+++Premium พระเครื่องราคาพิเศษ(ปิดกระทู้ชั่วคราว)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย dekdelta2, 13 กันยายน 2009.

  1. ไชยพันธุ์

    ไชยพันธุ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +782
    รายการที่ 929 ตะกรุดบรรจุผงอัฐิและอังคารครูบาผ้าลาย จอง 1 ดอกครับ<!-- google_ad_section_end -->
     
  2. amar

    amar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +606
    รายการที่ 929 ตะกรุดบรรจุผงอัฐิและอังคารครูบาผ้าลาย

    จอง 1 ดอกครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  3. คนที่ใช่

    คนที่ใช่ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +33
    ขอบคุณคัฟคุณ dekdelta2 ^_^

    ยังไงผมจะตอบทาง PM อีกทีนะคัฟ
     
  4. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 930 เหรียญรุ่น 1 หลวงปู่บุญมี วัดสระประสานสุข

    ให้บูชา 550 บาท

    ออกปี 30 ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0840.JPG
      IMG_0840.JPG
      ขนาดไฟล์:
      148.9 KB
      เปิดดู:
      80
    • IMG_0841.JPG
      IMG_0841.JPG
      ขนาดไฟล์:
      156.6 KB
      เปิดดู:
      78
  5. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 931 เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อลำเจียก วัดศาลาตึก

    [​IMG]

    ศิษย์ หลวงปู่ดี หลวงปู่จัน วัดบ้านยาง เก่งมาก

    ให้บูชา 800 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0842.JPG
      IMG_0842.JPG
      ขนาดไฟล์:
      130 KB
      เปิดดู:
      105
    • IMG_0843.JPG
      IMG_0843.JPG
      ขนาดไฟล์:
      139.8 KB
      เปิดดู:
      88
  6. mrdon

    mrdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,317
    ค่าพลัง:
    +2,499
    ลป.ญาท่านสวน:cool:
     
  7. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 932 เหรียญหลวงปู่มั่นลายเซ็น วัดเจดีย์หลวง ปี 2546

