ให้ช่วยกันหาพิกัด ของสถานที่ปลอดภัย/จุดนัดพบ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย เกษม, 31 มกราคม 2007.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วัดโสธร จ.ฉะเชิงเทรา

    [​IMG]

    [​IMG]
    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller></BASEFONT>
    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller>พระพุทธโสธร หรือเรียกกันสามัญทั่วไปว่า "หลวงพ่อโสธร" เป็นพระทรงอานุภาพศักดิ์สิทธิ์เป็นมิ่งขวัญของชาวแปดริ้ว และเป็นที่รู้จักเคารพบชูาของ ประชาชนทั่วประเทศ หลวงพ่อโสธร เป็นพระรูปปางสมาธิ หน้าตักกว้าง ๓ ศอก ๕ นิ้ว เป็นพระพุทธรูปพอกปูนลง รักปิดทองพระเนตรเนื้อแบบสมัยลานช้าง หรือเรียกกันสามัญว่า พระลาว พระพุทธรูปแบบนี้นิยมสร้างกันมากที่เมือง หลวงพระบางอินโดจีนและภาคอิสาน ของประเทศไทย ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถวัดโสธร อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา </BASEFONT>
    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller></BASEFONT>
    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller>ตำนาน หรือประวัติของหลวงพ่อโสธรนี้ หาหลักฐานยืนยันแน่นอนไม่ได้เป็นเพียงคำบอกเล่าสืบๆกันมา ประวัติที่เกี่ยวกับวัดโสธรเท่านั้น หลวงพ่อโสธร มาประดิษฐานอยู่ที่วัดโสธรนานเท่าใด สมัย พ.ศ. ใด ไม่มีใครทราบแน่นอน พอจะมีเค้าตามคำบอกเล่าอันเกี่ยวโยง ถึงหลวงพ่อวัดบ้านแหลม จังหวัดสมุทรสงคราม ตามประวัติหลวงพ่อวัดบ้านแหลมกับหลวงพ่อวัดโสธรลอยน้ำมาด้วยกัน และเป็นพี่น้องกัน และชาวบ้านแหลมได้อัญเชิญหลวงพ่อวัดบ้านแหลมขึ้นจากน้ำ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๓ จึงคาดคะเนว่าหลวงพ่อ ก็มาประดิษฐานอยู่ทีวัดโสธรราว พ.ศ. ๒๓๑๓ หรือก่อนนั้นก็ไม่นานนัก </BASEFONT>
    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller></BASEFONT>
    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller>ประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อโสธรนี้มีผู้เล่าสืบๆ กันมาหลายกระแสได้สอบถามผู้เฒ่าผู้แก่หลายคน ซึ่งท่านผู้นั้นได้รับฟังจากบรรพบุรุษเล่าให้ฟังต้องกันว่า หลวงพ่อโสธรลอยน้ำมา มีคำปรารถว่าล่วงกาลนานมาแล้วยังมีพระพี่น้องชายสามองค์อยู่ทางเมืองเหนือ มีอิทธิปาฏิหาริย์แสดงฤทธิ์ได้ ได้อภินิหารล่องลอย ตามแม่น้ำมาจากทิศเหนือเพื่อให้คนทางทิศใต้ได้เห็น ในที่สุดมาผุดขึ้นที่แม่น้ำบางปะกงที่ตำบลสัมปทวน และแสดงปาฏิหารย์ลอยน้ำและ ทวนน้ำได้ทั้งสามองค์ ประชาชนชาวสัมปทวนได้พบเห็น จึงช่วยกันเอาเชือกพรวน มนิลาลงไปผูกมัดที่องค์พระพุทธรูปทั้งสามองค์นั้น แล้วช่วยกันฉุดลากขึ้นฝั่งด้วยจำนวนผู้คนประมาณ ๕๐๐ คน ก็ฉุดขึ้นไม่ได้ เชือกขาดไม่สำเร็จตามความประสงค์ พากันเลิกไป ครั้นแล้วพระพุทธรูปหล่อทั้งสามองค์ก็จมน้ำหายไป สถานที่พระสามองค์ลอยน้ำและทวนน้ำได้นี้เลยให้ชื่อว่า "สามพระทวน" </BASEFONT>
    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller></BASEFONT>
    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller>ต่อมา เรียกว่า "สัมปทวน" ได้แก่แม่น้ำหน้าวัดสัมปทวน อ.เมือง แปดริ้ว ทุกวันนี้ ต่อจากนั้นพระทั้งสามองค์ก็ลอยตามแม่น้ำบางปะกง เลยผ่านหน้าวัดโสธรไปถึงคุ้งน้ำใต้วัดโสธร แสดงฤทธิ์ผุดขึ้นให้ชาวบ้านบางนั้นเห็น ชาวบ้านได้ช่วยกันฉุดขึ้นฝั่งทำนองเดียวกับชาว สัมปทวน แต่ก็ไม่สำเร็จ จึงเรียกหมู่บ้านและคลองนั้นว่า " บางพระ " มาจนทุกวันนี้ จากนั้นพระพุทธรูปทั้งสามองค์ก็ได้แผลงฤทธิ์ ลอยทวนน้ำวนอยู่ที่หัวเลี้ยวตรงกองพันทหารช่างที่ ๒ จังหวัดฉะเชิงเทรา และแสดงปาฏิหาริย์จะเข้าไปในคลองเล็กๆ ตรงข้ามกอง พันทหารช่างนั้น สถานที่พระลอยวนอยู่นั้นเรียกกันว่า " แหลมหัววน" และคลองนั้น ก็ได้นามว่า คลองสองพี่น้อง (สองพี่สองน้อง) </BASEFONT>
    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller></BASEFONT>
    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller>หลังจากนั้นองค์พี่ใหญ่ได้แสดงอิทธิปาฏิหารย์ไปลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนสามเสน ประชาชนประมาณสามแสนคนช่วยกันฉุดอา ราธนาขั้นฝั่งก็ไม่สำเร็จแล้วล่องเลยไปผุดขึ้นที่ลำน้ำแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม ประชาชนชาวประมงอาราธนาขึ้นประดิษฐานอยู่ทีวัดบ้านแหลม ทุกวันนี้เป็นที่บูชานับถือกันว่าเป็นพระศักดิสิทธิ์เท่าๆ กับหลวงพ่อโสธร ส่วนองค์สุดท้องล่องลอยไปผุดขึ้นที่วัดบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ และชาวบางพลีได้อัญเชิญประดิษฐานอยู่ที่วัดบางพลีใหญ่ในอำเภอบางพลี ก็ปรากฏว่ามีผู้คนเคารพนับถือมาก พระพุทธรูปหล่อองค์กลาง นั้นคือหลวงพ่อโสธร เมื่อลอยตามน้ำมาจากหัววนดังกล่าวแล้วมาผุดขึ้นที่ท่าหน้าวัดโสธร </BASEFONT>
    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller></BASEFONT>
