรา
    พยายามจะฝืนตัวเองไม่ให้คล้อยตามไป
    มันก้อเลยรู้สึกว่ามากผิดปกติ ตามความเหนของเรานะคะ
    ไม่รู้เป็นอะไรสิน่า มีเรื่องกวนใจบ่อยจิง แต่ก้อพยายามต่อไป ^_^
     
  2. chura

    chura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +1,971
    การที่ จิตด่าปรากฎ เค้ามาแสดงตัวให้ดูว่าจิตเค้าไม่ใช่เรา เราบังคับเค้าไม่ได้จริงหรอก
    จิตด่า ปรากฎเมื่อไร ก็แค่ให้เรารู้แล้ววางๆๆๆๆ ไม่ปรุงแต่งต่อ การที่เราไม่ได้เจตนาด่า
    ก็ถือว่าไม่ผิดไม่บาป แต่ถ้าเมื่อไรเราปรุงแต่งต่อคือกลัวว่าบาป จิตใจเครียด อกุศลครอบ
    งำนั่นแหละจิตไปเกาะอกุศลหรือปรุงชั่วไปแล้ว ฉนั้นแล้วแค่รู้แล้ววางอย่างเดียวก็จบครับ
     
  3. นิพพานายะ

    นิพพานายะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2011
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +176
    ..ไม่บาปหรอกครับ เพราะไม่ได้ตั้งเจตนา

    ในการปรามาส...


    ก็ให้พิจารณาไตรลักษณ์ไปเลยว่า จิตไม่ใช่ตัวเรา

    อยู่ดีๆ ก็ไปปรามาสพระสงฆ์องค์เจ้า โดยที่เรา

    ไม่ได้ตั้งเจตนาไว้ .......จิตปรามาสไปเอง

    ดูการเกิด การดับ ของจิตที่ปรามาส

    ..แค่ดูเฉยๆ ดูแล้วปล่อยวาง ไม่ต้องไปปรุงต่อ

    พิจารณาอย่างนี้บ่อยๆ เป็นการสร้างกุศลให้เรา..<!-- google_ad_section_end -->
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->
     
  4. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    เข้าใจครับ ผมไม่เคยนะ แต่อาจจะคล้ายๆกัน แต่มีวิธีแก้นะครับ
    เช่นให้จิตนาการเอาเท้าของ พระองค์มาลูบหน้าเราแทบ
    ยิ่งให้เป็นสะพานให้พระองค์ข้ามแบบ ฤาษีดาบส โหยิ่งคิดยิ่งได้บุญเยอะ
    เป็นการกำจัดมารไปในตัวส่วนหนึ่งนะครับ
     
  5. namjaii

    namjaii เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +276
    เป็นเหมือน จขกท ทุกประการ บางครั้ง ยังหนักกว่าอีก บางครั้งต้องหยุดเลย

    อยากทราบว่า
    ขอขมาพระรัตนตรัย
    ทำอย่างไรคะ
     
  6. pk_191

    pk_191 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +310
    มีวิธีรักษาคะ อาการแบบนี้หมอเรียกว่าซีโรโทนินหลั่งผิดปรกติ

    ดิฉันก็เป็นเหมือนคุณคะไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งดีขึ้นประมาณ90 เปอร์เซน เหมือนยังมีคำไม่ดีแว็บๆออกมาแต่ก็ดีขึ้นเยอะจากแต่ก่อน แต่มีวิธีการรักษาอีกอย่างหนึ่งเค้าเรียกว่า NLP (ของคุณฐิตินาถคะ)อันนี้เพื่อนแนะนำมา มีคนที่มีอาการแบบนี้และก็ไปเค้าคอร์สกับเขา ติดตามได้ทางเฟสคุณฐิตินาถคะ
    ใครที่เป็นแบบนี้แอดมาคุยได้คะที่ woranun sa
     
