ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    รอติดตามอ่านอยู่ครับ

    fly_pigขอบคุณครับ
     
  2. ดับ

    ดับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +533
    รออ่านครับ อิอิ
     
  3. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    อนุโมทนาบุญค่ะ แสดงว่าเป็นตามกำลังศรัทธา หลวงพ่อที่วัดพนัญเชิงก็เป็นเช่นนี้ค่ะ เวลาไปกราบท่าน เราก็จะยืนที่หน้าประตูวิหาร มองจนกว่าท่านจะยิ้มให้ถึงจะกลับค่ะ บางวันก็นานกว่าท่านจะยอมยิ้ม (อันนี้ขอเล่าเฉพาะ ท่านที่มีศรัทธาและเข้าใจในเรื่องเดียวกันนะค่ะ)
    ยังรออ่านเหมือนเดิมค่ะ
     
  4. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    อ๊ากกกกกกกกก พิมพ์ไปตั้งเยอะแล้ว เนทหลุด เซ็งเลย ต้องพิมพ์ใหม่อีก เดี๋ยวขอไปพิมพ์ในไดอารี่ก่อน แล้วค่อยมาโพสดีกว่า เฮ้อ..
     
  5. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    sleeping_rb รออ่านค่ะ (smile)
     
  6. ดับ

    ดับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +533

    เน็ทหลุดคนอย่าหลุดนะครับ อิอิrabbit_run_away
     
  7. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    มาคอยอ่านครับ

    ส่งสัยยังพิมพ์ไม่เสร็จ rabbit_jump

    ขอบคุณครับ
     
  8. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    ขอบคุณครับ คุณ สงบระงับ

    โมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ เช่นกันครับ

     
  9. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    โมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ

    ดีจังเลยครับ รออ่านอยู่ ครับ

     
  10. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    Oops!!

    เอาใจช่วยครับ

    หากต้องการความช่วยเหลืออะไร บอกได้น่ะครับ เผื่อช่วยได้
    (ฮิ ฮิ)

     
  11. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    :) ต้องเอาใจช่วยครับ (ฮิ ฮิ)
     
  12. nahathai

    nahathai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2009
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +2,393
    เรียน คุณ Me,myself
    ติดตามอ่านทุกคอลัมภ์ของคุณค่ะ ติดยิ่งกว่านิยาย เล่ามาอีกนะคะ ทุกเรื่องก็โอเค ไม่เบื่อค่ะ อนุโมทนาค่ะ และที่สำคัญ ทำให้ดิฉันและครอบครัวใหญ่ทั้งในประเทศต่างประเทศ มุมานะในการปฏิบัติขึ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2011
  13. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ขอโทษทีค่ะ เมื่อวานประตูห้องที่บ้านลูกบิดมันเสีย โดนขังออกไม่ได้ ฮาฮา สารพัดจะงัด สุดท้ายต้องโทรเรียกช่างมาพัง แล้วก็เลยได้ซ่อมประตูห้อง กับ ประตูห้องน้ำด้วย ก็เลยยังไม่ได้มาโพสเลย เดี๋ยงยังไงวันนี้จะมาโพสนะคะ ขอออกไปทำธุระที่ธนาคารก่อน
     
  14. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณนะคะ มีหลายครั้งแล้วเหมือนกันที่อยากจะเลิกเขียน จริงๆตอนแรกแค่ต้องการมาถามเฉยๆ แต่ไปๆมาๆไหงมากลายเป็นงี้ไปได้ก็ไม่รู้ เขียนมากเล่ามากคนที่ไม่รู้ ไม่ชอบจะหาว่าโม้เปล่าก็ไม่รู้ค่ะ ถ้าอยู่เฉยๆก็ดีไป

