ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ท้อมาก....

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ปรมัตถนาม, 26 กันยายน 2013.

  1. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +3,083

    หนีไม่ได้นะครับ เรื่องใหญ่เลย

    ที่เรามาปฎิบัติกันนี่ เพื่อจะได้เข้าถึงธรรม ซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องเป็นพิเศษกับ

    ธรรมชาติ ธรรมดา กฎแห่งกรรม

    ถ้าชาตินี้เราหนี ชาติหน้าก็เจออีก แถมพ่วงด้วย อกุศลกรรมที่เราหนีอีกเพียบ

    ไม่คุ้มเป็นอย่างมาก โดยมากผมจะใช้หนี้อกุศลกรรม ด้วย ทานบารมี

    และกรรมฐาน และเสริมด้วย ขอขมากรรม เพราะทำได้เร็วที่สุด

    บางช่วงของชีวิตต้องทำบุญทุกวัน จอเดี๋ยวนี้ชักติด ทำเกือบทุกวันไปเลย

    ไม่ต้องรอช่วงเจอวิบาก เตรียมตัวรับ แต่ก็คิดในใจบ่อยๆว่า ค่อยๆมากันนะครับ

    มามากลูกก็ใช้ไม่ไหวเหมือนกัน 555
     
  2. yutpichai

    yutpichai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +306
    ท้อได้ครับ แต่ไม่ถอย ทุกข์คือธรรม พี่เอาตัวเองเป็นหลักพี่ลองมองคนพิการขอทานรอบๆพี่สิ ถามเขาสิแลกประสบการณ์กับเขาไหมละ บางสิ่งบางอย่างมันเป็นความคิดชั่ววูบ ถามใจตัวเองดีๆ ความเหนื่อยที่เกินทนจะหลอมคนให้ทนทาน ความสุขที่ยาวนานจะรอนราญความเป็นคน
     
  3. Jasmin99999

    Jasmin99999 วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    971
    ค่าพลัง:
    +3,331
    แด่ท่านอื่นๆที่อาจจะมีความรู้สึกเหมือน จขกท ค่ะ

    สิ่งใดก็ตาม ใครก็ตาม ทำให้เราไม่ชอบใจ เราก็มีความรู้สึกแต่ว่า นึกถึงการให้อภัยไว้เป็นปกติ ไม่ถือโทษโกรธเคือง โกรธแต่ทว่าไม่ผูกโกรธ อาการไม่ผูกโกรธของเราเป็นปัจจัยให้เขามีความสุข และเราเองก็มีความสุข ถือว่าเป็นเรื่องของธรรมดา คนเราเกิดมานั้นจะดีทุกอย่างเป็นไปไม่ได้ ฉะนั้น เมื่อรู้ว่าเขาเลว เราก็ให้อภัยกับเขา

    (ธรรมโอวาทหลวงพ่อพระราชพรหมยาน)

    คำสอนสมเด็จองค์ปฐม

    การที่จิตเราไปนึกตำหนิกรรมชั่วของผู้อื่น ทำให้เกิดอารมณ์ไม่พอใจ-รังเกียจเขา ทำให้เกิดปฏิฆะขึ้นกับจิตเรา เป็นการเบียดเบียนจิตตนเองก่อนทั้งสิ้น เพราะขาดพรหมวิหาร ๔ สู้มีจิตเมตตา-อ่อนโยน-สงสารเขาแทนจักมิดีกว่าหรือ

    (ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น
    รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน)

    ถ้าเห็นว่า ความเกิดเป็นโทษ เป็นทุกข์เพราะการเกิด ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไร มีตระกูลสูงส่ง ประการใดก็ตาม ต้องประสบกับความทุกข์อย่างมหันต์ และหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ต้องการความเกิดอีก ก็เร่งรัดเจริญสมถะให้ได้ฌานต้น แล้วเจริญวิปัสสนาญาณให้จบกิจพระศาสนา ซึ่งเป็นของไม่หนักเลย สำหรับท่านที่นึกถึงความตายเป็นปกติ

    (ธรรมโอวาทหลวงพ่อพระราชพรหมยาน)

