ใครเป็นพระอริยะบุุคคล

....

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ก็สังขารทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า?
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! สังขารทั้งหลาย ๓ อย่างเหล่านี้ คือ

กายสังขาร วจีสังขาร จิตตสังขาร : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! เหล่านี้ เรียกว่า สังขารทั้งหลาย.

​

ปฏิจจสมุปบาทจากพระโอษฐ์ หน้า ๒๕

(ไทย) นิทาน. สํ. ๑๖/๒/๔. : คลิกดูพระสูตร
(บาลี) นิทาน. สํ. ๑๖/๒/๔. : คลิกดูพระสูตร

........
​

ภิกษุทั้งหลาย. ! คนทั่วไป กล่าวกันว่า “สังขารทั้งหลาย”
เพราะอาศัยความหมายอะไรเล่า?
ภิกษุทั้งหลาย. ! เพราะกิริยาที่ปรุงแต่งให้สำเร็จรูป มีอยู่ ในสิ่งนั้น
(เช่นนี้แล) ดังนั้น สิ่งนั้น จึงถูกเรียกว่า สังขาร.
​

สิ่งนั้นย่อมปรุงแต่งอะไร ให้เป็นของสำเร็จรูป ?
สิ่งนั้นย่อมปรุงแต่งรูป ให้สำเร็จรูป เพื่อความเป็นรูป,
ย่อมปรุงแต่งเวทนา ให้สำเร็จรูป เพื่อความเป็นเวทนา,
ย่อมปรุงแต่งสัญญา ให้สำเร็จรูป เพื่อความเป็นสัญญา,
ย่อมปรุงแต่งสังขาร ให้สำเร็จรูป เพื่อความเป็นสังขาร,
และย่อมปรุงแต่งวิญญาณ ให้สำเร็จรูป เพื่อความเป็นวิญญาณ.
ภิกษุทั้งหลาย. ! เพราะกิริยาที่ปรุงแต่งให้สำเร็จรูป มีอยู่ในสิ่งนั้น
(เช่นนี้แล) ดังนั้น สิ่งนั้น จึงถูกเรียกว่า สังขารทั้งหลาย.

อริยสัจจจากพระโอษฐ์(ภาคต้น) หน้า ๑๙๙
(ไทย) ขนฺธ. สํ. ๑๗/๘๖/๑๕๙. : คลิกดูพระสูตร
(บาลี) ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๐๔/๑๕๙. : คลิกดูพระสูตร

 

มีเวลาแล้วจะมาศึกษาเรื่องนี้ต่อค่ะ

 

ก็ผมกำลังพูดถึงพระอริยเจ้าหนิครับ หรือคุณเข้าใจว่าผมพูดถึงการตัดสังขารของปุถุชนหรือครับ ปุถุชนไม่มีทางตัดสังขารได้อย่างแน่นอนขอให้เข้าใจตรงนี้ครับ เพราะปุถุชนย่อมมีอุปทานขันธ์ ๕ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงบอกว่าละได้ ก็ละได้เพียงคำพูดเท่านั้น สภาวะที่เป็นจริงก็เป็นอุปทานวันยังค่ำ ... ส่วนในกรณีขันธ์ ๕ ก็เช่นเดียวกันครับแต่ไม่ได้พูดถึงเฉย ๆ แต่ถ้าคุณมีตัวถูกของคุณแล้ว มีความเข้าใจตามที่คุณเข้าใจแน่นอนแล้วนั้น ผมก็จะไม่ว่าอะไรต่อหรอก แต่เห็นคุณถามและสนใจต่อผมจึงพูดไปต่อเท่านั้น ถ้าคุณมั่นใจว่าสิ่งที่คุณรู้นั้นถูกต้องแล้ว ผมก็จะไม่โต้แย้งอะไรต่อหรอกครับ ยินดีที่ได้สนทนาด้วยครับ หากสิ่งใดเป็นประโยชน์ค่อยจับเอานะ ส่วนสิ่งใดไม่ชอบใจก็อย่าได้ใส่ใจเลย ... ราตรีสวัสดิ์ครับ

 

วงปฏิจฺจสมุปบาทนั้นหมายเอา "จิตตสังขาร" โดยตรงเลยครับผม

 

555+

 

พระอริยเจ้าก็น่าจะมีตามนี้นะคะ
อายตนะภายนอก สฬายตนะ(อายตนะภายใน) วิญญาณ ผัสสะ เวทนา