  7. Boatmeet

    Boatmeet Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +66
    โห ผมนึกว่าผมเป็นคนเดียวนะครับเนี่ย ที่ผ่านมาเครียดตลอดเลยเรื่องแบบนี้ :'(
    แต่ว่าผมอยากจะหยุดมารพวกนี้มากเลยครับ ผมต้องทำยังไงดี ขอคำแนะนำหน่อยครับ
     
  8. gaiou419

    gaiou419 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +716
    ถ้ามารมันเห็นว่าเราสร้างกุสล จิตเริ่มเข้ากระแสพุทธะ มันกลัวเอาเราไม่อยู่ มันก็รีบมาเบรคไว้ก่อน ดิฉันก็เคยเป็นค่ะ กำลังอิ่มบุญปลาบปลื้มอยู่ คำพูดมาบ้าง ภาพบ้าง มาเลย มันกระอักกรอ่วน ยิ่งพยายามหยุด มันยิ่งไหลมายังกะเขื่อนแตก ไอ้อารมณ์อิ่มบุญถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกโมโหตัวเองบ้าง ฟุ้งซ่านสับสนบ้าง ปรากฏว่ามันทำสำเร็จ สมประสงค์มันที่เข้ามากวนให้แตก เหมือนเรากำลังจะแจวเรือไปหาพระพุทธเจ้า มันส่งครีบฉลามมาให้เราสติแตก แจวเรือกลับไปซะงั้น ไม่ไหวเลยค่ะ แต่ก่อนไม่รู้ว่าเป็นกิเลสมาร กำลังใช้ไม้ตายสุดฮิตอมตะนิรันดรที่ได้ผลของมัน คือการปรามาศ นั่นเอง เผลอไปคิดผสมโรงก็ไปกันใหญ่ ตอนที่รู้ใหม่ๆนี่สู้กับมัน จะแพ้ประจำ เรียกว่าชกสักห้ายก ก็โดนน๊อคเอาท์ไม่เกินยกสอง จอดสนิทเพราะจิตว้าวุ่นมาก แต่ตอนนี้ ชิวๆเลยค่ะ เพราะรู้ทันมัน พอมันเริ่มแหย่ปุ๊บ ไม่ต้องพยายามหยุดมันเลย ดิฉันคิดไปตรงกันข้ามเลยค่ะ แล้วรอดูมันแหย่มาใหม่ แหย่ใหม่ก็เอาใหม่ มันด่ามา ดิฉันสรรเสริญทันที ตัวอย่างเช่น ดิฉันมีโปสเตอร์พระอริยเจ้าสายพ่อปูมั่น ซึ่งมีรูปหลวงตาแหวนด้วย พอเงยหน้ามองเมื่อไหร่ คำว่า "ง่อย" "คอเอียง" "เบี้ยวเชียว" มันจะโผล่ขึ้นมาเลย พอมาปุ๊บ ดิฉันก็สรรเสริญท่านเลยค่ะ "พระสุปฏิปัณโณแท้ๆ ช่างน่าเลื่อมใส ควรแก่การสักการะบูชากราบ" หรือไม่ก็ "หนูรักหลวงตาจัง" "หลวงตาช่างมีดวงตาที่เมตตายิ่งนัก" ใส่ไปสักพัก มันรู้ว่ามันเล่นเราไม่ได้แล้ว มันก็หายไปเอง
    แม้กระทั่งไปทำบุญที่วัด มันก็ไปพิจารณาพระ "พระบ้าน ทำไปก็เท่านั้น" พอมันใส่มา
    อย่างนี้ ดิฉันก็ดูเลย ตั้งสติไม่ให้มีอาการตกใจ หรือกระสับกระส่ายก่อน ดูมันนิ่งๆ พอตั้งใจรอฟังมันปรามาศอีก แบบใช้สติจ่อดูเลย มันก็ไม่ยักกะมา มันเล่นเราตอนเผลอสติได้เท่านั้น ดิฉันก็บอกว่า "ไม่ใช่เรา" คือ นี่ไม่ใช่เราคิด เราทำนุบำรุงพุทธศาสนาให้ดำรงค์
    อยู่เป็นเครื่องหมายตัวแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เหล่าพระนี้เป็นผู้ประเสริฐแล้ว ด้วยศีลและข้อวัติปฏิบัติที่สูงกว่าเรา คิดไปในทางตรงกันข้ามเลย ทำบ่อยๆ ให้เป็นความเคยชิน แรกๆอาจจะยังไม่ทันมัน คือคิดแก้ไม่ทัน แต่หลังๆไปมันจะเร็วขึ้น เดี๋ยวนี้ออกจะดีใจเสียด้วยซ้ำ เพราะถ้ามันปรามาศเมื่อไหร่ เมื่อนั้นดิฉันจะสรรเสริญคุณพุทธะให้เป็นพิเศษ เลยเป็นว่า นอกจากจะไม่บาปเพราะหลงปรุงแต่งปรามาศแล้ว ดิฉันยังได้บุญจากการสรรเสริญอีกด้วย เรียกว่า กำไร ไปเลย ใช้วิกฤติให้เป็นประโยชน์ เดี๋ยวนี้รู้สึกมารมันจะเบื่อหน้าดิฉันมาก ไม่ค่อยใช้มุขปรามาศกับดิฉันอีก จะไม่ให้มันเบื่อได้อย่างไรคะ ก็มันอยากเห็นดิฉันปรามาศ ดิฉันกลับสรรเสริญคุณพระอรหันต์สาวกให้มันฟังเป็นฉากๆ มันคงเบื่อฟังดิฉันเป็นแน่เลยค่ะ อิอิ
     