    ชีวิตมีความตายเป็นที่สุด ถ้าเราเกิดอีก เราก็ลำบากอีก อย่าเกิดเลยดีกว่า งานที่ทำขอให้คิดว่าทำเพียงหน้าที่ คือ หน้าที่ ๆ จะต้องเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงครอบครัว ทำไป และอย่าติดหน้าที่ คิดวาง คิดปล่อย คลายความเมา ปล่อยให้เป็นเรื่องของกรรม แต่อย่าบกพร่องในหน้าที่

    (ธรรมโอวาทหลวงพ่อพระราชพรหมยาน)

    ที่มาบางส่วน https://www.facebook.com/BuddhaSattha
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม"

    เจ้าของกระทู้ได้หันมาพิจารณาตนหรือยังหนอ ว่าเหตุอันใดจึงได้พานพบกับทุกข์ที่กล่าวอ้างต่างๆ เหล่านั้น ทุกข์ที่ว่านั้นเกิดขึ้นที่ใด? เหตุอันใดนำมาซึ่งทุกข์เหล่านั้น? ค่อยๆ พิจารณาให้เห็นเหตุนะคะ

    ที่ว่าทุกข์ๆ นั้น ทุกข์เกิดขึ้นที่กายหรือว่าเกิดขึ้นที่ใจ สิ่งที่เผาลนคุณอยู่นี้คืออะไร? ขบให้มันแตกก่อน

    ธรรมะของพระพุทธองค์ ผู้ที่น้อมไปปฏิบัติให้เห็นด้วยใจแล้วย่อมไม่ร้อนรน มีแต่ความเย็นในจิตใจแม้อยู่ท่ามกลางกองทุกข์ของสังขาร หรือแม้กระทั่งทุกข์จรต่างๆ วิ่งเข้ามากระทบ

    เป็นกำลังใจให้คุณเจ้าของกระทู้...ก้าวผ่านทุกข์ในครั้งนี้ไปได้ด้วยสตินะคะ
     
  5. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    รู้สึกสงสารและเห็นใจมาก

    ข้าพเองก็ไม่อาจเข้าใจและรู้สึกถึงทุกข์ของเจ้ากระทู้ได้เท่าเจ้าของกระทู้เอง

    แต่ก็อยากปลอบใจ

    ทุกข์เดียวกัน ต่างคน ต่างความคิด ต่างมุมมอง ต่างสถานะ ต่างเวลา ต่างโอกาส ต่างก็มีมุมมองต่อทุกข์และรู้สึกถึงทุกข์นั้นไม่เท่ากัน มีปัญญามากมีบุญมากก็แก้ทุกข์ได้เร็ว

    แต่อย่าสูญเสียศรัทธาต่อพระรัตนตรัยและอานิสงส์แห่งบุญกุศล

    ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าอานิสงส์แห่งบุญกุศลมีจริงและตัวข้าพเจ้าเองก็ได้สัมผัสด้วยตัวเองมาแล้วในช่วงชีวิตนี้

    แค่อยากบอกว่า เมื่อไม่มีอะไรจะเสีย ก็คิดเสียว่ายังดีที่มีชีวิตอยู่
    มีโอกาสได้สร้างบุญกุศล ได้ให้ทาน รักษาศีล ปฏิบัติธรรม

    เชื่อว่าวันหนึ่งวิบากกรรมดำที่ท่านกำลังเผชิญอยู่จะต้องเบาบางลงแน่นอน
    ดังพุทธพจน์ที่ว่า

