ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย คุณสนุก, 4 พฤศจิกายน 2010.

  1. มังกรน้อย101

    มังกรน้อย101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +4,390
    กราบหลวงปู่ทวดที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง สวัสดีครับพี่นวล ผมขออนุโมทนาบุญด้วยคนครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    สวัสดีค่ะ น้องมังกรน้อย101
    สบายดีนะคะ เด็กๆเป็นอย่างไรบ้าง คงโตแล้ว

    บุญรักษาหลวงพ่อทวดคุ้มครองค่ะ...
     
  3. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    ***อนุโมทนาบุญ ด้วย ครับ จอมขมังเวทย์ สาว นวลพรรณ เอิ๊กเอิ๊ก***
     
  4. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    สวัสดีค่ะพี่รุ่ง

    ชมทัวร์บุญหลวงพ่อทวด...สู่วัดพระธาตุจอมกิตติ
    เมื่อวันที่ 6 ธค.55

    คณะทัวร์ถึงวัดพระธาตุจอมกิตติ ประมาณบ่าย 3 โมงกว่าๆ

    เมื่อลงจากรถทัวร์ กลุ่มหนึ่งก็โดยสารรถสองแถวขึ้นไป อีกกลุ่มก็เดินขึ้นไปทางบันได เมื่อขึ้นไปถึง ก็จะเห็นพระธาตุจอมแจ้ง อยู่หลังพระอุโบสถของวัดพระธาตุจอมกิตติ ซึ่งเจ้าสุวรรณคำล้านนา ทรงสร้างไว้ในปีพ.ศ. 2030

    [​IMG]
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1160509.jpg
      P1160509.jpg
      ขนาดไฟล์:
      220.6 KB
      เปิดดู:
      441
    • P1160517.jpg
      P1160517.jpg
      ขนาดไฟล์:
      201.7 KB
      เปิดดู:
      444
    • P1160512.jpg
      P1160512.jpg
      ขนาดไฟล์:
      130 KB
      เปิดดู:
      36
    • P1160514.jpg
      P1160514.jpg
      ขนาดไฟล์:
      130.3 KB
      เปิดดู:
      40
  5. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    วัดพระธาตุจอมกิตติ จากเอกสารของวัด สารบัญได้บอกถึง
    1.ที่ตั้งของวัดพระธาตุจอมกิตติ
    2.เมืองเชียงแสน
    3.เมืองพญานาค
    4.ถิ่นกำเนิดดั้งเดิมของคนไทย
    5.อาณาจักน่านเจ้า
    6.อาณาจักรลานน้า
    7.ถิ่นกำเนิดราชวงค์สิงหนวติ
    8.พญานาคมาช่วยเมือง
    9. เมืองพันธุสิงหนวตินคร
    10.ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงค์สิงหนวติ
    11.รายพระนามกษัตริย์ราชวงค์สิงหนวติ
    12.ถิ่นกำเนิดของขอมดำ
    13.ขอมดำยึกครองนครโยนก
    14.ความบาปหนาอาธรรม์ของขอมดำ
    15.สามเณรไปเกิดเป็นโอรสของพระองค์พระพัง
    16.พระพรหมกุมารได้ช้างเผือกคู่บารมี
    ฯลฯ
     
  6. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    เมื่อคณะขึ้นไปพร้อมกัน ก็ได้กราบสักการะบูชาพระธาตุ
    คุณลุงบุญนิยม ได้กล่าวนำคณะทัวร์ และถวายผ้าห่มพระธาตุและมอบผ้ายันต์รูปพระธาตุจอมกิตติ จำนวน 4,000 ผืน
    ถวายพระครูวิกรมสมาธิคุณ น.ธ.เอก, ป.ธ.6 (พระวิปัสสนาจารย์) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุจอมกิตติ เจ้าคณะตำบลเวียง เขต 3 เชียงแสน
    พร้อมคุณแม่บุญประคองถวายปัจจัย....
    -การรำถวายองค์พระธาตุจอมกิตติ 1 ชุด...
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1160521.jpg
      P1160521.jpg
      ขนาดไฟล์:
      265.2 KB
      เปิดดู:
      42
    • P1160526.jpg
      P1160526.jpg
      ขนาดไฟล์:
      195.8 KB
      เปิดดู:
      37
    • P1160527.jpg
      P1160527.jpg
      ขนาดไฟล์:
      194.5 KB
      เปิดดู:
      36
    • P1160553.jpg
      P1160553.jpg
      ขนาดไฟล์:
      229.1 KB
      เปิดดู:
      450
    • P1160557.jpg
      P1160557.jpg
      ขนาดไฟล์:
      279.1 KB
      เปิดดู:
      38
    • P1160562.jpg
      P1160562.jpg
      ขนาดไฟล์:
      213.3 KB
      เปิดดู:
      34
    • P1160560.jpg
      P1160560.jpg
      ขนาดไฟล์:
      207.8 KB
      เปิดดู:
      37
  7. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    ท่านเจ้าอาวาสกล่าวขอบคุณเล่าประวัติความเป็นมาของวัด และท่านให้พรกับทางคณะทัวร์...