    ไปถามหลวงพ่อก็แล้ว พระอาจารย์ก็แล้ว องค์พระศาสดาก็แล้ว ว่าลูกจะเลิกเขียน มาเขียนยังงี้ท่านว่าอะไรหรือเปล่า ท่านก็บอกว่าให้เขียนได้เพราะ
    1. เราก็ได้ช่วยคน ให้ธรรมมะเป็นทานดีกว่าทานทั้งปวง คนที่ไม่มีหนทางไป ก็จะได้ใช้ปัญญาในการแก้ปัญหา
    2. สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ตัวดิฉันก็ต้องปฎิบัติตลอดแล้วก็ต้องศึกษาหาความรู้ไปเรื่อยๆ เพราะงั้นจะหาอะไรมาเขียนอีกล่ะ อันนี้เป็นสิ่งที่องค์ตถาคตต้องการมากกว่า เพราะทำให้ดิฉันต้องควบคุมตัวเอง ต้องปฎิบัติไปตลอด จะได้ไม่ขี้เกียจ (ว่าแล้วเชียว ต้องมาในรูปนี้ อิอิ)
    สรุปก็ให้เขียนต่อไปได้ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่จะไม่อยากเขียนขึ้นมาอีก ไม่เห็นมีใครมาแบ่งปันประสบการณ์กันบ้างเล้ย เหมือนบ้าอยู่คนเดียวไงไม่รู้แฮะ
     
  15. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    "สรุปก็ให้เขียนต่อไปได้ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่จะไม่อยากเขียนขึ้นมาอีก ไม่เห็นมีใครมาแบ่งปันประสบการณ์กันบ้างเล้ย เหมือนบ้าอยู่คนเดียวไงไม่รู้แฮะ<!-- google_ad_section_end --> "
    อ้าว เป็นงั้นไป อิ อิ
     
  16. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    ก็ยังไม่เคยไปในสมาธิได้เลยไงค่ะ ก็เลยไม่ทราบว่าจะเล่าได้อย่างไร ถ้ามีก็จะเล่าค่ะ เพราะเวลาเราเข้าสมาธิก็มีแต่ความว่างเปล่าค่ะ ว่างจริงๆ นั่งได้เป็น30นาที-1ชม.เรื่องเข้าฌานขั้นไหนๆก็ไม่เข้าใจเลยค่ะ บางทีเขาบอกว่า ฌาณขั้น1 -2-3-4 ก็งงอ่ะค่ะ รู้แต่ว่าช่วงนั่งสมาธิรับรู้แต่ความปิติ สบายตัว สบายใจแค่นั้นเองค่ะ ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลย ตอนที่ไปขึ้นครูที่"วัดประดู่ทรงธรรม"ครั้งแรก นั่งครั้งแรกก็นั่งได้เลย แขนขาหายหมด ตัวก็หาย เหลือแต่จิตดวงเดียว แถมโดนยุงกัดก็ไม่รู้ตัว มีแต่น้ำตาแห่งปิติไหลออกมาค่ะ เห็นครั้งนั้นในสมาธิ คือ เห็นชายจีวรปลิวไสวอยู่ใกล้ๆค่ะ เมื่อถามครูบาอาจารย์ท่านก็มีคำอธิบายให้หายสงสัยค่ะ
    และอีกครั้งคือ ไม่ได้ตั้งใจนั่งสมาธิ(คิดว่าสวดมนต์เสร็จก็จะเข้าสมาธิค่ะ)เป็นคนที่ชอบสวดมนต์มากสวดเยอะหลายบทและค่อนข้างนาน เมื่อสวดชินบัญชรถึงรอบที่7(ออกเสียงโดยไม่ต้องดูหนังสือค่ะ หลับตาสวด) จิตเป็นสมาธิค่ะ หลุดไป เห็นพระภิกษุ3 รูปกำลังถือตาละปัตร สวดมนต์เสียงดังมาก แต่คนละบทกับที่เราสวด ตกใจค่ะ เลยต้องตั้งสติใหม่ (เป็นคนที่ตั้งสติไม่ค่อยได้เวลาภาพโพล่มาในสมาธิแถมวันนั้นก็มีเสียงดังมาก )
    แต่ได้ถามครูบาอาจารย์แล้วท่านก็มีคำอธิบายให้เข้าใจค่ะ
    นี่เล่าแล้ว คุณMe,myself และท่านอื่นๆ เล่าบ้างนะค่ะ ถือว่าเป็นการแชร์ประสบการณ์กันนะค่ะ อนุโมทนาบุญค่ะ
     
