WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Falkman, 24 เมษายน 2011.

  1. Spammer

    Spammer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    976
    ค่าพลัง:
    +3,498
    รายงานสถานภาพน้ำเขื่อนต่าง ๆ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 14/08/55
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    ออสเตรเลียเรียกคืนรถยนต์ 2 หมื่นคันที่ผลิตในจีน หลังพบปนเปื้อน “แร่ใยหิน”

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 สิงหาคม 2555 13:09 น.





    [​IMG]
    แร่ใยหิน

    เอเอฟพี - บริษัทนำเข้ารถยนต์ในออสเตรเลียสั่งเรียกคืนรถราคาถูกที่ผลิตในจีน 23,000 คัน วันนี้(15) หลังพบแร่ใยหิน (asbestos) เป็นองค์ประกอบภายในเครื่องยนต์ ขณะที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคเรียกร้องให้ตรวจสอบว่าสารอันตรายชนิดนี้ถูกนำเข้ามายังแผ่นดินออสเตรเลียได้อย่างไร

    บริษัทนำเข้ารถยนต์ อะเตโก ออโตโมทีฟ สั่งให้ผู้จำหน่ายรถในเครือเฌอรี (Chery) และ เกรท วอลล์ หยุดจำหน่ายรถทุกคันที่พบความผิดปกติ ขณะที่คณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภคและการแข่งขันแห่งออสเตรเลีย (เอซีซีซี) เฝ้าจับตาการตรวจสอบปัญหาดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

    “แร่ใยหินเป็นสารอันตรายและเป็นที่ต้องห้ามตามกฎหมายออสเตรเลีย เครื่องยนต์และระบบท่อไอเสียที่มีสารดังกล่าวปะปนอยู่จะต้องได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้อง โดยบุคลากรผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น” ดีเลีย ริกการ์ด รองประธานเอซีซีซี ระบุ

    ด้านสหภาพแรงงานภาคการผลิตออสเตรเลีย (AMWU) แถลงว่า รับไม่ได้ที่มีการปล่อยให้รถยนต์เหล่านี้ถูกนำเข้ามา ทั้งที่ออสเตรเลียสั่งห้ามนำเข้าและใช้แร่ใยหินมาตั้งแต่ปี 2004

    “เหตุผลง่ายๆก็คือ แร่ใยหินเป็นสาเหตุให้คนเสียชีวิต มันไม่ควรมีอยู่ในบ้าน, วัตถุดิบก่อสร้าง หรือแม้กระทั่งในรถยนต์” พอล แบสชัน เลขาธิการแห่งชาติของ AMWU ให้สัมภาษณ์

    “หากบริษัทไม่สามารถรับรองได้ว่ารถยนต์ที่นำเข้ามาปราศจากสารอันตราย พวกเขาก็ไม่ควรได้รับอนุญาตให้นำเข้าสินค้าเหล่านั้น... เราขอเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับผู้ใดก็ตามที่นำแร่ใยหินเข้ามาสู่ออสเตรเลีย”

    เอซีซีซี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจพบแร่ใยหินในรถยนต์นำเข้า จนนำไปสู่กระบวนการสอบสวนและเรียกคืนรถยนต์นับหมื่นคันดังที่กล่าวไปข้างต้น

    การสูดเอาแร่ใยหินเข้าไปในปอดเป็นเวลานานอาจก่อให้เกิดโรคร้ายต่างๆ เช่น โรคมะเร็งปอด เป็นต้น

    ทั้งนี้ ริกการ์ด ยืนยันว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ของออสเตรเลียมีประสบการณ์ในการแก้ปัญหาแร่ใยหินมาก่อน

    “ศูนย์บริการรถยนต์เคยมีประสบการณ์รับมือความเสี่ยงเช่นนี้มาแล้ว เพราะรถที่จำหน่ายในออสเตรเลียก่อนปี 2004 มักมีแร่ใยหินเป็นองค์ประกอบในชิ้นส่วนต่างๆ... อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคและช่างซ่อมบำรุงควรตระหนักถึงภัยที่อาจจะมีมากับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ”
     
  3. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    คาดการณ์ปริมาณน้ำฝน (มิลลิเมตร) ใน 24 ชม.

    [​IMG]
     
  4. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    พายุพัดรูปปั้นหัวม้ายอดพระปรางค์วัดอรุณฯ พังถล่ม

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 สิงหาคม 2555 13:07 น.

    นายชัยพล สุขเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักสารนิเทศ กระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า จากเหตุพายุฝนที่กระหน่ำลงมาในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา อย่างรุนแรงนั้น ทำให้รูปปั้นหัวม้าที่อยู่บนยอดพระปรางค์ วัดอรุณราชวราราม หรือ วัดแจ้ง ที่เป็นสัญลักษณณ์ของเมืองไทย ถล่มลงมาจนได้รับความเสียหาย ซึ่งรายละเอียดของความเสียหายนั้น อยู่ระหว่างให้เจ้าหน้าที่ของกรมศิลปากรตรวจสอบอยู่ แต่เบื้องต้นได้กั้นพื้นที่ที่ รูปปั้นหัวม้าหัก ห้ามไม่ให้ประชาชนเข้าใกล้แล้ว เพราะอาจจะเป็นอันตราย หรือเสียหายมากขึ้นได้
    ขณะที่เวลา 13.30 น.วันนี้ นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย อธิบดีกรมศิลปากร จะเดินทางไปตรวจสอบความเสียหายอีกครั้งหนึ่ง และจะแถลงข่าวถึงความเสียหายและการบูรณะต่อไป
     