    "ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๘๗ เป็นปีที่คณะเสรีไทยกำลังโด่งดังมาก บ้านหนองผือก็เป็นอีกแห่งที่ คณะเสรีย์ไทยได้เข้าไปตั้งค่าย เพื่อฝึกอบรมคณะครูและประชาชนชายหนุ่มให้ไปเป็นกองกำลังทหาร ต่อสู้ ขับไล่ทหารญี่ปุ่น ในสมัยนั้นคุณครูหนูไทย สุพลวานิช ( ชาวบ้านหนองผือ ผู้อยู่ในเหตการณ์และเป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราว ปัจจุบัน ( พ.ศ. ๒๕๔๔ ) ใช้ชีวิตอยู่ในอำเถอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร ) เป็นผู้หนึ่งที่ถูกเกณฑ์ให้ไปฝึกอบรมในค่ายนี้ ท่าน เกิดที่บ้านหนองผือนี่เอง เป็นธรรมดาสัญชาตญาณของคนเรา เมื่อตกอยู่ในภาวะเหตุการณ์เช่นนี้ จึงทำให้ แสวงหาสิ่งพึ่งพิงทางใจในยามคับขัน ช่วงเวลาว่างในการฝึกก็นั่งพักผ่อนตามอัธยาศัย พูดคุยสรวลเสเฮฮา กับหมู่เพื่อนร่วมค่ายหลายเรื่องหลายราว จนกระทั่งมาถึงเรื่องของดีของขลังของศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะมาถึงตัว มีเพื่อนคนหนึ่งในจำนวนนั้นได้พูดขึ้นว่า
    " ท่านพระอาจารย์ใหญ่ในวัดป่าบ้านหนองผือ ทราบข่าวว่าท่านเป็นพระดีองค์หนึ่ง พวกเราจะไม่ลองไปขอของดีกับท่านดูบ้างหรือ ท่านคงจะให้พวกเรา "
    ด้วยคำพูดของเพื่อนจึงทำให้คุณครูหนูไทยนำไปคิดเป็นการบ้าน วันต่อมาคุณครูหนูไทยหาแผ่นทอง มาได้แผ่นหนึ่ง มาตัดเป็นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ วางใส่จานขันธ์ห้า แล้วให้โยมผู้เฒ่าทายกวัดที่เป็นญาติซึ่งไปจังหัน ที่วัดในตอนเช้านำแผ่นทองถวายท่านพระอาจารย์มั่น เพื่อให้ท่านทำหลอดยันต์ให้แต่โยมผู้ที่นำแผ่นทองไปนั้น ไม่กล้าเข้าไปหาท่านพระอาจารย์มั่นโดยตรง จึงให้พระอุปัฏฐากเข้าไปลองถามท่านดูก่อน ท่านพระอาจารย์มั่น ได้พูดตอบพระ
    อุปัฏฐากว่า
    "เขาอยากได้ กะเฮ็ดให้เขาสั้นตั๊ว " ( หมายความว่า เขาต้องการก็
    ทำให้เขาได้จะเป็น อะไร )
    เมื่อพระอุปัฏฐากเข้าใจแล้วจึงบอกให้โยมเอาแผ่นทองมาให้ท่าน รออยู่ประมาณสามวันพระอุปัฏฐาก ท่านก็นำหลอดยันต์นั้นมาให้โยมแล้วโยมผู้เฒ่าคนนั้นจึงนำมาให้คุณครูหนูไทยอีกทีหนึ่ง คุณครูหนูไทยเมื่อได้ ของดีแล้วก็มีความดีอกดีใจเป็นอันมาก ทะนุถนอมเก็บรักษาไว้ในที่มิดชิด และนำติดตัวไปในทุกสถานที่เลย ทีเดียว
    วันหนึ่งว่างจากการฝึกอบรมจึงเดินเที่ยวเล่นไปทางด้านหลังสนาม เผอิญเหลือบไปเห็นพวกเพื่อน สามสี่คนกำลังทำอะไรกันอยู่ข้างมุมสนาม คุณครูหนูไทยจึงเดินไปดูก็เห็นพวกเขากำลังทดลองจะยิง " เขี้ยวหมูตัน " ด้วยอาวุธปืนคาร์ไบน์ ( ชื่อเรียกในสมัยนั้น ) เมื่อเขาทดลองยิงแล้วปรากฎว่า " เขี้ยวหมูตัน" ที่ถือว่าเป็นของขลังศักดิ์สิทธิ์นั้น แตกกระจายไปคนละทิศละทาง เพื่อนคนที่เป็นเจ้าของเขี้ยวหมูตันหน้าถอดสี ไปหมด ส่วนเพื่อนคนที่เป็นคนยิงคงจะย่ามใจ หันหน้ามาถามคุณครูหนูไทยที่เดินเข้าไปสมทบทีหลังว่า " มีของดีอะไรมาลองบ้างเพื่อน " ด้วยความซื่อและความเป็นเพื่อน คุณครูหนูไทยจึงตอบเขาไปว่า " มีอยู่ " แค่นั้นแหละเพื่อนคนนั้นก็ก้าวเท้าเข้ามาเอามือล้วงปั๊บไปทีกระเป๋า
    เสื้อของคุณครูหนูไทยพร้อมกับพูดขึ้นว่า
    "ไหนเอาของดีมาลองดูหน่อยซิ "โดยคุณครูหนูไทยคิดไม่ถึงว่าเพื่อนจะกล้าทำได้เช่นนั้น แต่ก็ช้าไปเสียแล้ว วัตถุสิ่งนั้นจึงติดมือเพื่อนคนนั้นไป คุณครูหนูไทยวอนขอเขาอย่างไร เขาก็ไม่ยอมคืนให้ท่าเดียว ในที่สุดเขาก็นำตะกรุดยันต์นั้นไปวางที่ระยะห่างประมาณสัก ๓ - ๔ วา แล้วเขาก็ถอยกลับมายกปืน ขึ้นเล็งไปที่ตะกรุดยันต์นั้น เพื่อนทุกคนที่อยู่ที่นั่น
    เงียบกริบ ต่างคนก็ต่างเอาใจไปจดจ่อที่จุดเดียวกัน สักครู่คนยิงจึงกดไกปืน
    เสียงดัง " แชะ แชะ " แต่ไม่ระเบิด ทั้งหมดที่อยู่ที่นั่นต่างตกตะลึง ครั้งที่สามเขา ลองหันปลายกระบอกปืนนั้นขึ้นบนฟ้าแล้วกดไกอีกครั้ง ปรากฎว่าเสียงปืนกระบอกนั้นดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่ว บริเวณ ส่วนคุณครูหนูไทยนึกขึ้นได้จึงใช้จังหวะนั้นกระโดดวิ่งเข้าไปหยิบตะกรุดยันต์นั้นอย่างรวดเร็ว แล้ว กำไว้ในมืออย่างหวงแหนที่สุด ถึงแม้พวกเพื่อน ๆ จะขอดูขอชม ก็ไม่อยากให้เขาดูเขาชม เดินบ่ายเบี่ยง ไปทางอื่น แต่พวกเพื่อนก็ขอดูขอชมจนได้ เสร็จแล้วทุกคนจึงพากันเลิกลา กลับไปที่พักของตนด้วยความ ฉงนสนเท่ห์และตื่นเต้นในอภินิหารตะกรุดยันต์ของท่านพระอาจารย์มั่นเป็นอย่างมาก อันนี้คุณครูหนูไทยเล่าให้ ฟังอย่างนั้น
    ภายหลังต่อมาบางคนทราบข่าวจึงพากันไปขอจากท่านพระอาจารย์มั่นที่วัด ส่วนมากจะได้เป็น แผ่นผ้าลงอักขระคาถาด้วยยันต์ สำหรับตะกรุดแผ่นทองนั้นไม่ค่อยมี เพราะแผ่นทองสมัยนั้นหายากมาก ต่อมาไม่นานท่านพระอาจารย์มั่นคงเห็นว่ามากไปจนเกินเลย จึงบอกให้เลิก ท่านบอกว่าสงครามเขาจะสงบแล้ว ไม่ต้องเอาก็ได้ พวกตะกรุดยันต์ ผ้ายันต์ เหล่านั้น นั่นมันเป็นของภายนอก สู้เอาคาถาบทนี้ไปบริกรรมแนบ กับใจไม่ได้ ให้บริกรรม ทุกเช้าค่ำจนขึ้นใจ แล้วจะปลอดภัยอันตรายต่างๆ จะไม่มากล้ำกรายตัวเราได้เลย คาถาบทนั้นว่าดังนี้ "นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา" ฯลฯ
    ตั้งแต่นั้นมาชาวบ้านหนองผือเลยไม่กล้าขอท่านอีก และเป็นความจริง
    ตามที่ท่านพระอาจารย์มั่นพูด ยังไม่ถึง ๗ วันก็ได้ทราบข่าวว่า เครื่องบินทหารอเมริกันบินไปทิ้งระเบิดปรมาณูใส่เมืองฮิโรชิมาและนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่นย่อยยับ จนในที่สุดประเทศญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม และสงครามในครั้งนั้นก็สงบจบสิ้นลง ดังที่พวกเราท่านทั้งหลายได้รู้จักกันแล้วในหน้าประวัติศาสตร์นั้นแล