  17. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    ตั้งใจว่าจะเริ่มฝึกมโนยิทธิ แต่ไม่ค่อยชัดเจนถึงวิธีการฝึกในครั้งแรกและอุปกรณ์การฝึกค่ะ พอจะมีคำแนะนำบ้างไหมค่ะ (ฝึกด้วยตัวเอง )หรือเราต้องไปเริ่มที่วัดท่าซุงดีกว่าค่ะ
    อุปกรณ์ในลิงค์ ของหลวงพ่อฤษีลิงดำค่ะ
    รบกวนให้คุณMe,myself แนะนำในฐานะรุ่นพี่ เพื่อเป็นวิทยาทานด้วยค่ะ
    อนุโมทนาบุญอีกครั้งค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2009
  18. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    กลับมาแล้วค่ะ มาเล่าต่อ คราวนี้ยาวหน่อย

    บันทึกการทำสมาธิวันที่ 5 พ.ค. 52
    วันนี้พอเข้าสมาธิก็เห็นตัวเองยืนหันหน้ามาแลบลิ้นปลิ้นตาหลอก เอาละเหวย มารมาผจญซะแระ นานแล้วนะที่มารไม่มาเนี่ย เชอะ..หลอกได้หลอกไป ไม่สนใจหรอก ไปหาหลวงพ่อดีกว่า ว่าแล้วก็ตรงดิ่งไปโบสถ์หลวงพ่อ เจ้ามารก็ตามหลอกอยู่ไม่ห่าง พอเข้าไปในโบสถ์เจ้ามารก็เข้าไม่ได้ก็เลยหายไป หลวงพ่อก็ทัก<O:p
    หลวงพ่อ – ไง มารผจญเหรอวันนี้<O:p
    ดิฉัน – ค่ะ นานมากแล้วที่ไม่เจอมารมารังคราญ<O:p
    หลวงพ่อ – แล้วทำไมวันนี้ถึงนั่งสมาธิได้ละ<O:p
    ดิฉัน – ก็ทำสมาธิทุกวันนะคะหลวงพ่อ แต่ว่าวันก่อนๆน่ะ นอนทำสมาธิ<O:p
    หลวงพ่อ – ก็ถึงได้ถามไงว่าทำไมวันนี้ถึงนั่งได้<O:p
    ดิฉัน – ก็วันนี้ไม่ค่อยเหนื่อย แล้วก็ไม่ดึกมากค่ะ ก็เลยนั่งสมาธิ แล้วมันบุญไม่เท่ากันเหรอคะ นั่งสมาธิกับนอนสมาธิเนี่ยค่ะ<O:p
    หลวงพ่อ – มันก็เท่ากันแหละ ที่อยากให้นั่งน่ะ มันจะได้ไล่ตัวขี้เกียจออกไปบ้าง<O:p
    ดิฉัน – อ๋อ ค่ะ เดี๋ยวลูกขึ้นไปหาพระอาจารย์กับองค์พระศาสดาก่อนนะคะ<O:p
    หลวงพ่อ – ตามสบาย<O:p
    ดิฉัน – งั้นกราบลาหลวงพ่อชั่วคราวก่อนค่ะ <O:p
    <O:p
    หลังจากลาหลวงพ่อก็ขึ้นไปหาพระศาสดากับพระอาจารย์พร้อมทั้งกำหนดจิตเรียกหาไปด้วย (เป็นปกติของดิฉันเองที่ต้องเรียก จะได้รู้ว่าพระศาสดาอยู่ตรงไหน) กะว่าเดี๋ยววันนี้จะขอบารมีท่านไปเที่ยวชมสวรรค์สักหน่อย แป๊ปเดียวก็เห็นพระศาสดากำลังพาเหล่าสาวกเหาะไปตามอากาศ ก็เลยได้ไปถามว่า ท่านจะไปไหน ท่านก็บอกว่าจะไปโปรดเวไนยสัตว์ที่เขาไกรลาศ ให้เราตามไปด้วย ก็เลยบอกท่านว่างั้นขอเกาะบารมีท่านตามไปด้วย ระหว่างที่เหาะไปพระอาจารย์อนุรุททะก็เหาะมาข้างๆ ก็เลยได้ถามพระอาจารย์ว่า ทำไมต้องไปที่เขาไกรลาศ ที่นั่นมีอะไรดีเหรอคะ เพราะเห็นพระอาจารย์ก็เพิ่งไปบำเพ็ญศีลมา พระอาจารย์ก็บอกว่า ก็เป็นที่กว้างใหญ่ไพศาล ดินแดนอุดมสมบูรณ์ เงียบสงบ ศักดิ์สิทธิ์ มีผู้ไปบำเพ็ญศีลมากมาย<O:p
    <O:p
    ไม่นานก็ถึงป่าใหญ่ ต้นไม้มากมายรกครึ้ม ทิวทัศน์สวยงามมากบรรยายไม่ถูก องค์พระศาสดาก็ไปหยุด ณ โคนต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง (ต้นอะไรไม่รู้ แต่ว่าต้นใหญ่มากกกกก) รอบๆเขียวชอุ่มชุ่มชื้นไปหมด อากาศร่มเย็นสบายไม่ร้อน มีพวกแมลง ผีเสื้อ บินว่อนไปหมด ดูแล้วสบายตาเพลิดเพลินใจดีจัง องค์พระศาสดาก็ประทับ ณ โคนต้นไม้นั้น ส่วนพระสงฆ์สาวกก็ประทับอยู่ใกล้ๆ ดิฉันก็อยู่ออกมาห่างๆ (รอบนอก นั่งสังเกตการณ์) แต่ว่าพระศาสดามีเมตตาให้พระอาจารย์คอยนั่งคุมอยู่ด้วยใกล้ๆ พระศาสดาถามพระอาจารย์ว่า ณ ที่แห่งนี้มีผู้บำเพ็ญศีลอยู่ใช่หรือไม่ พระอาจารย์บอกว่า มีอยู่พอสมควร หากรู้ว่าพระองค์เสด็จมา เดี๋ยวก็คงได้มาเข้าเฝ้า<O:p
    <O:p