  9. ฮาทณัฐพล

    ฮาทณัฐพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +253
    เมื่อก่อนเป็นครับแต่มีพี่ท่านนึงสอนไว้ครับ
     
  10. babae

    babae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +470
    แต่ก่อนผมก็เป็นครับ วิธีแก้คือ เตือนตนด้วยตนเอง ก็คือ รู้ทัน ไม่ต้องไปปรุงมันต่อ ถ้าใจไปปรุงมันต่อก็บอกกับ สติ ว่า นี้คือทางนรก หาเหตุผลให้มันเชื่อ กิเลสตัวนี้เคยผ่านมา เป็นธรรมเมา ทำไปเรือยๆ เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง ทำต่อไปครับ อนุโมทนาบุญด้วยครับ มาถูกทางละ อิอิ
    อย่าไปข่มมันนะ มันจะเครียด รู้เฉยๆ รู้เฉยๆ จิตจะปรุงเรื่องของมัน รู้เฉยๆ
     
  11. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ผมก็เป็นครับ เป็นขนาดไปโรงเรียน แล้วเรียนไม่รู้เรื่อง ขอขมาครู(พระรัตนตรัย)ตลอด นอนก็ไม่หลับ นอนไม่หลับนี่คือใช้เวลา มากกว่าสองชั่วโมง ถึงจะหลับแต่หลับก็หลับไม่สนิทมันมีไรคาใจ บางครั้งผมกก็เกิดอาการ ขอขมาไปทําไม มันถามขึิ้้นมา ผมก็ตอบไปว่า ทําผิดต้องขอขมา แต่สิ่งนั้นเราไม่ได้ตั้งใจคิดก็จริง แต่ควรจะขอขมา เพราะะเหมือนกับไม่เคารพพระรัตนตรัยจริง ถ้าเคารพพระรัตนตรัยจริงๆ ต้องเป็นพระโสดาบัน แต่ถ้าเป็นปุถุชน อย่างผมเนี่ย มีเคารพบ้างไม่เคารพบ้าง จิตหวั่นไหว :( ต้องเชื่อมั่นพระรัตนตรัยจริงๆ