    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller>กล่าวกันว่า ประชาชนจำนวนมากทำการบวงสรวงแล้วเอาด้ายสายสิญน์คล้องกับพระหัตถ์หลวงพ่อโสธรอัญเชิญขึ้นมาบนฝั่งนำไปประดิษฐานในวิหารสำเร็จ ตามความประสงค์ แล้วก็จัดให้มีการฉลองสมโภชและให้นามหลวงพ่อว่า " หลวงพ่อโสธร" องค์หลวงพ่อโสธรจริงในสมัยที่ได้มาเดิมนั้นเป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ปางสมาธิเพ็ชรหน้าตักกว้างศอกเศษ ทรงสวยงาม ต่อมาพระสงฆ์ในวัดเห็นว่ากาลต่อไปภายภาคหน้า ฝูงชนที่มี ตัณหาและโลภะแรงกล้า มีอัธยาศัยเป็นบาปลามก หมดศรัทธาหาความเลื่อมใสมิได้ จักนำเอาไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียไม่เป็นการปลอดภัยจึง พอกปูนเสริมให้ใหญ่หุ้มองค์จริงไว้ภายในดังปรากฎในปัจจุบันนี้ </BASEFONT>
    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller></BASEFONT>
    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller>สถานที่ตั้งวัดโสธรตั้งอยู่ในสมัยแรกนั้น ทางบกเป็นป่า หมู่บ้านมีน้อย คมนาคมไม่สะดวก เมื่อหลวงพ่อมาประดิษฐานอยู่ที่วัดโสธรแล้ว ประชาชนชาวเรือรู้จักนับถือกันมากเพราะการไปมาสะดวกกว่าทางบกมี เรือไปมาไม่ขาด ชาวเรือค้าขายนับถือว่าถ้าบอกขอต่อหลวงพ่อโสธรแล้ว สินค้าก็จะซื้อง่ายขายคล่องเป็นเทน้ำเทท่า เรือแพที่ผ่านไปมา ในแม่น้ำพอถึงตรงโบสถ์หลวงพ่อโสธร ก็วักน้ำเอาน้ำในแม่น้ำซึ่งนับถือว่าเป็นน้ำมนต์หลวงพ่อดื่มบ้างลูบศีรษะบ้างล้างหน้าและประพรม เรือและสินค้าในเรือ ดังได้เห็นกันอยู่ทุกวันนี้ ส่วนทางบกประชาชนรู้จักนับถือยังไม่แพร่หลาย เพราะการคมนาคมไม่สะดวกผู้ใดเจ็บป่วย ก็มาขอความคุ้มครองจากหลวงพ่อโสธร และได้ผลสมความปรารถนาเป็นส่วนมาก กิตติศัพท์ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโสธรได้แผ่ไพศาล ไปในถิ่นต่างๆ </BASEFONT>
    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller></BASEFONT>
    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller>มูลเหตุที่มีงานสมโภชน์ขึ้นนั้นเล่ากันว่า สมัยหนึ่งบ้านโสธรเกิดทุพภิกขภัยข้าวยากหมากแพง ฝนแล้ง ข้าวกล้าในนา ผลไม้ในสวนเหี่ยวแห้ง สัตว์พาหนะเกิดโรคระบาด ผู้คนทั้งเด็กและผู้ใหญ่เป็นโรคฝีดาษทั้งสัตว์ล้มเจ็บลงตามกัน ผู้คนอพยพหนีไปได้ก็ ทิ้งบ้านเรือนทรัพย์สมบัติหนีเอาตัวรอด ผู้ป่วยไปไม่ไหวก็นอนรอวันเป็นวันตายของตนอยู่ ในกาลครั้นนั้น ยังมีบุรุษหัวหน้าครอบ ครัวหนึ่งได้เกิดโรคนี้ เมื่อไม่มีคนเป็นที่พุ่งก็หันหน้าเข้าหาพระสรณะที่พึ่ง เอายาดีจากหลวงพ่อ มา ๓ อย่าง คือ ขี้ธูป ดอกไม้เหี่ยวแห้งที่บูชาแล้ว และ อธิษฐานหยดเทียนขอน้ำมนต์จากหลวงพ่อ แกเอามาต้นกินทาอาบทั่วสรรพางค์กายปรากฎว่า ได้ผลสมความปรารถนาโรคหายปกติ ด้วยความดีใจที่โรคหายสมประสงค์ จึงจัดให้มีการสมโภชแก้บนถวายหลวงพ่อ </BASEFONT>
    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller></BASEFONT>
    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller>แต่นั้นมากิติศัพท์ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อก็แพร่สพัดไปในถิ่นต่างๆ กว้างขวางมากขึ้นจนเป็นเลื่องลือว่าศักดิ์สิทธิ์ ผู้ใดปรารถนาสิ่งใดที่ชอบธรรม ท่านก็ประสิทธิ์ ประสาทให้สมประสงค์ การสมโภชน์และแก้บนจึงมีขึ้นตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา มีพระบรมราชวินิจฉัยเกี่ยวกับหลวงพ่อโสธร ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เมื่อคราวเสด็จ ประพาสเมืองฉะเชิงเทรา พ.ศ. ๒๔๕๑ ไว้ดังนี้ "กลับมาแวะวัดโสธร ซึ่งกรมหลวงดำรง คิดจะแปลว่ายะโสธร จะให้เกี่ยวข้องแก่การที่ได้สร้างเมื่อเสด็จกลับจากไปตีเขมร แผ่นดินพระบรมไตรโลกนารถหรือเมื่อใดนั้น แต่เป็นที่สงสัยด้วยเห็นไม่ถนัด พระพุทธรูปทำด้วยศิลาแลงทั้งนั้น องค์ที่สำคัญว่าเป็นหมดดีนั้น คือองค์ที่อยู่กลางดูรูปตักและเอวงามกลายไปเป็นฝีมือผู้ที่ไปปั้นว่าลอยน้ำมา ก็เป็นความจริง เพราะเป็นศิลาคงจะไม่ได้ทำในที่นี้"</BASEFONT>
    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller></BASEFONT>
    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller>อานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของหลงพ่อโสธร มีมาเหลือที่จะเล่าสู่กันฟัง ให้หมดได้เพราะหลวงพ่อโสธรเป็นต้นโพธิ์ต้นไทร อันใหญ่ให้สรรพสัตว์ได้พำนักอาศัย หลวงพ่อเป็นร่มใหญ่กางกั้นสรรพภัยอันตรายความเดือดร้อนรำเค็ญ ให้สรรพสัตว์อยู่เย็นเป็นสุข เป็นแพทย์วิเศษพยาบาลผู้อาพาธให้หายขาด เป็นสรณะที่พึ่งพิงของหมู่บริษัทผู้ถูกภัยคุกคาม เป็นนิธิบ่อบุญกุศลของทายกทายิกาให้ใฝ่ หาบุญกุศล เป็นหมอดูพยากรณ์ทายโชคชะตา วาสนาทั้งอดีตอนาคตและปัจจุบัน ให้ทุกท่านผู้ต้องการทราบ หลวงพ่อเป็นสัพพัญญู สำเร็จทุกวิชาทุกอย่างทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นบรมครูของเทวดาและมนุษย์ไม่มีผู้ใด ยิ่งไปกว่าหลวงพ่อโสธร</BASEFONT>
    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller></BASEFONT>
    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller></BASEFONT>
    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller>ตำแหน่งในแผนที่ทางหลวง

