Warning : หมอดูอันตรายจากประสบการณ์จริงผู้โพสต์

ขอบคุณมากค่ะ สำหรับความคิดเห็น วันนี้มีนัดรักษา เจ้าชะตารายนี้ค่ะ แล้วเสร็จเมื่อไหร่ ได้ผลยังไง ต้นพุทธจะกลับมาเล่ารายละเอียดให้อ่านกันนะค่ะ ก็เอาใจช่วยแค่ให้เขาเปิดใจพูดความจริงกันก็เท่านั้นเองค่ะ หากมีสำนึกในสิ่งที่ผิดมาก็จะยิ่งดีกับตัวเจ้าชะตาค่ะ ต้นพุทธเป็นหมอกรรมค่ะ ไม่ใช่หมอกาย ดังนั้นเรื่องของศีลจึงจำเป็น โดยเฉพาะข้อ 4 ระหว่างเจ้าชะตากับหมอกรรม หมอกรรมไม่ได้ใช้ตาเปล่ามอง เพราะฉะนั้นหากเจ้าชะตาไม่ให้ข้อมูลที่เป็นจริงก็เท่ากับปิดบังผิดศีลหรือขาดสำนึกในการยอมรับแล้วจะให้หมอช่วยได้อย่างไรจริงไหม๊ค่ะ
ปล.แค่เริ่มต้นหากผู้ต้องหามุสาเสียแล้ว ฉะไหนเลยจะมีหน้ามาถามหาการลดหย่อนผ่อนโทษ จากศาลเหล่าค่ะ

 

มาตามสัญญาค่ะ
เจ้าชะตามาตามคำนัดหมาย สอบถามซักไซร์ได้ความรวมมาว่าที่ผ่านมาอาจจะโดนลอบยิงมาบ้างแต่เจ้าชะตาอาจจะไม่รู้ตัวก็อาจเป็นได้ แต่จากการทดสอบผลออกมาคือ เจ้าชะตาผิดศีลข้อ 3 ซึ่งเป็นเหตุที่ส่งผลให้มีสภาพชาซีกขวาอย่างที่เป็นอยู่ เบ็ดเสร็จ เจ้าชะตาตกลงปลงใจให้สัจจะวาจาต่อครูบาอาจารย์ของต้นพุทธว่า
1 จะไม่บริโภคเนื้อวัวไปตลอดชีวิต
2 จะไม่ดิ่่มสุราและของมึนเมาหรือว่ากันง่ายๆ ศีลข้อ 5 จะละเว้นไปตลอดชีวิต

ส่วนศีลข้อ 3 ซึ่งเป็นเหตุแห่งทุกข์นั้น เจ้าชะตายอมรับตรงๆว่า ณ วันนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะละเว้นได้ไปตลอดชีวิตหรือไม่ จึงไม่ขอให้สัจจะไปก่อน เอาไว้มาว่ากันอีกที เพราะฉะนั้นไม่ว่าผลของการรักษาจะได้มากน้อยเพียงใด ก็จะขอยอมรับ ก็ok ค่ะอย่างน้อยเจ้าชะตาก็ใช้สติในการไตร่ตรอง และมิได้ให้สัจจะไปโดยเห็นแก่ได้เพียงเืพื่อความอยากจะหายแต่เพียงอย่างเดียว เพราะตรงกันข้ามหากทำไม่ได้ขึ้นมาแล้วดันรับปาก คราวนี้หละค่ะ ตัวใครก็ตัวมัน ต้นพทุธไม่อยากกลับมานั่งแก้ไขให้กับการรับปากมั่วๆ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำไม่ได้ในอนาคตนี่คะ ก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป กิเลสราคะ มันตัดง่ายซะเเมื่อไหร่หละค่ะ เขาให้เหตุผลเพิ่มเติมอีกว่าทุกวันนี้คู่ชีวิต กินเจตลอดชีวิต ส่วนเรื่องความสัมพันธ์นั้นก็เลย ไม่มีต่อกันมานานแล้ว เจ้าชะตาก็เลยต้องไปหาเอานอกบ้าน ก็เห็นใจนะคะ่ ในมุมหนึ่ง แต่อีกมุมหนึ่ง หากคุณยังตัดไม่ได้ก็คงต้องยอมรับกับชะตาและอีกข้อถัดมาก็คือ...เมื่อคุ่ชีวิตหันมาทางบุญแล้วคุณยังดันนอกใจ ก็ต้องรับวิบากหนักยิ่งขึ้นไปอีก แต่ก็ชอบตรงที่วันนี้เขายอมรับกับต้นพุทธมาตามตรงอย่างไม่ยึกยักค่ะ
ผลของการรักษาคือ ดีขึ้น 60% ทันทีหลังจากเสร็จสิ้นการรักษา นิ้วมือที่เคยล๊อคพับงอ ก็คลี่ออกได้มากกว่าเดิม ยกมือได้สูงขึ้น ส่่วนของเท้าที่เคยก้าวเดินได้เพียงก้าวสั้นๆ ติดๆขัดๆ ก็ก้าวได้ยาวขึ้นกว้างขึ้น และติดขัดน้อยลง ตอนขึ้นบันไดขามา ต้องกระเถิบที่ละขั้น หอบและเหนี่อย แทบทรุด ขากลับเดินโชว์สลับขา ซ้าย- ขวา ลงบันไดมาแบบไม่ต้องพักหรือติดขัดเหมือนตอนขึ้นเจ้าชะตาเองก็ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ดี นี่เป็นนัดแรก และอีกประมาณ 2 นัดที่เหลือ (เพราะต้นพุทธจะรักษาไม่เกิน 3 ครั้งเท่านั้น ได้เท่าไหน เท่านั้นค่ะ เนื่องจากเราไม่ได้เลี้ยงไข้ ยกเว้นบางกรณีที่จำเป็นหรือกรรมหนักมากก็จะพิจารณาเป็นรายๆไปตามความเหมาะสมค่ะ) จากนี้ไปเดิมเจ้าชะตามีแต่ไหว้พระแต่ไม่เคยสวดมนต์ ต้นพุทธก็เลยให้สวดมันซะทุกวันเลยนั่งสมาธิและเดินจงกรมตามความเหมาะสมอีกต่างหาก ทำทานรักษาศีลและเจริญภาวนากันครบครัน ถวายสังฆทานยาผ้าไตรจีวรพระพุทธรูปปางประจำวันเกิด ทำบุญโลงศพ ปล่อยปลา ไถ่ชีวิตโค (มีกำลังปัจจัยก็ให้ไปทำค่ะ เจ้าชะตาเองก็ยินดี ก็อนุโมทนาบุญกันไปค่ะ ) แล้วอีก 2 วันมาเจอกันใหม่กับนัดที่ 2 คะ

