♥ มาแต่งกลอนแก้เหงากันนะ ♥

"ใหม่ใหม่ก็งี้แหละ"เขาว่าไว้ ==?
อ่านกระทู้ ไม่รู้จัก มักเบื่อเป็น
แม้ไม่เห็น เพื่อนหลาย ต่างหายไป
ข้อดีไข จะได้แปลก แตกรู้เติม ^_^

กลับที่เดิมเพลินกวีดังเก่าก่อน
ลาพักผ่อนว่างไว้ผ่านนานหลาย
วันนี้กลับเข้ากลอนลองทักทาย
มิตรสหายทั้งหลายสวัสดี Y___(^_^)___Y

 

ไม่ค่อยเขียนเวียนหัวคิดไม่ออก
จึงขอบอกยามว่างกลับอยากเขียน
เหมือนเคยทางเดินคล่องต้องคิดเพียร
ไม่อ่านเรียนคงลืมอรรถรส....อิอิ

 

"ตั้งความเห็นให้ตรง"

ดีชั่วล้วนกรรมใครกำหนด
ตั้งเป็นกฎ แห่งกรรม ทันสมัย
เทพหรหม อินทรเจ้า พระองค์ใด
ลิขิตให้ แตกต่าง กรรมนำพา

ต่างความเชื่อ ต่างกระทำ ตามที่เชื่อ
กระทำเพื่อ พระเจ้าเหนือ อยู่แห่งไหน
ให้หลักการ ดีละชั่ว เป็นหัวใจ
แต่ไฉน ต่างกระทำ นำบิดเบือน

เช่นสงคราม พิทักษ์ ในหลักศาสน์
ที่บังอาจ เข่นฆ่า ไม่ปราศรัย
เพื่อพระเจ้า หรือเพื่อ สมใจใคร
หลักศาสน์ใหญ่ เป็นหัวใจ ไม่นำพา

บทจะรับ ผลของกรรม ตามวิบาก
ให้ตกยาก ทุกข์เข็ญ ตามยถา
เรียกร้องถาม ยุติธรรม วิงเวลา
ลงโทษา แต่ตน ผู้สร้างกรรม

ทำดีได้ ย่อมได้ดี ท่านกล่าวไว้
ทำชั่วไซร้ ได้ความชั่ว สมเหตุผล
เมื่อสร้างกรรม รับวิบาก ติดตามตน
ให้ได้ยล ทุกข์สุข คละเคล้ากัน

สรุปดีชั่ว ตกแต่ง กรรมตามเชื่อ
กระทำเพื่อ เชื่อนั้น สมบูรณ์ผล
หากตั้งเชื่อ ความเห็นชอบ แต่สุขยล
ปัญญาสน ใฝ่แต่ดี มีสุขเอย.

 

หลับตาพักเว้นวรรควางวันก่อน
ไร้บทกลอนโต้คารมอย่างเคยเห็น
ใช้ชีวิตในสัมมาเคยบำเพ็ญ
ก็อยู่เย็นวิถีพุทธบูชา

 

คงเป็นไปตามวัยที่หมุนผ่าน
ธุระงานว่างเวียนเพียรศึกษา
หมั่นฝึกฝนดูลมภาวนา
สติมาคล่องแคล้วไม่แบ๊วมา.....

 

ล่องคล่องแคล่วแคล้ว.......คลายคลา
คงคร่ำครวญคลาดครา......เคลื่อนคล้อย
เว้นวรรคว่าไว้เวลา............วันว่าง
กลับร่างร่วมร่ายร้อย...........กวี

วัยทวีวันผ่านไร้..................กำลัง
สรรพสิ่งทนทานผุพัง..........ฤาได้
ย่อมแตกต่างแยกยัง...........ยากอยู่ นานนา
วิถีพุทธตนทำไว้.................ยิ่งย้อน เย็นแฮ
...................................................................


ความหมายจาก พจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน
คลา
ก. เดิน, เคลื่อน, คล้อย.