    โมระปะริตตัง (คาถายูงทอง)
    อุเทตะยัญจักขุมา เอกะราชา
    หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส
    ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง
    ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ ทิวะสัง
    เย พราหมะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม
    เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยันตุ
    นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา
    นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา
    อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา โมโร จะระติ เอสะนา ฯ
    อะเปตะยัญจักขุมา เอกะราชา
    หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส
    ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง
    ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ รัตติง
    เย พราหมะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม
    เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยันตุ
    นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา
    นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา
    อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา โมโร วาสะมะกัปปะยีติ ฯ
    นะมัตถุ พุทธานัง : ความนอบน้อมของข้าฯ จงมีแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย
    นะมัตถุ โพธิยา : ความนอบน้อมของข้าฯ จงมีแด่พระโพธิญาณ
    นะโม วิมุตตานัง : ความนอบน้อมของข้าฯ จงมีแด่ท่านผู้พ้นแล้วทั้งหลาย
    นะโม วิมุตติยา : ความนอบน้อมของข้าฯ จงมีแด่วิมุตติธรรม"
    งานนี้ ไม่ต่างอะไรกับ”ใบเซอร์”ที่การันตีแบบเต็มร้อยว่า สิ่งที่หลวงปู่สิมได้เคยพูดเคยกล่าวไว้เมื่อครั้งกระนั้น เป็นเรื่องจริงแท้ที่เต็มทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
    และส่วนตัวของผู้เขียน ก็ยังต้องนึก”ขอขมา”ต่อหลวงปู่สิม ที่ไม่ยอมที่จะเชื่อคำพูดของท่านในตอนนั้นตามประสา”เด็กหัวดื้อ”อีกต่างหากด้วย
    สัพพัง อปราทัง ขมะถะเม ภัณเต...............
    และเมื่อได้”บรรยายความตามไท้”มาถึงจุดนี้ เชื่อแน่ได้ว่า หลายๆท่านก็คงน้ำลายหยดย้อยเป็นสายยาว ด้วยความอยากได้”ของดีหลวงปู่มั่น”อย่างที่ว่าไปตามๆกันอย่างไม่ต้องสงสัย
    อย่าได้ปฏิเสธไปเลยน่า...............
    แต่ขอบอกไว้ก่อนได้เลยว่า งานนี้”ยากส์ส์ส์ส์ส์....”แบบ”สุดๆๆๆๆๆๆ”แน่ๆเลยทีเดียวเชียว
    เอาแค่เหรียญ”ป.มาลากุล”แท้ๆ ที่หลวงปู่มั่นเสกจริงๆเพียงเหรียญเดียว ก็ไม่ต่างอะไรกับการงมเข็มในมหาสมุทรก็ไม่ปานอยู่แล้ว
    และยิ่งหากจะไปหา”ตะกรุด”หลวงปู่มั่น” ก็ยังยากหนักหนาสาหัสหนักข้อเข้าไปอีก......
    เพราะ”ดู”และ”สังเกต”ยากมากๆถึงมากที่สุดนั่นเอง
    ที่สุด แม้แต่หลวงพ่อพุธ ฐานิโย พระอริยปัญญาแห่งวัดป่าสาลวัน นครราชสีมาก็ยังออกปากเองในเวลาต่อมาเลยทีเดียวว่า
    ”ตะกรุดหลวงปู่มั่นนี้ ดูยากมาก เพราะจะใกล้เคียงกับตะกรุดของหลวงปู่ฝั้น มากที่สุด....”
    แถม”โค้ด”ก็ยังไม่มี “โลหะ”ก็เก่าเหมือนๆกัน และ”ลายมือตัวธรรม”ของหลวงปู่มั่น กับหลวงปู่ฝั้น ก็คงคล้ายกันอย่างยากจะแยกแยะอีกต่างหาก
    พลาดนิดเดียว เป็นเจอปฏิบัติการ”ย้ายวัด”หรือ”ย้อมตะกรุด”ขาย อย่างแทบไม่ต้องเดาให้เสียเวลา
    และที่สำคัญที่สุดก็คือ หลวงปู่มั่นท่านจะทำตะกรุดไว้เองจริงๆสักกี่ดอกกัน..????
    เอาให้ได้ถึงสัก 20 ดอก ก็นับเป็นบุญญาวาสนาแก่วงการอย่างหาที่สุดมิได้แล้วหรอกนะครับ
    หงอยพับไปเลยสิครับ งานนี้.........
    เศร้า.................
    แต่ช้าก่อน เพราะทุกอย่างใช่ว่าจะ”หมดหวัง”ไปเสียเลยทีเดียวก็หาไม่ดอกนะขอรับกระผม
    เพราะล่าสุด ได้มีการสร้างเหรียญที่สำคัญและพิเศษสุดอีกรุ่นหนึ่ง ที่ได้ผสมชนวน”เหรียญป. มาลากุล” ไว้อย่างแน่ชัดอีกด้วย!!!!!!!!!
    นั่นก็คือเหรียญ”ลายมือลายเซ็น”หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ได้สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2546 ซึ่งนับเป็น รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ ที่ได้อัญเชิญ”ลายเซ็น” และ”ลายมือ”บันทึกธรรม ตลอดจน”อักขระยันต์หัวใจยูงทอง”แท้ๆ ที่หลวงปู่มั่น ได้เขียนไว้ด้วยองค์เอง มาบรรจุไว้ในเหรียญ”ภูริทัตโตอนุสรณ์”อย่างสมบูรณ์แบบและสวยงามที่สุด อย่างที่ไม่อาจจะหาเหรียญหลวงปู่มั่น รุ่นใดๆ มาเสมอเหมือนได้
    ด้านหน้า จะแกะเป็นรูปหลวงปู่มั่น ครึ่งองค์ แวดล้อมด้วยอักขระยันต์ “นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุติยา” พร้อมด้วยลายเซ็น”พระภูริทัตตเถร” ลายมือดั้งเดิมของท่านเองแท้ๆ
    ส่วนด้านหลัง ได้อัญเชิญลายมือ”บันทึกธรรม”ของหลวงปู่มั่น ที่ว่าด้วยเรื่อง”ขันธวิมุติสมังคีธรรม” มาประดิษฐานเป็นมหา”ธรรมมงคล”อันสูงสุดไว้จนเต็มเนื้อที่ อย่างสวยงามและได้อารมณ์แห่ง”ความหลุดพ้น”อย่างเต็มๆ ชนิดที่ไม่ต้องไปหาอะไรที่จะยิ่งกว่าได้อีกแล้ว
    แม้เหรียญ”ลายมือลายเซ็น”รุ่นนี้ จะมีเนื้อทองคำ,เนื้อเงินเป็นพิเศษก็จริง แต่ก็มีเฉพาะเหรียญเนื้อนวโลหะและเนื้อทองผสม ที่ได้ผสมชนวนเหรียญ”ป.มาลากุล”อย่างแท้จริง
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    ส่วนพิธีการมังคลาภิเษกเหรียญลายมือลายเซ็น”ภูริทัตโตอนุสรณ์”รุ่นนี้ ได้กระทำอย่างพิเศษและยิ่งใหญ่ที่สุดโดยได้อัญเชิญเหรียญทั้งสิ้นขึ้นประดิษฐานข้างมณฑป”ทันตธาตุ” ของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ที่วัดเจดีย์หลวง จ. เชียงใหม่ ในมหาพิธียกช่อฟ้าพระวิหารพระอาจารย์มั่น เมื่อปีพ.ศ.2546 โดยพระวิหารหลังนี้ ได้สร้างทับตรงบริเวณที่พระอาจารย์มั่นเคยมาพำนักปฏิบัติธรรมสมัยที่ตามท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) มาที่วัดเจดีย์หลวงเพื่อราวปีพ.ศ. 2484