บุญกุศลจาก หมอกรรมอย่างต้นพุทธ ทางเดียวคงไม่พอ เจ้าชะตาเองก็ต้องมีฐานบุญในการรักษาด้วย อย่างที่หลวงพ่อจรัญฯวัดอัมพวันท่านเคยพูดไว้ค่ะ
สวดมนต์คือยาทา วิปัสนาคือยากิน รอบนี้เจ้าชะตาท่านนี้เลยได้ทั้งยากินยาทา จากใบสั่งหมอกรรมจากต้นพุทธไปอักโข แล้วมารอดูกันนัดที่ 2 ว่า ยาของหลวงพ่อบวกกับความเป็นหมอกรรมของต้นพทุธจะช่วยเจ้าชะตารายนี้ได้แค่ไหนค่ะ

 

ต้อนรับศักราชใหม่ ๒๕๕๗ แต่ก็ไม่อยากให้กระทู้ดี ๆ อันสมาชิกที่น่ารักควรหลงลืมกันไป

 

มาช่วยดันกระทู้น้ำดีค่ะ

Cold Reading ศาสตร์แห่งปาฏิหารย์หรือการหลอกลวง | Vittarot Journey Way.

 

เห็นด้วยอย่างยิ่งยวดค่ะ

 

(f)มาให้กำลังใจผู้สร้างสรรค์กระทู้ดี ๆ ทุกท่าน

 

ดันเอาไว้ค่ะ ภัยสังคมจากเหล่าหมอดูที่ไร้จรรยาบรรณ
เขาจะได้ทำมาหากินกันยากๆหน่อย​

(eek)(eek)(eek)​

ปล.เพราะมีพวกเราเป็นก้างขวางคอ และยินดีจะเป็นก้างอย่างนี้ตาหลอดปายยย :boo:

 

พูดถูกใจ ต้องให้รางวัล
(good)(good)(good)(good)(good)(good)(good)(good)
;ปรบมือ;ปรบมือ;ปรบมือ;ปรบมือ;ปรบมือ;ปรบมือ;ปรบมือ;ปรบมือ;ปรบมือ
catt3catt3catt3catt3catt3catt3catt3catt3

 

ต้องขอขอบคุณเจ้าของกระทู้ ผู้มีน้ำใจอันงดงามที่ได้มาสร้างกุศลด้วยการบอกเรื่องราวประสบการณ์ของเธอที่เกิดขึ้นจากผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นหมอดูหรือเป็นนักพยากรณ์ที่เห็นแก่ตัวและมีจิตใจที่เลวทราม เห็นแก่ประโยชน์ของตัวเองโดยไม่นึกถึงบาปอกุศลกรรมที่จะเป็นเงาติดตามตัวไปตลอดชีวิต กระทู้ที่เธอตั้งขึ้นมีคุณค่ามากมายสำหรับผู้ที่กำลังทุกข์ใจและมองเห็นว่าการดูดวงจะเป็นแนวทางหนึ่งในการดำเนินชีวิต ขอให้สมาชิกหลาย ๆ ท่านที่คิดจะดูดวงได้โปรดพิจารณาให้รอบคอบก่อนที่จะตกเป็นเหยื่อของพวกเดนสังคมที่มาหากินในคราบของผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้ดูกรรม ตรวจกรรม แก้กรรม หากแก้กรรมได้จริงคนทำชั่วเลวทรามคงแก้กรรมกันได้หมดทั้งโลก
คนเราแต่ละคนที่เกิดมาไม่เหมือนกัน เพราะกรรมเป็นตัวบันดาล ไม่ใช่พระเจ้าบันดาล ไม่ใช่อำนาจดวงดาว แต่บางคนบอกว่าเพราะดวงไม่ดี กลับไปเชื่อดวง แท้ที่จริง กรรมที่เราทำไว้เองในอดีตต่างหากมันดลบันดาลมา แล้วเราจะแก้จะแก้กรรมเหล่านี้โดยเฉพาะในด้านไม่ดีได้อย่างไร คำตอบก็คือ ทำกรรมดีเข้าไปมาก ๆ ในที่สุดกรรมที่ไม่ดีทั้งหมดก็จะจางแล้วหายไป แล้วก็สามารถจะพบความสุขได้ในที่สุด

 

ดันๆๆๆๆๆๆค่ะ ^-^

 

จับหมอเสน่ห์ลามก อาจารย์การเวก คาสำนักที่ปทุม เหยื่อแฉข่มขืน อัดคลิป-รีดไถ!