    แต่วิธีแก้ดูลมหายใจก่อน แล้วก็ขอขมาแล้วก็หาความดีของพระรัตนตรัย จะได้มั่นใจยิ่งขึ้น
     
  12. no-ne

    no-ne เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1,198
    ค่าพลัง:
    +3,380
    ดิฉันเองก็เป็นเช่นเดียวกันค่ะ วิธีแก้คือระลึกถึง พระพุทธคุณ เป็นอันดับต้น ระลึกถึงพระคุณอันประเสริฐของพระองค์ 3 ประการ ซึ่งประกอบด้วย พระกรุณาธิคุณ พระปัญญาธิคุณ และพระบริสุทธิ์คุณ ด้วยใจเคารพ เลื่อมใส และศรัทธาเป็นลำดับ

    และถ้าคุณมีเวลาในการภาวนา จะน้อมนำคำแปลในบทสวดพระพุทธคุณ มาเป็นคำภาวนาไว้ภายในใจเสมอๆ ก็ได้ค่ะ จะช่วยบรรเทาอาการปรามาสพระรัตนตรัยที่เกิดขึ้นได้ เพราะเวลาที่มีการภาวนานั้น จิตจะมีกำลังมีสมาธิเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธเจ้าอย่างมั่นคงไม่คลอนแคลน (มีความคิดปรามาสพระธรรม ปรามาสพระสงฆ์ เกิดด้วยใช้วิธีแก้เช่นเดียวกันค่ะ คือใช้ธัมมานุสติ กับ สังฆานุสติ)

    โดยเบื้องต้นให้ระลึก เป็นคำภาวนาตามนี้นะคะ

    พระโคดมผู้มีพระภาคพระองค์นั้นแล มีกิตติศัพท์งามฟุ้งไปอย่างนี้ว่า แม้เพราะเหตุดังนี้ๆ พระผู้มี-
    พระภาคพระองค์นั้น เป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้เองโดยชอบ ถึงพร้อมด้วย
    วิชชาและจรณะ ดำเนินไปดี ทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถีผู้ฝึกบุรุษที่ควรฝึกอย่าง
    หาคนอื่นยิ่งกว่ามิได้ เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้ตื่นแล้ว เป็นผู้
    แจกธรรม


    ซึ่งการภาวนาเช่นนี้จัดได้ว่าเป็นการเจริญพุทธานุสติ และอานิสงค์ของการเจริญพุทธานุสติ จากพระไตรปิฎกตามคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้ามีดังนี้

    [๑๗๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมอย่างหนึ่งที่บุคคลเจริญแล้ว กระทำ
    ให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความหน่ายโดยส่วนเดียว เพื่อคลายกำหนัด เพื่อ
    ความดับ เพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน ธรรม
    อย่างหนึ่งคืออะไร คือพุทธานุสสติ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมอย่างหนึ่งนี้แล
    อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความหน่ายโดยส่วนเดียว
    เพื่อคลายกำหนัด เพื่อความดับ เพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้
    เพื่อนิพพาน ฯ


    อ้างอิงจาก พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒
    อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต


    ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆ ท่านที่เป็นนะคะ จะบาปไม่บาปนั้น ขึ้นอยู่ที่ว่า เราปล่อยวาง ความคิดนั้นได้แค่ไหน มารไม่มีบารมีไม่เกิดค่ะ กิเลสมารนั้นเป็นผู้ขวาง เป็นผู้จองผลาญ ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จ

    ปล. ขอบอกเคล็ดลับด้วยว่า ทุกวันนี้ ดิฉันกราบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ด้วยท่าเบญจางคประดิษฐ์ โดยใจเคารพเอื้อเฟื้อทุกครั้ง ก็เริ่มดีขึ้นๆ ตามลำดับด้วยนะคะ อาจช่วยได้บ้าง เลยขอบอกเป็นแนวทางให้แก่ทุกท่าน
     