    มหาพิธีในครั้งนั้น มีพระมหาเถรานุเถระอาวุโสที่เป็นศิษย์
    ”สายตรง”ในท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต จำนวนมากอย่างเต็มรูปแบบไม่ต่ำกว่า 108 รูปด้วยกัน โดยได้รับความเมตตาจากท่านพระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี พระอริยเจ้าผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐสุดและเป็นศิษย์ที่ใกล้ชิดท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโตมากและนานที่สุดองค์หนึ่งเป็นองค์ประธานอธิษฐานจิตและยกช่อฟ้าด้วยองค์ของท่านเอง
    เหรียญ”ภูริทัตโตอนุสรณ์” ซึ่ง"พุทธวงศ์"ได้ดำเนินการออกแบบ,จัดสร้างถวายเป็นอนุสรณ์ดังกล่าว ได้อัญเชิญไปประดิษฐานโยงสายสิญจน์อยู่ประชิดติดกับบุษบกที่ประดิษฐาน”อัฐิธาตุ”และ”ทันตธาตุ”ฟันกราม ของหลวงปู่มั่น ในพระวิหารซึ่งสร้างทับบริเวณ”กุฏิเก่า”ที่ท่านพระอาจารย์มั่น ได้เคยมาพำนักบำเพ็ญภาวนา อันเป็น”จุดศูนย์กลาง”แห่ง”มหาพลัง”และ”มหาบารมี”แห่งบรมพิธีทั้งปวง อันจะหาใดอื่นมาเสมอเหมือนมิได้อย่างแน่แท้ มีพระมหาเถระนุเถระทั้งสาย”กรรมฐาน”และ”เมืองเหนือ”ร่วมเจริญพระพุทธมนต์สมโภชโมทนาจำนวนมากถึง 350 รูปด้วยกัน แลดูอลังการละลานตาละลานใจไปทั่ว โดยมีท่านเจ้าคุณพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน แห่งวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี พระอัครอรหันต์เจ้าแห่งสยามประเทศ ซึ่งเป็นศิษย์ที่ใกล้ชิดที่สุดและรับถ่ายทอดปฏิปทาจากองค์หลวงปู่มั่นมามากที่สุดเป็น”องค์ประธาน”ในการพิธีทั้งปวงอย่างดียิ่งและสมบูรณ์แบบที่สุด
    ทั้งนั้น เห็นจะเป็นทั้งในส่วนแห่งความ”กตัญญูผูกพัน”ส่วนตัวกับ”พ่อแม่ครูอาจารย์มั่น” ที่ลึกซึ้งยิ่งใหญ่อย่างไม่มีที่สิ้นสุดประการหนึ่ง
    และทั้งด้วยฐานะที่ท่านหลวงตามหาบัวนั้น มีความผูกพันในฐานที่เป็น”ตุ๊เจ้าหลวง”ซึ่งเป็น”ศิษย์เก่า”ของวัดเจดีย์หลวงนี้มาแต่เดิมอีกประการหนึ่ง.....
    เพราะท่านได้เล่าเรียนปริยัติธรรมจนสำเร็จเปรียญ 3 ประโยค จนได้ชื่อนำหน้าว่าเป็น”มหา” ก็บ่แม่นที่แผ่นดินอีสานบ้านเกิดของเพิ่นแต่อย่างใด
    แต่”ตุ๊เจ้าหลวงบัว”ได้กลายเป็น”พระมหาบัว” กลับเป็นที่สำนักเรียนของ “วัดเจดีย์หลวง” กลางเวียงเจียงใหม่แต๊ๆเมื่อปี๋พ.ศ. 2484 นี่แหละเจ้า................
    ด้วยเหตุนี้ จึงไม่เป็นที่น่าแปลกและอัศจรรย์อันใดเลย ที่หลวงตามหาบัวท่านจะได้อธิษฐานจิต ”ทำน้ำมนต์”ในมหาพิธีนี้ให้อย่างเนิ่นนานเป็นพิเศษยิ่งกว่าพิธีใดๆทั้งสิ้น
    ซ้ำท่านก็ยังได้”เป่า”ลมปราณสลับกับการเจริญพุทธคาถาลงในขันน้ำมนต์ศิลา ที่ผูกสายสิญจน์โยงไปถึงพระวิหารปู่มั่นและเหรียญ”ภูริทัตโตอนุสรณ์”นี้ถึง “3 ”ครั้ง 3 ครา สำทับให้อีกต่างหากด้วย!!!
    ไม่เคยพบ ไม่เคยเห็นจากที่ใดมาก่อนเลย
    จากนั้น เมื่อถึงคราวยกช่อฟ้าวิหารหลวงปู่มั่น เมื่อหลวงตามหาบัวผูกผ้าสีปิดทองที่ช่อฟ้าแล้ว ท่านก็เรียกหา”น้ำมนต์”ที่ท่านทำไว้เมื่อกี้ในทันที.........
    เรื่องตอนนี้ เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใน”ญานหยั่งรู้”ของหลวงตามหาบัวโดยแท้ โดยท่านพระครูปลัดสุวัฒนวรคุณ วัดป่าดาราภิรมย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นศิษย์ใกล้ชิดในท่านเจ้าคุณพระพุทธพจนวราภรณ์ (จันทร์ กุสโล) (ซึ่งเป็นศิษย์หลวงปู่มั่นและเป็นสหธรรมิกใกล้ชิดกับหลวงตามหาบัวมาแต่เดิม)เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง องค์ปัจจุบันได้เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า
    ”ตอนแรกนั้น หลวงตาท่านถามหาน้ำมนต์เพื่อมาพรมช่อฟ้า เจ้ารุ่ง(ศิษย์วัด)ไปคว้าเอาขันน้ำมนต์ที่ไหนมาก็ไม่รู้มาให้ หลวงตามหาบัวพอมองดูแล้วก็บอกปัดทันทีเลยว่า นี่ไม่ใช่น้ำมนต์ที่ท่านทำเมื่อกี้ ให้ไปเอาน้ำมนต์ของจริงที่ท่านเพิ่งทำมาให้เสียโดยทันที เลยต้องวิ่งกลับไปเอาขันน้ำมนต์แท้ๆมาแทนกันแทบไม่ทัน น่าอัศจรรย์ใจแท้ๆ ที่น้ำมนต์ธรรมดาๆ หลวงตาก็ยังรู้ได้ว่า นี่ไม่ใช่น้ำมนต์ที่ท่านทำ......
    ”ตาใน”อันแจ่มใสของท่านหลวงตาพระมหาบัว ช่างน่ามหัศจรรย์โดยแท้
    ก็ความ”พิเศษสุด”แห่งน้ำมนต์ที่ท่านเพิ่งทำสดๆเมื่อสักครู่ดังกล่าว คงจะ”ยูนีค”(unique)จนไม่อาจจะเอาน้ำมนต์อื่นใดมาทดแทนเป็นแน่
    เผลอๆ “พระธรรมธาตุ”ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตตมหาเถระ จะได้รับการอัญเชิญมาสถิตเสถียรพร้อมกันนี้ด้วย ก็อาจเป็นไปได้อย่างยิ่งเลยทีเดียว
    และตอนที่หลวงตามหาบัว ท่านกำลังยกช่อฟ้าพระวิหาร หลวงปู่มั่นอยู่นั่น ก็ได้ปรากฏเหตุอัศจรรย์ขึ้นอีกครา
    ภาพๆหนึ่ง ที่ถ่ายในโอกาสบัดเดี๋ยวนั้น ปรากฏแสงรัศมีเป็น”สีรุ้ง”พุ่งวาบผ่านช่อฟ้าจากดวงอาทิตย์มา เห็นได้ถนัดตา น่าตื่นตาตื่นใจเป็นนักๆ
    หากจะว่า เป็นแสงแดดยามบ่ายย้อนมา ก็อาจจะว่าได้
    แต่เหตุที่น่าสงสัยก็คือ ทำไม จึงมีประกายสีรุ้งเจิดจ้าแต่เพียง”แถบเดียว”เป็นหลักใหญ่เท่านั้น
    บริเวณขอบข้างอื่นๆ หามีไม่
    แต่การดังนี้ ”ผู้รู้”ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวได้ให้อรรถาธิบายในทันทีเลยทีเดียวว่า
    นี้แล.. คือฉัพพรรณรังสีแห่งพระอรหันตเจ้า ซึ่งเป็นหนึ่งในพระรัตนตรัยแท้เทียว....
    สาธุ.........................................