    ช่วงที่ทำพิธีก็มีญาติธรรมขึ้นมากราบสักการะบูชาพระธาตุ ก็ได้เชิญเข้ามาร่วมพิธีครั้งนี้ด้วย
    ทางคณะ โดยคุณลุงบุญนิยม ก็มอบหลวงพ่อทวดให้กับญาติธรรมทุกท่านที่มากราบพระธาตุในวันนี้...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1160565.jpg
      P1160565.jpg
      ขนาดไฟล์:
      172 KB
      เปิดดู:
      36
    • P1160566.jpg
      P1160566.jpg
      ขนาดไฟล์:
      172.8 KB
      เปิดดู:
      41
    • P1160564.jpg
      P1160564.jpg
      ขนาดไฟล์:
      219.7 KB
      เปิดดู:
      62
    • P1160530.jpg
      P1160530.jpg
      ขนาดไฟล์:
      250.4 KB
      เปิดดู:
      52
    • P1160533.jpg
      P1160533.jpg
      ขนาดไฟล์:
      246.7 KB
      เปิดดู:
      35
    • P1160547.jpg
      P1160547.jpg
      ขนาดไฟล์:
      218.5 KB
      เปิดดู:
      36
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 ธันวาคม 2012
  8. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    ตำนานวัดพระธาตุจอมกิตติ
    พระธาตุจอมกิตติ เป็นองค์ปฐม..เป็นหนึ่งพระธาตุที่ควรมากราบสักการะบูชา

    ในอดีตวัดพระธาตุจอมกิตติ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ นครโยนก (เมืองหลวงเก่า) ที่ล่มสลาย กลายเป็นหนองน้ำไปแล้ว ปัจจุบันอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของตัวอำเภอเชียงแสน บนยอดดอยน้อยนอกกำแพงเมืองเชียงแสน ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองตัวเมืองเชียงรายไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 60 กม.

    เมืองเชียงแสน
    เมืองเชียงแสนมีประวัติศาสตร์ ซึ่งคนไทยล้านนาเรียกว่า"เมืองเก่า"
    มีประวัติยาวนานนับพันๆ ปี มีอาณาจักรกว้างใหญ่ไพศาลสลับซับซ้อนร่วมถึง 8 อาณาจักร เริ่มตั้งแต่อาณาจักรนานเจ้า อาณาจักสุวรรณโคมคำ อาณาจักรโยนก อาณาจักรขอม อาณาจักรล้านนา อาณาจักรพม่า อาณาจักรอยุธยา
    และล่าสุดในปัจจุบัน คืออาณาจักรไทย บรรพบุรุษของคนเชียงแสนอพยพมาจากสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน เรียกว่า ไทยลื้อ บางส่วนอพยพมาจากเชียงตุง รัฐฉานเรียกว่า ไทยใหญ่ มาอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เพราะขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมตลอดถึงพูดภาษาเดียวกัน (น่านเจ้า-ล้านนา-โยนก) วัดพระธาตุจอมกิตติสร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าพรหมมหาราช เมื่อพุทธศตวรรษที่ 9 ยุคนั้นพระพุทธศาสนาในเชียงแสนกำลังรุ่งเรือง ปรากฎหลักฐานในพงศาวดารระบุเมืองเชียงแสนมี 141 วัด อยู่ในกำแพงเมือง 75 วัด นอกกำแพงเมือง 66 วัด วัดพระธาตุจอมกิตติก็เป็น 1 ในนั้นที่ตั้งอยู่นอกกำแพงเมือง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 ธันวาคม 2012
  9. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    ตำนานเมืองพญานาค

    เชียงแสนเป็นเมืองโบราณอายุวกว่าพันปี มีพญานาคเฝ้าคุ้มครองรักษาผู้ประพฤติธรรม และทำลายล้างผู้อาธรรมมาตั้งแต่โบราณกาลจนชาวนครทั้งหลาย เรียกว่าเมืองพญานาคหรือเมืองนาคพันธ์ เพราะเชียงแสนตั้งอยู่บนแม่น้ำโขง เช่นเดียวกับเมืองสุวรรณโคมคำ ต่างกันที่วาระและกาลเวลาเท่านั้น พงศาวดารโยนกของพระยาประชากิจกรจักร์และตำนานลีผีของเจ้า คำหมั้น วงกดรัตน (ลาว) ได้กล่าวตรงกันว่ามีพญาศีสัตตนาคราช, พญานหุตตนาคราช และพญาพันธุนาคราช เป็นส่วนหนึ่งของพญานาค 15 ต้นตระกูล จากหนองกระแสถึงหลวงพระบาง นับแต่พุทธกาลเป็นต้นมา จนถึงการล่มสลายลงของเมืองสุวรรณโคมคำและโยนกนคร
    เมื่อก่อนพุทธศักราชเมืองสุวรรณคำปกครองโดยเจ้าสุวรรณมุขทวาร ติดต่อกันมาหลายช่วงขัตติวงค์ และท้ายสุดตระกูลพาหิรพราหมณ์แห่งอุโมงคเสลานครได้ขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองนครสุวรรณโคมคำ พาหิรพราหมณ์เป็นชาวขอม ปกครองนครโดยขาดทศพิธราชธรรม กดขี่ข่มเหงประชาชนจนได้รับความเดือดร้อนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า ความทราบถึงพญาศรีสัตตนาคราชและพญานหุตตนาคราช จึงสั่งให้พลโยธานาคทั้งหลายขุดควักฝั่งน้ำโขงลึกถึงใต้พสุธาแห่งสุวรรณโคมคำ ทำให้เมืองสุวรรณโคมคำพังทลายจมลงกลางลำน้ำโขงชั่วราตรีกลาลเดียว พาหิรพราหมณ์และบริวารถึงกาลกริยาไปตามกรรมแห่งตนถือเป็นการสิ้นสุดลงของอาณาจักรสุวรรณโคมคำ ณ บัดนั้น
     