  13. minnerss

    minnerss สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1
    เป็นเหมือนกันครับ เวลาสวดมนต์ หรือเห็นพระพุทธรูป หรือสิ่งศักดิ์สิทธ์ทั้งหลาย ก็จะเกิดความคิดไม่ดี เปรียบเสมือนมีมารมาผจญ ผมรู้สึกกังวลใจมากครับ แต่ก็พยายามตั้งจิตให้หมั่น ห้ามความคิดแบบนี้ให้ได้
     
  14. BANRAI

    BANRAI เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2007
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +319
    บทสวด " ขอขมาพระรัตนตรัย "
    (นะโม 3 จบ)

    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต ฯ
    (ถ้าหลายคนว่า.....ขะมะตุ โน ภันเต, ฯลฯ....
    ขะมะตุ โน ภันเต , อุกาสะ ขะมามะ ภันเต ฯ )

    หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุก ๆ
    พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้
    ก็ดี ด้วยทางกายหรือวาจาก็ดี และด้วยเจตนาหรือไม่มีเจตนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอองค์สมเด็จ-
    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย
    และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่
    พระนิพพานด้วยเทอญ ฯ

    จากหนังสือสวดมนต์แปล
    วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี

    ผมเองก็เป็นครับ บางทีกำลังสวดมนต์หรืออาราธนาพระหรือเห็นพระเดินผ่านก็มีเสียงด่าเข้ามาในสมองแล้ว เช่น ไอ้... อี.... (ขออนุญาตครับ ผู้อ่านจะได้เข้าใจและรู้สึกเหมือนกับผม) บางครั้งก็เป็นคำหยาบคาย วิธีแก้ของผมก็คือ ขอขมาพระรัตนตรัยก่อนนอนทุกวัน เพื่อเป็นการฝึกจิตให้ระวังความคิดที่ไม่ดี เพราะว่าในแต่ละวันเราไม่รู้ว่าเราได้ล่วงเกิน ใคร หรือ สิ่งใด ไปบ้าง (ทั้งกาย วาจา ใจ)
     
  15. xmen123

    xmen123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    431
    ค่าพลัง:
    +152
    ผม ก็ เคย เป็นครับ แต่ ตอนนี้ เพลาลง แล้ว ครับ ตอนเป็นก็ มอง ลอง ดู ว่า มัน ไป ถึง ไหน เดี๋ยว มัน ก็ ไป คิดเรื่อง อื่น แต่ ก่อน ไม่รู้ ก็ ลอง บังคับ สู้ มัน ดู แต่ ไม่ไหว มัน กลับ ไปเสริม ซะนี้ ไปกันใหญ่ ก็ เลย ลองไม่สนใจ ใส่ใจ มาก เน้น ปฏิบัติ ธรรม ตาม ปัจจุบันมี สติ ลอง ดู ความ ดิด ไม่ดี บ้าง พอเบื่อ ก็ วาง ไม่สนใจ ทำ ปัจจุบัน ให้ ดี ดี กว่า ตอน นี้ ไปทำบุญ ก็ ไม่ค่อย มี แบบนั้น แล้ว ครับ ทำได้ เต็มกำลัง ดี ...
     
  16. xanxus

    xanxus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +175
    ผมก้อเคยเป็นครับ หนักด้วย ชนิดที่ว่า ไม่กล้าไหว้พระเลยล่ะครับ จะท่องบทสวดในใจก้อจะด่าเอง แต่ตอนหลังผมนั่งสมาธิและ พยายามข่มใจอย่างหนักครับในช่วงแรก หลังจากนั้นผมเลยเริ่มทำใจให้ว่างเปล่าแบบไม่คิดอะไรเลย แต่มันก้อยังมีผุดขึ้นมาบ้างแต่ก็น้อยลงแล้วครับ
     