  5. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    ไฟไหม้ป่าพรุในเขตป่าสงวนแห่งชาติรุนแรงขึ้นอีก


    วันที่ 15 ส.ค. 2555 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานนกน้ำทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ล่าสุดไฟได้โหมกระหน่ำขึ้นมาอีกรอบบริเวณ 5 จุด โดยเฉพาะบริเวณป่าคลองยวน หมู่ที่ 4 ต.พนางตุง ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ไฟป่าไม้ลุกโหมอย่างรุนแรงในพื้นที่ 210 ไร่ ควันไฟฟุ้งกระจายทั่วทั้งทะเลสาบในพื้นที่ 2 จังหวัด จังหวัดพัทลุง และอำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ทำให้ผู้ใช้เส้นทางขับรถยนต์บนถนนเฉลิมพระเกียรติยกระดับข้างพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลสาบระหว่างจังหวัดพัทลุงกับจังหวัดสงขลา ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

    นายชาย สุวรรณชาติ หน.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย กล่าวว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เกิดเหตุไฟไหม้ 4 จุด ซึ่งไฟไหม้ที่ลุกไหม้อยู่ในพื้นที่เอกสารสิทธิของชาวบ้าน แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ไฟไหม้ในครั้งนี้เกิดใกล้กับบริเวณคลองยวน ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพราะบริเวณดังกล่าวผืนป่าเสม็ดที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นป่าอะเมซอน เมืองไทยในพื้นที่ 30,000 ไร่

    อย่างไรก็ตามสำหรับสถานการณ์ไฟป่าที่ลุกไหม้อย่างรุนแรงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าปฏิบัติการควบคุมได้เนื่องจากเกรงจะได้รับอันตราย จากไฟที่ลุกไหม้อย่างรุนแรง ทางเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยได้ขอความร่วมมือไปยังทาง อำเภอและทางจังหวัดเพื่อให้บังคับใช้กฎหมายตาม พรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อแก้ปัญหาโดยเฉพาะในที่ดินที่ชาวบ้านอ้างว่าเป็นพื้นที่เอกสารสิทธิควบคู่กับการเร่งทำการดับไฟให้ได้โดยด่วน และทำการประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือกลุ่มชาวบ้านที่ออกหาปลา ไม่ให้จุดไฟเผาป่าพรุ ส่วนในพื้นที่เอกสารสิทธิ หากมีความจำเป็นต้องจุดไฟให้ทำแนวกั้นไฟ เพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลามไปในพื้นที่ป่าทางของราชการ
     
  6. sunny430

    sunny430 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,299
    ค่าพลัง:
    +5,425


    อาเพศแท้!!!!
     
  7. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    ลุ่มน้ำยม เริ่มประสบปัญหาน้ำท่วม เร่งระบายลงแม่น้ำน่าน

    ที่จังหวัดพิษณุโลก ระดับน้ำในแม่น้ำยม เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งจังหวัดทางตอนล่าง โดยเฉพาะที่จังหวัดพิจิตรพื้นที่ในลุ่มน้ำยมเริ่มประสบปัญหาอุทกภัยแล้ว ทำให้ทางโครงการชลประทานจังหวัดพิษณุโลก ต้องเร่งระบายน้ำจากแม่น้ำยม ลงสู่แม่น้ำน่าน เพื่อเป็นการป้องกัน และบรรเทาปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น โดยทำการระบายน้ำผ่านทางประตูระบายน้ำต่างๆ ซึ่งที่ ประตูระบายน้ำ DR 2.8 ทางโครงการชลประทาน ได้ยกบานลอยพ้นระดับน้ำ 70 เซนติเมตร ทั้ง 4 บาน และทำการระบายน้ำออก 54.07 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยระดับน้ำ แม่น้ำยม ที่สถานีวัดระดับน้ำ Y16 อำเภอบางระกำ ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ ประมาณ 10 เซนติเมตร โดยมีระดับน้ำอยู่ที่ 4.70 เมตร ปริมาณน้ำไหลผ่าน 174 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
     
  8. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    เฝ้าระวัง! แม่น้ำสะแกกรัง-เจ้าพระยา เพิ่มระดับขึ้น และมีสีขุน

    ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด เร่งตรวจสอบคุณภาพน้ำในแม่น้ำสะแกกรัง และแม่น้ำเจ้าพระยา หลังมีระดับเพิ่มขึ้นและมีสีขุ่น ผลการตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ พบคุณภาพน้ำอยู่ในข่ายเฝ้าระวัง เกรงผลกระทบต่อการเลี้ยงปลากระชัง ด้านนายอรรถพล โลกิตสถาพร ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด จังหวัดอุทัยธานี นำเจ้าหน้าที่ พร้อมเครื่องมือทำการตรวจสอบคุณภาพน้ำในแม่น้ำสะแกกรังและในแม่น้ำเจ้าพระยา รวม 6 จุด หลังจากแม่น้ำทั้งสองแห่งมีระดับเพิ่มขึ้นหลังเกิดฝนตกติดต่อกัน จนทำให้น้ำมีสีขุ่นมาก หลังจากเก็บตัวอย่างน้ำแล้ว ได้นำไปทดสอบในห้องปฏิบัติการ พบว่า ใน 6 จุดมีค่าออกซิเจนในปริมาณที่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงปลากระชัง ได้แก่ บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ตำบลหาดทะนง แม่น้ำสะแกกรังหน้าวัดอุโปสถาราม หน้าศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี หน้าวัดท่าซุง แม่น้ำเจ้าพระยาตำบลเกาะเทโพและที่หมู่ที่ 3 บ้านปากกะบาด ตำบลสะแกกรัง อ.เมืองอุทัยธานี ซึ่งคุณภาพน้ำนี้อยู่ในระยะเฝ้าระวัง เนื่องจากน้ำมีความขุ่นมาก การเฝ้าระวังคุณภาพน้ำดังกล่าวได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังในแม่น้ำสะแกกรังและแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีจำนวนมากนับพันกระชัง และแหล่งน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปาของเทศบาลเมืองอุทัยธานี

    
     
  9. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    เมเปิลครอฟท์ เตือน!! เอเชียเป็นภูมิภาคที่เสี่ยงภัยพิบัติทางธรรมชาติมากที่สุด

    รายงานเรื่อง “แผนที่ความเสี่ยงภัยธรรมชาติ”ได้ประเมินผลกระทบของภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มีต่อเศรษฐกิจของ 197ประเทศ โดยคำนึงถึงความพร้อมในการรับมือและความสามารถของสังคมในการฟื้นตัว หากโครงสร้างพื้นฐานประเทศอ่อนแอและรัฐบาลไม่แข็งแรง ผลกระทบจากทางเศรษฐกิจจะยิ่งรุนแรง ผลการประเมินพบว่า 10 ประเทศที่ความเสี่ยงมากที่สุดได้แก่ บังกลาเทศ ฟิลิปปินส์ พม่า สาธารณรัฐโดมินิกัน อินเดีย เวียดนาม ฮอนดูรัส ลาว เฮติ และนิการากัว รายงานเตือนว่า เศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียมีอิทธิพลต่อโลกมากขึ้น ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในประเทศเหล่านี้จึงจะมีผลกระทบต่อโลกในวงกว้างและรุนแรงมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น จึงต้องเสริมสร้างศักยภาพเพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ เพราะภัยธรรมชาติเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ หากไม่สามารถทำได้จะเป็นอันตรายต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
     
  10. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    ตะลึง!! เกิดหลุมยุบในจีน ลึก 10 เมตร มีผู้เสียชีวิต 2 ราย

    เขียนโดย nattawat_86 โพสต์เมื่อ วันพุธที่ 15 สิงหาคม 2555

    [​IMG]

    ตะลึง!! เกิดหลุมยุบในจีน ลึก 10 เมตร มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดหลุมยุบขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 เมตร ลึก 10 เมตร กลางถนน เมืองฮาร์บิน เมืองเอกของมณฑลเฮย์หลงเจียง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ส่วนอีก 2 รายได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องนำสายสลิงช่วยในการค้นหา โชคดีที่หนูน้อยเพศหญิงวัย 14 เดือน รอดชีวิตมาได้

    [​IMG]

    รายงานระบุว่า หลุมยุบขนาดยักษ์ เกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันอังคารที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น โดยขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากสาเหตุใด

    [​IMG]

    Mthai News
     
  11. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    แผนภาพแสดงการคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนใน 24 ชั่วโมง

    [​IMG]
     
  12. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    เตือน! ชาวเอเชียเสี่ยงเผชิญภาวะน้ำท่วม ปี 2568

    [​IMG]
    (ภาพประกอบ ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว)

    นายชังยอง รี (Changyong Rhee ) หัวหน้านักเศรษฐกรของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) เปิดเผยรายงานเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจที่สำคัญ สำหรับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ประจำปี 2555 ว่า ภูมิภาคเอเชียกำลังเผชิญกับภาวะการเติบโตของชุมชนเมืองในอัตราที่รวดเร็วอย่างคาดไม่ถึง โดยเอเชียมีพลเมืองอาศัยในชุมชนเมืองเกือบครึ่งหนึ่งของโลกและคาดว่าในอีก 30 ปี พลเมืองเอเชียอีก 1,100 ล้านคนจะเข้ามาอาศัยอยู่ในชุมชนเมือง
    นอกจากนี้ชาวเอเชียที่อาศัยตามเมืองต่าง ๆ กว่า 400 ล้านคน เสี่ยงต่อภาวะน้ำท่วมชายฝั่ง และอีก 350 ล้านคน เสี่ยงต่อภาวะน้ำท่วมในเมืองภายในปี 2568 ดังนั้น รัฐบาลแต่ละประเทศต้องดำเนินมาตรการส่งเสริมเมืองให้ทนทานต่อสภาวะการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ รวมทั้งต้องปรับปรุงสภาพแวดล้อมบริเวณแหล่งเสื่อมโทรม และชุมชนแออัดในเมือง รวมทั้งดำเนินมาตรการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
    อย่างไรก็ตาม การที่หลายประเทศกำลังพัฒนาแหล่งพลังงานทางเลือก พลังงานทดแทน สร้างระบบการคมนาคมแบบยั่งยืน การกำหนดเขตจำกัดจราจร การกำหนดค่าปรับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในสิงคโปร์ เป็นความพยายามด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมที่จะช่วยประเทศเอเชียรับมือกับความเสี่ยงได้
    Mthai News
     
  13. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    สภาพอากาศ 15 สิงหาคม 2555 15.30น.