  10. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    ต่อมายุคอาณาจักรโยนก ช่วงพุทธศตวรรษที่ ในสมัยพระเจ้าไชยชนะปกครองนครโยนกโดยขาดทศพิธราชธรรม วันหนึ่งชาววังและข้าราชการบริวารได้ออกไปหาปลาในลำน้ำกก ได้พบปลาไหลเผือกยักษ์ลำตัวเท่าต้นตาล ยาว 7 วา จึงช่วยกันทุบตีและมัดลากปลาไหลตัวนั้นมาถวาย พระเจ้าไชยชนะ พระองค์สั่งให้ฆ่าและชำแหละเนื้อแจกจ่ายกันกินโดยทั่วในราตรีนั้นช่วงปฐมยาม เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็บังเกิดขึ้นอย่างฉับพลันทันที คือเกิดฝนตกหนักฟ้าร้องฟ้าผ่าอื้ออึงไปทั่วนคร ล่วงเลยถึงมัชณิมยามก็ไม่ยอมหยุด จนถึงช่วงปัจฉิมยามฟ้าฝนยิ่งตกหนักขึ้น ฟ้าร้องฟ้าผ่าและแผ่นดินไหวเสียงฮื้ออึงอลหม่านกึกก้องทั่วทั้งนครเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในผืนแผ่นดินโยนก เมืองโยนกที่กำลังรุ่งเรืองได้ยุบตัวล่มสลาย กลายเป็นหนองน้ำไปในชั่วพริบตา คงเหลือแต่เรือนพักพิงของหญิงม่ายชราอยู่หลังเดียวเนื่องจากไม่ยอมกินปลาไหลเผือก พราหมณาจารย์ผู้หนึ่งที่มาดูเหตุการณ์ในยามเช้าได้กล่าวว่าปลาไหลเผือกยักษ์ ตัวนั้นน่าจะเป็นบริวารของพญานาคผู้เฝ้ารักษาลำน้ำแห่งนี้ จึงได้ลงโทษพระเจ้าไชยชนะที่ปกครองนครโดยขาดคุณธรรมและศีลธรรม โดยพญานาคได้พาหลโยธามุดดินควักพื้นบาดาลใต้พสุธาแห่งโยนกให้ล่มสลายเป็นหนองน้ำไปในชั่วข้ามคืน
    เป็นการสิ้นสุดลงของโยนกนคร ณ ราตรีนั้น

    ที่มาจากหนังสือ
    ตำนานวัดพระธาตุจอมกิตติ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
    โดย..นายประวิทย์ ตันตลานุกุล
    ครูภูมิปัญญาไทย (ด้านภาษาและวรรณกรรม)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 ธันวาคม 2012
  11. phattharaphong

    phattharaphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +11,459
    ณ ที่ใดน้ำเน่าไหลลงสู่พื้นดินที่ตรงนั้นจงเอาเสาไม้แก่นปักหมายไว้ต่อไปข้างหน้าจะเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์

    วัดบันลือคชาวาส หรือ วัดช้างให้ตก สถานที่พักพระศพสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด จุดสุดท้ายก่อนนำสังขารท่านกลับไปยังวัดช้างให้

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    ในจังหวัดปัตตานี มีวัดช้างให้ ด้วยกัน 2 วัด คือ 1.วัดช้างให้ออก และ 2.วัดช้างให้ตก หากแต่สิ่งที่สาธุชนคนส่วนใหญ่ไม่รู้ สิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ทราบ คือ ความเป็นมาของวัดช้างให้ตก วัดช้างให้ตกแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ บ้านช้างให้ตก หมู่ที่ 3 ต.ช้างให้ตก อ.โคกโพธิ์ จ. ปัตตานี สร้างเมื่อ พ.ศ. 2332 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา พ.ศ. 2365 ผู้ใดเป็นผู้สร้างขึ้นประวัติไม่ได้กล่าวไว้ กล่าวเพียงว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เพราะศพท่านลังกาหรือหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดที่คณะศิษย์ได้หามกลับมาจากวัดเมืองไทรบุรีนั้นได้หยุดพักและน้ำเหลืองได้ไหลลงพื้นดิน ณ ที่แห่งนี้คณะศิษย์จึงได้ทำไม้แก่นจันทร์ปักไว้ตามคำที่ท่านลังกาหรือหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลได้สั่งเสียไว้ กาลต่อมาจึงได้เกิดเป็นวัดขึ้นใช้ชื่อตามหมู่บ้านช้างให้ตกว่า 'วัดช้างให้ตก' คำว่าช้างให้ออกและช้างให้ตกนั้น สันนิษฐานว่า เรียกขานเพราะ วัดช้างให้ออก ตั้งอยู่ทิศตะวันออกส่วนวัดช้างให้ตก ตั้งอยู่ทิศตะวันตกของภูเขาสันตาราคีรี เพราะภูเขาแห่งนี้มีความสูงมากกั้นวัดทั้ง 2 ไว้

    ทำเนียบเจ้าอาวาสวัดช้างให้ตก

    1. หลวงพ่อศรีแก้ว
    2. หลวงพ่อจันทร์
    3. หลวงพ่อหูยาน
    4. หลวงพ่อบุญชู
    5. หลวงพ่อบุญ
    6. หลวงพ่อรุ่ง
    7. พระอาจารย์ฟุ้ง
    8. พระอาจารย์พราก
    9. พระอาจารย์เพียร
    10. พระสมุห์อำนวย ธมฺมรตโน
    11. พระครูสุวัฒนสีลาจารย์
    12. พระมหาธรรมนูญ พลวโร เจ้าอาวาสรูป ปัจจุบัน