ครา
[คฺรา] น. ครั้ง คราว หน.

 

เป็นไปแปลเปลี่ยนป้วน......เปื้อนปลาย
ปรับเปรี่ยงปรุงโปรยปราย...ป่านป้าง
หอมกลิ่นพุทธาราย............เรียงรั้ว
เพียงแก้อดทนบ้าง.............ที่ร้อน กลับเย็น

 

ลองแปลดู
แปลอยากเป็นเย็นกลับร้อน.........อดทน
เปลี่ยนป่วนทุรายลน...................อยากย้อน
เปรียบพุทรากลิ่นดล..................จะเด็ด กินฤา
เพียงหยุดอยากแก้ร้อน...............เปลี่ยนเร้น เย็นตน

 

อบอวลล้วนกลอนกานท์
กลิ่นหอมนานร่าเริงรื่น
ท่านขุนสุดยอดตื่น
แปลได้ลื่นเข้าใจเป็น...55555

 

ตัวตนผู้อยู่ยั้ง...................อยากเผา
อยู่กามหมกคือเขลา........มุ่นแท้
รูปรสกลิ่นเสียงเรา...........สัมผัส หลงเอย
สวยสดเสนาะโสตแม้.......ทั่งรู้ ใฝ่ปอง

อยากลองคือกามะ...........ตัณหา
เป็นหนึ่งกิเลสา................หลากร้อย
มายาหลอกกังขา.............ก็เปล่า ฉงนเคย
ใจกลับเลยไถลพร้อย.......เพลี่ยงพล้ำ ประจำ

ใจธรรมรักษ์ฉุดไว้............เพียงเซ
กองร่วงลงพื้นเท..............บ่ได้
ปัญญาพิศลังเล...............จึงหยุด ยังอยู่
ขีดใคร่ครวญนี้ไว้.............จารึก คุณ-ธรรม

ยังรักษ์ธรรมรักษ์ไซร้.......ครองตน
ตนยิ่งเตือนตนดล............จึ่งได้
ปัจจัตตังทราบยล............จำเพาะ ตนเฮย
ธรรมเฉลยทราบแท้ให้.....ชื่นสุข ตนแฮ.

...................................
ความหมายจาก พจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน
หมกมุ่น
ก. ฝังใจมุ่งไปทางเดียว เช่น เขาหมกมุ่นอยู่กับงาน.

 

หลง กิเลส ว่าร้าย........เหลือทน
โลภ โกรธ ทำลายตน...สุดล้ำ
สติพิจแยบยล..............เฝ้าฝึก
ล้อเล่นยังอ่อนกล้ำ.......สู่สู้...ใจตน


ปัจจัตตังจึ่งรู้..............ด้วยตน
บอกไปให้กังวล.........เหลือเชื่อ
เพียงเทียบเคียงยินยล.พูดด้วย พบเจอ
บุญมาเกี่ยวพันข้อง.....ว่าได้ เข้าใจ

 

หาเรื่องคุยเล่าให้...........เพลินเพลิน
มิใช่เหตุบังเอิญ..............เกี่ยวข้อง
บุญมาพบเจอเชิญ..........สนท-นาเฮย
เพียงเอ่ยเปรยอย่าจ้อง....จดจิ้ม พิมพ์ความ

อันวจีเอ่ยเอื้อม..............ดวงดาว
จักรวาลแพรวพราว........อาจคว้า
จินตนายืดยาว...............สรรเอ่ย นานา
เพียงแต่ลมฟากฟ้า........บ่ได้ กระทำ

กวีกลอนลึกล้ำ..............เพียงลม
ผสมจิตจินต์จล.............หวั่นให้
ครากระทำระทม............ทุกข์ทับ
งานหนักผลัดผัดไว้........ตกต้อง แต่เตียง

กวีเรียงคัดให้.................คือคำ
อันส่วนกระทำนำ............ผลิตแท้
ทางควรเหมาะใดกรรม....ปัจเจก ชนเฮย
ดำริชอบตอบแก้.............เริ่มมรรค เหมาะทาง.