กองปราบฯ บุกรวบ "อาจารย์ การเวก" สิ้นฤทธิ์คาสำนักในจังหวัดปทุมธานี เจออาวุธปืน -กระสุนอื้อ เบื้องต้นตั้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน สอบพบอ้างตัวมีวิชาเทพหน้าทองเสน่ห์มอญแปลงรูป เสกคาถาให้ผัวรักผัวหลง แก้สารพัดปัญหาในชีวิต เปิดเว็บไซต์โฆษณารับทำคุณไสย-มนต์ดำ เหยื่อสาวร้องขอความช่วยเหลือจาก "ปวีณา หงสกุล" แฉแหลก โดนล่อลวงให้มีเพศสัมพันธ์ หรือถึงขั้นถูกบังคับกินยาบ้าแล้วลงมือข่มขืน บางครั้งสั่งให้ลูกค้าชาย-หญิงมีเซ็กซ์กันต่อหน้า จากนั้นอัดคลิปเอาไว้แบล็กเมล์รีดเงิน เจ้าตัวอ้างลูกศิษย์เต็มใจยอมให้มีเพศสัมพันธ์เอง

เมื่อ เวลา 13.00 น. วันที่ 14 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา รอง ผบช.ก.รักษาการ ผบก.ป. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.นิรันดร์ นามสุวรรณ ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.อรรถพล พานประทีป สว.กก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุทธ สว.กก.2 บก.ป. พ.ต.ท.วิพากษ์ มีจันทร์ พงส.ผนพ.กก.2 บก.ป. และนาง ปวีณา หงสกุล ปฏิบัติหน้าที่ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าตรวจค้นจับกุมนายธนวรรษ อัศวพลสุวรรณ์ อายุ 43 ปี และนางจุฑาทิพย์ อัศวพลสุวรรณ์ อายุ 42 ปี ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน จับกุมที่บ้านเลขที่ 61/89-90 หมู่บ้านพรพิสาร 6 ซอย 2 ต.บึงบอน อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี

ที่เกิดเหตุเป็น บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ปลูกติดกัน 2 หลัง เนื้อที่ประมาณ 120 ตารางวา ในฝั่งของบ้านเลขที่ 61/90 เปิดเป็นสำนักอาจารย์การเวก ชั้นล่างเป็นห้องบูชาพระ ด้านในแบ่งซอยเป็นห้องลับพิธีทำเสน่ห์ เทพหน้าทอง และเสน่ห์มอญแปลงรูป ระหว่างตำรวจเข้าตรวจค้นพบนายธนวรรษ หรืออาจารย์การเวก กำลังอยู่ในห้องลับด้านใน เมื่อเห็นตำรวจบุกเข้ามาจับทำให้หน้าถอดสีด้วยความตกใจ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมแจ้งข้อหา

จากนั้นเจ้าหน้าที่ ขึ้นไปตรวจบนชั้น 2 ซึ่งแบ่งเป็นห้องนอน พบปืนลูกซองยาว พร้อมกระสุนจำนวนมากวางไว้บนเตียงนอน ปืนขนาด 9 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆ ในห้องนอน ยึดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือซัมซุง 1 เครื่อง เปิดเช็กดูหน่วยความจำพบมีคลิปวิดีโอการร่วมเพศของชายหญิงคู่หนึ่งพร้อมรูป เปลือยของหญิงสาว สมุดรายชื่อลูกค้า 1 เล่ม

ส่วนในห้องทำพิธี ตรวจสอบพบรูปถ่ายชายหญิงจำนวนมากที่ลูกค้าส่งมาให้นายธนวรรษทำพิธีให้ผัวรัก ผัวหลง รวมทั้งรูปปั้นตุ๊กตาคู่ชายหญิงพันด้วยสายสิญจน์ 100 กว่าตัว รวมทั้งยากระตุ้นทางเพศและเครื่องกระ ตุ้นอารมณ์ทางเพศ

พ.ต.อ. อัคราเดช รอง ผบก.ป. กล่าวถึงที่มาของคดีว่า ประมาณเดือน พ.ย. 2556 มีผู้เสียหายเป็นสตรี 7 รายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กก.1 และกก.2 บก.ป.ว่าถูกนายธนวรรษ ผู้ต้องหาลงโฆษณาในเว็บไซต์ ชื่อ สำนักอาจารย์การเวก - เทพหน้าทอง เสน่ห์ม& อ้างตัวสามารถทำเสน่ห์ยาแฝด จึงหลงเชื่อไปทำพิธีเทพหน้าทอง สุดท้ายโดนหลอกต้องเสียทั้งเงินและร่างกายไปหลายครั้ง เมื่อมาโพสต์ข้อความดูในกลุ่มพบว่ามีเหยื่อหลายคนที่โดนนายธนวรรษหลอก และตัดสินใจรวมตัวกันมาแจ้งความ จากนั้นเจ้าหน้าที่ดำเนินการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานกระทั่งศาลอนุมัติหมายจับ วันนี้จึงบุกเข้ารวบตัวผู้ต้องหา

สอบสวนนายธนวรรษอ้างว่าที่ ผ่านมาไม่เคยโฆษณา แต่มีลูกค้าไม่สบายใจเข้ามาหาเอง เมื่อทำพิธีให้ปรากฏว่าได้ผลดีจนเกิดกระแสบอกปากต่อปาก แต่ละปีรับลูกค้าแค่ 3 เดือน ส่วนค่าทำพิธีถ้าเป็นพิธีทั่วไปจะอยู่ที่ 2,000-3,000 บาท แต่ถ้าทำเทพหน้าทองก็จะมีตั้งแต่ 80,000 บาทขึ้นไปจนถึงเป็นแสนบาท ลูกค้าที่มาหาบางรายอยากให้พิธีศักดิ์สิทธิ์ก็จะนำคู่ชายมาด้วยแล้วมาร่วม เพศในห้องลับ โดยมีตนนั่งคอยทำพิธี แต่มีบ้างที่ถ่ายคลิปไว้ระหว่างทั้งคู่มีเพศสัมพันธ์ เพราะว่าคนเราตอนมีเพศสัมพันธ์กันจิตใจจะว่างเปล่า ทำให้พิธีศักดิ์สิทธิ์ได้ผลยิ่งขึ้น ส่วนตัวยอมรับว่ามีลูกค้าหลายคนให้ตนมีเพศสัมพันธ์ด้วย แต่เป็นความยินยอมพร้อมใจ ด้านอาวุธปืนที่พบมีทะเบียนทั้งสิ้น เอาไว้ใช้ป้องกันตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุเสร็จสิ้นเจ้าหน้าที่นำตัวนายธนวรรษและนางจุฑาทิพย์สอบสวนขยายผลที่กองปราบปราม ส่วนผู้เสียหายรายใดถูกนายธนวรรษหลอกขอให้เข้ามาแจ้งความได้ที่กองปราบฯ สำหรับลูกค้าที่มาติดต่อขอทำพิธีกับสำนักอาจารย์การเวก พบว่าประกอบด้วยทั้งบรรดาสาวไฮโซจากหลายแวดวง รวมทั้งข้าราชการ และผู้หญิงจากหลากหลายอาชีพ ส่วนใหญ่ต้องการคาถาขอให้สามีรักสามีหลง