    [​IMG]

    กลุ่มเมฆที่ 1 : กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคเหนือ โดยมีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไปปกคลุมทางตะวันตก ทางตอนบน และทางตอนล่างของภาค

    กลุ่มเมฆที่ 2 : กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไปปกคลุมทางตอนบน ตอนกลาง และทางตอนล่างของภาค

    กลุ่มเมฆที่ 3 : กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคกลาง โดยมีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไปปกคลุมทางตะวันตก ทางตอนล่างของภาค

    กลุ่มเมฆที่ 4 : กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคตะวันออก โดยมีฝนกระจายปกคลุมภาคตะวันออกและบริเวณชายฝั่ง

    กลุ่มเมฆที่ 5 : กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคใต้ โดยมีฝนบางแห่งปกคลุมทางตอนล่างของภาค
     
  14. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ร่องมรสุมมาแล้ว

    [​IMG]
     
  15. nattanan39

    nattanan39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,190
    ค่าพลัง:
    +2,935
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>นายกฯ อินเดียยันเตรียมส่งยานอวกาศสำรวจดาวอังคาร</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>15 สิงหาคม 2555 18:31 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=512><TBODY><TR><TD vAlign=top width=512 align=middle>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพถ่ายจากองค์การนาซาเผยให้เห็นพายุฝุ่นบนพื้นผิวดาวอังคาร</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี - อินเดียมีแผนส่งยานสำรวจอวกาศขึ้นไปโคจรรอบดาวอังคาร นายกรัฐมนตรีมานโมฮัน ซิงห์ยืนยันในวันนี้ (15) หลังมีรายงานข่าวว่าภารกิจดังกล่าวมีกำหนดเปิดฉากในปลายปีหน้า

    โปรเจ็กต์ดังกล่าวจะถือเป็นความคืบหน้าอีกขั้นของโครงการอวกาศอันทะเยอทะยานของอินเดีย ซึ่งเคยส่งยานสำรวจขึ้นไปบนดวงจันทร์เมื่อ 3 ปีก่อน และวาดภาพภารกิจมนุษย์อวกาศคนแรกในปี 2016

    "ยานอวกาศของเราจะเดินทางไปยังดาวอังคาร และรวบรวมข้อมูลทางวิทยาศาสตร์สำคัญๆ" ซิงห์กล่าวสุนทรพจน์ในงานวันประกาศอิสรภาพประจำปี โดยป่าวประกาศว่าแผนการนี้จะเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีของแดนโรตี

    เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา สำนักข่าวเพรส ทรัสต์ ออฟ อินเดียรายงานว่า องค์การวิจัยอวกาศอินเดีย (ไอเอสอาร์โอ) น่าจะส่งยานอวกาศไร้คนควบคุมขึ้นสู่วงโคจรอย่างเร็วที่สุดในเดือนพฤศจิกายน ปี 2013

    ตามคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ไอเอสอาร์โอรายหนึ่ง ระบุว่า ค่าใช้จ่ายในภารกิจดาวอังคารนี้อยู่ที่ประมาณ 4,000-5,000 ล้านรูปี หรือ 70-90 ล้านดอลลาร์

    ขณะที่สหรัฐฯ รัสเซีย ยุโรป ญี่ปุ่น และจีนต่างส่งยานอวกาศขึ้นสำรวจดาวอังคารกันมาก่อนแล้วทั้งสิ้น โดยหุ่นยนต์คิวริออสซิตีของสหรัฐฯ เพิ่งลงแตะพื้นผิว "เรด แพลเนต" ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเบิกทางสู่ภารกิจของมนุษย์อวกาศในอนาคต

    โครงการสำรวจดาวอังคารของอินเดียนี้เกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลถูกกดดันจากปัญหาต่างๆ เช่น การขาดแคลนพลังงาน และระบบขนส่งภายในประเทศที่ย่ำแย่ หลังเกิดไฟดับในหลายส่วนทั่วประเทศ 2 วันติดต่อกันเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. nattanan39

    nattanan39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,190
    ค่าพลัง:
    +2,935
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ผลวิจัยชี้ “ไข่แดง” ร้ายกาจพอกับ “บุหรี่” ตัวการก่อโรคหัวใจ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>15 สิงหาคม 2555 16:47 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550><TBODY><TR><TD vAlign=top width=550 align=middle>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> แอลเอไทมส์ - ผลการศึกษาชิ้นใหม่ที่เผยแพร่ในวารสารแอเทอโรสเคลอโรซิส ในวันอังคาร (14) เตือนผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีว่า จำนวนไข่แดงที่พวกเขาบริโภคต่อสัปดาห์นั้นจะยิ่งเร่งให้ผนังหลอดเลือดแดงหนาขึ้นได้ร้ายแรงพอๆ กับการสูบบุหรี่ทีเดียว