เพราะยังอาศัยขันธ์๕ อยู่ ย่อมเกิดกระบวนการนี้ แต่หลังจากนี้ก็เป็นเรื่องของท่าน

 

เปลี่ยนเป็นรู้เท่าทันจิตดีกว่าครับ นอกนั้นใช้ได้หมด

 

ไม่มีอะไรไปบังคับได้ครับ มีแต่รู้เท่าทัน รู้ตามความเป็นจริง รู้ชั้นเดียว

ถ้าไปแต่งสิ่งที่รูัต่อ กลายเป็นรู้ซ้อนรู้ รู้นั้นเป็นอุปทาน รู้นั้นเป็นอวิชชา

กาย เวทนา จิต ธรรม ก็มีเพียงแค่นี้ครับ แค่รู้ทัน ไม่ไปเป็น ไม่ไปเอา

 

"น่าจะ?... พูดได้ดี ก็อย่าเพิ่งขำอีกซะหล่ะ"
... งั้นขอฝากคำถามหน่อยนะครับว่า "ก็อะไรเป็นปัจจัยจึงมีวิญญาณ" (กระบวนการข้างบนก็ทำไมไม่ยกสังขารมาหล่ะ หรือไม่รู้ว่าจะตั้งไว้ตรงไหน)

มา นยเหตุ - อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมานคาดคะเน หรือจะเชื่อก็แล้วแต่นะเพราะคนยังไม่เคยดับความคิดได้ก็ย่อมเชื่อตามความคิดอยู่แล้ว
...
ถูกต้องแล้วว่าหลังจากนี้ก็เป็นเรื่องของท่าน

 

ปัดตะนา ไปไกลเลยนะนี่

แต่..ขออภัยนะครับ ที่มี แต่...


แต่..พอพูดว่า รู้ทัน.....แล้วตามด้วย.....ไม่.....

สำนวนภาษา ยังงมีส่วนบ่งชี้ว่า เข้าไปบังคับ


ถ้ากล่าวว่า เพราะรู้ทัน จึงเกิดสภาวะ ปล่อย โดยอัตโนมัติ
ก้จะขอ อนุโมทนา สาธุ กราบธรรรมที่เท้าท่าน กราบแล้วกราบเล่าๆๆๆ

 

ผมเคยอ่านหลวงปู่มั่นท่านอธิบายมาบ้าง

จิตอวิชา > สังขารกรรม > วิญญาณกรรม >>>แล้วต่อยอดไปขันธ์ห้า>>

 

หนู กิฟก๊าด สู้ๆ

อย่าไปฟัง นิพพิ เพ่งเบ้าตาเหล่ ดับคิด

พวกนี้ อ้างว่า เพ่งชาน จนเกิดอาการหน่วงเบ้าตาเหล่ ติดหนึบๆๆๆ ก้คิดว่าตัวเองได้ชานฮาอะไร

น้องกิฟกาด จะลองก้ได้ คือ ให้คิดๆๆๆๆๆ

คิดว่าเพ่ง คิดๆๆๆๆๆ สักพักเดียว กล้ามเนื้อเบ้าตา จะปวดหนึบๆ พอเลิกคิด อาการตะคริวตาเหล่มันยังปรากฏ พวกนี้
จะสำคัญว่า เปน ผลจิต

เพ่งมากๆ คือ ยิ่งคิดดดดดดๆไม่เลิก สมองไหม้ เบ้าตา
มันจะปลิ้น มันจะอิ่มตัว อาการตะคริวกินเบ้าตาเหล่ มัน
ก้คลายตัวเปน พอมันคลาย มันจะเหมือนคนนคิดไม่ออก

ตามมาด้วย ตะคริวกินเบ้าตาเหล่ มันคลาย พวกนี้ก้ฮานาก้า
บรรลุมรรคผล

โดยที่ไม่ได้รู้ฮาอะไรเลย แล้ว สมองจะเริ่มทำงานได้อีก
ครั้ง จังหวะนี้ จะเข้าใจไปว่า เกิดความรู้ธรรม โน้นนั่นนี่

เขาจึงพุดว่า ปฏิบัติจนเบ้าตาถลน หลังจากนั้น จะอรูป รูป จะค่อยรู้เอาทีหลัง ฮากลิ้ง เขามีแต่ระหว่างฝึกจิตมันโคจร
เข้าฌาณอย่างรู้เหตุ รู้ผล รู้วิธีฝึก