    “ภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนทำบาปกรรมเพียงเล็กน้อย บาปกรรมนั้นนำเขาไปสู่นรก บางคนทำบาปเล็กน้อยเช่นนั้นเหมือนกัน แต่บาปนั้นให้ผลเพียงในปัจจุบันชาตินี้เท่านั้น (ทิฏฺฐธมฺมเวทนียัง) ไม่ปรากฎผลอีกต่อไป
    บุคคลเช่นไรทำบาปเพียงเล็กน้อยแล้วไปนรก คือบุคคลผู้มิได้อบรมกาย มิได้อบรมศีล มิได้อบรมจิต มิได้อบรมปัญญา มีคุณธรรมน้อย ใจต่ำ บุคคลเช่นนี้แหละ ทำบาปเพียงเล็กน้อยแล้วไปนรก
    บุคคลเช่นไรทำบาปเพียงเล็กน้อย แต่บาปนั้นให้ผลแสบเผ็ดเพียงในชาติปัจจุบัน แล้วไม่ให้ผลอีกต่อไป คือบุคคลผู้ได้อบรมกายแล้ว อบรมศีล อบรมจิต อบรมปัญญา มีคุณธรรมมาก มีใจใหญ่อยู่ด้วยคุณ มีเมตตาเป็นต้น อันหาประมาณมิได้
    เปรียบเหมือนบุคคลใส่ก้อนเกลือลงไปในจอกน้ำเล็ก ๆ น้ำนั้นย่อมเค็มเพราะน้ำน้อย แต่ถ้าใส่ก้อนเกลือนั้นลงไปในแม่น้ำคงคา น้ำในแม่น้ำคงคาจะไม่เค็มเพราะก้อนเกลือนั้นเลย เพราะน้ำมีมาก ฉันใด
    ภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนทำบาปเล็กน้อย บาปนั้นนำเขาไปสู่นรก (เพราะเขามีคุณน้อย) บางคนทำบาปเล็กน้อย บาปนั้นให้ผลเพียงในปัจจุบัน ไม่ให้ผลในชาติต่อ ๆ ไป (เพราะเขามีคุณมาก) ฉันนั้น”
    (อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต ๒๐/๓๒๑ ข้อ ๕๔๐)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2013
  6. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    .... .... ... .. ."ถ้าผลของกรรมเป็นของตายตัวแก้ไขไม่ได้แล้ว การประพฤติพรหมจรรย์หรือประกอบคุณงามความดีก็ไม่มีประโยชน์ โอกาสที่จะทำความดีจนสิ้นทุกข์ก็จะมีไม่ได้ (เพราะว่าแต่ละคนได้เคยทำกรรมชั่วกันมามากแล้วทั้งนั้น) แต่เพราะเหตุที่ผลของกรรมเป็นสิ่งที่ไม่ตายตัว (มีเงื่อนไข มีเหตุปัจจัย สามารถจะเบี่ยงเบนได้) การประพฤติพรหมจรรย์ ประพฤติคุณงามความดีจึงมีประโยชน์ โอกาสที่จะทำความดีเพื่อความสิ้นทุกข์จึงมีได้". .. ... .... .....

    ... .. ."บาปกรรมที่ทำแล้วสามารถละได้ ล่วงพ้นเสียได้ด้วยการเว้นบาปกรรมเช่นนั้น แล้วทำกรรมดีใหม่"... .. .

    ... ... ..."ยิ่งถ้าทำคุณงามความดีชนิดมหัคตกุศล แปลว่ากุศลที่ยิ่งใหญ่ เช่น ฌาน อภิญญาด้วยแล้ว ก็จะมีผลอันยิ่งใหญ่ คือบาปกรรมใดที่ทำไว้พอประมาณ บาปกรรมนั้นจะไม่เหลือ ไม่ตั้งอยู่ในเจโตวิมุตติเช่นนั้น ถ้าจนถึงกับได้อาสวักขยญาณ คือความสิ้นกิเลสด้วยแล้ว ก็จะเป็นผู้อยู่เหนือกรรมทีเดียว"... ... ...