    Lat 13 deg 40 min 33.2 sec
    Lon: 101 deg 3 min 45.7 sec</BASEFONT>

    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller></BASEFONT>
    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller>[​IMG]
    [​IMG]</BASEFONT>
    <BASEFONT face="Ms Sans Serif" size=smaller></BASEFONT>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2007
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี

    [​IMG]
    พระอาจารย์เล็ก
    วัดท่าขนุน ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ๗๑๐๐๐


    <TABLE class=MsoTableGrid style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px; BORDER-COLLAPSE: collapse; mso-yfti-tbllook: 480; mso-padding-alt: 0pt 5.4pt 0pt 5.4pt" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0pt; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; WIDTH: 213.05pt; PADDING-TOP: 0pt; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px; BACKGROUND-COLOR: transparent" vAlign=top width=284>
    <V:p</V:p[​IMG]

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0pt; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; WIDTH: 213.05pt; PADDING-TOP: 0pt; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px; BACKGROUND-COLOR: transparent" vAlign=top width=284>
    <?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shape id=_x0000_i1026 style="WIDTH: 162pt; HEIGHT: 121.5pt" alt="" type="#_x0000_t75">[​IMG]<v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\WinXP\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.jpg" o:href="http://www.rakpratat.com/images/1118667718/image016.jpg"></v:imagedata></v:shape>


    <O:p</O:p


    </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    ตำแหน่งในแผนที่ทางหลวง

    Lat 14 deg 44 min 39.1 sec
    Lon: 98 deg 38 min 2.8 sec
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2007
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วัดดอยเกิ้ง จ.แม่ฮ่องสอน

    [​IMG]
    ท่านอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ
    สำนักปฏิบัติธรรมรัตนประทีป วัดดอยเกิ้ง
    อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

    ตำแหน่งในแผนที่ทางหลวง


    Lat 18 deg 9 min 42.1 sec
    Lon: 97 deg 56 min 53.7 sec


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี

    [​IMG]
    วัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี เป็นชื่อเดิมมาตั้งแต่กรุงศรีอยุธยา ศิลาจารึกในอุโบสถหลังเก่าจารึกเป็นภาษาจีนว่า คนจีนได้สร้างอุโบสถวัดอัมพวัน สมัยเหม็งเชี้ยว คนจีนได้นำเรือกำปั่นมาทำการค้าขายกับสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมืองลพบุรี มากับฝรั่งชาติฮอลันดา จอดหน้าวัดอัมพวัน ได้สร้างโบสถ์วัดอัมพวัน สมัยเจ้าอาวาสวัดอัมพวันชื่อ พระครูญาณสังวร อายุ ๙๙ ปี สร้างโบสถ์เสร็จแล้ว ฝรั่งเพื่อนคนจีนได้ขอพระราชทาน พระหน้าปรกหินทั้งสององค์จากสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ให้คนจีนเอาไว้ในโบสถ์ จนถึงการสร้างโบสถ์หลังใหม่มาจนถึงทุกวันนี้

    พระครูปลัดจรัญ ฐิตธมฺโม ได้มารักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนี้เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้ดำเนินการพัฒนาปรับปรุงฟื้นฟูกิจการทั้งภายในและภายนอกจนเจริญรุ่งเรืองเรื่อยมาตามลำดับ ในเวลาต่อมาได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ศูนย์พุทธศรัทธา จ.สระบุรี

    [​IMG]
    ศูนย์พุทธศรัทธา อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี

    ศูนย์ปฏิบัติธรรมนี้เป็นสาขาของวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ของหลวงพ่อมหาวีระ ถาวโร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) โดยกิจวัตรจะมีพระอาจารย์จากวัดท่าซุงมาเทศน์ธรรมและนำสอนกรรมฐานเป็นประจำ



    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle width="52%">[​IMG]
    </TD></TR><TR vAlign=top><TD align=middle width="52%" height=113><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="76%">[​IMG] เส้นทางการคมนาคม การเดินทางเข้าสู่ตำบล :</TD></TR><TR><TD width="76%">1.ถนนสายพระพุทธบาท-ท่าเรือ จากพระพุทธบาท-บ้านหมอ ระยะทาง 17 กม.
    2.ถนนคันคลองชลประทานเริงราง จากท่าลาน-บ้านหมอ ระยะทาง 5 กม.
    3.จากสระบุรี-อ.บ้านหมอ ระยะทาง 30 กม. </TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ตำแหน่งในแผนที่ทางหลวง

    Lat 14 deg 37 min 34.5 sec

    Lon: 100 deg 44 min 34.5 sec



     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    วันก่อนในรถได้พูดคุยกันกับทางคุณลุงชัยมงคล

    ได้ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องสถานที่ปลอดภัยทางใต้ มีเพิ่มอีกคือ

    วัดถ้ำเสือ หลวงพ่อจำเนียร จ.กระบี่

    วัดพระธาตุไชยา

    วัดพระธาตุนครศรีธรรมราช

    วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง

    ครับ รบกวนคุณพี่เกษมช่วยหาข้อมูลเพิ่มด้วยครับผม
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>
    "วัดถ้ำเสือ"วัดดังเมืองกระบี่
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 มกราคม 2550 14:54 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>​
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=left border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>พระพุทธรูปภายในถ้ำแห่งวัดถ้ำเสือ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> กระบี่ เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่ถ้ากล่าวถึงเรื่องแหล่งท่องเที่ยวแล้ว ขึ้นชื่อทั้งทางทะเลและทางบก โดยเฉพาะทะเลกระบี่นั้นความงดงามไม่เป็นรองที่ใดเลย แต่ถ้าหากกล่าวถึงวัดดังเมืองกระบี่แล้วก็คงต้องยกให้กับ"วัดถ้ำเสือ"วัดดังอีกแห่งหนึ่งในปักษ์ใต้

    "วัดถ้ำเสือ" ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่มาไม่ไกลนัก ราวๆ5-6 กิโลเมตร ชื่อวัดนั้นมีข้อสันนิษฐานว่าเนื่องจากในอดีตเคยมีเสืออาศัยอยู่ และภายในถ้ำยังปรากฏหินธรรมชาติ เป็นรูปแบบของอุ้งเท้าเสือ ส่วนที่มาของวัดนี้น่าจะมาจากพระธุดงค์ที่เดินทางจาริกไปเพื่อหาสถานที่วิเวกในการปฏิบัติธรรม มาอาศัยอยู่ตามถ้ำ และมีชาวบ้านที่ศรัทธาตามมากราบไหว้เป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นวัดในเวลาต่อมา

    วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในจังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียง ทั้งความโดดเด่นของวัดและชื่อเสียงของ"หลวงพ่อจำเนียร" เจ้าอาวาสวัดถ้ำเสือที่มีผู้เลื่อมใสศรัทธามาช้านาน

    สภาพโดยทั่วไปของวัดถ้ำเสือมีลักษณะ เป็นสวนป่า เป็นโพรงถ้ำ มีเพิงผาและแหล่งถ้ำธรรมชาติ เช่น ถ้ำคนธรรพ์ ถ้ำลอด ถ้ำช้างแก้ว ถ้ำลูกธนู ถ้ำพระ เป็นต้น ถ้ำบางแห่งที่ตั้งอยู่ใกล้บริเวณวัดยังสามารถใช้เป็นศูนย์กลางการนั่งฌานของพระภิกษุและเหล่าอุบาสก อุบาสิกาได้อีกด้วย

    ในขณะที่ทัศนียภาพก็รื่นรมย์แวดล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ อายุนับร้อยนับพันปีเนื่องจากมีเขาล้อมอยู่ทุกด้าน บริเวณนี้นอกจากเป็นสถานที่วิปัสสนาแล้ว ยังเป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญถึงสองสมัยคือ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และสมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ มีการขุดพบวัตถุโบราณหลายอย่าง เช่น เครื่องมือหิน เศษภาชนะดินเผา พระพิมพ์ดิบ

    สิ่งสำคัญใน"วัดถ้ำเสือ"นั้นที่ดูเหมือนจะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดและเป็นที่นิยมชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติก็คือการที่ได้มาแวะสักการะขอพรจาก"เจ้าแม่กวนอิม"ซึ่งมีความสูงใหญ่กว่า 5 เมตร ที่ตั้งประดิษฐานอยู่ภายในวัด

    นอกเหนือจากแวะสักการะเจ้าแม่กวนอิมแล้วยังสามารถแวะกราบไหว้ "พระพุทธรูปหยกขาว"ศิลปะพม่าอายุนับร้อยปีและ "พระพุทธบาทจำลอง"ได้อีกด้วย ที่นี่มีฝูงลิงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากนักท่องเที่ยวที่มาสามารถแวะทักทายและนำอาหารให้ฝูงลิงเหล่านี้ได้

    ใครที่มาเที่ยววัดถ้ำเสือแล้วยังไม่ได้ขึ้นเขาพิชิตบันได 1,200 ขั้น ถือว่ายังมาไม่ถึงวัด เมื่อขึ้นบันไดมาแล้วทุก 100 ขั้นของบันไดจะเขียนตัวเลขบอกไว้ให้เรานับว่าเหลืออีกกี่ขั้นจึงจะถึงบนยอดเขา
    สาเหตุที่ต้องตะเกียดตะกายขึ้นบันไดกว่า1,200ขั้นนั่นก็เพื่อขึ้นไปสักการะ "พระธาตุเจดีย์ระฆังใหญ่"ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขานั่นเอง ซึ่งจากข้างบนนี้จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองกระบี่ได้รอบทิศทีเดียว

    วัดถ้ำเสือจึงเป็นอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่มาเยือนยังจังหวัดกระบี่ไม่ควรพลาด การเดินทางก็หาไม่ยากออกจากตัวเมืองมาตามถนนเส้นทางสาย กระบี่​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
    จ.นครศรีธรรมราช

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD background=../../pic_rec/m11.gif></TD><TD width=12></TD></TR><TR><TD width=12 background=../../pic_rec/m44.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#f0f0f0 border=0><!--DWLayoutTable--><TBODY><TR><TD width=7 colSpan=2 rowSpan=2>[​IMG]</TD><TD width="100%" bgColor=#999999></TD><TD width=7 colSpan=2 rowSpan=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD height=6></TD></TR><TR><TD width=1 bgColor=#999999 height=13></TD><TD width=6></TD><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD><TD width=6></TD><TD width=1 bgColor=#999999></TD></TR><TR><TD width=7 colSpan=2 rowSpan=2>[​IMG]</TD><TD height=6></TD><TD width=7 colSpan=2 rowSpan=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#999999></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE style="BORDER-RIGHT: #cccccc 1px dashed; BORDER-TOP: #cccccc 1px dashed; BORDER-LEFT: #cccccc 1px dashed; BORDER-BOTTOM: #cccccc 1px dashed" cellPadding=10 width=525 align=center bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ริมถนนราชดำเนิน ตำบลในเมืองมีเนื้อที่ 25 ไร่ 2 งาน วัดพระมหาธาตุเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชั้นวรมหาวิหาร เดิมชื่อ วัดพระบรมธาตุ ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศจดทะเบียนวัดพระมหาธาตุเป็นโบราณสถาน นับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้



    ตามตำนานกล่าวว่า สร้างเมื่อปี พ.ศ.854 สร้างมามากกว่า 1,500 ปี มีศิลปะการก่อสร้างแบบศรีวิชัย โดยเจ้าชายธนกุมารและพระนางเหมชาลาและบาคู (นักบวช) ชาวลังกา เป็นผู้นำเสด็จพระบรมธาตุมาประดิษฐาน ณ หาดทรายแก้วและสร้างเจดีย์องค์เล็ก ๆ เพื่อเป็นที่หมายไว้


    ต่อมาปี พ.ศ. 1093 พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช (พระเจ้าจันทรภาณุ) ได้ทำการสร้างเมืองนครศรีธรรมราชขึ้น พร้อมการก่อสร้างเจดีย์ขึ้นใหม่เป็นทรงศาญจิ และในปี พ.ศ. 1770 พระองค์จึงได้รับเอาพระภิกษุจากลังกามาตั้งคณะสงฆ์และบูรณะพระบรมธาตุเจดีย์ให้เป็นไปตามแบบสถาปัตยกรรมทรงลังกา อันเป็นแบบที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบันคือ เป็นทรงระฆังคว่ำ หรือโอคว่ำ มีปล้องไฉน 52 ปล้อง รอบพระมหาธาตุมีเจดีย์ 158 องค์ สูงจากฐานถึงยอด 37 วา 2 ศอก ยอดสุดของปล้องไฉนหุ้มทองคำเหลืองอร่าม สูง 6 วา 1 ศอก แผ่เป็นแผ่นหนาเท่าใบลานหุ้มไว้ น้ำหนัก 800 ชั่ง (หรือ 960 กิโลกรัม)