ไม่ใช่สมองพิการ หลังจากนั่น ค่อยเทียบเคียงว่า รู้เอาทีหลัง

ถ้าน้องกิฟการด เปิด ลิงค์ยูทูป ธรรมเทศนา จานลาย

ลองฟังเรื่องเดียว คือ ขันธมาร

ขันธมาร ธรรมจานลาย จะกล่าวว่า รูปเปนขันธ์มารเพราะ
บังคับให้หล่อตามใจไม่ได้ แล้วยังกล่าวว่า จะหล่อสวยไป
ตามอำนาจกรรมพันธ์พ่อแม่ให้มาได้เท่านั้น รูปร่างกายที่ได้
มาจากพ่อแม่ จึงเปน มารหัวใจ

เนี่ยะ วรรคเดียว ก้เหนแล้ว สอนให้อกตัญญู

เขามีแต่ แจ้งว่า รุปบังคัยไม่ได้ หากเข้าไปเหนตามจริง
อย่างนี้ คือ เหนอริยะสัจจะ การที่ได้รูปมาจากพ่อแม่
เราจึงต้องกตัญญู ยิ่งกตัญญู ยิ่งเหน อรหันต?คือพ่อแม่
ไม่ใช่ กูเกิดมาหล่อสวยอย่างใจไม่ได้เพราะพ่อแม่ แล้ว
ขัดใจ บริภาส ปรักปรำ รูปกายตนเปนขันธมาร


ขันธมาร น้องดิฟการด ทำความเข้าใจเบื้องต้น ง่ายๆว่า

ขันธ์ทั้งห้า ถ้า ฆนะ ไม่แตก ขันธยังรวมตัวกันอยู่ มัน
จะสามารถปิดกั้นเราจากนิพพาน จึงเรียก ขันธทั้งห้าที่
ทำงานร่วมกันอยู่ว่า ขันธมาร

แต่ถ้า ฆนะ แตก รุป สัญญา เวทนา สังขาร วิญญาน
แตกออก ขันธทั้งห้าจะมีสภาพเปน อาจารย์สอนธรรม

ดังนั้น ขันธ์ ที่พ่อแม่ ให้มา อบรมเลี้ยงดู ปลูกฝังบ่มนิสัย
เรามาอย่างไร จะผลิกกลับมาเปน ทุนสอนธรรมจนถึงนิพพานได้ ถ้าขาดพ่อแม่ให้มา ก้หมดโอกาสบรรลุธรรม

อย่าไปดับคิด เบ้าตาเหล่ มั่วซั่วธรรม ตามใจชอบ
เข้าใจไปว่า พุดง่ายๆ คือธรรม เอาความจานลาย
มาเปนธรรม

 

น้อง กิฟการด มีต้นทุนดีอยู่แล้ว พึงรู้ และ พิสูจนไปว่า

คิดเท่าไหร่ก้ไม่รู้ หยุดคิดจึงรู้ แต่ก้อาสัยคิด

ขันธ์ห้ารวมตัวกันอยู่เท่าไหร่ก้ไม่รู้
ฆนะแตกจึงรู้
แต่ก้อาสัยขันธ์ห้า

 

แหน่ะ!!! มีแอบไปฟังด้วย มีการเชียร์กันด้วย คงสนุกดีเนาะกับการป่วนบอร์ดให้มั่วไปเรื่อยเนี่ย ขยันพิมพ์ซะด้วยแต่สาระไม่ได้ซักกะตัว ตอบคำถามก็ไม่เป็นประเด็น สงสัยจะออกแนวหมอทรง

สำหรับคุณนะ พวกเอาขันธ์ ๕ ไปเป็นพระนิพพาน ก็ให้มาฟังอาจารย์ของคุณเอานะว่าแปล เตสัง วูปะ สะโม สุโข ว่าอะไร รับรองว่าฮาอย่างแน่นอน สงสัยจะเคยฟังแล้วก็เลยมากั๊กไว้ไม่ให้ผู้อื่นเขาฟังดู ... "เมื่อสำนึกได้รับรองว่าจะขำไม่ออก" ...

https://www.youtube.com/watch?v=OQ86hzNge5A

 