    ผลการศึกษาดังกล่าวตรวจวัดความหนาของผนังหลอดเลือดแดงใหญ่คาโรติด ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงความเสี่ยงโรคหัวใจ ในผู้ป่วย 1,231 คนของคลีนิกแห่งหนึ่ง และสอบถามลักษณะนิสัยทางสุขภาพ ตั้งแต่การสูบบุหรี่ การออกกำลัง และการบริโภคไข่แดงของผู้ป่วยเหล่านั้นเป็นรายบุคคล

    ประชากรในการศึกษาชิ้นนี้ถูกส่งไปยังคลีนิกดังกล่าว หลังป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง หรือภาวะสมองขาดเลือดชั่วคราว (ทีไอเอ) ซึ่งอาการของโรคอาจไม่ปรากฏอย่างรวดเร็ว แต่มักส่งสัญญาณของอาการที่ร้ายแรงกว่าตามมา

    ทั้งการสูบบุหรี่ และการกินไข่แดงต่างเพิ่มความหนาของผนังหลอดเลือดแดงใหญ่ในรูปแบบเดียวกัน กล่าวคือ อัตราการเพิ่มขึ้นของความหนาของผนังหลอดเร็วถูกเร่งโดยการสูบบุหรี่ หรือบริโภคไข่แดง ตรงข้ามกับผู้ที่ไม่พ่นควัน หรือแทบไม่กินไข่แดง ผนังหลอดเลือดคาโรติดหนาขึ้นหลังอายุ 40 ปี แต่เป็นไปอย่างคงที่ช้าๆ

    “เราเชื่อว่าการศึกษาของเราได้แสดงให้เห็นความจำเป็นในการประเมินบทบาทของไข่แดง และคอเลสเตอรอลโดยทั่วไปใหม่อีกครั้ง เนื่องจากเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ” คณะผู้เขียนรายงานผลการศึกษาระบุ

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นักโภชนาการเริ่มเห็นด้วยว่าไข่ไก่ ซึ่งทั้งถูกและเต็มไปด้วยโปรตีนนั้น เป็นแหล่งที่มาของคอเลสเตอรอลอันตราย แต่บางผลวิจัยชี้ว่าไข่อาจเพิ่มเอชแอลดี หรือคอเลสเตอรอลดี ที่ป้องกันโรคหัวใจได้ แม้ว่าจะเป็นที่มาของคอเลสเตอรอลแอลดีแอล ที่ทำให้หลอดเลือดอุดตันด้วย

    อย่างไรก็ตาม สถาบันหัวใจ เลือด และปอดแห่งชาติ แนะนำว่า การจำกัดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจนั้น ชาวอเมริกันควรจำกัดการรับคอเลสเตอรอลเข้าร่างการไม่ให้เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งไข่แดง 1 ฟองก็มีคอเลสเตอรอลเกินกว่า 200 มิลลิกรัมแล้ว ส่วนผู้ที่เป็นโรคหัวใจ เบาหวาน คอเลสเตอรอลสูง หรือหลอดเลือดสมอง ก็ควรจำกัดการบริโภคคอเลสเตอรอลไม่ให้เกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. nattanan39

    nattanan39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,190
    ค่าพลัง:
    +2,935
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>บุรีรัมย์แล้ง ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>15 สิงหาคม 2555 17:43 น</TD></TR></TBODY></TABLE> นายไพรินทร์ ลิ่มเจริญ ป้องกันสาธารณภัย จังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำฝน ในเขตพื้นที่จังหวัดว่า ในช่วงฤดูฝนปีนี้ มีฝนตกกระจายทั่วจังหวัด น้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา กรณีดังกล่าวทำให้นาข้าวของการเกษตรกรในหลายพื้นที่ประสบปัญหาขาดน้ำหล่อเลี้ยง เหี่ยวเฉาและยืนต้นตาย ทั้งนี้ จากผลกระทบดังกล่าว ล่าสุดทางจังหวัดได้ประกาศให้อำเภอสตึกเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากภาวะฝนทิ้งช่วงแล้ว หลังทางอำเภอได้สำรวจพบนาข้าวของเกษตรกรขาดน้ำหล่อเลี้ยง ที่คาดว่าจะแห้งตายเสียหายกว่าแสนไร่
    นอกจากนี้ ยังมีอีก 5 อำเภอ คือ อำเภอลำปลายมาศ อำเภอนางรอง อำเภอโนนดินแดง อำเภอนาโพธิ์ และอำเภอโนนสุวรรณ ที่กำลังเสนอผู้ว่าราชการจังหวัด พิจารณา ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากภาวะฝนทิ้งช่วงเพิ่มเติมอีก
    พร้อมกันนี้ ยังได้ฝากถึงประชาชนและเกษตรกร หากมีฝนตกลงมาในช่วงนี้ ให้ช่วยกันกักเก็บน้ำในการอุปโภค-บริโภค และทำการเกษตร เพื่อป้องกันการขาดแคลนน้ำ หลังสิ้นสุดฤดูฝนด้วย