    จริงอย่าที่พระอาจารย์ว่า ไม่นานหลังจากนั้นก็เห็นฤาษีหนวดยาวนุ่งห่มผ้าลายเสือถือไม้เท้าเหาะลงมา แล้วก็ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า พร้อมทั้งสนทนากัน ระหว่างนั้นดิฉันก็นั่งมองโน่นมองนี่ แล้วก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยพร้อมทั้งถามอะไรไร้สาระกับพระอาจารย์ไปเรื่อย ไม่ค่อยได้สนใจว่าองค์ตถาคตสนทนาอะไรกับท่านฤาษี จนตถาคตต้องเตือนว่า<O:p
    <O:p
    ตถาคต - ....(ชื่อดิฉัน)....ตั้งใจฟังหน่อย รู้สึกว่าจิตเจ้าจะฟุ้งซ่านไปแล้วนะ กำหนดจิตให้ดีๆ<O:p
    ดิฉัน – ค่ะ ตถาคต<O:p
    พอท่านเตือนสติ ก็เลยทำให้ท่านฤาษีหันมามองด้วยความแปลกใจ พร้อมทั้งถามว่า<O:p
    ฤาษี – นางน้อยผู้นี้เป็นใครกัน<O:p
    ตถาคต – เป็นมนุษย์โลก เป็นลูกศิษย์เราเอง
    ฤาษี – เหอะ เป็นมนุษย์โลกเรอะ แล้วทำไมมาที่นี่ได้<O:p
    ดิฉัน – เป็นมนุษย์ค่ะ<O:p
    ฤาษี – มนุษย์โลก ไม่มีใครสามารถมาที่นี่ได้หรอก แล้วเจ้ามาได้ยังไง<O:p
    ดิฉัน – ก็เกาะบารมีองค์พระศาสดามาค่ะ<O:p
    ฤาษี – ให้เกาะบารมีมาก็เถอะ ถ้าเจ้าไม่เก่งจริง เจ้าก็มาไม่ได้หรอก เจ้าก็ต้องมีวิชาพอตัว<O:p
    ดิฉัน – ก็ไม่ได้เก่งอะไรหรอกค่ะ <O:p
    ฤาษี – อย่างนี้ข้าชอบ มาเป็นลูกศิษย์ข้าไหม เดี๋ยวจะสอนวิชาให้ อิทธิฤทธิ์ทั้งหลาย<O:p
    ดิฉัน – มีไปทำไมคะ อิทธิฤทธิ์ ไม่เอาค่ะ จะไปนิพพาน<O:p
    ตถาคต – ท่านเถอะ ทำไมถึงไม่ละสังขารสักที น่าจะหาทางไปนิพพานได้แล้ว หนทางที่ท่านปฎิบัติอยู่ ไม่ได้ทำให้ท่านหลุดพ้นเลย<O:p
    ฤาษี – ก็อยากจะไปเหมือนกัน แต่ว่าก็ยังหลงติดกับอิทธิฤทธิ์อยู่<O:p
    ระหว่างนั้น ก็เห็นบรรดาฝูงลิงห้อยโหนมาตามต้นไม้ ต่างถือผลไม้มาด้วยมากบ้างน้อยบ้าง ลิงจ่าฝูงตัวใหญ่กว่าทั้งหมด หิ้วกล้วยมาด้วยเครือใหญ่เชียว แล้วก็เอามาถวายให้กับองค์พระศาสดา นอกจากกล้วยก็มีผลไม้อะไรไม่รู้เป็นพวงๆสีแดง ลักษณะคล้ายลิ้นจี่แต่ไม่ใช่ สีสวยเชียว พวกลิงก็พากันเอามาถวายแก่พระศาสดา องค์พระศาสดาก็ให้พรกับลิงเหล่านั้น (ขนาดลิงยังรู้จักทำบุญทำกุศลเล้ย แล้วเราเป็นคนจะให้น้อยหน้าได้ไง)<O:p
    <O:p
    สักพักก็เห็นมีฤาษีอีกสองตนเหาะตามมาสบทบ ต่างฝ่ายต่างก็ทักกัน<O:p
    ฤาษีตนที่สอง – อ้าว ท่านวิมุตตะฤาษี ท่านก็มาแล้วเรอะ ไม่ชวนกันเลย<O:p
    ฤาษีวิมุตตะ – ท่านโคกุตะระฤาษี เราก็เพิ่งมาไม่นานนี่แหละ แล้วท่านฤาษีสิงห์สติก็มาด้วยเรอะ(ชื่อฤาษีแต่ละคนนี่ เล่นเอามึน กว่าจะกำหนดจิตให้นึกได้)<O:p
    ฤาษีสิงห์สติ – ก็มาเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าน่ะซี<O:p
    <O:p
    จากนั้นทั้งหมดก็ได้เข้าเฝ้าองค์พระศาสดา แล้วพระศาสดาก็ได้สั่งสอนแล้วชี้แนะแนวทางแก่ฤาษีทั้งสาม<O:p
    <O:p
    ตถาคต – ท่านวิมุตตะ ท่านบำเพ็ญเพียรมานานมากแล้วหลายร้อยหลายพันปีแล้ว แต่ก็ยังไม่หลุดพ้น เราอยากให้ท่านละสังขารนี้ซะ เรื่องอิทธิฤทธิ์ทั้งหลายก็ให้ละไว้ ไม่อย่างนั้นท่านจะไม่มีหนทางพ้นทุกข์ ท่านจะไม่รู้วิธีพ้นทุกข์ที่แท้จริง ส่วนท่านโคกุตะระ เราแนะนำให้ท่านลดความมีทิฐิลง อย่าได้ยึดติดกับสิ่งที่เป็นอยู่ เพราะสิ่งที่ท่านยึดติดไม่ได้ช่วยให้ท่านหลุดพ้นไปได้เลย ขอให้ท่านนำไปพิจารณา สำหรับท่านสิงห์สติ เราอยากให้ท่านลดความโมโหโกรธาลง ท่านยังมีความโกรธอยู่มาก ยังละไม่ได้ ท่านต้องฝึกใจของท่านไม่ให้มีความโกรธต่อทุกสิ่ง หากว่าท่านทำไม่ได้ การปฎิบัติของท่านก็ไม่มีผล ท่านก็ต้องทนทุกข์อยู่กับความโกรธไม่มีทางหลุดพ้น ขอให้พวกท่านทั้งสามจงนำกลับไปปฎิบัติเพื่อการหลุดพ้น เพื่อตัวของท่านเอง<O:p
    <O:p
    ฤาษีทั้งสาม – สาธุ พวกข้าพเจ้าจะปฎิบัติตามคำสอนของพระองค์<O:p