    และเมื่อหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนยกช่อฟ้าวิหารพระอาจารย์มั่นเสร็จ หลวงตามหาบัวถึงกับเทศน์ออกไมค์ต่อหน้าผู้คนนับพันที่มาร่วมพิธีในครั้งนั้นเลยทีเดียว อันมีใจความว่า

    “ในพิธีอันเป็นมหามงคลในครั้งนี้ ได้มีเทวดามาร่วมอนุโมทนาสาธุการเต็มไปหมด ไม่ต่างอะไรกับตอนที่พระอาจารย์มั่นจะเดินทางกลับจากเชียงใหม่ไปยังภาคอีสานบ้านเกิดสมัยนั้น ท่านพระอาจารย์มั่นก็เคยบอกไว้เช่นกันว่า มีเทวดาเมืองเชียงใหม่มาส่งท่านด้วยความอาลัยอาวรณ์มากมายจนเหลือที่จะคณานับ แม้ในวันนี้ เทวดาก็มาร่วมอนุโมทนาในการยกช่อฟ้าวิหารพระอาจารย์มั่นมากดุจเดียวกัน..!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
    หรือว่า ในมหาพิธีบรรจุพระทันตธาตุและยกช่อฟ้าวิหารพระอาจารย์มั่นในครานี้ “ท่าน”จะมาร่วมอนุโมทนาสาธุการด้วยจริงๆ???????
    แต่....”หน่วยสืบราชการลับ”(ทางจิต) ซึ่งมีความแม่นยำสูงบางท่านก็กล่าวรับรองเมื่อได้สัมผัสพลังภายในเหรียญรุ่นนี้อย่างน่าตื่นตะลึงลานไม่น้อยว่า
    “เหมือนกับพระอาจารย์มั่นมาอธิษฐานด้วยองค์เองเลย...!!!!!????!!!!!”
    สมแล้ว ที่แม้แต่คุณสุธันย์ สุนทรเสวี สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงคราม นักสร้างพระมือดีแห่งยุคยังต้องออกวาจาการันตีเหรียญ”ลายมือลายเซ็น” รุ่นนี้เลยทีเดียวว่า
    “เหรียญรุ่นนี้ มีพลังเทียบเท่ากับเหรียญมั่นเสาร์รุ่นแรก (ที่กล่าวกันว่า พระอาจารย์มั่นได้อธิษฐานจิตด้วยองค์ของท่านเอง) เลยทีเดียวนะ..!!!!!!!!”
    นึกหาสาเหตุด้วยใจที่เป็น “กลาง” แบบไม่เข้าข้างตัวเองอย่าง”เที่ยงธรรม”และ”ไม่อุตริมนุสธรรม”มากเกิน ก็พอที่จะอนุมานได้ว่า
    “เหตุที่เหรียญลายมือลายเซ็นรุ่นนี้ มีพลังเหมือนกับพระอาจารย์มั่นมาอธิษฐานด้วยองค์เอง หรือ มีพลังเทียบเท่ากับเหรียญมั่นเสาร์รุ่นแรกนั้น อาจจะเกิดจากการที่ได้อัญเชิญเหรียญนี้ตั้งประชิดติดกับมณฑปพระทันตธาตุแห่งท่านพระอาจารย์มั่น ในมหาพิธีที่สุดยิ่งใหญ่ ซึ่งมีหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ศิษย์หัวแก้วหัวแหวนของท่านพระอาจารย์มั่นเป็นประธานกระมัง?????”
    แต่...ก็ไม่ได้ตัดประเด็นที่ว่า “พระอาจารย์มั่น ท่านมาด้วย”ทิพยสภาวะ”หรือ “ธรรมธาตุ”(จิตพระอรหันต์ที่ดับขันธ์ไปแล้ว) จริงๆ.!!??!!