ทั้งนี้ สอบสวนพบด้วยว่านายธนวรรษอ้างตัวเป็น "การเวก เทพหน้าทอง มอญแปลงรูป" มีความเชี่ยวชาญศาสตร์มนต์ดำเลี้ยงผี ผูกมนต์เทวดา คุ้มครองลูกหลานจนลูกหลานมั่งมี สามารถทำเสน่ห์ให้คนรักคนหลง แต่ต้องใช้เครื่องเซ่นไหว้เป็นทรัพย์สิน เงิน และทองคำ เสียเงินสดหลักหมื่นถึงแสนบาท โดยระหว่างทำพิธี นายธนวรรษจะสั่งให้ลูกค้าชาย-หญิงที่ไปทำพิธีร่วมประเวณีกันโดยตนเองนั่งดู ขณะที่เหยื่อสาวบางรายถูกนาย ธนวรรษบังคับให้กินยาบ้าและลงมือขืนใจ พร้อมอัดคลิปเอาไว้ จากนั้นข่มขู่ว่าห้ามไปบอกหรือเล่าให้ใครฟัง มิฉะนั้นจะโดนคุณไสยเล่นงานถึงชีวิต ทำให้เหยื่อไม่กล้าพูด

น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 22 ปี ให้การตำรวจว่า ตนมีปัญหาด้านสุขภาพ ระยะหลังสามีทำตัวห่างเหิน ไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อเข้าไปในอินเตอร์เน็ตพบเว็บไซต์ของสำนักอาจารย์การเวก เทพหน้าทอง มอญแปลงรูป โฆษณาว่าแก้อาการเจ็บป่วยจากคุณไสยและทำเสน่ห์ให้คนรักและหลงได้จึงหลงเชื่อ เดินทางไป เมื่อไปถึงเห็นคนจำนวนมากมาที่สำนักเพื่อทำพิธี พอถึงคิวตนเข้าไปในห้องพิธีที่มีแสงสลัวๆ พบอาจารย์การเวกนั่งคอยอยู่ บรรยากาศภายในห้องมีรูปกุมารทอง ตุ๊กตาดินปั้น กลิ่นธูปคลุ้งไปทั้งห้อง

น.ส.บี ระบุว่า อาจารย์การเวกจะพูดและถามต่าง ๆ นานา บางเรื่องยังไม่ทันคุยกัน แต่กลับรู้ก่อน ยิ่งทำให้หลงเชื่อมากขึ้น พร้อมกับสั่งให้ตนไปซื้อทองเพื่อใส่ไปในหุ่นที่จะทำพิธี หลอกให้ทำหุ่นและต้องซื้อทองคำใส่หุ่น อ้างว่าทำให้มีพลัง เมื่อกลับมาอีกครั้งหลังทำพิธีเสร็จยังบอกให้ถวายเงินด้วย ทั้งบังคับให้ร่วมประเวณีโดยอ้างว่าจะทำให้ของขลังมากขึ้น หลังจากนั้นส่งรูปโป๊เปลือยขณะร่วมประเวณีมาให้ตนดูและข่มขู่ว่าจะเผยแพร่ หากไม่นำเงินมาจ่าย จนต้องยอมจ่ายเงินให้หลายครั้ง หลังจากทำพิธีกลับมาแล้วเวลาผ่านไปเป็นเดือนอาการป่วยของตนยังไม่มีท่าทีดี ขึ้น และยังต้องเลิกรากับสามีอีกด้วย

"ดิฉันกับผู้เสียหาย อีก 6 คนโดนหลอกและกระทำในลักษณะเดียวกัน เสียเงินทองจำนวนมาก ถูกข่มขืน ไม่รู้จะพึ่งใครจึงเข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณาขอให้ช่วยเหลือประสานตำรวจจับ กุมแก๊งคนร้ายตั้งสำนักหลอกลวงประชาชน เพราะไม่อยากเห็นใครที่หลงเชื่องมงายตกเป็นเหยื่ออีก ทราบว่ามีคนถูกหลอกแบบนี้อีกจำนวนมาก แต่ไม่กล้าทำอะไรเพราะกลัวได้รับอันตรายและอับอาย" น.ส.บีกล่าวทั้งน้ำตา

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์

 

อ่านๆ กันมาแต่ต้นแล้ว มีทั้งที่ใช่เป็นเรื่องของเวรกรรมจริงๆ และที่ไม่ใช่เรื่องของเวรกรรม

บางอย่างไม่ได้เป็นเรื่องของเวรกรรมอะไร แต่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรม ในการใช้ชีวิตกินอยู่ในแต่ละวัน เช่น ไม่ชอบออกกำลังกาย ชอบกินหวานๆ ก็เป็นเบาหวาน , การกินอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง ก็จะเป็นมะเร็งได้ง่าย

