คลังเรื่องเด่น
-
รักษาใจให้อยู่กับพระนิพพาน คือ การฝึกตัดกิเลสโดยอัตโนมัติ
อย่าลืมว่ามโนมยิทธิสำหรับพวกเราก็คือโลกียอภิญญา ถ้าเรารวบรวมความมั่นใจได้เมื่อไรก็ได้เมื่อนั้น ก็จะได้ตอนนั้น ก็จะได้เดี๋ยวนั้น แต่ในขณะเดียวกันถ้าศีลบกพร่องเมื่อไรก็จะเสื่อม ก็จะคลายตัวไป เรามั่นใจใหม่เมื่อไรก็ได้อีกเมื่อนั้น
เรื่องของอภิญญาโลกีย์ก็เป็นอย่างนี้ ถามว่าในเมื่อเป็นอภิญญาโลกีย์ ทำไมถึงไปนิพพานได้ เพราะว่าตอนช่วงนั้นครูฝึกจะสอนให้เราตัดกิเลสให้วางกำลังใจเราเทียบเคียงพระโสดาบัน พระโสดาบันแปลว่า ผู้เข้าถึงกระแสพระนิพพาน เราก็เลยไปนิพพานได้ แต่ของเราไปได้แค่ชั่วคราวถึงเวลาเขาไล่กลับ เขาไม่ให้อยู่หรอก
เพราะฉะนั้น..ทำเอาไว้เถอะ เพราะถ้าหากว่าเราทำมโนมยิทธิได้แล้วให้เกาะพระนิพพานโดยตรง ให้เกาะพระพุทธเจ้าบนนิพพานโดยตรง อันนั้นเป็นวิธีตัดกิเลสโดยอัตโนมัติที่สุด รู้สึกว่าจะโกรธใครวิ่งเข้าไปกราบพระบนนิพพาน รู้สึกว่าราคะเกิดก็วิ่งไปกราบพระบนนิพพาน ถ้าหากว่าราคะ โลภะ โทสะ โมหะ ขึ้นอยู่กับตัวของเรานี้ไม่มีจิตไปปรุงแต่ง กิเลสเจริญงอกงามไม่ได้ ก็จะเฉาตายไปในเวลาอันรวดเร็วไม่เกินนาที สองนาที ถ้าเราทำอย่างนี้บ่อย ๆ จะเป็นการตัดกิเลสอัตโนมัติ ถ้าเคยชินจะเป็นพระอรหันต์ไปเลย... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๗ -
"ไฟกิเลสตัณหา ไหม้ข้ามภพข้ามชาติ" (หลวงปู่สิม พุทธาจาโร)
"ไฟกิเลสตัณหา ไหม้ข้ามภพข้ามชาติ"
" .. หลวงปู่เทศน์สอนเรื่องการดับไฟในใจว่า "กิเลส คือไฟราคะ โทสะ โมหะนี้แหละ มันเป็นของร้อน" ร้อนยิ่งกว่าไฟธรรมดา "ไฟธรรมดาอย่างไหม้ที่สุด ก็ให้ชีวิตผู้นั้นแตกดับไป" ก็หยุดแค่นั้น
แต่ว่า "ไฟราคะ ไฟโทสะ ไฟโมหะ ไฟอวิชชา ตัณหา มานะทิฏฐิ" ไฟอันนี้ไม่หยุดแค่นี้ "จะต้องไหม้จากภพนี้ ชาตินี้เดี๋ยวนี้ เป็นต้นไป จนต่อเนื่องไปภพใหม่ ชาติใหม่ก็ตามไปไหม้" .. "
"ธรรมประวัติ"
หลวงปู่สิม พุทธาจาโร -
การทรงให้เป็นฌานได้ง่ายๆ เขาทำกันแบบนี้ / พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
นี่การที่ทรงให้เป็นฌานได้ง่ายๆ
เขาทำกันแบบนี้ นี่เขาทำกันแบบนี้ นี่ตามแนวที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนให้พยายามกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก ต้องฝืนใจกันนิดๆ
จับลมให้ครบสามฐาน เวลาหายใจเข้าลมกระทบจมูก กระทบหน้าอก กระทบศูนย์เหนือสะดือนิดหน่อย ที่ท้องน่ะ
กระทบข้างในไม่ใช่ข้างนอก เวลาหายใจออกลมกระทบท้อง กระทบหน้าอก กระทบจมูกหรือว่าริมฝีปาก ถ้าคนริมฝีปากงุ้มก็กระทบจมูกไม่ชนริมฝีปากเพราะริมฝีปากหลบลม ถ้าริมฝีปากเชิดขึ้นมา ลมกระทบริมฝีปาก เวลาหายใจ ปล่อยหายใจตามแบบสบายๆอย่าไปบังคับให้สั้นหรือยาว ให้แรงให้เบา ไม่เอาอย่างนั้น"....