    (บางส่วนจากหนังสือวิธีสร้างความดีและความมีเงื่อนไขของกรรม...วศิน อินทสระ)
     
  7. noum77

    noum77 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2010
    โพสต์:
    189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +620
    เมื่อหลายปีก่อน ครอบครัวผมมีปัญหาเรื่องเงินทองมาก ทั้งบ้านมีเงินเหลือ 2500 บาท ทุกข์มากครับเป็นหนี้อีก 3เเสนบาทได้ จ่ายดอกด้วย หลายคนคงเคยสัมผัสเรื่องทุกข์เกี่ยวกับเงิน ผมเลยหันหน้าเข้าหาพุทธศาสนาครับ จากบทสวดไม่เคยท่องเลย ทำบุญไม่เคยเลย ด่าพระด่าเจ้า เปลี่ยนตัวเองใหม่ครับ นั่งวิปัสนาวันละ 10 นาทีสวดมนต์ เเผ่เมตตา สวดมนต์ พระคาถาธารณปริตร ทุกวัน ถ้าใครเอาเปรียบเราหรือเราเกลียดใครเเผ่เมตตาให้พวกเค้าครับ ทำบุญตักบาตรอาทิตย์ละครับ ปล่อยปลาอาทิตย์ละครับ ทำบุญทีนึง รวมๆเเล้วไม่ถึง 100 บาท ทำมาเกือบ 2 ปีได้ก็ได้ผลนะครับ บ้านผมติดป้ายขายที่มา 5 ปี เพิ่งมาขายได้เงินสิบกว่าล้าน ไม่ใช่ของผมของเเม่ผม ก็ใช้หนี้ใช้อะไรเงินเหลือก็ฝากเเบงค์กินดอก รถผมก็ยังใช้คันเก่า 15 ปีอยู่เลย ทุกวันนี้ก็มีทุกข์รูปเเบบใหม่ๆเข้าเรื่อยๆครับเเต่ทุกข์เรื่องเงินหมดไปครับ เเต่มีเรื่องอื่นเค้ามาเเทน อยากจะบอกว่า ลองทำที่ผมว่าดูก่อนครับมันอาจจะดีขึ้นก็ได้
     
  8. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เวลาที่เรารู้สึกทุกข์หาทางออกไม่ได้กับปัญหาที่เกิดขึ้น มักจะมองในด้านเดียวคือด้านของตนเองเพียงเท่านั้น โลกทั้งโลกเหมือนไม่มีความยุติธรรม เข้าข้างตัวเองว่าทำดีมาตลอดแต่ทำไมได้รับผลที่ไม่ดีเสมอๆ มองเห็นเพียงว่าเราก็ทำดีเหมือนที่คนอื่นๆ เขาทำกัน แต่ทำไมผลกลับมาที่เรามันจึงมีแต่เรื่องแย่ๆ

    ทีนี้ลองมองกลับมุมดูนะ ว่าที่ว่าทำดีนั้น ดีอย่างไร ดีแค่ไหน มองรอบด้านในสิ่งที่ตนกระทำนั้นๆ หรือยัง ว่ามีผลกระทบกับใครบ้าง ความดีตามความคิดของเรานั้นไปส่งผลเสียให้กับใครบ้างหรือเปล่า ไปทำให้ใครเดือดร้อนบ้างหรือเปล่า

    ไม่ได้ซ้ำเติมนะคะ เพียงอยากให้พิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนที่จะไหลไปตามอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านเพราะความผิดหวัง จนลืมสติที่จะมองให้เห็นความจริงที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันขณะ

    สิ่งที่ทำร้ายตัวเองได้มากที่สุด นั่นก็คือ ความคิดของตนเองทั้งสิ้นค่ะ

    ความตายไม่ต้องไปรีบร้อนหรอกค่ะ ได้ตายกันทุกคนแน่นอน แต่ต้องตายอย่างมีศิลปะ ไม่ใช่นึกอยากตายก็ฆ่าตัวตาย ถามบุพการีหรือยังว่า ตอนที่ให้กำเนิดเรามาน่ะ ยากหรือง่ายรวมไปถึงการเลี้ยงดู ฟูมฟัก ให้เจริญเติบโตมาเป็นเราทุกวันนี้น่ะ ท่านเลี้ยงดูมาเพราะอะไร ความอดทนอดกลั้นเลี้ยงดูบุตรคนหนึ่งมา เพื่อว่าวันหนึ่งให้บุตรนั้นฆ่าตัวตายรึ

    เกิดมาแล้วก็ต้องตาย คุณจะรีบตายไปไหน ทำหน้าที่ทางโลกเสร็จสมบูรณ์แล้วหรือยัง?