    เส้นทางการเคลื่อนย้าย
    1. สถูปริมน้ำ สุไหงเกอร์นาริงค์
    ลักษณะเป็นสถูปเจดีย์เล็กๆ บริเวณแม่น้ำ 3 สาย คือแม่น้ำเกอร์นาริง แม่น้ำสุไหงบ๊ะห์ และ สุไหงเปรักไหลมาบรรจบกัน อยู่ในตำบล เกอร์นาริ่ง อ.กริก รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย จุดดังกล่าวสามารถมองเห็นความแตกต่างของสีน้ำแต่ละสายได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นแม่น้ำใหญ่มีต้นน้ำอยู่บนเทือกเขาสันกาลาคีรี เป็นสถานที่ ละสังขารของหลวงพ่อทวดเมื่อ ประมาณปี พ.ศ. 2224 ขณะเดินทาง รับกิจนิมนต์มาตรวจดูทำเลสถานที่ เพื่อจะสร้างเมืองใหม่ ชาวบ้านที่นี่เชื่อกันว่าเป้นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เรียกที่นี้ว่า "สะมี่มาตี้"
    2. ต้นไทรในป่าบ้านกั๊วะลั๊ว(บ้านโกร๊ะไน) สถานที่วัดเก่าที่หลวงปู่ทวดเคยสร้างเมื่อ 300 ปีก่อน เรียกว่า สามีฮูยัน หรือ หลวงพ่อขอฝน ขณะเหลือเพียงต้นไทรอยุในป่ารกบ้านกั๊วะลั๊วะ ต.กั๊วลั๊ว อ.เปิงกาลันฮูลู รัฐเปรัค ซึ่งในอดีตที่นี่เป็นที่ตั้งชุมชนเก่าของคนไทยที่ต้องย้ายออกจากพื้นที่ตามนโยบายปราบปราม โจรจีนคอมมินิสของประเทศมาเลเซีย เรียกว่า บ้านโกร๊ะใน โดยให้ชุมชนย้ายไปอยู่ที่บ้านตาเสะ เป็นสถานที่พักศพของหลวงพ่อทวดต่อจากสะมีมาตี
    3. วัดจะดาบ
    เป็นสถานที่วัดร้าง อยู่ห่างจากบริเวณต้นไทรในป่าบ้านกั๊วลั๊ว ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 3 กม. เคยเชื่อกันว่าเป็นสถานที่พักสังขารอีกแห่งหนึ่ง อยู่ในท้องที่ ต.ลูการ์สือมัง อ.โกร๊ะ รัฐเปรัค แต่เนื่องถูกปล่อยให้รกร้างมานาน ขาดการเอาใจใส่ดูแล ปัจจุบันจึงไม่มีหลักฐานอะไรหลงเหลืออยู่
    4. โคกเมรุ
    นับเป็นจุดพักสังขาร อีกแห่งหนึ่งที่ยังหาหลักฐานเพิ่มเติมไม่ได้ นอกจากคำบอกเล่า และประเพณีชึ่งชาวพุทธจะมารวมตัวกันทำบุญตักบาตรในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 5 ของทุกปี คล้ายๆบริเวณสามีมาตี สมัยก่อนผู้เดินทางผ่าน จะได้กลิ่นหอมลอยมาตามลม สภาพที่ตั้งอยู่เป็นที่สูงเรียกว่าโคกเมรุ ในตำบลบาลิ่งนอก อ.บาลิ่ง รัฐเคดาห์
    5. ควนเจดีย์
    เป็นจุดพักสังขาร ที่เดิมเคยมีสถูปเจดีย์ ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงที่พักสังขารหลวงปู่ทวด แต่เนื่องจากเจ้าของที่ดินเป็นชาวมุสลิม จึงถูกรื้อทำลาย บางคนเรียกสถานที่นี้ว่า บุกิตจันดี ซึ่งภาษามาลายูเรียกภูเขาว่าบุกิต ภาษาใต้เรียกภูเขาว่าควน ส่วนคำว่าจันดี เป็นคำที่เรียกเจดีย์ สรุปแล้วคือภูเขาที่มีเจดีย์ ชาวบ้านบางคนเรียกภูเขาลูกนี้ว่า ควนฆ้องเพราะมีเรื่องเล่ากันต่อๆมาว่าในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา จะได้ยินเสียงฆ้องดังมาจากบริเวณดังกล่าว สถานที่ดังกล่าวอยู่ในตำบลเตอร์ลอยกานัน อ.สุไหงปัตตานี รัฐเคดาห์
    6. เนินดินหลังวัดเทพสุวรรณาราม