( เหล่านี้ เป็นกรรมที่แก้ได้ค่ะ หากเราแก้กรรมเราเสียแต่เนิ่นๆ คือปรับเปลี่ยนแก้(พฤติ)กรรม ที่ไม่เสี่ยงต่อโรคภัยต่างๆ ก็ย่อมไม่เจอกับโรคเหล่านี้ จนบางรายคิดไปถึงว่าเป็นโรคเวรโรคกรรม )

การแก้กรรมอย่างหนึ่ง กับประโยคที่ว่า "หากไม่เปลี่ยนความคิด ชีวิตก็ไม่เปลี่ยน " คงเคยได้ยินกันมาแล้ว ความทุกข์ในบางเรื่อง ขอยืนยันว่า เกิดจากเพราะ "ความคิด"ของเราเองค่ะ (หลวงปู่ชา สุุภัทโท กล่าวไว้อย่างน่าคิดว่า คนเราทุกวันนี้ มันไม่ได้ทุกข์อะไร แต่มันเป็นทุกข์เพราะความคิดปรุงแต่ง เรื่องมาก กฎเกณฑ์แย่ะ ปล่อยวางไม่เป็นของเราเอง)


การแก้กรรมไม่มีสูตรตายตัว หรือมีสูตรสำเร็จรูปสูตรเดียวที่ใช้ได้กับทุกๆคนเสมอไป (ลางเนื้อชอบลางยา เหมือนทุกข์เพราะหิว เราย่อมจะกินอะไรก็ได้ที่มันหายหิว ไม่จำเป็นต้องข้าวเสมอไป)

แต่กรรมบางอย่าง ที่มาพร้อมกับสิ่งที่มองไม่เห็น (วิญญาณ เจ้ากรรมนายเวรแต่ปางก่อน ฯลฯ ) เป็นอะไรที่แก้ยาก แก้ไม่ตก ก็ต้องไปพึ่งผู้มีญาณทิพย์พิเศษแก้ให้ ก็มีอยู่ไม่น้อย

ขึ้นชื่อว่าโลกแล้ว ก็ย่อมนี้มีทั้งทองแท้ และทองชุบ ก็สุดแต่วาสนา-ตัวใครตัวมันค่ะ

 

คิดถึงเจ้าของกระทู้มากค่ะ เข้ามาเยี่ยมเยียนและมาบอกเล่าสาระดี ๆ อันมีคุณค่าในบอร์ดนี้อีกนะคะ

 

ท่านใดมีประสบการณ์จากการดูดวงไม่ว่าจะดีหรือร้ายประการใด ก็นำมาบอกกล่าวไว้ในกระทู้นี้ด้วยนะคะ กระทู้นี้ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อเตือนสติเพื่อนสมาชิกให้ใช้ปัญญาและมีสติอยู่เสมอ สติมา ปัญญาเกิด ถ้าสติเตลิด แล้วจะเกิดปัญหา

การกระทำของมนุษย์มีทั้งดีและชั่ว การทำดี คือการกระทำแล้วตนเองสบายใจ และผู้อื่นก็ไม่เดือดร้อน ส่วนการทำชั่ว คือการกระทำแล้วตัวเองไม่สบายใจและผู้อื่นก็เดือดร้อนด้วย พระพุทธศาสนาตั้งอยู่บนหลักของเหตุและผล สอนให้บุคคลเชื่อเรื่องกรรม คือการกระทำ ใครทำเช่นใดก็ย่อมได้รับผลเช่นนั้น ไม่มีใครหนีผลของการกระทำที่ตัวเองได้กระทำไว้ไปได้ ฉะนั้นผู้ต้องการความเจริญแห่งชีวิต ก็พึงทำแต่ความดีไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน การกระทำของเราเปรียบกับการหว่านพืช หว่านพืชเช่นใด ก็ย่อมได้รับผลเช่นนั้น จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ ทุกคนจงเชื่อในการกระทำของตนเอง

นตฺถิ โลเก รโห นาอสาธุ สาธุนา ชิเน. -พึงชนะคนไม่ดีด้วยความดี
เส ปาปกมฺมํ ปกุพฺพโต. -ชื่อว่าที่ลับของผู้ทำบาปกรรม ไม่มีในโลก

 

ขอบคุณนะคะที่แชร์ประสบการณ์การดูดวง

 

ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่มาบอกกล่าวค่ะ
ตัวดิฉันเองไม่ค่อยสนใจเรื่องทำเสน่ห์หรือให้คนรักกลับมาอะไรประมาณนี้ ของแบบนี้อยู่ที่เราทำตัว ถ้าเราดีแล้วเค้ายังไป ก็แสดงว่าเค้ากับเราคงไม่มีวาสนาต่อกัน การไปยื้อไว้ด้วยศาสตร์ที่มองไม่เห็น หากเจอหมอทำเสน่ห์ของจริงสักวันก็คงต้องมีเรื่องร้อนใจ(เคยมีประสบการณ์ส่วนตัวกับคนใกล้ตัวค่ะ จบไม่ดี) แต่ถ้าหมอเสน่ห์ของเทียมก็จะโดนหลอกไปในทางไม่ดีได้ สามีรักสามีหลง ถ้าสามีเค้ารักเราจริง ต่อให้เจอสาวสวยแสนดีแค่ไหน เค้าก็รักเราโดยไม่ต้องพึ่งเสน่ห์ใด ๆ ค่ะ ของแบบนี้ดิฉันว่าอยู่ที่การใช้ชีวิตร่วมกันและรักที่แท้จริงของทั้งคู่มากกว่า ถ้าคนใดคนหนึ่งหมดรัก ต่อให้ช้างมาฉุด หรืออีกฝ่ายดีแค่ไหนก็รั้งไม่ได้ ต่อให้เสียใจยังไงก็ต้องปล่อยไป ดิฉันก็เคยเจ็บปวดเรื่องนี้มา เจ็บจนกินอะไรไม่ได้ แต่ก็ไม่คิดไปหาแม่หมอที่ไหนให้ตามเค้ากลับมา เชื่ออย่างยิ่งว่า หากดวงเราจะมีเนื้อคู่ สักวันต้องได้เจอค่ะ อยากให้ผู้หญิงเราคิดแบบนี้ อย่าไปทำเลยค่ะเสน่ห์หรืออะไรต่ออะไร เป็นสิ่งลวงเป็นความสุขที่ต่อให้นานแค่ไหนสักวันก็จบค่ะ อาจจบไม่ดีด้วย