    สภาวะจิตของเจ้าของกระทู้ คือความฟุ้งซ่านอันเกิดจากอารมณ์ผิดหวัง จิตตก แก้ไขด้วยสมาธิค่ะ เมื่อมีสมาธิแล้วก็จะมีสติ เมื่อมีสติแล้วก็จะมีปัญญามองเห็นทางแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเองค่ะ
     
  9. สีลสิกขา

    สีลสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,271
    ค่าพลัง:
    +7,137
    กำลังจัย บึม เลยค่ะท่านจขกท... ขอเป็นอีก 1 แรงใจค่ะ

    อย่ายึดติดกับความสุข อย่ามัวทุกข์กับความจริง บทเรียนหนักๆ อย่างละทิ้ง จดจำทุกสิ่งช่วยเตือนใจ พอใจในสิ่งที่ตนมี ทำดีในสิ่งที่ทำไหว ยืนอยู่บนสายกลางอย่างเข้าใจ มองโลกอย่างกว้างไกลในวันนี้..

    มาถึงบอร์ดนี้แล้วความทุกข์จะลดระดับลง ใก้ลศูนย์แล้วหละค่ะ ดิฉันเองไม่มีไรที่แตกต่างจากท่านเลย .. บางมุมอาจหนักยิ่งกว่า แต่เพราะดิฉันพิจารณา ผัสสะเหล่านี้อย่างเข้าใจ จึงไม่มีสิ่งใดทำร้ายจิตใจดิฉันได้อีกแล้วเลยค่ะ... สู้สู้ค่ะ ^^
     
  10. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    เราเชื่อว่าหลายคนในนี้ เข้ามา เพราะผ่านความทุกข์ค่ะ
    ยากนะ ที่จะหาคนกำลังเสวยสุข แล้วมาแสวงหาพระธรรม

    ชอบอันนี้มากเลยค่ะ

    • ธรรมชาติจะไม่ใจร้ายกับคุณจนเกินไป
    ถ้าไม่มีทางออกที่ดีที่สุด
    ก็มักเหลือทางเลือกที่ดีน้อยที่สุดไว้ให้

    • สิ่งที่จะช่วยให้คุณรู้สึกเข้มแข็งขึ้น
    คือความสามารถในการผ่านทุกข์
    ไม่ใช่ความสามารถในการเสวยสุข

    --ดังตฤณ--
     
  11. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,916
    ขอมอบกำลังใจให้ครับ

    สู้ๆ

    อนุโมทนาบุญกับผู้ที่ให้กำลังใจด้วยนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  12. เมธาวี1

    เมธาวี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    692
    ค่าพลัง:
    +1,051
    เพราะมีความหวัง ถึงยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อ [ame=http://www.youtube.com/watch?v=NqJpBieCyZ0]กำลังใจ โฮป - YouTube[/ame]
     
  13. ปรมัตถนาม

    ปรมัตถนาม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +70
    เนื้อความที่ผมกล่าวว่า ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ไม่ได้หมายถึงผมจะคิดฆ่าตัวตายครับ ผมรำพึงถึงการมีชีวิตอยู่นั้นเจ็บปวดเหลือเกิน เลยอยากไปจากโลกนี้เร็ว ๆคืออยากหมดกรรมเร็ว ๆเบื่อโลก เบื่อการมีชีวิตน่ะครับ ตอนนี้ผมได้แง่คิดและกำลังใจดี ๆจากกัลยาณมิตรในที่แห่งนี้มากมายเลยครับ ต้องขอบคุณและอนุโมทนาทุกท่านอีกครั้งนะครับ วันนึงเมื่อผมเข้าถึงธรรมมากขึ้น ผมอาจจะอยากมีชีวิตอยู่นาน ๆเพื่อใช้เวลาสร้างบารมีและทำประโยชน์เพื่อพระพุทธศาสนาและบุคคลอื่นก็เป็นได้ครับ....
     