    [​IMG]
    อนึ่ง เหรียญภูริทัตโตอนุสรณ์นี้ ได้มี 3 บล็อคหลังด้วยกัน แต่เข้าพิธีวัดเจดีย์หลวงพร้อมกันทุกแบบ เรียงจากซ้ายไปขวาดังนี้
    1.บล็อค"พุทธวงศ์"(ธรรมขันธวิมุตติสมังคีล้วน) มีเนื้อทองคำ,เงิน,นวโลหะ,ทองผสม
    2.บล็อควัดป่าดาราภิรมย์ (ที่ระลึกฉลองวิหารหลวง) มีเนื้อเงิน,ทองแดงรมดำ
    3.บล็อควัดป่าศาลาปางสัก ดอยสะเก็ด เชียงใหม่ สร้างเป็นเนื้อทองแดงรมดำเนื้อเดียว
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff>[​IMG]

    ที่มา เว็บพุทธวงศ์

    ให้บูชา 500 บาท
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0838.JPG
      IMG_0838.JPG
      ขนาดไฟล์:
      155.1 KB
      เปิดดู:
      74
    • IMG_0839.JPG
      IMG_0839.JPG
      ขนาดไฟล์:
      168.3 KB
      เปิดดู:
      72
  8. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 933 เหรียญหล่อ หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่

    หลวงพ่อ พุ่ม จนฺทโชติ วัดบางโคล่ กรุงเทพฯ
    [​IMG]

    เหรียญของท่านเดิมเป็นเบญจภาคี แต่จำนวนการสร้าง 1000 เหรียญนั้นทำให้หมุนเวียนน้อยเกินไป จึงนำเหรียญอื่นมาแทน

    เหรียญหล่อชุดนี้จะเลียนแบบพิมพ์สมเด็จ เหรียญหล่อบางชุดของหลวงพ่อพุ่มจะทรงสัตว์กับหลวงปู่ศุข มี 2 องค์ครับ องค์ละ 600 บาท
    เลือก 1-2 นะครับ​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0834.JPG
      IMG_0834.JPG
      ขนาดไฟล์:
      108.8 KB
      เปิดดู:
      89
    • IMG_0835.JPG
      IMG_0835.JPG
      ขนาดไฟล์:
      67.8 KB
      เปิดดู:
      52
    • IMG_0836.JPG
      IMG_0836.JPG
      ขนาดไฟล์:
      64.4 KB
      เปิดดู:
      53
    • IMG_0837.JPG
      IMG_0837.JPG
      ขนาดไฟล์:
      67.1 KB
      เปิดดู:
      50
  9. somsakasat

    somsakasat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    692
    ค่าพลัง:
    +1,912
    จองบูชารายการนี้ครับ
     
  10. วีระชัยมณี

    วีระชัยมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,128
    ค่าพลัง:
    +2,548
    ขอจองด้วยทันไหมอะครับ
     
  11. somsakasat

    somsakasat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    692
    ค่าพลัง:
    +1,912
    แจ้งโอนเรียบร้อยแล้วครับ รายละเอียดทางPM
    2/4/11 Kbank to SCBA a/c 0455017173
    amount 550.55
     
  12. amar

    amar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +606
    รายการที่ 930 เหรียญรุ่น 1 หลวงปู่บุญมี วัดสระประสานสุข
    ขออนุญาตจองครับ.................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2011
  13. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รับทราบการจองของทุกท่านครับ
     
  14. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 934 เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่มหาปราโมช ปาโมชโช

    [​IMG]

    ศิษย์เอก หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ

    ท่านเป็นศิษย์ที่ทันหลวงปู่มั่นด้วยครับ

    ให้บูชา 450 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0857.JPG
      IMG_0857.JPG
      ขนาดไฟล์:
      101 KB
      เปิดดู:
      56
    • IMG_0858.JPG
      IMG_0858.JPG
      ขนาดไฟล์:
      117.2 KB
      เปิดดู:
      58
  15. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 935 พระปิดตาลาภผลพูลทวีครูบาดวงดี วัดท่าจำปี

    ความพิเศษขององค์นี้ที่ไม่มีในองค์อื่น คือ ติดเกศาเพียบ

    ครูบาดวงดีท่านเดินสายโพธิสัตว์เป็นศิษย์เอกองค์สุดท้าย ของครูบาศรีวิชัย

    ครูบาชัยวงศ์บอกว่าถ้าสิ้นท่านแล้วให้ไปหาครูบาดวงดี วัดท่าจำปี

    ส่วนถ้าใครขอให้ครูบาอิน แนะนำพระไปกราบ ท่านก็แนะนำ ครูบาตั๋น ครูบาดวงดี ครูบาธรรมธิ ไม่ก็ครูบาหน้อย วัดบ้านปง


    ให้บูชา 450 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0855.JPG
      IMG_0855.JPG
      ขนาดไฟล์:
      186.7 KB
      เปิดดู:
      69
    • IMG_0856.JPG
      IMG_0856.JPG
      ขนาดไฟล์:
      202.4 KB
      เปิดดู:
      69
    • IMG_0854.JPG
      IMG_0854.JPG
      ขนาดไฟล์:
      254.1 KB
      เปิดดู:
      69
  16. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 936 เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่อิง อายุ 114 ปี

    พระอมตะเถราจารย์ 5 แผ่นดิน ที่มีอายุยืนยาว มาถึงปี 2544 ( อายุ 116 ปี ) เกิดเมื่อปี 2428 ในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่ ต.บ้านสะแกชำ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ท่านถือธุดงควัตร อยู่ในป่าลึก อาศัยอยู่ในถ้ำ ทั้ง พม่า ลาว เขมร ได้พบกับพระอาจารย์เก่งๆ หลายองค์ และได้เคยฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่มั่นฯ ที่ภูเขาควาย ประเทศลาว เพื่อศึกษาการปฏิบัติธรรมเป็นเวลา 3 เดือน ก่อนออกเดินธุดงค์ต่อไป ท่านออกจากป่า เมื่อปี 2536 และมาโปรดญาติโยมอยู่ในเขต อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ หลวงปู่อิงฯ มรณภาพเมื่อวันที่ 11 มี.ค.2544 อายุ 116 ปี ได้รับพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ เมื่อวันที่ 1 เม.ย.2544 ตอนประชุมเพลิงศพหลวงปู่ปรากฏศพท่านทนไฟ ไม่ไหม้ไฟ จนต้องมีการขอขมาต่อสังขารของท่านขอให้ไหม้ไฟ...