คือทั้งนี้ก็ต้องการเป็นการควบคุมสติสัมปชัญญะเท่านั้น
ไม่ใช่ไปเร่งรัดอะไรกับลม ความจริงเราเร่งรัดใจให้เป็นตัวรู้ คือรับรู้เข้าไว้
ขณะใดที่ยังรู้ลมหายใจเข้า รู้ลมหายใจออก ขณะนั้นชื่อว่ามีสมาธิ
ทีนี้วิธีพูดแบบนี้มันไม่ยากอีตอนยากมันมีอยู่ตอนหนึ่ง
แล้วอารมณ์ใจของเรามันมีสภาพกวัดแกว่งเป็นปกติเพราะมันคบกับนิวรณ์ คืออุธัจจกุกกุจจะมานาน ได้แก่ตัวฟุ้งซ่านรำคาญ
นี่เราทำอย่างไรจะปราบนิวรณ์
ตัวนี้ได้ไอ้ตัวฟุ้งซ่านนี่ก็ได้แก่ไอ้ตัววิตกจริต หรือโมหจริตนั่นเอง
วิตกแปลว่านึก... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๗ -
ปุจฉา / ลักษณะอาการแบบใด ที่เรียกว่า " กิเลสปรุงจิต " และ แบบใดที่เรียกว่า "จิตปรุงกิเลส "
ลักษณะอาการแบบใด ที่เรียกว่า " กิเลสปรุงจิต " และ แบบใดที่เรียกว่า "จิตปรุงกิเลส " -
"กายกับใจนี้ เป็นที่ตั้งแห่งพระพุทธศาสนา" (พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร)
"กายกับใจนี้ เป็นที่ตั้งแห่งพระพุทธศาสนา"
" .. อนาคตก็ดีต้องดูเดี๋ยวนี้ "ถ้าปัจจุบันนี้ดีแล้ว อนาคตมันก็ดีไม่ต้องสงสัย ให้พากันหายสงสัย" ถ้าในปัจจุบันนี้ไม่ดี อนาคตมันก็ไม่ดี นี่ใครต้องการสิ่งไม่ดีล่ะ ไม่มีใครสักคน เมื่อเป็นเช่นนี้ ต่างคนต่างทำสงบ มีความเยือกความเย็น ความสุข ความสบาย เบิกบาน จึงได้นามว่า "พุทโธ" พระพุทธเจ้า นั่นแหละ จึงดี
นี่แหละ "ใจเราเป็นหลักฐาน ใจเป็นประธาน มันสำเร็จกับดวงใจ" สิ่งไร ๆ ทั้งหมด นี่แหละ "นำมาเตือนใจโดยย่นย่อนี้พอเป็นข้อปฏิบัติ ประดับสติปัญญาบารมีของท่านทั้งหลาย" เมื่อท่านทั้งหลายได้สดับแล้ว ในโอวาทธรรมะคำสั่งสอนโดยย่นย่อนี้พอเป็นข้อปฏิบัติแล้ว นำไปพินิจพิจารณา
ให้ทะลุหัวข้อใจความในพระพุทธศาสนา "คือกายกับใจนี้ เป็นที่ตั้งแห่งพระพุทธศาสนา เป็นที่ตั้งแห่งคุณพระพุทธเจ้า เป็นที่ตั้งแห่งพระธรรม เป็นที่ตั้งแห่งพระสงฆ์ เป็นที่ตั้งแห่งมรรคและผล" เมื่อได้ยินได้ฟังดังนี้ "โยนิโสมนสิการ พากันกำหนดจดจำไว้แล้ว นำไปประพฤติปฏิบัติ" ฝึกหัดตนของตนเป็นไปในธรรมคำสั่งสอน .. "
"จิตตภาวนา พุทโธ" (พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร)
ณ วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ ๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๘ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๗ -
ย้ายพระประธาน
ย้ายพระประธาน
"ถ้าหากว่าจะย้ายพระประธานไปบูชาเป็นพระประธานวัดอื่นจะได้ไหมคะ ?"