  17. happyness

    happyness เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +163
    ถ้าอยากรู้ว่าการปฏิบัติธรรมของเรามีความก้าวหน้าถึงขั้นใด สามารถวัดได้จากการวางตัวให้เป็นอุเบกขา ไม่ยินดี ยินร้าย วางใจเป็นกลาง ไม่เอนเอียง ไม่คิดปรุงแต่งต่อ
    เมื่อท่านใดทำได้ถึงขนาดนี้ สติมีความไวมาก ท่านจึงจะได้ขึ้นชื่อว่า ท่านมาถูกทาง และมีความก้าวหน้าในทางธรรมอีกขั้นแล้ว

    สาธุ
     
  18. Mysterygift

    Mysterygift สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +7



    ด้วยความเคารพค่ะ
    ถ้ากรณีนี้ เคยอ่านเจอในเว๊ปเหมือนกันเป็นอาการของโรคย้ำคิดย้ำทำค่ะ
    ( ว่าในกันเชิงวิทยาศาสตร์นะค่ะ )
    มันเป็นกลไกทางจิตค่ะ เป็นการท้าทายในจิตใจตัวเอง ที่ลึกๆเกิดจากความกลัวค่ะ จึงเกิดการท้าทายภายในตัวเองว่ากล้ากระทำหรือไม่ และเมื่อเรากลัว มันจะเกิดขึ้นเองอีกซ้ำๆๆ เรื่อยๆๆ ค่ะ ส่วนวิธีแก้ อาจจะต้องเรียนถามท่านอื่นๆค่ะ

    ลองหาข้อมุลดูนะค่ะ มีหลายเว๊ปให้ข้อมูลไว้มากเชียวค่ะ.:cool:
     
  19. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    เห็น ด้วย กล่าว เหมาะ สม แล้ว

    อย่า นำ สิ่ง นั้น บันทึก ลง ใน ขันธ์

    ให้ ดู ด้วย การ เฝ้า ดู อยู่ เฉย
     
  20. foxdevilza

    foxdevilza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +115
    ขอบพระคุณมาก ๆ นะครับ สำหรับทุก ๆ คำตอบ แง่คิด มุมมองดี ๆ ต่อ ปัญหาดังกล่าว กระผมจะพยายามนำไปปฎิบัติ ทุกวันนี้อาการดังกล่าวผมเริ่มเบาบางลง แต่น่าแปลก ทางแก้ไขของผม อาจจะบิดพริ้วไปบ้างจาก หลาย ๆ กระทู้ที่ผ่านมา อันนี้จากประสบการณ์ผมนะ เวลาจะแก้ไขเรื่องดังกล่าว จะขออธิบายไปทีละ STEP

    1. ผมจะใช้วิชาโอนบุญ ของ หลวงพ่อเกษม อาิจิณฑ์สีโล ใครเคยศึกษาเรื่องการโอนบุญจะรู้ ใครไม่เคยศึกษาลองเข้าไปหาดูใน GOOGLE ดูนะครับ
    โดยคิดในใจ ไม่ว่าจะตอนใหน ของอิริยาบถ นั่ง นอน เดิน ลุก ในห้องน้ำ ในรถ ในสวน ใหนห้องนอน
    ว่า

    ข้าพเจ้าขออำนาจของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จงช่วยบันดาลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำตั้งแต่ อดีต ถึง ปัจจุบัน ให้ถึงแก้ สัมพเวสีทั้งหลายที่เดินทางติดตามข้าพเจ้ามา ขอให้ได้รับในส่วนกุศลผลบุญของข้าพเจ้า เมื่อได้รับในส่วนกุศลผลบุญของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอให้มีความสุข ที่ได้รับในส่วนกุศลผลบุญของข้าพเจ้า โดยด้วยเทอญ

    2.เวลาเกิดอาการดังกล่าว ผมจะพยายาม หายใจเข้าลึก ๆ มองไปรอบ ๆ ๆ สัี่งสมองให้หยุดทำงานในเรื่องนั้น ๆ คิดต่อ เพื่อเป็นการ กระชากสติของเราไม่ให้ มัวหลงไปตาม ภาพของการปรามาส สิ่งศักดิ์ สิทธิื์