    [SIZE=2]ภายในวัดพระมหาธาตุฯ วิหารที่มีความสำคัญหลายองค์ประดิษฐานอยู่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระวิหารหลวงซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยา วิหารสามจอมมีพระพุทธรูป "พระจ้าศรีธรรมโศกราช" ทรงเครื่องอย่างกษัตริย์ วิหารพระมหาภิเนษกรม (พระทรงม้า) ทางขึ้นไปบนลานประทักษิณ วิหารทับเกษตร วิหารเขียน และวิหารโพธิ์ลังกาซึ่งเป็นที่จัดและแสดงโบราณวัตถุ [/SIZE]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​



    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=525 align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=3 bgColor=#cccccc border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=3 align=right bgColor=#cccccc border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>






    </TD></TR></TBODY></TABLE>​


    ตำแหน่งในแผนที่ทางหลวง

    Lat 8 deg 24 min 39.2 sec
    Lon: 99 deg 57 min 58.4 sec
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2007
  9. Toutou

    Toutou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2005
    โพสต์:
    1,455
    ค่าพลัง:
    +8,107
    ปักหมุดต่อไปนี้เสร็จแล้วคะ

    1. วัดช้างไห้ (วัดราษฎร์บูรณะ) จ.ปัตตานี
    2. พระธาตุไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
    3. วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี
    4. วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา
    5. วัดโสธร จ.ฉะเชิงเทรา
    6. วัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี
    7. วัดดอยเกิ้ง จ.แม่ฮ่องสอน
    http://toutou.siamtalks.com/

    เพื่อให้งานปักหมุดทำได้เร็วขึ้น Toutou ต้องการคนช่วยงานต่อไปนี้คะ

    1. สรุปย่อเนื้อหาที่พี่เกษมรวบรวมมา ใ้ห้เหลือสัก 2-3 บรรทัด
    2. แปลงพิีกัดจากระบบองศา ลิปดา ฟิลิปดา ให้เป็นระบบทศนิยม โดยการกรอกค่าใน http://maps.google.com/


    เช่น Lat 15 deg 18 min 9.2 sec, Lon: 101 deg 44 min 3.8 sec
    พิมพ์ 15° 18' 9.2'', 101° 44' 3.8'' แล้วกด search map จะได้ 15.302556, 101.734389
    โพสต์ไว้ในกระทู้นี้ได้เลยนะคะ (f)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2007
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง

    <TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=right width="5%"> </TD><TD vAlign=top align=middle width="45%">
    [​IMG][​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    วัดเขาอ้อ ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลมะกอกเหนือ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง

    วัดเขาอ้อเป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งในสมัยอยุธยา เดิมเป็นวัดร้างมาก่อน ต่อมา พ.ศ. 2284 พระมหาอินทราชมาจากเมืองปัตตานีได้เป็นเจ้าอาวาส จึงทำการบูรณะสิ่งปรักหักพัง เช่น บูรณะพระพุทธรูปภายในถ้ำ 10 องค์ สร้างอุโบสถขึ้น 1 หลัง เสร็จแล้วมีหนังสือถวายพระราชกุศลเข้าไปกรุงศรีอยุธยา พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระพุทธรูปหล่อสำริด 1 องค์ หล่อด้วยเงิน 1 องค์ แก่วัดเขาอ้อ ปัจจุบันชาวบ้านเรียกว่า ​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    ภูเก็ต ครับ

    น่าจะเป็น

    1.วัดสีลสุภาราม (ใกล้วัดฉลอง )ซึ่งหลวงปู่สุภา ศิษย์ สายหลวงปู่ศุกข์ วัด ปากคลองมะขามเฒ่า ในขณะนี้ หลวงปู่สุภา ท่านยังคงจำพรรษา อยู่ครับ

    2.วัดฉลองหลวงปู่แช่ม ( มีเพื่อนที่เคยขึ้นไปนมัสการ หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ที่ อ.เสนา เค้าเล่าว่า ที่วัดบางนมโค มีรูปหล่อ หลวงปู่แช่ม วัดฉลองภูเก็ต ....ซึ่งนับว่า ทั้ง หลวงปู่ ปาน และหลวงปู่แช่ม ท่าน ไปมา หาสู่กันตามปกติ ครับ )

    3.วัดกะตะกิตติสังคาราม (สามารถขึ้นเนินเขา ยอดเขานาคเกิด ซึ่งความสูงกว่าระดับน้ำทะเล ประมาณ 427 กว่าเมตร **ไม่แน่ใจระดับความสูงครับ ** ซึ่งขณะนี้ กำลัง ก่อสร้าง ฐานเพื่อประดิษฐาน พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคาคีรี องค์ใหญ่ ครับทางขึ้นเนินเขายอดเขานาคเกิด เข้าซอยยอดเสน่ห์ ห่างจากวัดฉลอง ไม่ไกลมากนัก และมีรอยพระหัตถ์ ของพระพุทธองค์ปรากฏ ....ลองเข้าเว็ป คนเมืองบัว จะมีรายละเอียด ของรอยพระหัตถ์)ยอดเขานาคเกิด อากาศ บนยอดเขา หนาวเย็น ใกล้เคียงกับทางภาคเหนือ ครับ มีชุมนุมเทพ มากมาย บนยอดเขา มีพระรูปหล่อ หลวงปู่เทพโลกอุดร หลวงปู่ทวด หลวงปู่คล้าย วาจาสิทธิ์ หลวงปู่แช่มวัดฉลอง ( ตาม ที่มีคนเห็น หลวงพ่อคูณ ท่านจะลงมา โปรด ที่วัดกะตะ นี้ บ่อยเหมือนกัน เมื่อหลายปี ที่ผ่านมา...)

    รูปทางซ้ายมือ เป็นองค์หล่อจำลอง ใน ศาลา เหนือถ้ำหินใหญ่ ครับ
    ยอดเขานาคเกิด นักวิทยุสมัครเล่น นิยม ขึ้นมา ทดสอบการติดต่สื่อสาร ทางไกลกันครับ จากภูเก็ต คุยได้ถึง นราธิวาส , ชุมพร , กรุงเทพ ,ฉะเชิงเทรา และเป็นที่ติดตั้ง ระบบ reapeater ของ วิทยุสื่อสาร ของระบบวิทยุสมัครเล่น และการสื่อสาร ของตำรวจ และเมื่อมี การรับเสด็จฯ
    (ตำนาน พระพุทธบาทเขานาคเกิด) www.konmeungbua.com ขออนุญาต จากเว็ปคนเมืองบัว น่ะครับ

    [FONT=CordiaUPC, BrowalliaUPC, MS Sans Serif]ตำนานจากนาคเทวา บอกกล่าวเขานาคเกิด[/FONT]
    [FONT=CordiaUPC, BrowalliaUPC, MS Sans Serif]พระพุทธบาทเขานาคเกิดและหาดราไวย์[/FONT]