    เป็นเนินดินมีหลังคาสังกะสีครอบอยู่ปัจจุบันแก่นไม้ได้ชำรุดสูญหายไปแล้ว อยู่หลังวัดสุวรรณาราม หรือ วัดนางแปลง อยู่ที่บ้านปาดังแปลง ต.ปาดังแปลง อ.เปิ้นดัง รัฐเคดาห์เป้นสถานที่พักศพอีกแห่งหนึ่งที่ยังพอมีหลักฐานหลงเหลื่ออยู่บ้าง
    7. สถูปเจดีย์ วัดโพธิเจติยาราม
    เป็นสถูปเจดีย์บรรจุอัฐิของหลวงพ่อทวด ซึ่งได้นำมาจากวัดช้างให้ หลังจากได้ฌาปนกิจสังขารแล้ว เชื่อว่าวัดในเมืองไทรบุรี ที่ชาวบ้านบริเวณวัดช้างให้กล่าวถึงคือวัดนี้ โดยตอนหนึ่งในประวัติของหลวงปู่ทวดจากคำบอกเล่าต่อๆกันมากล่าวว่า "ท่านใด้สิ้นบุญที่เมืองไทรบุรี ญาติโยมได้ช่วยกันหามสังขารกันเป็นทอดๆ มาฌาปนกิจที่วัดช้างให้ตามที่ได้สั่งไว้ แล้วสร้างเขื่อน ( สถูปเจดีย์ ) ใว้บรรจุอัฐิ บางส่วนมอบให้ญาติโยมนำกลับไปบรรจุที่วัดในเมืองไทรบุรี "ชาวบ้านมักเรียกวัดนี้ว่า วัดทุ่งควาย เพราะอยู่ที่บ้านทุ่งควาย เรียกอีกชื่อว่า กำปุงจีน่า อยู่ในท้องที่ตำบลปาดังเกอรืเบา อ.เปิ้นดัง รัฐเปรัค สมัยก่อนคณะศิลปิน หนังตลุง มะโนรา เดินทางผ่านบริเวณดังกล่าวต้องหยุดแสดงถวาย หากเพิกเฉยจะกิดเหตุการณ์ให้แสดงไม่ได้ บางครั้งคณะทีมงานปวดท้องขึ้นมาทันทีโดยไม่มีสาเหตุ
    8. เขื่อนหลวงพ่อทวดวัดลำปำ
    เดิมเป็นหลักแก่นไม้รูปดอกบัวตูมและสถูปเจดีย์ ชาวบ้านเรียกว่าเขื่อนหลวงพ่อทวด อยู่ในสภาพเก่าแก่ทรุดโทรมตั้งอยู่บริเวณกลางวัด ทางวัดจึงได้ปรับปรุงพื้นที่รื้อสถูปและแก่นไม้ออกไป ตอนขุดพบหม้อทองแดงภายในมีแผ่นเงินจารึกว่าสถานที่ตั้งศพหลวงปู่ทวด จึงได้นำไปฝังใว้ใกล้อุโบสถ แต่เนื่องจากขาดความสนใจมายาวนาน ปัจจุบันจึงไม่มีใครรู้ว่าฝังอยู่ที่ใด คงจะต้องเป็นการบ้านให้ทีมงานหาวิธี สำรวจให้ชัดเจนในโอกาสต่อไปวัดนี้ตั้งอยู่ที่ ต.รัมไม อ.เปิ้นดัง รัฐเคดาห์
    9. ควนก้นข้าวแห้ง
    เป็นจุดพักสังขารบนยอดควน ก่อนที่จะเดินทางรอนแรมต่อไป ลักษณะเป็นการนำหินมากองเป็นรูปทรงจอมปลวก คาดว่าการขึ้นไปถมดินในภายหลังคงไม่สดวกเนื่องจากอยู่ในที่สูงประมาณ 100 เมตร ต่างจากจุดอื่นๆ ทีชาวบ้านจะมาแก้บนหลังหลวงปู่ทวดช่วยให้ประสบผลสำเร็จ โดยจะนำขนมมาถวายและนำดินมาถมบริเวณแก่นไม้ ปัจจุบันมีรูปหล่อหลวงปู่ทวด บางคนเรียกสถานที่นี่ว่าทวดชีขาว อยู่บนยอดเขาควนข้าวแห้ง ต.เตอกายร์คีรี อ.ปาดังเอตรัป รัฐเคดาห์

    10. แก่นไม้รูปดอกบัวตูม บ้านปลักคล้า
    เป็นหลักแก่นไม้รูปดอกบัวตูม บนเนินดินที่มีลักษณะคล้ายจอมปลวก ตั้งอยู่ริมคลองชันใกล้วัดปักคล้าซึ่งปัจจุบันวัดนี้ได้ร้างไปแล้ว ปัจจุบันได้มีการก่อปูนเป็นรูปสี่เหลี่ยมล้อมรอบเนินดิน มีศาลาครอบ มีองค์หลวงพ่อทวดประดิษฐานอยู่หน้าสถูป บ้านปลักคล้านี้อดีตเป็นที่ตั้งชุมชนคนไทย อยู่ในท้องที่ ต.นาคา อ.ปาดังเตอรัป รัฐเคดาห์ ปัจจุบันชุมชนดังกล่าวใด้ย้ายไปตั้งที่บ้านนาคา
    11. แก่นไม้รูปดอกบัวตูม บ้านนาข่า เป็นหลักแก่นไม้รูปดอกบัวตูม บนเนินดินที่มีลักษณะคล้ายจอมปลวกเช่นกัน อยู่ห่างจากหลักไม้แก่นรูปดอกบัวบ้านปลักคล้ามาทางทิศตะวันออกประมาณ 600 เมตร เป็นสถานที่พักสังขารที่อดคิดไม่ได้ว่าทำไมจึงใกล้กันมาก บางคนสันนิษฐานว่าได้มีการจัดขบวนใหม่ที่นี่อีกครั้ง ปัจจุบันมีศาลาสังกะสีครอบ แต่อยู่ในสภาพทรุดโทรมภายในสวนยางพาราของชาวบ้านอยู่ที่บ้านนาข่า ต.นาคา อ.ปาดังเตอรัป รัฐเคดาห์
    12. แก่นไม้รูปดอกบัวตูม บ้านบางฉมัก เป็นหลักแก่นไม้รูปดอกบัวตูม ชาวบ้านเรียกเขื่อนหลวงพ่อทวด มีศาลาสังกะสีครอบ อยู่ภายในสวนยางพาราของชาวบ้านใกล้ๆกับวัดพิกุลธารารม ต.เปอร์ตู อ.ปาดังเตอร์รัป รัฐเคดาห์