เรื่องของบูชา สำหรับที่วัดนี้ถือว่าเขาถวายมาเพื่อบูชา ตั้งอยู่ที่ใดก็ตาม ถ้าพระย้ายไปที่อื่นนอกเขต ถือว่าย้ายเจดีย์ ทางวินัยท่านปรับอาบัติ
และถ้าของนั้นเขาถวายสงฆ์ เขามีเจตนาเฉพาะจุดนั้น ถ้าเราเอาไปถือว่าขโมยของสงฆ์
อันดับแรกเขาลงบัญชีอเวจีไว้ก่อน ของสงฆ์นี่แม้แต่เศษกระเบื้องถ้านำไปก็ลงบัญชีอเวจีเลย
(จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 472 เดือนกรกฏาคม 2563 หน้า 77) -
การอุทิศส่วนกุศลจำเป็นต้องเจาะจงชื่อไหม
การอุทิศส่วนกุศลจำเป็นต้องเจาะจงชื่อไหม
ผู้ถาม : การอุทิศส่วนกุศลแก่บุคคลต่างๆที่ตายไปแล้วจำเป็นไหมว่าจะต้องออกชื่อ รู้สึกว่ามีมากเหลือเกิน ?
หลวงพ่อ : ดีไม่ดีว่า 3 ปีไม่จบ ถ้านึกได้ก็ออกชื่อเขาก็ได้ ถ้าออกชื่อน่ะดีอยู่อย่าง ถ้ากรรมหนาอยู่นิดถ้าออกชื่อเจาะจงเขาได้เลยนะ ถ้านึกไม่ออกก็ว่ารวม ๆ ญาติก็ดี ไม่ใช่ญาติก็ดี เอาอย่างนี้ดีกว่า ถ้าขืนไปไล่ชื่อน่ากลัวจะไม่จบ
ผู้ถาม : เดี๋ยวคนที่ไม่ออกชื่อเกิดโมโหขึ้นมาน่ะสิ
หลวงพ่อ : นั่นน่ะสิ แหม...กูยืนอยู่ตั้งนานคนนั้นให้ได้ทีกูไม่ให้ เลยล่อเสียขาหัก เดินลงบันไดผลักตูมลงไปนะสิ
มันมีอยู่คราวหนึ่งนานแล้วไปเทศน์กัน 3 องค์ บังเอิญ 3 องค์ที่ไปก็มีอารมณ์จิตคล้ายคลึงกัน เวลาเพลเขาก็ถวายอาหาร ก็มีพระอื่นด้วยรวมแล้ว 5 องค์
ทีนี้ตาทายกเขานำอุทิศส่วนกุศลในวันนั้น แกก็ออกชื่อคนตายแล้วก็บรรดาญาติทั้งหลายที่ตายไปแล้ว บอกเท่านั้นแหละ พวกผีก็เข้ามาเป็นหมื่นล้อมรอบศาลาอยู่ ไอ้คนที่เป็นญาติรับโมทนาแล้วผิวพรรณก็ดีขึ้น ไอ้พวกที่ไม่ใช่ญาติก็เดินร้องไห้กลับ เราก็นึกในใจว่า ไอ้เรามันเลือนไปหรือเปล่าหว่า ?"