    ท่านเป็นสหธรรมิก กับหลวงปู่หมุนครับ

    ให้บูชาเหรียญละ 900 บาท
    เลือกระหว่างเลี่ยมสแตนเลสกับพลาสติกครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0859.JPG
      IMG_0859.JPG
      ขนาดไฟล์:
      157.4 KB
      เปิดดู:
      60
    • IMG_0860.JPG
      IMG_0860.JPG
      ขนาดไฟล์:
      161.6 KB
      เปิดดู:
      64
    • IMG_0861.JPG
      IMG_0861.JPG
      ขนาดไฟล์:
      152 KB
      เปิดดู:
      65
    • IMG_0862.JPG
      IMG_0862.JPG
      ขนาดไฟล์:
      158.9 KB
      เปิดดู:
      59
  17. kajit

    kajit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,656
    ค่าพลัง:
    +3,351
    จองครับ

    รายการที่ 934 เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่มหาปราโมช ปาโมชโช

    รายการที่ 935 พระปิดตาลาภผลพูลทวีครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
     
  18. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 937 ล็อกเกตรุ่นสติคุมจิต หลวงปู่สาย วัดป่าพรหมวิหาร

    1 ชุด มี 4 องค์ มีฉากขาว ทอง จัมโบ้ และสี่เหลี่ยมสีดำ ตอนนั้นทำบุญ 499 บาท
    ให้บูชา 549 บาท ขอค่าส่งนิดนึงครับ ด้านหลังบรรจุเกศา และจีวรของหลวงปู่
    หลวงปู่สายอธิษฐานจิตเดี่ยว

    ...........................................................................
    [​IMG]

    คอลัมน์ มงคลข่าวสด


    "หลวงปู่สาย เขมธัมโม" เป็นพระอาจารย์ด้านวิปัสสนาธุระแห่งเมืองหนองบัวลำภู บำเพ็ญเพียรตั้งมั่นอยู่ในสมณธรรมอย่างเคร่งครัด มีวัตรปฏิบัติเรียบง่ายปฏิปทางดงาม เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้ได้พบเห็นเป็นร่มโพธิ์ทองของบรรดาพุทธศาสนิกชน

    หลวงปู่สายเป็นอีกพระเถระที่กองบรรณาธิการ "ข่าวสด" นำเอาอัตชีวประวัติ และธรรมปฏิปทา มารวบรวมพิมพ์เป็นเล่ม พร้อมพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีก 20 รูป มารวบรวมเป็นเล่ม ชื่อว่า "มงคลข่าวสด สุดยอดพระเกจิ"

    วางแผงแล้วในขณะนี้

    ปัจจุบัน หลวงปู่สาย สิริอายุ 85 พรรษา 29 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าพรหมวิหาร บ้านภูศรีทอง ต.โนนเมือง อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู

    อัตโนประวัติ เกิดในสกุล แสงมฤค เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2464 ณ บ้านกุดน้ำใส ต.กุดน้ำใส อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายทอกและนางเคน

    ย่างเข้าวัยหนุ่ม ย้ายจากบ้านเดิมจากจ.ร้อยเอ็ด ไปอยู่ที่ จ.อุดรธานี และได้สมรสกับนางปาน ผายม มีบุตรด้วยกัน 2 คน โดยหาเลี้ยงครอบครัวด้วยการประกอบอาชีพทำนาและเลี้ยงปลาขาย

    ต่อมา เมื่ออายุได้ 48 ปี จึงได้หันเหเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ อันเนื่องมาจากท่านได้ป่วยเป็นโรคปวดศีรษะโดยไม่ทราบสาเหตุ

    ครั้งนั้น ท่านได้บนบานเอาไว้ว่า ถ้าหายป่วยจะบวชแก้บน ครั้นอาการป่วยหายไปเอง แต่ท่านยังไม่ได้บวช ทำให้ท่านคิดว่าอาจจะเป็นเพราะได้บนบานเอาไว้

    แต่แล้วท่านไม่ยอมบวชแก้บน ทำให้อาการป่วยย้อนกลับมาเล่นงาน เมื่อคิดได้ดังนี้ จึงตัดสินใจบวชแก้บน โดยเข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดโยธานิมิต โดยมีหลวงปู่อ่อนตา เจ้าคณะอำเภอหนองวัว ซอ เป็นพระอุปัชฌาย์

    ภายหลังเข้ารับการอุปสมบท อาการป่วยได้หายเป็นปลิดทิ้ง อย่างไรก็ดี แม้จะเป็นการบวชเพื่อแก้บน แต่ท่านก็หมั่นปฏิบัติภาวนาอยู่ไม่ขาด

    การบวชในครั้งนี้ ท่านอยู่ได้นานถึง 6 พรรษา ก่อนลาสิกขาออกมา สาเหตุเนื่องเพราะมีคนบอกว่าบวชแก้บนจะต้องสึก ถ้าไม่สึกจะต้องมีอันเป็นไป เพื่อความสบายใจ ท่านจึงขอลาสึก

    หันกลับมาใช้ชีวิตในเพศฆราวาสได้ไม่นาน เกิดความเบื่อหน่ายชีวิตทางโลก จึงขอตัดสินใจอุปสมบทอีกเป็นครั้งที่ 2 และนำเรื่องนี้ไปปรึกษาครอบครัวก่อน ซึ่งภรรยาและบุตรต่างยินดีไม่ขัดข้องในความประสงค์ของท่าน

    ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2521 ณ พัทธสีมา วัดบุญญานุสรณ์ อ.หนองวัวซอ จ.หนองบัวลำภู โดยมีพระครูประสิทธิ์คณานุการ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูสุวรรโณปมคุณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูโสภณคณานุรักษ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    ได้รับฉายาว่า เขมธมฺโม แปลว่า ผู้มีธรรมอันเกษม

    แม้ในการบวชครั้งที่ 2 ท่านจะมีอายุถึง 57 ปีแล้ว แต่หลังจากบวช ท่านได้เข้าป่าเพื่อบำเพ็ญเพียรเพียงอย่างเดียว

    ในปีแรกได้ไปจำพรรษาอยู่กับหลวงตาขนบ วัดดอนอีใข อ.เมือง จ.อุดรธานี พรรษาที่ 2 ย้ายไปจำพรรษาที่วัดป่าศรีอุดม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี โดยมีหลวงปู่แสง ญาณวโร เป็นประธานสงฆ์ คอยให้คำแนะนำ ทำให้การปฏิบัติภาวนามีความรุดหน้า จิตสงบ ในพรรษานี้ ท่านได้มีโอกาสไปกราบเรียนธรรมปฏิบัติกับพระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร ณ วัดป่าแก้วชุมพล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร

    พระอาจารย์สิงห์ทอง ได้ให้อุบายธรรมเพื่อให้หลวงปู่ได้นำไปพิจารณาและแนะแนวทางในการปฏิบัติกรรมฐาน เมื่อท่านได้รับความกระจ่างหมดปัญหาที่ติดขัด ออกท่องปลีกวิเวกและธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในประเทศ และประเทศใกล้เคียง

    ในบางครั้ง หลวงปู่สายมีโอกาสได้เข้าไปพักอาศัยกับครูบาอาจารย์ เพื่อรับฟังโอวาทธรรม อาทิ หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ, หลวงปู่คำดี ปภาโส, หลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ เป็นต้น