    กำลังเพลินๆแล้วก็เห็นพวกนางไม้ออกมาร่ายรำ สวยงามเชียวพร้อมทั้งโปรยดอกไม้ไปทั่ว ดิฉันก็คิด เอ๊...มาร่ายรำอย่างนี้ ต่อหน้าองค์พระศาสดาแล้วก็เหล่าสาวก เป็นการสมควรหรือเปล่านะเนี่ย แล้วไม่นานก็เห็นพวกเหล่ารุกขเทดา นางไม้ อีกจำนวนหนึ่ง แต่งตัวสวยงาม สีสันตระการตา ทยอยกันนำอาหารเข้ามา มองดูก็รู้ว่าเป็นอาหารทิพย์ ข้าวสวยนี่ควันขึ้นกรุ่นเลย แล้วก็เห็นมีเหมือนแกงกะทิ แล้วมีอาหารอะไรไม่รู้สีเหลือง มองดูเหมือนขนมขี้หนูในเมืองมนุษย์ แต่ไม่ใช่ขนมขี้หนู เพราะในจิตมันบอกว่าเป็นอาหารคาว แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร เหอ เหอ ก็อาหารทิพย์ ดิฉันจะไปรู้จักได้ไง แล้วก็เห็นมีขนมเหมือนขนมต้มขาวต้มแดงของเรา แต่ว่าอันนี้มีสีสันมากมายมาก ทั้งเหลือง ชมพู เขียว ขาว ม่วง ฯ อูว์..สีสรรสวยงามมากกกกก โหย..วันนี้เห็นอะไรก็เป็นสีสวยสดงดงามไปหมด บุญจริงจริ๊ง เหล่ารุกขเทวดานางไม้ ก็ได้พากันถวายอาหารแด่พระศาสดาพร้อมทั้งเหล่าสาวกทั้งหมด<O:p
    <O:p
    เพลิดเพลินแก่เวลา คิดว่าน่าจะกลับได้แล้ว เพราะรู้สึกว่าวันนี้นานเป็นพิเศษ พระศาสดาก็รู้ได้ในทันที ก็เลยสั่งให้พระอาจารย์อนุรุททะพาเรากลับมาส่ง ก็ตามพระอาจารย์มา พระอาจารย์ก็พามาส่งที่โบสถ์หลวงพ่อแล้วท่านก็กลับ เราก็ได้เข้าไปลาหลวงพ่อแล้วก็ออกจากสมาธิ จากนั้นก็อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลเป็นปกติ<O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 พฤษภาคม 2009
  19. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    อนุโมทนาบุญค่ะ อันนี้ที่ถามก็รอคำตอบจริงๆค่ะ
     