พอกลับออกมาจากฉันแล้วก็กลับมาที่พักก่อนบ่ายโมง... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๗ -
ยึดคุณพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งให้มั่นคงเอาไว้
ขอให้ทุกคนยึดคุณพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งให้มั่นคงเอาไว้สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่หลวงพ่อมอบให้แก่เรามา โดยเฉพาะพระคาถาเงินล้าน ขอให้ทุกคนท่องบ่นภาวนาไว้เป็นประจำ ๆ จะสร้างความคล่องตัวให้แก่เราอย่างคิดไม่ถึง ใครจะว่างมงาย ใครจะว่าเหลวไหล อาตมายืนยันว่าไม่งมงาย ไม่เหลวไหลเพราะอาตมาใช้มาเอง มีใครบ้างที่สามารถสร้างวัด ๆ หนึ่งเสร็จได้ภายในปีเดียว โดยที่ ๒ มือเปล่า ๆ มีแต่คาถาบทเดียว จะไม่ให้ยืนยันอย่างนี้ก็ไม่ได้
แล้วขณะเดียวกัน ไปช่วยเขาที่อื่น ไปช่วยเขาที่ไหนก็ตาม ขึ้นชื่อว่าการสะดุดหยุดยั้งผิดจังหวะไม่มีมีแต่ความสะดวกคล่องตัวอยู่เสมอ
ดังนั้น ขอย้ำว่าถ้าเราใช้คาถาเป็น ส่วนใหญ่ทำไมใช้ไม่เป็นใช้ไม่ถูกกัน การใช้คาถาเป็นก็คือต้องวางกำลังใจให้เป็น การวางกำลังใจให้เป็นก็คือ ให้ตั้งใจว่า คาถานี้คือสมบัติวิเศษที่พ่อให้มา หน้าที่เราคือรักษาไว้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะพึงดีได้ด้วยการเป็นคนที่ขยันท่องบ่นเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา อย่างสม่ำเสมอและจริงจังทุกวัน เรื่องของความสม่ำเสมอจริงจังเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ส่วนใหญ่มันทำ ๆ ทิ้ง ๆ กัน ในเมื่อเราตั้งใจทำถวายบูชาต่อท่านอย่างสม่ำเสมอและจริงจัง ผลพิเศษต่าง... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๖๗ -
พระสารีบุตรประกาศความเลื่อมใสของตนในพระพุทธเจ้า | สัมปสาทนียสูตร
พระสารีบุตรประกาศความเลื่อมใสของตนในพระพุทธเจ้า | สัมปสาทนียสูตร
******************************
ที่มา https://www.youtube.com/@Uttayarndham -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๗ -
"บุญฤทธิ์" คืออะไร อานิสงส์ที่เกิดจากบุญฤทธิ์ : หลวงปู่สรวง ปริสุทฺโธ
"บุญฤทธิ์" คืออะไร อานิสงส์ที่เกิดจากบุญฤทธิ์ : หลวงปู่สรวง ปริสุทฺโธ
*******************************
ที่มา https://www.youtube.com/@LokuttaraDhamma -
ข่าวชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน (พระอาจารย์เล็ก) เดือนมิถุนายน ๒๕๖๗
ชุมชนคุณธรรมออนไลน์ Palungjit.org
เครือข่ายชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน
ขอรวบรวมข่าวกิจกรรมการดำเนินงานของ
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. (พระอาจารย์เล็ก)
เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
เพื่อให้ทุกท่านได้โมทนาบุญในการทำงานของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา
และเพื่อให้ทุกท่านได้ศึกษารูปแบบการดำเนินงานของพระอาจารย์
ซึ่งท่านเป็นต้นแบบการทำงานของ ชุมชนคุณธรรมออนไลน์ Palungjit.org
ข่าวการดำเนินงาน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
หยุด!! ปั้นเด็ก เป็นผู้วิเศษ l ไม่รู้ต้องรู้
หยุด!! ปั้นเด็ก เป็นผู้วิเศษ l ไม่รู้ต้องรู้