    [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    แต่เดิมสมัยสุวรรณภูมิอันรุ่งเรือง ไทยมีอำนาจการปกครองทางใต้ถึงสิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ซึ่งตรงกับพุทธพรรษาที่ 44 พรรษา แห่งองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าองค์ปัจจุบัน
    ชาวเมืองนาค (จ.ภูเก็ต) ได้ทราบเหตุแห่งการอุบัติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเช่นกัน จึงได้ส่งตัวแทนไปอัญเชิญเสด็จพุทธองค์ ที่เมืองหลางสุวรรณภูมิ (ปัจจุบัน คือ จ.ราชบุรี) ในคราวที่เสด็จมาโปรดชาวเมืองนาค มาพร้อมพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ มายังเกาะแก้วพิศดาร (แต่ก่อนแผ่นดินใกล้ชิดกันอยู่)
    เมื่อพุทธองค์ทรงแนะนำข้อธรรมแก่ชาวบ้าน ซึ่งเป็นชาวประมง ชาวบ้านจึงขอพระพุทธองค์ประทับรอยพระพุทธบาทไว้ เป็นเครื่องสักการะบูชาที่ริมน้ำ (ดั่งเดิม) นามว่า "รอยพระพุทธบาทเกาะแก้วพิศดาร" และที่สันเกาะบนก้อนหินใหญ่อีก 1 คู่ ขนาดเท่าครึ่งของคนปกติ
    เมื่อขึ้นมาโปรดที่ริมหาดแผ่นดินเกาะใหญ่ ชาวบ้านจึงทูลขอรอยพระหัตถ์ไว้ 1รอย จึงเรียกชาวบ้านสมัยนั้น ในนามว่ารอยพระหัตถ์ "เราไหว้" ซึ่งหมายเอาถึง หมู่คณะนอมน้อมนพไหว้ ทูลขอรอยฝ่าพระหัตถ์ของพุทธองค์
    ต่อมาริมหาดจึงมีนามว่า "เราไหว้" เมื่อกาลเวลาผ่านไป คนลืมรอยพระหัตถ์ไปแล้ว และประกอบกับสำเนียงพื้นเดิมเปลี่ยนไป คำว่า "เราไหว้" จึงสั้นลง คือ สระ "-เ" หายไปเหลือแต่ "รา" และ พยัญชนะ "ห" หายไปเหลือแต่ "ไว"
    เมื่อรวมความว่า "ราไวย์" หรือหาดราไวย์ ในปัจจุบันนี้เอง

    ต่อมาพุทธองค์ได้เสด็จตามคำเชิญของเทวดา ที่มีอทิสมานกายเป็นกายสิทธิ ซึ่งจัดอยู่ในหมู่เทพในชั้นจาตุมหาราช ซึ่งดูแลสมบัติจักรพรรด์ในอนาคต ได้แก่ แก้วแหวน ทอง อื่นๆ ซึ่งสมบัตินี้จะปรากฎขึ้นในสมัย พระศรีอริยะเมตตรัย มาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
    นัยว่าท่านปู่พระอินทร์องค์ปัจจุบัน (ท่านมัคคมานพ) จะลงมาจุติเป็นมหาจักรพรรดิ์ ทองจำนวนนี้จะปรากฎขึ้นมาดั่งเม็ดหิน เม็ดทราย เพื่อรองรับบารมีของผู้ที่มาเกิดในสมัยนั้น
    ก็ชาวอทิสมานกายนาคเหล่านี้ ก็ได้มีความยินดีที่พระพุทธองค์เช่นกัน จึงได้ทูลอันเชิญพระพุทธองค์จากริมหาด "ราไวย์" มาสงเคราะห์บนยอดเขา ที่เหล่ากายสิทธิ์ทั้งหลายได้นัดประชุมฟังธรรมกัน โดยจัดเตรียมที่ประทับแบบธรรมชาติ คือ โขดหินใหญ่บนยอดเขานั้น
    พระพุทธองค์ได้ตรัสสั่งสอนเทวธรรม อันได้แก่ ศีล 5 กรรมบท 10 และหิริ-โอตตัปปะ เป็นต้น เพื่อให้ละความยึดมั่นถือมั่นละเอียดแบบกายสิทธินาค จนในที่สุดนาคเหล่านั้น ได้เข้าใจธรรมไปเกิดจุติในสรวงสวรรค์ ที่บารมีธรรมสูงขึ้น มีรัศมีกายสว่างไสว ดังดอกไม้ไฟที่พุ่งสู่ท้องฟ้า ชาวบ้านซึ่งอยู่ใกล้บริเวณนั้น ได้เห็นปรากฎการณ์แห่งจิตวิญญาณนั้น (ดั่งบ้องไฟพญานาคที่ จ.หนองคาย) จึงขนานนามยอดเขานั้นว่า "นาคเกิด"
    ในการนั้นเอง ที่เหล่านาคทั้งหลายที่ยังไม่เข้าสู่เทวธรรมชั้นสูง ก็ได้ทูลขอรอยพระบาท แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน เพื่อสักการะบูชาแก่ชาวนาค ได้แก่ รอยประทับนั่งของพระพุทธองค์ รอยพระหัตถ์และรอยพระพุทธบาทไว้ให้
    ด้วยเหตุนี้รอยพระพุทธบาท จึงปรากฎแห่งรอยทั้ง 3 แห่งนี้ มาให้ผู้ที่มีความเคารพในพระรัตนตรัยได้กราบไหว้บูชา ยอดเขานาคเกิดนี้จึงเป็นสถานที่อันเป็นอุดมมงคล
    มูลเหตุแห่งการค้นพบรอยพระบาท โดยคยเมืองบัว ล้วนแล้วแต่ได้ค้นพบตามหลักวิชา "ฤทธิ์ทางใจ" ทั้งสิ้น
    กุศลใดบังเกิดมี ในพุทธานุสสติทั้งหลายบังเกิดมี ข้าพเจ้าขอน้อมถวายบูชาแด่ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ด้วยเถิด...
    คนเมืองบัว..
    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD height=500>[FONT=CordiaUPC, BrowalliaUPC, MS Sans Serif]ประวัติและที่มาแห่งการค้นพบรอยพระพุทธบาท[/FONT]
    [FONT=CordiaUPC, BrowalliaUPC, MS Sans Serif]10. พระพุทธบาทเขานาคเกิด[/FONT]​
    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="41%">[​IMG]
    23
    </TD><TD width="59%">[​IMG]
    24
    </TD></TR><TR><TD width="41%">[​IMG]
    25
    </TD><TD width="59%">[​IMG]
    26
    </TD></TR><TR><TD width="41%">[​IMG]
    27
    </TD><TD width="59%">[​IMG]
    28
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=980 border=0><TBODY><TR><TD width="36%">[​IMG]
    </TD><TD width="64%">[​IMG]
    30