เคยไปดูดวงมาครั้งนึง ปกติชอบดูแต่ไม่ค่อยทุ่มเทอะไรนัก ถ้าไม่กลุ้มสุด ๆ จริง ๆ ก็ไม่ค่อยไปดูดวงกับใครค่ะ ตอนนั้นก็ไม่ค่อยทันคน (ตอนนี้ก็ไม่ทันนะคะ แหะ ๆ) เป็นปู่ฤาษี ก็พูดไปตามที่ท่านเห็น แต่ส่วนใหญ่ท่านเงียบ เราก็พูดถาม บอกดิฉันมีนางไม้ตาม ยืนห่มสไบรออยู่ข้างนอกเข้ามาไม่ได้ ชีวิตดิฉันถ้าไม่รับขันธ์ 5 จะไม่ได้แต่งงาน เพราะนางไม้ท่านไม่อยากให้แต่ง รับขันธ์ 5 คืออะไร ดิฉันไม่เคยรู้เลยค่ะ ก็เอ๋อ ๆ อยู่เหมือนกัน แต่ก็ยังไม่รับปากว่าจะรับเพราะต้องมีค่าครูไม่ได้แพงอะไรค่ะ ธูปเทียนพาน ทำพิธี พี่ที่ออฟฟิตที่ไปดูด้วยกัน รับไปก่อนแล้ว ก็ถามพี่เค้าว่าขันธ์5คืออะไร แกก็ตอบอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ไม่ค่อยเข้าใจ ก็เลยขอกลับบ้านไปคิดก่อนจะรับดีมั้ยยังไง พอมาถึงบ้านก็หาข้อมูลจึงพอรู้ว่าคืออะไร และคิดว่า ไม่รับดีกว่าเพราะหากเราไม่รู้หรือศีลไม่ดีจริง รับไปก็ทำได้ไม่ดีอาจเกิดเรื่องไม่ดีก็ได้ ต่อให้ศีลครบไม่ขาด ก็ไม่รู้จะรับทำไมสิ่งมองไม่เห็นไม่อยากเสี่ยง ถ้าเราทำไม่ดี รับมาท่านอาจจะแย่ไปด้วย เพราะเห็นว่าจะเชิญองค์เทพ องค์เทพของดิฉันคือนางไม้รูปงามนางนั้น เชิญมาปกปักษ์รักษาอะไรสักอย่าง

จากนั้นก็ไม่ไปดูดวงอีกเลยค่ะ เว้นแต่เพื่อนพาไปดูกับพระ ก็ไม่มีอะไรมากท่านก็ไม่คิดเงินอะไร ตั้งแต่เกิดมาดูดวง 3 ครั้ง ปู่ฤาษี พระ ไพ่ยิปซี เคยมีน้องดูลายมือให้ครั้งนึง บอกว่าจะมีเจ็บป่วยต้องนอน รพ.หลังจากนั้นไม่กี่เดือนก็ต้องผ่าตัดไทรอยด์ทิ้งข้างนึงค่ะ น้องบอกเรียนจากตำรามหาชาติ อันนี้ก็แม่นดีอยู่ ๆ มาจับมือดูแล้วบอกเลย แปลกดีค่ะ

ขอโทษนะคะถ้าเล่ายาวไปนิด แหะ ๆ

 

เคสนี้คงไม่อันตรายแต่น่าผิดหวัง
เพิ่งดูเมื่อวันสองวันก่อน
ไม่พาดพิงนะคะ อยากเล่าให้เป็นบทเรียน

ค่าครู ทานข้าวได้หลายวันเลย

โพสว่าให้พิสูจน์ แม่นยำ ตาเห็น ญาณทิพย์
แต่ที่ดู ส่วนใหญ่แล้ว เป็นถามเรามากกว่า แล้วก็จากสิบเรื่องตรงแค่เรื่องเดียว
ให้ดูบ้าน ก็ถามลักษณะบ้าน ถ้าแบบนี้ เราว่าหมอดูทั่วไปที่ไม่ใช้ญาณก็ดูได้

ถ้าเจ้ากรรมนายเวรเราไม่อนุญาตให้ดู หรือไม่เห็นก็น่าจะบอกกันตรงๆ

เคยดูญาณทิพย์อีกคนนึง เราไม่ต้องพูดอะไรเลย เขาบอกมาเองหมด ตรงหมด
แต่ที่ไม่ดูต่อ เพราะครั้งที่ 3 นี่เขาเริ่มมีธุรกิจเข้ามาเป็นตัวเงินมากขึ้น
เริ่มให้เราบูชา สะเดาะเคราะห์กับเขา แล้วก็เริ่มดูเราไม่ตรง ไม่แม่นแล้ว เลยหาคนใหม่
แต่ก็ผิดหวังมากๆ ทำนายแบบเหวี่ยงแห เรื่องที่ชัดเจนมาก สำคัญมาก เขาก็ไม่เห็นไม่รู้

ก็คือว่าเป็นราคาที่ต้องจ่ายให้กับบทเรียน
เจอของจริงช่วยเหลือคนจริงก็ดีไป แต่หลายครั้งที่โฆษณาเกินจริง


ก็ใช้วิจารณญาณดูค่ะ สำหรับคนชอบดูดวง
ไม่หลังไมค์ ถามว่าใครนะคะ ไม่อยากติดกรรม

 