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. nattanan39

    nattanan39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,190
    ค่าพลัง:
    +2,935
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พรุควนเคร็งเสียหายยับ พบแนวไฟล้วนเริ่มขึ้นในแนวหลังสวนปาล์ม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>15 สิงหาคม 2555 13:32 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>นครศรีธรรมราช - ไฟป่าทวีความรุนแรงวิกฤตหนัก พื้นที่ป่าพรุควนเคร็งเสียหายยับเยินไม่น้อยกว่า 1.5 หมื่นไร่แล้ว บินสำรวจพบแนวไฟล้วนเริ่มขึ้นในแนวหลังสวนปาล์มน้ำมัน ทั้งในเขต ส.ป.ก.และพื้นที่บุกรุก ขณะที่จนท.เสือไฟ-ทหาร ป้องกันพื้นที่ป่าศึกษาไม้เสม็ดขาวครบวงจรในสมเด็จพระเทพฯ สุดฤทธิ์ หลังไฟลามเข้าสร้างความเสียหาย และป้องกันแนวป่าโครงการพระราชดำริศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง

    วันนี้ (15 ส.ค.) สถานการณ์ความเสียหายในพื้นทีป่าพรุควนเคร็ง ซึ่งครอบคลุมใน 5 อำเภอ ของจังหวัดนครศรีธรรมราช กำลังอยู่ในสภาวะวิกฤตอย่างหนัก โดยสถานการณ์ในครั้งนี้ มีความรุนแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และกำลังแผ่ขยายแนวไฟในวงกว้าง สร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง โดยสถานการณ์ที่กำลังรุนแรงในขณะนี้ อยู่ที่ อ.เชียรใหญ่ อ.ชะอวด และบางส่วนในตำบลควนเกย ของ อ.ร่อนพิบูลย์ ขณะที่สภาพอากาศยังคงแห้งแล้งอย่างหนัก ฝนทิ้งช่วงมานานนับเดือนแล้ว ป่าพรุอยู่ในสภาพแห้งแล้ง พื้นป่าที่เคยชุ่มน้ำแห้งซากพืชที่ทับถมกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีที่เร่งให้ไฟขยายวงแนวลุกลามอย่างต่อเนื่อง

    โดยในช่วงสายของวันเดียวกันนี้ พล.ต.กิตติ อินทสร รองแม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วยนายทหารฝ่ายเสนาธิการ ได้นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินสำรวจพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง ใน 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เชียรใหญ่ อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.ชะอวด และ อ.ร่อนพิบูลย์ ซึ่งเป็นอาณาบริเวณของป่าพรุควนเคร็ง พบว่า แนวไฟกำลังลุกลามขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 10 จุด และบางจุดนั้น แนวไฟได้แผ่ขยายยาวหลายร้อยเมตร หรือกว่าหนึ่งกิโลเมตร ส่งกลุ่มควันขึ้นบนท้องฟ้าจนพื้นที่ 3 อำเภอในย่านนั้นถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควัน

    ทั้งยังเป็นที่น่าสังเกตว่า จุดที่เริ่มต้นของแนวไฟล้วนแต่อยู่ด้านหลังของแนวสวนปาล์มอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งหากประมาณการพื้นที่ความเสียหายจากทางอากาศนั้น มีไม่น้อยกว่า 1.5 หมื่นไร่ และกำลังขยายวงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากแนวไฟที่ขยายออกไปอย่างไม่หยุดยั้ง

    พล.ต.กิตติ อินทสร รองแม่ทัพภาคที่ 4 ระบุว่า แนวไฟได้ลุกลามเข้าไปในป่าลึก การเข้าถึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกองทัพนั้นได้ทยอยส่งสรรพกำลังเข้าไปสนับสนุนหน่วยงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และเร่งด่วน โดยเฉพาะการขนย้ายน้ำเข้าทำการดับเพลิง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทหารที่คำสั่งขึ้นมาเพื่อการสนับสนุนดับไฟป่าโดยเฉพาะ นอกเหนือจากการเข้าช่วยเหลือประชาชนในเรื่องของสถานการภัยแล้งที่กำลังอยู่ในสภาพวิกฤตเช่นเดียวกัน

    ส่วนการจัดการควบคุมไฟป่านั้น นายธนากร รักธรรม หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ายังพบไฟจุดใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงอีก 2 จุด ในขณะที่จุดเดิมนั้นยังมีไฟไหม้อยู่อย่างต่อเนื่อง ส่วนในพื้นที่ ต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่แปลงศึกษาไม้เสม็ดขาวครบวงจรของมูลนิธิชัยพัฒนา ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไฟได้ลุกลามเข้ามาในพื้นที่แล้ว ซึ่งทั้งทางทหาร และเสือไฟได้ทำการควบคุมอย่างเต็มกำลัง แต่ยังมีปัญหาเรื่องความรุนแรงของไฟ และแรงลมกระโชกที่เป็นอุปสรรคสำคัญ

    นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มการป้องกันแนวไฟในเขตพื้นที่โครงการพระราชดำริศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากเกรงว่าแนวไฟจากตำบลบ้านตูล อ.ชะอวด ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกันนั้น จะขยายวงเข้ามาในพื้นที่สร้างความเสียหายให้แก่พื้นที่ส่งเสริมการเกษตรกรรม และส่งเสริมศิลปาชีพ อย่างเร่งด่วน และเร่งประชาสัมพันธ์ในการป้องกันการเกิดไฟจุดใหม่ด้วยการเป็นหูเป็นตาซึ่งกันและกัน

    ขณะที่ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ขณะนี้ ไฟป่าระลอกรุนแรงระลอกนี้เป็นระลอกที่ 4 แล้ว มีจุดที่พบไฟทั้งคุมได้ และยังคุมไม่ได้รวมแล้ว 96 จุด ปัญหาที่สำคัญ คือ ความแห้งแล้งของพื้นที่ ส่วนของการทำฝนหลวงนั้นยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากความชื้นน้อยมาก ส่วนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ต้องแบ่งการจัดการออกเป็นสองส่วน คือ การจัดการเฉพาะหน้า ด้วยการส่งเจ้าหน้าที่เข้าดับไฟที่เกิดขึ้น และอีกส่วน คือ การแก้ปัญหาพื้นที่ด้วยระบบชลประทานด้วยการขุดลอกคลอง และขุดเปิดคลองสายใหม่รอบแนวป่าพรุให้เข้าไปหล่อเลี้ยงพื้นที่ป่าขังน้ำไว้เพิ่มความชุมชื้น ซึ่งต้องเป็นการแก้ปัญหาแบบระยะยาว

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=25 vAlign=bottom width=102 align=right>[​IMG]</TD><TD height=25 vAlign=bottom background=/images/TabGalleryUBG.gif align=middle>[​IMG]</TD><TD height=25 vAlign=bottom width=11 align=left>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=7 vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ede9e8><TABLE border=0 cellSpacing=8 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width="33%" align=middle> </TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=middle>[​IMG]</TD><TD vAlign=top width="33%" align=middle> </TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=middle>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle> </TD></TR><TR><TD vAlign=center width="33%" align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=right>[​IMG]</TD><TD height=2 vAlign=bottom background=/images/a_up.gif align=middle>[​IMG]</TD><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=left>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center background=/images/a_L.gif width=2 align=right>[​IMG]</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/a_R.gif width=2 align=right>[​IMG]</TD></TR><TR><TD height=2 vAlign=top width=2 align=right>[​IMG]</TD><TD height=2 vAlign=top background=/images/a_Dn.gif align=middle>[​IMG]</TD><TD height=2 vAlign=top width=2 align=left>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=middle>[​IMG]</TD><TD vAlign=center width="33%" align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=right>[​IMG]</TD><TD height=2 vAlign=bottom background=/images/a_up.gif align=middle>[​IMG]</TD><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=left>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center background=/images/a_L.gif width=2 align=right>[​IMG]</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/a_R.gif width=2 align=right>[​IMG]</TD></TR><TR><TD height=2 vAlign=top width=2 align=right>[​IMG]</TD><TD height=2 vAlign=top background=/images/a_Dn.gif align=middle>[​IMG]</TD><TD height=2 vAlign=top width=2 align=left>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=middle>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=right>[​IMG]</TD><TD height=2 vAlign=bottom background=/images/a_up.gif align=middle>[​IMG]</TD><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=left>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center background=/images/a_L.gif width=2 align=right>[​IMG]</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. nattanan39

    nattanan39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,190
    ค่าพลัง:
    +2,935
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“ไคตั๊ก” เฉียดทะเลจีนใต้คืนนี้ เวียดนามคลื่นแรงฝนตกหนัก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>15 สิงหาคม 2555 17:20 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=800><TBODY><TR><TD vAlign=top width=800 align=middle>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
    แผนภูมิจากเว็บไซต์สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติฟิลิปปินส์เมื่อเวลาใกล้เที่ยงวันพุธ 15 ส.ค.นี้ แสดงให้เห็นทิศทางเคลื่อนตัวของพายุโซนร้อนไคตั๊กจนถึงวันเสาร์ สำหรับเวียดนามแม้ว่าจะหายใจได้โล่งอก แต่ก็ต้องจับตาพายุลูกนี้อย่างใกล้ชิด ไคตั๊ก (Kai-Tak) หรือ "เฮเลน" (Helen) ในชื่อที่ฟิลิปปินส์เรียกขาน เป็นพายุลูกที่ 15 ที่เกิดในทะเลแปซิฟิกทางตะวันออกของปิลิปปินส์ในปีนี้ และนับว่าโชคดีในช่วงที่ผ่านมามีเพียง 2 ลูกที่เคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ แต่จะต้องเฝ้าจับตาต่อไปจนถึงต้นเดือน ต.ค. </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> .