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    </TD></TR><TR><TD>


    </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    4.สำนักสงฆ์ เขาขาด (เนินยอดเขา เขาขาด )ซึ่งอยู่ในการดูแล ของพระอาจารย์ เดช แห่งถ้ำสุมโน พัทลุง

    5.วัดสามัคคีธรรมเขารัง (เทพขจรกิจ)เนินเขาสูง เขารังซึ่งมีพระพุทธมงคล (ประทานพรองค์ใหญ่ )ซึ่งหลวงปู่สุภา ท่านได้สร้างให้ก่อนหน้านี้ ในขณะที่หลวงปู่ท่าน ดูแล สำนักสงฆ์เทพขจรกิจ เขตตัวเมืองภูเก็ต และ มีพระรูปหล่อ หลวงปู่ศุกข์ (วัดปากคลองมะขามเฒ่า ) ท่านยิ้มแย้ม โปรดลูก หลาน เหมาะแก่ การ ปฏิบัติ ธรรม บางครั้งหลวงปู่ศุกข์ ท่านเมตตา ส่งพลังให้ กับ,กหลาน ศิษย์ เสมอ

    6.วัดเกาะสิเหร่ ตั้งบนยอดเขาเกาะสิเหร่ ใกล้ๆ ตัวเมือง ซึ่งหลวงปู่สุภา ท่านสร้างวัด สมัยท่านมาจำพรรษาที่ภูเก็ต ครั้งแรก เพื่อโปรด ชนพื้นเมืองชาวไทยใหม่ จนลูกหลาน เชื่อนับถือในพุทธศาสนา

    7.วัดพระทอง (พระผุด )เขตอ.ถลาง

    8.สำนักสงฆ์ เกาะแก้วพิสดาร โดยหลวงพ่อเสื่อ ท่านดูแล มีรอยพระพุทธบาท อยู่ในเกาะ ห่างจากหาดราไวย์ ลองเข้าเว็ป คนเมืองบัว จะมีรายละเอียด รอยพระพุทธบาท

    www.konmeungbua.com www.konmeungbua.com

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR bgColor=#ffffff><TD vAlign=top><TABLE width="102%" border=0><TBODY><TR><TD height=500>ประวัติและที่มาแห่งการค้นพบรอยพระพุทธบาท
    4.รอยพระพุทธบาท "เกาะแก้วพิศดาร " 21 มี.ค. 2545
    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle>[FONT=CordiaUPC, BrowalliaUPC, MS Sans Serif][​IMG][/FONT]
    6
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ภาพรอยพระพุทธบาทข้างขวา ณ.เกาะแก้วพิศดาร วัดเกาะแก้วพิศดาร จ.ภูเก็ตอบเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2545 ขนาด 1.5เท่าของปกติ
    เล่าสู่กันฟัง เรื่อง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2007
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ภาคใต้ ในแผนที่ของ อ.ปริญญา ตันสกุล ครับ



    ดูจากภาพในแผนที่แล้ว ภูเก็ต ก็ไม่ปลอดภัย ในส่วนที่เป็นยอดเขาน้ำทะเลอาจจะท่วมไม่ถึงแต่ถ้าอยู่แบบติดเกาะ โดยไม่มีอาหาร และน้ำดื่มที่เพียงพอ เพราะการคมนาคมถูกตัดขาด ก็ลำบากเหมือนกันนะครับ​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2007
  13. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,689
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ภาคใต้ ****

    ภาคใต้...จะต้องเผชิญกับ คลื่นขนาดยักษ์ใหญ่พัดผ่าน
    ภูเขาที่ปลอดภัย...จะมีลักษณะเป็นหินใหญ่ๆ แข็งแรงมั่นคง
    พื้นที่ที่เป็นดิน...ดินร่วนๆ ดินแดงๆ...ดินตะกอน...จะถูกระแสน้ำพัดหายไปได้ง่าย


    *** ดินที่ห่างชายฝั่งในภาคใต้ ****

    ลักษณะดิน ในจังหวัดภาคใต้ ที่อยู่บริเวณภูเขา หุบเขา เป็นป่าเขา
    ที่มีลักษณะร่วน สีแดงปนส้ม เมื่อโดนฝนตก โดนน้ำฉีด สาดใส่ แล้วดูเหมือนละลายง่ายๆ

    พื้นที่นั้น...จะมีอันตรายจาก....ภูเขาถล่ม...ดินถล่ม...
    น้ำป่าบวกกับดินโคลน...พัดมากับต้นไม้น้อยใหญ่ ที่หลุดออกมาจากพื้นดิน
    จะมีอันตรายมาก...โดยเฉพาะ ผู้ที่อยู่ใกล้แม่น้ำ ลำธาร หรือทางน้ำไหล
    หากฝนตกหนักต่อกันหลายวัน...ควรหนีไปอยู่ในที่ที่น่าจะปลอดภัยกว่า
    บ้านที่อยู่ตามเนินเขาลาดชัน...ระวังให้มาก
    ภัย คือ...
    ดินไหลจากเขาลงมาทับ...
    เลื่อนไหลไปกับพื้นดิน...
    หล่นไหลลงข้างล่างที่ต่ำ...
    น้ำป่ากับดินโคลนและซุง พุ่งเข้าชน...

    ภัยนี้...ยังไม่รวมกับแผ่นดินไหว จากเปลือกโลกเคลื่อนตัว หลังมีการใช้อาวุธนิวเคลียร์ นะ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,689
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** สถานที่ที่ไม่ปลอดภัย ****


    คือ สถานที่ที่สอนขัดกับ "หลักสัจจะธรรม" !!!
    ควรอยู่ให้ห่าง ... เพราะ สอนผิดจากคำสอนสอนพระพุทธเจ้าที่แท้จริง
    และ ไม่ตรงกับ "หลักสัจจะธรรม" ที่พระศรีอารย์ จะนำมาโปรดในอนาคต
    กรรม จึงมากและหนักยิ่งนัก
    โลก ดินฟ้าอากาศ ...จะไม่ปล่อยไว้แน่นอน
    เราจึง ควรมุ่งค้นหา "สัจจะ" มานำชีวิตตนเอง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  15. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    คุณตู๋ค่ะ

    จากที่คุยกันวันก่อน วันนี้แคทได้ลองย่อเนื้อหาของคุณเกษมให้คุณตู๋ไปปักหมุดนะค่ะ นี่ก็ไล่ดูว่าคุณตู๋ได้ปักที่ไหนไปแล้วบางก่อนทำการย่อ ลองดูนะค่ะ

    วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ศิลาจารึกจีนได้กล่าวว่า สมัยเหม็งเชี้ยว คนจีนได้นำเรือกำปั่นมาทำการค้าขายกับสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเมืองลพบุรี จอดหน้าวัดอัมพวัน ได้สร้างโบสถ์วัดอัมพวัน และขอพระราชทานพระหน้าปรกหินมาไว้ในโบสถ์ พระครูปลัดจรัญ ฐิตธมฺโม (พระครูภาวนาวิสุทธิ์)ได้มารักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนี้เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ได้ดำเนินการพัฒนาปรับปรุงฟื้นฟูกิจการทั้งภายในและภายนอกจนเจริญรุ่งเรืองเรื่อยมาตามลำดับ