    นอกจากนี้ ท่านยังเป็นศิษย์สำคัญของ "หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน" ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นพระสงฆ์ที่ได้คุณธรรมชั้นสูง หลวงปู่ท่านเป็นผู้ที่มีความเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์ ไม่เคยตำหนิ หรือกล่าวร้ายผู้อื่นเลย

    พ.ศ.2524 ในช่วงที่หลวงปู่สายปลีกวิเวกอยู่ที่ภูน้อย (ภูพนัง) เกิดฝนตกอย่างหนัก ชาวบ้านได้นำสังกะสีเก่าๆ มาทำที่พักชั่วคราวให้ท่านพอกันแดดฝนได้เท่านั้น

    นับเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างวัดป่าพรหมวิหาร และอยู่พำนักจำพรรษาที่วัดนี้ถึงปัจจุบัน

    แม้หลวงปู่สายจะนั่งวิปัสสนากัมมัฏฐานเพียงลำพังด้วยตัวเอง โดยไม่ได้อยู่กับครูบาอาจารย์ แต่ท่านมักจะมีธรรมะเตือนอยู่เสมอ ไม่ว่าเกี่ยวกับธรรมหรือวินัย ประหนึ่งว่ามีครูบาอาจารย์คอยตักเตือนอยู่เสมอ ทำให้ท่านปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ซึ่งบางเรื่องไม่มีตำรา

    ธรรมะที่หลวงปู่สายนำมาเทศน์โปรดญาติโยม เกิดจากธรรมที่ผุดขึ้นมาจากการฝึกฝนปฏิบัติทั้งสิ้น มิใช่ไปหาอ่านจากตำรามาเล่าสู่กันฟัง มีลักษณะเป็นคำกลอน มีทั้งสำนวนไทยอีสานและสำนวนไทยกลาง มีความคล้องจองและมองเห็นธรรมะอย่างแจ่มชัดแบบง่ายๆ ให้สาธุชนได้รู้จิตของตนเอง เพื่อจะได้บังคับกายและวาจาให้ทำดี มีความสงบสุขร่มเย็น ดังคำกลอนที่ว่า "หมากัดหมาไม่เหมือนหมากัดคน หมากัดคนไม่เหมือนคนกัดคน คนกัดคนหมาไม่สนใจด้วย หมาก็ไม่ช่วยเพราะไม่ใช่เรื่องของหมา"

    สิ่งหนึ่งที่ท่านยึดมั่นและยกขึ้นมาสอนลูกศิษย์ให้ระลึกถึงคำสอนของพระศาสดา คือประโยคที่ว่า "ใครจะเป็นผู้วิเศษเหนือพระพุทธเจ้า จะมีใครเล่าอยู่เหนือโลกทั้งสาม เหนือพระศาสดาจารย์ไปอีก ไม่มีในโลกนี้หรือโลกไหนไม่มีแล้ว เหนือแก้วพุทธะหาไม่มีเลย"

    นอกจากนี้หลวงปู่สายเคยให้คติธรรมนำไปขบคิดในการดำเนินชีวิตว่า "ของจริง ไม่เหมือนของปลอมฉันใด ทองจริงก็ย่อมไม่เหมือนทองปลอมฉันนั้น"

    สำหรับเรื่องเครื่องรางของขลัง หลวงปู่สายให้ข้อคิดที่น่าสนใจว่า ความดีอยู่ที่กาย วาจา โดยมีจิตเป็นผู้กำหนดควบคุม เพราะต้นเหตุอยู่ที่การกระทำ กายทำดี วาจาทำดี เพราะจิตสั่งให้ทำดี วัตถุมงคลหรืออะไรต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่ดี คนที่เคารพก็บูชาสิ่งที่ดี ฉะนั้นการบูชาก็ต้องขึ้นอยู่กับกายและวาจา ที่มีจิตที่ดีกำกับอยู่

    เมื่อเป็นดังนี้แล้ว หลวงปู่สาย จึงมิได้มีความประสงค์ในการจัดสร้างวัตถุมงคล แต่ด้วยความเมตตาของท่าน เมื่อมีลูกศิษย์ลูกหามาขออนุญาตหลวงปู่ จัดสร้าง ท่านก็มิได้ขัดข้องแต่ประการใด

    วัตถุมงคลที่โดดเด่น มีอยู่ด้วยกัน 3 รุ่น คือ เหรียญหลวงปู่สาย รุ่นหยดน้ำ พ.ศ.2536, เหรียญโล่ หลวงปู่สาย พ.ศ.2548 และเหรียญรูปไข่หลวงปู่สาย รุ่นสร้างเจดีย์ พ.ศ.2549

    หลวงปู่สายจึงเป็นทั้งพระเกจิและพระวิปัสสนาจารย์ ที่เป็นสายธารธรรมแห่งหนองบัวลำภูโดยแท้!!
     
  19. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 938 ล็อกเกตรุ่น 1 หลวงปู่ชม วัดป่าท่าสุด 2552

    รุ่นนี้มีประสบการณ์เป็นวัตถุมงคลชิ้นแรกของหลวงปู่ ออกก่อนเหรียญเสียอีก

    ทำบุญจากวัดตอนนั้น 399 บาท ตอนนี้เว็บพระล้านนา ขายไม่ต่ำกว่า 1000
    บาท ที่ราคาพุ่งเพราะจัดสร้าง 200 อันเป็นกรรมการที่ฝังพระปิดตาเพียง 50 อันเท่ากับแบบที่ฝังข้าวก้นบาตรแบบนี้มีแค่ 150 อันทั่วโลก

    ประวัติล็อกเกตเพิ่มเติม

    http://www.pralanna.com/shoppage.php?shopid=154595


    ให้บูชา 600 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0877.JPG
      IMG_0877.JPG
      ขนาดไฟล์:
      125.4 KB
      เปิดดู:
      55
    • IMG_0878.JPG
      IMG_0878.JPG
      ขนาดไฟล์:
      135.2 KB
      เปิดดู:
      62
  20. ไชยพันธุ์

    ไชยพันธุ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +782
    จอง
    รายการที่ 937 ล็อกเกตรุ่นสติคุมจิต หลวงปู่สาย วัดป่าพรหมวิหาร
    รายการที่ 938 ล็อกเกตรุ่น 1 หลวงปู่ชม วัดป่าท่าสุด 2552<!-- google_ad_section_end -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...