******************
ที่มา https://www.youtube.com/@ddtalkofficial -
พระวักกลิเถระ | ผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้น้อมไปในศรัทธา (สัทธาธิมุติ)
พระวักกลิเถระ | ผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้น้อมไปในศรัทธา (สัทธาธิมุติ)
อนุโมทนา ที่มา https://www.youtube.com/@Uttayarndham -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
ความกลัวตายเป็นธรรมดาของสัตว์ทุกรูปทุกนาม
ความกลัวตายเป็นธรรมดาของสัตว์ทุกรูปทุกนาม บาลีบอกว่า อาหาระนิททัง ภะยะเมถุนัญจะ สามัญญะเปตัปปะสุภีนะรานัง
อาหาระ คืออาหาร , นิททัง คือการนอน , ภะยะ คือความกลัว , เมถุนะ คือการเสพกาม ท่านบอกว่า ๔ อย่างนี้เป็นปกติของสัตว์ทุกรูปทุกนาม สามัญญะเปตัปปะสุภีนะรานัง สามัญญะ ก็คือ ปกติธรรมดา
ธัมโมหิ เตสัง อะธิโก วิเสโส ธรรมเท่านั้นที่ให้เกิดความต่างขึ้นได้ ธัมเมนะ วีณา ปะสุภิสสะมานา มีแต่ธรรมเท่านั้นที่ทำให้คนต่างออกไปจากสัตว์
เพราะฉะนั้น..เรื่องความกลัวถือเป็นเรื่องปกติ แต่ทำอย่างไรที่จะไม่ให้กลัวจนขาดสติ ถ้ามานึกอีกที น่าขายหน้ามากเลย เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงมา ๓๐-๔๐ ปี ถึงเวลามัจจุราชยื่นหน้ามาหน่อยเดียว กลัวจนหัวหด ต้องประเภทยื่นหน้ามาก็กระโดดขี่คอ ไปไหนไปเลย อยากไปนานแล้ว ทำไมมาช้าจัง..!
คือเรายังไม่เห็นธรรมดา ถ้าเห็นธรรมดาว่าทุกรูปทุกนาม ต้องป่วย ต้องตายเป็นปกติ แล้วทำใจยอมรับได้ว่าปกติของสัตว์ ของมนุษย์เป็นอย่างนี้เอง ถ้าทำอย่างนั้นได้ ความตายไม่ใช่ของน่ากลัว ความเจ็บป่วย ความเจ็บปวดก็ไม่ใช่ของน่ากลัว ถึงเวลาก็ดูแลรักษาไปตามมารยาท ร่างกายนี้เป็นธาตุ ๔ ดิน น้ำ ไฟ ลม... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
เร่งรัดทำความดีให้มากที่สุด เพื่อเตรียมพร้อมออกเดินทาง
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เมื่อวันที่ ๔ ก.ค. ๒๕๖๖
วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ มีข่าวที่น่าเสียใจของคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ ก็คือหลวงพ่อจอน (พระอธิการพรพจน์ กิตฺติวณฺโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดดงโคร่ง มรณภาพด้วยโรคมะเร็ง ทั้งที่ก่อนหน้านั้นท่านไปผ่าตัดและให้คีโม บอกว่าอาการดีขึ้นแล้ว
กระผม/อาตมภาพก็ย้ำแล้วย้ำอีกกับญาติโยมหลายครั้งว่า เรื่องของมะเร็ง ถ้าหากว่าพูดกันตามแบบของเรา ไม่ใช่แบบของหมอ ก็คือ "มะเร็งนั้นมีตัว" ก็แปลว่าก้อนมะเร็งนั้นเป็นรัง เหมือนกับรังมดหรือว่ารังผึ้ง ถึงเวลาเราไปทำลายรังมดหรือว่ารังผึ้ง มดหรือผึ้งนั้นก็จะแตกฮือออกไป ก็แปลว่าถ้าไม่ได้ทำด้วยความระมัดระวัง จนสามารถกำจัดเชื้อได้หมดจริง ๆ โอกาสตายมีสูงมาก..! เพราะว่าเมื่อเชื้อแตกฮือออกไปทั่วตัว ก็กลายเป็นว่ามีการแพร่ระบาดหนักยิ่งขึ้น
เรื่องพวกนี้พูดไปแล้วหมอสมัยใหม่มักจะไม่เชื่อ เนื่องเพราะว่าหมอสมัยใหม่ไม่มีความเข้าใจ แม้กระทั่งเรื่องปกติ อย่างเช่นธาตุภายในร่างกายของเรา การเจ็บไข้ได้ป่วยคือธาตุใดธาตุหนึ่งบกพร่อง หมอสมัยใหม่ไม่ได้ศึกษาเรื่องพวกนี้มา ก็จ่ายยาให้มาตามอาการ...
หน้า 13 ของ 411