    ตำแหน่งในแผนที่ทางหลวง

    Lat 14 deg 49 min 34.1 sec
    Lon: 100 deg 26 min 13.2 sec<O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
    14.826139, 100.437000

    <O:p><TABLE style="FONT-SIZE: 12px" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 align=center border=0><TBODY><TR style="FONT-SIZE: 12px"><TD class=title style="FONT-SIZE: 12px" align=right colSpan=2 height=30></TD></TR><TR style="FONT-SIZE: 12px"><TD style="FONT-SIZE: 12px" vAlign=top width=150>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]</O:p>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มีนาคม 2007
  16. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    บางอันสั้นอยู่แล้วไม่ต้องย่อเลยค่ะ
    ศูนย์พุทธศรัทธา จ.สระบุรี

    [​IMG]

    ศูนย์ปฏิบัติธรรมนี้เป็นสาขาของวัดท่าซุง จ.อุทัยธานีของหลวงพ่อมหาวีระ ถาวโร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)โดยกิจวัตรจะมีพระอาจารย์จากวัดท่าซุงมาเทศน์ธรรมและนำสอนกรรมฐานเป็นประจำ
    <O:p</O:p
    ตำแหน่งในแผนที่ทางหลวง

    Lat 14 deg 37 min 34.5 sec
    Lon: 100 deg 44 min 34.5 sec

    14.626250, 100.742917


    "วัดถ้ำเสือ"จ.กระบี่ ชื่อวัดนั้นมีข้อสันนิษฐานว่าเนื่องจากในอดีตเคยมีเสืออาศัยอยู่ และภายในถ้ำยังปรากฏหินธรรมชาติ เป็นรูปแบบของอุ้งเท้าเสือ ส่วนที่มาของวัดนี้น่าจะมาจากพระธุดงค์ที่เดินทางจาริกไปเพื่อหาสถานที่วิเวกในการปฏิบัติธรรม มาอาศัยอยู่ตามถ้ำ และมีชาวบ้านที่ศรัทธาตามมากราบไหว้เป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นวัดในเวลาต่อมา
    <O:p</O:p
    ตำแหน่งในแผนที่ทางหลวง

    Lat 8 deg 7 min 35.4 sec
    Lon: 98 deg 55 min 21.6 sec
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    8.126500, 98.922667<O:p</O:p


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=left border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>


    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีรธรรมราช เดิมชื่อ วัดพระบรมธาตุ ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศจดทะเบียนเป็นโบราณสถาน ตามตำนานกล่าวว่า สร้างเมื่อปี พ.ศ.854 สร้างมามากกว่า 1,500 ปี มีศิลปะการก่อสร้างแบบศรีวิชัย ต่อมาปี พ.ศ. 1093 พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ได้สร้างเมืองนครศรีธรรมราชขึ้น พร้อมการก่อสร้างเจดีย์ขึ้นใหม่เป็นทรงศาญจิ และในปี พ.ศ. 1770 พระองค์จึงได้รับเอาพระภิกษุจากลังกามาตั้งคณะสงฆ์และบูรณะพระบรมธาตุเจดีย์ให้เป็นไปตามแบบสถาปัตยกรรมทรงลังกา อันเป็นแบบที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบันคือ เป็นทรงระฆังคว่ำ

    <O:p</O:pตำแหน่งในแผนที่ทางหลวง

    Lat 8 deg 24 min 39.2 sec
    Lon: 99 deg 57 min 58.4 sec

    <O:p</O:p8.410889, 99.966222<O:p</O:p

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD background=../../pic_rec/m11.gif></TD><TD width=12></TD></TR><TR><TD width=12 background=../../pic_rec/m44.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#f0f0f0 border=0><!--DWLayoutTable--><TBODY><TR><TD width=7 colSpan=2 rowSpan=2>[​IMG]</TD><TD width="100%" bgColor=#999999></TD><TD width=7 colSpan=2 rowSpan=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD height=6></TD></TR><TR><TD width=1 bgColor=#999999 height=13></TD><TD width=6></TD><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​












    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=525 align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=3 bgColor=#cccccc border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง เดิมเป็นวัดร้าง ต่อมา พ.ศ. 2284 พระมหาอินทราชมาจากเมืองปัตตานีได้เป็นเจ้าอาวาส จึงทำการบูรณะสิ่งปรักหักพัง เสร็จแล้วจึงไปจากวัด ทำให้วัดเสื่อมโทรมลง ต่อมาพระมหาคงจากวัดพนางตุงมาเป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่นั้นมาก็เจริญขึ้นเรื่อย มีเจ้าอาวาสปกครองวัดต่อๆ กันมาหลายสิบรูป ล้วนแต่มีความเชี่ยวชาญทางไสยศาสตร์ มีชื่อเสียงโด่งดัง
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ตำแหน่งในแผนที่ทางหลวง

    Lat 7 deg 45 min 16.2 sec
    Lon: 100 deg 3 min 51.9 sec
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    7.754500, 100.064417<O:p</O:p



    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    <TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=right width="5%"></TD><TD vAlign=top align=middle width="45%">[​IMG][​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE></B>​

    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มีนาคม 2007
  17. Toutou

    Toutou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2005
    โพสต์:
    1,455
    ค่าพลัง:
    +8,107
    ขอบคุณคะคุณ Catt Bewer ช่วยได้มากเลยคะ (f)


     
  18. Toutou

    Toutou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2005
    โพสต์:
    1,455
    ค่าพลัง:
    +8,107
    ปักหมุดต่อไปนี้เสร็จแล้วคะ

    1. วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี
    2. ศูนย์พุทธศรัทธา จ.สระบุรี
    3. วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่
    4. วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช
    5. วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง
    http://toutou.siamtalks.com/

    ขอบคุณคุณ Catt Bewer มากเลยคะที่มาสรุปข้อมูลให้ ทำให้งานปักหมุดทำได้รวดเร็วขึ้นมากคะ (verygood)
     
  19. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ขอบคุณครับ

    ตอนนี้ก็ควรเร่งหาสถานที่ปลอดภัยกันได้แล้วครับ

    ถ้าแต่ละกลุ่มที่อยู่ในพื้นที่ช่วยกันกระจายแยกย้ายกันสำรวจและรวบรวมข้อมูล ในแต่ละพื้นที่ใกล้เคียง งานจะง่ายและเร็วขึ้นครับ
     
  20. woottipon

    woottipon เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2005
    โพสต์:
    11,781
    ค่าพลัง:
    +83,965
    วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน ในถำกว้างขวาง และศักดิ์สิทธิ์ ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...