อตฺตานญฺเจ ปิยํ ชญฺญา รกฺเขยฺย นํ สุรกฺขิตํ อตฺตานญฺเจ ตถา กยิรา ยถญฺญมนุสาสติ

ถ้ารู้ว่าตนเป็นที่รัก ก็ควรรักษาตนนั้นให้ดี ถ้าพร่ำสอนผู้อื่นฉันใด ก็ควรทำตนฉันนั้น
​

มีการบ้านให้ทำ ก็พึงทำไป นะจ๊ะๆ
​

 

ฐสิท อยุนดำ อะไรนั่น เขา กระทืบกันมาหลายปี แว้วววว

ยูทูป อะไรนั่น ก้ฟังมาเยอะ หลายปีแว้ว มีข้อหาปรักปรำอะไร ก้ถามเอาจาก องุ่นดำ ฐสิท เบ้าตาเหล่ทั้งสองดู

สังเกตนะ สองคนนั่น สิกจานเดียวกัน มันยังฟัดกันเองเลย
ถ้าเคยพบตอนแรกๆ ที่มาเข้าเว็บ


แล้ว กิฟการด ดูพวกเสียมนุษย์ มันพุด

ก้คนเขาพูดอยู่ เรื่องฆนะของขันธ์ห้าแตกกระจาย

มันดันบอกว่าปม พุดเรื่องเอาขันธไปเปนนิพพาน สาดดดดดเอ้ย


สมองไหม้ ด้วย กรรมฐาน ไม่พอ
ยังโน้นนั่นนี่ ยิงยูทูปอะไรนั่น สอนให้ด่าพระ ( ทุกคลิป จะ
แฝง การชี้ตัวพระ พาด่าพระ ตั้งแต่ต้นม้วน กลางม้วน จบม้วน
ต่อ อีกคลิป ไปเรื้อยๆ)

ถ้าพูดรู้เรื่อง ก้แปลก

 

ถ้าใครดูไม่ออกก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้วกับคำพูดคำจาเช่นนี้ มิน่าหล่ะท่านจึงว่า "บัณฑิตจะรู้บัณฑิตได้ด้วยการสนทนาพาที" คำพูดคำจามันส่อชัดเจน หากไม่ใช่ของแท้มันก็ย่อมมีหลุดออกมาวันยังค่ำ

เว็บบอร์ดนี้ก็สนุกดีเนาะ พูดให้กันไป พูดให้กันมา ตามประสา ... สุดท้ายก็จะไม่ได้อะไรเลย ได้แต่ว่าให้กัน จับต้นชนปลายไม่ได้ แต่ก็ไม่ว่าหรอกสนุกก็สนุกด้วยละกันเพราะมันก็เป็นแบบนี้กันหมดอยู่แล้ว เนอะนิวรณ์ ...เนอะ (^_^)

 

เชยระเบิดระเบ้อ

ไม่ได้สังเกตหรือฮัย ว่า คลิปต้นสังกัด พูดอย่างไร

สองสิท ที่เปนครูสอนคุณ เขาสงบเสงี่ยม ไม่ค่อย เอา คลิป
มาแสดง รอจนกว่า จะมีพวกปิดนิพพาน ไปขอร่วมสายกรรม
เขาจึงแนะนำ เพราะใครคอยสาดดดด


แรกๆ คุณก้ดีอยู่หรอก

แต่หลังๆ เริ่มมีอาการ โงหัวไม่ขึ้น

พุดกันอย่างหนึ่ง ปรักปรำแปลไปอีกอย่างหนึ่ง
แปลผิดก้เหน แต่แทนที่จะกลับ ดันใส่ไปทางอื่นอีกเรื่อยๆ
ไม่ต่างจากพฤติกรรมลายามในคลิปเท่าไหร่

พอรู้ตัวแบบ สองคนนั่น ก้จะว่างเว้นไปนั่ง งง

รอจังหวะ สายกรรมสายเวร ปรากฏ ก้มาเกณฑ์ เอาไป

 

หยุดดีกว่าเนาะ (^_^)

 

น่า อดทนหน่อย นี่แค่ ลองสกิด กิฟการด ก่อนเข้า

ซึ่งเหนหน่วยก้านดี ก้ มายั้งๆไว้

ตอนคุณจะโดนเขาลากไป ปมก้ไม่ได้ห้าม นี่เนาะ

ถ้า กิฟกาด จะเฮโล ตามคุณไป เรื่องก้จบ ปล่อยอยู่แว้ว

คุณเอาตัวเองเปนพยานในเรื่องการกระทำของปม ได้เลย

ฮิววววววส์