มีเงินอย่าซื้อชั่วช้า..........เมามัว
ปฏิบัติศีลใส่ตัว...............มั่นไว้
พอเพียงอยู่อย่าพัว..........พันพาล
เหลือแผ่ไพศาลไซร้........ประพฤติ ทนธรรม

 

เพียงบุญหนุนว่าได้............ดูดดึง
คนดีมาหาถึง.....................รับเพื่อน
ผีเห็นผีมองจึง...................รู้กัน เท่าเทียม
เขียนออกเป็นที่เพี้ยง.........เฉกเช่น ทำจริง....


เหนื่อยกายหายว่าได้.........นอนเตียง
หัวถึงหมอนได้เพียง..........หลับไหล
เวลาหดหายแล้วเกลี้ยง.....พักนา
ลุกขึ้นมาต่อไฟส์..............งานเวียน วนทำ

 

หากเหนื่อยนัก ขอจงหยุด พักซะก่อน
อย่าใจร้อน รีบไปเดี๋ยว ไม่เข้าที
พักก็ดี มีแรงแล้ว สู้ต่อไป.... (คุ้นๆ ^_^!)

หากกายเหนื่อยพักแล้ว...........ดูดี
ชีพชื่นกายแรงมี.....................ต่อได้
เวลาหดหายวิธี.......................มีอยู่
แกะถ่านออกนอกไซร้..............หยุดได้ เวลา ^____^

 

วิถึทางว่าแก้.........เวลา
ท่านขุนชี้บอกว่า....แกะถ่าน
หยุดเครื่องเวลามา.เดินต่อ เหมือนเดิม
ทำเอาขำยิ้มจ้าน.....แจ่มแจ้ง แก้มตุ้ย..

 

หัวเราะกันดีกว่าทําหน้าเศร้า
มัวหงอยเหงาหมกมุ่นใจขุ่นหนอ
เลือดลมเดินอายุยืนกว่าหน้างอ
รู้แล้วก็หัวเราะให้สุขใจเลย

 

ใครเค้าว่าหัวเราะต่ออายุ
ใครเค้าระบุจิตได้ให้แจ่มใส
ใครเค้าบอกเลือดแล่นสูบฉีดไว
ให้ใครใครร่วมหัวเราะเพาะกายา....

 

มาหัวเราะอย่าเศร้า..................หงอยเหงา
อายุยืนสุขเราเขา....................อย่างนั้น
หัวเราะแจ่มจิตขาว..................เลือดแล่น ลมเดิน
หัวเราะเพลิน"ฮะ"สั้น................แต่ห้า เสียงยาว (ห้า=ฮ่า)

ฮะๆ ฮ่าๆ ฮะห้า .......................มาเรียง
คำฮะออกคอเพียง...................เปล่งสั้น
หาความเท่าเทียบเคียง............คำเปล่ง ออกมา
ตอบครึกครื้นขำขั้น..................กว่าอิ อิไง (อิๆ < ฮะๆ < ฮ่าๆ )

หัวเราะฮ่าฮ่านั้น......................จำเบรค
หยุดเมื่อหาขำเหตุ..................บ่ได้
ขำเลยจะลดเกรด....................เบรคใส่ "เอิ้ก"คำ
ขำหยุดหัวเราะไซร้.................ใส่เอิ้ก เอิ้กเอย (อิๆ < ฮะๆ < ฮ่าๆๆๆๆๆ...เอิ้ก ๆ)
...........(คนแต่งโคลงเครียดนะเนี่ย ^_^! 55555+).............

 

สุดยอดคะว่าได้...............อ่านโคลง
หลากหลายรูปจรรโลง.....แบบต่าง
ฝีปากเอกอ่านโปร่ง..........ตรงแน่ว สื่อสาร
เข้าใจกระจ่างช่าง.............ชมได้....ท่านขุน.....