    13. แก่นไม้รูปดอกบัวตูม วัดดินแดง
    เป็นหลักแก่นไม้รูปดอกบัวตูม ดินที่พูนสูงขึ้นมีจอมปลวกขึ้นปกคลุม ได้สร้างอาคารก่ออิฐถือปูนครอบและมีรูปหล่อหลวงปู่ทวดอยู่ภายในอาคาร ตั้งอยู่บริเวณวัดดินแดง ต.กัวลานารัง อ.ปาดังเตอรัป รัฐเคดาห์
    14. หลักหินวัดไทยประดิษฐาราม
    เป็นหลักหินรูปดอกบัวตูม แทนหลักไม้แก่นที่ชำรุดสูญหาย โดยพ่อท่านพร้อมวัดพิกุลเป็นผู้นำมาตั้งแทน ได้สร้างศาลาก่ออิฐถือปูนครอบและนำรูปหล่อหลวงปู่ทวดใว้ภายในอาคารด้วย วัดนี้มีต้นไทรโอบโหนดอยู่ จึงเรียกว่า วัดไทรบอตอ หรือ วัดปาดังสะไหน อยู่ห่างจากชายแดนไทยบ้านประกอบ 10 กิโลเมตร อยู่ในท้องที่ ต.ปาดังสะไหน อ.ปาดังเตอรัป รัฐเคดาห์
    15.หลักไม้แก่นรุปดอกบัวบ้านปลักทะ
    สอบถามจากพระภิกษุแก้ว ธรรมวุฒิโฒ อายุ 70 ปี วัดทุ่งไพล ม.1 ต.เขาแดง อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา บวชมาแล้ว 15 พรรษา บ้านเดิมของท่านอยู่ห่างจาก จุดละสังขารหลวงปู่ทวดหลักนี้ประมาณ 2 กม. ท่านเล่าเดิมเป็นหลักไม้แก่นขนาดขาคน สูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร ปักอยู่บนเนินดินคล้ายจอมปลวก เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวบ้านนำดินและทรายมาถมเพื่อแก้บน อยู่ห่างจากปลักน้ำใหญ่ประมาณ 100 เมตร ใกล้เส้นทางโบราณ เดิมป็นคลองลึกและกว้างคนเดินทางจะนำช้างลงเล่นน้ำที่นี ร่องรอยเดิมถูกทำลายปรับพื้นที่เป็นสวนยางพาราและที่อยู่อาศัย แต่ยังพอมีคนแก่จำความได้เล่าต่อๆกันมาเป็นสถานที่พักสังขารหลวงปู่ทวด มีทีมจากอาจารย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หาดใหญ่ ร่วมกับลุงชม รัตนะ บ้านถ้ำตลอด ซึ่งขณะนี้ได้เสียชีวิตไปแล้ว สร้างเสาร์ปูนปั้นปักไว้เป็นเครื่องหมาย ปัจจุบันมีผู้ศรัทธาใด้สร้างสถูปรูปเจดีย์ขึ้นบริเวณดังกล่าว จุดดังกล่าวอยู่ใกล้ถนนภายในหมู่บ้านปลักทะ ม.6 ต.เขาแดง อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
    16. สถูปปูนปั้นรูปดอกบัว ที่วัดบันลือคชาวาส(ช้างให้ตก)
    นับเป็นจุดพักสังขารจุดสุดท้ายก่อนถึงวัดช้างให้ซึ่งอยู่ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้อีกประมาณ 12 กม. ด้วยแนวเส้นทางที่ไม่ผ่านภูเขาคาดว่าน่าจะใช้เวลาในการเดินทางของขบวน ไม่เกินครึ่งวัน ที่นี่เดิมมีหลักไม้แก่นรุปดอกบัวตูม ปักอยู่กลางเนินดินแต่ทางวัดใด้อนุญาตให้ปรับพื้นที่เพื่อสร้างโรงเรียน เสาร์หลักดังกล่าวจึงถูกขุดหายไปตั้งแต่บัดนั้น ต่อมาทางวัดใด้สร้างสถูปรูปดอกบัวตูมขึ้นมาใหม่แทนของเดิมและสร้างมณฑปครอบใว้อีกชั้นหนึ่ง ภายในมีรูปหลวงปู่ทวดใว้สักการะบูชา หลังจากสร้างมณฑปเสร็จเจ้าอาวาสรูปก่อนได้จัดงานฉลอง คืนนั้นได้ปรากฏดวงไฟขนาดใหญ่ลอยมาจากวัดช้างให้ มาลงที่มณฑปดังกล่าว คาดว่าหลวงปู่ทวดคงรับรู้ เพราะในสมัยก่อนชาวบ้านจะเห็นแสงไฟ 2 ดวงลอยตามกันไประหว่างสถานที่เกี่ยวของกับท่านอยู่สม่ำเสมอ ข้าพเจ้าเคยแวะที่วัดสีหยัง อ.ระโนด จ.สงขลา เมื่อประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน.2551 ขณะพูดคุยกับพระภิกษุแดง ถานังคโล พระลูกวัดที่นี่เกียวกับหลวงปู่ทวด ได้มีชายกลางคนบ้านอยู่ใกล้ๆวัดซึ่งมาช่วยงานวัดประจำ เล่าว่าสมัยช่วงแกเป็นหนุ่ม จะเห็นดวงไฟสองดวงลอยตามกัน ความสูงขนาดยอดมะพร้าว ในตอนกลางคืนจากหัวนอน(ทิศใต้ -วัดช้างให้) ในฤดูเก็บเกี่ยวข้าวเดือน 3 เดือน 4 เป็นประจำ คนสองฝั่งทะเลสาปจะมองเห็นกันทั่วไป แต่ชาวบ้านบริเวณรอบๆวัดที่เกียวข้องกับหลวงปู่ทวด จะรู้ว่าหลวงปู่ทวดเสด็จมาแล้ว บางคนจะทำขนมโคและอาหารไปถวายพระที่วัดด้วยถือว่าเป็นการต้อนรับหลวงปู่ทวด แต่ปัจจุบันไม่ปรากฏให้เห็น พูดถึงเรื่องเล่าหลวงปู่ทวดที่นอกเหนือจากตำนานมีมาก แม้นแต่สถานที่ช่วงก่อนหลวงปู่ทวดละสังขาร เหตุที่ละสังขาร ช่วงการเดินทาง ข้าพเจ้าก็ใด้รับการพูดคุยทางโทรศัพย์กับลูกศิษย์เจ้าอาวาสผู้มีชื่อเสียงบางรูป ถ้าเอ่ยชื่อคิดว่าหลายคนคงรู้จัก ท่านใด้เข้าฌานย้อนอดีตไปอยู่ในสมัยหลวงปูทวดได้ โดยลูดศิษย์ของท่านได้เล่าภาพนิมิต เหตุการณ์ที่ท่านเห็นขณะเข้าฌานขณะนั้นๆ ได้แต่เข้าเจ้าคิดว่าไม่ไช่ประวัติศาสตร์หรือเรื่องเล่าที่จะมาเขียนเพื่อเผยแพร่ได้เป็นการรับรู้เฉพาะตนเฉพาะบุคคล นอกจากใครที่อยากรู้จริง ติดต่อไปจะแนะนำให้แล้วไปทำพิธี พูดคุย สอบถามกันเอง เขียนนอกเรื่องมาพอสมควรเพื่อยืนยัน พลังอำนาจสิ่งศักดิ์ที่เกี่ยวข้องกับหลวงปู่ทวด ที่สามารถทำให้เรื่องราวของท่านอยู่ในความทรงจำ ของชาวบ้านตกกันมาเป็นทอดๆ สู่รุ่นลูกรุ่นหลานไม่สูญหายแม้นระยะเวลาผ่านไปถึง 400 กว่าปี สำหรับจุดพักสังขารครังสุดท้ายนี้ อยู่บริเวณวัดช้างให้ตก (วัดบันลือคชาวาสเดิม ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. 2332 ) ม.3 ต.ช้างให้ตก อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี


    ความสำคัญของสถานที่พักพระศพ กับ พระเครื่องหลวงพ่อทวดเมืองใต้ หนึ่งในมวลสารสำคัญของพระเครื่องหลวงพ่อทวด คือ ดินจากสถานที่พักพระศพในจุดต่าง ๆ และวัดช้างให้ตก ครูบาอาจารย์ในสายหลวงพ่อทวด ใช้สถานที่แห่งนี้เป็นสถานประกอบพิธีกรรมปลุกเสกพระเครื่องหลวงพ่อทวด ในหลายต่อหลายรุ่นครับ

    ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก วัดช้างให้ตก อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    สวัสดียามเช้าค่ะ น้องภัทร น้องพลศิริ และญาติธรรมทุกท่าน

    ภาวนาอย่างเนื่องนิจ แล้วสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะคุ้มครอง

    บุญรักษาหลวงพ่อทวดคุ้มครองทุกท่านให้แคล้วคลาดปลอดภัย
     
  13. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    แวะมาเล่าต่อก่อนไปทำงาน วันนี้ วันที่ 12/12/12

    ช่วงที่ลงจากพระธาตุจอมกิตติ ไม่ขึ้นรถค่ะ...(ขึ้นไม่ทันป้าป้าเขา)รถเต็ม ก็เลยเดินลงบันไดค่ะ....ขณะที่ลงบันได ทราบจากท่านผู้รู้.... บอกว่ามีเทพเทวา ท่านมาร่วมโมทนาบุญ และลงไปส่งด้วย.....

    ออกจากพระธาตุจอมกิตติ แวะทานข้าวที่สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งขณะนั้นเวลาค่ำแล้ว...ร้านค้าเริ่มปิดกันหมดแล้ว....

    จากพระธาตุจอมกิตติ คณะทัวร์ก็มุ่งไปวัดพระธาตุผาเงา ซึ่งนอนพักที่นั่น เมื่อไปถึงทางวัดได้เมตตาเตรียมสถานที่พัก จัดให้อย่างดีมากค่ะ มีผ้าห่มที่นอนปูไว้เรียบร้อย กราบอนุโมทนาบุญทางวัดค่ะ ที่จัดสถานที่ให้ได้พักผ่อนกันนอนหลับอย่างสุขสบาย
    แต่ป้าป้าที่ท่านที่สูงอายุก็เลือกจะพักข้างล่าง ขึ้นไปชั้น2 ลำบาก เพราะเจ็บเข่ากัน ร่วมถึงสัมภาระก็หนัก ...เพราะพากระเป๋าเดินทางใบใหญ่กันทั้งนั้น

    เมื่อถึงวัดพระธาตุผาเงา ลงจากรถ เข้าที่พัก....สิ่งแรกที่ทำคือ ไม่ลืมที่จะต้องสวดมนต์กันค่ะ ตรงบริเวณห้องข้างล่างมีองค์พระประธานและมีรูปบูชาหลวงพ่อทวด 9 นิ้ว 1 องค์
    ประดิษฐานตั้งอยู่ ณ ห้องนั้นด้วย รูปท่าน ทรงยิ้มอย่างเมตตามากค่ะ เสียดายที่ลืมถ่ายภาพพระพุทธรูปบูชา หลวงพ่อทวดองค์นั้นมาให้ชม

    ช่วงเช้าได้เข้าพบท่านเจ้าอาวาสวัดพระธาตุผาเงา
    พระพุทธิญาณมุณี และ เจ้าคณะอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ซึ่งท่านได้ให้การต้อนรับญาติธรรมทัวร์บุญหลวงพ่อทวดจากทางใต้
    ท่านเมตตาบอกเล่าและแนะนำประวัติและสถานที่ภายในวัดทำให้ได้รับทราบถึงความศักดิ์ของพระพุทธรูปหลวงพ่อผาเงา ทางคณะได้ร่วมถวายปัจจัยทำบุญกับทางวัดพระธาตุผาเงาค่ะ...
    [​IMG]
    [​IMG]

    ช่วงเย็นจะกลับมาเล่าเรื่องราวต่อค่ะ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1160574.jpg
      P1160574.jpg
      ขนาดไฟล์:
      94 KB
      เปิดดู:
      42
    • P1160576.jpg
      P1160576.jpg
      ขนาดไฟล์:
      112.8 KB
      เปิดดู:
      47
    • P1160577.jpg
      P1160577.jpg
      ขนาดไฟล์:
      136.8 KB
      เปิดดู:
      452
    • P1160580.jpg
      P1160580.jpg
      ขนาดไฟล์:
      114.1 KB
      เปิดดู:
      40
    • P1160582.jpg
      P1160582.jpg
      ขนาดไฟล์:
      116.4 KB
      เปิดดู:
      34
    • P1160585.jpg
      P1160585.jpg
      ขนาดไฟล์:
      105.7 KB
      เปิดดู:
      35
    • P1160590.jpg
      P1160590.jpg
      ขนาดไฟล์:
      113.6 KB
      เปิดดู:
      34
    • P1160609.jpg
      P1160609.jpg
      ขนาดไฟล์:
      127.5 KB
      เปิดดู:
      416
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 ธันวาคม 2012
  14. tawanrise

    tawanrise เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +810
    กราบหลวงปู่ทวดที่เคารพอย่างสูง
    หวัดดีครับคุณนวลเป็นอย่างไรบ้างครับไปทัวบุญมาคงสนุกและเหนื่อยมากนะครับแต่คงมีความสุขกับการที่เราได้ทำบุญนะขอให้มีความสุขในปีใหม่ที่ใกล้จะถึงนี้ทุกท่านนะครับ
     