แค่มองก็หาย

ระหว่างค้นข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อวิพากษ์วิจารณ์อาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล แห่ง “เตโชวิปัสสนากรรมฐาน” ผมก็ไปพบแหล่งหลอกลวงประชาชนอีกแหล่งหนึ่งคือ “บ้านสวนพีระมิด”

ความจริง ผมเคยอ่านผ่าน ๆ ตามาแล้ว เกี่ยวกับอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ เจ้าของสิทธิบัตร “บ้านสวนพีระมิด” แต่ยังไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไหร่นัก

พอมาเจอหนนี้ โอ้โฮ........ แกขยายการหลอกลวงของแกไปมาก ไม่รู้ไปสรรค์หาอะไรนักหนามาหลอกลวงประชาชน

เอามาตั้งแต่มันมี่ของอียิปต์ จนกระทั่งผีสางเทวดา ก็ลองดูภาพที่แกสร้างขึ้นมาเพื่อหลอกลวงประชาชน ด้านล่างนี้

ก่อนไปร่วมงาน ทำสามารถพิสูจน์ง่าย ๆ ด้วยตนเอง เพียงแค่มองรูป อ.อุบล แล้วพูดว่า
“อ. อุบลช่วยด้วย” ขอให้อาการปวดขา (หรือที่เป็นอยู่) หายทันทีด้วยเถิด สาธุ แล้วเช็คผลที่เกิดขึ้นโดยทันทีเลย

อาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์แกก็ใจถึงจริง ๆ ที่กล้าโกหกถึงขนาดนี้ แต่แกก็รู้อยู่แล้วว่า อาการปวดขานั้น พอเปลี่ยนอิริยาบถมันก็หายกันได้

แต่ที่น่าเกลียดก็คือ “อาการที่หายหรือดีขึ้นทันที จะมีผลอยู่เพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น หากต้องการหายถาวร มาพบกันที่งานกิจกรรมฯ”

แหม... อาจารย์จะช่วยคนทั้งที ก็เอาแบบให้เขาหายขาดไปเลย จะไม่ดีกว่าหรือ

ประเด็นที่โกหกกันซึ่ง ๆ หน้าต่อหน้าต่อตากันแบบนี้ ก็ดีไปอย่างคือคนที่ไปงานนี้ก็มีแต่ควายเท่านั้น คือคนฉลาด ๆ ที่หลอกไม่ได้เขาคงไม่ไปแน่ ๆ ดังนั้น ถ้ามึงโผล่หน้าเข้ามาในงาน มึงก็เป็นเหยื่อกูแน่ ๆ

อาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ แกมีเทคนิคหลอกลวงใหม่ ๆ เยอะ น่าสนใจการตลาดของแกเหมือนกัน เช่น
“นำน้ำมาคนละ 3 ขวด ลูกอม 1 ห่อ ทำอาหารอภิญญา”

น่าน........ มีการหลอกลวงแบบก้าวหน้าเสียด้วย

อย่างไรก็ดี เมื่อวิเคราะห์การหลอกลวงโดยพื้นฐานแล้ว ก็ไม่มีอะไรใหม่ สังเกตดูจากคำโฆษณาเหล่านี้

ไฟทิพย์จากนิพพาน
ธรรมะบำบัดเห็นผลฉับพลันทันที
ปลดล็อคความจน
ล้างคุณไสย มนต์ดำ
พิสูจน์พุทธคุณ และบูชาวัตถุมงคล

การหลอกลวงคนไทย ก็มีอยู่แค่นี้

อย่างไรก็ดี การหลอกลวงแบบนี้ มันก็ต้องมีหน้าม้าด้วย มาดูขอเขียนของหน้าม้ากันสักเล็กน้อย หน้าม้าแกใช้ชื่อว่า “สห์ราชวัฒน์ ศรีกุลวงศ์”

เขียนเป็นธรรมทานอุทิศบุญให้นายเวรแมวและหมา

คุณสห์ราชวัฒน์ ศรีกุลวงศ์ แกมีความตั้งใจสูงมาก ถึงกับเขียนมาอุทิศให้กับ “แมวและหมา” ถามจริง “มึงไม่รู้จะอุทิศให้ใครแล้วหรือไง”

ขอสารภาพบาป เคยฆ่าแมวตายสามตัวไม่เจตนาต่อก่อนก็เลยเป็นโรคเกี่ยวกับหืดหอบในอดีต ด้วยทำให้แมวจมน้ำมาสองดวง และอีกหนึ่งดวงคือ ทำให้คอหักหลังหัก ก็เหมือนมีสภาวะ ดิ้น ๆแถว ๆ คอ ในเวลาอดีตที่ผ่านมา

หมาก็ด้วย ผมเลี้ยงไม่ดี ทำร้ายจิตใจ 7 ดวง ยังไม่ตายก็มี มีตัวแรกคือ ตุ๊บตั๊บ ชื่อแสบ ชื่อเล็ก ชื่อเด้ง ชื่อบีม ชื่อจิ๋ว อันนี้ไม่จตนาทำร้าย อื่น ๆ มากกว่าเจ็ดดวง โดยเลี้ยงเขาไม่ดีและอารมณ์ไม่ดีใส่ เจตนาก็มีเยอะ

ก็ทำให้ได้มีอะไรพาไปแบบว่าเห่าในนิมิตแต่ก่อน และเหมือนบีบบังให้เห่าไปด้วยในอดีตที่ผ่านมา และทำให้หลอนกลัวและเห่าใส่เจ้าที่เจ้าทางวิญญาณผีอื่น ๆ มากมาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในอดีต

โดนบีบบังคับให้เห็นและโดนบังคับอารมณ์ไม่ดีใส่ท่านโดย เหมือนจะไปทำร้ายแต่ยังอยู่เฉย ด้วยเหตุแห่งกรรมที่เคยไปทำร้ายหมามาก่อน