  20. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0

    ไม่สามารถแนะนำได้นะคะ เพราะว่าไม่เคยไปฝึกที่วัดหรือที่ไหนๆ คือมันเป็นไปเองโดยอัตโตมัติ ก็เลยบอกไม่ได้น่ะซีคะว่าคนที่เขาเริ่มฝึกตั้งแต่ยังไม่เคยเป็นเลยเนี่ย มีลักษณะอาการยังไง สำหรับดิฉันมันเลยมาไกลแล้วค่ะ หากว่านึกอยากจะรู้ อยากจะถาม ก็ทำได้ทันที จิตเป็นสมาธิได้ในทันทีทันใด ทุกที่ทุกเวลา ขับรถอยู่ก็ทำได้ เคยโดนพระศาสดาทดสอบจิตตอนขับรถมาแล้ว

    ดิฉันว่าน่าจะลองไปเริ่มที่วัดท่าซุงหรือไม่ก็บ้านสายลมก็ได้ค่ะ ถ้าจะฝึกด้วยตัวเอง ก็เห็นมีคนเอาลิงค์มาแนะนำให้ ถ้าคิดว่าตัวเองน่าจะทำได้ ก็ลองดูก็ได้ค่ะ ฝึกเป็นยังไงก็มาเล่ากันฟังบ้างนะคะ แต่เท่าที่คุณเล่ามาเรื่องที่เคยไปฝึกสมาธิที่วัดแล้วเห็นเหตุการณ์ต่างๆ ดิฉันว่าคุณก็น่าจะฝึกได้ง่ายนะคะ อนุโมทนาค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...