  15. มังกรน้อย101

    มังกรน้อย101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +4,390
    สวัสดีครับ

    สวัสดีครับพี่นวล ผมสบายดีครับเด็กๆก็สบายดีคนโตเข้าป1แล้วครับ ส่วนคนเล็กนี่พึ่งได้ 2ปี6เดือนเองครับ หลวงปู่ทวดที่พี่นวลมอบให้ผมผมยังรักษาไว้อย่างดี แต่ก็หายไปแล้วองค์นึงลูกคนโตผมทำหาย ผมก็เลยยังไม่เลี่ยมให้ใส่เลยสักคนครับกลัวเด็กเค้ารักษาไม่คุ้ม บุญรักษาหลวงปู่ทวดคุ้มครองเช่นกันกันผม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. Whiskeys

    Whiskeys เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +782
    กราบหลวงปู่ทวด แล้วสวัสดีพี่ๆทุกคนครับ
     
  17. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    สวัสดีค่ะ คุณtawanrise
    ไปทัวร์บุญครั้งนี้สนุกค่ะอิ่มบุญ ก่อนไปวัดพระธาตุผาเงา ได้แวะแม่สายค่ะประมาณ 2 ชั่วโมง...ได้เสื้อปักลายมังกร กับลายเสือ ค่ะ รู้สึกชอบเป็นพิเศษ ไม่ค่อยได้แวะช๊อปซื้อของเลยค่ะ แต่ป้าๆที่ไปกันท่านซื้อของจนเต็มคันรถไม่มีที่ว่างเลย...:d....ได้ไปไหว้พระทำบุญเสียส่วนใหญ่ค่ะ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1160759.jpg
      P1160759.jpg
      ขนาดไฟล์:
      166.1 KB
      เปิดดู:
      37
  18. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    สวัสดีค่ะน้องมังกรน้อย เด็กๆโตเร็วนะคะ...
    คราวก่อนพี่ไปวัดช้างให้มา...แล้วจะส่งเหรียญเม็ดแตงมาให้หลานๆใหม่ค่ะ
     
  19. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    วัดพระธาตุผาเงา

    ชื่อของวัดนี้มาจากชื่อของพระธาตุผาเงา ที่ตั้งอยู่บนยอดหินก้อนใหญ่ คำว่าผาเงา ก็คือเงาของก้อนผา (ก้อนหิน) หินก้อนนี้มีลักษณะสูงใหญ่คล้ายรูปเจดีย์และทำร่มเงาได้ดีมาก ชาวบ้านจึงตั้งชื่อว่า "พระธาตุผาเงา" ความจริงก่อนที่ย้ายวัดมาอยู่ที่นี่ วัดเดิมก็มีชื่อว่าวัดสบคำ ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำโขง ฝั่งน้ำได้ทลายลงด้วยแรงกระแสน้ำ ทำให้บริเวณที่ของวัดถูกพัดพังทลายลงใต้น้ำโขงเกือบหมดวัด คณะศรัทธาจึงได้ย้ายวัดไปอยู่ที่ใหม่ซึ่งไม่ไกลจากที่เดิมอยู่เยื้องกันคนละฟากถนน วัดพระธาตุผาเงา ตั้งอยู่บนถนนสายเชียงแสนห่างจากตัวอำเภอไปทางใต้ประมาณ 3 กม. หรือห่างจากสามเหลี่ยมทองคำประมาณ 15 กม. มีเนื้อที่ทั้งหมด 743 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเนินเขาเล็กๆ ทอดยาวลงมาตั้งแต่บ้านจำปี ผ่านบ้านดอยจันและมาสิ้นสุดที่บ้านสบคำ แต่ก่อนเขาเรียกดอยลูกนี้ว่า "ดอยคำ" แต่ภายหลังเปลี่ยนทมาเป็น "ดอยจัน"

    ภายในบริเวณวัดพระธาตุผาเงามีสถานที่ที่น่าสนใจและพระธาตุโบราณ 3 องค์ คือ
    1. พระธาตุผาเงาและวิหารหลวงพ่อผาเงา ตั้งอยู่บริเวณเขาด้านล่าง
    2. พระธาตุจอมจันและอุโบสถ ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาสูงขึ้นไปอีกประมาณ 300 เมตร
    3. พระธาตุเจ็ดยอด ตั้งอยู่บริเวณสูงที่สุดของภูเขา

    [​IMG]
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1160634.jpg
      P1160634.jpg
      ขนาดไฟล์:
      122 KB
      เปิดดู:
      33
    • P1160635.jpg
      P1160635.jpg
      ขนาดไฟล์:
      142.6 KB
      เปิดดู:
      31
    • P1160638.jpg
      P1160638.jpg
      ขนาดไฟล์:
      96.7 KB
      เปิดดู:
      33
    • P1160632.jpg
      P1160632.jpg
      ขนาดไฟล์:
      122.5 KB
      เปิดดู:
      45
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 ธันวาคม 2012
  20. motana2008

    motana2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    4,929
    ค่าพลัง:
    +10,336
    มาติดตามเรื่องราวดีดีจากพี่สาวต่อ
    อิอิ

    สวสัดีครับทุกท่าน วันนี้เสี่ยหายไปไหนหว่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...