    3.อันนี้ไม่รู้ใครเป็นเปล่า ทุกครั้งที่ผม เผลอลบหลู่ต่อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดา เทพ พรหม ไปแล้ว โดยไม่เจตนา (ในกรณีเราคุมสติเราไม่ได้) ผมจะมีอาการ ปวดหัว ปวดขมับ ตึง เกร็งไปตาม กระโหลกศรีษะ
    วิธีแก้ ถ้าการลบหลู่เป็นภาพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผมจะนึกถึงภาพสิ่งศักดิ์ศิทธิ์ พระองค์นั้น นิ่ง ๆ แล้วคิดในใจว่า “ขอให้ได้โปรดช่วยเมตตาอโหสิกรรมให้แก่ตัวของลูกช้างด้วยเถิดนะ ครับ ลูกช้างไม่ได้มีเจตนาที่จ่ะลบหลู่ คิดในใจเลย แต่ต้องหลับตานะ (อาการก็จะหายไป)
    ถ้าการลบหลู่แบบไม่เจตนา เป็นเสียง เช่นด่า พระองค์ นั้นนี้....... เทพองค์นั้นนี้ ในใจคือพูดง่าย ๆ ลบหลู่แบบเสียง
    วิธีแก้ของผม จากประสบการณ์ผมเอง ผมก็จะกำหนดจิตแบบวิธีแรก แต่เปลี่ยน คือ ผมจะจินตนาการ โดยให้คำพูด นั้น ๆ ปรากฎอยู่ในมโนภาพ โดยมีภาพพื้นหลังที่สะอาด เช่น ผมลบหลู่ คำว่า เทพ พรหม ผมก็จะ หลับตา นึกถึง ก้อนเมฆ กลางก้อนเมฆ จะมีคำว่า พรหม แล้วผมก็จะคิดในใจต่อว่า ขอให้ได้โปรดช่วยเมตตาอโหสิกรรมให้แก่ลูกช้างด้วยเถิืดนะครับ ลูกช้างไม่ได้มีเจตนาที่จะลบหลู่

    (ขอย้ำ ทั้ง 3 ประการ จากประสบการณ์จริง ล้วน ๆ 100% ใครที่ลบหลู่แบบผมโดยไม่เจตนา บางครั้งผมไม่สามารถวางอุเบกขาได้ เพราะมีอาการผิดปรกติกับตัวผม เช่น ปวดหัวมาก อยู่ ๆ ก็หงุดหงิด อยู่ๆ ก็ทะเลาะกับคนนั้นนี้ พอขอขมาก็หายเฉยเลยอย่างน่าประหลาดใจ แต่ทุกวันนี้โชคดีหน่อย ผมพยายาม คุมสติ ฝึกจิต อุทิศบุญให้สัมภเวสี อาการลบหลู่ผ่านทางมโนกรรมของผม ในรูปแบบ ภาพ และ เสียง ก็เริ่มจะลดน้อยหมดไป)

    ( ผมไม่ได้บ้านะครับ ใครจะนำวิธีแก้ของผมไปใช้ก็ได้ หรือ ใครจะมองว่าไร้สาระก็ได้ เพราะผมก็ไม่ได้แคร์อะไร ทุกวันนี้ ผมจะเจ็บ จะทุกข์ มันก็ตัวผมอยู่แล้ว ผมรักษาตัวเอง แก้เอง ดำเนินชีวิตตัวเอง มือ เท้าของ ผมเอง เท่านั้น ใคร EQ ไม่ถึง มาด่าอะไร ออกไปครับ )

    ปล.ไม่ได้แรงน้า แค่อยากอธิบายให้เข้าใจ ส่วนใครเข้าใจแล้ว ขอบคุณมากๆ ครับ ๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...