    ASTVผู้จัดการออนไลน์ - พายุโซนร้อนไคตั๊ก กำลังเคลื่อนจากทางตอนเหนือของเกาะลูซอน ฟิลิปปินส์ และเฉียดทางตะวันออกของทะเลจีนใต้ในคืนวันพุธ 15 ส.ค.นี้ ไปตามแนวทิศเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือ นับเป็นพายุลูกที่สองที่พัดเข้าแผ่นดินใหญ่จีนติดๆ กันในชั่วเวลาข้ามสัปดาห์ ถัดจากไต้ฝุ่นซาวลา

    ตามรายงานของศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลาง ในกรุงฮานอย พายุไคตั๊กมีโอกาสที่จะทวีความเร็วใกล้ศูนย์กลางขึ้นเป็นระดับไค้ฝุ่นได้ในตอนค่ำวันเดียวกัน ขณะพัดอยู่ห่างจากหมู่เกาะพาราเซลไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 720 กิโลเมตร เคลื่อนตัวด้วยความเร็ว 15-20 กม./ชม. และด้วยความแรงของลม 89-117 กม./ชม. ซึ่งเป็นความแรงใกล้ระดับพายุไต้ฝุ่น

    อย่างไรก็ตาม พายุลูกนี้กำลังทำให้ทะเลจีนใต้ปั่นป่วน มีคลื่นลมแรง และฝนตกหนักในทะเล กินอาณาบริเวณกว้าง ตั้งแต่บ่ายวันนี้เป็นต้นไป จากบริเวณอ่าวตังเกี๋ยลงไปจนถึงปลายสุดของประเทศที่แหลมก่าเมา ที่เชื่อมกับทะเลอ่าวไทย

    ศูนย์อุตุนิยมวิทยาฯ แห่งนี้ยังกล่าวอีกว่า คณะกรรมการแห่งชาติควบคุมและป้องกันอุทกภัยและพายุ ได้แจ้งเตือนให้เรือประมงทุกลำได้รับทราบข่าวสารนี้ และเตือนให้ติดตามรายงานพยากรณ์อากาศในคืนนี้อย่างใกล้ชิด

    ในเช้าตรู่วันที่ 17 ส.ค. คาดว่า ไต้ฝุ่นไคตั๊กจะอยู่ห่างจากเกาะฮ่องกงทางทิศตะวันตกราว 150 กม. ขณะอ่อนตัวลงอีกครั้งเป็นพายุโซนร้อน และคาดว่า ในวันเสาร์พายุลูกนี้อ่อนตัวลงอีกจนเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ และสลายไปในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีน

    หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยในเวียดนามจะต้องติดตามพายุลูกนี้ต่อไป ศูนย์อุตุนิยมวิทยาฯ กล่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. nattanan39

    nattanan39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,190
    ค่าพลัง:
    +2,935
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อีกแล้ว!ถนนยุบ คนตกบ่อน้ำร้อน ร่างกายถูกลวกกว่า 65%</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>15 สิงหาคม 2555 18:20 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=489><TBODY><TR><TD vAlign=top width=489 align=middle>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สภาพชายผู้เคราะห์ร้าย ซึ่งถูกน้ำร้อนลวกขณะเดินบนถนนที่จู่ๆก็ยุบตัวลง ทำให้เขาตกลงไปในท่อส่งน้ำร้อนของเมืองต้าเหลียน (ภาพ-เฟิ่งหวง)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เฟิ่งหวง--วานนี้(14ส.ค.) ราวบ่ายโมงกว่าๆ บริเวณถนนสามแยกซิงไห่ เมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ผู้ใช้ชื่อว่า "ติวติว" ในเว็บไซต์เวยปั๋ว กับสามี ขับรถผ่านมาเห็นเหตุการณ์ “ชายเดินถนนอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็หายตัวไป”

    ติวติวเล่าว่า “ฉันกับสามีมองเห็นชายคนหนึ่งเดินอยู่บนถนน แต่จู่ๆเขาก็หายแว่บไป จากนั้นบนถนนก็ปรากฎควันร้อนพวยพุ่งขึ้นมา สามีฉันพูดขึ้นทันทีว่าตกลงไปในบ่อน้ำร้อนหรือเปล่า พวกเราจึงรีบหยุดรถแล้ววิ่งลงไปดู เห็นมีมือคู่หนึ่งยื่นออกมาพลางร้องขอความช่วยเหลือ อารามตกใจฉันรีบกลับไปที่รถ ก่อนคว้าผ้าขนหนูมารองมือ แต่สามีฉันไวกว่า ดึงเขาขึ้นมาแล้ว”

    จากเหตุการณ์ข้างต้น สรุปได้ว่า ตอนนั้นฟุตบาทที่อยู่ข้างถนนรถรางเกิดยุบตัว ท่อน้ำร้อนใต้ดินปรากฎควันร้อนปกคลุม ชายคนหนึ่งเดินมาและเผอิญก้าวลงตรงนั้นพอดี โชคดีที่คนผ่านทางเห็นเข้า จึงช่วยไว้ได้ทัน

    ผู้คนที่มุงดูอยู่โดยรอบบอกว่า ชายคนดังกล่าวแขนและขาทั้งสองข้างถูกน้ำร้อนลวกสาหัส ตอนถูกดึงขึ้นมาใหม่ๆยังสามารถพูดจาได้ ต่อมาจึงถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ล่าสุดทางตำรวจได้ทำการปิดกั้นที่เกิดเหตุไว้แล้ว

    ส่วนทางโรงพยาบาลต้าฮว่ารายงานว่า ชายผู้ได้รับบาดเจ็บร่างกายถูกลวกไปกว่า 65% ซึ่งขณะนี้ได้พ้นขีดอันตรายแล้ว
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...