ส่วนแมว ก็เป็นเหมือนมีอะไรมาอุดตันจมูกในอดีตที่ผ่านนมา คือแมวจมน้ำแล้วบวกหัวดิ้นส่ายไปมาเหมือนแมวที่คอหัก

บอกตรง ๆ อ่านแล้วปวดกบาล

สิ่งที่น่ากลัวก็คือ พวกหลอกลวงพวกนี้มีเคเบิ้ลทีวีเป็นเครื่องมือในการหลอกลวง คนไทยส่วนใหญ่ถ้าเห็นว่าออกโทรทัศน์แล้ว ออกหนังสือพิมพ์แล้ว ก็คิดว่า “เป็นเรื่องจริง”

แล้วพวกนี้ไม่ได้เป็นพระ สำนักงานพระพุทธศาสนาก็ยุ่งเกี่ยวไม่ได้ จึงจะเห็นว่าพวกหลอกลวงพวกนี้ปรากฏขึ้นเป็นดอกเห็ด อ่านแล้วก็ต้องทำใจ คือเมื่อพบการหลอกลวงของคนพวกนี้แล้วเสือกเชื่อเขา มันก็เป็นกรรมของสัตว์ ไม่รู้จะช่วยอย่างไรเหมือนกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก บ้านสวนพีระมิด

 

จี้ดีเอสไอสอบ"บ้านสวนพีระมิด" หลอกลวงปชช.-ทำลายศาสนา

"สงกรานต์"ปธ.เครือข่ายต้านบ่อนทำลายชาติบุกดีเอสไอ จี้ให้สอบ "บ้านสวนพีระมิด" โฆษณาหลอกลวงประชาชนและเป็นอันตรายต่อศาสนา

(3 ก.ค.) นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อขอให้ตรวจสอบพฤติกรรม บ้านสวนพีระมิด ของนางอุบล ศุภาเดชาภรณ์ กับพวก โดยตั้งข้อสังเกตว่ามีการโฆษณาอวดอ้างเกินจริงในประเด็นที่ส่งผลกระทบกับ สถาบันพระพุทธศาสนา สืบเนื่องมาตั้งแต่ปี 2554 - 2557 โดยนางอุบล ได้โพสต์คลิปวีดีโอผ่านทางโซเชียลมีเดียเป็นภาพนางอุบลแอบอ้างใช้รูปตัวเอง และจี้รูปสฟิงซ์โดยระบุว่าให้จ้องมองที่ภาพของนางอุบลหรือรูปสฟิงซ์เครื่อง รางแล้วจะหายจากอาการเจ็บป่วย โดยทุกครั้งให้ขึ้นต้นคำอธิษฐานว่า "อาจารย์อุบล ช่วยด้วย" จากนั้นขอให้พูดถึงอาการเจ็บป่วยที่เป็นอยู่แล้วจะหายทันที ไม่ว่าจะเป็นโรคร้ายแรงแค่ไหนก็หายได้ ซึ่งนางอุบลแอบอ้างบารมีพระศรีอาริย์ แค่เดินผ่านก็หาย หรือแค่มองรูปอาการเจ็บป่วยก็หายอย่างรวดเร็ว

นายสงกรานต์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังพบพฤติกรรมอวดอ้างให้ประชาชนหลงเชื่อโอนเงินไปทำบุญในชื่อบัญชีส่วนตัว เพื่อรักษาโรค เป็นค่าเจ้ากรรมนายเวรคิดราคาอาคารละ 99 + 1 บาท หากไม่โอนเงินภายใน 24 ชั่วโมงอาการป่วยจะกลับมาใหม่ และต้องแก้ไขด้วยการชำระเงินเพิ่มอีก 99 เท่า โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้ อาศัยความเชื่อ ความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อศาสนามาเป็นเครื่องมือในการโฆษณาเพื่อให้หลง เชื่อว่าหากทำบุญ กราบไหว้นางอุบลถือเป็นการกราบไหว้และรับบารมีพระศรีอาริย์ ส่วนการโอนเงินเข้าบัญชีก็เป็นการทำบุญกับเจ้ากรรมนายเวร รวมถึงการซื้อวัตถุมงคลคล้ายพีระมิดจำลองด้วย

นายสงกรานต์ กล่าวต่อว่า ได้ติดตามตรวจสอบพฤติกรรมของนางอุบลมานานกว่า 3 ปี กระทั่งมั่นใจว่ามีหลักฐานในการเอาผิดได้ โดยการตรวจสอบส่วนหนึ่งชัดเจนว่าบุคคลที่ถูกนำมากล่าวอ้างว่าได้รับการรักษา แล้วหายจริงนั้นบางรายไม่มีตัวตนอยู่จริง เท่าที่ตรวจสอบบุคคลที่มีการยกตัวอย่างเป็นผู้ป่วยพบมี 8 คน ในจำนวนนี้ตรวจสอบพบมีตัวตนจริง 4 คน พฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นอันตรายกับศาสนาและประชาชนที่หลงเชื่อจนเสียทรัพย์สิน นอกจากนี้ยังเข้าข่ายความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ

ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลยังพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องในการให้การสนับสนุนช่วยเหลือ โดยเฉพาะในเฟชบุ๊คของนางอุบลพบว่ามีการตระเวนจัดพิธีกรรมหลายจังหวัดทั่วประเทศ ที่มีการตั้งหัวหน้าสาขารับผิดชอบ ดังนั้น จึงต้องการร้องขอให้ดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็วเพื่อยับยั้งความเสียหายของประชาชน และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับศาสนา
วันที่ : 4 กรกฎาคม 57 8:35

ขอบคุณข้อมูลจากWebboard - Manager Online

 

ขอขอบคุณที่นำเรื่องราวมาบอกเล่าให้ทราบในกระทู้นี้ด้วยนะคะ