  14. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ยังเหลือเพียงเท่านี้
    เราเองก็ไม่แตกต่าง จะยึดมั่นถือมั่นอะไรกันนักหนาหนอ
    สุขหรือทุกข์ ล้วนไม่มีอยู่จริง แค่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไม่มีอะไรเลย

    [​IMG]
     
  15. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    เมื่อพ้นจากอัตตาตัวตน

    เมื่อพ้นจากความคิดว่า มีเรา มีเขา

    ทุกอย่าง จะกลายเป็นแค่สภาวะ ที่มาประกอบรวมกัน
    ทำหน้าที่ต่างๆ กันไป ตามวาระของมัน

    และสุดท้าย ก็แยกย้ายสลายกันไป เป็นอันจบเรื่อง จบงาน หมดสิ้นกัน
     
  16. Moderator6

    Moderator6 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,354
    ค่าพลัง:
    +3,721
  17. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ตอนเด็กๆ ดูหนัง ฮ่องกง เรื่อง เพื่อนรักเพื่อนแค้น หงจินเป่าแสดง
    เป็น นักต่อสู้ สมควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างแม้แต่ คำสัจที่เขามีให้แฟนตัวเอง
    ช็อตเด็ด อยู่ที่ แฟนเขาเป็น โรค ที่ ต้องใช้ เลือดของญาติ ซึ้งเป็น น้องแฟนที่แอบรักเขา
    ผู้หญิง คนนั้น ให้เขาโดดลงมาจากตึก กี่ชั้นไม่แน่ใจ เพื่อให้เขาได้รักษาแฟน
    เขาโดด จริงๆ
    และ ผู้หญิงที่เขารัก วิ่งลงมา แล้ว คร่ำครวญ ร้องให้ ประสาหญิง เธอทั้ง ตบ และ ตีเขา
    ด่า ว่า ต่างๆ เรื่องที่ ต้อง อยู่ เพื่อ กันและกัน ห้ามทิ้งไปใหน ร้องหา คำสัญญา และ ต้องสู้ ไปด้วยกัน
    มันเป็น บทพิสูจย์ใจ ที่ ไม่มีคำว่าแพ้ ต้องสู้ เพื่อให้ได้ชัยของชีวิต ไม่จำเป็น ต้องเหมือนใคร
    การมีชีวิตอยู่ สู้อย่างคนมีอาการครบ32 มันได้เปรียบคนอื่น อีกมากนะท่าน
    มาเป็นกำลังใจ
     
  18. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    เมื่อ 10 กว่าปีมาแล้ว
    เคยช่วย ชายตาบอด ให้เขา ขึ้นรถเมล์ ที่ ป้ายรถเมล์หมอชิต
    เขาใช้ไม้นำทาง และ ปาก ก็ ขอโทษครับ ช่วยบอกทางหน่อยครับ
    คนตาบอดถามทางกลับบ้าน เรา จับแขนเขา แล้วถาม คุณจะไปใหน
    ผมจะไป รามอินทรา แถวสหฟาร์
    คุณมาทำไม ตรงนี้
    ผมนัดกับเพื่อนไว้ที่นี้ แต่ไม่เจอ
    ก็ได้ สนธนา ว่าเขาไม่ได้ ตาบอด แต่ กำเนิด เขารักษาบางอย่าง ตาเลยบอดสนิท
    เขามีอาชีพนวดกายภาพบำบัด ตอนที่มองไม่เห็นแรกๆ เขาพยามยามฆ่าตัวตายถึง 2 ครั้ง
    แต่ได้รับการช่วยชีวิต ทั้ง 2 ครั้ง ตอนนี้ ก็ยังคิดอยู่่
    เราตอนนั้น เลือดนักสู้ใง ด่าว่าเขาโง่ ไม่รักพ่อ แม่ เขาให้ชีวิตมา ต้องสู้ดิ ฆ่าตัวเอง หมายถึงกรรมหนักเหมือนฆ่าหัวใจพ่อแม่ เขาเลี้ยงเรามา อุตสาถนอมกว่าจะโต
    ก็ ปลอบเขา แล้ว ส่งขึ้น ปอ แล้วบอก กระเป๋ารถเมล์ช่วยส่งเขาลงป้ายที่เขาต้องการ
    ส่งแล้วก็ชุ่มชื้นหัวใจ จนถึง วันนี้เลยนะ
    ์์
    พอวันนี้ เข้า ใจ อารมณ์ที่คนอยากตาย เพราะก็เคยคิด เวลาเจอของจริง
    เดชะบุญ แค่ คิด
    ก็ เห็นพระ มาขอบิณฑบาตรเลย ชัด ๆ
    กราบโมทนาสาธุคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 กันยายน 2013
  19. กลางทาง

    กลางทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2013
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +702
    คนเราจะมีทุกข์หรือไม่มีทุกข์จะต้องหยุดคิดให้เป็นเพราะทุกอย่างเป็นสมมติบัญญัติ ท่านต้องฝึกมองทุกอย่างให้เป็นธาตุมองบ่อยๆมองเรื่อยๆ เมื่อเรามีปัญหาไม่ว่าหนักหรือเบาเราก็กำหนดในใจว่ามันเป็นเพียงธาตุจะไปสนใจอะไรกับธาตุ ธาตุมีทั้งวัตถุธาตุและนามธาตุเราจึงกำหนดทั้งรูปธรรมและนามธรรมเป็นธาตุได้หมด ทุกๆเรื่องที่คุณเจอให้พยามมองว่ามันเป็นธาตุทำทุกๆวันมองทุกๆวันว่ามันเป็นธาตุมันจะช่วยเพิ่มพลังของจิตเราให้เข็มแข็งขึ้น เวลามีปัญหาจะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างวิเศษซึ่งต้องลองทำ จงมองทุกอย่างให้เป็นธาตุ ถ้ามองเห็นทุกสิ่งเป็นธาตุเมื่อใดท่านก็จะหยุดคิดได้เมื่อนั้น หยุดคิดเป็นเมื่อใดก็หยุดทุกข์เมื่อนั้น
    หยุดคิดได้ก็หยุดทุกข์ได้
     
  20. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    เวลาที่เราเลือกอะไรในชีวิต เรามักจะคิดว่าเราเลือกสิ่งนั้นเพียงสิ่งเดียว แต่ในความเป็นจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น มันมีสิ่งที่ตามมามากมายมหาศาล สมมติว่าคุณตั้งใจไปทำธุระ แต่ระหว่างทางกลับได้เจอกับเพื่อนที่ไม่ไดเจอกันมานานแล้วพูดคุยกัน คุณอาจจจะไม่ได้ตั้งใจมาเจอเพื่อนคุณเลย แต่มันก็เป็นส่วนหนึึ่งของสิ่งที่คุณเลือก และบางครั้งมันก็มีความหมายมากกว่าสิ่งที่คุณตั้งใจเลือกด้วยซ้ำ อย่างคุณปรารถนาขอไปพระนิพพาน นั่นคือความตั้งใจเดียวของคุณ แต่สิ่งที่ตามมาอาจจะเป็นบททดสอบใจในชีวิตของคุณก็ได้ คุณอาจจะไม่ได้ตั้งใจที่จะถูกโกงหรือถูกเอาเปรียบ แต่คุณอาจจะเรียนรู้ความจริงของชีวิตผ่านการถูโกงและถูกเอาเปรียบก็ได้ คุณอาจจะเข้าใจว่าเรามีกรรมเป็นของตนทำกรรมไดไว้ก็ต้องได้รับผลของกรรมนั้น แล้วเลือกที่ทำดีตลอดชีวิตก็ได้ หลายครั้งที่คนเราพบสิ่งที่มีคุณค่าจากสิ่งที่เราไม่ได้ตั้งใจเลือก หรือสิ่งที่เราเกลียด เหมือนกับที่ไม่มีใครปรารถนาความทุกข์แต่มีหลายคนที่ได้ความรู้ที่มีค่าจากความทุกข์ ดังนั้นลองสังเกตให้ดีแม้สิ่งทีี่คุณคิดว่าผิดพลาดก็อาจจะเป็นสิ่งที่คุณได้เลือกเพื่อจุดประสงค์อื่นที่คุณอาจจะยังไม่รู้ก็ได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...